http://www.dailynews...election/184005
วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556
“ยิ่งลักษณ์” เรียกประชุมนัดพิเศษ รับนโยบาย 20 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปรับยุทธศาสตร์ เน้นป้องกันโกง ตั้งมือกฎหมาย “โภคิน-สุชน” ที่ปรึกษาศูนย์เลือกตั้ง
ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคในฐานะรองโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แถลงว่า
ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ เวลา 16.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นประธานการประชุมประสานงานโครงข่ายจราจรอย่างไร้รอยต่อ โดยจะเป็นการประชุมระดมสมองแก้ปัญหาจราจรใน กทม.อย่างเป็นระบบ รวมทั้งจะทำอย่างไรให้การจราจรใน กทม.เชื่อมโยงกับการแก้ปัญหาของรัฐบาลในภาพรวม เพื่อให้เป็นไปในทางเดียวกัน
ทั้งนี้จะได้เชิญสมาชิกพรรคที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะอดีต รมว.คมนาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์นโยบายหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทั้งนี้ผลการหารือจะนำไปบรรจุในการแถลงนโยบายด้านการจราจรของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น.
ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์การหาเสียง 20 วันสุดท้าย จะเน้นป้องกันการโกง โดยจะตั้งอาสาสมัคร 6,548 คนประจำทุกหน่วยเลือกตั้งให้รู้เท่าทันข้อกฎหมาย อีกทั้งพรรคกำชับไม่ให้รัฐมนตรีใช้ตำแหน่งทางราชการเอื้อประโยชน์ผู้สมัคร แต่ขอให้ลงพื้นที่ในฐานะสมาชิกพรรค
นอกจากนี้พรรคได้แต่งตั้งที่ปรึกษาของศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง รวม 8 คน ประกอบด้วย นายโภคิน พลกุล พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี นายสุชน ชาลีเครือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา นายโอฬาร ไชยประวัติ นางนลินี ทวีสิน นายวิฬุร เตชะไพบูลย์ และพิเชษ สถิรชวาล ส่วนวันที่ 14 ก.พ.ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์ ได้ทำบัตรหาเสียงเลือกตั้งซึ่งเป็นรูปหัวใจ เพื่อเตรียมแจกในวันดังกล่าวด้วย.
ยุทธศาสตร์การหาเสียง 20 วันสุดท้าย ถ้าออกมาแบบนี้ก็น่าจะอืดละครับ
มาแล้วล่าสุดๆของจูดี้....
http://www.khaosod.c...9PQ==&subcatid=
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 14:18 น.
ข่าวสดออนไลน์
‘พงศพัศ’แถลงนโยบาย 2 ขา แก้จราจร
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย แถลงเปิดตัวนโยบายด้านการจราจรภายใต้หัวข้อ
“โครงข่ายจราจร ไร้รอยต่อเพื่อคน กทม.”
โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นายจาตุรนต์ ฉายแสง ฐานะประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์นโยบายหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นางสิริกร มณีรินทร์ นางณหทัย ทิวไผ่งาม รวมทั้ง ส.ส. ส.ก.และ ส.ข.พรรคเพื่อไทยร่วมรับฟัง
โดย พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงในช่วงที่ผ่านมา ประชาชนได้ร้องเรียนและฝากให้ช่วยแก้ไขปัญหาด้านการจราจรเนื่องจากปัจจุบันต้องใช้เวลาในการเดินทางมาก ซึ่งผู้ว่าฯกทม.คนใหม่จะต้องมีบทสรุปการแก้ไขรวมทั้งต้องมีทางเลือกเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ดังนั้นตนจึงมีนโยบาย 2ขาหรือ 2 ยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ประกอบด้วย
1.เชื่อมโยงโครงข่ายและเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว เพื่อส่งเสริมให้คนกทม.สามารถเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งมวลชน รถ เรือ ราง จักรยาน ทางเท้าเป็นหลักในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย โดยในส่วนของรถไฟฟ้า จะต้องพัฒนาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดแนว ถ.ราชพฤกษ์ ช่วงบางหว้า - ถ.บรมราชชนนี ระยะทาง 7.5 กม. ช่วงแบริ่ง - บางปู จ.สมุทรปราการ ระยะทาง 11 กม.และช่วงสะพานใหม่ - ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ระยะทาง 12 กม. ทำรถไฟฟ้าขนาดเบา รอบศูนย์กลางคมนาคมพหลโยธิน ระยะทาง 7 กม.ทำรถไฟฟ้าขนาดเบาสายสีเทา ช่วงวัชรพล - พระราม 9 ระยะทาง 15.5 กม. ปรับโครงสร้างทางด่วนเส้นทางงามวงศ์วาน - ม.เกษตรศาสตร์ - ประเสริฐมนูกิจ เป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา เพื่อลดปัญหาเรื่องเสียงและมลพิษ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาของกระทรวงคมนาคม พัฒนาระบบรางในพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า นอกจากนี้จะต้องบูรณาการยกระดับรถประจำทางให้ฟรีเพื่อผู้มีรายได้น้อย ติดตั้งป้ายโดยสารดิจิตอลบอกเวลา เชื่อมโยงสัญญาณจีพีเอส ระบบแจ้งเตือนระยะเวลาการเดินทางให้กับผู้โดยสารพัฒนาระบบการเดินรถผ่านป้ายรถโดยสารแบบดิจิตอล
ในส่วนของเรือจะยกระดับการสัญจรในคลองแสนแสบและคลองผดุงฯ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า พัฒนาพื้นที่สองฝั่งคลองปรับปรุงเรือแบะท่าเรือโดยสารให้ดีขึ้นขุดลอกคูลองเพื่อการระบายน้ำไปจนถึงปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ใสสะอาด ในส่วนของรถจักรยาน
จะพัฒนาเส้นทางพิเศษเฉพาะจักรยานตามแนวทางเส้นทางรถไฟชานเมือง รวมทั้งทำจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าและแอร์พอร์ต ลิงก์
พัฒนาเส้นทางจักรยานเชื่อมต่อ ม.ลาดกระบัง พัฒนาจุดจอดรถและรถจักรยานบริเวณสถานีรถไฟฟ้า นอกจากนี้จะทำจุดเชื่อมต่อระหว่างบีทีเอสและเอ็มอาร์ที โดยการทำอุโมงค์หรือทางข้ามเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร สนับสนุนระบบฟีดเดอร์เชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้า ทำทางเดินริมเจ้าพระยา ระหว่าวสะพานพระราม 8 - สะพานสาทร ระยะทาง 16 กม. ประสานกับรัฐบาลผลักดันตั๋วร่วม 1 ใบ ใช้ได้ทุกที่ รวมทั้งประสานกับเอกชนบริหารจุดจอดรถแท็กซี่ โดยจะประสานกับห้างสรรพสินค้า จัดจุดจอดสำหรับรถแท็กซี่โดยเฉพาะ
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า และ 2. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจราจรให้ลื่นไหล คล่องตัว ย่นระยะเวลาการเดินทางมากขึ้น โดยการจัดตั้งศูนย์จราจรกรุงเทพฯ ดูแลการจราจรภาพรวม โดยประสานเชื่อมสัญญาณภาพจราจรจากกล้องซีซีทีวีจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม การทางพิเศษฯ สนข.เข้าสู่ศูนย์ฯ เพื่อการบริหารจัดการจราจร จัดทำอาสาสมัครจราจรหรือซีซีทีวีมนุษย์ประมาณ 1แสนคน นอกจากนี้จะทำระบบไอทีเอสเพื่อบริหารการจราจร โดยการควบคุมสัญญาณจราจรจากศูนย์ฯ ผ่านระบบเอทีซี เชื่อมโยงเครือข่ายสัญญาณไฟจราจรประมาณ 580 ทางแยก ให้เชื่อมโยงกับสัญญาณไฟ รวมทั้งการสร้างวินัยจราจร ใช้ระบบซีซีทีวีผสานระบบตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ ทำระบบรายงานสภาพจราจร เช่น ข้อมูลจราจร เหตุฉุกเฉิน เป็นต้น ผ่านมือถือ การคืนผิวจราจรทั้งการขยายช่องจราจรเพิ่มเติม เพิ่มทางลอดวงแหวนรัชดาภิเษก โดยการสร้างอุโมงค์ทางลอดหรือทางข้ามบริเวณแยกเทียมร่วมมิตร แยกพระราม 9 แยกอโศก - เพชรบุรีและแยกอโศก ในส่วนของบีอาร์ทีจะพิจารณาว่าปัจจุบันมีความคุ้มทุนหรือไม่ หากพบว่าไม่มีความคุ้มทุนจะต้องบริหารจัดการใหม่ ที่สำคัญตนมีโยบายให้รถเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดบริเวณทางแยกและทำทางยูเทิร์น เหมือน ถ.วิภาวดี เพื่อให้การจราจรคล่องตัวขึ้น
“เป้าหมายของผมในช่วงปีแรกจะต้องลดการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนให้เร็ว ขึ้นประมาณ ร้อยละ 20-30 นอกจากนี้จะต้องเพิ่มความเร็วเฉลี่ยในถนนหลักเพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 25 ทั้ง ถ.พลลโยธิน - พญาไท ถ.บรมราชชนนี - ราชดำเนินกลาง ถ.พระราม 4 ถ.รามคำแหง - พระราม 9 ถ.ลาดพร้าว ถ.เพชรเกษม - ถ.จรัญฯ เพื่อคืนเวลาให้ภาคธุรกิจ คืนความสุขให้ครอบครัว โดยผู้ว่าฯกทม.ต้องทำทันที ประสานการทำงานกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ เพื่อบรรเทาปัญหาให้คน กทม.” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว
โอ้โฮ...น้ำท่วมทุ่งเชียวนะตัวเอง
Edited by คนกรุงธน, 13 February 2013 - 14:17.