Jump to content


Photo
- - - - -

คิดอย่างไรกับแนวคิด ผบ.ทบ. ให้รด.ต้องไปเกณฑ์ทหารด้วย


  • Please log in to reply
69 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 ทัชชี่

ทัชชี่

    ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,784 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:48

 

 

ผมว่าเพิ่มการเกณฆ์ทหารหญิงเข้าไปด้วยก็ดีนะครับ ช ญ จะได้มีสิทธิเสมอกัน... แล้วก็เสนอให้ผู้ชายลาคลอดได้ 90 วันเหมือนผู้หญิงด้วย

ถ้าผู้ชายอุ้มท้องได้ทั้งเก้าเดือนก็เอาไปเถอะลาคลอดน่ะ

 

ถามว่า เวลาผู้ชายที่มีเมียคลอดลูก แล้วไม่มีคนดูแลลูก(ไม่มีพ่อแม่พี่น้องรับอาสามาช่วยดูแลให้) เมียต้องดูแลเอง... ถามว่าใครต้องอยู่ดูแลเมียและลูกครับ?  ช่วยตอบชัดๆ ที

 

เราอยู่ได้มาแล้วคนเดียวไม่มีญาติที่นี่เลยหรือใครมาช่วย ผู้หญิงก็ดูแลตัวเองและลูกได้อยู่แล้วถ้าคลอดแบบธรรมชาติและไม่มีแผลอะไรมาก

 

แต่จริงๆคือการให้ผู้ชายหยุดมาช่วยนั้นเป็นเรื่องที่ดี เห็นด้วย แต่มาบอกว่าเพื่อความเท่าเทียมนี่ไม่ใช่คะ ที่นี่ผู้ชายหยุดได้สองอาทิตย์ (พอดีสามีมีงานเป็นของตัวเองเลยไม่ได้หยุด) แต่สองอาทิย์ถ้าเป็นแม่มือใหม่ หรือผ่าคลอดก็ไม่พอหรอก แต่ถ้าไม่เจ็บไม่อะไรสองอาทิตย์ก็เยอะอยู่ มันขึ้นอยู่กับคนคะ

 

ผู้ชายสามารถหยุดได้เท่าเทียมกับผู้หญิงถ้าเป็นคนเลี้ยงดูหลัก เช่นภรรยาไม่สามารถเลี้ยงได้ หรือเป็นการรับลูกบุญธรรม อันนี้ก็ถือว่าเท่าเทียมนี่คะ

 

ขอแก้หน่อย มีแม่สามีมาช่วยนิดหน่อย แต่อยู่ห่างไปสี่ชั่วโมงก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวนะแหละ แล้วก็เห็นด้วยถ้าจะีวันลาให้ผู้ชาย แค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องได้ลาเท่ากัน

 

ตอนผมมีลูกคนแรกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว โคตรลำบากเลย เพราะไม่มีญาติมาช่วยดูแล เมียก็ไม่สามารถคลอดแบบปกติได้ต้องผ่าออก...ซึ่งก็จะทำให้ระยะพักฟื้นนานขึ้นไปอีก... ทางบริษัทให้ลาได้ 2 อาทิตย์ (หมดกันวันพักร้อนที่สะสมมาหลายปี) ซึ่งมันก็ไม่พออยู่ดี ต้องใช้เวลานานเกือบ 3 เดือนกว่าเมียจะสามารถดูแลบ้านได้เหมือนเดิม -*- มันก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงสนับสนุนให้ลาคลอดได้ 90 วัน

 

มันน่าแปลกที่ผู้หญิงกลับไม่เรียกร้องความเท่าเทียมในด้านการเกณฑ์ทหารเลย แปลกจริงๆ นะครับ


ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ


#52 3x3eyes

3x3eyes

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 338 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:49

เรียนอะไรมา มันก็ต้องไปฝึกในสนามนั้นแหละครับ

จะว่าเอา รด ส่งไปรบแล้วต้องตายเปล่ามันก็ไม่ถูก คงไม่มีใครทำกัน

มันก็เหมือนเด็กจบใหม่ทุกสาขาวิชานั่นแหละ

อย่างน้อยก็ต้องมีทดลองงานก่อน

จบมาสูงๆบางทีต้องมานั่งเรียนรู้จากพวกจบ ปวส หรือ ปวช ที่ทำงานมาก่อน

นายร้อยตำรวจหรือทหารจบใหม่ ก็ต้องเรียนรู้งานภาคสนามจากจ่า

หรือพวกที่ไปเรียนหลักสูตรเพิ่มเติม บางครั้ง คนสอนก็ยังเป็นจ่าเหมือนกัน

จะว่าทหารเกณฑ์ มีคุณภาพกว่าพวกเรียน รด ก็ไม่ถูกซะทีเดียว

อย่างพวกเล่น BB ผมว่าคุณภาพดีกว่าทหารเกณฑ์เยอะแยะนะ..... :ph34r:


“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”

 

"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"

-Dante Alighieri-


#53 ควันหลง

ควันหลง

    I am Royalist

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,696 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:12

เรียนอะไรมา มันก็ต้องไปฝึกในสนามนั้นแหละครับ

จะว่าเอา รด ส่งไปรบแล้วต้องตายเปล่ามันก็ไม่ถูก คงไม่มีใครทำกัน

มันก็เหมือนเด็กจบใหม่ทุกสาขาวิชานั่นแหละ

อย่างน้อยก็ต้องมีทดลองงานก่อน

จบมาสูงๆบางทีต้องมานั่งเรียนรู้จากพวกจบ ปวส หรือ ปวช ที่ทำงานมาก่อน

นายร้อยตำรวจหรือทหารจบใหม่ ก็ต้องเรียนรู้งานภาคสนามจากจ่า

หรือพวกที่ไปเรียนหลักสูตรเพิ่มเติม บางครั้ง คนสอนก็ยังเป็นจ่าเหมือนกัน

จะว่าทหารเกณฑ์ มีคุณภาพกว่าพวกเรียน รด ก็ไม่ถูกซะทีเดียว

อย่างพวกเล่น BB ผมว่าคุณภาพดีกว่าทหารเกณฑ์เยอะแยะนะ..... :ph34r:

 

ไม่จริงหรอกครับ การรบ กับ BB นั้นไม่เหมือนกัน พวก BB นั้นจะคุ้นเคยการกับ CQB หรือ CQC  แต่การรบจริงๆนั้น ไม่ได้เราปะทะกันแบบนั้นเสมอไป เพราะส่วนมากซัดกันตั้งแต่ 300 เมตร หรือไกลกว่านั้นถ้ามีปืนกล แล้วถ้าต้องใช้ความรู้นอกจากนี้ พวกเขาจะรู้อะไรหล่ะครับ เพราะแถบจะไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย 

 

เราพูดถึงการรบนะครับ ไม่ใช่การ CQB หรือ CQC เพียงอย่างเดียว 



#54 3x3eyes

3x3eyes

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 338 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:18

เรียนอะไรมา มันก็ต้องไปฝึกในสนามนั้นแหละครับ

จะว่าเอา รด ส่งไปรบแล้วต้องตายเปล่ามันก็ไม่ถูก คงไม่มีใครทำกัน

มันก็เหมือนเด็กจบใหม่ทุกสาขาวิชานั่นแหละ

อย่างน้อยก็ต้องมีทดลองงานก่อน

จบมาสูงๆบางทีต้องมานั่งเรียนรู้จากพวกจบ ปวส หรือ ปวช ที่ทำงานมาก่อน

นายร้อยตำรวจหรือทหารจบใหม่ ก็ต้องเรียนรู้งานภาคสนามจากจ่า

หรือพวกที่ไปเรียนหลักสูตรเพิ่มเติม บางครั้ง คนสอนก็ยังเป็นจ่าเหมือนกัน

จะว่าทหารเกณฑ์ มีคุณภาพกว่าพวกเรียน รด ก็ไม่ถูกซะทีเดียว

อย่างพวกเล่น BB ผมว่าคุณภาพดีกว่าทหารเกณฑ์เยอะแยะนะ..... :ph34r:

 

ไม่จริงหรอกครับ การรบ กับ BB นั้นไม่เหมือนกัน พวก BB นั้นจะคุ้นเคยการกับ CQB หรือ CQC  แต่การรบจริงๆนั้น ไม่ได้เราปะทะกันแบบนั้นเสมอไป เพราะส่วนมากซัดกันตั้งแต่ 300 เมตร หรือไกลกว่านั้นถ้ามีปืนกล แล้วถ้าต้องใช้ความรู้นอกจากนี้ พวกเขาจะรู้อะไรหล่ะครับ เพราะแถบจะไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย 

 

เราพูดถึงการรบนะครับ ไม่ใช่การ CQB หรือ CQC เพียงอย่างเดียว 

พูดถึงทหารเกณฑ์รึเปล่าครับ

จะส่ง รด ไปรบ ผมว่ายังไงก็ต้องผ่านการฝึกแบบเดียวกันนะ

จะ Close Combat แบบไหนๆ

คงไม่เอาปืนใส่มือแล้วส่งไปแนวหน้าเลย แบบนั้นมันส่งไปตายแน่ๆ


“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”

 

"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"

-Dante Alighieri-


#55 galaxy

galaxy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 662 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:18

ทุกเรื่องที่พูดกัน มันขึ้นอยู่กับว่า คุณสร้างเด็กให้เติบโตมาเพื่อเสียสละ และสามัคคี รักชาติแค่ไหน   ตรงนี้มันปลายเหตุแล้ว



