68 ความเห็นในกระทู้นี้

[Jagger]

 

วันที่ 18 ก.พ. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงตลาดสดทุ่งครุพลาซ่า 61 ถ.ประชาอุทิศ 61 โดยก่อนหาเสียงมีนางนวลน้อย ทิมกุลหรือครูน้อย พร้อมทั้งเด็กๆ ในการดูแล ประมาณ 10 คนเดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมชูป้าย "รักพงศพัศเพราะไม่ทิ้งคนจน"

โดยครูน้อย กล่าวว่า พล.ต.อ.พงศพัศชนะแน่นอน จากนั้นได้แวะใส่บาตรก่อนจะเดินทักทายบรรดาพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาด ขณะที่ พล.ต.อ.พงศพัศยังคงได้รับความสนใจเช่นเคย มีกลุ่มผู้ค้าต่างขอถ่ายรูปและจับมือ นอกจากนี้ยังมีแม่ค้าได้มอบขนมตาลและห่อหมกให้ชิม พร้อมทั้งใสห่อให้อย่างละ 9 ชิ้นมอบให้ พล.ต.อ.พงศพัศด้วย จากนั้นแวะดื่มชา กาแฟกับกลุ่มผู้สนับสนุน ก่อนขึ้นรถแห่หาเสียงไปตาม ถ.ประชาอุทิศ จากนั้นแวะใส่บาตรที่วัดทุ่งครุ นมัสการรูปหล่อพระครูพิพิธพัฒโนดม อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งครุ จากนั้นจึงเข้านมัสการพระครูสุนทรจารุวรรณ เจ้าอาวาสวัดทุ่งครุ ทั้งนี้ มีชาวบ้านชุมชนหลังวัดทุ่งครุ ร้องเรียนว่าสะพานข้ามชุมชนมีขนาดเล็ก ขอให้ช่วยแก้ไข ซึ่ง พล.ต.อ.พงศพัศรับข้อร้องเรียนเอาไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศขึ้นรถแห่หาเสียง และแวะทักทายประชาชนรวมทั้งวินรถจักรยานยนต์ที่ ม.วิเศษสุขนคร ซ.ประชาอุทิศ 79 แวะลวกเส้นหมี่น้ำใสใส่ลูกชิ้นเนื้อวัว 9 ลูกที่ร้านมูฮำหมัดรสดี จากนั้นขบวนแวะหาเสียงต่อที่ชุมชน ซ.วัดสน เขตราษฎร์บูรณะ จากนั้นมุ่งหน้าหาเสียงต่อที่เคหะสุขสวัสดิ์ ซ.สุขสวัสดิ์ 38 มีประชาชนรอต้อนรับจำนวนมาก โดยได้มอบดอกกุหลาบและพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้เป็นกำลังใจ พร้อมตะโกนเชียร์เบอร์ 9 ตลอดเส้นทาง

จากนั้นเวลา 12.30 น. พล.ต.อ.พงศพัศเดินทางหาเสียงต่อที่ บ.ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ซ.ประดู่ ย่านพระราม 3 มีบรรดาพนักงานบริษัทจำนวนมาก ต่างวิ่งกรูกันเข้ามามอบดอกกุหลาบเพื่อให้กำลังใจ โดย พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวย้ำถึงนโยบายที่จะเข้ามาแก้ไข เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งตนขออาสาเข้ามาเปลี่ยนแปลง กทม.ให้ดีขึ้น ขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจในศักยภาพของนายกฯ และทุกกระทรวงที่จะเข้ามาดูแลปัญหาให้คน กทม. จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศพร้อมคณะ แวะรับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารภายในโรงงาน

 

http://www.khaosod.c...9PQ==&subcatid=

 

ผู้ว่าของคนจน จากคนจน และเพื่อคนจน 

[Suraphan07]

เหอๆๆ...ระวังจะเจอ

เชียร์พงศพัศ กาเบอร์ 16 น่ะจูดี้น่ะ ...  

 

ของพรรค์นี้ คนดีดี มีมารยาท

เขาไม่แสดงออกอะไรๆแบบ ถ่อยๆ ดิบๆ เถื่อนๆ

เหมือนตามหัวเมืองขี้ข้านายใหญ่ ไพร่แดงกันหรอก...  

[awhile]

พงสะพัด เคยมีผลงานอะไรมาก่อน สมัครเป็นผู้ว่า กทม.หรือครับ??

ในสายตาผม ยังคิดว่า นางยกปู ดูมีความสามารถกว่า พงสะพัดอีกนะครับ

อย่างน้อยเธอก็ยังเคยมีตำแหน่งเป้นผู้บริหารมาก่อน

 

 

ขำ บรรทัดสุดท้าย

 

ผู้ว่าของคนจน จากคนจน และเพื่อคนจน

 

หูยย ใครไม่จนอย่าไปเลือกนะครับ เดี๋ยวเขาคิดว่าเราจน!!!

[Majestic]

ตำรวจ ไม่ทิ้ง แต่ไถ

[คนบูรพา]

ครูน้อย........กำลังถูก "อีจูดี้ ขี้ขโมย" หลอก

 

ใครก็ได้.........ช่วยไปบอกแกให้ที  

[MIRO]

ยินดีด้วยนะ

[อู๋ ฮานามิ]

คนจนเนี่ย จนเงินทอง หรือ จนปัญญา 

 

นโยบายของรัฐบาลปู ทำให้หายจนได้จริงแค่เงินทองมั้ง ?

[Jagger]

สลด! บ้านครูน้อย หนี้ 8 ล้าน นอกระบบ-ไร้บริจาค

 

         ช่วยเด็กยากไร้รันทด "บ้านครูน้อย" สถานช่วยเหลือเด็กยากไร้เป็นหนี้นอกระบบ 8 ล้าน "ครูน้อย ทิมกุล" ร่ำไห้โฮร้อง "พงศพัศ พงษ์เจริญ" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่รุดไปสอบถาม เผยสารภาพนำเงินที่ผู้บริจาคไปจ่ายดอกวันละ 5 หมื่น สาเหตุจากยอดบริจาคลดฮวบ แต่ต้องใช้จ่ายตกเดือนละกว่า 2 แสน ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมประสานให้เจ้าหนี้มาไกล่เกลี่ย จะมาพบหรือให้ไปพบเพื่อเจรจาก็พร้อม

          เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ก.พ. พล.ต.ท. พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ดุสิต สมศักดิ์ ผกก.สน. ราษฎร์บูรณะ พร้อมเจ้าหน้าที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้เดินทางมาพบครูน้อย หรือ นางนวลน้อย ทิมกุล อายุ 67 ปี ที่สถานรับเลี้ยงเด็กยากจน บ้านครูน้อย เลขที่ 319 หมู่ 1 ซอยราษฎร์บูรณะ 26 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กทม. หลังได้รับการร้องเรียนเรื่องเงินกู้นอกระบบ ที่กู้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กยากไร้ ซึ่งรับมาเลี้ยงภายในบ้านดังกล่าว

