Jump to content


Photo
- - - - -

Albert Einstein: "มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง"


  • Please log in to reply
119 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:18

จริงแล้ว โควตนี้มีที่ให้เถียงเยอะทีเดียว โดยเฉพาะในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์

 

เพราะการทำอะไรซ้ำ ๆ มันก็สามารถที่จะทำให้เกิดผลที่แตกต่างกันออกไปได้เช่นเดียวกัน

 

เช่น ถ้าคุณหยดน้ำตาล ๑ หยดลงไปในน้ำเปล่า ๑ ถัง คุณก็จะได้น้ำเปล่า แต่ถ้าคุณหยดน้ำตาลซ้ำ ๆ ไปพันหยด หมื่นหยด คุณจะได้น้ำเชื่อม

 

หรือถ้าคุณเก็บข้อมูลจากคน ๑ คน คุณอาจจะได้ข้อมูลแบบหนึ่ง ณ ช่วงเวลาหนึ่ง แต่หากมาเก็บอีกครั้งในช่วงเวลา แม้จะด้วยวิธีเดียวกัน ก็สามารถได้ข้อมูลที่แตกต่างกันออกไปเหมือนกัน

 

การเลือกตั้งก็เช่นกัน เลือกบุคคลคนหนึ่งวันนี้ เราจะได้ผู้แทนแบบหนึ่ง ผ่านไป ๔ ปี แม้จะเลือกคนเดียวกัน เราก็อาจจะได้ผู้แทนแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่จะต่างแบบเลวลง หรือดีขึ้น ต้องมาพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง

 

ตามทฤษฎีควอนตัม การทำแบบเดิมซ้ำๆ สามารถให้ผลที่ต่างกันได้ โดยมีความน่าจะเป็นของผลลัพธ์แต่ละแบบ

แต่ไอน์สไตน์ไม่ยอมรับเรื่องนี้ และยืนยันว่า การทดลองถ้าทำแบบเดียวกันเป๊ะ ก็ต้องได้ผลลัพธ์เหมือนกันทุกครั้ง

ถ้าได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน แปลว่า มีอะไรในรายละเอียดที่มันไม่เหมือนกันที่เรายังไม่รู้

จึงเป็นที่มาของคำว่า god does not play dice.  -_-


" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#52 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:41

ขึ้น ยู่กับว่า ตอนนี้ เวลานี้ เราใช้ตะเกียงหรือหลอดไฟครับ

สำหรับผมมันคือตะเกียงครับ
:-)

 

 

โชคดีจังครับ

ที่บ้านผมใช้หลอดไฟ สว่างไสวราวกลางวันมาตั้งแต่เกิด

คุณอยู่จังหวัดไหน พื้นที่ไหนครับ

ไฟฟ้าถึงยังไม่เข้าบ้าน

 

อ่านมาถึงคำตอบนี้ ผมจึงเข้าใจครับ


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#53 หวานเย็น

หวานเย็น

    น้องใหม่

  • Validating
  • Pip
  • 4 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:44

การทดลองหรือการประดิษฐ์ต่าง ๆ มากจากสมมุติฐานว่าจะเป็นไปได้

อย่างหลอดไฟที่ยกมาพูดถึงก้อไม่ได้ทดลองจากสิ่งที่ไม่น่าจะได้จริง แล้วจะทดลองไปให้เสียเวลาเสียทรัพยากรทำไม เช่นเอาช้างมาทำไส้ของหลอดไฟ เพราะมันใหญ่ไปแล้วไม่น่าจะทดลองได้ด้วย

ที่คิดว่าหลายคนเสรีไทยไม่เลือกผู้สมัครอิสระเพราะคาดว่าไม่น่าจะชนะ ก้อไม่แปลกที่คนจะไม่เลือกผู้สมัครอิสระ เพราะดีกว่าให้เกิดการโกงกินกันอย่างไร้รอยต่อ



#54 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:51

จริงแล้ว โควตนี้มีที่ให้เถียงเยอะทีเดียว โดยเฉพาะในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์
 
เพราะการทำอะไรซ้ำ ๆ มันก็สามารถที่จะทำให้เกิดผลที่แตกต่างกันออกไปได้เช่นเดียวกัน
 
เช่น ถ้าคุณหยดน้ำตาล ๑ หยดลงไปในน้ำเปล่า ๑ ถัง คุณก็จะได้น้ำเปล่า แต่ถ้าคุณหยดน้ำตาลซ้ำ ๆ ไปพันหยด หมื่นหยด คุณจะได้น้ำเชื่อม
 
หรือถ้าคุณเก็บข้อมูลจากคน ๑ คน คุณอาจจะได้ข้อมูลแบบหนึ่ง ณ ช่วงเวลาหนึ่ง แต่หากมาเก็บอีกครั้งในช่วงเวลา แม้จะด้วยวิธีเดียวกัน ก็สามารถได้ข้อมูลที่แตกต่างกันออกไปเหมือนกัน
 
การเลือกตั้งก็เช่นกัน เลือกบุคคลคนหนึ่งวันนี้ เราจะได้ผู้แทนแบบหนึ่ง ผ่านไป ๔ ปี แม้จะเลือกคนเดียวกัน เราก็อาจจะได้ผู้แทนแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่จะต่างแบบเลวลง หรือดีขึ้น ต้องมาพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง

 
ตามทฤษฎีควอนตัม การทำแบบเดิมซ้ำๆ สามารถให้ผลที่ต่างกันได้ โดยมีความน่าจะเป็นของผลลัพธ์แต่ละแบบ
แต่ไอน์สไตน์ไม่ยอมรับเรื่องนี้ และยืนยันว่า การทดลองถ้าทำแบบเดียวกันเป๊ะ ก็ต้องได้ผลลัพธ์เหมือนกันทุกครั้ง
ถ้าได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน แปลว่า มีอะไรในรายละเอียดที่มันไม่เหมือนกันที่เรายังไม่รู้
จึงเป็นที่มาของคำว่า god does not play dice.  -_-
อืม จำได้ว่าสมัยเรียน ถ้าจะหาตำแหน่งและความเร็วของ อิเล็กตรอน ที่โคจรในอะตอม เราจะใช้ทฤษฎีควอนตัม 
 
แต่เราจะไม่สามารถหาตำแหน่งและความเร็วที่แน่นอนของมันได้  ซึ่งผมเข้าใจว่าปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ และทฤษฎีควอนตัมก็ใช้ได้ดีกับเรื่องๆหนึ่ง (อนุภาคขนาดเล็ก)
 
ทฤษฎีเรื่องแรงโน้มถ่วงของนิวตันก็ใช้ได้ดีกับเรื่องหนึ่ง (วัตถุขนาดใหญ่)
 
 
ดังนั้น  กระทู้ที่ยกแค่คำพูดของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังมาอ้างชุ่ยๆ  จึงควรจะเป็นกระทู้ที่อยู่ในกลุ่ม 95% นั่นเอง

Edited by sanskrit_shower, 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:53.


#55 Mootang

Mootang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 507 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:00

ถึงผู้สนับสนุนจะเลือกผู้ว่าคนเดิมเป็นเหมือนกับว่าเป็นการใช้วิธีแบบเดิมๆ ซ้ำๆ ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผู้ว่าคนนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะทำแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ตลอดกาลนี่ครับ ตัวแปรในที่นี้เป็นคนไม่ใช่การทดลองเพราะฉะนั้นย่อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมแตกต่างกันเสมอ



#56 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:04

ตามทฤษฎีควอนตัม การทำแบบเดิมซ้ำๆ สามารถให้ผลที่ต่างกันได้ โดยมีความน่าจะเป็นของผลลัพธ์แต่ละแบบ
แต่ไอน์สไตน์ไม่ยอมรับเรื่องนี้ และยืนยันว่า การทดลองถ้าทำแบบเดียวกันเป๊ะ ก็ต้องได้ผลลัพธ์เหมือนกันทุกครั้ง
ถ้าได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน แปลว่า มีอะไรในรายละเอียดที่มันไม่เหมือนกันที่เรายังไม่รู้
จึงเป็นที่มาของคำว่า god does not play dice.  -_-

เพราะสิ่งนี้มีสิ่งจึงมี
ไอน์สไตน์ถูกแล้วครับ ที่มันจะต่างออกไปก้เพราะ observer ต่างไป

แวะมาโพส กลับไปล้างบ้านต่อครับ :-)

#57 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:19

 

TonyTheBest กล่าวไว้ว่า :

"จงทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และไม่สูญเปล่า"

ถ้าเอดิสันคิดแบบคุณ Tony ป่านนี้เรายังไม่มีหลอดไฟใช้ครับ :-)

 

ผมไม่เข้าใจอะครับ... ช่วยอธิบายหน่อย...    :D

เข้าใจว่า โทมัส เอดิสัน มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้คิดค้นหลอดไฟ แต่ในความเป็นจริงเขาเป็นบุคคลแรกที่จดสิทธิบัตรในการประดิษฐ์หลอดไฟจากนักวิทยาศาสตร์กว่า 20 คนที่คิดค้นหลอดไฟ... :D เข้าใจยัง แค่นักหยิบโอกาส ที่ คนอื่นมองมันไม่เห็น...น่าเกลียดก็ ฉวยโอกาส



#58 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:21

ดังคำถามที่ผมถาม จขกท ไป

ว่า ขณะนี้ เรารู้สึกว่าว่าใช้หลอดไฟหรือตะเกียง

นี่คือการมองเห็นในมุมต่าง ที่ดูเหมือน จขกท จะไม่พยายามยอมรับ

ผลที่ได้ คือการพยายามคิดแทนคนอื่น และพยายามยัดเยียดสิ่งที่เขาเห็นว่าดีกว่าเข้าไป

เพราะเขามองว่า ทำไม เขาต้องทนกับตะเกียงแบบเดิม

ในขณะที่ผมเชื่อว่า แสดงสว่างยามค่ำคืนของผม ได้มาจากหลอดไฟมานานแล้ว

 

การทดลองเป็นพันๆ ครั้งของเอดิสัน

เพื่อมุ่งมั่นที่จะได้ผลสำเร็จ จากการต่อยอดความคิดจากเซอร์ฮัมฟรี เดวี่ 

แน่นอน มันไม่ใช่ของใหม่ที่เอดิสันคิดเป็นคนแรก

เพียงแต่เอดิสันเข้ามาปรับปรุง ทำให้ดีขึ้น ทำให้เป็นหลอดไฟที่ใช้งานได้จริง

โดยการพยายามทดลองกับวัสดุต่างๆ เป็นพันชนิด

 

การทดลองเป็นพันครั้ง เพราะเขาเห็นประโยชน์ที่มันน่าจะดีขึ้น

ในขณะที่ เซอร์ฮัมฟรี เดวี่ ที่เป็นผู้คิดค้นหลอดไฟเป็นคนแรก 

กลับไม่พยายามทำต่อจนสำเร็จ และเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทน

 

โลกจึงไม่ได้ยินชื่อ ว่าเจาเป็นบิดาแห่งหลอดไฟฟ้าดังเช่นที่เอดิสันทำ

 

 

 

ถ้าเรามองแต่เรื่องหลอดไฟอย่างเดียวนะครับ

เราอาจรู้สึกได้ว่า ความอดทนของ เซอร์ฮัมฟรี เดวี่ มีไม่พอ หรือประสบปัญหาอย่างไรไม่ทราบนะครับ

แต่ความเพียรพยายามของเอดิสันต่างหาก ที่ทำให้โลกสว่างไสวมาจนทุกวันนี้

 

อ่านถึงตรงนี้ คุณคงได้คำตอบบ้างแล้ว


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#59 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:27

ดังคำถามที่ผมถาม จขกท ไป

ว่า ขณะนี้ เรารู้สึกว่าว่าใช้หลอดไฟหรือตะเกียง

นี่คือการมองเห็นในมุมต่าง ที่ดูเหมือน จขกท จะไม่พยายามยอมรับ

ผลที่ได้ คือการพยายามคิดแทนคนอื่น และพยายามยัดเยียดสิ่งที่เขาเห็นว่าดีกว่าเข้าไป

เพราะเขามองว่า ทำไม เขาต้องทนกับตะเกียงแบบเดิม

ในขณะที่ผมเชื่อว่า แสดงสว่างยามค่ำคืนของผม ได้มาจากหลอดไฟมานานแล้ว

 

การทดลองเป็นพันๆ ครั้งของเอดิสัน

เพื่อมุ่งมั่นที่จะได้ผลสำเร็จ จากการต่อยอดความคิดจากเซอร์ฮัมฟรี เดวี่ 

แน่นอน มันไม่ใช่ของใหม่ที่เอดิสันคิดเป็นคนแรก

เพียงแต่เอดิสันเข้ามาปรับปรุง ทำให้ดีขึ้น ทำให้เป็นหลอดไฟที่ใช้งานได้จริง

โดยการพยายามทดลองกับวัสดุต่างๆ เป็นพันชนิด

 

การทดลองเป็นพันครั้ง เพราะเขาเห็นประโยชน์ที่มันน่าจะดีขึ้น

ในขณะที่ เซอร์ฮัมฟรี เดวี่ ที่เป็นผู้คิดค้นหลอดไฟเป็นคนแรก 

กลับไม่พยายามทำต่อจนสำเร็จ และเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทน

 

โลกจึงไม่ได้ยินชื่อ ว่าเจาเป็นบิดาแห่งหลอดไฟฟ้าดังเช่นที่เอดิสันทำ

 

 

 

ถ้าเรามองแต่เรื่องหลอดไฟอย่างเดียวนะครับ

เราอาจรู้สึกได้ว่า ความอดทนของ เซอร์ฮัมฟรี เดวี่ มีไม่พอ หรือประสบปัญหาอย่างไรไม่ทราบนะครับ

แต่ความเพียรพยายามของเอดิสันต่างหาก ที่ทำให้โลกสว่างไสวมาจนทุกวันนี้

 

อ่านถึงตรงนี้ คุณคงได้คำตอบบ้างแล้ว

คุยกันแบบนี้พร้อมกับตีความกันไปมา  ผมว่าจบยากครับ

 

จากที่คุณโทนี่พิมพ์  จขกท อาจจะตีความเข้าข้างตัวเองว่า

 

 

เค้าก็เหมือนเอดิสันไง ที่พยายามโน้มน้าวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งให้คนในบอร์ด เลือกเบอร์อื่น  ทั้งๆที่รู้ว่ามันยาก

 

ส่วนคนที่เลือกเบอร์ 16 ก็จะตีความว่าพวกเราก็เหมือนเอดิสันเหมือนกัน  เพราะต้องพยายามเลือกหม่อมคนเดิมกลับมาเพื่ออนาคตที่ดีกว่า



#60 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:29

 
 
ไอสไตน์ ยังเคยพูดไว้อีกว่า
 
 
“The only source of knowledge is experience.”
(ประสบการณ์ คือแหล่งความรู้เพียงแหล่งเดียวเท่านั้น)

ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#61 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:30

ดังคำถามที่ผมถาม จขกท ไป

ว่า ขณะนี้ เรารู้สึกว่าว่าใช้หลอดไฟหรือตะเกียง

นี่คือการมองเห็นในมุมต่าง ที่ดูเหมือน จขกท จะไม่พยายามยอมรับ

ผลที่ได้ คือการพยายามคิดแทนคนอื่น และพยายามยัดเยียดสิ่งที่เขาเห็นว่าดีกว่าเข้าไป

เพราะเขามองว่า ทำไม เขาต้องทนกับตะเกียงแบบเดิม

ในขณะที่ผมเชื่อว่า แสดงสว่างยามค่ำคืนของผม ได้มาจากหลอดไฟมานานแล้ว

 

การทดลองเป็นพันๆ ครั้งของเอดิสัน

เพื่อมุ่งมั่นที่จะได้ผลสำเร็จ จากการต่อยอดความคิดจากเซอร์ฮัมฟรี เดวี่ 

แน่นอน มันไม่ใช่ของใหม่ที่เอดิสันคิดเป็นคนแรก

เพียงแต่เอดิสันเข้ามาปรับปรุง ทำให้ดีขึ้น ทำให้เป็นหลอดไฟที่ใช้งานได้จริง

โดยการพยายามทดลองกับวัสดุต่างๆ เป็นพันชนิด

 

การทดลองเป็นพันครั้ง เพราะเขาเห็นประโยชน์ที่มันน่าจะดีขึ้น

ในขณะที่ เซอร์ฮัมฟรี เดวี่ ที่เป็นผู้คิดค้นหลอดไฟเป็นคนแรก 

กลับไม่พยายามทำต่อจนสำเร็จ และเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทน

 

โลกจึงไม่ได้ยินชื่อ ว่าเจาเป็นบิดาแห่งหลอดไฟฟ้าดังเช่นที่เอดิสันทำ

 

 

 

ถ้าเรามองแต่เรื่องหลอดไฟอย่างเดียวนะครับ

เราอาจรู้สึกได้ว่า ความอดทนของ เซอร์ฮัมฟรี เดวี่ มีไม่พอ หรือประสบปัญหาอย่างไรไม่ทราบนะครับ

แต่ความเพียรพยายามของเอดิสันต่างหาก ที่ทำให้โลกสว่างไสวมาจนทุกวันนี้

 

อ่านถึงตรงนี้ คุณคงได้คำตอบบ้างแล้ว

เอดิสัน นั้นกล่าวได้ว่าเป็นนักประดิษฐ์ที่มีผลงานมากที่สุดในยุคนั้น เขามีสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ภายใต้ชื่อของเขาเป็นจำนวนถึง 1,093 ชิ้น สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เขาคิดค้นขึ้นมาเอง แต่เป็นการพัฒนาจากสิ่งประดิษฐ์ดั้งเดิมที่คิดค้นขึ้นโดยลูกจ้างของเขา เพราะเหตุนี้ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ ในเรื่องการอ้างผลงานเป็นของตัวแต่ผู้เดียว โดยไม่แบ่งปันให้กับผู้คิดค้นดั้งเดิม นอกจากสิทธิบัตรของเขาซึ่งมีอยู่ทั่วโลกแล้ว เอดิสันก็ยังได้ก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ ภายใต้ชื่อ Edison Trust

ในความเป็นจริงแล้ว เอดิสันไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าตามที่คนทั่วไปเข้าใจแต่อย่างใด หลักการของหลอดไฟฟ้าถูกพัฒนามาก่อนหน้านี้โดยนักประดิษฐ์หลายท่าน เช่น จูเซ็ปป์ สวอน (Juseph Swan) หรือ ไฮน์ริช เกอเบิล (Heinrich Goebel) อย่างไรก็ตามเอดิสันได้คำนึงถึงการนำหลอดไฟฟ้าไปใช้งานจริงในชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง โดยเอดิสันได้ทำให้อายุการใช้งานของหลอดไฟฟ้ายาวนานพอที่จะนำไปใช้ได้อย่างสะดวกสบายในบ้านเรือนหรือร้านค้า นอกจากนั้นเอดิสันยังได้สร้างระบบผลิตและแจกจ่ายไฟฟ้าอีกด้วย

นิตยสารไลฟ์ (Life) ได้ยกย่องให้เอดิสันเป็นหนึ่งใน "100 คนที่สำคัญที่สุดในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา"

http://th.wikipedia....i/โทมัส_เอดิสัน

#62 Strangerman

Strangerman

    คนแปลกหน้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,674 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:31

ที่นี่ห้องการเมือง กระทู้ต้องเกี่ยวกับการเมืองครับ
ไม่ใช่ห้องแปะคำคม ห้องชายคาพักใจก็มีให้ใช้ครับ  -_-

ช่วงนี้ช่วงเลือกตั้งครับ
wisdom จากผู้ที่เคยผ่านโลกมา ช่วยให้ผู้ที่ยังงงๆ ไปกับการปั่นหัวทางการเมืองของทั้ง 2 พรรค มีทางเลือกครับ :-)

 

หมายถึงตัวคุณเองน่ะเหรอครับ ^_^


• เอือมระอากับบรรดาพี่น้องที่หลงทางจริงๆ เห็นต่างกันยังรับได้ครับ แต่เห็นผิดเป็นชอบแบบนี้มันบัดซบจริงๆ •
• หายนะของประเทศไทย ก็คือการที่   "ควายเลือกควาย"   เข้ามาทำลายประเทศ •


#63 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:31

ดังคำถามที่ผมถาม จขกท ไป

ว่า ขณะนี้ เรารู้สึกว่าว่าใช้หลอดไฟหรือตะเกียง

นี่คือการมองเห็นในมุมต่าง ที่ดูเหมือน จขกท จะไม่พยายามยอมรับ

ผลที่ได้ คือการพยายามคิดแทนคนอื่น และพยายามยัดเยียดสิ่งที่เขาเห็นว่าดีกว่าเข้าไป

เพราะเขามองว่า ทำไม เขาต้องทนกับตะเกียงแบบเดิม

ในขณะที่ผมเชื่อว่า แสดงสว่างยามค่ำคืนของผม ได้มาจากหลอดไฟมานานแล้ว

 

การทดลองเป็นพันๆ ครั้งของเอดิสัน

เพื่อมุ่งมั่นที่จะได้ผลสำเร็จ จากการต่อยอดความคิดจากเซอร์ฮัมฟรี เดวี่ 

แน่นอน มันไม่ใช่ของใหม่ที่เอดิสันคิดเป็นคนแรก

เพียงแต่เอดิสันเข้ามาปรับปรุง ทำให้ดีขึ้น ทำให้เป็นหลอดไฟที่ใช้งานได้จริง

โดยการพยายามทดลองกับวัสดุต่างๆ เป็นพันชนิด

 

การทดลองเป็นพันครั้ง เพราะเขาเห็นประโยชน์ที่มันน่าจะดีขึ้น

ในขณะที่ เซอร์ฮัมฟรี เดวี่ ที่เป็นผู้คิดค้นหลอดไฟเป็นคนแรก 

กลับไม่พยายามทำต่อจนสำเร็จ และเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทน

 

โลกจึงไม่ได้ยินชื่อ ว่าเจาเป็นบิดาแห่งหลอดไฟฟ้าดังเช่นที่เอดิสันทำ

 

 

 

ถ้าเรามองแต่เรื่องหลอดไฟอย่างเดียวนะครับ

เราอาจรู้สึกได้ว่า ความอดทนของ เซอร์ฮัมฟรี เดวี่ มีไม่พอ หรือประสบปัญหาอย่างไรไม่ทราบนะครับ

แต่ความเพียรพยายามของเอดิสันต่างหาก ที่ทำให้โลกสว่างไสวมาจนทุกวันนี้

 

อ่านถึงตรงนี้ คุณคงได้คำตอบบ้างแล้ว

คุยกันแบบนี้พร้อมกับตีความกันไปมา  ผมว่าจบยากครับ

 

จากที่คุณโทนี่พิมพ์  จขกท อาจจะตีความเข้าข้างตัวเองว่า

 

 

เค้าก็เหมือนเอดิสันไง ที่พยายามโน้มน้าวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งให้คนในบอร์ด เลือกเบอร์อื่น  ทั้งๆที่รู้ว่ามันยาก

 

ส่วนคนที่เลือกเบอร์ 16 ก็จะตีความว่าพวกเราก็เหมือนเอดิสันเหมือนกัน  เพราะต้องพยายามเลือกหม่อมคนเดิมกลับมาเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

 

 

ผมเข้าใจครับ

นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามจะบอก จากคำตอบของเขาเอง

เมื่อเขายังมองเห็นตะเกียง ในขณะที่คนอื่นเห็นหลอดไฟมาชั่วชีวิต

นั่นคือการเห็นต่าง

 

และเมื่อเห็นต่าง ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาคิดแทนกันได้


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#64 OSR

OSR

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,365 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:33

ที่นี่ห้องการเมือง กระทู้ต้องเกี่ยวกับการเมืองครับ
ไม่ใช่ห้องแปะคำคม ห้องชายคาพักใจก็มีให้ใช้ครับ  -_-

ช่วงนี้ช่วงเลือกตั้งครับ
wisdom จากผู้ที่เคยผ่านโลกมา ช่วยให้ผู้ที่ยังงงๆ ไปกับการปั่นหัวทางการเมืองของทั้ง 2 พรรค มีทางเลือกครับ :-)

ผมไม่ได้เลือก คุณสุหฤท แต่ ชอบความคิดคุณ

คันไม้คันมืออยาก ผสมโรง แต่ กลัวถูกเข้าใจผิดว่า

เราเกี๊ยเซี๊ยะกัน ร่วมกันเดิน แยกกันตี อะไรทำนองนั้น

กระทู้ไม้กันหมามีมากระแนะกระแหนผมว่าเป็น เสรีชน :D 

ปล.ขอเป็นกำลังใจให้ละกัน ชอบครับ คนที่คิดต่างอย่างสร้างสรร

สู้ๆครับ มุ่งมั่นบุกลุยไปเลย อุปสรรคขวางหน้ามีไว้เพื่อให้เรา แผ้วถาง


หายจน ทั้งแผ่นดิน ด้วยการต่อต้าน นกม.ชั่ว และเอา ปตท กลับคืนมาเป็นของคนไทย


#65 Bourne

Bourne

    สายลับ ๆ ล่อ ๆ หัดเกรียน

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,471 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:34

คำคม ส่วนใหญ่มันก็มีประโยชน์ในแง่ให้สติทั้งนั้นแหละ แต่มันต้องดูด้วยว่าจะใช้ในบริบทไหน

ไม่ใช่ให้เอามาตีความเข้าข้างตัวเอง หรือความคิดตัวเอง


Edited by Bourne, 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:35.

ภาระกิจหลักของผมบนบอร์ดเสรีไทย คือ ด่าควายครับ เรื่องคิดต่างผมรับได้ แต่เรื่องคิดชั่วผมรับไม่ไหวครัช

#66 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:41

ไอน์สไตน์ไม่ใช่พ่อผมครับ

 

หรือเขาเป็นพ่อคุณ หรือเป็นเทวดาที่คุณกราบไหว้

 

คุณถึงเทิดทูนคำพูดของเขา


ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#67 OSR

OSR

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,365 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:44

คำคมของ ไอสไตน์ สำหรับผม ชอบอันนี้ครับ

จินตนาการ สำคัญกว่า ความรู้

จินตนาการเปรียบได้กับ ไม้ขีด กับ เทียน

ความรู้และประสบการณ์คือ ผลลัพธ์จากการจุดเทียน


หายจน ทั้งแผ่นดิน ด้วยการต่อต้าน นกม.ชั่ว และเอา ปตท กลับคืนมาเป็นของคนไทย


#68 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:17

เสรีไทย-ฟังเสียงตัวเอง.jpg


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#69 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:23

ส่วนที่บอกว่า "มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง" ดูเหมือนว่าจะเป็นจริงในความคิดของพวกนักคิดเหล่านั้น

 

ดังนั้น เด็กทุกคน เมื่อเค้าลุกขึ้นเดินไม่สำเร็จ 100 ครั้ง แล้วยังพยายามลุกขึ้นเดินอยู่ ในความคิดของนักคิดเหล่านั้น ผลสรุปคือ "เด็กเหล่านั้นเป็นคนบ้า" กระนั้นหรือ

โอ้! ดูไปแล้ว โลกนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน

อย่ากระนั้นเลย เด็กเหล่านั้นสมควรจะคลานไปตลอดชีวิต ย่อมเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลยิ่งนักสำหรับความคิดของนักคิดเหล่านั้นจริงๆ 

คุณเจ้าของกระทู้เห็นด้วยกับความคิดที่สมเหตุสมผลของนักคิดเหล่านี้ไหมละ


ผมเชื่อในประโยคนี้มากกว่า

"ผมจะไม่พูดว่าผมล้มเหลว 1,000 ครั้ง แต่ผมจะพูดว่า ผมได้ค้นพบวิธีการที่ใช้ไม่ได้ผล 1,000 วิธี"

 

ATT324704.jpg

 

แต่สำหรับนักปฎิบัติอย่าง เอดิสัน ประโยคของนักคิดดูจะผลตรงกันข้าม เพราะอะไรละ

1. ความล้มเหลวทำให้เราไม่ประมาทกับชีวิต ขณะที่ความสำเร็จอาจกลายเป็นกับดัก ทำให้เราหลงระเริงและประมาทได้

2. ความล้มเหลว เมื่อผ่านพ้นไป สิ่งที่เราได้รับจากมันคือ การเติบโต การเรียนรู้ และการพัฒนา

3. ความล้มเหลวทำให้เราระมัดระวังในการตัดสินใจกระทำในเรื่องต่างๆ มากขึ้น และตระหนักว่า สิ่งใดที่เราควรทำหรือไม่ควรทำ

4. ความล้มเหลว บางครั้ง ทำให้เราค้นพบตัวตนที่แท้จริง ความเข้มแข็ง และศักยภาพภายใน ที่ทำให้เราก้าวเดินต่อไปได้มั่นคงขึ้น

5. ความล้มเหลว เป็นต้นทางหรือระหว่างทางของความสำเร็จ มันทำให้ความสำเร็จที่ได้มาทรงพลัง ทรงความหมาย และทรงคุณค่ามากกว่าความสำเร้จที่ได้มาโดยง่าย

6. ความล้มเหลว ทำให้เราไม่ยึดมั่นถือมั่น และเข้าใจสัจธรรมแห่งความไม่แน่นอน

 

กลับมาที่เรื่องการเมืองก็แล้วกัน การเลือกเบอร์ 16 เป็นการย้อนรอยความผิดพลาดหรือไม่ อันนี้บอกตรงๆ ก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคน ว่ากันไม่ได้ 

แต่ส่วนตัวคิดว่า การเลือก มรว.สุขุมพันธุ์ เมื่อปี 2552 ไม่ใช่สิ่งที่ผิดพลาด เพราะอะไร

 

นโบายหาเสียง ปี 2552

 

30 นโยบายที่หาเสียงไว้ประกอบด้วย

 

1. ส่งเสริมให้มีการเลือกตั้งตัวแทนเยาวชนแต่ละพื้นที่ เพื่อเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นกระบอกเสียงให้กับเยาวชนในพื้นที่
2. 4 ปีเด็ก กทม. จะต้องได้เรียนดี เรียนฟรี แบบมีคุณภาพ และยกระดับโรงเรียนสังกัด กทม. ให้เทียบชั้นกับโรงเรียนสาธิตและโรงเรียนเอกชน
3. สร้างความสุขด้วย Green Wimax ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่ว กทม.
4. เพิ่มพื้นที่สำหรับวัยรุ่น สนับสนุนการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ในทุกด้าน
5. รักษาสิ่งแวดล้อมด้วยพลังงานที่สะอาด แก้ปัญหาโลกร้อน
6. เพิ่มห้องสมุดให้ครบทุกเขต
7. พัฒนาชุมชนโดยเน้นการมีส่วนร่วม
8. ขยายสถานที่พักของผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับบ้านพักคนชราบางแคอีก 3-4 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 4 มุมเมือง
9. ดูแลผู้พิการโดยจัดสรรเบี้ยยังชีพ สงเคราะห์กองทุนประกอบอาชีพ ส่งเสริมความรู้ในการประกอบอาชีพ
10. พัฒนาวัด 400 แห่งให้มีบทบาทในการทำกิจกรรมทางศาสนาและการศึกษาแก่เยาวชน จัดให้มีตำรวจพระตรวจจับพระปลอมที่ออกเรี่ยไร จัดทำโรงเรียนพระพุทธศาสนา โดยการฟังธรรมในแท็กซี่
11. เปิดเว็บไซต์ ไฮไฟว์ เฟซบุ๊ค เป็นเวทีให้วัยรุ่นแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเป็นที่ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ กทม.
12. พลิกฟื้นเกษตรกรรมในพื้นที่ กทม. ฝั่งตะวันออก ส่งเสริมการตลาด ให้สินเชื่อและฟื้นฟูการท่องเที่ยว
13. เพิ่มศูนย์ดูแลเด็กพิเศษให้มากขึ้น
14. แก้ปัญหาช่องว่างระหว่างไทยพุทธกับไทยมุสลิมด้วยการสร้างความสัมพันธ์แบบบ้านพี่เมืองน้องกับเมืองที่เป็นมุสลิมทั่วโลก
15. สนับสนุนค่าอาหารกลางวันศูนย์เด็กเล็กในสังกัด กทม.
16. พัฒนาบุคลากร กทม. ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เน้นการทำงานเป็นทีม และเพิ่มเติมสวัสดิการที่เหมาะสม
17. ส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว
18. ขยายการคมนาคมทางน้ำ 3 สายหลัก ได้แก่ มีนบุรี พระโขนง และเพชรเกษม
19. บังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคารเพื่อความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
20. ส่งเสริมทักษะเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้เด็กมีพื้นฐานที่ดีก่อนเข้าเรียนในโรงเรียน
21. สร้าง กทม. ให้เป็นมหานครระดับโลก โดยพัฒนาทุกด้านให้ครอบคลุม ทั้งเศรษฐกิจ ระบบขนส่ง สิ่งแวดล้อม ประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม
22. พลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยวิถี กทม. โดยร่างงบประมาณมาอัดฉีดระบบเศรษฐกิจให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
23. บริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม
24. เร่งประสานกับเอกชนจัดหาพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเพื่อจัดทำเป็นสวนสาธารณะ
25. ส่งเสริมเครือข่ายเยาวชนให้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการสร้าง กทม.
26. จัดตั้งมหาวิทยาลัย กทม. เพื่อสร้างบุคลากรทางการแพทย์ และขยายจำนวนโรงพยาบาลในสังกัดให้มากขึ้น
27. กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือคนตกงาน โดยการจัดหางาน ส่งเสริมอาชีพ
28. ค้นหาหาบเร่แผงลอยที่อนุญาตให้ขายได้ทุกวัน
29. พัฒนาพื้นที่ฝั่งธนบุรีให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะทางน้ำ และเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำเสีย
30. แก้ปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านเป็นหลัก
 

ครบ 4 ปี แล้วคิดว่าคุณชายได้ทำตามที่บอกเกินครึ่งหรือไม่ ในความคิดผมก็คิดว่าทำได้เกินครึ่ง แล้วแบบนี้เป็นการย้อนรอยความผิดพลาดหรือไม่

ถามกลับ เบอร์ 17 มีนโยบายอะไร ช่วยบอกเป็นข้อๆ จะขอบคุณมาก แล้วแนวทางที่คิดว่าจะไปถึงเป้าหมายคืออะไร


Edited by Ricebeanoil, 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:14.

เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#70 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:38

ส่วนนโยบายคุณชายที่ทำไปแล้ว ไปอ่านในกระทู้นี้ก็แล้วกัน

http://webboard.seri...-ปี-และนโยบายข/


เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#71 เชียร์คนดี

เชียร์คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 991 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:11


ผมคนหนึ่งล่ะ ที่คิดว่า ควรต้องให้มีการคานอำนาจ
 
ถ้าปล่อยไปแบบนี้ ลูกหลานเรา จะคิดอย่างไร
 
ถ้าสามารถครองอำนาจ ได้อย่างสูง นั่นหมายความว่า จะทำอะไรก็ได้

คุณทรงธรรม
ผู้ว่า กทม ไม่ใช่ฝ่ายค้านนะครับ :-)
อันนั้นมันเลือกผู้อทนฝ่ายค้านเข้าไปคานอำนาจ
อันนี้มันเลือกตั้งผู้ว่า กทม มาบริหารท้องถิ่น
เขาแยกให้เป็นการบริหารแบบท้องถิ่นเพื่ออะไรหล่ะครับ?
คงไม่ใช่ให้มาเลือกฝ่ายค้านเข้าไปอีก 1 คน
ที่ทำกันอยู่นี่คือเป็นเพียงการต้องการเอาชนะกันเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น


ผู้ต้องการชนะเชิงสัญลักษณ์คือ.......
รึจะบอกว่า เลือก 16 เป็น เลือก 9 ไม่เป็น

"ทำดี(ผู้อื่น)เห็นผลช้า"


#72 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:18

จขกท. สามารถนำเสนอผู้สมัครที่ตัวเองชื่นชมได้

โดยไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำดูหมิ่นผู้อื่น

 

ทำไม่ได้? หรือไม่ยอมทำ?

 

ignorance-samuel buttler.jpg

 

 


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#73 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:24

คงต้องลองหาข้อมูลดูเสียหน่อยแล้ว ว่าเอดิสันทดลองสร้างหลอดไฟอยู่กี่ครั้ง จึงจะสำเร็จ หากหมดความอดทนไปตั้งแต่การทดลองครั้งแรก ป่านนี้มนุษย์อาจยังใช้ตะเกียง

 
ถ้าเอาวิธีแบบเอดิสันมาใช้เลือกผู้ว่า คาดว่ากว่าจะเราจะได้ผู้ว่าดีๆ ก็คงต้องรออีกประมาณพันปีน่ะครับ  -_-

ผู้ว่า 4 ปีเลือกครั้ง ก็ต้องลองปประมาณ 4 พันปีครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#74 คนทุกที่

คนทุกที่

    ชนชั้นกลาง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,480 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:32

เห็นเบอร์ 17 ไปเดินถนนและถามความคิดเห็นจากชาวบ้านก็ให้นึกถึงประโยคที่ว่า can't please them all

 

ผู้ว่ากทมต้องทำงานเพื่อนคนทั้งเมือง ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง การลงไปจับความเห็นของรายบุคคลมันดูไร้สาระอย่างไรพิกล กรุงเทพมีคนกี่ล้านคน คุณจะช่วยเขาทีละคนเหรอ เหนื่อยตายก่อนพอดี



#75 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:42

ตามทฤษฎีควอนตัม การทำแบบเดิมซ้ำๆ สามารถให้ผลที่ต่างกันได้ โดยมีความน่าจะเป็นของผลลัพธ์แต่ละแบบแต่ไอน์สไตน์ไม่ยอมรับเรื่องนี้ และยืนยันว่า การทดลองถ้าทำแบบเดียวกันเป๊ะ ก็ต้องได้ผลลัพธ์เหมือนกันทุกครั้งถ้าได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน แปลว่า มีอะไรในรายละเอียดที่มันไม่เหมือนกันที่เรายังไม่รู้จึงเป็นที่มาของคำว่า god does not play dice.  -_-

เพราะสิ่งนี้มีสิ่งจึงมีไอน์สไตน์ถูกแล้วครับ ที่มันจะต่างออกไปก้เพราะ observer ต่างไปแวะมาโพส กลับไปล้างบ้านต่อครับ :-)
เอา Wisdom มาฝากหน่อยแล้วกัน ผมช่วยยืนยันว่าคุณ Ridkun พูดนั้นถูกแล้ว

ที่คุณ Leeporter อ้างนั้น คนละเรื่องแล้วครับ นั่นมันเรื่อง relativity

ถ้าเรื่อง quantum น่ะ ไอน์สไตน์หน้าหงายไปหลายรอบแล้วครับ ที่คุณ Ridkun บอกนั้นคือลักษณะที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่งของ Quantum physics คือต่อให้คุณกำหนดเงื่อนไขแบบชัดเจนแค่ไหน คุณจะไม่มีทางรู้ว่าผลลัพท์จะออกมาเป็นอย่างไร ที่คุณทำได้ ก็แค่เพียงแต่ทำนายความน่าจะเป็นของผลลัพท์เท่านั้น ซึ่งไอน์ไตน์เกลียดสิ่งนี้มาก และพยายามหาจุดอ่อนที่จะทำลายหลักการนี้แทบจะทั้งชีวิต แต่เค้าทำไม่สำเร็จครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#76 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:57

ขอคุยในประเด็นของกระทู้บ้าง

ด้านหนึ่งผมก็เข้าใจเจ้าของกระทู้นะครับ และก็สนับสนุนให้คุณทำต่อไป และก็หวังในผลลัพท์ที่แตกต่างด้วย ไม่ต้องเชื่อข้อความที่คุณยกมาก็ได้

อีกด้านหนึ่ง ก็หวังว่าจะเข้าใจคนที่ยังยืนยันความคิดของเค้า ผมเห็นหลายคนก็ให้เหตุผลที่ชัดเจนไปแล้ว ผมก็เชื่อว่าคุณทราบตรงนี้แล้ว แต่ก็อยากเสนอให้ลองไตร่ตรอง มองเหตุผลของคนที่เห็นต่างจากคุณให้ดีอีกครั้ง หวังว่าจะทำให้คุณเห็นอะไรมากขึ้นจากสิ่งเดิม และเป็นประโยชน์กับคุณเจ้าของกระทู้นะครับ

ส่วนตัวผมนั้น สารภาพว่าเป็นบ้านนอกอพยพครับ เลือกตั้งไม่ได้ 5555

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#77 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:52

การเลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้  ลำบากใจมาก  เพราะผมไม่ชอบหม่อม  และเช่นเดียวกับเจ้าของกระทู้  ผมชอบสุหฤทธิ์

 

บางคนให้เลือกคนที่ทำประโยชน์

หม่อม ก็ทำประโยชน์ได้  อย่างน้อยก็เป็นตัวคานอำนาจเพื่อไทย  ในกทม.

สุหฤทธิ์  ผมเชื่อว่าแกทำประโยชน์ได้มากกว่าหม่อม  ในเรื่องการพัฒนากรุงเทพฯ

สุหฤทธิ์ +1 คะแนน

 

บางคนบอกให้เลือกเอาตามความสบายใจ  แต่ผมพบว่า  ไม่ว่าจะเลือกใครก็ไม่สบายใจอยู่ดี

เลือกหม่อม ก็ไม่ใช่คนที่รักคนที่ชอบ  ก็ไม่สบายใจ

เลือกสุหฤทธิ์  มันก็ไม่สบายใจอยู่ดี  เพราะพงศพัศณ์-เพื่อไทย  มาแน่  

สุขุมพันธ์ และ สุหฤทธิ์ +0  เจ๊ากัน

 

แต่ถ้ามองว่าใครเป็นประโยชน์มากกว่ากัน  โดยมีปัจจัย  เรื่อง  ความเหมาะสมกับสถาณการณ์

สุขุมพันธ์  มีประโยชน์ในการคานอำนาจเพื่อไทย

สุหฤทธิ์  ไร้ประโยชน์  ไร้ประโยชน์  ไร้ประโยชน์....  เพราะเขาแพ้แน่ๆ

สุขุมพันธ์ +1  ,  สหฤทธิ์  -1

 

สรุป  สุขุมพันธ์ +1  สุหฤทธิ์ 0  

 

ผู้สมัครอิสระ  เหมาะเอาไว้เลือก  ตอนสถานการณ์ปรกติ  บ้านเมืองสงบ  มีความปรองดองกันแล้วมากกว่า

งวดนี้  กาเบอร์  16  แบบนำ้ตาตกใน  พร้อมปฎิญาณว่า  หากอีก 4 ปี  หม่อมยังเหมือนเดิม  

และปชป.  ไม่ส่งคนที่ดีจริงๆ  เข้ามาอีก  คงไม่เลือกเป็นสมัยที่ 3  แน่  :angry:


  • OSR likes this

คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#78 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:54

 

ตามทฤษฎีควอนตัม การทำแบบเดิมซ้ำๆ สามารถให้ผลที่ต่างกันได้ โดยมีความน่าจะเป็นของผลลัพธ์แต่ละแบบแต่ไอน์สไตน์ไม่ยอมรับเรื่องนี้ และยืนยันว่า การทดลองถ้าทำแบบเดียวกันเป๊ะ ก็ต้องได้ผลลัพธ์เหมือนกันทุกครั้งถ้าได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน แปลว่า มีอะไรในรายละเอียดที่มันไม่เหมือนกันที่เรายังไม่รู้จึงเป็นที่มาของคำว่า god does not play dice.  -_-

เพราะสิ่งนี้มีสิ่งจึงมีไอน์สไตน์ถูกแล้วครับ ที่มันจะต่างออกไปก้เพราะ observer ต่างไปแวะมาโพส กลับไปล้างบ้านต่อครับ :-)
เอา Wisdom มาฝากหน่อยแล้วกัน ผมช่วยยืนยันว่าคุณ Ridkun พูดนั้นถูกแล้ว

ที่คุณ Leeporter อ้างนั้น คนละเรื่องแล้วครับ นั่นมันเรื่อง relativity

ถ้าเรื่อง quantum น่ะ ไอน์สไตน์หน้าหงายไปหลายรอบแล้วครับ ที่คุณ Ridkun บอกนั้นคือลักษณะที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่งของ Quantum physics คือต่อให้คุณกำหนดเงื่อนไขแบบชัดเจนแค่ไหน คุณจะไม่มีทางรู้ว่าผลลัพท์จะออกมาเป็นอย่างไร ที่คุณทำได้ ก็แค่เพียงแต่ทำนายความน่าจะเป็นของผลลัพท์เท่านั้น ซึ่งไอน์ไตน์เกลียดสิ่งนี้มาก และพยายามหาจุดอ่อนที่จะทำลายหลักการนี้แทบจะทั้งชีวิต แต่เค้าทำไม่สำเร็จครับ

 

 

เรียกว่าเหนือ Relativity ยังมี Quantum 

และเพราะกำเนิดควอนตัม จึงมี Butterfly Effect และ Chaos Theory ที่หัวใจของทฤษฎีนี้คงทำเอาไอน์สไตน์ดิ้นอยู่ในหลุมเลยทีเดียว

เพราะไอน์สไตน์ชอบสิ่งที่คาดเดาได้ และแน่นอน

แต่ทั้งควอนตัม บัตเตอร์ฟลาย และเคออส ล้วนเชื่อว่าจักรวาลไม่สามารถทำซ้ำ และผลลัพธ์ก็ซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้  แม้เจอตัวแปรแค่เพียงนิดดดดดดดดดดเดียว ผลลัพธ์ก็จะต่างออกไปแบบ Unpredictable


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#79 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 21:32

ถอยก่อน

เรามันคนละรุ่นกับไอสไตร์


อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#80 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 21:43

ถอยก่อน

เรามันคนละรุ่นกับไอสไตร์

 

ต้องรุ่นท่านคอเปอร์นิคัสแน่เลย  

หงำกว่านิวตัน.......................spin.gif


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#81 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 21:56

ถ้าไอน์สไตน์ผิด อิทัปปัจจยตาก็ผิดหล่ะครับ :-)

#82 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 21:57

พร้อมปฎิญาณว่า หากอีก 4 ปี หม่อมยังเหมือนเดิม
และปชป.ไม่ส่งคนที่ดีจริงๆ เข้ามาอีก คงไม่เลือกเป็นสมัยที่ 3 แน่ :angry:

4 ปีที่แล้วผมก็ปฎิญาณแบบนี้แหล่ะครับ :-)

Edited by Leeporter, 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 22:00.


#83 เส้นใหญ่ไม่งอก

เส้นใหญ่ไม่งอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,033 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 22:15

ถ้าผมจะเลือก สมิทธ สมิทธินันท์ ซึ่งเป็นสิ่งใหม่

 

คงไม่มีใครว่าผมบ้าใช่ไหมครับ



#84 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 22:38

กลัวนิยาม กับคำว่า เดินทางผิด คิดจนตัวตาย มากกว่า ในเวลานี้  :lol:



#85 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 23:07

จขกท

 

อย่าอวดฉลาดให้มากนักเลย

 

คนเค้าหมั่นใส้กันมากพอแล้ว


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#86 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 23:38

สิ่งที่ผมชอบที่สุด ของ suharit คือเพลง  น้องงุ้งงิ้ง  ครับ  สวดยวด



#87 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 00:02

ถ้าไอน์สไตน์ผิด อิทัปปัจจยตาก็ผิดหล่ะครับ :-)


ปัญหาคือ คุณเข้าใจผิดครับ!!

ถ้าไอน์สไตน์ถูก หลักความไม่เที่ยงจะผิดครับ!!!!

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#88 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 00:12

ถ้าไอน์สไตน์ผิด อิทัปปัจจยตาก็ผิดหล่ะครับ :-)


ปัญหาคือ คุณเข้าใจผิดครับ!!

ถ้าไอน์สไตน์ถูก หลักความไม่เที่ยงจะผิดครับ!!!!

 

คือจริง ๆ ไอน์สไตน์แกก็ไม่ได้ผิดเสียทีเดียวนะครับ

 

เพราะแกบอกว่า ถ้าทดลอง "เหมือนเดิม" ทุกครั้ง ต้องได้ผลเหมือนเดิมทุกครั้ง

 

ทีนี้ในความเป็นจริง เหตุการณ์ที่เกิดซ้ำ ๒ ครั้ง องค์ประกอบมันไม่มีทางที่จะ "เหมือนเดิม" กันได้แบบเป๊ะ ๆ

 

ไอน์สไตน์แกเลยเซฟตัวเองด้วยคำอ้างที่ว่า "ถ้าผลมันไม่เหมือนเดิม แปลว่ามันมีสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม ที่เราไม่รู้"

 

เรียกว่า หาทางรอดให้ตัวเองไว้เรียบร้อย


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#89 แมวนอนหวด

แมวนอนหวด

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 255 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 00:25

สมัยหนึ่งนักการเมืองบางคนเป็นนายก ประชาชนเห่อกันเกือบทั้งประเทศ ทั้งพระ ทั้งราษฎรอาวุโสออกมาการันตรีกันที่เดียว

 

สมัยหนึ่งนักการเมืองบางคนเป็นนายก ประชาชนออกมาขับไล่เหมือนหมูหมา เพราะโกงกิน เอื้อประโยชน์พวกพ้องตัวเอง จนวันนี้ยังเป็นผีเร่ร่อน

 

คนเดียวกัน ทำงานในตำแหน่งเดียวกัน ไหง๋ผลลัพธ์มันต่างกันราวฟ้ากับเหวล่ะ

 

หรือนักการเมืองคนนี้เป็นบร๊ะเจ้า จึงอยู่นอกกฎของไอจนตาย เอ้ยไอนไสตน์ .

 

:huh:  :huh:  :huh:


:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:


#90 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 00:29


ถ้าไอน์สไตน์ผิด อิทัปปัจจยตาก็ผิดหล่ะครับ :-)


ปัญหาคือ คุณเข้าใจผิดครับ!!
ถ้าไอน์สไตน์ถูก หลักความไม่เที่ยงจะผิดครับ!!!!
 
คือจริง ๆ ไอน์สไตน์แกก็ไม่ได้ผิดเสียทีเดียวนะครับ
 
เพราะแกบอกว่า ถ้าทดลอง "เหมือนเดิม" ทุกครั้ง ต้องได้ผลเหมือนเดิมทุกครั้ง
 
ทีนี้ในความเป็นจริง เหตุการณ์ที่เกิดซ้ำ ๒ ครั้ง องค์ประกอบมันไม่มีทางที่จะ "เหมือนเดิม" กันได้แบบเป๊ะ ๆ
 
ไอน์สไตน์แกเลยเซฟตัวเองด้วยคำอ้างที่ว่า "ถ้าผลมันไม่เหมือนเดิม แปลว่ามันมีสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม ที่เราไม่รู้"
 
เรียกว่า หาทางรอดให้ตัวเองไว้เรียบร้อย

ผมยืนยันว่าไม่ใช่ครับ อย่างที่คุณ Ridkun บอกนั้นถูกแล้วครับ!!

ฟังดูเหลือเชื่อ แต่การทดลองล้วนสนับสนุนหลักการพื้นฐานของ quantum mechanics ครับ

คือตัวทฤษฎี สามารถทำนายได้เพียงแต่สิ่งที่เรียกว่า wave function ซึ่งใช้คำนวณหาความน่าจะเป็นของผลการทดลองอีกที แม้ว่าเราจะระบุสถานภาพเริ่มต้นของอนุภาคหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์ ( เช่นกำหนดโดยจินตนาการของเราเลย ) แต่ตัวคณิตศาสตร์จะให้ผลทำนายเหตุการณ์ต่อจากนั้นออกมาแบบนับไม่ถ้วน เพียงแต่ว่าผลที่เป็นไปได้แต่ละอย่างนั้นจะมีความน่าจะเป็นไม่เท่ากัน สิ่งที่เราวัดได้ที่ดูเหมือนเที่ยงนั้น ความจริงแล้วเป็นเพราะความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์นั้นสูงมากครับ ( ใกล้ 1 )

เรื่องบางอย่างในวิทยาศาสตร์ ฟังแล้วอาจจะดูเหลือเชื่อกว่านิยายอีกครับ แต่มันเป็นความจริง!!

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#91 tifosi

tifosi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 280 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 00:53

ถ้าไอน์สไตน์ผิด อิทัปปัจจยตาก็ผิดหล่ะครับ :-)

 

มีหลักฐานยืนยันรึเปล่าว่า Quote นี้ไอน์สไตน์เป็นคนพูด พูดที่ไหน เมื่อไหร่

 

พอดีเห็นคนเค้าหาที่มาของคำพูดนี้อยู่ว่าใครเป็นคนพูดกันแน่ เพราะปกติคนระดับไอน์สไตน์ถ้าพูดอะไรไว้ที่ไหนจะมีการจดบันทึกไว้ ส่วน  Quote อันนี้มันไม่มีหลักฐานปรากฎ มีแต่พูดต่อๆกันมาเป็น urban legend ไว้ให้ไอ้พวกอวดฉลาดแสดงความโง่ออกมามากกว่า ไอ้พวกชอบจำขี้ปากเค้ามาพูดน่ะ

 

อีกอย่างเอดิสัน ก็ไม่ได้เป็นคนคิดหลอดไฟคนแรกคนเดียว บังเอิญเป็นนักธุรกิจที่รู้จักฉวยโอกาส สร้างภาพเก่ง ออกจะชั่วๆด้วยซ้ำ เคยเบี้ยวเงิน Nicola Tesla ด้วยแบบว่าพอทำงานสำเร็จไม่ยอมให้เงินตามที่พูดไว้ อ้างว่าที่พูดไปเป็นมุขตลก คล่้ายๆนักการเมืองเฮี่ยๆที่ไหนก็ไม่รู้ เคยฆ่าช้างด้วยไฟฟ้าเพื่อสร้างภาพก็ยังมี แต่ก็ยังดีที่มันไม่เคยส่งเสริมให้คนเผาบ้านตัวเองเท่านั้นแหละ



#92 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 01:12

กฎวิทยาศาสตร์สี่ข้อที่สำคัญที่สุด

 

สัมพัทธภาพ, ความไม่แน่นอน, ความไม่สมบูรณ์,และการตัดสินไม่ได้
(Relativity, Uncertainty, Incompleteness, and Undecidability)

กฎเหล่านี้ศึกษาโดยอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์, เวอร์เนอร์ ไฮเซ็นเบิร์ก, เคิร์ท โกเดล, และอลัน ทูริ่ง ตามลำดับ


สัมพัทธภาพ

ส่วนนิ้อธิบายหลักการทั่วไปเรื่องสัมพัทธภาพของการเคลื่อนไหว ซึ่งเก่าแก่กว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ และพยายามอธิบายหนึ่งในกฎธรรมชาติที่ไอน์สไตน์ค้นพบ

กฎสัมพัทธภาพบอกว่าไม่มีจุดสังเกตใดๆ ที่มีอภิสิทธิ์และไม่ลำเอียง(privileged, “objective” viewpoint) สำหรับการสังเกตบางอย่าง
 ลองตั้งคำถามว่า พระอาทิตย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าไหร่? ก่อนที่เราจะตอบได้ เราต้องคิดว่าจะใช้อะไรเป็นตำแหน่งอ้างอิง เราสามารถวัดความเร็วของพระอาทิตย์เทียบกับวัตถุที่อยู่ไกลโพ้น เช่น ดาวฤกษ์อีกดวง จุดศูนย์กลางทางช้างเผือกหรือจุดศูนย์กลางกลุ่มดาวที่ระบบสุริยะอยู่ แต่ไม่ว่าเราจะวัดจากจุดไหน
ไม่มีทางที่เราจะเรียกความเร็วนั้นว่าเป็น “ความเร็วสัมบูรณ์ (absolute speed) ของพระอาทิตย์” ได้ จริงอยู่ เราสามารถวัดความเร็วของพระอาทิตย์เทียบกับอวกาศรอบๆ ดวงดาว เพราะอวกาศไม่ว่างเปล่าเลยทีเดียว หากเต็มไปด้วยอนุภาคต่างๆ
แต่ปัญหาคืออนุภาคเหล่านี้ก็กำลังเคลื่อนที่เหมือนกัน ดังนั้นไม่ว่าเราจะพยายามวัดความเร็วสัมบูรณ์ยังไง เราก็ไม่มีทางทำได้ เพราะไม่ว่าจะวัดจากจุดใด ก็มีตำแหน่งอ้างอิงอื่นๆอีกที่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ความเร็วเป็นค่าสัมพัทธ์นั่นเอง

ความไม่แน่นอน

เวอร์เนอร์ ไฮเซ็นเบิร์ก เป็นผู้พิสูจน์ว่า ถ้าเราสร้างเครื่องมือขึ้นมาเพื่อใช้วัดตำแหน่งของอิเล็คตรอนโดยละเอียด เครื่องจะไม่สามารถบอกความเร็วของอิเล็คตรอนนั้นด้วย ในโลกอนุภาค ไม่มีเครื่องมือใดๆ ที่จะบอกเราทั้งตำแหน่งและความเร็วของอนุภาค ในขณะเดียวกันได้


กฎความไม่แน่นอนของไฮเซ็นเบิร์ก ชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่ไม่แน่นอนคือตำแหน่งและความเร็วของอนุภาคเองด้วย ไม่ใช่แต่เฉพาะเครื่องมือเราไม่เที่ยงดังนั้น ลักษณะหลายประการของอนุภาคจึงเป็นเพียงค่าความเป็นไปได้ต่างๆ เกี่ยวกับการวัด ไม่ใช่ค่าสัมบูรณ์ใดๆ

ความไม่สมบูรณ์

กฎความไม่สมบูรณ์ของโกเดลบอก ว่า ภายใต้ทฤษฎีอะไรก็ตามที่สามารถใช้พิสูจน์ข้อเท็จจริงพิ้นฐานทางคณิตศาสตร์ ได้ และมีเหตุผลสม่ำเสมอ (consistent logic) มันเป็นไปได้ที่จะสร้างประโยคในภาษาเลขที่เป็นความจริง แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้หรือปฏิเสธได้ภายในกรอบของทฤษฎีนั้นๆ

กฎของโกเดชี้ว่า เราไม่มีทางพิสูจน์ทฤษฎีที่สำคัญบางเรื่องได้

การตัดสินไม่ได้

อลันทูริ่ง คือหนึ่งในบิดาของวิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เขาคิดค้นโมเดลที่อธิบายวิธีทำงานของคอมพิวเตอร์

 

กฎการตัดสินไม่ได้บอกว่า เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเขียนโปรแกรมขึ้นมาเพื่อเช็คอีกโปรแกรมหนึ่ง (ที่เราไม่รู้ล่วงหน้าว่าคืออะไร)
ว่ามันทำงานถูกหรือไม่ ปัญหานี้เป็นข้อจำกัดที่สำคัญในการสร้างโปรแกรมยืนยันความถูกต้อง (verification programs) ทั้งหลาย


เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเขียนซุปเปอร์โปรแกรมเพื่อเช็คโปรแกรมทั้งหมด



 


Edited by chackrapbong, 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 01:46.

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#93 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 01:21

พร้อมปฎิญาณว่า หากอีก 4 ปี หม่อมยังเหมือนเดิม
และปชป.ไม่ส่งคนที่ดีจริงๆ เข้ามาอีก คงไม่เลือกเป็นสมัยที่ 3 แน่ :angry:

4 ปีที่แล้วผมก็ปฎิญาณแบบนี้แหล่ะครับ :-)

ผมเลือกให้โอกาสหม่อมอีก 4 ปี ครับ  ตอนนั้นคงใกล้จะครบกำหนดปู 8 ปี  พอดี  อะไรๆน่าจะชัดเจนขึ้นแล้ว

หากเพื่อไทยยังอยู่ดีมีสุข  ก็พิสูจน์ความเชื่อบางอย่างได้ว่า  บางทีเขาอาจมีส่วนถูกมากกว่าเราก็ได้

ถึงตอนนั้น  ผมก็ไม่จำเป็นต้องแคร์  ปชป.  อีกแล้ว  หากยังทำงานห่วย  ก็ลาขาด

 

ขอเอี่ยวเรื่องไอสไตน์  หน่อย  จริงๆแล้ว  ความคิดของไอสไตน์และทฤษฎีควอนตัม  มันเหมือนมองสิ่งเดียวกัน

แต่คนละมุม  คนละด้าน  ตอนอ่านเจอครั้งแรก  รู้สึกตลกดี  จะเถียงเอาชนะคะคานกันไปเพื่อ?  ในเมื่อมันมีส่วนถูกทั้งคู่

การทดลอง 2 ครั้ง  หากเหตุปัจจัยแวดล้อม  เปลี่ยนแปลงน้อยมาก  limit เข้าใกล้ 0  ความคิดของไอสไตน์จะเป็นจริง

ทดลองให้ตายกี่ครั้งก็ได้ผลแตกต่างกัน  limit เข้าใกล้ 0  เหมือนเดิม  ซึ่งก็อนุมาณได้ว่าผลเหมือนเดิม

 

แต่ถ้าหากปัจจัยแวดล้อมแตกต่างกันมากขึ้น  ผลก็ต่างออกไปตามทฤษฎี  ควอนตัม  ในเรื่องเล็กๆ  ในสภาะใกล้เคียง

อุดมคติ  มีปัจจัยเกี่ยวข้องแค่ไม่กี่อย่าง  แบบใน lab  ที่คุมสภาวะแบบยิ่งยวด  ผลการทดลองจะออกมาเหมือนกัน

หรือแตกต่างกันน้อยมาก  ตามคำของไอสไตน์  แต่กับเรื่องใหญ่ระดับจักรวาล  ที่มีปัจจัยเกี่ยวข้อง  เป็นอนันต์  แค่ความ

แตกต่างของตัวแปรนิดเดียว  ก็ส่งผลลัพธ์แตกต่างหมาศาล  ดังทฤษฎีควอนตัม

 

สิ่งที่น่าสนใจ  ต้นไม้ล้มในป่า  หากไม่มีใครอยู่ตรงนั้น  จะมีเสียงหรือไม่?

ทฤษฎีควอนตัม : ไม่มีเสียงเพราะไม่มีใครได้ยิน

ไอสไตน์  :  ต้องมีเสียง  แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ตรงนั้นก็ตาม

 

ใครผิด  ใครถูก?  ..................ผมว่าถูกทั้งคู่นะ ^_^


Edited by annykun, 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 01:42.

คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#94 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 01:55

ตามทฤษฎีควอนตัม การทำแบบเดิมซ้ำๆ สามารถให้ผลที่ต่างกันได้ โดยมีความน่าจะเป็นของผลลัพธ์แต่ละแบบ
แต่ไอน์สไตน์ไม่ยอมรับเรื่องนี้ และยืนยันว่า การทดลองถ้าทำแบบเดียวกันเป๊ะ ก็ต้องได้ผลลัพธ์เหมือนกันทุกครั้ง
ถ้าได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน แปลว่า มีอะไรในรายละเอียดที่มันไม่เหมือนกันที่เรายังไม่รู้
จึงเป็นที่มาของคำว่า god does not play dice.  -_-

เพราะสิ่งนี้มีสิ่งจึงมี
ไอน์สไตน์ถูกแล้วครับ ที่มันจะต่างออกไปก้เพราะ observer ต่างไป

แวะมาโพส กลับไปล้างบ้านต่อครับ :-)

 

 

 


ถ้าไอน์สไตน์ผิด อิทัปปัจจยตาก็ผิดหล่ะครับ :-)


ปัญหาคือ คุณเข้าใจผิดครับ!!
ถ้าไอน์สไตน์ถูก หลักความไม่เที่ยงจะผิดครับ!!!!
 
คือจริง ๆ ไอน์สไตน์แกก็ไม่ได้ผิดเสียทีเดียวนะครับ
 
เพราะแกบอกว่า ถ้าทดลอง "เหมือนเดิม" ทุกครั้ง ต้องได้ผลเหมือนเดิมทุกครั้ง
 
ทีนี้ในความเป็นจริง เหตุการณ์ที่เกิดซ้ำ ๒ ครั้ง องค์ประกอบมันไม่มีทางที่จะ "เหมือนเดิม" กันได้แบบเป๊ะ ๆ
 
ไอน์สไตน์แกเลยเซฟตัวเองด้วยคำอ้างที่ว่า "ถ้าผลมันไม่เหมือนเดิม แปลว่ามันมีสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม ที่เราไม่รู้"
 
เรียกว่า หาทางรอดให้ตัวเองไว้เรียบร้อย

ผมยืนยันว่าไม่ใช่ครับ อย่างที่คุณ Ridkun บอกนั้นถูกแล้วครับ!!

ฟังดูเหลือเชื่อ แต่การทดลองล้วนสนับสนุนหลักการพื้นฐานของ quantum mechanics ครับ

คือตัวทฤษฎี สามารถทำนายได้เพียงแต่สิ่งที่เรียกว่า wave function ซึ่งใช้คำนวณหาความน่าจะเป็นของผลการทดลองอีกที แม้ว่าเราจะระบุสถานภาพเริ่มต้นของอนุภาคหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์ ( เช่นกำหนดโดยจินตนาการของเราเลย ) แต่ตัวคณิตศาสตร์จะให้ผลทำนายเหตุการณ์ต่อจากนั้นออกมาแบบนับไม่ถ้วน เพียงแต่ว่าผลที่เป็นไปได้แต่ละอย่างนั้นจะมีความน่าจะเป็นไม่เท่ากัน สิ่งที่เราวัดได้ที่ดูเหมือนเที่ยงนั้น ความจริงแล้วเป็นเพราะความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์นั้นสูงมากครับ ( ใกล้ 1 )

เรื่องบางอย่างในวิทยาศาสตร์ ฟังแล้วอาจจะดูเหลือเชื่อกว่านิยายอีกครับ แต่มันเป็นความจริง!!

รู้จักแค่ Einstien แต่ไม่รู้จัก Heisenberg บ้างหรือ

uncertainty principle


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#95 ทัชชี่

ทัชชี่

    ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,784 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 02:17

คงต้องลองหาข้อมูลดูเสียหน่อยแล้ว ว่าเอดิสันทดลองสร้างหลอดไฟอยู่กี่ครั้ง จึงจะสำเร็จ หากหมดความอดทนไปตั้งแต่การทดลองครั้งแรก ป่านนี้มนุษย์อาจยังใช้ตะเกียง

 

จริงๆ แล้วเอดิสันไม่ใช่คนแรกที่ประดิษฐ์หลอดไฟได้นะครับ แต่เป็นคนที่จดสิทธิบัตรได้คนแรกต่างหาก

 

ดังนั้นไม่ว่า เอดสันจะทำหลอดไฟได้หรือไม่ ทุกวันนี้เราก็มีหลอดไฟใช้อยู่ดี เพราะคนที่เขาคิดหลอดไฟได้ก่อน มันก็คงเอามาขายอยู่ดีนั่นแหล่ะ


ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ


#96 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 03:01

น่าจะแบ่งกระทู้เรื่อง Quantum Mechanics ออกมาจากเรื่องการเมืองนะครับ อยากคุยเรื่องนี้เหมือนกัน  :)



#97 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 04:35

ผมจะใช้คำว่าขี้เท่อก็แล้วกัน การเอาโควตที่ตัวเองไม่เข้าใจมาเพื่อแสดงภูมิ 



#98 ม่านน้ำ

ม่านน้ำ

    ผมเพิ่งมาครับ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,373 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 05:02

ตอนแรกคงไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอ "ของจริง"

คงคิดแค่ว่าจะทำไงที่จะสนับสนุนความคิด "เลือกของใหม่ดีกว่าไม้กันหมา"
ก็เที่ยวไปอ้างคำพูดคนดังมา (ทั้งที่เขาก็ไม่ได้พูด) เพื่อความเท่

ก็จุกกันปายยยยย

Posted Image


#99 Wuddy

Wuddy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 581 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 06:23

การทดลองทางสังคมศาสตร์ ไม่เคยได้ผลเหมือนกัน 100 % นะครับ



#100 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

ตอบ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 06:45

ลืมบอกไปว่า relativity เป็น theory ส่วน uncertainty เป็น principle นะครับ ไม่ใช่ law แบบ Newton's law






ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน