ทำไมถึงยกเลิกเงินรัชูประการครับ
#1
Posted 5 February 2013 - 17:07
แล้วเรียน รด. กับการเก็บเงินรัชชูปราการ แบบไหนดีกว่ากัน
เงินรัชชูปราการยกเลิกสมัยไหน ทำไมถึงยกเลิก มีแง่คิดอย่างไรถึงต้องยกเลิก
#2
Posted 5 February 2013 - 17:20
http://www.panyathai...p/เงินรัชชูปการ
เงินรัชชูปการ
สมัยอยุธยาจึงกำหนดให้ชายฉกรรจ์ทุกคนซึ่งเรียกว่าไพร่ต้องมาทำงานให้แก่รัฐ
แต่ในเวลาต่อมาเมื่อการค้ากับต่างประเทศขยายตัวมากขึ้น
รัฐบาลจึงอนุญาตให้ไพร่ที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นห่างไกล
หรือในท้องถิ่นที่มีสินค้าที่ทางรัฐบาลต้องการนำไปขายกับต่างประเทศ
สามารถส่งสินค้าดังกล่าวมาแทนการทำงานได้
การเกณฑ์แรงงานไพร่เป็นภาระหนักของไพร่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน
ในสมัยอยุธยาตอนปลายไพร่พยายามหลบหนีหรือหลีกเลี่ยงการถูกเกณฑ์แรงงาน
สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งเลวลงเรื่อยๆจวบจนกระทั่งสิ้นอาณาจักรอยุธยา
ความเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม
เศรษฐกิจและการปกครองที่เกิดขึ้นในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นทำให้รัฐบาลเปลี่ยนมาเก็บเงินรัชชูปการจากไพร่คนละ
18 บาทต่อปีแทนการส่งส่วยสิ่งของชนิดต่างๆ ให้แก่รัฐ
หรือมาทำงานให้รัฐเหมือนกับบรรพบุรุษที่รับภาระสืบเนื่องกันมา
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ซึ่งขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 2411
ทรงเห็นว่ากำหนดอัตราเงินรัชชูปการที่ไพร่ต้องเสียเมื่อเทียบกับสภาพทางเศรษฐกิจมีอัตราค่อนข้างสูง
จึงทรงลดอัตราเก็บเงินรัชชูปการลงเหลือคนละ 6 บาทต่อปี
ซึ่งเป็นผลทำให้รัฐบาลมีรายได้มากขึ้น
เพราะอัตราดังกล่าวค่อนข้างต่ำจนทำให้ไพร่เห็นว่าการหลบหนีการถูกเกณฑ์แรงงานหรือหลีกเลี่ยงไม่ชำระเงินรัชชูปการไม่คุ้มค่ากับผลเสียที่จะเกิดตามมาภายหลัง
สรุป เงินรัชชูปการคือ เงินส่วย ที่เก็บจากไพร่ส่วย
โดยปรกติยามสงบชายไทยทุกคน ที่สังกัดมูลนาย หรือ ที่เรียกว่า ไพร่หลวง
ทำหน้าที่รับราชการ ช่วยกันทำนุบำรุงและป้องกันประเทศชาติในยามปรกติ
ต้องมีหน้าที่เข้ารับราชการปีละ 6 เดือน
ใน สมัยกรุงธนบุรี
ลดเหลือปีละ 4 เดือน
ใน สมัยรัตนโกสินทร์ ตอนต้น ลดเหลือ 3 เดือน ผู้ใดไม่ต้องการเข้าเกณฑ์แรงงาน
ก็หาสิ่งของหรือเงินมาทดแทนการเกณฑ์แรงงานได้
ซึ่งผู้ที่ใช้เงินหรือสิ่งของมาแทนแรงงาน เรียกว่า ไพร่ส่วย ส่วนเงิน
ที่ใช้แทนแรงงานเรียกว่า ส่วย
ใน สมัยรัชกาลที่ 1 นั้น ไพร่ส่วยเสียเงินค่าราชการ ปีละ 18 บาท
เท่ากับคิดในอัตราเดือนละ 6 บาท
สมัยรัชกาลที่ 5 มีการตราพระราชบัญญัติเกณฑ์ทหาร