          ภายใน บ้านเป็นบ้านไม้ มีอาคารอยู่ด้วยกันหลายอาคาร เป็นที่พักอาศัยของเด็กผู้ยากไร้ มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เจ้าหน้าที่พบเด็กที่ครูน้อยรับเลี้ยงไว้ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง รวมแล้ว 72 คน ยืนให้การต้อนรับ พร้อมทั้งทักทายกล่าวสวัสดี พล.ต.ท.พงศพัศ และผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนอย่างน่าเอ็นดู ระหว่างนั้นมีผู้มีจิตเมตตานำอาหารและขนมมาเลี้ยงเด็กด้วย

          หลังจากนั้น พล.ต.ท.พงศพัศ จึงได้เข้าพูดคุยถึงปัญหาที่ครูน้อยกำลังประสบอยู่อย่างเป็นกันเอง

 ครูน้อย กล่าวเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เปิด บ้านเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กด้อยโอกาสมาตั้งแต่ปี 2523 เนื่องจากเกิดความสงสารที่เห็นเด็กไร้ที่พึ่ง ไม่ได้เรียนหนังสือและไร้ที่พักพิง จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ระหว่างนั้นมีเด็กด้อยโอกาสเข้ามาอยู่ที่บ้านเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แม้จะมีเงินบริจาคจากมูลนิธิต่าง ๆ รวมถึงเงินบริจาคจากผู้ที่มีจิตเมตตาเข้ามาเป็นจำนวนมาก และรายได้จากการขายของที่ระลึก แต่ด้วยความมีคนอยู่มาก ค่าใช้จ่ายจึงต้องเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว จากนั้นตนจึงหันไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายภายในบ้าน เริ่มกู้ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2547 บางครั้งก็ต้องกู้มาจ่ายดอกของเจ้าหนี้อีกคน บางรายก็จ่ายจนครบทั้งต้นทั้งดอกไปหมดแล้ว แต่บางรายยังเหลือเงินต้นอยู่เป็นจำนวนมาก จนถึงวันนี้ตนมีเจ้าหนี้ อยู่ประมาณ 20 ราย และติดหนี้อยู่รวมแล้วประมาณ 8 ล้านบาท

          ครู น้อย กล่าวต่อว่า ในแต่ละวันตนต้องนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ทั้ง 20 ราย รวมแล้วประมาณ 5 หมื่นบาทต่อวัน ตนก็รู้ว่าเงินนอกระบบมีการคิดดอกที่แพงกว่าปกติ แต่ก็ต้องกู้เพื่อที่นำเงินมาใช้จ่ายเลี้ยงดูเด็กในบ้าน ที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 72 คน เป็นเด็กช่วงอายุ 3-14 ปี จำนวน 60 คน และอายุ 14 ปีขึ้นไปจำนวน 12 คน ทั้งส่งเสียให้เรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรี ทุกวันตนต้องจ่ายเงินค่าเรียนหนังสือให้เด็กในบ้านไปเรียนเป็นเงินกว่า 4 พันบาททุกวัน และแต่ละคนจะได้รับเงินไล่เลี่ยกันไป ที่เรียนสูง เช่น ระดับปริญญาตรี ก็ได้เงินมากหน่อย ที่ยังเรียนประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษาก็ได้ลดน้อยลงมา รวมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร และอื่น ๆ จิปาถะ ประมาณ 2.2 แสนบาท

          ครู น้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหนี้บางคนก็เห็นใจตน บางครั้งก็ประนอมหนี้ให้ แต่ก็ต้องจ่ายให้ครบและมีกำหนดเวลาอยู่ดี แต่เจ้าหนี้บางคนก็มีข่มขู่บ้าง แต่ไม่ได้ข่มขู่ตนโดยตรง เพียงพูดจาฝากชาวบ้าน หรือบอกผ่านคนใกล้ชิดประมาณว่ารู้จักกับตำรวจบ้าง มีปืนบ้าง หรือพูดจาในเชิงที่ว่า ใครที่ติดหนี้ไม่จ่ายมีสิทธิ์ตายได้ทุกคน ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ต้องกู้เงินอีกรายมาจ่ายดอกให้อีกราย เพื่อบรรเทาปัญหาไป ในส่วนของเจ้าหนี้ทั้งหมดมีอยู่ 3 ราย ที่หนักกว่าเจ้าอื่น ก็มีรายแรกประมาณ 1.3 ล้านบาท อีก 2 ราย รายละ 5 แสนบาท ทั้ง 3 รายนั้น ตนได้กู้ตั้งแต่ปี 2547 และส่งดอกทุกเดือน บางเดือนก็ส่งทั้งต้นและดอก แต่ทุกวันนี้เงินต้นก็ยังไม่ลดลง

          "เรื่องนี้ไม่เคยบอกให้ใครทราบมาก่อน เพราะขณะนั้นยังสามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้อยู่ แต่ทุกวันนี้ไม่รู้จะนำเงินจากไหนไปจ่ายแล้ว เพราะฐานะที่บ้านก็ยากไร้ เงินสนับสนุนจากมูลนิธิต่าง ๆ และเงินบริจาคก็เริ่มร่อยหรอ ทุกวันนี้เวลาอยู่กับเด็ก ๆ ก็มีความสุข แต่เวลาอยู่คนเดียวก็ต้องคิดเรื่องดังกล่าวจนเครียด ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงต้องให้ตำรวจเข้าช่วยเหลือ และอยากให้เจ้าหนี้เห็นใจบ้าง เพราะทำงานรับใช้สังคมมาตลอด และเป็นคนซื่อตรงไม่เคยคิดเบี้ยวเจ้าหนี้ซักราย หาเงินจ่ายดอกให้ครบทุกเดือน แต่เงินต้นของบางรายไม่ยอมลดลงเลย" ครูน้อยกล่าว

          ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสอันดี ที่ครูน้อยได้สารภาพว่ารู้สึกผิดในการที่นำเงินของผู้ที่บริจาคให้กับเด็กไป จ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ การเปิดเผยข้อมูลในวันนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว เกี่ยวกับ ภาระหนี้สินดังกล่าว ตนจะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ กับเจ้าหนี้ที่มีจำนวนวงเงินกู้สูง ประมาณ 3 ราย มาพบปะหารือกันเกี่ยวกับการชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้ที่ครูน้อยจะต้องจ่ายรายวัน จะต้องดำเนินการในเบื้องต้น กำหนดไว้ภายใน 3 วัน เพื่อปลดภาระหนี้สินให้ครูน้อยได้มีโอกาสนำเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชน ไปใช้สำหรับในการเลี้ยงดูเด็กต่อไป ซึ่งหากขณะนี้เจ้าหนี้รายใดได้รับทราบข่าวแล้ว จะเดินทางมาพบตนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือจะให้ตนไปพบที่ใดก็กรุณาแจ้งให้ทราบด้วย เพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบสิ้นโดยเร็ว

