สมภารเซงโบสถ
"พระพยอม" ชี้"พระพายัพ"เหมาะสมได้พระครูปลัดฯ อ้างวุ่นเพราะขึ้นชื่อเป็นน้องแม้ว
#51
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:09
#52
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:22
"พระพยอม" ชี้ พระพายัพ มีได้สิทธิ์รับตำแหน่งพระครูปลัดฯ หากข่าวเคยสร้างโบสถ์เป็นเรื่องจริง
โอดแทนปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ถ้าพระพายัพไม่ได้เป็นน้องชายของคนชื่อทักษิณ
พร้อมแนะเลิกยึดติดกับเงื่อนเวลาได้แล้ว อ้างพระบางรูปบวชมานานหลายพรรษา
แต่ไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ศาสนา ก็ไม่ควรเลื่อนตำแหน่ง
พระบางรูปถึงบวชมานานหลายพรรษา
แต่ยังมองเหตุการณ์ไม่ออกว่าเป็นเรื่องของกิเลสล้วนๆหรือเรื่องปกติ
ก็ควรลาสิกขาบทซะ ศาสนาจะได้ไม่เสื่อม
ก็ให้ หลวงพายับ มันเป็น แทน หลวงยอม น่าจะดี
- kokkai likes this
#53
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:27
ปั่นหุ้นเอาเงินมาสร้างวัด ช่างโรบินฮูดมากเลย
ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสวนแก้วเลยก็ดีนะ
อยู่อเมริการับซื้อ"คูปองอาหาร"จากคนยากจน คนตกงานด้วย.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#55
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:32
งั้นถ้าอาจารย์เฉลิมชัยแกบวช แกคงได้เป็นสมเด็จแน่เลย เพราะแกไม่ได้สร้างแค่โบสถ์ แต่แกสร้างวัดทั้งวัดเลย
แต่คนแก่คนเฒ่าเขาบอกว่า ทำบุญทำทานจนบาตรทะลุ ไม่เท่าวิปัสนาเห็นแสงสว่างเท่าปลายไม้ขีดนะ
สร้างโบสถ์ก่อนบวช คงไม่เท่าพระที่บวชแล้วปฏิบัติจริงหรอกครับ
- ช่อมัลลิกา, koong, ปังตอ and 1 other like this
#56
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:42
ปั่นหุ้นเอาเงินมาสร้างวัด ช่างโรบินฮูดมากเลย
ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสวนแก้วเลยก็ดีนะ
อยู่อเมริการับซื้อ"คูปองอาหาร"จากคนยากจน คนตกงานด้วย.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
อย่ามาขุดคุ้ย อดีตของท่านพระครูซิ ท่านสร้างวัดนะครับ ท่านไม่ทำชั่วแบบนั้นหรอก
#57
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:51
กรมการศาสนายันไม่มีการตั้งพระพายัพเป็นพระครูปลัด
เมื่อเวลา 09.30 น. นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา ให้สัมภาษณ์ที่ด้านหน้าอาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า "พระพายัพ" (นายพายัพ ชินวัตร น้องชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ได้รับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์" หลังเพิ่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า อาจมีความไม่เหมาะสมว่า ชื่อ "พระครูปลัดฯ" ของพระพายัพเป็นเพียงฉายา โดยชื่อของพระพายัพขึ้นต้นด้วยตัว "พ." สมมติว่าตนบวชเป็นพระ ชื่อขึ้นต้นด้วย "ป." ก็อาจจะมีฉายาเป็น"ปัทธโร"ดังนั้นพระครูปลัดฯของพระพายัพไม่ใช่สมณศักดิ์ของพระ
"ตามกฎของเถรสมาคมระบุว่า พระครูปลัดต้องเป็นพระมาอย่างน้อย 5 ปีแล้วก็ต้องมีผลงานทางศาสนาด้วยการเผยแผ่ศาสนาจนเป็นที่ประจักษ์ ต้องขอผ่านที่ประชุมเถรสมาคมเพื่อมีมตินำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงโปรดเกล้าฯ ฉะนั้นสมณศักดิ์ของพระไม่ใช่ว่าจะได้กันง่าย ๆ ที่เหมือนพวกเราที่เป็นครูบาอาจารย์จะต้องเป็นอาจารย์ 2 อาจารย์ 3 ก่อน ดังนั้นถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ก็ดีครับเป็นการปลุกกระแสทางพระบ้าง ชื่อนี้เป็นแค่ฉายา ซึ่งคนบวชทุกคนจะมีฉายาเวลาตั้งชื่อตามภาษาบาลี ที่ดูว่าชื่อเดิมเป็นชื่ออะไร เมื่อไปพ้องกับตัว "พ." ชื่อก็เลยแผลงออกมาอย่างนั้น ส่วนเรื่องนี้กรมการศาสนาคงไม่ต้องช่วยชี้แจงเพราะว่าการบวชเป็นเรื่องของสำนักงานพระพุทธศาสนา แต่ถ้าถามผม ผมก็ช่วยชี้แจงได้ว่าเป็นเพียงฉายาของผู้ที่บวชที่พระอุปัชฌาย์คือพระที่ทำการบรรพชาให้จะต้องให้ฉายาก็เหมือนกับสมมติว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บวช ก็อาจจะได้ฉายาเป็น "พระอภิญญา" อะไรทำนองนั้นไป เพราะขึ้นต้นด้วย "อ." "นายปรีชา กล่าว
เมื่อถามว่าแต่ข่าวที่ออกมาเหมือนกับว่ามีการตั้งพระพายัพให้มีตำแหน่งเป็นพระครูปลัด นายปรีชา กล่าวว่า ไม่มีครับ ยืนยันว่าจะเป็นพระครูปลัดได้ต้องบวชอย่างน้อย 5 ปี ถ้าไม่เช่นนั้นใครบวชแล้วก็ได้เป็นพระครูปลัดเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด เพราะตำแหน่งพระครูสำหรับพระบางรูปต้องใช้เวลาบวชนานถึง 7 ปี บ้าง 10 ปี บ้าง
เจอดริฟท์นี้เข้าไป...เป็นไงล่ะหงายเงิบเลย
http://breakingnews....1176&lang=T=
คิดไว้แล้วว่ามันต้องออกมาแนวนี้...ซื้อหวยงวดที่แล้วถึงได้ 3 ตัวมา 5 คู่....
พระพายัพแอนด์เดอะแก๊ง ดริฟท์ตกคู
แต่พระพยอมนี่ดิ ถูกทิ้งตายเดี่ยวเลย สมน้ำหน้า
ปล. กรณีพระทำผิดไม่อยากวิจารณ์ กลัวบาป
ไม่ต่างอะไรจากพ่อแม่ทำผิด ลูกไม่กล้าตักเตือนกลัวอกตัญญูน่ะแหละครับ
คนทำผิดก็จะตกเหวตกหน้าผาไป ทั้งๆที่ถ้าเราช่วยกันตักเตือนห้ามปราม เขาอาจจะไปถึงแค่ปากเหวแล้วหยุดได้ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตกลงไป
คนไม่ตักเตือนเพราะกลัวบาป จึงเท่ากับ "ให้ท้าย" เขาทำผิดมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ
รักพ่อแม่จริง รักศาสนาจริง ต้องรู้จักตักเตือนกันครับ
- Tiger Lily and สิงห์สนามซ้อม like this
#58
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:55
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา
ตามกฎของเถรสมาคมระบุว่า พระครูปลัดต้องเป็นพระมาอย่างน้อย 5 ปี แล้วก็ต้องมีผลงานทางศาสนาด้วยการเผยแผ่ศาสนาจนเป็นที่ประจักษ์ ต้องขอผ่านที่ประชุมเถรสมาคมเพื่อมีมตินำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงโปรดเกล้าฯ ฉะนั้นสมณศักดิ์ของพระไม่ใช่ว่าจะได้กันง่ายๆ เหมือนพวกเราที่เป็นครูบาอาจารย์จะต้องเป็นอาจารย์ 2 อาจารย์ 3 ก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องเข้าใจผิด
http://www.matichon....wsid=1361249428
ตกลง พยอม อยู่ลัทธิอะไรหรอ ?