ทางราชการยินยอมให้ผู้ไม่ถูกเกณฑ์ทหารเสียเงินค่าราชการเพียงปีละ 6 บาท
เท่ากับว่าไพร่ต้องเข้าเวรปีละ 1 เดือน ในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกว่า เงินค่าราชการ
ใน สมัยรัชกาลที่6 เรียกว่า เงินรัชชูปการ โดยกำหนดให้ ชายฉกรรจ์ ที่มีอายุ 18 – 60
ปีและข้าราชการ ต้องเสียเงินรัชชูปการ ยกเว้น ทหาร ตำรวจ พระภิกษุสามเณร กำนัน
ผู้ใหญ่บ้านและผู้ที่มีร่างกายทุพพลภาพไม่ต้องเสียเงินรัชชูปการ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2468 ได้ประกาศใช้ประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว
ก็ให้เก็บจากบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้วคือเก็บจากชายที่มีอายุ 20 – 60 ปี
Edited by susu, 5 February 2013 - 17:23.
#3
Posted 5 February 2013 - 17:36
ปัจจุบันนำมาเก็บได้หรือไม่
เรื่องไพร่ส่วย ถ้าผมจำไม่ผิด ถ้ามีลูกชาย 3 คนแทน ก็จะเป็นอิสระ เป็นไปได้ไหมครับ หรือแก่ตายก่อน เป็นไพร่นี่แย่จัง สู้ไว้เปียเป็นเจ็กไม่ได้ ไม่ต้องโดนเกณท์แรงงาน
แล้วเจ็กต้องจ่ายค่ารัชชูปราการหรือไม่
#4
Posted 5 February 2013 - 18:06
เพียงปีละ 6 บาท....... 6 บาท สมัยนั้นถ้าเทียบกับสมัยนี้เป็นเงินเท่าใด แล้วทำไมถึงยกเลิกครับ
ปัจจุบันนำมาเก็บได้หรือไม่
เรื่องไพร่ส่วย ถ้าผมจำไม่ผิด ถ้ามีลูกชาย 3 คนแทน ก็จะเป็นอิสระ เป็นไปได้ไหมครับ หรือแก่ตายก่อน เป็นไพร่นี่แย่จัง สู้ไว้เปียเป็นเจ็กไม่ได้ ไม่ต้องโดนเกณท์แรงงาน
แล้วเจ็กต้องจ่ายค่ารัชชูปราการหรือไม่
ขอ เหตุผลที่อยากกลับมาเก็บ ครับ ? สำหรับผมทุกวันก็มีเก็บ แต่เรียกชื่ออาจต่างกัน
ประเด็นคือ เก็บจากระบบมันง่าย และคนที่อยู่ในระบบคือคน ชั้นกลาง คนรวย อยู่ในระบบ มืด หาให้เห็นจะยาก
#5
Posted 5 February 2013 - 18:11
ไหนๆ ก็เอาระบบเก่ามาใช้ เอากฏหมายตราสามดวงกลับมาด้วยเลยไหม จะได้เอาไอ้พวกล้มเจ้าไปตัดหัวริบเรือนให้หมด
- คนกรุงธน, พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, อู๋ ฮานามิ and 3 others like this
#6
Posted 5 February 2013 - 18:13
คุณสมพร ต้องการสื่อถึงเรื่องอะไรครับเพียงปีละ 6 บาท....... 6 บาท สมัยนั้นถ้าเทียบกับสมัยนี้เป็นเงินเท่าใด แล้วทำไมถึงยกเลิกครับ
ปัจจุบันนำมาเก็บได้หรือไม่
เรื่องไพร่ส่วย ถ้าผมจำไม่ผิด ถ้ามีลูกชาย 3 คนแทน ก็จะเป็นอิสระ เป็นไปได้ไหมครับ หรือแก่ตายก่อน เป็นไพร่นี่แย่จัง สู้ไว้เปียเป็นเจ็กไม่ได้ ไม่ต้องโดนเกณท์แรงงาน
แล้วเจ็กต้องจ่ายค่ารัชชูปราการหรือไม่
#7
Posted 5 February 2013 - 18:20
รังแกประชาชนตลอดเลย
6 บาทสมันนั้นถ้าเทียบสมัยนี้เป็นเงินเท่าใดครับ
...