          พล.ต.ท. พงศพัศกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องความปลอดภัยของครูน้อย ที่นำเรื่องดังกล่าวเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้วครูน้อยจะไม่ได้รับความปลอดภัย นั้น ในส่วนนี้ตนจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ให้เข้ามาดูแลและช่วยเหลือ และหากพี่น้องประชาชนที่ประสงค์จะให้การช่วยเหลือสนับสนุนภาระของครูน้อย จะเดินทางมาพบปะครูน้อยด้วยตนเอง หรือ หากประสงค์จะบริจาค สามารถติดต่อได้โดยตรงที่บ้านครูน้อย เลขที่ 319 หมู่ 1 ซอยราษฎร์บูรณะ 26 แขวงราษฎร์ บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กทม. หรือที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2871-3083 ได้ทุกวัน

 

http://hilight.kapook.com/view/46118

[tonythebest]

โปก ไปร่วมลงชื่อในกระทู้นี้หน่อยสิ

 

http://webboard.seri...สื/#entry603959

 

ไว้ไปเย้ยผมให้เต็มที่เลยนะ วันที่ 4 

 

 

[คนกินข้าว]

ตอนนี้รับรองไม่ทิ้ง "คนจน" ครับ

รอให้ได้เป็นผู้ว่าฯ ก่อนนะครับ

ถ้า "ทิ้ง" ก็อย่าว่ากันนะครับ เพราะเป็นเทคนิคในการหาเสียงครับ

[hentai]

ฝีมือทางการตลาด....   มันห่างชั้นกันเกินไปจริงๆ...  

[ม่านน้ำ]

ทำไมไปนึกถึงเรื่อง "อัศวินควายดำ" ของคุณหมอเสม พริ้งพวงแก้ว ก็ไม่รู้

[หลานคนสร้างชาติ]

อ่านแล้วซึ้ง

 

เพื่อเด็ก เพื่อการศึกษา กา เบอร์ 9

[nnnn43]

ฝีมือทางการตลาด....   มันห่างชั้นกันเกินไปจริงๆ...  

4 ปีไม่มีคนจน

[G.Maniac]

สิ่งที่ครูน้อยทำเป็นสิ่งดีน่านับถือ แต่การทำดีไม่ใช่วัคซีนป้องกันการถูกคนชั่วหลอก การเป็นคนดีกับคนฉลาดมันคนละเรื่องกัน

 

และผมว่า แกกำลังถูกหลอก แกกำลังหลงกับภาพลวงตาว่า จูดี้ ไม่ทิ้งคนจน

 

พ้นการเลือกตั้งคราวนี้ ไม่ว่าชนะหรือแพ้ รับรองได้ว่า ครูน้อยจะไม่ได้เห็นหน้ามันอีก เว้นบังเอิญไปเจอกันที่ไหนสักที่

 

 

ส่วนคำว่า ผู้ว่าฯของคนจน จากคนจน เพื่อคนจน ไม่อินด้วยครับ เพราะ

 

๑. ที่บ้านไม่จนครับ

 

๒. ผู้ว่าฯ ไม่ว่าใคร เมื่อบากหน้ามาให้คนเค้าเลือกมาเป็นแล้ว ต้องเป็นผู้ว่าฯของทุกคน ไม่ว่ารวย จน ฉลาด โง่ จบ ป.เอก หรือ จบ ป.หก ดี หรือ ชั่ว

 

ถ้ามุ่งมั่นแต่สร้างภาพและโอ๋เอาใจแต่คนจนแลกคะแนน ผมว่า มันไม่ใช่แล้วล่ะ ถ้าอยากช่วยแต่คนจน หอบเงิน 49 ล้าน ค่าหาเสียงไปตั้งมูลนิธิ

 

อย่าทะลึ่งมาลงสมัครผู้ว่าฯ

Edited by GermanManiac, 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:07.

[หลานคนสร้างชาติ]

ครูน้อย ตาถึงจริงๆ

[-เจ๊ม้าม-]

ดูละมันน่าจะให้มีการเลือกตั้งทุกๆเดือนเลยนะคะ เราจะได้ทั้งคนเก็บขยะ คนขับรถเมล์ คนสับไก่ คนชงกาแฟโบราณ ฯลฯ

[phoebus]

อีกคนที่กำลังสับสนบทบาทหน้าที่ของผู้ว่าฯ

 

หน้าที่แก้คนจน เป็นของผู้ว่าฯหรือรัฐบาล ???

[G.Maniac]

อีกคนที่กำลังสับสนบทบาทหน้าที่ของผู้ว่าฯ

 

หน้าที่แก้คนจน เป็นของผู้ว่าฯหรือรัฐบาล ???

 

 

อ้าว น้าเสือฟี ลืมแนวคิดบริหารงานแบบ "ไร้รอยหยัก" ของ ปูคุง กับ เจมดี้  ไปแล้วเหรอครับ?

 

ฮ่าๆๆ

[Emolution]

หิหิ ใครเค้าจะไปเชื่อคำลวงโลกของครูแม่พระ

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ครูน้อย ตาถึงจริงๆ

 

 

โง่ไม่เกรงอกเกรงใจใครเลยจริงๆ

 

พงศพัศเคยควักเงินช่วยครูน้อยตอนเป็นหนี้นอกระบบแล้วมาร้องไห้โอดกับสอยุด

 

ตอนนั้นคนทั้งประเทศไทยไม่ได้สงสารครูน้อย  ด่ากันระงม ข้อหา "ทำบ้านเด็กเพื่อสนองนี้ดตัวเองจนเป็นหนี้"

พร้อมกับขุดหลักฐานประจานครูน้อยว่าแกใช้เงินบริจาคมากมายไปให้ลูกหลานได้สุขสบายอย่างไรบ้าง

เด็กๆแถวนั้นได้แต่ข้าวกับขนม แต่ไม่เคยได้รับการอบรมให้รู้จักมารยาท เรียนหนังสือ หรือทำมาหากินเลย

 

พงศพัศเสียรังวัดไปพอสมควรกับ "การเอาหน้า" ในครั้งนั้น

 

หลังจากนั้นครูน้อยก็ถูกองค์กรที่ดูแลเรื่องเด็กตรวจสอบอย่างเข้มงวด ต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายแสดงให้เห็น

ครูน้อยก็ออกมาบ่นคร่ำครวญอีก ว่าทำไม่ได้ ทำไม่เป็น (แต่รับเงินคนอื่นเขามาเป็นสิบๆล้านเนี่ยนะ)

คนที่ถูกส่งเข้าไปตรวจสอบคือครูหยุยครับ

 

ชื่อเสียงครูน้อยก็มลายสิ้นในตอนนั้น  เหลือแต่คนที่ไม่ได้ตามข่าวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าครูน้อย "จบแล้ว"

 

 

พวกสิ้นคิด ทำมาหากินเองไม่เป็น ได้แต่แบมือขอคนอื่น  มักจะเกาะพวกทักษิณ

"สัตว์ทั้งหลายคบกันโดยธาตุ" เช่นนี้แล

[Suraphan07]

เเหอๆๆ...หวังว่า "คนรวย" กับ "คนพอมีอันจะกิน" ใน กทม.