#56 ควันหลง

ควันหลง

    I am Royalist

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,696 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:25

 

เรียนอะไรมา มันก็ต้องไปฝึกในสนามนั้นแหละครับ

จะว่าเอา รด ส่งไปรบแล้วต้องตายเปล่ามันก็ไม่ถูก คงไม่มีใครทำกัน

มันก็เหมือนเด็กจบใหม่ทุกสาขาวิชานั่นแหละ

อย่างน้อยก็ต้องมีทดลองงานก่อน

จบมาสูงๆบางทีต้องมานั่งเรียนรู้จากพวกจบ ปวส หรือ ปวช ที่ทำงานมาก่อน

นายร้อยตำรวจหรือทหารจบใหม่ ก็ต้องเรียนรู้งานภาคสนามจากจ่า

หรือพวกที่ไปเรียนหลักสูตรเพิ่มเติม บางครั้ง คนสอนก็ยังเป็นจ่าเหมือนกัน

จะว่าทหารเกณฑ์ มีคุณภาพกว่าพวกเรียน รด ก็ไม่ถูกซะทีเดียว

อย่างพวกเล่น BB ผมว่าคุณภาพดีกว่าทหารเกณฑ์เยอะแยะนะ..... :ph34r:

 

ไม่จริงหรอกครับ การรบ กับ BB นั้นไม่เหมือนกัน พวก BB นั้นจะคุ้นเคยการกับ CQB หรือ CQC  แต่การรบจริงๆนั้น ไม่ได้เราปะทะกันแบบนั้นเสมอไป เพราะส่วนมากซัดกันตั้งแต่ 300 เมตร หรือไกลกว่านั้นถ้ามีปืนกล แล้วถ้าต้องใช้ความรู้นอกจากนี้ พวกเขาจะรู้อะไรหล่ะครับ เพราะแถบจะไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย 

 

เราพูดถึงการรบนะครับ ไม่ใช่การ CQB หรือ CQC เพียงอย่างเดียว 

พูดถึงทหารเกณฑ์รึเปล่าครับ

จะส่ง รด ไปรบ ผมว่ายังไงก็ต้องผ่านการฝึกแบบเดียวกันนะ

จะ Close Combat แบบไหนๆ

คงไม่เอาปืนใส่มือแล้วส่งไปแนวหน้าเลย แบบนั้นมันส่งไปตายแน่ๆ

 

รด.อย่าเรียกว่าฝึกเพิ่มเติมเลยครับ ต้องเรียกว่าฝึกใหม่จะดีกว่า  :lol:



#57 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:27

 

 

 

ผมว่าเพิ่มการเกณฆ์ทหารหญิงเข้าไปด้วยก็ดีนะครับ ช ญ จะได้มีสิทธิเสมอกัน... แล้วก็เสนอให้ผู้ชายลาคลอดได้ 90 วันเหมือนผู้หญิงด้วย

ถ้าผู้ชายอุ้มท้องได้ทั้งเก้าเดือนก็เอาไปเถอะลาคลอดน่ะ

 

ถามว่า เวลาผู้ชายที่มีเมียคลอดลูก แล้วไม่มีคนดูแลลูก(ไม่มีพ่อแม่พี่น้องรับอาสามาช่วยดูแลให้) เมียต้องดูแลเอง... ถามว่าใครต้องอยู่ดูแลเมียและลูกครับ?  ช่วยตอบชัดๆ ที

 

เราอยู่ได้มาแล้วคนเดียวไม่มีญาติที่นี่เลยหรือใครมาช่วย ผู้หญิงก็ดูแลตัวเองและลูกได้อยู่แล้วถ้าคลอดแบบธรรมชาติและไม่มีแผลอะไรมาก

 

แต่จริงๆคือการให้ผู้ชายหยุดมาช่วยนั้นเป็นเรื่องที่ดี เห็นด้วย แต่มาบอกว่าเพื่อความเท่าเทียมนี่ไม่ใช่คะ ที่นี่ผู้ชายหยุดได้สองอาทิตย์ (พอดีสามีมีงานเป็นของตัวเองเลยไม่ได้หยุด) แต่สองอาทิย์ถ้าเป็นแม่มือใหม่ หรือผ่าคลอดก็ไม่พอหรอก แต่ถ้าไม่เจ็บไม่อะไรสองอาทิตย์ก็เยอะอยู่ มันขึ้นอยู่กับคนคะ

 

ผู้ชายสามารถหยุดได้เท่าเทียมกับผู้หญิงถ้าเป็นคนเลี้ยงดูหลัก เช่นภรรยาไม่สามารถเลี้ยงได้ หรือเป็นการรับลูกบุญธรรม อันนี้ก็ถือว่าเท่าเทียมนี่คะ

 

