http://www.manager.c...D=9560000020415
“พาณิชย์”ลอยแพร้านถูกใจหลังมี.ค. คาดไม่เกินกลางปีเหลือแค่ตำนาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2556 22:35 น.
พาณิชย์”ดิ้นเดินหน้าร้านถูกใจต่อ หลังจะหมดโครงการมี.ค.นี้ เล็งดึงผู้ผลิต ผู้ค้าส่งค้าปลีกช่วยกระจายสินค้า หลังชื่อติดตลาดประชาชนชอบ เผยล่าสุดมีร้านค้าเหลือเพียง 6.8 พันร้านจับตาไม่น่าเกินกลางปีปิดกิจการหมด
เหตุโอกาสได้สินค้าราคาถูกมาจำหน่ายริบหรี่
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯกำลังพิจารณาว่าจะมอบหมายให้หน่วยงานใดเข้ามาดูแลโครงการร้านค้าถูกใจเพราะหลังสิ้นสุดเดือนมี.ค.2556 งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือและลดภาระค่าครองชีพประชาชนผ่านโครงการจะหมดลง โดยกรมฯได้ประสานไปผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกในการจัดทำแนวทางในการส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้ร้านค้าถูกใจ เพราะผู้ประกอบการร้านค้าถูกใจส่วนใหญ่ยังต้องการให้ใช้ชื่อร้านถูกใจต่อไปรวมถึงประชาชนก็ได้รับรู้แล้วว่าการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าถูกใจจะได้ราคาถูกกว่าการซื้อในร้านค้าปกติ 20%
ทั้งนี้ ร้านถูกใจที่จะดำเนินการต่อจะยังคงจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพจากผู้ผลิตสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งสบู่ ยาสีฟัน แชมพู ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำตาลทราย น้ำมันปาล์ม เครื่องปรุงรส ไข่ไก่ และยังมีสินค้าที่กระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุน คือ ข้าวถุงยี่ห้อ อคส.ที่จะมีการจัดทำขนาดให้ตรงกับความต้องการเพิ่มมากขึ้นทั้งถุง1 กก.และถุง 5 กก.
“เดิมกรมฯ เคยให้การสนับสนุนค่าขนส่งในการจัดส่งสินค้าไปยังร้านถูกใจ
แต่เมื่อโครงการสิ้นสุดลง กรมฯ ก็จะหาทางดึงให้
ผู้ผลิต ผู้ค้าส่งค้าปลีก เข้ามาช่วยเป็นคนกลางในการกระจายสินค้าให้ร้านถูกใจ
เพราะตอนนี้ประชาชนให้การรับรู้แล้วว่าสินค้าในร้านถูกใจมีราคาถูก จึงต้องการที่จะผลักดันให้ร้านถูกใจมีการดำเนินการต่อ”น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจร้านถูกใจว่าร้านค้าใดมีความประสงค์ที่จะจะดำเนินการต่อหลังสิ้นสุดโครงการในเดือนมี.ค.เพื่อที่จะได้ประสานผู้ผลิต ผู้ค้าส่งค้าปลีกในการจัดส่งสินค้าซึ่งการสำรวจล่าสุดมีร้านค้าถูกใจดำเนินการเหลืออยู่เพียง 6,800 ราย จากเดิม 10,000 ราย
สาเหตุที่ร้านถูกใจบางส่วนได้เลิกเข้าโครงการร้านถูกใจตั้งแต่กลางปี 2555 เนื่องจากกรมการค้าภายในได้ยุติการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าจ้างรายวันๆละ 300 บาท โดยลดลงเหลือวันละ 200 บาท และต่อมายกเลิกการจ่ายเงินช่วยเหลือและบางร้านมีปัญหาในเรื่องการจัดส่งสินค้า ที่ได้รับสินค้าล่าช้าหรือได้สินค้าไม่ครบตามจำนวนที่สั่ง ทำให้สินค้าไม่มีขายก็เลยไม่อยากสั่งซื้อสินค้ามาจำหน่าย
นอกจากนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้ปรับขึ้นค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาท ทำให้กลุ่มแรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็เลยหันไปซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าห้างค้าปลีกแทน และมีการประเมินว่า ไม่น่าจะเกินกลางปีนี้ร้านถูกใจน่าจะยุติบทบาทลง เพราะแม้จะมีผู้ผลิตผู้ค้าส่งค้าปลีกเข้ามาช่วยกระจายสินค้า แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะได้สินค้าในราคาถูกกว่าปกติ 20% มาจำหน่าย
สำหรับโครงการร้านถูกใจ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลในวงเงิน1,320 ล้านบาท ให้ดำเนินการพัฒนาร้านค้าชุมชนให้เป็นร้านถูกใจตั้งเป้ามีประมาณ 10,000 ร้านค้าทั่วประเทศ โดยจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาถูกกว่าท้องตลาดปกติ 20%
อีกหนึ่งโครงการดีแต่โม้แล้วตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เจ๊งไม่เป็นท่า เพราะการบริหารงานห่วยๆแบบผักชีโรยหน้า
...ไปอุดหนุนโน่นนี่ บิดเบือนกลไกตลาด ทำเป็นลิงอุ้มแตงแล้วก็ไปไม่ไหว...
ทำเหมือน"เด็กเล่นขายของ"เสร็จแล้วก็ทิ้ง ตัวใครตัวมัน แต่ส่วนต่างแดรกกันจนอิ่มไปแล้ว
Edited by คนกรุงธน, 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 01:12.