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#59
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:56
แถไปได้ นึกว่าเรากินหญ้าหรือไง ท่านอธิบดี ฉายาพระจะเป็นภาษาบาลี อภิญญาบ้าบออะไรที่ยกตัวอย่างมาน่ะ ไม่มีในฉายาพระเลย
#61
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:03
กรมการศาสนายันไม่มีการตั้งพระพายัพเป็นพระครูปลัด
เมื่อเวลา 09.30 น. นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา ให้สัมภาษณ์ที่ด้านหน้าอาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า "พระพายัพ" (นายพายัพ ชินวัตร น้องชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ได้รับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์" หลังเพิ่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า อาจมีความไม่เหมาะสมว่า ชื่อ "พระครูปลัดฯ" ของพระพายัพเป็นเพียงฉายา โดยชื่อของพระพายัพขึ้นต้นด้วยตัว "พ." สมมติว่าตนบวชเป็นพระ ชื่อขึ้นต้นด้วย "ป." ก็อาจจะมีฉายาเป็น"ปัทธโร"ดังนั้นพระครูปลัดฯของพระพายัพไม่ใช่สมณศักดิ์ของพระ
"ตามกฎของเถรสมาคมระบุว่า พระครูปลัดต้องเป็นพระมาอย่างน้อย 5 ปีแล้วก็ต้องมีผลงานทางศาสนาด้วยการเผยแผ่ศาสนาจนเป็นที่ประจักษ์ ต้องขอผ่านที่ประชุมเถรสมาคมเพื่อมีมตินำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงโปรดเกล้าฯ ฉะนั้นสมณศักดิ์ของพระไม่ใช่ว่าจะได้กันง่าย ๆ ที่เหมือนพวกเราที่เป็นครูบาอาจารย์จะต้องเป็นอาจารย์ 2 อาจารย์ 3 ก่อน ดังนั้นถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ก็ดีครับเป็นการปลุกกระแสทางพระบ้าง ชื่อนี้เป็นแค่ฉายา ซึ่งคนบวชทุกคนจะมีฉายาเวลาตั้งชื่อตามภาษาบาลี ที่ดูว่าชื่อเดิมเป็นชื่ออะไร เมื่อไปพ้องกับตัว "พ." ชื่อก็เลยแผลงออกมาอย่างนั้น ส่วนเรื่องนี้กรมการศาสนาคงไม่ต้องช่วยชี้แจงเพราะว่าการบวชเป็นเรื่องของสำนักงานพระพุทธศาสนา แต่ถ้าถามผม ผมก็ช่วยชี้แจงได้ว่าเป็นเพียงฉายาของผู้ที่บวชที่พระอุปัชฌาย์คือพระที่ทำการบรรพชาให้จะต้องให้ฉายาก็เหมือนกับสมมติว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บวช ก็อาจจะได้ฉายาเป็น "พระอภิญญา" อะไรทำนองนั้นไป เพราะขึ้นต้นด้วย "อ." "นายปรีชา กล่าว
เมื่อถามว่าแต่ข่าวที่ออกมาเหมือนกับว่ามีการตั้งพระพายัพให้มีตำแหน่งเป็นพระครูปลัด นายปรีชา กล่าวว่า ไม่มีครับ ยืนยันว่าจะเป็นพระครูปลัดได้ต้องบวชอย่างน้อย 5 ปี ถ้าไม่เช่นนั้นใครบวชแล้วก็ได้เป็นพระครูปลัดเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด เพราะตำแหน่งพระครูสำหรับพระบางรูปต้องใช้เวลาบวชนานถึง 7 ปี บ้าง 10 ปี บ้าง
เจอดริฟท์นี้เข้าไป...เป็นไงล่ะหงายเงิบเลย
http://breakingnews....1176&lang=T=
คิดไว้แล้วว่ามันต้องออกมาแนวนี้...ซื้อหวยงวดที่แล้วถึงได้ 3 ตัวมา 5 คู่....
พระพายัพแอนด์เดอะแก๊ง ดริฟท์ตกคู
แต่พระพยอมนี่ดิ ถูกทิ้งตายเดี่ยวเลย สมน้ำหน้า
ปล. กรณีพระทำผิดไม่อยากวิจารณ์ กลัวบาป
ไม่ต่างอะไรจากพ่อแม่ทำผิด ลูกไม่กล้าตักเตือนกลัวอกตัญญูน่ะแหละครับ
คนทำผิดก็จะตกเหวตกหน้าผาไป ทั้งๆที่ถ้าเราช่วยกันตักเตือนห้ามปราม เขาอาจจะไปถึงแค่ปากเหวแล้วหยุดได้ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตกลงไป
คนไม่ตักเตือนเพราะกลัวบาป จึงเท่ากับ "ให้ท้าย" เขาทำผิดมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ
รักพ่อแม่จริง รักศาสนาจริง ต้องรู้จักตักเตือนกันครับ
เป็นอธิบดีกรมศาสนาได้ยังไง ฉายาพระไม่ได้ตั้งตามชื่อ เขาตั้งตามวันที่เกิด เช่น วันจันทร์ วันอังคาร ซึ่งอาจไปสอดคล้องกับชื่อที่มีผู้รู้ตั้งให้
Edited by กีรเต้, 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:03.
ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ " https://www.facebook...akwarakfromyala https://www.facebook.com/NARAPEACE
#64
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:01
ผมอยากรู้ครับ พยอมน้อยศิษย์แดงเดือด ออกมารับรองแบบนี้
ได้ไปกี่ตังค์ครับ
#65
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:05
แกคงแค้นที่โดนยึดวัด แต่มันคนละเรื่องโกรธใครมาก็ไม่รู้.....กูจะใส่จีวรแดง...สะงั้น
สอนคนอื่นได้แต่กลับสอนตัวเองไม่ได้.....สาธุ..ๆ
Edited by paradon, 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:05.
" รัฐธรรมนูญไม่มีมาตราใด อนุญาติให้รัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย โกงบ้านกินเมืองได้โดยไม่ผิดกกหมาย "
#66
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:19
เรื่อง เี_ี้ยๆ ตระกูลนี้ถนัดนัก
กะครอบงำทุกภาคส่วนจริงๆ
สำเร็จเมื่อไหร่ก็โชคดีนะประเทศไทย
นี่ยังไม่รวมเรื่องที่จ้องจะขายสมบัติชาติ (แปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เหลือ)
เมื่อไหร่จะตาสว่างกันสักทีว่ะพวกควายแดง หรือมันฝังเข้ากะโหลกลึกแล้ว ยากจะถอนออก
เข้ามาดิ้น เข้ามาอวยแบบหน้าด้านๆ ไอ้คนกลางนี่ก็ขาประจำ
"เห็นต่างผมรับได้ครับ แต่เห็นผิดเป็นชอบนี่ก็ต้องเรียกว่าบัดซบล่ะครับ"
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ and kokkai like this
• เอือมระอากับบรรดาพี่น้องที่หลงทางจริงๆ เห็นต่างกันยังรับได้ครับ แต่เห็นผิดเป็นชอบแบบนี้มันบัดซบจริงๆ •
• หายนะของประเทศไทย ก็คือการที่ "ควายเลือกควาย" เข้ามาทำลายประเทศ •
#67
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:20
ผมยอมรับน่ะว่าไม่กลัวที่จะกล่าวถึงสมมติสงฆ์ประเภทนี้ สิ่งไหนผิดก้อว่าไปตามผิด ถูกก้อว่าไปตามถูก
ถ้ากลัวแต่จะเป็นบาป ศาสนาคงถูกพวกอลัชชี เดียรถีย์ ครอบงำ จนไม่เหลือเค้าแห่งพระศาสนา
บวชมาไม่กี่วัน ศีล สมาธิ ปัญญา ภาวนา...เป็นยังไงรู้หรือยังก้อไม่รู้
กิจของศาสนาเป็นยังไง พระธรรมวินัยมีกล่าวไว้อย่างไรบ้างอ่านบ้างหรือยัง
สิ่งที่ต้องทำต่างๆล่ะ แม้แต่เสขิยวัตร 75 ข้อ รู้เรื่องหรือเปล่า
ถ้าจะมาอ้างว่าเพื่อให้มาช่วยงาน...แล้วพระที่ท่านบวชมาเป็นมหาเปรียญเยอะแยะ
อย่าบอกน่ะว่าวัดเทพศิริน ไม่มีเอาเสียเลย หายไปไหนหมด
แล้วมาแถว่าไม่ได้ตั้ง เป็นเพียงแค่ฉายาบ้าง...พ้องเสียงบ้าง ตกลงว่าเห็นพุทธศาสนิกชนคนไทยโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ
ขอบ่นหน่อยเถอะ...เอาแค่นี้พอเน๊าะ
ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”
#68
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:40
ถ้าการตักเตือนเเนะนำให้พระอยู่ในกรอบของหลักการเป็นบาป นั่นคงไม่ใช่ศาสนาพุทธเเล้ว
ถ้าพระอยู่ส่วนพระคงจะดีกว่านี้มั้ง คุณพยอมช่างตามกระเเสดีเเท้ คงกลัวตกรถ
พระหรือนักบวชก็คงไม่ใหญ่กว่าโลงเเน่นอน
#69
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:40
พระพยอมนะจะทราบนะครับว่า "ไม่ใช้กิจของสงฆ์"
แถมยังละทิ้งความคิด ลาภยศ ไม่ได้...
/人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#70
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:19
อ่านไปนิดหน่อยแล้วขี้เกียจ เดี๋ยวอดใจไม่ได้ ไม่อยากไปวุ่นวายกับพระเจ้า เพราะไงเราก็เป็นพุทธ
ยิ่งเป็นชาวพุทธยิ่งต้องสนใจนะครับผมว่า บางครั้งการไม่ตำหนิ ติเตียนในเรื่องที่ไม่สมควร
มันก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมทางอ้อม ในกรณีนี้ผมว่าไม่สมควรครับ
การทำบุญมากๆใช่ว่าจะเป็นการสะสมเหมือนเก็บเงินเข้าบัญชี บวชปุ๊บจะมาถอนบุญมาสมทบผมว่าไม่ใช่
เพราะการบวชก็เหมือนเป็นการเริ่มต้นในอีกมิติหนึ่ง ไม่งั้นเค้าไม่จัดอาสนะตามพรรษาที่บวชมาหรอกครับ !