ขอแก้หน่อย มีแม่สามีมาช่วยนิดหน่อย แต่อยู่ห่างไปสี่ชั่วโมงก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวนะแหละ แล้วก็เห็นด้วยถ้าจะีวันลาให้ผู้ชาย แค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องได้ลาเท่ากัน

 

ตอนผมมีลูกคนแรกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว โคตรลำบากเลย เพราะไม่มีญาติมาช่วยดูแล เมียก็ไม่สามารถคลอดแบบปกติได้ต้องผ่าออก...ซึ่งก็จะทำให้ระยะพักฟื้นนานขึ้นไปอีก... ทางบริษัทให้ลาได้ 2 อาทิตย์ (หมดกันวันพักร้อนที่สะสมมาหลายปี) ซึ่งมันก็ไม่พออยู่ดี ต้องใช้เวลานานเกือบ 3 เดือนกว่าเมียจะสามารถดูแลบ้านได้เหมือนเดิม -*- มันก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงสนับสนุนให้ลาคลอดได้ 90 วัน

 

มันน่าแปลกที่ผู้หญิงกลับไม่เรียกร้องความเท่าเทียมในด้านการเกณฑ์ทหารเลย แปลกจริงๆ นะครับ

ผมคิดต่างนะครับ ว่า ตรงจุดนี้เราผู้ชายน่าจะเสียสละได้นะครับเรื่องเกณฑ์ทหารน่ะครับ

 

ส่วนเรื่องลาคลอดเห็นด้วยที่ว่าควรให้ผู้ชายลาได้เท่าเมีย  เพราะบอกตามตรงว่าถ้าไม่มีคนเลี้ยง แม ร่งโคตรลำบากเลย



#58 3x3eyes

3x3eyes

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 338 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:31

 

 

เรียนอะไรมา มันก็ต้องไปฝึกในสนามนั้นแหละครับ

จะว่าเอา รด ส่งไปรบแล้วต้องตายเปล่ามันก็ไม่ถูก คงไม่มีใครทำกัน

มันก็เหมือนเด็กจบใหม่ทุกสาขาวิชานั่นแหละ

อย่างน้อยก็ต้องมีทดลองงานก่อน

จบมาสูงๆบางทีต้องมานั่งเรียนรู้จากพวกจบ ปวส หรือ ปวช ที่ทำงานมาก่อน

นายร้อยตำรวจหรือทหารจบใหม่ ก็ต้องเรียนรู้งานภาคสนามจากจ่า

หรือพวกที่ไปเรียนหลักสูตรเพิ่มเติม บางครั้ง คนสอนก็ยังเป็นจ่าเหมือนกัน

จะว่าทหารเกณฑ์ มีคุณภาพกว่าพวกเรียน รด ก็ไม่ถูกซะทีเดียว

อย่างพวกเล่น BB ผมว่าคุณภาพดีกว่าทหารเกณฑ์เยอะแยะนะ..... :ph34r:

 

ไม่จริงหรอกครับ การรบ กับ BB นั้นไม่เหมือนกัน พวก BB นั้นจะคุ้นเคยการกับ CQB หรือ CQC  แต่การรบจริงๆนั้น ไม่ได้เราปะทะกันแบบนั้นเสมอไป เพราะส่วนมากซัดกันตั้งแต่ 300 เมตร หรือไกลกว่านั้นถ้ามีปืนกล แล้วถ้าต้องใช้ความรู้นอกจากนี้ พวกเขาจะรู้อะไรหล่ะครับ เพราะแถบจะไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย 

 

เราพูดถึงการรบนะครับ ไม่ใช่การ CQB หรือ CQC เพียงอย่างเดียว 

พูดถึงทหารเกณฑ์รึเปล่าครับ

จะส่ง รด ไปรบ ผมว่ายังไงก็ต้องผ่านการฝึกแบบเดียวกันนะ

จะ Close Combat แบบไหนๆ

คงไม่เอาปืนใส่มือแล้วส่งไปแนวหน้าเลย แบบนั้นมันส่งไปตายแน่ๆ

 

รด.อย่าเรียกว่าฝึกเพิ่มเติมเลยครับ ต้องเรียกว่าฝึกใหม่จะดีกว่า  :lol:

ทำนองนั้นแหละครับ แต่ยังไงก็ยังผ่านเบื้องต้นมา

ฝึกใหม่ก็คงไม่เสียเวลามากเท่าเริ่มใหม่ทั้งหมด

เหมือนเรียนจบมาใหม่ มาทำงานจริงก็ต้องมาเริ่มใหม่หมด

ใครทักษะดี ก็เป็นเร็ว ไม่ต่างกันหรอกครับว่าจะเป็น รด หรือทหารเกณฑ์  ;)


“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”

 

"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"

-Dante Alighieri-


#59 3x3eyes

3x3eyes

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 338 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:37

