พระฤๅษี, on 18 Feb 2013 - 07:30, said:
ผมว่า ไอ้เรื่องโรงพัก...นี่ฟังทั้ง สองฝ่าย มันออกจะ
อยู่ในลักษณ์ มั่ว ๆ สาดกันไป-มา
อยากจะให้ผู้ ( รู้จริง มีข้อมูลจริง ) มาเปิดเวที โต้กัน
ด้วยข้อเท็จจริง. จะกล้าทำกันไหม ???
เอาเหตุผลข้อเท็จจริงมา ให้ชาวบ้านได้รู้เห็น..กันแบบ
ใครดีใครอยู่....ไอ้การไปด่า ไปว่า ไปแฉ กันคนละที
ก็เหมือนการหาเสียงแบบ. ด่าทอ-ป้านสี-โกหก-...เก่า...
ไร้สาระ..ถ้ายังใช้กันอยู่ ก็แปลว่า การเมือง ยังเน่าอยู่.
ยากที่จะแก้ไข...แล้วไม่รู้เมื่อไร..
กระทู้เก่าๆเขาก็เอาข้อมูลมาลงเยอะแล้วนี่ โดยส่วนตัวผมสรุปได้ดังนี้
1.คนที่รวมสัญญาอาจไม่ผิด ถ้ามีเจตนาทำตามระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการพัสดุฯ แต่ถ้ามีเจตนาแฝงเร้นโดยอ้างระเบียบฯ ก็ผิด (ว่ากันด้วยเจตนา)
2.คนที่เกี่ยวข้องกับการ ตรวจสอบบริษัทที่เข้ามาประมูลผิด เพราะต้องประเมินให้ได้ว่า ความสามารถและเงินทุน เงินค้ำประกันมีแค่ไหน (แต่เท่าที่รู้ ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมี บริษัทไหนทำงานได้ทั่วประเทศ โดยไม่ให้มีบริษัทอื่นมาซับงานไป)
3.คนทำสัญญา และ บริษัทผิด(ผิดแน่ๆรู้ว่าทำไม่ได้แต่จะเอา) เขียนสัญญา เซนต์สัญญา กรรมการ ผู้ลงนามผิดหมดมากน้อยต่างกันไป
3.คนบริหารสัญญา และขยายสัญญา ผิด เพราะ รู้อยู่แก่ใจว่าทำงานไม่ได้ก็ยัง ขยายเวลาให้ มีเหตุผลอะไร.........ทำไมไม่รายงานหรือตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่ตอนนั้น
สรุป งานนี้มันแดกกันเป็นขบวนการ และเกี่ยวข้องหลายฝ่าย คนที่ไม่เกี่ยวคือ คุณชูวิทย์ เลยทำป้ายประจานแม่มหมดทุกฝ่าย