 

น่าจะพอเข้าใจน่ะ...   

[หลานคนสร้างชาติ]

ครูน้อย ตาถึงจริงๆ

 

 

โง่ไม่เกรงอกเกรงใจใครเลยจริงๆ

 

พงศพัศเคยควักเงินช่วยครูน้อยตอนเป็นหนี้นอกระบบแล้วมาร้องไห้โอดกับสอยุด

 

ตอนนั้นคนทั้งประเทศไทยไม่ได้สงสารครูน้อย  ด่ากันระงม ข้อหา "ทำบ้านเด็กเพื่อสนองนี้ดตัวเองจนเป็นหนี้"

พร้อมกับขุดหลักฐานประจานครูน้อยว่าแกใช้เงินบริจาคมากมายไปให้ลูกหลานได้สุขสบายอย่างไรบ้าง

เด็กๆแถวนั้นได้แต่ข้าวกับขนม แต่ไม่เคยได้รับการอบรมให้รู้จักมารยาท เรียนหนังสือ หรือทำมาหากินเลย

 

พงศพัศเสียรังวัดไปพอสมควรกับ "การเอาหน้า" ในครั้งนั้น

 

หลังจากนั้นครูน้อยก็ถูกองค์กรที่ดูแลเรื่องเด็กตรวจสอบอย่างเข้มงวด ต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายแสดงให้เห็น

ครูน้อยก็ออกมาบ่นคร่ำครวญอีก ว่าทำไม่ได้ ทำไม่เป็น (แต่รับเงินคนอื่นเขามาเป็นสิบๆล้านเนี่ยนะ)

คนที่ถูกส่งเข้าไปตรวจสอบคือครูหยุยครับ

 

ชื่อเสียงครูน้อยก็มลายสิ้นในตอนนั้น  เหลือแต่คนที่ไม่ได้ตามข่าวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าครูน้อย "จบแล้ว"

 

 

พวกสิ้นคิด ทำมาหากินเองไม่เป็น ได้แต่แบมือขอคนอื่น  มักจะเกาะพวกทักษิณ

"สัตว์ทั้งหลายคบกันโดยธาตุ" เช่นนี้แล

 

มองโลกแง่ร้ายมากๆ

Edited by หลานคนสร้างชาติ, 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:18.

[namtanbood]

 

ครูน้อย ตาถึงจริงๆ

 

 

โง่ไม่เกรงอกเกรงใจใครเลยจริงๆ

 

พงศพัศเคยควักเงินช่วยครูน้อยตอนเป็นหนี้นอกระบบแล้วมาร้องไห้โอดกับสอยุด

 

ตอนนั้นคนทั้งประเทศไทยไม่ได้สงสารครูน้อย  ด่ากันระงม ข้อหา "ทำบ้านเด็กเพื่อสนองนี้ดตัวเองจนเป็นหนี้"

พร้อมกับขุดหลักฐานประจานครูน้อยว่าแกใช้เงินบริจาคมากมายไปให้ลูกหลานได้สุขสบายอย่างไรบ้าง

เด็กๆแถวนั้นได้แต่ข้าวกับขนม แต่ไม่เคยได้รับการอบรมให้รู้จักมารยาท เรียนหนังสือ หรือทำมาหากินเลย

 

พงศพัศเสียรังวัดไปพอสมควรกับ "การเอาหน้า" ในครั้งนั้น

 

หลังจากนั้นครูน้อยก็ถูกองค์กรที่ดูแลเรื่องเด็กตรวจสอบอย่างเข้มงวด ต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายแสดงให้เห็น

ครูน้อยก็ออกมาบ่นคร่ำครวญอีก ว่าทำไม่ได้ ทำไม่เป็น (แต่รับเงินคนอื่นเขามาเป็นสิบๆล้านเนี่ยนะ)

คนที่ถูกส่งเข้าไปตรวจสอบคือครูหยุยครับ

 

ชื่อเสียงครูน้อยก็มลายสิ้นในตอนนั้น  เหลือแต่คนที่ไม่ได้ตามข่าวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าครูน้อย "จบแล้ว"

 

 

พวกสิ้นคิด ทำมาหากินเองไม่เป็น ได้แต่แบมือขอคนอื่น  มักจะเกาะพวกทักษิณ

"สัตว์ทั้งหลายคบกันโดยธาตุ" เช่นนี้แล

 

มองโลกแง่ร้ายมากๆ

ระวัง ลุกขึ้น "หัวจะชนกะลา" นะครับ...

[ม่านน้ำ]

อย่าลืมเลือกเบอร์ 4 นะครับ เฉลิมบอก

[สิงห์สนามซ้อม]

ไปอ่านประวัติ ครูน้อย ก่อนดีกว่า

[Son of Anarchy]

พวกเดี๋ยวกันนั่นแหละ ครูน้อยเคยมีเรื่องเงินๆ ทองๆ   เพราะเงินหาได้ง่ายมาก  เด็กที่รับเลี้ยงส่วนหนึ่งก็เป็นเด็กแถวนั้น พ่อแม่ไม่ได้จนอะไร ได้ผลประโยชน์ร่วมกันเลยเงียบ ใช้เงินจนเป็นหนี้มากมาย ร้องไห้ออกสื่อขอเงินเป็นว่าเล่น

[หนูอ้อย]

จัดให้.. จะมองครูน้อยต้อง 2 ด้าน

บทเรียนครูน้อย หนี้ก้อนโตของนางนวลน้อย ทิมกุล หรือครูน้อย ผู้ก่อตั้งมูลนิธิบ้านครูน้อย อันเกิดจากงานจิตอาสา สงเคราะห์เลี้ยงดูเด็กจำนวนมาก ให้แง่คิดที่น่าสนใจหลายประการ ประการหนึ่งมาจากการบริหารจัดการที่ไม่มีระบบของนักสังคมสงเคราะห์ภาคเอกชนคนนี้..