อย่างน้อย เรียน รด ก็เหมือนกับผ่านทหารกลายๆ

ถ้าเรียน รด แล้วยังต้องไปเกณฑ์ ผมว่าหลายคนคงไม่มีตรงนั้น

ไปลุ้นจับใบดำใบแดงเอา หรือไม่ก็...สัสดี  :rolleyes: 


“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”

 

"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"

-Dante Alighieri-


#60 Solid Snake

Solid Snake

    แดงกำมะลอ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,892 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:38

 

 

 

เรียนอะไรมา มันก็ต้องไปฝึกในสนามนั้นแหละครับ

จะว่าเอา รด ส่งไปรบแล้วต้องตายเปล่ามันก็ไม่ถูก คงไม่มีใครทำกัน

มันก็เหมือนเด็กจบใหม่ทุกสาขาวิชานั่นแหละ

อย่างน้อยก็ต้องมีทดลองงานก่อน

จบมาสูงๆบางทีต้องมานั่งเรียนรู้จากพวกจบ ปวส หรือ ปวช ที่ทำงานมาก่อน

นายร้อยตำรวจหรือทหารจบใหม่ ก็ต้องเรียนรู้งานภาคสนามจากจ่า

หรือพวกที่ไปเรียนหลักสูตรเพิ่มเติม บางครั้ง คนสอนก็ยังเป็นจ่าเหมือนกัน

จะว่าทหารเกณฑ์ มีคุณภาพกว่าพวกเรียน รด ก็ไม่ถูกซะทีเดียว

อย่างพวกเล่น BB ผมว่าคุณภาพดีกว่าทหารเกณฑ์เยอะแยะนะ..... :ph34r:

 

ไม่จริงหรอกครับ การรบ กับ BB นั้นไม่เหมือนกัน พวก BB นั้นจะคุ้นเคยการกับ CQB หรือ CQC  แต่การรบจริงๆนั้น ไม่ได้เราปะทะกันแบบนั้นเสมอไป เพราะส่วนมากซัดกันตั้งแต่ 300 เมตร หรือไกลกว่านั้นถ้ามีปืนกล แล้วถ้าต้องใช้ความรู้นอกจากนี้ พวกเขาจะรู้อะไรหล่ะครับ เพราะแถบจะไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย 

 

เราพูดถึงการรบนะครับ ไม่ใช่การ CQB หรือ CQC เพียงอย่างเดียว 

พูดถึงทหารเกณฑ์รึเปล่าครับ

จะส่ง รด ไปรบ ผมว่ายังไงก็ต้องผ่านการฝึกแบบเดียวกันนะ

จะ Close Combat แบบไหนๆ

คงไม่เอาปืนใส่มือแล้วส่งไปแนวหน้าเลย แบบนั้นมันส่งไปตายแน่ๆ

 

รด.อย่าเรียกว่าฝึกเพิ่มเติมเลยครับ ต้องเรียกว่าฝึกใหม่จะดีกว่า  :lol:

ทำนองนั้นแหละครับ แต่ยังไงก็ยังผ่านเบื้องต้นมา

ฝึกใหม่ก็คงไม่เสียเวลามากเท่าเริ่มใหม่ทั้งหมด

เหมือนเรียนจบมาใหม่ มาทำงานจริงก็ต้องมาเริ่มใหม่หมด

ใครทักษะดี ก็เป็นเร็ว ไม่ต่างกันหรอกครับว่าจะเป็น รด หรือทหารเกณฑ์  ;)

เดี๋ยวนี้ BB ใช้ CQC ด้วยรึนั่น จะโหดไปไหน

 



#61 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:43

คิดแบบ..ไม่มีอะไรจะทำ...จะ รด.หรือ

เกณฑ์..มันก็มีบัญชีอยู่  เมื่อกำลัง -

ทหารเกณฑ์ ไม่พอ..ก็เรียกระดม รด..

ได้..ไม่เห็นจะต้องเรียกเกณฑ์ให้ เปลือง

งบแผ่นดิน.ไม่มีอะไรทำหรือไง???...

หางานที่มัน  สร้างสรร.หน่อยนะ  .......

...ไอ้..เรือเหาะ..หาเหว..อะไรนั่น  เคลียร์

ให้ชาวบ้านเขารู้หน่อยซินะ...นะ...นะ...