หากยังเคารพศรัทธาพระพุทธองค์, คำสอนของพระพุทธองค์, สาวกของพระพุทธองค์... ต้องทำขอรับ... ไม่งั้นพระสัทธรรมจะเสื่อม ดังคำพระพุทธองค์ตรัสในหลายๆพระสูตรถึงเหตุแห่งความเสื่อมของธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ 1 ในนั้นก็คือคำสอนผิดเพี้ยน, หลงไปเอาความเห็นเหล่าสมณะหมู่อื่นมาใช้... ที่สาวกของพระองค์อย่างแท้จริงจะไม่ปฏิบัติตาม... พระองค์กล่าวถึงด้วยซ้ำไปว่าสงฆ์สาวกใดที่ไม่ปฏิบัติตามธรรมวินัยของพระองค์ ก็ไม่ใช่สาวกของพระองค์ เป็นแค่มหาโจรขโมยธรรมของพระองค์ไปใช้หากินแล้วบอกเป็นธรรมของตนบ้าง, เป็นพวกที่เปรียบดัง "กูเป็นโค" คือลาที่อยู่ในฝูงวัวแล้วก็ร้องว่ากูเป็นวัวๆๆบ้างขอรับ...
...อยู่ที่พวกเรานี่แหละขอรับ... หากเราไม่โจษ หรือละการให้ทานกับคนเหล่านี้ ก็จะทำให้พวกมันเติบโต, เข้มแข็งขึ้น ทำให้สงฆ์สาวกของพระองค์จริงๆ ต้องนั่งนิ่งคอตกซบเซาในหมู่พวกทุศีลนี้ ตามที่พระตถาคตเคยกล่าวไว้นั่นแหละขอรับ...
>
"พระพยอม" ชี้ พระพายัพ มีได้สิทธิ์รับตำแหน่งพระครูปลัดฯ หากข่าวเคยสร้างโบสถ์เป็นเรื่องจริง
โอดแทนปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ถ้าพระพายัพไม่ได้เป็นน้องชายของคนชื่อทักษิณ
พร้อมแนะเลิกยึดติดกับเงื่อนเวลาได้แล้ว อ้างพระบางรูปบวชมานานหลายพรรษา
แต่ไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ศาสนา ก็ไม่ควรเลื่อนตำแหน่ง
พระบางรูปถึงบวชมานานหลายพรรษา
แต่ยังมองเหตุการณ์ไม่ออกว่าเป็นเรื่องของกิเลสล้วนๆหรือเรื่องปกติ
ก็ควรลาสิกขาบทซะ ศาสนาจะได้ไม่เสื่อม
ท่านกุ๊กไก่
ศาสนาและธรรมวินัย ไม่เสื่อมหรอกครับ ที่เสื่อมคือคนที่มาอาศัยศาสนา แต่ยังมีกิเลสบังตา ตัณหา บังใจ
ขอถกมองต่างสักครั้ง
ศาสนาเปรียบดังธรรมชาติ คือมีอยู่แล้ว พุทธองค์แค่มองเห็นและเอามาบอก
เมื่อมนุษย์เราช่วยกันทำลาย ของดีที่มีอยู่ก็หมดหรือเสื่อมไป
เมื่อทุกคนต่างช่วยกันทำลาย อนาคตเราจะมีธรรมชาติแบบนี้อยู่อีกหรือ
ถูกแล้วขอรับ... เพราะคนเหล่านี้ใช้เครื่องแบบของพระตถาคต แต่ไม่ใช้ธรรมของพระตถาคตมาประพฤติปฏิบัติให้รู้แจ้ง แล้วเผยแผ่ธรรมที่ถูกที่ควรแก่มหาชนต่อไป... แต่กลับใช้เครื่องแบบของพระองค์เป็นเครื่องแสวงหาอามิสทาน สั่งสม, สะสมทานเหล่านั้น แล้วเผยแผ่แต่สิ่งผิดๆให้แก่มหาชน ก็เพื่อเพียงหวังแต่อามิสทานทั้งหลายนั่น...
...หากเรายังไปสนับสนุนคนเหล่านี้ต่อไปในทางใดทางหนึ่ง... มันก็เท่ากับทำลายแก่นของพระศาสนา คือพระธรรมวินัยอันแท้จริงของพระองค์ให้หมดสิ้นไปขอรับ...
ผมเห็นด้วยกับท่านในทุุกตัวอักษรเลยครับ ที่เห็นบวชจำพรรษาอยู่นานหลายปี มีอยู่ไม่น้อยเลยที่อยู่เพื่อ ลาภ ยศ สรรเสริญ ผมเคยรู้ เห็น ได้ยินได้ฟังตลอดห้าพรรษา ก็เลยสึกเสียดีกว่าอยู่
- wat likes this
#71
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:31
นุ่งห่มเหลือง แต่ไม่หลุดพ้นกิเลส (ตัณหาด้วยล่ะ) ก็แค่อาศัยผ้าเหลืองหากินและหาเงิน
สร้างวัตถุก็ห่วงว่าสวยหรือไม่สวย มันก็ไม่ใช่พระ
ยึดติดในวัตถุ มันก็ไม่ใช่พระ
ยึดติดในลาภยศตำแหน่ง มันก็ไม่ใช่พระ
มันก็แค่พวกเหลือบศาสนา
#72
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:49
อธิบดีกรมการศาสนา ยืนยัน “พระพายัพ” น้องชาย “นช.แม้ว” ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์ แค่มีฉายา “พระครูปลัดพายัพ” ระบุตำแหน่งพระฐานานุกรมต้องบวชมาแล้ว 10 พรรษา มีคุณงามความดี มหาเถรสมาคมต้องพิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ได้ซื้อหากันง่ายๆ
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยถึงข่าวสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรมหาวิหาร แต่งตั้งพระพายัพ ชินวัตร ในฉายา “พระพายัพ เขมคุโณ” ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่งพระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์ว่า เมื่อพระพายัพอุปสมบท พระอุปัชฌาย์ของพระพายัพได้ตั้งฉายาให้ว่า “พระครูปลัด” ซึ่งเป็นเพียงแค่ฉายา ไม่ใช่การแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมแต่อย่างใด
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000021056
เป็นถึงอธิบดีกรมศาสนายังออกมาแถข้างๆคูๆ...
ฉายาของพระคืออะไรมันรู้หรือเปล่ายังมีหน้าออกมาพูดว่า "พระครูปลัด " เป็นแค่ฉายา
มันคิดว่าคนไทยโง่ถึงขนาดไม่รู้ว่าอะไรคือฉายาของพระหรืออะไรคือฐานะของพระเชียวหรือ
" รัฐธรรมนูญไม่มีมาตราใด อนุญาติให้รัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย โกงบ้านกินเมืองได้โดยไม่ผิดกกหมาย "
#73
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:58
อธิบดีกรมการศาสนา ยืนยัน “พระพายัพ” น้องชาย “นช.แม้ว” ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์ แค่มีฉายา “พระครูปลัดพายัพ” ระบุตำแหน่งพระฐานานุกรมต้องบวชมาแล้ว 10 พรรษา มีคุณงามความดี มหาเถรสมาคมต้องพิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ได้ซื้อหากันง่ายๆ
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยถึงข่าวสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรมหาวิหาร แต่งตั้งพระพายัพ ชินวัตร ในฉายา “พระพายัพ เขมคุโณ” ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่งพระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์ว่า เมื่อพระพายัพอุปสมบท พระอุปัชฌาย์ของพระพายัพได้ตั้งฉายาให้ว่า “พระครูปลัด” ซึ่งเป็นเพียงแค่ฉายา ไม่ใช่การแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมแต่อย่างใด
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000021056
เป็นถึงอธิบดีกรมศาสนายังออกมาแถข้างๆคูๆ...
ฉายาของพระคืออะไรมันรู้หรือเปล่ายังมีหน้าออกมาพูดว่า "พระครูปลัด " เป็นแค่ฉายา
มันคิดว่าคนไทยโง่ถึงขนาดไม่รู้ว่าอะไรคือฉายาของพระหรืออะไรคือฐานะของพระเชียวหรือ
ก็กะไว้ตอนปิดเทอมจะเอาหลานไปบวชเณรแล้วถวายปัจจัยสักเล็กน้อยขอรับ... แล้วบอกพระอุปัชชาย์ตั้งฉายาให้หลานว่า... พระครูอนุบาลหมีน้อยไชโย ทำม๊ะงุ๊งงิ๊งๆ...ซะหน่อยน่ะขอรับ... ถ้าท่านไม่ตั้งฉายานำว่าพระครูให้หลานกระพ๊มๆ ก็จะเอาเนี่ยแหละเป็นหลักฐานฟาดหน้า เอ๊ยยันหน้า เอ๊ยยืนยันท่านไปน่ะขอรับ...