ที่ทำให้ฐานะการเงินติดลบ จนเกินกำลังความสามารถที่จะชดใช้ได้ โดยเฉพาะการเป็นหนี้นอกระบบ ที่มีความเสี่ยงอยู่พอสมควรในการติดตามทวงถาม หากครูน้อยผิดนัดชำระ ประการหนึ่ง หน้าที่ในการดูแลสงเคราะห์เด็กจำนวนมาก หากไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐ ก็น่าเป็นผู้ที่มีฐานะการเงินมั่นคง หรือมีเครือข่ายที่จะทำกุศลนี้โดยไม่เดือดร้อน บางทีปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับครูน้อยจะเป็นโอกาสให้มีการทบทวนการสังคมสงเคราะห์ภาคเอกชนทั้งระบบก็ได้

แน่นอนว่า ไม่มีข้อสงสัยในความสุจริตของครูน้อย แต่การทำงานอย่างไร้ระบบ วันหนึ่งครูน้อยก็พลาดได้ และเมื่อพลาดแล้ว คนที่ไม่ได้ติดตาม ไม่ได้ใส่ใจความเสียสละของครูน้อยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็อาจมีคำถาม และตีความกันไปต่างๆ นานา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย กล่าวว่า  การช่วยเหลือเด็กยากจนและด้อยโอกาสในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่มีแต่ใจอย่างเดียว ต้องมีความพร้อมด้วย และต้องไม่สงเคราะห์จนไม่ลืมหูลืมตา จนเด็กอ่อนแอ เพราะสุดท้ายช่วยเหลือแล้วต้องพยายามให้เด็กอยู่กับครอบครัวให้ได้ เขารู้จักครูน้อยมานาน ไม่ได้กังวลเรื่องความซื่อตรง หรือความเป็นคนดี เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ครูน้อยบอกว่ามีปัญหาเรื่องการเงิน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็กจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยจัดระบบบัญชีให้ แต่ทำเพียงสัปดาห์เดียว ครูน้อยก็ถอดใจ บอกว่ายุ่งยากและไม่อยากทำ

 

เศรษฐกิจพอเพียง คือการทำมาหากินอย่างพอเพียงแก่การดำรงชีวิตอยู่ ถึงวันที่ครูน้อยมีหนี้ก้อนโต ที่ถึงแม้จะเจรจาลดหนี้บางส่วนลงแต่ก็ยังมีภาระอีกจำนวนไม่น้อย ครูน้อยอาจจะต้องเริ่มคิดถึงการสังคมสงเคราะห์อย่างพอเพียง คือการช่วยเหลือเท่าที่เรามีกำลังจะช่วยเหลือได้ หรือยอมให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่มีหน้าที่โดยตรงรับตัวเด็กไปอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ วันนี้สังคมไทยชื่นชมครูน้อยอย่างแน่นอน ครูน้อย

คือต้นแบบที่กระตุ้นให้หลายคนมีจิตสาธารณะที่จะให้ แต่ครูน้อยทำงานเหน็ดเหนื่อยมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ครูน้อยจะยอมสงเคราะห์ตัวเอง และสังคมไทยคงไม่แล้งไร้น้ำใจที่จะตอบแทนครูน้อย ที่เสียสละให้แก่สังคมนี้มาเกือบทั้งชีวิต

http://www.komchadlu...ียนครูน้อย.html

[หลานคนสร้างชาติ]

จัดให้.. จะมองครูน้อยต้อง 2 ด้าน

บทเรียนครูน้อย หนี้ก้อนโตของนางนวลน้อย ทิมกุล หรือครูน้อย ผู้ก่อตั้งมูลนิธิบ้านครูน้อย อันเกิดจากงานจิตอาสา สงเคราะห์เลี้ยงดูเด็กจำนวนมาก ให้แง่คิดที่น่าสนใจหลายประการ ประการหนึ่งมาจากการบริหารจัดการที่ไม่มีระบบของนักสังคมสงเคราะห์ภาคเอกชนคนนี้..

ที่ทำให้ฐานะการเงินติดลบ จนเกินกำลังความสามารถที่จะชดใช้ได้ โดยเฉพาะการเป็นหนี้นอกระบบ ที่มีความเสี่ยงอยู่พอสมควรในการติดตามทวงถาม หากครูน้อยผิดนัดชำระ ประการหนึ่ง หน้าที่ในการดูแลสงเคราะห์เด็กจำนวนมาก หากไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐ ก็น่าเป็นผู้ที่มีฐานะการเงินมั่นคง หรือมีเครือข่ายที่จะทำกุศลนี้โดยไม่เดือดร้อน บางทีปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับครูน้อยจะเป็นโอกาสให้มีการทบทวนการสังคมสงเคราะห์ภาคเอกชนทั้งระบบก็ได้

แน่นอนว่า ไม่มีข้อสงสัยในความสุจริตของครูน้อย แต่การทำงานอย่างไร้ระบบ วันหนึ่งครูน้อยก็พลาดได้ และเมื่อพลาดแล้ว คนที่ไม่ได้ติดตาม ไม่ได้ใส่ใจความเสียสละของครูน้อยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็อาจมีคำถาม และตีความกันไปต่างๆ นานา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย กล่าวว่า  การช่วยเหลือเด็กยากจนและด้อยโอกาสในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่มีแต่ใจอย่างเดียว ต้องมีความพร้อมด้วย และต้องไม่สงเคราะห์จนไม่ลืมหูลืมตา จนเด็กอ่อนแอ เพราะสุดท้ายช่วยเหลือแล้วต้องพยายามให้เด็กอยู่กับครอบครัวให้ได้ เขารู้จักครูน้อยมานาน ไม่ได้กังวลเรื่องความซื่อตรง หรือความเป็นคนดี เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ครูน้อยบอกว่ามีปัญหาเรื่องการเงิน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็กจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยจัดระบบบัญชีให้ แต่ทำเพียงสัปดาห์เดียว ครูน้อยก็ถอดใจ บอกว่ายุ่งยากและไม่อยากทำ

 

เศรษฐกิจพอเพียง คือการทำมาหากินอย่างพอเพียงแก่การดำรงชีวิตอยู่ ถึงวันที่ครูน้อยมีหนี้ก้อนโต ที่ถึงแม้จะเจรจาลดหนี้บางส่วนลงแต่ก็ยังมีภาระอีกจำนวนไม่น้อย ครูน้อยอาจจะต้องเริ่มคิดถึงการสังคมสงเคราะห์อย่างพอเพียง คือการช่วยเหลือเท่าที่เรามีกำลังจะช่วยเหลือได้ หรือยอมให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่มีหน้าที่โดยตรงรับตัวเด็กไปอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ วันนี้สังคมไทยชื่นชมครูน้อยอย่างแน่นอน ครูน้อย

คือต้นแบบที่กระตุ้นให้หลายคนมีจิตสาธารณะที่จะให้ แต่ครูน้อยทำงานเหน็ดเหนื่อยมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ครูน้อยจะยอมสงเคราะห์ตัวเอง และสังคมไทยคงไม่แล้งไร้น้ำใจที่จะตอบแทนครูน้อย ที่เสียสละให้แก่สังคมนี้มาเกือบทั้งชีวิต

http://www.komchadlu...ียนครูน้อย.html

 

 

ครูน้อย ตาถึงจริงๆ

 

 

โง่ไม่เกรงอกเกรงใจใครเลยจริงๆ

 

พงศพัศเคยควักเงินช่วยครูน้อยตอนเป็นหนี้นอกระบบแล้วมาร้องไห้โอดกับสอยุด

 

ตอนนั้นคนทั้งประเทศไทยไม่ได้สงสารครูน้อย  ด่ากันระงม ข้อหา "ทำบ้านเด็กเพื่อสนองนี้ดตัวเองจนเป็นหนี้"

พร้อมกับขุดหลักฐานประจานครูน้อยว่าแกใช้เงินบริจาคมากมายไปให้ลูกหลานได้สุขสบายอย่างไรบ้าง

เด็กๆแถวนั้นได้แต่ข้าวกับขนม แต่ไม่เคยได้รับการอบรมให้รู้จักมารยาท เรียนหนังสือ หรือทำมาหากินเลย

 

พงศพัศเสียรังวัดไปพอสมควรกับ "การเอาหน้า" ในครั้งนั้น

 

หลังจากนั้นครูน้อยก็ถูกองค์กรที่ดูแลเรื่องเด็กตรวจสอบอย่างเข้มงวด ต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายแสดงให้เห็น

ครูน้อยก็ออกมาบ่นคร่ำครวญอีก ว่าทำไม่ได้ ทำไม่เป็น (แต่รับเงินคนอื่นเขามาเป็นสิบๆล้านเนี่ยนะ)

คนที่ถูกส่งเข้าไปตรวจสอบคือครูหยุยครับ

 

ชื่อเสียงครูน้อยก็มลายสิ้นในตอนนั้น  เหลือแต่คนที่ไม่ได้ตามข่าวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าครูน้อย "จบแล้ว"

 

 

พวกสิ้นคิด ทำมาหากินเองไม่เป็น ได้แต่แบมือขอคนอื่น  มักจะเกาะพวกทักษิณ

"สัตว์ทั้งหลายคบกันโดยธาตุ" เช่นนี้แล

 

 

ผึ้งน้อย  มองโลกแง่ร้ายมากๆ

Edited by หลานคนสร้างชาติ, 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:37.

[หยุดกูที]

กทม และจุฬา ไล่ที่ โรงเรียนเด็กยากจน แถวปทุม มีอุเทนถวายประท้วง

 

ทีมงานเอ๋อ ช่วยไรได้  

[awhile]

กทม และจุฬา ไล่ที่ โรงเรียนเด็กยากจน แถวปทุม มีอุเทนถวายประท้วง

 

ทีมงานเอ๋อ ช่วยไรได้  

แล้วทีมงานพงสะพัด และผู้สมัคร ท่านอื่นได้ช่วยอะไรแล้วบ้างครับ??

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ผึ้งน้อย  มองโลกแง่ร้ายมากๆ

 

 

เคยทำงานกะครูน้อยอ๊ะยัง?

 

 

ผมเคยมาแล้ว 

ถึงได้ "ไม่โลกสวย"

 

 

ต่อให้ครูน้อยมาเชียร์ปชป. ผมก็ตำหนิครับ

[หนูอ้อย]

จัดให้.. จะมองครูน้อยต้อง 2 ด้าน

บทเรียนครูน้อย หนี้ก้อนโตของนางนวลน้อย ทิมกุล หรือครูน้อย ผู้ก่อตั้งมูลนิธิบ้านครูน้อย อันเกิดจากงานจิตอาสา สงเคราะห์เลี้ยงดูเด็กจำนวนมาก ให้แง่คิดที่น่าสนใจหลายประการ ประการหนึ่งมาจากการบริหารจัดการที่ไม่มีระบบของนักสังคมสงเคราะห์ภาคเอกชนคนนี้..

ที่ทำให้ฐานะการเงินติดลบ จนเกินกำลังความสามารถที่จะชดใช้ได้ โดยเฉพาะการเป็นหนี้นอกระบบ ที่มีความเสี่ยงอยู่พอสมควรในการติดตามทวงถาม หากครูน้อยผิดนัดชำระ ประการหนึ่ง หน้าที่ในการดูแลสงเคราะห์เด็กจำนวนมาก หากไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐ ก็น่าเป็นผู้ที่มีฐานะการเงินมั่นคง หรือมีเครือข่ายที่จะทำกุศลนี้โดยไม่เดือดร้อน บางทีปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับครูน้อยจะเป็นโอกาสให้มีการทบทวนการสังคมสงเคราะห์ภาคเอกชนทั้งระบบก็ได้

แน่นอนว่า ไม่มีข้อสงสัยในความสุจริตของครูน้อย แต่การทำงานอย่างไร้ระบบ วันหนึ่งครูน้อยก็พลาดได้ และเมื่อพลาดแล้ว คนที่ไม่ได้ติดตาม ไม่ได้ใส่ใจความเสียสละของครูน้อยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็อาจมีคำถาม และตีความกันไปต่างๆ นานา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย กล่าวว่า  การช่วยเหลือเด็กยากจนและด้อยโอกาสในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่มีแต่ใจอย่างเดียว ต้องมีความพร้อมด้วย และต้องไม่สงเคราะห์จนไม่ลืมหูลืมตา จนเด็กอ่อนแอ เพราะสุดท้ายช่วยเหลือแล้วต้องพยายามให้เด็กอยู่กับครอบครัวให้ได้ เขารู้จักครูน้อยมานาน ไม่ได้กังวลเรื่องความซื่อตรง หรือความเป็นคนดี เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ครูน้อยบอกว่ามีปัญหาเรื่องการเงิน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็กจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยจัดระบบบัญชีให้ แต่ทำเพียงสัปดาห์เดียว ครูน้อยก็ถอดใจ บอกว่ายุ่งยากและไม่อยากทำ

 

เศรษฐกิจพอเพียง คือการทำมาหากินอย่างพอเพียงแก่การดำรงชีวิตอยู่ ถึงวันที่ครูน้อยมีหนี้ก้อนโต ที่ถึงแม้จะเจรจาลดหนี้บางส่วนลงแต่ก็ยังมีภาระอีกจำนวนไม่น้อย ครูน้อยอาจจะต้องเริ่มคิดถึงการสังคมสงเคราะห์อย่างพอเพียง คือการช่วยเหลือเท่าที่เรามีกำลังจะช่วยเหลือได้ หรือยอมให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่มีหน้าที่โดยตรงรับตัวเด็กไปอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ วันนี้สังคมไทยชื่นชมครูน้อยอย่างแน่นอน ครูน้อย

คือต้นแบบที่กระตุ้นให้หลายคนมีจิตสาธารณะที่จะให้ แต่ครูน้อยทำงานเหน็ดเหนื่อยมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ครูน้อยจะยอมสงเคราะห์ตัวเอง และสังคมไทยคงไม่แล้งไร้น้ำใจที่จะตอบแทนครูน้อย ที่เสียสละให้แก่สังคมนี้มาเกือบทั้งชีวิต

http://www.komchadlu...ียนครูน้อย.html

 

 

> 

ครูน้อย ตาถึงจริงๆ

 

 

โง่ไม่เกรงอกเกรงใจใครเลยจริงๆ

 

พงศพัศเคยควักเงินช่วยครูน้อยตอนเป็นหนี้นอกระบบแล้วมาร้องไห้โอดกับสอยุด

 

ตอนนั้นคนทั้งประเทศไทยไม่ได้สงสารครูน้อย  ด่ากันระงม ข้อหา "ทำบ้านเด็กเพื่อสนองนี้ดตัวเองจนเป็นหนี้"