#62 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:13

ผบทบ. มองแต่ประเด็นของการรักชาติ ว่าต้องเป็นทหารรับใช้่ชาติ

 

ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในการสร้างชาติ

 

อาชีพทุกอาชีพ มีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียม และ เป็นพลังของการสร้างชาติทั้งนั้น

 

คุณอย่าคิดว่า อาชีพทหารของคุณ เป็นอาชีพเดียวที่ผูกขาดการสร้างชาติ

 

ถ้า ไม่มี หมอ พวกคุณก็ป่วยตาย รบไม่ได้

ถ้า ไม่มี วิศวกร พวกคุณก็อาจจะต้องขี่ม้าไปรบเขมร

ถ้า ไม่มี นักวิทยาศาสตร์ พวกคุณก็ต้องดูฤกษ์ดูยามในการรบ

ถ้า ไม่มี หมอดู ฤกษ์ยาม คุณก็หมดสิทธิดู

 

ทุกอาชีพ มีส่วนสร้างชาติ และ ทุกคนก็รักชาติ รักแผ่นดิน ด้วยการทำหน้าที่ที่ตัวเองถนัด รักชอบ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชาติทั้งนั้น

 

อย่าคิดว่า ถ้า ไม่ได้ มาเป็นทหาร และ จะรักชาติไม่เป็น คนคิดแบบนีั้ เป้นคนคับแคบ โง่ และ มองในสิ่งที่ตัวเองอยากมองเท่านั้น

 

จริง อาชีพสุจริตทุกอาชีพก็สร้างชาติได้ทั้งนั้น

 

ทั้งนี้อยู่ที่จิตสำนึกและทัศนคติของแต่ละคนด้วย ว่ามีแนวคิดแบบไหน 

เพราะเดี๋ยวนี้ทัศนคติที่อันตรายต่อความมั่นคงของชาติแพร่หลายไปมาก 

มันเป็นหลายอาชีพ 

 

ทหารสร้างชาติในแง่ของการรักษาอธิปไตย เขตแดน และการปกป้องต่อสู้กับข้าศึก 

แต่ทุกอาชีพก็สำคัญอยู่ดี


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#63 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:19

งั้นก็ยกมาตราฐานการฝึก รด. ให้ดีเท่าๆกับ  การเกณฑ์ทหารไปเลย  ใครไม่อยากลำบากเป็นทหารไปลุ้นใบดำใบแดงกันเอาเอง

หรือ  ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร  ไปเลย  ใครอยากเป็นทหารอาสามาเองด้วยความสมัครใจ  ส่วนพวกปอดเจอขูดภาษีบำรุงกองทัพซะ

ทุกปี  รับรองกองทัพมีกะตังเอาไว้ขึ้นเงินเดือนทหาร  ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้แน่  อาจมีเหลือไปซื้ออาวุธมายิงเล่นโดยไม่ต้อง  

ลำบากลำบนขอเจียดจากงบประมาณแผ่นดินแบบในปัจุบันด้วย  ส่วน รด.  เอาไว้ฝึกกองหนุน  เพื่อได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี

บำรุงกองทัพตลอดชีพ+โอกาสในการทำงานราชการทหาร


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#64 wewe

wewe

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,005 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:39

ผบ.ทบ. ท่าจะว่างมาก


ความเท็จแม้นเร้นได้ในปัจจุบัน  แต่ก็เหมือนซ่อนสุริยันไว้หลังเมฆ

อย่านึกถึงแต่ความผิดพลาด  จงระลึกถึงต้นเหตุของความผิดพลาด


#65 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:05

ความเคลื่อนไหวล่าสุด สุกำพลออกมาขานรับ หนุนแนวคิด ผบ.ทบ. แล้วครับ เห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดี อาจทำให้ชายไทยมีความเป็นทหารมากขึ้น และต้องการแก้ไขระบบกำลังสำรอง เนื่องจากของเดิมใช้กันมานานแล้ว

 

'สุกำพล'หนุนแนวคิดให้'รด.'เกณฑ์ทหาร

http://www.komchadlu...ml#.URIAcB30Bdc


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#66 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:35

 

 

 

 

ผมว่าเพิ่มการเกณฆ์ทหารหญิงเข้าไปด้วยก็ดีนะครับ ช ญ จะได้มีสิทธิเสมอกัน... แล้วก็เสนอให้ผู้ชายลาคลอดได้ 90 วันเหมือนผู้หญิงด้วย

ถ้าผู้ชายอุ้มท้องได้ทั้งเก้าเดือนก็เอาไปเถอะลาคลอดน่ะ

 

ถามว่า เวลาผู้ชายที่มีเมียคลอดลูก แล้วไม่มีคนดูแลลูก(ไม่มีพ่อแม่พี่น้องรับอาสามาช่วยดูแลให้) เมียต้องดูแลเอง... ถามว่าใครต้องอยู่ดูแลเมียและลูกครับ?  ช่วยตอบชัดๆ ที

 

เราอยู่ได้มาแล้วคนเดียวไม่มีญาติที่นี่เลยหรือใครมาช่วย ผู้หญิงก็ดูแลตัวเองและลูกได้อยู่แล้วถ้าคลอดแบบธรรมชาติและไม่มีแผลอะไรมาก

 

