ธ.ก.ส.หอบข้อมูลแจงสภาพคล่องยังปึ้ก ยันจ๊อบรัฐบาลไม่กระเทือนแบงก์ ปลอบขวัญลูกค้ามีตังค์ให้เบิกถอน
ธ.ก.ส.ยืนยันรับจ็อบจำนำสินค้าเกษตรสนองนโยบายรัฐบาล ไม่กระทบสถานะอ้างแยกบัญชีเฉพาะมีสภาพคล่องส่วนเกินอีก 3 หมื่นล้านบาท?? คาดสิ้นปีบัญชีมีกำไร 7.9 พันล้านบาท ปลอบขวัญลูกค้าเบาใจมีตังค์ให้เบิกถอนเต็มที่
นายบุญไทย แก้วขันตี รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงการดำเนินโครงการตามนโยบายของรัฐว่า ไม่กระทบต่อสภาพคล่องของ ธ.ก.ส.?? เนื่องจากดำเนินการคนละบัญชีเป็นบัญชีเฉพาะการดำเนินนโยบายภาครัฐ ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรัฐ 410,000 ล้านบาท และเป็นการกู้เงินจาก ธ.ก.ส. อีก 90,000 ล้านบาท รวม 500,000 ล้านบาท
ขณะนี้ รัฐยังไม่ชำระคืน 90,000 ล้านบาท โดยสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะมีการใช้จ่ายเงินผ่านโครงการของรัฐ แบ่งเป็นรับจำนำข้าว 40,000 ล้านบาท ยางพารา 10,000 ล้านบาท และมันสำปะหลัง 5,000 ล้านบาท รวมเป็นค่าใช้จ่าย 55,000 ล้านบาท ขณะที่รายรับจะได้รับจากการกู้เงินของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เพื่อมาใช้คืนการสำรองจ่ายของ ธ.ก.ส.? 37,000 ล้านบาท และรายได้จากการระบายสินค้าเกษตรตามโครงการรับจำนำอีก 27,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 64,000 ล้านบาท ทำให้ ธ.ก.ส. มีเงินเหลือจากการดำเนินโครงการของรัฐ 9,000 ล้านบาท ในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
ส่วนเดือนมีนาคม 2556 คาดว่า ธ.ก.ส. มีรายจ่ายจากโครงการจำนำข้าว 25,000 ล้านบาท ยางพารา 10,000 ล้านบาท มันสำปะหลัง 8,000 ล้านบาท รวมเป็นค่าใช้จ่าย 43,000 ล้านบาท ขณะที่มีรายรับจากกู้เงินของ สบน. เพื่อมาใช้คืน ธ.ก.ส. ในรอบเดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 55,000 ล้านบาท และรายได้จากการระบายสินค้าเกษตร 14,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 69,000 ล้านบาท ทำให้ ธ.ก.ส.จะมีเงินเหลือจากการดำเนินโครงการของรัฐ ในเดือนมีนาคม 35,000 ล้านบาท
สำหรับเดือนเมษายนมีรายรับจากกู้เงินของ สบน. อีก 43,000 ล้านบาท รวมกับเงินที่ได้จากการระบายข้าว 12,000 ล้านบาท เป็น 55,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับยอดคงเหลือเดือนมีนาคม อีก 35,000 ล้านบาท จะมียอดเงินเหลือ 90,000 ล้านบาท ในสิ้นเดือนเมษายน 2556 หากรัฐจะดำเนินโครงการต่อก็สามารถใช้วงเงินดังกล่าวได้ทันที หากไม่ใช้ ธ.ก.ส.จะนำไปชำระหนี้
นายบุญไทยกล่าวยืนยันว่า ฐานะการเงินธ.ก.ส. มีความมั่นคงแข็งแกร่งซึ่งขณะนี้มีสภาพคล่อง 190,000 ล้านบาท โดยสำรองไว้สำหรับการลงทุน การให้สินเชื่อ และสำรองการถอนเงินฝาก รวมทั้งจ่ายเงินกองทุนหมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 160,000 ล้านบาท คงเหลือสภาพคล่องส่วนเกิน 30,000 ล้านบาท ดังนั้นขอให้ลูกค้ามั่นใจว่าฐานะการเงินของ ธ.ก.ส.มั่นคงสามารถจ่ายเงินคืนเมื่อมีการเบิกถอน แม้จะเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการของรัฐ
ส่วนผลประกอบการของ ธ.ก.ส.สิ้นไตรมาส 3 จ่ายสินเชื่อ 107,710 ล้านบาท คิดเป็น15.52 % มีสินทรัพย์รวม 1,125,834 ล้านบาท หนี้สินรวม1,036,660ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,499 ล้านบาท และเอ็นพีแอล 5.75% ส่วนเงินฝากมียอดรวม 932,498 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปี 45,239 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.20%โดยคาดการณ์เมื่อสิ้นปีบัญชีของไตรมาสที่ 4 (31 มีนาคม 2556) จะมีกำไรสุทธิที่ 7,949 ล้านบาท
ด้านโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/2556 ชึ่งเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 สิ้นสุดวันที่ 15 กันยายน 2556 ว่ามีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 1,306,080 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 9,330,000 ตัน คิดเป็นเงิน 151,599 ล้านบาท โดยได้สีข้าวเปลือกส่งมอบเป็นข้าวสารคลังสินค้ากลางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ไปแล้ว 4.49 ล้านตัน
ขณะที่โครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร สิ้นปี 2555 ดำเนินการออกบัตร 2,087,673 ราย วงเงินสินเชื่อ 40,467 ล้านบาท โดยมีเกษตรกรที่ได้รับบัตรสินเชื่อแล้ว จำนวน 1,313,281 ราย และ มีการใช้จ่ายผ่านบัตร จำนวน 2,261 ล้านบาท และสิ้นปี 2556 จะขยายการออกบัตรเป็น 4 ล้านราย ด้านโครงการพักชำระหนี้และลดภาระหนี้ปี 2555 มีเกษตรกรเข้าร่วม 2,225,794 ราย จำนวนเงิน 250,592 ล้านบาท มีเกษตรกรที่จ่ายหนี้หมดแล้ว 1,755 ราย คิดเป็นวงเงิน 135 ล้านบาท