พร้อมกับขุดหลักฐานประจานครูน้อยว่าแกใช้เงินบริจาคมากมายไปให้ลูกหลานได้สุขสบายอย่างไรบ้าง

เด็กๆแถวนั้นได้แต่ข้าวกับขนม แต่ไม่เคยได้รับการอบรมให้รู้จักมารยาท เรียนหนังสือ หรือทำมาหากินเลย

 

พงศพัศเสียรังวัดไปพอสมควรกับ "การเอาหน้า" ในครั้งนั้น

 

หลังจากนั้นครูน้อยก็ถูกองค์กรที่ดูแลเรื่องเด็กตรวจสอบอย่างเข้มงวด ต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายแสดงให้เห็น

ครูน้อยก็ออกมาบ่นคร่ำครวญอีก ว่าทำไม่ได้ ทำไม่เป็น (แต่รับเงินคนอื่นเขามาเป็นสิบๆล้านเนี่ยนะ)

คนที่ถูกส่งเข้าไปตรวจสอบคือครูหยุยครับ

 

ชื่อเสียงครูน้อยก็มลายสิ้นในตอนนั้น  เหลือแต่คนที่ไม่ได้ตามข่าวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าครูน้อย "จบแล้ว"

 

 

พวกสิ้นคิด ทำมาหากินเองไม่เป็น ได้แต่แบมือขอคนอื่น  มักจะเกาะพวกทักษิณ

"สัตว์ทั้งหลายคบกันโดยธาตุ" เช่นนี้แล

 

 

ผึ้งน้อย  มองโลกแง่ร้ายมากๆ

 

 

ที่ขีดเส้นใต้ คืออ่านจับใจความ -- ท่านผึ้งให้ข้อมูลหลักๆตรงกับที่หนูอ้อยนำมาลงได้แก่ โรงเรียนครูน้อยมีครูหยุยข้าไปช่วยดู

แต่ครูน้อย "ถอดใจ"

 

คนที่ลังเลกับการตรวจสอบ จะด้วยอ่อนแอที่จะทำ หรือแข็งขันที่จะโกง

สังคมลังเลแน่นอนที่จะไว้วางใจ

 

ส่วนบริบทอื่นๆที่คอลัมนิสต์นำมาลง  แม้ไม่ได้มีคำตำหนิโจ๋งครึ่ม แต่ไม่ได้ชัดแจ้งจนเห็นว่า ครูน้อยเป็นรัฐสตรี

 

อาจมีบางคนถามด้วยซ้ำว่า "ครูน้อยคือใคร"  นั่นไม่ใช่คำถามที่บัดซบเพราะครูน้อยเธอดังในวงที่ยังไม่กว้างพอ

[ant]

เชื่อว่า..คนกรุงเทพฯไม่เลือกพวกเผาบ้านเผาเมือง

[PPPP58]

ไม่ทิ้งคนจนจริงหรือภาคใต้คนเขาตายกันเพราะระเบิดโครมๆๆ อีนางยกตัวดีหนีไปเดินสวยอยู่ไหนขนาดหัวหน้ายังแบบนี้ ลูกน้องแม๊งจะขนาดไหน เป็นนายกหรือเป็นอะไร?????

 

 

นายกถึงนครพนมแล้ว!!  เพื่อร่วมงานนมัสการพระธาตุปี 56 แต่งตัวเช้งวับในชุดสาว "ภูไท" ด้าน"แฟนคลับ"เชียร์ลั่น งามแท้ ๆ งามบักคัก

[wkai]

ไม่ทิ้งคนจนจริงหรือภาคใต้คนเขาตายกันเพราะระเบิดโครมๆๆ อีนางยกตัวดีหนีไปเดินสวยอยู่ไหนขนาดหัวหน้ายังแบบนี้ ลูกน้องแม๊งจะขนาดไหน เป็นนายกหรือเป็นอะไร?????

 

 

นายกถึงนครพนมแล้ว!!  เพื่อร่วมงานนมัสการพระธาตุปี 56 แต่งตัวเช้งวับในชุดสาว "ภูไท" ด้าน"แฟนคลับ"เชียร์ลั่น งามแท้ ๆ งามบักคัก

นายกฯ เรียกประชุมด่วนหน่วยงานความมั่นคง

 

 

นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง เร่งหารือและติดตามสถานการณ์ไม่สงบในภาคใต้ และหารือการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง

 

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. และนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้ารวมประชุม  พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือและติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายหลังจากที่ผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัด ปัตตานี และยะลา หลายจุดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าที่ประชุมจะประเมินสถานการณ์ และอาจพิจารณาพระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาประกาศใช้ในพื้นที่

 

ขณะที่พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขา สมช. ระบุจากการประเมินสถานการณ์เหตุการณ์รุ่นแรงที่เกิดขึ้นเป็น เป็นการพุ่งเป้าก่อเหตุเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่ประชาชน โดยผู้ก่อเหตุยังคงเป็นกลุ่มคนเดิมๆในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังระดมกำลังปิดล้อม ตรวจค้นอยู่ ขณะที่ทั้งทหาร ตำรวจ ประชาชน ยังทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี จึงยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวในขณะนี้ 

[promotion]

คงตรรกะเดียวกับป้าคนนี้มังครับ

 

[G.Maniac]

กทม และจุฬา ไล่ที่ โรงเรียนเด็กยากจน แถวปทุม มีอุเทนถวายประท้วง

 

ทีมงานเอ๋อ ช่วยไรได้  

 

ที่ดินของจุฬาฯ ไม่ใช่ของ กทม. 

 

จุฬาฯฟ้องไล่ที่ ศาลให้ชนะคดี 

 

ดันด่ากทม.โชว์โง่ให้ชาวบ้านได้เห็นซ้ำๆซากๆ

 

ถ้าจะช่วยได้ ก็ให้ รมต.- นายกฯ ช่วยสิ 

 

สั่งได้ครอบจักรวาลอยู่แล้วนี่

 

แบบนี่แสดงว่า รมต. ก็ไร้น้ำยา นายกฯก็ไร้ปัญญา เอ๊ย น้ำยา เหมือนกัน

 

ฮ่าๆ

[เชียร์คนดี]

ฝีมือทางการตลาด....   มันห่างชั้นกันเกินไปจริงๆ...  

โคตรห่างชั้นเลย..การ ตล.

