![Photo](http://static.serithai.net/webboard/uploads/profile/photo-9619.gif?_r=1333121710)
ของเก่า...แต่รื้อฟื้นทีไดก็..ยังเจ็บในหัวใจคนรักความยุติธรรม!!!
#2
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 09:05
นึกถึงคำพูดที่ว่า "ต้นไม้พิษ"
#3
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 09:37
ตระกูลโคตรโกงแบบนี้ มีแต่คนชั่วที่ยังชื่นชอบ
#5
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 09:58
เดี๋ยวคนกลางก็จะทำหน้ามึนโผล่หัวมาบอกว่าพวกเราไปเกลียดเขาเพราะแค่ว่าเป็นลูกทักษิณ
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#6
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:16
#7
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:19
#8
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:35
เอาจริง ๆ เลยป่ะ
ระบบการออกข้อสอบเอนทรานซ์ ณ ตอนนั้น เป็นแบบที่ ให้อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน ๔-๕ ท่าน ออกข้อสอบมา คนละ ๑๐๐ ข้อ รวมเป็น ๕ ร้อยข้อ
จากนั้นให้ผู้ทรงคุณวุฒิอีกชุดหนึ่ง มาทำการคัดเลือกข้อสอบจาก ๕๐๐ ข้อนั้น ให้เหลือ ๑๐๐ ข้อ เพื่อนำไปเป็นข้อสอบเอนทรานซ์
ขั้นตอนการจัดทำ
แต่ละวิชา จะมีพนักงานพิมพ์ข้อสอบ ๑ คนเป็นหลัก และในระหว่างการพิมพ์ จะมีผู้ควบคุมการพิมพ์ชนิดว่านั่งอยู่หลังคนพิมพ์ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ดูเนื้อหาของข้อสอบที่พิมพ์อีก ๑ คน (ผลัดเปลี่ยนกัน จากจำนวนคณะกรรมการพิมพ์ข้อสอบราว ๑๐ คน)
การพิมพ์ข้อสอบ จะเริ่มที่ประมาณ ๙ โมงเช้าของทุกวันระหว่างระยะเวลา เสร็จที่ ๑๖.๐๐ น. ข้อสอบที่พิมพ์ หากยังไม่เสร็จ จะถูกเซฟลงดิสก์เพียง ๑ แผ่นเท่านั้น ไม่มีการบันทึกลงฮาร์ดไดร์ฟ ไม่มีการทำสำรอง ระหว่างพักทานข้าว หรือหลังจากเสร็จการพิมพ์ในแต่ละวัน ดิสก์นั้นจะถูกเก็บใส่ซอง ปิดผนึก และอาจารย์ผู้ควบคุมการพิมพ์จะต้องลงลายมือชื่อ สลักไว้ที่ผนึกนั้น ๆ เสมอ จำนวน ๖ ตำแหน่ง และมีการบันทึกการปิด หรือเปิดซองเก็บดิสก์ทุกครั้ง
จากนั้น ซองที่เก็บดิสก์ข้อมูล จะถูกนำไปใส่ตู้อีกชั้นหนึ่ง และผู้ถือกุญแจมีเพียงคนเดียว
--------------------------------------------
ตอนที่เกิดเรื่องการเอาข้อสอบไปเปิดตรวจทาน โดยผู้ที่ไม่มีหน้าที่คราวนั้น สร้างความงุนงงให้กับคณะกรรมการพิมพ์ข้อสอบมาก และเป็นที่รู้กันในทันทีว่า ข้อสอบปีนี้ รั่วแน่นอน ซึ่งก็จริง ๆ
และต่อมา คณะผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู้ออกข้อสอบในปีนั้น ก็เลิกที่จะออกข้อสอบเอนทรานซ์อีกต่อไป
#9
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:48
^
^
ตระกูลมหาประลัย โคตรโกง โกงทั้งโคตร ตั้งแต่พ่อยันแม่ยันลูกยันพี่ยันน้อง โกงหมด
นอกจากโกงแล้วยังอำมหิต หลอกคนไปฆ่าเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ในขณะที่ตนเองเสวยสุข
ตระกูลอัปรีย์กาลีแผ่นดินจริงๆ
ไม่รู้บรรพบุรุษมันสอนลูกสอนหลานกันมายังไงให้ชั่วจนหาดีไม่ได้แม้เศษธุลีขนาดนี้
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:49.
#10
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:30
เดี๋ยวคนกลางก็จะทำหน้ามึนโผล่หัวมาบอกว่าพวกเราไปเกลียดเขาเพราะแค่ว่าเป็นลูกทักษิณ
เกลียดพ่อแล้วพาลมาถึงลูกๆ
เด็กๆ เค้าทำไรผิดยะ
It's us against the world
#11
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:35
เดี๋ยวคนกลางก็จะทำหน้ามึนโผล่หัวมาบอกว่าพวกเราไปเกลียดเขาเพราะแค่ว่าเป็นลูกทักษิณ
เกลียดพ่อแล้วพาลมาถึงลูกๆ
เด็กๆ เค้าทำไรผิดยะ
ถ้าลูกมันไม่ดิ้นรนแย่งที่ชาวบ้านมั่งละ เสี้ยนอยากได้เกียรตินิยมทั้งที่สติปัญญาเท่าเต่าตุ่นมั่งละ
พ่อมันคงไม่ใช้อำนาจโกงเพื่อลูกได้ขนาดนี้
อ้อ อย่าลืมสีหน้าสุดติ่งที่นังลูกคนเล็กเชิดใส่ศาลด้วยนะ
ช่างเป็นกุลสตรีที่พ่อแม่อบรมมาดีจริงๆ อภิชาติธิดามากกกก
#12
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:48
เดี๋ยวคนกลางก็จะทำหน้ามึนโผล่หัวมาบอกว่าพวกเราไปเกลียดเขาเพราะแค่ว่าเป็นลูกทักษิณ
เกลียดพ่อแล้วพาลมาถึงลูกๆ
เด็กๆ เค้าทำไรผิดยะ
ถ้าลูกมันไม่ดิ้นรนแย่งที่ชาวบ้านมั่งละ เสี้ยนอยากได้เกียรตินิยมทั้งที่สติปัญญาเท่าเต่าตุ่นมั่งละ
พ่อมันคงไม่ใช้อำนาจโกงเพื่อลูกได้ขนาดนี้
อ้อ อย่าลืมสีหน้าสุดติ่งที่นังลูกคนเล็กเชิดใส่ศาลด้วยนะ
ช่างเป็นกุลสตรีที่พ่อแม่อบรมมาดีจริงๆ อภิชาติธิดามากกกก
ถ้าลูกไม่เอาอย่างพ่อ คนด่าก็ทำไม่ถูก แต่นี่มันลูกไม้โคนต้นชัดๆ วิบากกรรมของชาติของแท้
Edited by Manners, 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:50.