แต่จริงๆคือการให้ผู้ชายหยุดมาช่วยนั้นเป็นเรื่องที่ดี เห็นด้วย แต่มาบอกว่าเพื่อความเท่าเทียมนี่ไม่ใช่คะ ที่นี่ผู้ชายหยุดได้สองอาทิตย์ (พอดีสามีมีงานเป็นของตัวเองเลยไม่ได้หยุด) แต่สองอาทิย์ถ้าเป็นแม่มือใหม่ หรือผ่าคลอดก็ไม่พอหรอก แต่ถ้าไม่เจ็บไม่อะไรสองอาทิตย์ก็เยอะอยู่ มันขึ้นอยู่กับคนคะ

 

ผู้ชายสามารถหยุดได้เท่าเทียมกับผู้หญิงถ้าเป็นคนเลี้ยงดูหลัก เช่นภรรยาไม่สามารถเลี้ยงได้ หรือเป็นการรับลูกบุญธรรม อันนี้ก็ถือว่าเท่าเทียมนี่คะ

 

ขอแก้หน่อย มีแม่สามีมาช่วยนิดหน่อย แต่อยู่ห่างไปสี่ชั่วโมงก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวนะแหละ แล้วก็เห็นด้วยถ้าจะีวันลาให้ผู้ชาย แค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องได้ลาเท่ากัน

 

ตอนผมมีลูกคนแรกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว โคตรลำบากเลย เพราะไม่มีญาติมาช่วยดูแล เมียก็ไม่สามารถคลอดแบบปกติได้ต้องผ่าออก...ซึ่งก็จะทำให้ระยะพักฟื้นนานขึ้นไปอีก... ทางบริษัทให้ลาได้ 2 อาทิตย์ (หมดกันวันพักร้อนที่สะสมมาหลายปี) ซึ่งมันก็ไม่พออยู่ดี ต้องใช้เวลานานเกือบ 3 เดือนกว่าเมียจะสามารถดูแลบ้านได้เหมือนเดิม -*- มันก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงสนับสนุนให้ลาคลอดได้ 90 วัน

 

มันน่าแปลกที่ผู้หญิงกลับไม่เรียกร้องความเท่าเทียมในด้านการเกณฑ์ทหารเลย แปลกจริงๆ นะครับ

ผมคิดต่างนะครับ ว่า ตรงจุดนี้เราผู้ชายน่าจะเสียสละได้นะครับเรื่องเกณฑ์ทหารน่ะครับ

 

ส่วนเรื่องลาคลอดเห็นด้วยที่ว่าควรให้ผู้ชายลาได้เท่าเมีย  เพราะบอกตามตรงว่าถ้าไม่มีคนเลี้ยง แม ร่งโคตรลำบากเลย

เข้าใจคะว่าลำบากและเห็นใจ เพราะตอนที่มีคนมาช่วยในสองสามวันแรกก็สดวกดีแต่เราไม่อยากให้เค้าช่วยมากเพราะเรารู้ว่าเราต้องทำอะไรเองในตอนหลัง แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก เหนื่อยเหมือนกันแต่ช่วงนั้นอึดมาก ได้นอนสองสามชั่วโมงต่อวันแต่ก็อยู่ได้ดี ถึงสามีกลับบ้านมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดีเพราะเราเลี้ยงนมแม่และทำอะไรเร็วกว่า หิ้วลูกไปด้วยทุกที่ ทำกับข้าวก็ติดตัวตลอด อย่างที่บอก มันขึ้นอยู่กับคน

 

ขอบอกว่าถึงพ่อกับแม่เรามาอยู่ด้วยเราคงเหนื่อยมากกว่าเดิมเพราะต้องดูแลท่านด้วย (พ่อมาอยู่ 10 วัน เราก็ต้องดูแลพ่ออีก เพิ่มจากดูลูก) เลี้ยงคนเดียวง่ายกว่า สำหรับเรานะ

 

ถ้าจะให้เข้าใจบริษัท ก็คือเค้าให้คนหยึดเพื่อเลี้ยงลูก ซึ่งคนเดียวก็พอ (เหนื่อย แต่อยู่ได้) ไม่ได้ให้คนหยุดเพื่อดูแลภรรยา (ที่เลี้ยงลูก) เวลาหยุดเลยไม่เท่ากันน่ะคะ

 

เพราะถ้าจะให้เท่าจริง ทำงานรัฐได้หยุด 6-12 เดือนเลี้ยงลูกนี่ ผู้ชายจะหยุดเท่ากันหรอคะ 

 

เรื่องความเท่าเทียมมันต้องดูอย่างอื่นด้วย คนเราเกิดมามีสิทธิเท่ากัน ในเรื่องของสิทธิความเป็นมนุษย์ แต่ด้วยเพศต่างกัน สรีระ และ หน้าที่ของร่างกายต่างกัน ตรงนั้นทำยังไงก็เท่าเทียมยากคะ :)

 

ส่วนเรื่อง เกณฑ์ทหาร ถ้าแยกหญิงชายก็น่าจะทำได้ แต่ก็ต้องมีการผ่อนผันอีกเยอะเพราะสรีระทางร่างกายของผู้หญิงทำให้มีข้อจำกัดเยอะ (ขนาดในพุทธศาสนา หญิงกับชาย ยังมีกฏที่ไม่เหมือนกันเลยถ้าบวช) 


You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#67 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:55

ว่าแต่  อุตส่าห์เรียน ร.ด. แล้ว  ยังต้องโดนเกณฑ์ทหารอีก  เสียงส่วนใหญ่จะว่าไง?