ถ้าเข้าใจไม่ผิด คณะราษฎร์ เป็นคนยกเว้นครับ
ไม่การสอนหรือไม่ครับ ในโรงเรียน
เห็นสอนแต่เกียดชังทักษิน
เกลียดทักษินแล้วได้อำนาจรัฐ ได้รวย
....
แต่คิดอีกที่ ผมว่าเก็บภาษีก็ดีครับ
แต่ต้องกลับแง่คิดเพื่อนำมาช่วยคนจนครับ
แทนที่จะเรียนรด.
#8
Posted 5 February 2013 - 18:21
ช้ำครับ
#9
Posted 5 February 2013 - 18:28
เจ็กจ่ายปีละ บาท ไทยจ่ายปีละ 6 บาท
....
ทำให้คิดถึงสามจังหัดครับ
การที่ถูกคิดว่าโดนรังแก การโดนอธรรม มันเป็นสิ่งที่สอนกันในโรงเรียน
ตำรวจโดนชาวบ้านกระทืบตาย
พวกบอกว่าเป็นเพราะตำรวจรังแกชาวบ้าน
หรือบอกไปโน่นเลย
เป็นเพราะจอมพล ป. ไปฆ่าหยีสุหรง
พวกลิ้นงู
#10
Posted 5 February 2013 - 18:29
#12
Posted 5 February 2013 - 18:35
สรุปคือสังคมไม่เท่าเทียมกัน ว่างั้นเถอะ
#14
Posted 5 February 2013 - 18:40
รือฟืนเพื่อเอาประโยชน์ กับพวกตัวครับ
คนจะได้เห็นใจ แบบในสามจังหวัดไงครับ
แต่เราก็เป็นเหยื่อเชื่อตาม ประเคนผลประโยชน์ไห้
.....
ถ้าไพร่จะเรียกร้องบ้าง
สังคมจะวุ่ยวายไหม
....
ทุกอย่างอยู่ที่การสอนในโรงเรียนครับ
ล้างสมองในโรงเรียนมันง่ายครับ
#15
Posted 5 February 2013 - 18:43
ท่านหญิงอาอีซาเป็นภรรยาที่ท่านรักที่สุด
ตอนแต่งงานกันท่านนบีอายุ เกือบ 60 ท่านหยิงอายุ 6 ขวบ
ทุกศาสนาสอนให้คนทำความดีครับ
#16
Posted 5 February 2013 - 18:43
มีบ้านไหนเมืองไหนที่มันเท่าเทียมกันจริงๆ บ้าง ที่ไหนก็ต้องมีผู้ปกครองและผู้ถูกปกครองทั้งนั้น ขนาดกรีกยังมีทาสเลย
#19
Posted 5 February 2013 - 19:28
เหอ เหอ เหอ รัชชูปการ หรือส่วย ปัจจุบันมันก็คือภาษี และก็ ส่วย
น้าสมพร เคยเห็นไหมครับ ส่วยปัจจุบัน ที่พวกอำมาตย์ของน้า เขาเก็บ
กันเป็นระบบน่ะ ถ้าไม่เคยเห็นต้องลองไปถามแถว ผับ บาร์ รถสิบล้อ
อะไรพวกเนี่ยะ ว่าเขาเสียกันอย่างไร
#20
Posted 5 February 2013 - 19:30
กำลังบอกว่า ควรลืมอดีต ที่ทำให้เราแตกแยกครับ
และพวกที่เอาอดีตมาอ้าง เพื่อให้คนเห็นใจในการทำชั่วของกลุ่มตัวเอง
เราไม่ควรเห้นใจครับ
...
