'ปู'ห่วงส้วมกลิ่นเหม็นนำถกครม.
ครม.ถกปัญหาส้วมนานครึ่งชั่วโมง 'ยิ่งลักษณ์'
ห่วงความสะอาด-กลิ่นเหม็นยกตัวอย่างส้วมจีนพัฒนาแล้ว
ขอแรงปชช.-หน่วยงานรัฐประหยัดไฟ วอนทุกกระทรวงลดใช้พลังงานให้ได้10%
19ก.พ.2556 แหล่งข่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ระยะที่ 3
(พ.ศ. 2556 - 2559)
ซึ่งในวาระนี้รัฐมนตรีหลายคนต่างช่วยกันแสดงความเห็นกันหลากหลาย
และใช้เวลาในการหารือกันนานที่สุดถึง 30 นาที โดยเฉพาะน.ส.ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นคนที่แสดงความเห็นมากที่สุด
โดยเน้นย้ำและห่วงใยมากที่สุดโดยให้เน้นเรื่องความสะอาด
ไม่ใช่แค่การเพิ่มส้วมให้ครบ 90% ตามแผน
โดยจะต้องดูแลในเรื่องของท่อน้ำทิ้งที่ส่งกลิ่นเหม็น
โดยเฉพาะในส่วนของตึกสูงจะให้ทุบโครงสร้างตึกเพื่อปรับปรุงใหม่ก็คงลำบาก
แต่เรื่องของท่อน้ำทิ้งเก่าจะดำเนินการอย่างไร
ดังนั้นขอให้แผนแม่บทครอบคลุมเรื่องนี้ด้วย
และนอกจากนี้ยังต้องมีการให้ความรู้
เพราะพบว่าผู้สูงอายุตามต่างจังหวัดประชาชนนั่งส้วมชักโครกไม่เป็น
ก็จะยังชินกับการนั่งยองบนชักโครกที่ทำให้สุขลักษณะไม่ถูกต้อง
จึงทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้
ดังนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนมาใช้ส้วมชักโครกให้ได้อย่างน้อย 90% ภายในปี2559
แต่ในส่วนของงบประมาณในการปรับปรุงส้วมของแต่ละหน่วยงานที่อาจจะต้องซื้อ
สุขภัณฑ์ชุดใหม่แต่วันนี้ยังไม่มีการพูดถึงงบประมาณแต่อย่างใด
“โดยนายกฯเทียบให้เห็นว่าเมื่อก่อนห้องน้ำของประเทศจีนมี
ความสกปรกอย่างมาก แต่เมื่อเดินทางไประยะหลังเมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จแล้ว
พอออกจากห้องน้ำปุ๊บจะมีแม่บ้านเข้าเช็ดทำความสะอาดทันที” แหล่งข่าว กล่าว
ครม.ขอปชช.-ภาครัฐประหยัดไฟ
นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยว่า ในที่ประชุมครม.นายพงศ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รมว.พลังงาน
ได้รายงานถึงสภาพปัญหาพลังงานในอนาคตที่สืบเนื่องมาจากการปิดซ่อมแหล่งขุด
เจาะก๊าซในบางจุด โดยรมว.พลังงาน ยืนยันว่า รัฐบาลได้แก้ไขเต็มที่
และอยากให้ประชาชนช่วยกันประหยัดไฟฟ้า และขอกำชับกระทรวงพลังงาน
กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย ช่วยประสานทุกกระทรวงให้ช่วยกันประหยัดไฟ
โดยขอให้เริ่มทันที
ทั้งนี้มีการตั้งเป้าลดใช้พลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงให้ได้ 10%
หากหน่วยงานใดมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น15% ก็จะจัดการ
โดยให้สำนักงบประมาณปรับลดงบประมาณในปีต่อไป
นายแพทย์ทศพร กล่าวต่อว่า
พร้อมกันนี้ขอให้เปิดเครื่องปรับอากาศ(แอร์)และลิฟต์ให้เป็นเวลาเท่าที่จำ
เป็น โดยตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 25-26 องศาเซลเซียส
พร้อมให้ตรวจล้างเพื่อให้มีประสิทธิภาพ
ส่วนลิฟต์ให้เปิดใช้บางตัวและเปิดใช้ชั้นเว้นชั้น
พร้อมกันนี้ให้หน่วยงานลดการใช้น้ำมัน หันมาใช้รถแบบคาร์พูล
และให้ตรวจสอบการจำกัดความเร็ว
และให้ส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์คู่กับก๊าซเอ็นจีวี
“ครม.จะทำตัวเป็นตัวอย่าง โดยจะไม่ใส่สูทประชุมครม.