#13
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:48
อืม อันที่จริงก่อนหน้าจะเกิดกรณีโกงข้อสอบ มีความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนกฎในการรับตรงของคณะนิเทศน์ศาสตร์ จุฬาฯ มาก่อนหน้านั้นแล้ว โดยมีแนวทางที่จะปรับเกณฑ์ในการสมัครให้ต่ำลงกว่าเดิม โดยเฉพาะในส่วนของเกรดเฉลี่ยสะสม และคะแนนสอบ
ปรากฎว่าเกิดการต่อต้านรุนแรงมาก เพราะเรื่องเกิดแดงขึ้นมาว่า ลูกสาวหน้าเหลี่ยมอยากจะเข้าคณะนี้ การปรับเปลี่ยนนั้นจึงไม่เกิดขึ้น
คิดว่าเลยเข้าตาจน โกงข้อสอบมันเลยละกัน
- kokkai likes this
#14
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:26
เอาจริง ๆ เลยป่ะ
ระบบการออกข้อสอบเอนทรานซ์ ณ ตอนนั้น เป็นแบบที่ ให้อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน ๔-๕ ท่าน ออกข้อสอบมา คนละ ๑๐๐ ข้อ รวมเป็น ๕ ร้อยข้อ
จากนั้นให้ผู้ทรงคุณวุฒิอีกชุดหนึ่ง มาทำการคัดเลือกข้อสอบจาก ๕๐๐ ข้อนั้น ให้เหลือ ๑๐๐ ข้อ เพื่อนำไปเป็นข้อสอบเอนทรานซ์
ขั้นตอนการจัดทำ
แต่ละวิชา จะมีพนักงานพิมพ์ข้อสอบ ๑ คนเป็นหลัก และในระหว่างการพิมพ์ จะมีผู้ควบคุมการพิมพ์ชนิดว่านั่งอยู่หลังคนพิมพ์ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ดูเนื้อหาของข้อสอบที่พิมพ์อีก ๑ คน (ผลัดเปลี่ยนกัน จากจำนวนคณะกรรมการพิมพ์ข้อสอบราว ๑๐ คน)
การพิมพ์ข้อสอบ จะเริ่มที่ประมาณ ๙ โมงเช้าของทุกวันระหว่างระยะเวลา เสร็จที่ ๑๖.๐๐ น. ข้อสอบที่พิมพ์ หากยังไม่เสร็จ จะถูกเซฟลงดิสก์เพียง ๑ แผ่นเท่านั้น ไม่มีการบันทึกลงฮาร์ดไดร์ฟ ไม่มีการทำสำรอง ระหว่างพักทานข้าว หรือหลังจากเสร็จการพิมพ์ในแต่ละวัน ดิสก์นั้นจะถูกเก็บใส่ซอง ปิดผนึก และอาจารย์ผู้ควบคุมการพิมพ์จะต้องลงลายมือชื่อ สลักไว้ที่ผนึกนั้น ๆ เสมอ จำนวน ๖ ตำแหน่ง และมีการบันทึกการปิด หรือเปิดซองเก็บดิสก์ทุกครั้ง
จากนั้น ซองที่เก็บดิสก์ข้อมูล จะถูกนำไปใส่ตู้อีกชั้นหนึ่ง และผู้ถือกุญแจมีเพียงคนเดียว
--------------------------------------------
ตอนที่เกิดเรื่องการเอาข้อสอบไปเปิดตรวจทาน โดยผู้ที่ไม่มีหน้าที่คราวนั้น สร้างความงุนงงให้กับคณะกรรมการพิมพ์ข้อสอบมาก และเป็นที่รู้กันในทันทีว่า ข้อสอบปีนี้ รั่วแน่นอน ซึ่งก็จริง ๆ
และต่อมา คณะผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู้ออกข้อสอบในปีนั้น ก็เลิกที่จะออกข้อสอบเอนทรานซ์อีกต่อไป
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ
#15
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:38
ผลการวิจัยของสถาบันสวนสัดโพลกล่าวไว้ว่า การโกงไม่สามารถติดต่อได้ทางพันธุกรรม
แต่เมื่อพ่อโกงให้ลูกเห็นบ่อยๆ จนลูกเชื่อผลของการกระทำนั้นว่าไม่ได้โกง
ถ้าโดนจับได้ แสดงว่ากฏ-กติกาผิด เป็นผลพวงของการรัฐประหาร ไม่เป็นประชาธิปปะตัย
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน