เดิม ไฟใต้สงบลงไปได้ถึงระดับ ไม่มีเหตุการณ์ร้ายรายวัน แต่ก็มิได้มอดไหม้ลงไป เพียงแต่มี ศอบต.ที่ควบคุมจำกัดเสรีการปฏิบัติของฝ่ายตรงข้ามได้
ต่อมาทักสิน โดยการแนะนำของ ผบ.ตร.ในขณะนั้น (ถ้าจะไม่ผิด คือ ผบ.ตร.สันขวาน) บอกว่าดูแลแทนได้ ทักสินเห็นว่างบเยอะเลยอาจคิดโอนให้ตำรวจดูแลแทน ศอบต. (คือมันคิดผิด โดยใช้หัวแม่ตรีนคิด ไม่เคยวิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ใครก็ต้องยอมทำตาม) ผลที่ได้คือ ศอบต.ถูกยุบ
มหากาพย์ จึงเริ่มขึ้น เมื่อฝ่ายตรงข้าม มีเสรีในการปฏิบัติ จึงปล้นปืนพันพัฒนา 4 และเป็นที่มาของ ความผิดพลาดของ จนท.รัฐ ที่ตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุม อย่างรุนแรง (ต่างคนต่างแรง คุณจะโทษจนท.อย่างเดียวไม่ได้ เพราะคนก็มีอารมณ์กันทั้งนั้น เขาขว้างปา จนท.ด่าทอรุนแรง พอได้ที จนท.ก็อัดเข้าบ้าง แต่แรงไปหน่อย ไม่ได้วิเคราะห์ว่าเขาถือศีลอดอยู่ การขนย้ายก้อไม่ได้ระมัดระวัง และไม่ได้คาดการณ์ว่าจะเกิดโศกนาฏกรรม (เลยกลายเป็นเรื่องหนักหนา กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของผู้สั่งการ --- ทำให้เกิดแนวร่วมโจรใต้มากขึ้น)
สรุป 1.ขบวนการแบ่งแยกดินแดนและปลูกฝังหัวเด็กรุ่นใหม่ให้เกลียดรัฐไทยยังมีอยู่มานานแล้ว(สมัยก่อนข้าราชการไทยทำไม่ดีไว้มานาน) ร่วมกับ
2.กลุ่มนายทุน ค้ายาเสพติดและของเถือน ที่หนุนเงินเพื่อป่วนสถานการณ์ไว้เพื่อเกือกูลต่อกิจกรรมเลวๆ ร่วมกับ
3.นโยบายลับของประเทศเพื่อนบ้าน....เพื่อลดความสามารถด้านความเจริญทางเศรษฐกิจ
นั่นคือที่มาและเป็นต่อไป ตราบใดที่รัฐบาลยังอ่อนแอและห่วยไร้ประสิทธิภาพ ก็ต้องสู้และสูญเสียกันไป จนกว่าโจรใต้ จะหมดแรงไป
วิธีแก้
1.ฝ่ายปฏิบัติการ จำกัดเสรีการปฏิบัติ ของฝ่ายตรงข้าม และ อาร์เคเค
2.รัฐบาล เข้าไปจัดระเบียบ โรงเรียน ปอเน๊าะ และ ตาดีกา ปลูกฝังเด็กรุ่นใหม่ให้มีแนวคิดที่ดีต่อรัฐบาล และประเทศไทย
3.ฝ่ายการทูต ใช้พลังอำนาจของชาติ เพื่อ เจรจากดดัน ประเทศที่ให้การสนับสนุนเพื่อยุติบทบาทและที่พักพิง (เรียนรู้จากการที่พม่ากดดันไทย ไม่ให้สนับสนุน รัฐกะเหรี่ยงเป็นรัฐกันชน)
4.รัฐต้องสร้าง งาน สร้างอาชีพให้คนรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่าจำกัดบาทบาท ให้แห้งเหี่ยวตายไปตามอายุ (เพราะคุณไปเปลี่ยนแนวคิดที่เขาถูกปลูกฝังมาแต่เด็กๆไม่ได้หรอก)
แล้วตอนนี้ ทำได้แค่เพียงข้อ 1 ที่เหลือ รัฐ ไม่เคยทำอะไร นอกจาก กรรเชียง ปลดยศทหารอภิสิทธิ์ และ ดื่มไวน์ นี่แหละเวรกรรมชาติ