และให้หน่วยราชการปฏิบัติด้วย เพื่อจะช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น
ขณะเดียวกันให้ยกเว้นโรงพยาบาลและท่าอากาศยานที่ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติ
เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการบริการสาธารณชน” นายแพทย์ทศพร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ในการแถลงข่าวในวันนี้ของทีมโฆษกรัฐบาลนั้นพบว่า นายแพทย์ทศพร
และรองโฆษกอีก 2 คน คือ นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ และนายชลิตรัตน์
จันทรุเบกษา
ได้สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นนั่งแถลงข่าวเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่ ครม.มีมติ
แต่ปรากฏว่า อากาศภายในห้องแถลงข่าว ตึกนารีสโมสรที่มีการแถลงข่าวนั้น
ยังมีการเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา
นายกฯวอนปชช.ร่วมประหยัด
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม
ครม.ถึงการแก้ปัญหากรณีที่พม่าจะหยุดจ่ายก๊าซให้กับไทยเพื่อซ่อมบำรุงแท่น
เจาะและท่อก๊าซในวันที่ 4-12
มี.ค.ที่จะส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าของไทยมีปัญหาในเดือนเม.ย.ว่า
ในที่ประชุมครม.มีความห่วงใย
และได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงพลังงานที่เป็นแม่งาน
หลักไปพูดคุยหารือกันในการดูแลช่วยเหลือประชาชน ขณะนี้
รัฐบาลมีมติให้เห็นชอบให้หน่วยราชการทั้งหมดรณรงค์ในเรื่องการประหยัดไฟฟ้า
ตั้งแต่วันนี้เลย
โดยคงจะนำทุกมาตรการที่มีอยู่เพื่อที่จะให้มีการประหยัดพลังงาน
ขอถือโอกาสขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการช่วยกันรณรงค์ในการประหยัดไฟฟ้า
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า
โดยเฉพาะการใช้พลังงานในเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้างส่วนที่ใช้พลังสูง
ใช้เฉพาะเวลาที่จำเป็น อะไรที่ไม่จำเป็นก็ปิดไฟฟ้าเสีย
เพื่อเราจะได้เก็บรักษาพลังงานนี้ไว้
ขณะเดียวกันเราจะไปดูในเรื่องของการดูแลภาคประชาชนในเรื่องของการที่พม่าที่
จะปิดซ่อมโรงไฟฟ้าช่วงไหนอย่างไร ทั้งหมดจะมีความชัดเจนวันที่ 20 ก.พ.นี้
หลังจากที่กระทรวงพลังงานประชุมกันจะมีการแถลงข่าว
และชี้แจงมาตรการที่เป็นทางการให้ประชาชนทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องไปเจรจากับพม่าให้เลื่อนการซ่อมแซมหรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่าก็ลองดู วันนี้เราได้ฝากทาง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
รมว.พลังงานไปแล้วจะพยายามเจรจาให้ไปปรับในช่วงที่เราใช้พลังงานน้อยที่สุด
เมื่อถามว่าพลังงานของไทยถึงกับจะต้องช็อกไปทั้งเมืองขึ้นมาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ตอบว่า "ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ"
เมื่อถามอีกว่าพลังงานสำรองมีเพียงพอแค่ในช่วงที่พม่าซ่อมท่อส่งก๊าซ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ตอบว่า"ก็ยังพอมีอยู่แต่ถ้าเราเริ่มประหยัดตั้งแต่ส่วนนี้เราก็สามารถจะมีไฟฟ้าให้
กับทุกครัวเรือนได้ใช้ เรียนว่า ขอความร่วมมือในการช่วยเหลือกัน
แต่คงจะไม่ถึงขนาดวิกฤติที่จะต้องมืดทั้งหมด
ถ้าเราช่วยกันประหยัดคิดว่าน่าจะมีส่วนในการสงเคราะห์พลังงานที่สำรองไว้
วันนี้เท่าที่ฟังจากรายงานเราได้ให้กระทรวงพลังงานติดตามการใช้ไฟฟ้าทุกวัน
หลังจากนี้"
ผบ.สส.เชื่อพม่าปิดซ่อมท่อก๊าซไม่กระทบไทยขาดไฟฟ้า
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งว่า
ทุกเหล่าทัพได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว แต่จุดประสงค์ของเรา
อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความสมบูรณ์
แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ เพราะยังมีปัญหาเรื่องภัยแล้งอยู่
ซึ่งในฐานะที่กองทัพมีความพร้อมทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ก็จะทำอย่างเต็มที่
เรื่องการช่วยเหลือประชาชนไม่จำเป็นต้องสั่งเพราะถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่
ทุกเหล่าทัพต้องทำอยู่แล้ว
"ส่วนกรณีที่ไทยจะได้รับผลกระทบด้านพลังงานไฟฟ้าจากกรณีที่
พม่าจะปิดซ่อมบำรุงท่อก๊าซธรรมชาติในช่วงเดือน เม.ย.นี้
ไม่น่าจะส่งผลกระทับกับเรามากนัก
ส่วนของเหล่าทัพได้เริ่มโครงการประหยัดพลังงานไฟฟ้ามานานแล้ว
โดยกำหนดระยะเวลาในการเปิด -ปิดแอร์และไฟฟ้า ซึ่งทหารถือว่า
มีวินัยกฎระเบียบต่างๆ เราทำได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม
คิดว่าพลังงานไฟฟ้าไม่น่าจะขาดมากนัก
แต่ฝึกให้ทุกคนรู้จักประหยัดเพื่อให้ติดเป็นนิสัย ทั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล
สุวรรณทัต รมว.กลาโหม
จะมีการทำสัญญาร่วมกับกระทรวงพลังงานในการเปลี่ยนหลอดไฟมาใช้เป็นหลอดแบบ
ประหยัดพลังงาน ซึ่งต้องมีการเซ็นบันทึกข้อตกลง MOU" พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว
----------------------------------------------
วาระแห่งชาติ
Edited by Andiond Thunder, 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:14.