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, kokkai, สิงห์สนามซ้อม and 1 other like this
#74
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:16
"พระพยอม" ชี้ พระพายัพ มีได้สิทธิ์รับตำแหน่งพระครูปลัดฯ หากข่าวเคยสร้างโบสถ์เป็นเรื่องจริง
โอดแทนปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ถ้าพระพายัพไม่ได้เป็นน้องชายของคนชื่อทักษิณ
พร้อมแนะเลิกยึดติดกับเงื่อนเวลาได้แล้ว อ้างพระบางรูปบวชมานานหลายพรรษา
แต่ไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ศาสนา ก็ไม่ควรเลื่อนตำแหน่ง
พระบางรูปถึงบวชมานานหลายพรรษา
แต่ยังมองเหตุการณ์ไม่ออกว่าเป็นเรื่องของกิเลสล้วนๆหรือเรื่องปกติ
ก็ควรลาสิกขาบทซะ ศาสนาจะได้ไม่เสื่อม
ท่านกุ๊กไก่
ศาสนาและธรรมวินัย ไม่เสื่อมหรอกครับ ที่เสื่อมคือคนที่มาอาศัยศาสนา แต่ยังมีกิเลสบังตา ตัณหา บังใจ
ขอถกมองต่างสักครั้ง
ศาสนาเปรียบดังธรรมชาติ คือมีอยู่แล้ว พุทธองค์แค่มองเห็นและเอามาบอก
เมื่อมนุษย์เราช่วยกันทำลาย ของดีที่มีอยู่ก็หมดหรือเสื่อมไป
เมื่อทุกคนต่างช่วยกันทำลาย อนาคตเราจะมีธรรมชาติแบบนี้อยู่อีกหรือ
ถูกตามที่ท่านว่า ว่าศาสนา คือ ธรรมชาติ หรือ สิ่งที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเดิมมนุษย์ไม่ได้ขวนขวายที่จะหาสัจธรรมในข้อนี้ แต่เมื่อพระพุทธองค์ทรงพบความจริงในสัจธรรมคังกล่าวและประกาศเผยแพร่ออกไป จึงมีพุทธสาวกจำนวนมากมายเหลือคณา แต่อนุสัยหรือกิเสส ที่ตกตะกอนอยู่ในใจคนนั้นยังมีอยู่ ทำให้เมื่อถึงเวลาหนึ่ง การได้รับความเคารพ กราบไหว้จากคนทั่วไป ทำให้เกิดความลำพองใจว่า เรารู้แล้ว เราสอนคนอื่นได้ จึงไม่ได้หมั่นศึกษาแนวทางที่จะทำให่้พ้นทุกข์ตามแนวทางของพระพุทธองค์ จึงผันเปลี่ยนแนวมายึดเอาวัตถุมาเป็นมงคล มอมเมาให้ญาติโยมมาลุ่มหลง ดังที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ คือ เน้นในเรื่องของวัตถุทาน มากกว่าธรรมทาน แล้วธรรมมะ หรือธรรมชาติ หายไปไหม ก็ไม่หายยังคงตั้งอยู่อย่างนั้น แต่ขาดคนที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของพระพุทธองค์ ดังนั้นที่ผมว่าศาสนาไม่เสื่อม เสื่อมอยู่ที่ผู้สืบทอดศาสนา ก็เป็นความเห็นของผม ดังนี้
ผมใช้ภาษาผิดไป
ธรรมชาติยังคงมีอยู่ แต่คนสืบทอดให้เราเห็นดันมีกิเลสมาบัง
ถ้าเราไม่ช่วยกันเอาคนพวกนี้ออกไป
คนรุ่นหลังก็จะเหมือน โดนคนตาบอดคลำช้าง แล้วมาอธิบายว่าช้างมีลักษณะอย่างไร
แล้วคุณคิดว่าคนรุ่นหลังจะรู้จริงไหมว่าช้างมีลักษณะอย่างไร
ได้แต่รู้งูๆปลาๆแล้วก็เพี้ยนไปเรื่อยๆ
จากธรรมชาติช้างก็คงเป็นช้าง แต่คนถ่ายทอดดันบอกไม่ถูกเอง
- wat likes this
#76
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:05
"พระพยอม" ชี้ พระพายัพ มีได้สิทธิ์รับตำแหน่งพระครูปลัดฯ หากข่าวเคยสร้างโบสถ์เป็นเรื่องจริง
โอดแทนปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ถ้าพระพายัพไม่ได้เป็นน้องชายของคนชื่อทักษิณ
พร้อมแนะเลิกยึดติดกับเงื่อนเวลาได้แล้ว อ้างพระบางรูปบวชมานานหลายพรรษา
แต่ไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ศาสนา ก็ไม่ควรเลื่อนตำแหน่ง
พระบางรูปถึงบวชมานานหลายพรรษา
แต่ยังมองเหตุการณ์ไม่ออกว่าเป็นเรื่องของกิเลสล้วนๆหรือเรื่องปกติ
ก็ควรลาสิกขาบทซะ ศาสนาจะได้ไม่เสื่อม
ท่านกุ๊กไก่
ศาสนาและธรรมวินัย ไม่เสื่อมหรอกครับ ที่เสื่อมคือคนที่มาอาศัยศาสนา แต่ยังมีกิเลสบังตา ตัณหา บังใจ
ขอถกมองต่างสักครั้ง
ศาสนาเปรียบดังธรรมชาติ คือมีอยู่แล้ว พุทธองค์แค่มองเห็นและเอามาบอก
เมื่อมนุษย์เราช่วยกันทำลาย ของดีที่มีอยู่ก็หมดหรือเสื่อมไป
เมื่อทุกคนต่างช่วยกันทำลาย อนาคตเราจะมีธรรมชาติแบบนี้อยู่อีกหรือ
ถูกตามที่ท่านว่า ว่าศาสนา คือ ธรรมชาติ หรือ สิ่งที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเดิมมนุษย์ไม่ได้ขวนขวายที่จะหาสัจธรรมในข้อนี้ แต่เมื่อพระพุทธองค์ทรงพบความจริงในสัจธรรมคังกล่าวและประกาศเผยแพร่ออกไป จึงมีพุทธสาวกจำนวนมากมายเหลือคณา แต่อนุสัยหรือกิเสส ที่ตกตะกอนอยู่ในใจคนนั้นยังมีอยู่ ทำให้เมื่อถึงเวลาหนึ่ง การได้รับความเคารพ กราบไหว้จากคนทั่วไป ทำให้เกิดความลำพองใจว่า เรารู้แล้ว เราสอนคนอื่นได้ จึงไม่ได้หมั่นศึกษาแนวทางที่จะทำให่้พ้นทุกข์ตามแนวทางของพระพุทธองค์ จึงผันเปลี่ยนแนวมายึดเอาวัตถุมาเป็นมงคล มอมเมาให้ญาติโยมมาลุ่มหลง ดังที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ คือ เน้นในเรื่องของวัตถุทาน มากกว่าธรรมทาน แล้วธรรมมะ หรือธรรมชาติ หายไปไหม ก็ไม่หายยังคงตั้งอยู่อย่างนั้น แต่ขาดคนที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของพระพุทธองค์ ดังนั้นที่ผมว่าศาสนาไม่เสื่อม เสื่อมอยู่ที่ผู้สืบทอดศาสนา ก็เป็นความเห็นของผม ดังนี้
ผมใช้ภาษาผิดไป
ธรรมชาติยังคงมีอยู่ แต่คนสืบทอดให้เราเห็นดันมีกิเลสมาบัง
ถ้าเราไม่ช่วยกันเอาคนพวกนี้ออกไป
คนรุ่นหลังก็จะเหมือน โดนคนตาบอดคลำช้าง แล้วมาอธิบายว่าช้างมีลักษณะอย่างไร
แล้วคุณคิดว่าคนรุ่นหลังจะรู้จริงไหมว่าช้างมีลักษณะอย่างไร
ได้แต่รู้งูๆปลาๆแล้วก็เพี้ยนไปเรื่อยๆ
จากธรรมชาติช้างก็คงเป็นช้าง แต่คนถ่ายทอดดันบอกไม่ถูกเอง
เห็นด้วยกับท่านเรื่องการกันเอาคนที่ยังเต็มไปด้วยกิเลส แต่มาอาศัยอยู่ในพระธรรมวินัยนี้่ออกไป(สังเกตว่าต่อไปนี้ผมจะใช้คำว่าพระธรรมวินัย)แสวงหาลาภยศสรรเสริญ แต่วิธีการจะทำอย่างไร เพราะคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน แสวงหา และหวือหวากับพวกวัตถุ และค่านิยมที่เป็นพิธีการสวยงาม โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหาของพระธรรมวินัย ส่วนผู้ที่รู้ซึ้งพระธรรมวินัย ก็ขาดโอกาสแสดงออก จะเห็นได้จากการจัดการเรื่องการเดินปฏิบัติธรรมที่เรียกกันผิดๆ ขององค์กรหนึ่ง (องค์กรนี้ผมไม่เรียกว่าวัด เพราะปฏิบัติในสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านไม่ทรงสอน)
ในขณะเดียวกัน หากท่านเดินทางไปตามถนนหลวง ท่านจะเห็นป้ายต่างๆ โหมโฆษณา ให้ผู้คนมาทำบุญ โดยมีวัตถุมงคลมาล่อใจ ซึ่งก็ไม่มีในพระธรรมวินัย อีกเช่นกัน ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่เพราะเท่าที่ดูแล้ว ลัทธิองค์กรดังกล่าวนั้นพยายามแทรกซึมเข้าไปทุกจุดทุกมุมของทั้งประชาชนและคณะสงฆ์ โดยเอาอามิสมาล่อ ด้วยการจัดงานที่มีพิธีการยิ่งใหญ่ เพื่อให้คนมาร่วมงานมากๆ ปัญหานี้ตอนนี้เป็นไปทั่วประเทศแล้ว ในขณะเดียวกันท่านผู้รู้ธรรมวินัยเป็นอย่างดี ก็เริ่มลดน้อยถอยลงและต่างก็ปลีกหาความวิเวก ถอยออกไปสู่ธรรมชาติ ไม่มีโอกาสได้ถ่ายทอดสอนสั่ง
Edited by กีรเต้, 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:06.