[mongdoodee]

เมื่อวานนี้  มีนัดเจอกลุ่มเพื่อน ๆ ได้คุยกันเรื่องนี้

แล้วก็มีคนหนึ่งบอกว่า "เฮ้ย เค้าถึงกับประกาศว่า ให้คนต่างจังหวัด ที่มีญาติพี่น้องมาทำงานอาศัยอยู่ใน กทม. นี้ เลือกเบอร์ 9 แล้วนะ"

 

เพื่อนอีกคนเลยพูดว่า "เฮ้ย คน ตจว. เค้าคิดได้ คิดเป็น มองการณ์ไกลนะ   คน ตจว. บอกว่า เบอร์ 9 นี้เป็นคนเก่ง

อย่าให้เป็นแค่ ผู้ว่า กทม.  จะได้กลับไปเป็นตำรวจ แล้วก็มีโอกาส ได้เป็น ผบ.ตร. (แหม คนเก่ง คนดี ขนาดนี้)  ซึ่งจะทำประโยชน์ให้กับคนทุกจังหวัด  ทำได้มากกว่า เป็น แค่ ผู้ว่า กทม. ซะอีก  "

 

เพี้ยง... ขอให้ทุกคน มีความคิดดี ๆ อย่างนี้ด้วยเถอะ............. โอม..มะลึก กึ๊กกี๊ยยยยย      

[ต้นหอม]

อดีตที่ผิดพลาดของครูน้อย

ซื้อตั๋วคอนเสิร์ตพี่เบิร์ดเพื่อพาเด็กๆไปดู ซื้อรองเท้ากีฬาคู่ละเป็นพันให้เด็กๆใส่ เข้าใจว่าครูน้อยรักเด็กๆ แต่การทำให้เด็กๆอยู่ในโลกแห่งความฝันที่มาจากเงินบริจาค หลีกเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากับความจริงสุดท้ายเด็กๆจะลำบาก

 ครูเค้าเป็นคนใจดีที่ไม่มีเหตุผลรองรับน่ะค่ะก็เลยเป็นแบบนี้

[juemmy]

ฝีมือทางการตลาด....   มันห่างชั้นกันเกินไปจริงๆ...  

สรุปคือคุณเห็นไตจะบอกว่าจูดี้สร้างภาพเก่งสินะคะ

[กีรเต้]

กทม และจุฬา ไล่ที่ โรงเรียนเด็กยากจน แถวปทุม มีอุเทนถวายประท้วง

 

ทีมงานเอ๋อ ช่วยไรได้  

 

ที่ดินของจุฬาฯ ไม่ใช่ของ กทม. 

 

จุฬาฯฟ้องไล่ที่ ศาลให้ชนะคดี 

 

ดันด่ากทม.โชว์โง่ให้ชาวบ้านได้เห็นซ้ำๆซากๆ

 

ถ้าจะช่วยได้ ก็ให้ รมต.- นายกฯ ช่วยสิ 

 

สั่งได้ครอบจักรวาลอยู่แล้วนี่

 

แบบนี่แสดงว่า รมต. ก็ไร้น้ำยา นายกฯก็ไร้ปัญญา เอ๊ย น้ำยา เหมือนกัน

 

ฮ่าๆ

 

ลากไป กทม. จนได้ ไม่รู้หรือว่าที่ดินในบริเวณสยาม-ปทุมวัน จุฬาลงกรณ์ เป็นทรัพย์สินของใคร  ภา่ษาเหนือ ว่า *** บ่ะเฮ้ย ฮาละก้าย.......

[พิฆาตอสูร]

http://topicstock.pa...0/A8863200.html

 

มองโลกแง่ร้ายเรอะ  อ่านลิงค์ข้างบน จากพันติ๊ป  ซะก่อน

ดูเม้นท์ของสมาชิกดิ

[เดอะอำมาตย์]

มู้นี้ควายแดงสีข้างถลอกยางไหม้ไปเยอะนะเนี่ย

[คุณหนูจีน่า]

ครูน้อยเนี่ยนะ ... โธ่ถังกะละมังหม้อ
วิธีการของครูน้อย ก็ "พ่อแม่รังแกฉัน" ดีๆนี่แหละ
ใช้ความสงสารเรียกเงินบริจาค เอาไปช่วยเหลือคนที่งอมืองอเท้าแถวๆบ้านแก
เด็กๆบ้านครูน้อย ถูกสปอยล์ซะจนจะกลายเป็นคุณหนูแล้วค่า

[สยาม]

ครูน้อย ผลาญเงินบริจาค ซื้อของแจกเด็ก พาเด็กกินเหลา ที่ว่ามานี้ ไม่เคยทำบัญชี ซ้ำยังเกินตัวจนเป็นหนี้นอกระบบ ใช้เงินบริจาคหลายๆล้ายหมดไปรวดเร็วฟุ้งเฟ้อขนาดนั้น แต่ตนเองกลับใส่เสื้อผ้าเก่าขาด ดูซอมซ่อ ไม่สอนให้เด็กรู้ค่าของเงิน แจกเงินสดเด็กเอง เงินเป็นหนี้ออกทีวี ชาวบ้านเห็นใจช่วยปลด ก็ทำพฤติกรรมใช้เงินแบบเดิมอีก ทั้งที่เงินเหล่านี้เลี้ยงเด็กศูนย์อื่นได้เป็นร้อยๆคน ครูหยุย ยังส่ายหัว สังคมกังขา พงศพัฒเข้ามาดู พันทิพลบทุกกระทู้ที่มีชื่อเรื่องพงศพัฒ กับครูน้อย เกลี้ยง เพราะพงศพัฒ์ขู่ฟ้อง
ไม่แปลกที่ครูน้อยต้องชื่นชอบเพราะเหมือนช่วยปิดเรื่องฉาวการใช้เงินบริจาคสุรุ่ยสุร่ายยาวนานของตน

[สยาม]

การใช้เงินบริจาคเป็นล้านๆ หลีกเลี่ยงไม่ยอมทำบัญชี อ้างว่ายุ่ง ทั้งที่องค์กรต่างๆยื่นมือช่วยทำให้ฟรีเป็นสิบปี

เงียบหายไปกับสายลม สังคมไม่ต้องตรวจสอบ เพราะการเข้ามาของพงศพัฒ ตัดบท ปิดประตู ขู่ฟ้องในครั้งนั้น

ผมจำได้ พงศพัฒนี่แหละที่ออกรายการ ถึงลูกถังคนกับชูวิทย์ และกล้าโกหกออกทีวีสดยันกับคนทั้งประเทศว่า ไม่มีส่วยอาบอบนวด แบบด้านๆ (ภายหลังผลสอบก็ปรากฏว่ามีจริงๆ ไม่ใช่อย่างที่พงศพัฒโกหกคนทั้งประเทศ)

พฤติกรรมอย่างนี้ เช่นทั้งสองเรื่อง หรือแม้กระทั่งเรื่องโรงพัก ไม่ต้องหวังว่า จะไปตรวจสอบการไม่ทุจริตอะไรได้

[หนูอ้อย]

เสื้อแดงที่เข้ามาอ่านนั้น

การรับรู้ข้อมูลอยู่ในคุณตะพาบที่ต่ำมากๆ

แถดแถเอาอารมณ์ความรู้สึกมาตัดสินการเป็นวีรสตรี

แถดแถเอาข้อมูลผิดๆมาใส่ร้ายผิดหน่วยงานดังเห็นเป็นประจักษ์ในเรปนี้

แล้วก็หายหัวตามเคย

[อิไซกูนิ]

คงตรรกะเดียวกับป้าคนนี้มังครับ