คิดถึงทักษินครับ ก้าวไม่พ้นเลย
ท่านทำให้ยาบ้าแถวบ้านหมดไป
หวยใต้ดินก็หมดไป
...
ตอนนี้กลับมาอีกแล้ว อีโง่ก็ไม่สมใจเลย
Edited by สมพร, 5 February 2013 - 19:33.
#21
Posted 5 February 2013 - 19:36
ย้าบ้า หวยใต้ดินมาอีกแล้ว
คิดจริงๆ หรือแกล้งโง่ ครับว่ามันหมด
#22
Posted 5 February 2013 - 19:41
รัชชูปการ หรือส่วย ปัจจุบันมันก็คือภาษีเถื่อน ...
ตอบ ส่วยคือภาษี อย่างเลว คนเก็บก็คือคนเลว
#23
Posted 5 February 2013 - 19:45
ย้าบ้า หวยใต้ดินมาอีกแล้ว
คิดจริงๆ หรือแกล้งโง่ ครับว่ามันหมด
ไม่ใช่คิดครับ เห็นจริงจริง เลย ตอนนั้นมันหมดไป จากที่เคยเห็นตำตา
มันถึงทำให้ปูโง่ชนะเลือกตั้งไง่ครับ
พวกท่านโจมตี เขา เอาเขาตาย เรื่องหวยบนดิน เรื่องฆ่าพ่อค้ายาบ้า เพราะพวกท่านไม่ได้อยู่ในสังคมที่ระอากลับพวกขายยา พวกเล่นหวย
...
ไม่แน่ งวดหน้า ปูโง่ อาจแพ้ครับ
ปูโง่ไม่สนใจสิ่งที่ทักษินทำเลยครับ
กินบุญเก่า
#24
Posted 5 February 2013 - 19:50
ย้าบ้า หวยใต้ดินมาอีกแล้ว
คิดจริงๆ หรือแกล้งโง่ ครับว่ามันหมด
ไม่ใช่คิดครับ เห็นจริงจริง เลย ตอนนั้นมันหมดไป จากที่เคยเห็นตำตา
มันถึงทำให้ปูโง่ชนะเลือกตั้งไง่ครับ
พวกท่านโจมตี เขา เอาเขาตาย เรื่องหวยบนดิน เรื่องฆ่าพ่อค้ายาบ้า เพราะพวกท่านไม่ได้อยู่ในสังคมที่ระอากลับพวกขายยา พวกเล่นหวย
...
ไม่แน่ งวดหน้า ปูโง่ อาจแพ้ครับ
ปูโง่ไม่สนใจสิ่งที่ทักษินทำเลยครับ
กินบุญเก่า
ผึ้งก็เห็นตำตาเหมือนกันว่าพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่กำลังนั่งกินตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาลนี้ ซึ่งความจริงมันก็เป็นสส.มาตั้งแต่ยุคทักษิณแล้ว ที่โดนตัดตอนไปมีแต่ผู้ค้ารายย่อยที่ตายเหมือนหมาข้างถนน
- หน้าตาไม่ดี แต่เร้าใจ, b..., พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน and 2 others like this
#25
Posted 5 February 2013 - 19:53
ย้าบ้า หวยใต้ดินมาอีกแล้ว
คิดจริงๆ หรือแกล้งโง่ ครับว่ามันหมด
ไม่ใช่คิดครับ เห็นจริงจริง เลย ตอนนั้นมันหมดไป จากที่เคยเห็นตำตา
มันถึงทำให้ปูโง่ชนะเลือกตั้งไง่ครับ
พวกท่านโจมตี เขา เอาเขาตาย เรื่องหวยบนดิน เรื่องฆ่าพ่อค้ายาบ้า เพราะพวกท่านไม่ได้อยู่ในสังคมที่ระอากลับพวกขายยา พวกเล่นหวย
...
ไม่แน่ งวดหน้า ปูโง่ อาจแพ้ครับ
ปูโง่ไม่สนใจสิ่งที่ทักษินทำเลยครับ
กินบุญเก่า
ผึ้งก็เห็นตำตาเหมือนกันว่าพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่กำลังนั่งกินตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาลนี้ ซึ่งความจริงมันก็เป็นสส.มาตั้งแต่ยุคทักษิณแล้ว ที่โดนตัดตอนไปมีแต่ผู้ค้ารายย่อยที่ตายเหมือนหมาข้างถนน
อูย ความจริงมันเจ็บปวดเหลือเกินนน
#26
Posted 5 February 2013 - 20:03
ยาบ้าหรือพวกยาเสพติดทั้งหลาย ช่วงที่มันหายไปมันก็ไม่หายไปไหนหรอกเก็บไว้ก่อนเท่านั้น แล้วก็ฆ่าตัดตอนกลัวเรื่องมาถึงตัว
ไม่สงสัยรึว่า ตำกวดไทยน่ะโครตเก่ง แต่เด็กๆหาซื้อยาบ้าได้ ชาวบ้านทั่วไปซื้อหวยใต้ดินได้ มีรึที่ตำกวดจะไม่รู้
หวยใต้ดินตำกวดบางคนเองก็แทงกันแทบทุกงวด ลองถามตำกวดที่รู้จักสิ ฝากซื้อหวยใต้ดินได้มั๊ย?
เรื่องพวกนี้ในวงการตำกวดรู้กันทั้งนั้น เวลาจับยามาได้ ใครรู้ยอดของจริงบ้าง จับได้แสนเม็ดยัดเงินเข้าไปอาจจะเหลือร้อยก็ได้
มาถึงโรงพักนับเป็นเม็ด แต่เวลาส่งของกลางใช้ชั่งเป็นกิโล ยามันถึงรั่วไหลออกมาส่งให้พวกสายขายได้ สายใครสายมันห้ามข้ามเขต
จากเรื่องจริงเจอมากับตัว มีเพื่อนสนิทมากเป็นตำกวดในกทม. มันก็ได้กิ๊กคนนึง อยู่ๆกิ๊กมันโดนจับมียาบ้าสี่หรือห้าเม็ด
ไปซื้อท้ายซอย แต่โดนสายสืบดักจับอยู่กลางซอย ขับมอไซค์มาก็โดนเลย เพื่อนผมก็โทรไปถามเพื่อนร่วมรุ่นที่อยู่โรงพักนั้นก็ทราบว่า
...คนขายก็พวกกัน เวลาจะเอาผลงานก็แจ้งให้จับซะ...เดือนละสี่ห้าคน จับบ้างรีดบ้าง วินๆทั้งตำกวดทั้งคนขาย...
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#27
Posted 5 February 2013 - 20:06
เสียเวลา อธิบายเปล่า ผมว่าเค้ารู้อยู่แล้วล่ะครับ
#28
Posted 5 February 2013 - 20:14
ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น รุ้แต่ว่าในชุมชน ตอนนั้นมันไม่มีครับ ยาบ้า หวยใต้ดิน
..........
พูดถึงยาบ้า ไม่เข้าใจเลยว่าเป็นยาเสพติด ร้ายแรงตั้งแต่เมื่อใด
สมัยก่อนเรียกยาขยัน ยาม้า คนทำงาน คนรักดีเขากินกัน
อบรมลูกเสือชาวบ้าน ยังแอบไปหยอดให้กินเลย
จะได้ขยัย สุ้ไม่ถอย
เผลอ ไม่นาน กลายเป็นยาบ้า ทำลายชุมชน
#29
Posted 5 February 2013 - 20:14
ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น รุ้แต่ว่าในชุมชน ตอนนั้นมันไม่มีครับ ยาบ้า หวยใต้ดิน
..........
