วันนี้ (13 ก.พ.) นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ชี้แจงกับสำนักข่าวทีนิวส์ กรณีคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัดประกาศไม่ร่วมทำกิจกรรมกับนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ว่า เป็นการแสดงจุดยืนของกลุ่มว่าไม่พอใจนางธิดา เพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รวมทั้งองค์กร เพราะยังศรัทธา นปช.เหมือนเดิม
ทั้งนี้ ความไม่พอใจเริ่มตั้งแต่การชุมนุมใหญ่ที่โบนันซา ซึ่งนางธิดาไม่ให้เวลาแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสานได้ขึ้นเวทีแนะนำตัว แต่กลับเอาเวลาไปร้องรำทำเพลง โดยนายขวัญชัย มองว่า นางธิดาไม่ได้มาจากแดงแท้ แค่พวกอยากดังขึ้นมาเป็นประธาน นปช.ทั้งที่ไม่มีมวลชน วางมาดเป็นนางพญา พยายามสร้างราคาให้คนดูไบเห็น หวังได้ตำแหน่งอย่างแกนนำรุ่นแรก เลยเอาคนตาย คนติดคุก มาหากิน ปลุกระดมมวลชน
"ทุกวันนี้ นปช.เสื่อมลงเรื่อยๆ เคลื่อนไหวโดยไม่ฟังคนแดนไกล ทั้งที่ขับเคลื่อนด้วยเงินของคนแดนไกล หลงตัวเอง ว่ารัฐบาลชุดนี้เกิดได้เพราะเสื้อแดง เสื้อแดงเป็นของคุณเหรอ มันไม่ใช่" นายขวัญชัยกล่าว พร้อมฝากถึงนายจตุพรว่า หลังจากนี้คงคิดอะไรได้มากขึ้น และอย่าหูเบาอีก ส่วนตนเองและนางธิดา คงจะต่างคนต่างอยู่ โดยย้ำว่ากลุ่มคนเสื้อแดงอีสานจะไม่ร่วมกิจกรรมกับ นปช.อีก หากมีนางธิดาเป็นคนนำ
จากทีนิวส์
วันนี้ ( 13 ก.พ. ) นางธิดา ถาวรเศษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการณ์แห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า ขณะนี้มีปัญหาหลายปัญหาโดยเฉพาะภาคเศรษฐกิจที่รัฐบาลขณะนี้ยังแก้ไม่ได้ โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งที่ผ่านมา นปช. ไม่เคยแตะ ธปท. แต่ขณะนี้แม้รัฐบาลก็ยังทำอะไรกับ ธปท. ไม่ได้ โดยเฉพาะ ผู้ว่าฯ ธปท. เราก็รู้จักกันดีตั้งแต่สมัย 14 ต.ค. 2526 แต่เวลานี้เราขอตั้งคำถามเวลานี้ท่านกำลังรักษาประโยชน์ของกลุ่มทุนการเงิน เพื่อรักษาเครือข่ายอำมาตย์หรือไม่ จึงไม่ยอมลดดอกเบี้ยลงมา ท่านกำลังรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มทุนและคนรวยมากกว่า ผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ในประเทศหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ประชาชนกำลังจับตาดูอยู่ นอกจากนั้นขอถามไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในเรื่องคดีองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ที่กำลังจะหมดอายุความในเดือน มิ.ย. นี้ ป.ป.ช. เป็นเครือข่ายอำมาตย์ที่ทำตัวเป็นองค์กรอิสระ เลือกปฏิบัติในการที่จะตรวจสอบเฉพาะกลุ่มที่ไม่ใช่เครือข่ายอำมาตย์หรืออย่างไร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็เช่นกัน ในวันที่ 14 ก.พนี้ เราจะเดินทางไปยัง กกต. เพื่อขอให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ให้บริสุทธิ์ยุติธรรมด้วย ซึ่งคนเสื้อแดงจะจับตาการเลือกตั้งครั้งนี้ต่อไป โดยจะมีสมาชิกกว่า 1.2 หมื่นคนมาร่วมเป็นอาสาสมัครในการตรวจสอบการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 3 มี.ค.นี้
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มเสื้อแดง 20 จังหวัดภาคอีสาน ต่อต้านและไม่ขอเข้าพวกกับนางธิดา ว่า มีความพยายามทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในขบวนการคนเสื้อแดง มีทั้งการแบ่งแยกแล้วปกครอง และแบ่งแยกแล้วทำลาย ซึ่งอยากให้ดูกรุงศรีอยุธยาแตกทั้ง 2 ครั้ง เพราะมีคนไปเปิดประตูให้พม่าเข้ามาตีเมือง คำว่าแกนนำเป็นคำสมมติที่พี่น้องได้มอบให้ในการชุมนุม ไม่ใช่สิ่งที่อยู่จีรังติดตัวใครไปจนตาย ขบวนการคนเสื้อแดงเป็นขบวนการที่มีสิทธิเสรีภาพเป็นอิสระ และเป็นอุปสรรคขวากหนามของอำมาตยาธิปไตย เขาจึงพยายามทำลาย บางครั้งมิตรก็เผลอไปกลัวตามศัตรู คนเสื้อแดงจึงเจอมิตรที่ไม่เข้าใจและศัตรูที่จ้องทำลาย ถ้าเอาตัวเองเป็นที่ตั้งและคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ตนว่าเขาคิดผิดมากที่สุด เพราะคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือวีรชนและพี่น้องที่ติดคุกอยู่ทุกวันนี้