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#68 redfrog53

redfrog53

    เกิดที่รัสเซีย มาโตที่ สรท.

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 25,221 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:25

กำหนดเกรดขั้นต่ำ 2.75 ขึ้นไป ไม่จำกัดชายหญิง ฝึกหนักจัดเต็ม

มีภาคสนาม เต็มแม็กซ์ ขนิดหายกระตุ้งกระดิ้งได้ยิ่งดี

จบแล้ว เป็นทหารพร้อมรับเรียกเข้าฝึกหรือประจำกองกรมได้ทันที

 

 

 

ค่ายฝึกทหารรุ่นจิ๋ว สุดหฤโหด ที่เกาหลี (แต่ไม่รู้ว่าเกาหลีไหน???ใต้ หรือ เหนือ)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เด็กๆ แดนกิมจิ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงปิดเทอมฤดูหนาว ด้วยการร่วมฝึกความอดทนและแข็งแกร่ง ในค่ายทหาร
 
ในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวประจำปี แทนที่จะอยู่บ้านดูทีวี หรือเล่นวิดีโอเกม แต่มีเด็กกลุ่มหนึ่ง กลับสมัครใจที่จะเจอกับความลำบาก ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ใกล้กับชายหาดในเมืองอันซาน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 66 กิโลเมตร โดยหวังว่าจะเป็นการพัฒนาความแข็งแกร่ง ความมีระเบียบวินัย และความอดทนของตนเอง ให้พร้อมรับกับโลกความเป็นจริง 
 
ปีนี้มีเด็กนักเรียกเข้าร่วมฝึกทหารมากถึง 183 คน ที่ต้องเจอกับการฝึกโหด 10 ชั่วโมงต่อวัน ตลอด 5 วัน หรือ 9 วัน โดยเด็กต้องถอดเสื้อฝึกทหาร ท่ามกลางหิมะ,ต้องแบกเรือยาง ท่อนไม้ เหมือนกับทหารจริงๆ เพื่อฝึกความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเด็กบางคนต้องทนฝึกทั้งน้ำตาเลยก็มี 
 
ครูฝึก เผยว่า ปัจจุบันนี้ เด็กนักเรียนหลายต่อหลายคนมีนิสัยเห็นแก่ตัว และขาดความมั่นใจในตัวเอง แต่การฝึกครั้งนี้จะช่วยได้ เพราะทุกคนต้องอยู่ห่างจากพ่อแม่ พี่น้องที่คอยช่วยเหลือตลอดเวลา 
 
แม้จะเป็นค่ายฝึกทหารที่โหดสำหรับเด็กๆ แต่ก็มีเด็กนักเรียนในเกาหลีใต้ ผ่านการฝึกจากค่ายทหารนี้ มากถึง 70,000-80,000 คน นับตั้งแต่ ปี 1998
 
http://www.youtube.com/watch?v=FsE0H758sdI&feature=player_embedded
แค้มป์ทหารฝึกเด็กเกาหลี เป็น แค้มป์ทหาร ฝึกเด็ก ในช่วงที่เด็กๆกำลังปิดเทอมเพื่อให้เด็กๆเกิดความหึกเหิมแต่ดูแล้ว แค้มป์ทหารเด็ก ที่นี่ฝึกโหดไปหน่อยหรือเปล่าขนาดว่า อากาศหนาวขนาดนั้นยังให้เด็กถอดเสื้อเพื่อ ฝึกทหาร อีก
 
http://www.youtube.com/watch?v=7_CzExVhBSg&feature=player_embedded
หลักสูตรฝึกความอดทนของทหารเกาหลี
เย็นเจี๊ยบ! ถอดเสื้อแช่น้ำแข็ง หลักสูตรฝึกความอดทนของทหารเกาหลี

Posted Image

#69 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:35

^

ขนาดเกาหลีใต้ยังขนาดนี้.... :o


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#70 ครุฑดำ

ครุฑดำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,056 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:12

พวกหนีทหารเดือดร้อนไงครับ :D

ที่เรียนรด.แบบไม่ต้องฝึกอย่างอิโอ๊คน่าเดือดร้อนกว่านะ :lol: :lol:


เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน