
“พท.-พงศพัศ” จ่อร้อง กกต. “ชวนนท์” ผิด ม.57 ใส่ร้ายปมสร้างโรงพัก
ขู่โทษถึงยุบพรรค อ้างมีพยานปากเอก เชื่อมโยงไอ้โม่ง-ผู้มีอำนาจในอดีต
วันนี้ ( 10 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงปัญหาจากโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทนทั่วประเทศ 396
แห่ง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่าจ้างบริษัทพีซีซี ดีเวลลอปเม้นท์
แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัดดำเนินการว่า ตามที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ
กทม.พรรคเพื่อไทย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดร่างขอบเขตงาน หรือทีโออาร์
เปิดให้ผู้รับเหมาได้ส่วนต่าง 15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รับราชการในตำแหน่ง
ผช.ผบ.ตร. ตนเองในฐานะรองประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎรซึ่งติดตามปัญหาดังกล่าวมาตลอด
ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วขอยืนยันว่าข้อมูลที่นายชวนนท์พูดนั้น ไม่ถูกต้อง
เป็นการบิดเบือน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เนื่องจากพล.ต.อ.พงศพัศ
รับผิดชอบดำเนินการทีโออาร์ ในยุคที่มีพล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ
เป็นผบ.ตร.
ซึ่งทีโออาร์ขณะนั้นคือให้ดำเนินการก่อสร้างโรงพักทดแทนโดยกระจายอำนาจตาม
รายภาค แต่ 6 เดือนหลังจากนั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
รองนายกรัฐมตรีกำกับดูแล ตร.ขณะนั้นได้เซ็นคำสั่งยกเลิก
และคนที่แก้ไขหลักเกณฑ์ในทีโออาร์ให้ทำสัญญาว่าจ้างแบบรวมศูนย์อำนาจที่ส่วน
กลางเป็นสัญญาเดียว คือพล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ รักษาการผบ.ตร.ขณะนั้น มี
พล.ต. ท.ธีรยุทธ กิตติวัฒน์ ผบช.สกบ.พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ
รองผบช.สกบ.และพ.ต.อ.ณัฐเดช พงศ์วรินทร์ ผกก.ฝ่ายโยธาธิการ 2
ยธ.ลงนามรับรองทีโออาร์เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.52
แต่น่าจะมีนัยยะการเมือง มุ่งโจมตี ใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัครผู้ว่าฯ
กทม.พรรคเพื่อไทย เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งม.57 ทีมกฎหมายของพรรค
และพล.ต.อ.พงศพัศ
จะได้หารือเพื่อดำเนินการยื่นฟ้องร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ต่อไป ทั้งนี้โดยตำแหน่งโฆษกพรรคถือเป็นเป็นตำแหน่งในกรรมการบริหารพรรค
จึงเข้าข่ายโทษยุบพรรคด้วย” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
สำหรับความล่าช้าของการก่อสร้างโรงพักทดแทนจนสร้างความเดือดร้อนแก่เจ้า
หน้าที่และประชาชนที่มาใช้บริการอย่างมาก
เป็นการประจานผลงานของรัฐบาลในอดีต สร้างความอัปยศต่อ
ตร.เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ว่ากรณีดังกล่าวไม่มีเกี่ยวข้องกับฝ่าย
บริหารในอดีต
แต่เป็นเรื่องของสัญญาแล้วโยนบาปให้รัฐบาลปัจจุบันและพล.ต.อ.เพรียวพันธ์
ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผบ.ตร.
แสดงถึงธาตุแท้ของอดีตผู้นำเพราะรากเหง้าของปัญหาคือการทำสัญญารวบอำนาจ
ทั้งนี้ตนมีหลักฐานสำคัญที่ได้จากผู้รับเหมาช่วงว่าบริษัทพีซีซีฯ
ไม่เคยรับงานที่มูลค่าเกินหลักร้อยล้านบาทแต่ทำไมได้สัญญาในโครงการก่อสร้าง
โรงพักและแฟลตตำรวจ รวมมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท
“และมีพยานปากเอกที่พร้อมเข้าให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ
ว่า เรื่องนี้น่าจะเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจในอดีต
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องทำสัญญาเดียว
และทำไมต้องตั้งพล.ต.อ.ประทีปเป็นรักษาการผบ.ตร.จนเกษียณอายุราชการ
ทั้งที่เป็นที่รู้กันในวงการตำรวจว่าพล.ต.อ.ประทีปไม่ใช่มือปราบ
แต่เป็นมืองบประมาณ อยู่ในฝ่ายบริหารมาตลอด
ผมจะนำหลักฐานทั้งหมดไปยื่นเพิ่มเติมแก่ดีเอสไอ
ภายในสัปดาห์นี้เพื่อสอบสวนว่าไอ้โม่งเบื้องหลังเป็นใคร
มีเส้นทางเงื่อนงำอย่างไร
พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องพล.ต.อ.ประทีปออกมาชี้แจงต่อสาธารณะด้วย”
นายพร้อมพงศ์ กล่าว
http://www.dailynews...politics/183663
มีปัญญาหรือเปล่าล่ะ