ปฏิบัติการเมื่อคืนนี้ครับ พากันไปดูผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ กทม ต้องจัดระเบียบ จะปล่อยให้อยู่กันอย่างนี้ไม่ได้ เพื่อสวัสดิภาพของทุกฝ่าย เพื่อหน้าตาของบ้านเมือง เพื่อความยั่งยืนของสังคม และถือเป็นสิทธิของมนุษย์ที่ต้องมีที่อยู่อาศัยตามควร ทั้ง กทม และประชาชนอื่นจะถือว่า "ธุระไม่ใช่" ไม่ได้นะครับ
โสภณ พรโชคชัย
ลงมาพูดคุยกับคนเร่ร่อน ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ ดร.โสภณ ลงมาพื้นที่ เป็นปกติ ไหว้คนข้างถนนเป็นปกติ ทุกครั้ง
คุณโสฯ คุณชายหมู ทำเสร็จไปนานแล้ว นะ
“บ้านอิ่มใจ” ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาคนไร้บ้านและบุคคลหรือครอบครัวที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนและไร้ที่พึ่ง หรือมีรายได้น้อย ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการและการสงเคราะห์แก่ผู้รับบริการ ซึ่งได้เปิดให้บริการไปตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2555(http://bit.ly/143XrPj)
เปิดผลงานดีเด่น สมัยคุณชายหมู เปิด"บ้านอิ่มใจ"...ที่พักพิงของคนเร่รอนในกรุง เลือกผู้ว่า กทม. #16 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
เปิด"บ้านอิ่มใจ"...ที่พักพิงของคนเร่รอนในกรุง
http://www.dailynews.co.th/thailand/168907
ปัญหาคนไร้บ้าน มักเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ ที่มีค่าครองชีพค่อนข้างสูง ในขณะที่ค่าจ้างแรงงานและโอกาสในการหางานมีไม่สูงนัก คนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำมาหากินในเมืองใหญ่อย่างเช่นกรุงเทพมหานคร หลายรายกลายเป็นคนไร้บ้าน เร่ร่อน เพราะไม่มีเงินพอในการเช่าที่พักอาศัย จึงสร้างปัญหาสังคมเพื่อให้ตนเองสามารถดำรงชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ให้ได้ จึงเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย เมื่อคนไร้บ้านถูกมองว่าเป็นคนหนึ่งที่ก่อปัญหาอาชญากรรม ทั้งที่คนเหล่านั้นต้องการแค่โอกาสในการทำมาหากิน เลี้ยงชีพและส่งเสียครอบครัว และส่วนใหญ่ยังมีปัญหาครอบครัวแตกแยก หย่าร้าง หรือการไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม จากข้อมูลการสำรวจกลุ่มคนไร้บ้านในพื้นที่กรุงเทพฯ ล่าสุดเมื่อปี 2554 พบว่าจำนวน 1,093 คน แบ่งเป็นชาย 922 คน หญิง 141 คน และเด็ก 30 คน
ทางสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ให้ความสำคัญของการดูแลและการจัดสวัสดิการแก่ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งเหล่านี้ จึงจัดทำ “บ้านอิ่มใจ” เพื่อเป็นศูนย์คัดกรอง ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาคนไร้บ้านและบุคคลหรือครอบครัวที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนและไร้ที่พึ่ง หรือมีรายได้น้อย ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการและการสงเคราะห์แก่ผู้รับบริการ ซึ่งได้เปิดให้บริการไปตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา
บ้านอิ่มใจ เป็นอาคาร 3 ชั้นในพื้นที่สำนักงานประปาแม้นศรี มีพื้นที่ใช้สอยรวม 10,000 ตารางเมตร โดยชั้นล่างเป็นสำนักงานห้องจัดกิจกรรม และลงทะเบียนผู้เข้าพักเป็นรายวัน ชั้น 2 เป็นห้องพักรวมหญิง ชั้น 3 เป็นห้องพักรวมชาย สามารถรองรับการเข้าพักได้วันละ 200 คน เป็นชาย 100 คน และหญิง 100 คน ในระหว่างเวลา 15.00 น.-22.00 น. และออกจากที่พักก่อนเวลา 09.00 น. มีอาหารเช้าและอาหารเย็นให้กับคนที่มาใช้บริการ เข้าพักฟรีได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดย กทม.ตั้งงบประมาณใช้จ่ายปีละ 30 ล้านบาท
คุณสมบัติของผู้รับบริการ คือจะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย (กรณีคนต่างด้าวจะต้องประสานส่งต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ต้องมีความสมัครใจ สามารถช่วยเหลือตัวเองในการดำรงชีวิตประจำวันได้ ไม่เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงหรือติดยาเสพติดให้โทษ ไม่เป็นผู้วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่เป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอาญา หรืออยู่ระหว่างสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือถูกดำเนินคดี ซึ่งหากเข้าข่ายว่าติดยาเสพติด วิกลจริต ก็จะส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือต่อไป
ส่วนขั้นตอนการเข้าใช้บริการนั้น ในทุกวันจะมีเจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนเข้าพัก เพื่อทำการคัดกรองว่ามีคุณสมบัติตรงตามวัตถุประสงค์ของการให้บริการ โดยต้องยื่นหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่น ๆ ที่สามารถแสดงตนได้ การสัมภาษณ์สอบถามประวัติ การตรวจสอบอาวุธ การตรวจร่างกายเบื้องต้น และมอบกุญแจล็อกเกอร์ให้ใช้สำหรับคนมีสัมภาระ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะมอบเครื่องนอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และอุปกรณ์ในการทำความสะอาดร่างกาย รายใดที่ไม่มีเสื้อผ้ามาผลัดเปลี่ยนก็จะมีให้บริการ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางเลือกไว้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ กิจกรรมฝึกอาชีพ อาทิ ร้อยลูกปัด กรอบรูปวิทยาศาสตร์ กัดลายกระจก นวดแผนไทย ช่างจักรยานยนต์ เป็นต้น
เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานบ้านอิ่มใจกล่าวว่าตั้งแต่เปิดให้บริการ มีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากวันแรกที่มี 1-2 คน แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 20-30 คน โดยยอดล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. มียอดรวม 149 คน เป็นเพศชาย 144 คน เพศหญิง 5 คน อายุตั้งแต่ 18-65 ปี โดยมาจากคนที่อาศัยอยู่ตามท้องสนามหลวง พาหุรัด สวนรมนีนาถ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ วงเวียน 22 กรกฎา สะพานพุทธ แคมป์คนงานก่อสร้าง เป็นต้น ทั้งนี้สาเหตุที่คนยังเข้าพักในช่วงแรกยังน้อย เนื่องจากที่ผ่านมาคนมักกลัวว่าจะเหมือนหน่วยงานอื่น ๆ ที่เข้าไปแล้วออกไม่ได้ ไม่สามารถไปทำมาหากิน หรือใช้ชีวิตตามที่เขาต้องการ ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีคนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ที่เข้ามาใช้บริการแล้วไปบอกต่อ รวมถึงเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เพื่อชักชวนให้คนเข้ามาใช้บริการ ซึ่งหากในอนาคตมีคนมาใช้บริการมากเกินกว่าที่จะรองรับได้ก็จะให้สิทธิคนที่มาลงทะเบียนก่อนในแต่ละวัน
นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ จนจบ กศน.ม.6 ในช่วงแรกก็เข้าทำงานบริษัท ทำงานโรงงาน แต่ก็มีการเปลี่ยนงานบ่อย ประกอบกับมีปัญหากับคนรักจึงได้เลิกรากัน หลัง ๆ หางานยากขึ้น ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นจึงออกตระเวนหางานรายวัน จะรอทำงานรับเป็นรายเดือนก็ไม่ได้ เพราะในระหว่างเดือนก็ไม่มีเงินใช้จ่าย จึงรับจ้างรายวัน แจกใบปลิวบ้าง รปภ.รายวันบ้างช่วยล้างจาน ขนของตามจุดที่มีงานเทศกาลบ้าง และใช้ชีวิตตอนกลางคืนแถวท้องสนามหลวง โดยการซื้อผ้าใบ 20 บาทมาปูนอน ส่วนอาบน้ำก็อาบห้องน้ำสาธารณะที่เก็บค่าบริการ 5 บาท ส่วนการเข้ามาใช้บริการบ้านอิ่มใจเพราะเพื่อนบอกว่าดี เลยมาลองดู จึงรู้ว่าเป็นที่พักให้กับผู้มีรายได้น้อยที่สะดวกสบาย มีอาหาร มีที่พัก มีเพื่อน และยังให้อิสระกับเราให้สามารถออกไปประกอบอาชีพทำมาหากินและใช้ชีวิตตามปกติได้
นายบี (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ตนเคยมีครอบครัวแต่ได้เลิกรากันไปนานแล้ว ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น และร่างกายเริ่มต้องการการพักผ่อน จึงออกจากงาน และมารับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ พอมีเงินอยู่บ้าง ก็ใช้ชีวิตพักผ่อนตามหอสมุดแห่งชาติ สวนสาธารณะ และเมื่อรับทราบจากหนังสือพิมพ์ว่ามีบ้านอิ่มใจเลยลองมาใช้บริการ จึงรู้ว่าไม่เหมือนที่อื่น ที่เข้าไปแล้วมักออกมาใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้ ถูกกักบริเวณ แต่ตนต้องการอิสระ ซึ่งตนมาใช้บริการแล้ว 5 วัน รู้สึกประทับใจเพราะให้บริการดีกว่าที่คาดไว้
นายซี (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นใบ้ ให้ข้อมูลว่า ตนได้เข้ามาอยู่บ้านอิ่มใจแล้ว 4 วัน ในทุกวันก็จะออกไปประกอบอาชีพเข็นดอกไม้ เข็นผักที่ปากคลองตลาด และพักอาศัยหลับนอนที่ตลาดและสะพานพุทธมาโดยตลอด ซึ่งคนที่รู้จักได้อ่านข่าวรู้ว่ามีบ้านอิ่มใจ จึงบอกให้มาลองใช้บริการ ซึ่งตอนนี้ตนก็ชวนเพื่อนเข้ามาพักแล้ว 2-3 คน
ด้านจันทนา พันธุ์พิริยะ รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กล่าวว่า กทม.ยังคงส่งเจ้าหน้าที่พร้อมประสานทางมูลนิธิ และเอ็นจีโอ ลงพื้นที่เพื่อเผยแพร่โครงการและประชาสัมพันธ์ให้บ้านอิ่มใจเป็นที่รู้จักกับคนไร้บ้านและจุดประสงค์ในการช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้เขาเกิดความหวาดกลัว สำหรับคนที่จะเข้ามาใช้บริการสามารถเข้ามาได้ที่บ้านอิ่มใจ ตั้งอยู่เลขที่ 2/22 สี่แยกแม้นศรี เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย บริเวณสำนักงานการประปา สาขาแม้นศรี (เดิม) หรือโทรฯ สอบถามได้ที่เบอร์ 08-0915-1009 หรือ 0-2224-7669-70
การหยิบยื่นโอกาสให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขและปลอดภัย เพื่อเป็นโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถือเป็นแนวทางการสร้างสังคมเมืองให้น่าอยู่.
ณปภัช จันทร์อุดม
Flower Dang โครงการดีๆๆแบบนี้ น่าจะเอามาประชาสัมพันธ์ ให้มากๆนะคะ คนทั่วไปจะได้รู้
ศุภมิตร ศิลปสมบูรณ์ มีโอกาส เวลาเข้าไปประชุม ที่กรุงเทพฯ จะหาโอกาสไปพักซะหน่อย ไม่ได้ไปเบียดเบียนแย่งที่เค้านะ เพียงแต่อยากหาประสบการณ์ หน่ะจ๊ะ
Jap Sornpaisarn เป็นโครงการที่ดีมากจริงๆค่ะ ชื่นชมมาก
คุณปลื้มเชียร์โสภณเป็นผู้ว่ากทม
http://www.youtube.com/watch?v=Kqwls7gmyD0
คุณปลื้มได้กรุณาเชียร์โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 เป็นผู้ว่ากทม.
ถูกต้องเลยค่าาา พี่น้องเสื้อแดงมาช่วยกันเลือกด๊อกโสภณ เบอร์4 กันเยอะๆ นะค้าาา
เสื้อแดงน่ารักมากค่ะ