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ความจริงเรื่องนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับขบวนการคนเสื้อแดงอีกแล้ว ซึ่งก็เป็นเจ้าเก่าเจ้าประจำ แต่วิธีการที่พยายามอธิบายว่าไม่พอใจนางธิดา น.พ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และตน ถึงขนาดระบุว่านางธิดาและนพ.เหวงเป็นประชาธิปัตย์ เรื่องนี้เป็นอาวุธที่ออกมาจากคนที่เป็นมิตร และที่สำคัญที่สุดคือศัตรูนำเอาไปใช้ เขาอยากว่าอะไรก็ว่าได้แต่อย่าว่าพวกเราเป็นประชาธิปัตย์ ทั้งนี้เหตุผลที่เขาไม่พอใจก็เป็นเหตุการณ์ที่ใช้ไม่ได้ คือมาเวทีแล้วไม่ได้ขึ้นพูด คุณต้องพังเวทีด้วยหรือ การจัดคิวบนเวทีไม่ใช่เรื่องของนางธิดา แต่กลับเอาอารมณ์ไม่พอใจ เพียงแค่การไม่ได้ขึ้นเวที แล้วมาชี้หน้าประธาน นปช. ว่าเขาเป็นพวกประชาธิปัตย์
“ที่ออกมาแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมโดยบอกว่าให้รัฐบาลอยู่ได้ก่อนนั้น นายกฯ ก็ไม่เคยพูดว่าจะแก้ในปีสุดท้ายหรือแก้ใน 3 เดือนสุดท้าย แต่คนในของพวกเราบอกให้เอาไว้ปีสุดท้าย ขอให้ย้อนดูวันที่ตัวเองติดคุก พี่น้องอยู่ที่เรือนจำก็ไม่ได้รู้สึกต่างกัน ถ้าผมไปบอกว่าพี่น้องติดคุกไปก่อนเถิด แล้วแก้ในปีสุดท้าย ผมก็เป็นคนใช้ไม่ได้ และรัฐบาลก็ไม่ได้พูดแบบนี้ การนิรโทษกรรมเป็นการนิรโทษกรรมให้ประชาชนเท่านั้น และได้โปรดอย่าอธิบายว่าให้ประชาชนถูกขังไปก่อน เพื่อให้รัฐบาลอยู่ได้ พูดอย่างนี้ไม่ใช่การช่วยรัฐบาลแต่เป็นการทำร้ายรัฐบาลมากกว่า ดังนั้นคนที่ขัดขวางการนิรโทษกรรมต่างหากคือคนที่ทำร้ายรัฐบาล เวลานี้เต็มไปด้วยการเสี้ยม อย่าคิดว่าใครยิ่งใหญ่กว่าใคร การวิพากษ์โจมตีประธาน นปช. คือการทำลายขบวนการประชาชน ยืนยันไม่ใช่เรื่องการแตกแยก ในสนามการต่อสู้นี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ที่สำคัญตนไม่เคยกลัวศัตรู แต่กลัวมิตรมาทำลายคนเสื้อแดงมากกว่า การเดินแบบนั้นเป็นการทำลายทั้งตัวเองและขบวนการประชาชน ยังมีเวลาที่คุณจะได้คิดและปรับกันใหม่ สนามประชาชนพร้อมอภัยเสมอ” นายจตุพร กล่าว
ด้านนายนิสิต สินธุไพร ผอ.โรงเรียน นปช. กล่าวว่า มีข่าวมาตลอดว่าแกนนำภาคอีสานพยายามจะแยกตัวจาก นปช. ปัญหาคือคนบางคนพยายามสร้างตัวเองให้เป็นคนสำคัญ และพยายามสร้างภาคอีสานแยกต่างหากจาก นปช. ส่วนกลาง เขาพยายามมา 5-6 ปีแล้ว ขอเรียนว่าการชุมนุมแต่ละครั้งภาคอีสานจะมาร่วมมากที่สุด แต่พี่น้องประชาชนเขาขึ้นตรงกับ นปช. แม้คนบางคนจะไม่ขึ้นและเหลืออยู่คนเดียวก็ตาม ระหว่างการต่อสู้มีมิตรของเราพยายามทิ่มแทงขบวนการตัวเอง แต่ทำไม่สำเร็จ ขอเตือนว่ามิตรคนนี้เคยติดคุกด้วยกัน ช่วงติดคุก 6 เดือนกว่าอยากออกจากคุกมาก ร้องห่มร้องไห้ตลอด วันนี้มาประกาศเรื่องการนิรโทษกรรมเพื่อความยิ่งใหญ่ส่วนตัว ขอบอกว่าพี่น้องประชาชนภาคอีสานขึ้นกับขบวนการ นปช. ไม่ได้ขึ้นกับแกนนำ ใครจะสถาปนาตัวเองให้ยิ่งใหญ่และรวบหัวรวบหางประชาชนก็ไม่มีวันสำเร็จ ในภาคอีสานมีขบวนการซ้อนขึ้นมาเพื่อทำลาย นปช. แต่แพ้ภัยตัวเองทุกคน คนที่แยกตัวเองเพื่อหวังยิ่งใหญ่สุดท้ายก็อย่ากลับมาขึ้นเวที นปช.อีกเลย.
Edited by คนกินข้าว, 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:25.