- kokkai likes this
ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ " https://www.facebook...akwarakfromyala https://www.facebook.com/NARAPEACE
#77
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 20:07
มีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ ก็ไม่น่ามาออกความเห็นขัดแย้งกับระเบียบสงฆ์นะครับ
ความเห็นของท่านพระพยอมก็ประมาณ ยอมรับระบบอุปถัมภ์
พวกพ้องตระกูลนี้โกงได้เอามาแบ่งกัน ตระกูลนี้โกงไม่ได้ ไรประมาณนั้น
เอาเป็นว่าผมขออนุญาติสาปแช่ง ไม่ว่า คน หมา ขี้ข้า จานบิน หน้าไหน
ทำเสนียด***ให้แปดเปื้อนพุทธศาสนา ขอให้โคตรแมม่มม มันฉิบหายทั้งตระกูลครับเลยนะครับ
พูดริงไรจิง
#78
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 21:48
กรมการศาสนายันไม่มีการตั้งพระพายัพเป็นพระครูปลัด
เมื่อเวลา 09.30 น. นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา ให้สัมภาษณ์ที่ด้านหน้าอาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า "พระพายัพ" (นายพายัพ ชินวัตร น้องชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ได้รับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์" หลังเพิ่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า อาจมีความไม่เหมาะสมว่า ชื่อ "พระครูปลัดฯ" ของพระพายัพเป็นเพียงฉายา โดยชื่อของพระพายัพขึ้นต้นด้วยตัว "พ." สมมติว่าตนบวชเป็นพระ ชื่อขึ้นต้นด้วย "ป." ก็อาจจะมีฉายาเป็น"ปัทธโร"ดังนั้นพระครูปลัดฯของพระพายัพไม่ใช่สมณศักดิ์ของพระ
"ตามกฎของเถรสมาคมระบุว่า พระครูปลัดต้องเป็นพระมาอย่างน้อย 5 ปีแล้วก็ต้องมีผลงานทางศาสนาด้วยการเผยแผ่ศาสนาจนเป็นที่ประจักษ์ ต้องขอผ่านที่ประชุมเถรสมาคมเพื่อมีมตินำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงโปรดเกล้าฯ ฉะนั้นสมณศักดิ์ของพระไม่ใช่ว่าจะได้กันง่าย ๆ ที่เหมือนพวกเราที่เป็นครูบาอาจารย์จะต้องเป็นอาจารย์ 2 อาจารย์ 3 ก่อน ดังนั้นถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ก็ดีครับเป็นการปลุกกระแสทางพระบ้าง ชื่อนี้เป็นแค่ฉายา ซึ่งคนบวชทุกคนจะมีฉายาเวลาตั้งชื่อตามภาษาบาลี ที่ดูว่าชื่อเดิมเป็นชื่ออะไร เมื่อไปพ้องกับตัว "พ." ชื่อก็เลยแผลงออกมาอย่างนั้น ส่วนเรื่องนี้กรมการศาสนาคงไม่ต้องช่วยชี้แจงเพราะว่าการบวชเป็นเรื่องของสำนักงานพระพุทธศาสนา แต่ถ้าถามผม ผมก็ช่วยชี้แจงได้ว่าเป็นเพียงฉายาของผู้ที่บวชที่พระอุปัชฌาย์คือพระที่ทำการบรรพชาให้จะต้องให้ฉายาก็เหมือนกับสมมติว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บวช ก็อาจจะได้ฉายาเป็น "พระอภิญญา" อะไรทำนองนั้นไป เพราะขึ้นต้นด้วย "อ." "นายปรีชา กล่าว
เมื่อถามว่าแต่ข่าวที่ออกมาเหมือนกับว่ามีการตั้งพระพายัพให้มีตำแหน่งเป็นพระครูปลัด นายปรีชา กล่าวว่า ไม่มีครับ ยืนยันว่าจะเป็นพระครูปลัดได้ต้องบวชอย่างน้อย 5 ปี ถ้าไม่เช่นนั้นใครบวชแล้วก็ได้เป็นพระครูปลัดเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด เพราะตำแหน่งพระครูสำหรับพระบางรูปต้องใช้เวลาบวชนานถึง 7 ปี บ้าง 10 ปี บ้าง
เจอดริฟท์นี้เข้าไป...เป็นไงล่ะหงายเงิบเลย
http://breakingnews....1176&lang=T=
คิดไว้แล้วว่ามันต้องออกมาแนวนี้...ซื้อหวยงวดที่แล้วถึงได้ 3 ตัวมา 5 คู่....
พระพายัพแอนด์เดอะแก๊ง ดริฟท์ตกคู
แต่พระพยอมนี่ดิ ถูกทิ้งตายเดี่ยวเลย สมน้ำหน้า
ปล. กรณีพระทำผิดไม่อยากวิจารณ์ กลัวบาป
ไม่ต่างอะไรจากพ่อแม่ทำผิด ลูกไม่กล้าตักเตือนกลัวอกตัญญูน่ะแหละครับ
คนทำผิดก็จะตกเหวตกหน้าผาไป ทั้งๆที่ถ้าเราช่วยกันตักเตือนห้ามปราม เขาอาจจะไปถึงแค่ปากเหวแล้วหยุดได้ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตกลงไป
คนไม่ตักเตือนเพราะกลัวบาป จึงเท่ากับ "ให้ท้าย" เขาทำผิดมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ
รักพ่อแม่จริง รักศาสนาจริง ต้องรู้จักตักเตือนกันครับ
เป็นอธิบดีกรมศาสนาได้ยังไง ฉายาพระไม่ได้ตั้งตามชื่อ เขาตั้งตามวันที่เกิด เช่น วันจันทร์ วันอังคาร ซึ่งอาจไปสอดคล้องกับชื่อที่มีผู้รู้ตั้งให้
คำว่า พระครูปลัด เป็นยศพระ ไม่ใช่เป็นฉายาพระ อธิบดีกรมศาสนามั่่วแก้ต่างให้ คิดว่าคงมีการตั้งยศให้จริงๆ แต่พอคนโวย ก็เลยออกมาแก้ตัว ถึงพายัพจะทำบุญกี่ร้อยล้าน สร้างวัดกี่ร้อยวัด ก็ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้เป็นพระครูปลัด ใครเป็นคนคิดริเริ่มคงระ-ยำจริงๆ นี่พวกมันจะเล่นทั้ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เลยรึ
กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ
#79
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 21:59
กรมการศาสนายันไม่มีการตั้งพระพายัพเป็นพระครูปลัด
เมื่อเวลา 09.30 น. นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา ให้สัมภาษณ์ที่ด้านหน้าอาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า "พระพายัพ" (นายพายัพ ชินวัตร น้องชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ได้รับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์" หลังเพิ่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า อาจมีความไม่เหมาะสมว่า ชื่อ "พระครูปลัดฯ" ของพระพายัพเป็นเพียงฉายา โดยชื่อของพระพายัพขึ้นต้นด้วยตัว "พ." สมมติว่าตนบวชเป็นพระ ชื่อขึ้นต้นด้วย "ป." ก็อาจจะมีฉายาเป็น"ปัทธโร"ดังนั้นพระครูปลัดฯของพระพายัพไม่ใช่สมณศักดิ์ของพระ
"ตามกฎของเถรสมาคมระบุว่า พระครูปลัดต้องเป็นพระมาอย่างน้อย 5 ปีแล้วก็ต้องมีผลงานทางศาสนาด้วยการเผยแผ่ศาสนาจนเป็นที่ประจักษ์ ต้องขอผ่านที่ประชุมเถรสมาคมเพื่อมีมตินำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงโปรดเกล้าฯ ฉะนั้นสมณศักดิ์ของพระไม่ใช่ว่าจะได้กันง่าย ๆ ที่เหมือนพวกเราที่เป็นครูบาอาจารย์จะต้องเป็นอาจารย์ 2 อาจารย์ 3 ก่อน ดังนั้นถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ก็ดีครับเป็นการปลุกกระแสทางพระบ้าง ชื่อนี้เป็นแค่ฉายา ซึ่งคนบวชทุกคนจะมีฉายาเวลาตั้งชื่อตามภาษาบาลี ที่ดูว่าชื่อเดิมเป็นชื่ออะไร เมื่อไปพ้องกับตัว "พ." ชื่อก็เลยแผลงออกมาอย่างนั้น ส่วนเรื่องนี้กรมการศาสนาคงไม่ต้องช่วยชี้แจงเพราะว่าการบวชเป็นเรื่องของสำนักงานพระพุทธศาสนา แต่ถ้าถามผม ผมก็ช่วยชี้แจงได้ว่าเป็นเพียงฉายาของผู้ที่บวชที่พระอุปัชฌาย์คือพระที่ทำการบรรพชาให้จะต้องให้ฉายาก็เหมือนกับสมมติว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บวช ก็อาจจะได้ฉายาเป็น "พระอภิญญา" อะไรทำนองนั้นไป เพราะขึ้นต้นด้วย "อ." "นายปรีชา กล่าว
เมื่อถามว่าแต่ข่าวที่ออกมาเหมือนกับว่ามีการตั้งพระพายัพให้มีตำแหน่งเป็นพระครูปลัด นายปรีชา กล่าวว่า ไม่มีครับ ยืนยันว่าจะเป็นพระครูปลัดได้ต้องบวชอย่างน้อย 5 ปี ถ้าไม่เช่นนั้นใครบวชแล้วก็ได้เป็นพระครูปลัดเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด เพราะตำแหน่งพระครูสำหรับพระบางรูปต้องใช้เวลาบวชนานถึง 7 ปี บ้าง 10 ปี บ้าง
เจอดริฟท์นี้เข้าไป...เป็นไงล่ะหงายเงิบเลย
http://breakingnews....1176&lang=T=
คิดไว้แล้วว่ามันต้องออกมาแนวนี้...ซื้อหวยงวดที่แล้วถึงได้ 3 ตัวมา 5 คู่....
เล่นดริฟท์เสียตกท่อเลยนะครับ พระพายัพ ชินวัตร มีฉายาว่า “พระพายัพ เขมคุโณ” ครับ
ฉายา พระครูปลัดเอามาจากไหนครับ เป็นอธิบดีกรมการศาสนา ได้รับอนุญาติให้ white lies ได้ด้วยหรือครับ
เขมคุโณ เป็นฉายา พระครูปลัดเป็นตำแหน่งครับ
#80
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 22:18
เห็นด้วยกับท่านเรื่องการกันเอาคนที่ยังเต็มไปด้วยกิเลส แต่มาอาศัยอยู่ในพระธรรมวินัยนี้่ออกไป(สังเกตว่าต่อไปนี้ผมจะใช้คำว่าพระธรรมวินัย)แสวงหาลาภยศสรรเสริญ แต่วิธีการจะทำอย่างไร เพราะคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน แสวงหา และหวือหวากับพวกวัตถุ และค่านิยมที่เป็นพิธีการสวยงาม โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหาของพระธรรมวินัย ส่วนผู้ที่รู้ซึ้งพระธรรมวินัย ก็ขาดโอกาสแสดงออก จะเห็นได้จากการจัดการเรื่องการเดินปฏิบัติธรรมที่เรียกกันผิดๆ ขององค์กรหนึ่ง (องค์กรนี้ผมไม่เรียกว่าวัด เพราะปฏิบัติในสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านไม่ทรงสอน)
ในขณะเดียวกัน หากท่านเดินทางไปตามถนนหลวง ท่านจะเห็นป้ายต่างๆ โหมโฆษณา ให้ผู้คนมาทำบุญ โดยมีวัตถุมงคลมาล่อใจ ซึ่งก็ไม่มีในพระธรรมวินัย อีกเช่นกัน ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่เพราะเท่าที่ดูแล้ว ลัทธิองค์กรดังกล่าวนั้นพยายามแทรกซึมเข้าไปทุกจุดทุกมุมของทั้งประชาชนและคณะสงฆ์ โดยเอาอามิสมาล่อ ด้วยการจัดงานที่มีพิธีการยิ่งใหญ่ เพื่อให้คนมาร่วมงานมากๆ ปัญหานี้ตอนนี้เป็นไปทั่วประเทศแล้ว ในขณะเดียวกันท่านผู้รู้ธรรมวินัยเป็นอย่างดี ก็เริ่มลดน้อยถอยลงและต่างก็ปลีกหาความวิเวก ถอยออกไปสู่ธรรมชาติ ไม่มีโอกาสได้ถ่ายทอดสอนสั่ง
บอกตามตรง ผมเป็นคนห่างวัด
คือไม่ศรัทธา(พระ)พอที่จะเข้าวัดหรือตักบาตรบ่อยๆ
อาศัยทำบุญกับคนด้อยโอกาสซะมากกว่า
ลุกน้องเคยเล่าให้ฟังว่าวัดใกล้ๆบ้าน จะทอดกฐินบ่อย
จะมีคนมารับอาสาไปเรี่ยไร บอกบุญ โดยตกลงกับเจ้าอาวาสว่า
จัดแต่ละครั้งจะให้วัด 2 แสนที่เหลือเขาขอใว้ใช้จ่าย ทำมาหลายปีแล้วด้วย
Edited by kokkai, 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 23:09.
- กีรเต้ likes this
#81
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 22:30
ผมอยากรู้ครับ พยอมน้อยศิษย์แดงเดือด ออกมารับรองแบบนี้
ได้ไปกี่ตังค์ครับ
ท่าจะหลายอยู่ค่ะ
ใน fb มีข่าวว่าพระยับแอนด์พระยอมจะขึ้นเทศน์คู่กันในเร็ววันนี้
พยอมน้อยของคุณ eAT เลยต้องออกมาช่วยแก้หน้าให้คู่เทศน์ก่อน
แต่เรากลัวอีเม้ยไปเซิ้งเชียร์หน้าธรรมมาสน์จริงๆ
โปรดทราบ ... ออกตัวไว้ก่อนกันโดนด่าว่าเป็นสีกาปากจัด
เราไม่กลัวบาปที่จะด่าหรือวิจารณ์พระนอกรีต จะนอกมากนอกน้อยด่าหมด
เพราะถือว่าพวกนี้เป็นมารศาสนา แค่ผู้ชายห่มเหลือง ไม่ใช่พระ
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, วันศุกร์ and กีรเต้ like this
#82
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 22:43
พระพยอมไม่น่าเลย เสียหมด
#84
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 23:22
"พระพยอม" ชี้"พระพายัพ"เหมาะสมได้พระครูปลัดฯ อ้างวุ่นเพราะขึ้นชื่อเป็นน้องแม้ว
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#85
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 23:25
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา
ตามกฎของเถรสมาคมระบุว่า พระครูปลัดต้องเป็นพระมาอย่างน้อย 5 ปี แล้วก็ต้องมีผลงานทางศาสนาด้วยการเผยแผ่ศาสนาจนเป็นที่ประจักษ์ ต้องขอผ่านที่ประชุมเถรสมาคมเพื่อมีมตินำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงโปรดเกล้าฯ ฉะนั้นสมณศักดิ์ของพระไม่ใช่ว่าจะได้กันง่ายๆ เหมือนพวกเราที่เป็นครูบาอาจารย์จะต้องเป็นอาจารย์ 2 อาจารย์ 3 ก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องเข้าใจผิด
http://www.matichon....wsid=1361249428
ตกลง พยอม อยู่ลัทธิอะไรหรอ ?
เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสแต่งตั้ง"เถื่อน"หรือ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#86
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 06:58
ดูพาดหัวข่าวแล้วยิ่งตกนรกใหญ่
"ได้บำเหน็จเพราะสร้างวัด" ยิ่งผิดจากปณิธานของพุทธศาสนาเข้าไปใหญ่
ขนาดก่อนปรินิพพาน ศิษย์พากันทูลถามพระองค์ว่าจะให้ยึดถืออะไรต่อหลังท่านสิ้น
พระพุทธเจ้ายังทรงตอบเลยว่า "ให้ยึดธรรม"เป็นหลัก ท่านไม่ได้ให้ทรงสร้างอิฐสร้างปูนขึ้นมาให้เรายึดเลยด้วยซ้ำ
แล้วนี่พุทธศาสนาของไทยเป็นอะไรไปแล้ว เน้นสร้างอิฐสร้างปูนที่พระพุทธองค์ไม่ทรงให้คุณค่าเลยด้วยซ้ำ
#87
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 08:34
สงสัยเรทติ้งตก เทศน์ตลกไร้มนต์ขลัง
ร่ายไปใครไม่ฟัง อีกพระดังเริ่มเต็มเมือง
เช่นมหาสมปอง ที่ชื่อก้องฟูฟ่องเฟื่อง
เจ้าคุณคงเริ่มเคือง ทำอย่างไรจะเรียกคน
แต่เห็นผิดเป็นถูก จึงคิดผูกมิตรทางหม่น
นปช.ทาสฉ้อฉล เกณฑ์เข้าวัดด้วยอัตตา
คว้าไมค์ใช่ไถ่ธรรม แต่เอาขำไม่สิกขา
ว่าตัวอาตมา ไร้ปัญญาเกณฑ์คนฟัง
เคยรับกิจนิมนต์ ท่านเล่าบนเรื่องความหลัง
เต็มที่มีคนฟัง แค่หลักร้อยน้อยเกินไป
แต่นี่มาเป็นหมื่น ใจพระชื่นชุ่มแจ่มใส
ถ้าไม่รับเอาไว้ คงต้องฉันหญ้าคาแทน
แค่นี้เหรอหลวงพ่อ จึงพูดปร๋อพลางยิ้มแป้น
ธรรมะใช่คะแนน จึงวัดจากจำนวนคน
พุทธองค์เป็นตัวอย่าง จะดียากก็ไม่สน
หมื่นแสนหรือหนึ่งคน พระองค์พร้อมแสดงธรรม
อีกเรื่องฟังแล้วขัด พูดแจ้งจัดฉันจดจำ
เรื่องสีเสื้อพูดซ้ำ มีแต่ฟายเกลียดสีแดง
(ฟาย พูดไม่ชัด เข้าใจว่าหมายถึงควาย ไม่ใช่ fine)
พูดแค่หมายเอามัน หรือว่าท่านยุแยกแบ่ง
ตอกลิ่มด้วยเรี่ยวแรง ท่อนไม้ล้าจึงร้าวลั่น
ทางธรรมจึงไม่ผ่าน ทางโลกหรือยิ่งน่าขัน
มีควายตัวไหนกัน แบ่งแยกสีเหมือนกับคน
วิชาด้านชีวะ เขาพิสูจน์หายสับสน
ควายไทยหรือควายทน ไม่เห็นสีว่าเหลืองแดง
บางคราวจะเอามัน เรื่องจริงบ้างอย่าตะแบง
ธรรมะจึงเหม็นแหม่ง เพราะพระมั่วหลงมัวเมา
ตำราวิชาการ ต้องแตกฉานก่อนสอนเขา
ธรรมพระพุทธเจ้า ใช่เขียนบนถุงกล้วยแขก…นะ
http://www.oknation....t.php?id=354803
Edited by เช neverdie, 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 08:34.
