by เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend
on Wednesday, September 14, 2011 at 7:47am ·
รวม 8 เดือนกว่าแล้วที่ วีระ สมความคิด และ ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ถูกจองจำในคุกกัมพูชา หากย้อนไปวันที่เขาทั้งสองถูกจับกุมตัว เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ขณะไปหาหลักเขตแดนไทย-กัมพูชาที่ 46 (เขตตำบลโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว) เพื่อพิสูจน์การรุกล้ำพื้นที่ชายแดนทับซ้อน
การจับกุมครั้งนั้น ฝ่ายกัมพูชาให้ควบคุมตัวคนไทยอีก 5 คน คือ พนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ และ กิชพลธรณ์ ชุสนะเสวี, ร้อยตรีแซมดิน เลิศบุศย์, ตายแน่ มุ่งมาจน, นฤมล จิตรวะรัตนา ซึ่งบางคนเป็นสมาชิก "เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ" ที่มี "วีระ" เป็นแกนนำ
เมื่อทหารเขมรจับไปแล้ว ก็ส่งไปยังทางการกัมพูชาตั้งข้อหา 7 คนไทย ว่าเดินทางข้ามพรมแดนโดยผิดกฎหมาย และรุกล้ำเขตทหาร และถูกนำตัวไปขังไว้ในเรือนจำเปนย์ ซาร์ นอกกรุงพนมเปญ
ขณะที่รัฐบาลไทย ที่มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เร่งดำเนินการช่วยเหลือ โดยให้ กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศเดินทางไปคุยถึงกรุงพนมเปญ แต่ก็ไม่เป็นผล และมีการพูดคุยเจรจากันหลายครั้ง ท่ามกลางปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ที่ศรีสะเกษและสุรินทร์เริ่มตึงเครียด
กระทั้ง วันที่ 13 มกราคม 2553 ศาลกัมพูชาให้ประกันตัว พนิช วิกิตเศรษฐ์ และนฤมล จิตรวะรัตนา โดยยังคงอยู่ระหว่างสู้คดีในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายและเข้าไปในเขตทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนคนไทยที่เหลือยังไม่ได้รับการประกันตัว
สำหรับเงื่อนไขการประกันตัว ได้แก่ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ วางเงินประกันคนละ 1 ล้านเรียล (10,000 บาท) และต้องไปรายงานตัวตามนัดเรียก โดยขณะนี้ทั้งสองยังพำนักอยู่ที่สถานทูตไทย ซึ่งศาลกัมพูชาไม่ได้ให้เหตุผลที่ยอมให้ประกันตัวทั้งสอง แต่เห็นว่า น่าจะเป็นเพราะปัญหาด้านสุขภาพ ที่ทั้งสองป่วยเป็นโรคความดันโหลิตสูงและโรคไทรอยต์ตามลำดับ
ต่อมา ศาลกัมพูชาให้ประกันตัวคนไทยเพิ่มอีก 3 คน คือ กิชพลธรณ์ ชุสนะเสวี, ร้อยตรีแซมดิน เลิศบุศย์ และ ตายแน่ มุ่งมาจน เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2553 เหลือเพียงวีระกับราตรีเท่านั้น โดยให้เหตุผลเป็นภัยต่อความมั่นคงของกัมพูชา
วันที่ 21 มกราคม 2553 ศาลกัมพูชาได้พิจารณาตัดสินคดี ว่าคนไทยทั้ง 5 คน ได้แก่ พนิช กิชพลธรณ์ ร.ต.แซมดิน ตายแน่ และนฤมล มีความผิดฐานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยให้จำคุกคนละ 9 เดือน แต่ให้ลดเหลือ 8 เดือน และให้รอลงอาญาไว้ก่อน หลังจากการตัดสินดังกล่าว ทำให้คนไทยทั้ง 5 คนสามารถเดินทางกลับประเทศได้ทันที
ส่วน วีระ สมความคิด ถูกตัดสินจำคุก 8 ปี พร้อมปรับเป็นเงิน ปรับ1ล้าน 8แสนเรียล และราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ จำคุก 6 ปีปรับ 1 ล้าน 2แสนเรียล ใน3 ข้อหาด้วยกัน โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งราตรีถึงกับน้ำตาไหล หลังศาลกัมพูชา ขณะเดียวกัน แม่ของวีระ ซึ่งฟังคำพิพากษาอยู่ด้วยนั่ง"น้ำตาไหล" เช่นกัน
จากวันนั้น ถึงวันนี้ จากสมัย "รัฐบาลอภิสิทธิ์" ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ "รัฐบาลฮุนเซน" การเจรจาไม่ราบรื่น ปัญหาชายแดนบานปลาย
ครั้นไทยเปลี่ยนเป็นรัฐบาลใหม่ มีนายกฯชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล ท่าทีของรัฐบาลกัมพูชาก็ดีตามลำดับ จนมีข่าวลือในวันนี้ (14 ก.ย.) ว่า "วีระ-ราตรี" จะได้รับการปล่อยตัว หลังนายกฯหญิงยิ่งลักษณ์จะไปเยือนเขมร, แกนนำแดง นปช. จะไปเตะฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ และอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็จะเดินทางไปเขมรในช่วงเวลาใกล้เคียงกันด้วย
แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง "เพื่อไทย-ฮุนเซน" แน่นแฟ้นต่างจากสมัยประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง
ทว่า ข่าวลือปล่อยตัว "วีระ-ราตรี" ยังไม่ทันจาง กลับมีแถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ลงวันที่ 14 กันยายน 2554 ตอบโต้การรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นฉบับวันที่ 14 กันยายน 2554 รัฐบาลกัมพูชากำลังหาทางขอพระราชทานอภัยโทษให้กับวีระ สมความคิด และสาวราตรี พิพัฒนาไพบูลย์
โดยกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ระบุว่าการรายงานข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และ ไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆทั้งสิ้น ขอยืนยันว่าคดีความของผู้ต้องหาทั้งสองจะได้รับการดำเนินการตามกฏหมายของกัมพูชา และ ผู้ต้องหาทั้งสองรายต้องได้รับโทษอย่างน้อย 2 ใน 3 ก่อนที่จะมีสิทธิ์ขอรับพระราชทานอภัยโทษ
กระนั้น ในวังวนข่าวลือ ข่าวปล่อย ความหวังของ "วีระ-ราตรี" ยังพอมีอยู่ เพราะความสัมพันธ์ระหว่าง "ทักษิณ-ฮุนเซน" หากช่วยไม่ได้แล้ว รัฐบาลยิ่งลักษณ์คงเสียหน้าไม่น้อย เพราะออกตัวหาเสียงว่าช่วย "วีระ-ราตรี" ได้แน่ จึงน่าจะติดตามว่า "ฮุนเซน" จะจัดให้ "ยิ่งลักษณ์" ได้หรือไม่?
ตำแหน่งเดิมของหลักเขต
ต่อมามีการสำรวจหลักเขตใหม่ ก็เป็นดังนี้
เมื่อหลักเขตเปลี่ยนไปจากเดิม ก็เป็นที่สนใจของผู้เกี่ยวข้อง มาบัดนี้ มีใครพอบอกได้ไหมว่าเขตแดนเราอยู่ตรงไหน