พูดถึงยาบ้า ไม่เข้าใจเลยว่าเป็นยาเสพติด ร้ายแรงตั้งแต่เมื่อใด
สมัยก่อนเรียกยาขยัน ยาม้า คนทำงาน คนรักดีเขากินกัน
อบรมลูกเสือชาวบ้าน ยังแอบไปหยอดให้กินเลย
จะได้ขยัย สุ้ไม่ถอย
เผลอ ไม่นาน กลายเป็นยาบ้า ทำลายชุมชน
#30
Posted 5 February 2013 - 20:16
ออกทะเลแล้วครับ
#31
Posted 5 February 2013 - 20:19
ออกทะเลแล้วครับ.............
ผมสงสัย และไม่เข้าใจเลยครับ
ทำไมคนจีน เก้บ บาทเดียว แต่คนไทยเก้บ หกบาท
...
แล้วเก็บบาทเดียวจริงหรือ หลวงพอกูเชื่อได้ไหมครับ
ทำไมความจำอันลางเลือนของผม บอกว่า สามบาท
ประมาณว่าผูกข้อมือแล้วเก้บสามบาท
สงสัยฝันไป
Edited by สมพร, 5 February 2013 - 20:21.
#32
Posted 5 February 2013 - 20:48
นี่เว็ปการเมือง หรือ เว็ปการเรียนรู้ ต้องสอนหรืออธิบายเรื่องแบบนี้จริงๆ เหรอครับ
อันนี้ผมไม่เข้าใจ ขยันจริงๆ (จะว่าไร้สาระก็กะไรอยู่)
Edited by Strangerman, 5 February 2013 - 20:49.
• เอือมระอากับบรรดาพี่น้องที่หลงทางจริงๆ เห็นต่างกันยังรับได้ครับ แต่เห็นผิดเป็นชอบแบบนี้มันบัดซบจริงๆ •
• หายนะของประเทศไทย ก็คือการที่ "ควายเลือกควาย" เข้ามาทำลายประเทศ •
#33
Posted 6 February 2013 - 03:14
จะรัก จะคิดถึง ทักษิณ ก็รักไป คิดถึงไป
ไปพูดในเวบ รักทักษิณ ท่าจะดีกว่า
ไม่ทำให้คนอื่นหมั่นไส้ทักษิณมากยิ่งขึ้น
เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าอะไรคืออะไร
อดีต ก็คือ อดีต เขาเลิกเป็นนายกฯไปแล้ว
จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ อ่ะนะ
จะเอายาบ้า มาอ้างเพื่อให้คนอื่นรักทักษิณด้วยน่ะ มันดูแปลกๆ
เพราะคนที่ทำคุณประโยชน์มากกว่าทักษิณ มีเยอะ
ไม่ต้องถึงกับให้ยกตัวอย่างหรอกนะ
- b... likes this
#34
Posted 6 February 2013 - 04:23
ตลกละ ยาม้า ยาขยัน เป็นยาคนรักดีกิน?
ยาม้า ยาขยัน ยาบ้า มันต่างกันแค่ชื่อ แต่มันก็คือตัวเดียวกันคือ แอมเฟตามีน ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทและทำให้ติด ตั้งแต่ปี ๒๕๑๐ แอมเฟตามีน เลยถูกประกาศเป็นยาเสพติดไปทั่วโลก
จะบอกว่าคนรักดีกิน จริง ๆ คือ แค่มักง่ายเท่านั้นเอง
---------------------------------
อากรผูกปี้ ในสมัย ร. ๒ เริ่มคิดที่ ๑.๕๐ บาท ต่อ ๓ ปี ต่อมาเพิ่มเป็น ๔ บาท ๑ สลึงต่อ ๓ ปี
เหตุที่เก็บเงินผูกปี้คนจีนถูกกว่าคนไทยที่จ่ายเงินรัชชูปการ เพราะ
๑. คนจีน ไม่ได้มีหน้าที่เข้ารับราชการบ้านเมือง(หรือง่าย ๆ ก็เป็นทหารเกณฑ์ในสมัยนี้)
๒. ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้น สยามต้องพึ่งแรงงานจากจีนในการสร้างผลผลิต พัฒนาประเทศโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเก็บภาษีทางอ้อมจากคนจีนอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะภาษีอบายมุข เช่น ฝิ่น (สมัย ร. ๔ ท่านกำหนดให้เข้าโรงฝิ่นได้เฉพาะคนจีน โดยเฉพาะที่ผูกปี้แล้วเท่านั้น) บ่อน สุรา (เปิดประมูลสัมปทานเฉพาะกับคนจีน) ซึ่งโดยส่วนมาก คนที่อุดหนุนและจ่ายให้กับภาษีเหล่านี้คือคนจีนมากกว่าคนไทย
กรณีหลังนี้ก็เหมือนกันกับ การลดกำแพงภาษี เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้นนั่นแล หากเราตั้งไว้ว่า เดี๋ยวคนจีนเข้ามาทำงาน ต้องเสียปีละ ๑๐ บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าแรงซึ่งส่วนใหญ่เป็นกุลี เป็นกรรมกร (ซึ่งคนไทยไม่นิยมทำ)นั้น ก็เท่ากับสร้างกำแพงไม่ให้คนจีนเข้ามาประกอบอาชีพเหล่านี้นั่นเอง
Edited by baezae, 6 February 2013 - 04:25.
#36
Posted 6 February 2013 - 09:00
บ้านผมเรียก อวดฉลาดผมสังเกตว่าคุณสมพรตั้งคำถามเพื่อลองภูมินะ คือคำถามในหลายๆ post นี่ถ้าเป็นคนธรรมดาที่อยากรู้จริงๆ เค้าก็จะหาเลย และถ้าหาจริงๆก็จะเจอข้อมูลที่ต้องการจะรู้อยู่แล้ว ซึ่งถ้าได้ข้อมูลแล้ว ก็คงไม่ต้องมานั่งถามกันอีก
คือหาเอาจากในเน็ต แล้วทำเป็นสงสัย ถามเองตอบเองให้เพื่อนรู้ว่า ข้าก็รู้นะ
#37
Posted 6 February 2013 - 16:20
ไปพูดในเวบ รักทักษิณ ท่าจะดีกว่า
ไม่ทำให้คนอื่นหมั่นไส้ทักษิณมากยิ่งขึ้น
.... เวปนี้ มี ปชป.เป็นนายทุน ต้องระวังหน่อย
ที่จริงผมรักจำลองมากกว่าทักษินครับ
มาเลิกรักท่านจำลองตอนที่ท่าน ปิดสนามบินครับ .....ทำไปได้
ส่วนทักษิน เคยเลิกรักตอนหนึ่ง ตอนที่ไม่ยอมบริจาคเงิน หนึ่งหมื่นล้าน ตามที่ท่านจำลองบอกด้วยความหวังดี
รัฐบุรุษ กับ โจร ขี้โกง เพียงแค่พลิกฝ่ามือนิดเดียว
ท่าจำลองท่านพูดดีมากครับ
ท่านบอกว่า ถึงแม้ตามกฎหมาย ท่านทักษินไม่ต้องเสียภาษี
แต่ในแง่ที่ท่านเป็นผู้นำประเทศ ที่จะต้องแสดงถึงจริยะรรมที่สูงกว่าคนธรรม
คนควรเสียสละเงินจำนวนหนึ่ง เป็นเงิยเท่าภาษี ที่คนบางคนที่คิดว่าท่านควรเสีย
อาจมาในรูปเงินบริจาคเพื่อสังคม
ท่านจำลองท่านหวังดี ถ้าทักษินเชื่อท่าน ป่านนี้ได้เป็นรัฐบุรูษครับ
#38
Posted 6 February 2013 - 16:24
ทำไมไม่ถามลูกชายล่ะ
นักเรียนสวนกุกลาบคงมีปัญญาค้นหาคำตอบให้พ่ออยู่หรอกน่ะ
Making you happy is not my priority! - Michael Yon
#40
Posted 6 February 2013 - 16:29
ผมอ่านแล้ว ไม่น่าเป็นเหตุเป็นผลเลยครับ
ผมว่าคนเขียน เขียนแบบกลัวกลัว
แล้วที่บอกว่าเก็บ 4 บาท ต่อ 3 ปี ยิ่งไม่น่าเชื่อ
คนจีนอยู่ในเมือง สามปี เก็บครั้ง
คนไทยอยู่ในชนบท เก็บทุกปี
...
แล้วเก็บ สามปีครั้ง ใครเขาจะจ่าย มันจริงหรือเปล่าครับ เชื่อได้แค่ไหน ใครเป็นคนเขียน
แล้วยกเลิกสมัยไหน ที่เก็บจากคนจีน
...
ที่เก็บคนไทย 6 บาท เพราะคนไทยของตาย
ส่วนตนจีน ถ้าเก็บแพง
พวกก็ไม่มาไทย เลยต้องล่อใจ เก็บถูกถูก
แสปมาก ผู้ปกครองชนชั้นสูง
.......
สงสัยตอนนี้คนไทย ก็เสียภาษีน้อยกว่าพวกต่างด้าว
#41
Posted 6 February 2013 - 16:35
ต่างกันแค่ชื่อจริงหรือครับ เมื่อก่อนคนที่เขาขยันทำงาน เขากินกันนะครับ
เม็ดละ 10 บาท เป็นรูปม้า ตอนกินหักครึงด้วย เพื่อประหยัด
เขาบอกว่ามีโทษนิดหน่อย ตำรวจจับขอแค่หนึ่งร้อย
....
ตอนอบรมลูกเสือชาวบ้าน
พวกแอบหยดลงไปในน้ำดื่ม
ให้กระชุมกระชวย
แต่บางคนแพ้ยาม้าครับ
ตื่นเช้า มาตะโกนแก้ผ้าเหมือนคนบ้า
#42
Posted 6 February 2013 - 16:37
กำลังสงสัยเหมือนกัน ว่าทำไมถึงมีแต่เรื่องด่าทักษิน
คิดว่าเหมือนร้านกาแฟ คุยเรื่องทั่วไปได้
#43
Posted 6 February 2013 - 17:52
เว็ปการเมือง หรือ เว็ปการเรียนรู้ ต้องสอนหรืออธิบายเรื่องแบบนี้จริงๆ เหรอครับ...
กำลังสงสัยเหมือนกัน ว่าทำไมถึงมีแต่เรื่องด่าทักษิน
คิดว่าเหมือนร้านกาแฟ คุยเรื่องทั่วไปได้
สำหรับผมยินดีครับ แต่ที่นี่ เท่าที่ผมเรียนรู้ คุณจะน่ารัก ถ้าหักล้างด้วยข้อมูล รู้บ้างไม่รู้บ้าง ก็มีคนโต้ตอบ อย่าแถ อย่าหนี อย่าหน้าด้าน อย่าใส่ร้าย
อย่าบ้าแต่ อดีต ที่เรากำเหนิดไม่ทัน อาศัยอ่านมาแล้ว พุ่งใส่
..แดงเหลืองเขียวฟ้าแสดแดง ขนาดสีกากี ก็ คุยได้
..แต่ โดนอัดไม่อัด....อยู่ที่บอกไงครับ ...กลิ่นคุณฟุ้งบอร์ด ตอนนี้
ใครตำหนิ ก็ซัดด้วยความรู้...เงิบ
Edited by susu, 6 February 2013 - 17:53.
#44
Posted 6 February 2013 - 19:39
สำหรับผมยินดีครับ แต่ที่นี่ เท่าที่ผมเรียนรู้ คุณจะเป็นคนน่ารัก ถ้าคุณหักล้างด้วยข้อมูล ถึงรู้บ้างไม่รู้บ้าง ก็จะมีคนโต้ตอบ แต่อย่าแถ อย่าหนี อย่าหน้าด้าน และอย่าใส่ร้าย
.... คงต้องหนี ครับ .....หนีเพื่อไปทำงาน
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users