- เพลิงสีนิล and kokkai like this
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#88
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 09:21
สุดงง!พระว.ไม่ได้สมณศักดิ์เช่นพระพายัพ
'เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า' ยันไม่ผิดตั้ง 'พระพายัพ' เป็นพระครู ลูกศิษย์
ความรู้ผลงานเพียบกลับไม่ได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์
ยังคงไม่มีความกระจ่างกรณีที่สมเด็จพระธีรญาณมุนี
เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แต่งตั้งพระพายัพ เขมคุโณ หรือนามเดิมนายพายัพ
ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์"
ทั้งที่เพิ่งจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ที่วัดป่าพุทธคยา ประเทศอินเดีย และจะมีกำหนดลาสิกขาวันที่ ๑๑ มีนาคมนี้
ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าไม่เหมาะสม
เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติพระสงฆ์ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพระ
ฐานานุกรมต้องอุปสมบทมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑๐ พรรษา
เรื่องนี้พระครูไพศาล กิตฺติภทฺโท เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า
จ.นนทบุรี ซึ่งเคยประกอบพิธีเสริมดวง ต่อชะตาให้พ.ต.ท.ทักษิณ
และคนในตระกูลชินวัตร กล่าวว่า ในอดีตเคยมีการแต่งตั้งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ ทั้งที่บวชได้เพียง ๓ พรรษา
ต่อมาท่านก็ได้รับการยกย่องเป็นกวีเอกของโลก
กรณีของพระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์ก็เช่นกัน ถ้าสมเด็จพระธีรญาณมุนี
มีเมตตาถือเป็นเรื่องปกติ ถึงจะบวชได้เพียง ๓ วัน หรือ ๑ วันก็ตาม
"เมื่อการแต่งตั้งอยู่ที่ความเมตตาของพระเถระ
เป็นประเพณีปฏิบัติ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ผิด
แต่ความรู้สึกคนทั่วไปจะชอบหรือไม่ชอบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าใช้ทัศนคติใดโดยไม่ดูราชประเพณีโบราณอาจเสียหายได้เหมือนกัน"
เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า กล่าว
ขณะเดียวกันลูกศิษย์ของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
หรือรู้จักกันดีในนามปากกา "ว.วชิรเมธี" ที่มีชื่อเสียงว่า
"เป็นพระนักวิชาการ นักคิดนักเขียน และนักบรรยายธรรม คนหนึ่งกล่าวว่า
ไม่ทราบเหมือนกันว่าใช้หลักเกณฑ์อะไรแต่งตั้งพระพายัพเป็นพระครูปลัด
หากเปรียบเทียบกับพระพระมหาวุฒิชัยแล้วถือว่าห่างชั้นกันมาก
"ปัจจุบันพระมหาวุฒิชัยได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์สอนนักศึกษาระดับปริญญาโท
ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ
นอกจากนั้นก็ยังรับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายวิชาการทางพระพุทธศาสนาให้หน่วยงาน
ต่างๆ อีกมากมาย ในแง่จริยวัตรส่วนตัวนั้นนอกจากท่านจะเป็นพระนักวิชาการ
พระนักคิด นักเขียน
แล้วท่านก็ยังสนใจฝึกสมาธิภาวนาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าสิบปี
มีผลงานทางวิพากษ์และแนะนำสังคมหลายเรื่อง เช่น
บทละครโทรทัศน์และหนังสือเรื่อง "ธรรมะติดปีก"
ซึ่งได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร
ในงานสัปดาห์พระพุทธศาสนาวิสาขบูชาประจำปี ๒๕๕๐
จึงน่าจะได้รับการเสนอชื่อให้พิจารณารับแต่งตั้งสมณศักดิ์มานานแล้ว"
ลูกศิษย์พระมหาวุฒิชัย กล่าวและว่า
ส่วนพระพายัพนั้นบวชไม่กี่วันก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูแล้ว
และอีกไม่กี่วันก็จะสึก
หากบวชไม่สึกแล้วและได้รับการแต่งตั้งก็พอจะน่าอนุโมทนาได้บ้าง
แต่เมื่อเป็นแบบนี้อนุโมทนาไม่ได้จริงๆ
ต่อกรณีที่พระมหาวุฒิชัยไม่ถูกเสนอชื่อให้พิจารณาได้รับการแต่งตั้ง
สมณศักดิ์นั้นนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์
ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เคยกล่าวไว้ว่า
แม้นว่าพระมหาวุฒิชัยจะมีผลงานที่เด่นจัด แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์และระเบียบใดๆ
ของมหาเถรสมาคม (มส.) ทั้งสิ้น การพิจารณาสมณศักดิ์ต้องไล่ที่ระดับ
ต้องดูโควตา โดยมีเสนอตั้งแต่ระดับเจ้าอาวาส ทั้งนี้ ท่าจะได้ก็ต่อเมื่อ
ต้องเสนอแต่งตั้งให้เป็นกรณีพิเศษเจริงๆ ไม่มีเกณฑ์ใดที่จะเสนอทั้งสิ้น
ทั้งนี้สำหรับพระมหาวุฒิชัยบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ ๑๓
เมษายน พ.ศ.๒๕๓๐ ณ พัทธสีมาวัดครึ่งใต้ ต.ครึ่ง อ.เชียงของ จ.เชียงราย
โดยมีพระครูโสภณจริยกิจ เจ้าคณะอำเภอเชียงของ เป็นพระอุปัชฌาย์
(ต้องการอ้างอิง) ต่อมาได้อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ณ
พัทธสีมาวัดครึ่งใต้ โดยมีพระเทพสิทธินายก (ชื่น ปญฺญาธโร)
เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นพระอุปัชฌาย์
การศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๓ สอบไล่ได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค
สำนักวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พ.ศ. ๒๕๔๓ ศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.)
จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และ พ.ศ. ๒๕๔๖ พุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.)
จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผลงานสำคัญ
อาจารย์พิเศษบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
อาจารย์พิเศษ สถาบันพระปกเกล้า วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน
อาจารย์พิเศษและวิทยากรบรรยายตามมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย เช่น
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหิดล,
มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น
วิทยากรบรรยายธรรมตามสถาบัน หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
บรรณาธิการวารสารเบญจมบพิตรสัมพันธ์
วิทยากรพิเศษบรรยายวิชาการทางพระพุทธศาสนา
สอนวิปัสสนากรรมฐานให้หน่วยงานของรัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ โรงเรียน
และมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนหลายแห่ง
ประธานกลุ่มธรรมะการ์ตูน (ผลิตการ์ตูนแอนิเมชั่น ชุด
“พุทธประวัติ” เพื่อทูลเกล้าฯ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา
ผู้เขียนตำราหมวดวิชาพระพุทธศาสนาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
กรรมการตรวจนักธรรม บาลี สนามหลวง
เขียนบทความให้หนังสือพิมพ์ นิตยสารรายเดือน รายปักษ์
รายสัปดาห์ อาทิ เนชั่นสุดสัปดาห์ กรุงเทพธุรกิจ ชีวจิต ศักดิ์สิทธิ์ WE,
HEALTH & CUISINE, Secret เป็นต้น
เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิมุตตยาลัย (Vimuttayalaya
Institute) อันเป็นสถาบันที่ศึกษา วิจัย ภาวนา
และเผยแพร่ภูมิปัญญาทางพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก ภายใต้หลักการ
"พุทธศาสนาเพื่อสันติภาพโลก"
ที่มา http://www.komchadlu...ml#.USQyEMvk-ot
- galaxy likes this
#89
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 09:30
ไอ้พวกที่ออกมาช่วยดริ๊ฟ ช่วยแถ ออกมาเป็นข่าว ก็ด้านเกินทนจริงๆ เห็นแล้วอยากถุยน้ำลายใส่หน้าจริง ๆ
อนาถว่ะ ไอ้พวกรัฐบาล ไอ้พวกตระกูลนี้
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#90
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 09:38
เพราะถ้าไม่ใช่น้องไอ้แม้ว ก็คงไม่เลวหน้าด้านขนาดนี่
#91
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:02
เหอะ เหอะ พระพยอมท่านคงมัวยุ่งอยู่กับการทำประโยชน์ให้ศาสนามากเกินไป
ไหนจะเรื่องที่ดินวัด ไหนจะเรื่องหาอาชีพให้ชาวบ้านทำ ไหนจะเรื่องหาเงินหาทอง
บำรุงวัด เลยลืมคำสอนที่พระพุทธเจ้า สอนให้เคารพอาวุโส ไปรีเปล่า
"ภิกษุผู้อุปสมบทก่อนไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อุปสมบทภายหลัง"
"ภิกษุผู้อุปสมบทภายหลังควรไหว้ภิกษุผู้อุปสมบทก่อน"
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ของที่เขาทำเจาะจงภิกษุ ก็ไม่พึงเกียดกันตามลำดับผู้แก่กว่า
รูปใดเกียดกันต้องอาบัติทุกกฎ"
พระพายับ จะเป็นน้องใคร คงไม่เกี่ยวกับคนที่ไม่เห็นด้วยหรอก พระพายับจะทำประโยชน์
อะไรให้ศาสนามาบ้าง ก็คงไม่เกี่ยวกับคนที่ไม่เห็นด้วยหรอก
เพราะที่เขาไม่เห็นด้วยมันเป็นเรื่อง "อาวุโส" ของพระพายับ
แต่ถ้ามันเกี่ยวข้องกับทักษิณตามที่พระพยอมท่านพูด ก็น่าจะเป็นเพราะผู้แต่งตั้งเอากฎ
ของเถรสมาคม ไปอิง กับกฎการแต่งตั้งของทักษิณมากกว่า
- ทรงธรรม likes this
#92
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:29
เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากนะคะ ..
เพศบรรพชิต ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่ตัดกิเลสในใจตัวเองยังไม่ได้
การแสดงความคิดเห็นแบบนั้นเหมือนยัดเยียดความคิดของตัวเองสู่สาธารณชน...
ไม่ใช่เสียหายแค่ความรู้สึกนะคะ ข้อเท็จจริงที่ทางฝ่ายกรมศาสนาให้มาก็ทำให้ตรอกย้ำว่า ท่านแสดงความคิดเห็น
ขัดแย้งกับกฏระเบียบของทางกรมศาสนาจริงๆ
บรรพชิต...ควรจะปล่อยวาง ละ เลิก และมองทุกอย่างล้วนอนัตตาไม่ใช่หรือค่ะ
หรือยุคสมัยนี้ ต้องให้ ฆราวาสสอนเพศบรรพชิตแทนค่ะ ...
เสียดายที่เคยศรัทธาในสิ่งที่ท่านเคยเทศน์สั่งสอนมาในอดีต
#94
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:40
ิเห็นคนในวงการศาสนา เรียงหน้าโกหกกันมาเลย อยู่ในวงการศาสนาแท้ๆ แต่โกหกอย่างไม่ละอายใจ ไม่เสื่อมตอนนี้จะเสื่อมตอนไหน
#95
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:06
#96
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:10
เคยส่งของที่ไม่ใช้แล้วไปบริจาคที่วัดนี้
ต่อไปนี้จบเลย
คงไม่แล้วแหล่ะ
ผมก็คงไม่ไปเยี่ยมและอุดหนุนอีกแล้ว
#97
ตอบ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:47
จบกันล่ะ พระรูปนี้ จากที่เคยคิดในแง่ดีที่ว่า ที่พระท่านออกแดงๆ หน่อย อาจเพราะท่านอ่อนด้อยเรื่องทางโลก บวกกับ
โดนศาสดาลิ้มเล่นไว้เยอะ เคยกลายเป็นแบบนั้น แต่ท่านยังมีดีอยู่ เป็นพระนักพัฒนาคอยสั่งสอนและช่วยคนจน
ยังสงสารเลยตอนที่ออกมาครำ่ครวญว่าโดนพิษการเมืองเล่นงานไม่มีคนบริจาคให้วัด แกแค่เผลอพูดทำนองเข้าข้างแดงไม่กี่ครั้ง
คนเราก็ไม่น่าโกรธเคืองอะไรแกมากมายเลย
มาตอนนี้ ไม่ใช่ล่ะ แสดงออกถึงความรัก หลงใหลในตัวบุคคลเกินพอดี ยอมเพิกเฉยต่อความไม่ถูกต้องแถมสนับสนุนกลายๆอีก
หลงใหลไปในอุดมการณ์บางอย่างที่ไม่ใช่ วัตถุประสงค์หลักของศาสนามากเกินไป พึ่งรู้นะเนี่ย ว่าพระพยอมแกมอง
คนที่ทำประโยชน์แก่ศาสนาในเชิงวัตถุ ยิ่งใหญ่กว่า พระสงฆ์ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบและดำรงไว้ซึ่งหนทางที่แท้จริงแห่งพระพุทธศาสนา
การที่คนเขาเลิกนับถือท่าน ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองหรอก แต่เพราะความเสื่อมของตัวท่านเองต่างหาก.....
- Kh@n and Andiond Thunder like this
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม คือ ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง
คุณธรรมที่พร้ำสอน ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา ส่วน ประชาธิปไตยน่ะรึ เอาเข้าจริงๆ สำคัญอันใด??
#98
ตอบ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:19
เห็นด้วยกับท่านเรื่องการกันเอาคนที่ยังเต็มไปด้วยกิเลส แต่มาอาศัยอยู่ในพระธรรมวินัยนี้่ออกไป(สังเกตว่าต่อไปนี้ผมจะใช้คำว่าพระธรรมวินัย)แสวงหาลาภยศสรรเสริญ แต่วิธีการจะทำอย่างไร เพราะคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน แสวงหา และหวือหวากับพวกวัตถุ และค่านิยมที่เป็นพิธีการสวยงาม โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหาของพระธรรมวินัย ส่วนผู้ที่รู้ซึ้งพระธรรมวินัย ก็ขาดโอกาสแสดงออก จะเห็นได้จากการจัดการเรื่องการเดินปฏิบัติธรรมที่เรียกกันผิดๆ ขององค์กรหนึ่ง (องค์กรนี้ผมไม่เรียกว่าวัด เพราะปฏิบัติในสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านไม่ทรงสอน)
ในขณะเดียวกัน หากท่านเดินทางไปตามถนนหลวง ท่านจะเห็นป้ายต่างๆ โหมโฆษณา ให้ผู้คนมาทำบุญ โดยมีวัตถุมงคลมาล่อใจ ซึ่งก็ไม่มีในพระธรรมวินัย อีกเช่นกัน ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่เพราะเท่าที่ดูแล้ว ลัทธิองค์กรดังกล่าวนั้นพยายามแทรกซึมเข้าไปทุกจุดทุกมุมของทั้งประชาชนและคณะสงฆ์ โดยเอาอามิสมาล่อ ด้วยการจัดงานที่มีพิธีการยิ่งใหญ่ เพื่อให้คนมาร่วมงานมากๆ ปัญหานี้ตอนนี้เป็นไปทั่วประเทศแล้ว ในขณะเดียวกันท่านผู้รู้ธรรมวินัยเป็นอย่างดี ก็เริ่มลดน้อยถอยลงและต่างก็ปลีกหาความวิเวก ถอยออกไปสู่ธรรมชาติ ไม่มีโอกาสได้ถ่ายทอดสอนสั่ง
บอกตามตรง ผมเป็นคนห่างวัด
คือไม่ศรัทธา(พระ)พอที่จะเข้าวัดหรือตักบาตรบ่อยๆ
อาศัยทำบุญกับคนด้อยโอกาสซะมากกว่า
ลุกน้องเคยเล่าให้ฟังว่าวัดใกล้ๆบ้าน จะทอดกฐินบ่อย
จะมีคนมารับอาสาไปเรี่ยไร บอกบุญ โดยตกลงกับเจ้าอาวาสว่า
จัดแต่ละครั้งจะให้วัด 2 แสนที่เหลือเขาขอใว้ใช้จ่าย ทำมาหลายปีแล้วด้วย
น่าจะเป็นทอดผ้าป่านะครับที่หนึ่งปีจัดได้หลายครั้ง ส่วนการทอกกฐินนั้นในหนึ่งปีทำได้เพียงครั้งเดียวครับ เข้าพรรษา 3 เดือนไตรมาส
#99
ตอบ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:54
#100
ตอบ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:01
ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า มีการแต่งตั้งจริง ทั้งนายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา และนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ผมว่าลาออกไปได้แล้ว ฐานดูถูกประชาชนและไม่มีความรู้ในงานของตน
ส่วน "ดอกพยอมสีแดง" นั้น วันที่ ๒๓ ก.พ.นี้ พระครูปลัดพายัพฯ จะกลับประเทศไทยมาให้ "ดอกพยอมสีแดง" กราบ และจะเทศน์ร่วมกันที่สวนอัมพรด้วย...ฮา
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน