40 replies to this topic

[ปุถุชน]

วันนี้เพ่นพ่านไปทั่วอินเตอร์เนท...

ตั้งใจหาชื่อนักคิด นักเขียนคนหนึ่ง

ลืมเลือนเกือบทุกครั้งที่อยากกล่าวถึง...

 

จึงต้องอาศัย "กูเกิล" ค้นหา...

นึกได้ว่าเขาอยู่"มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน"...

เห็นแล้ว..."นิธิ เอียวศรีวงศ์"...

 

เพ่นพ่านไปอย่างไรไม่รู้..

ไปถึง OK Nation Blog...

 

เห็นชื่อ"อธิฏฐาน"ใน"คนเดินเท้าก้าวในบางวัน"

คิดว่าน่าจะใช่คนเคยชอบบทกลอนของเธอ...

แล้วย้อนนึกไปถึง"พระฤาษี" ใน"เสรีไทยดอทเนท"

อยากให้เธอกลับมา'เสรีไทยดอทเนท'อีกครั้งหนึ่ง

 

จะมีมิตร'ร้อยรักษ์กวีวรรณ'เพิ่มขึ้น....

 

 

 

 

 

สายลมหวน

พระจันทร์เพ็ญอร่ามฟ้า...........หลังฝน
นภาผ่องยามได้ยล.................รื่นแล้ว
ราตรีชื่นเสาวคนธ์...........จรุงกลิ่น...ผกาเอย
หอมโมกแกมกรุ่นแก้ว.......ช่อนั้นลมหวน
.

.

รัญจวนยามดึกด้วย................คนึงหา
หวงห่วงคนไกลตา..................ลับลี้
ขอพรพระเทวา..............คอยปก...ป้องเฮย
เพียงรุ่งของพรุ่งนี้...........ตื่นด้วยความหวัง

 

"อธิฏฐาน"

 

http://www.oknation.net/blog/sandstone

Edited by ปุถุชน, 24 February 2013 - 09:12.

[พระฤๅษี]

อยากเชิญ  ท่านปุถุชน... ไปที่ ( ห้อง  ชายคาพักใจ )

กระทู้....สิ่งที่หายไป ??อยู่ไหน ..?? .....พระฤๅษี..

สนทนากันอยู่ที่นั่น....บทกวีมีทั้ง ของใหม่ ของเก่า

...และมีมิตรสหาย..คุยแลกเปลี่ยนวรรณกรรม กันที่นั่น

ท่านปุถุชน..( ที่ไม่ใช่ปุถุชนธรรมดา)  เชิญคุยกันที่นั่น

กันเอง.จุดมุ่งหมาย ( เพื่อเผยแพร่  สิ่งที่ถูกต้อง ให้-

อนุชน รุ่นหลังที่สนใจ..ฉันทลักษณ์..) ได้เรียนรู้การ-

แต่งบทกลอนที่ถูกต้อง..สืบต่อภาษาไทย..เชิญครับ..

[ปุถุชน]

ขอบคุณภาพจาก http://www.d-sign8.c...hp?topic=3528.0

.

 

 

 

หลังม่านละอองฝน

.
สายฝนพรำค่ำนี้........................คนึงหา
จันทร์หม่นแสงเลือนลา.......เคลื่อนคล้อย
ดวงดาวลับเมฆา.................มาบด...บังเอย
หนาวเหน็บคนใจน้อย........แอบพ้อรอเสมอ
.
.

หลงละเมอยามหริ่งร้อง.........ระงมเสียง
คนึงนักในสำเนียง..................กล่าวถ้อย
อักษรรักเหลือเพียง...........รอยหมึก...จางแล
กวีบทเคยร่วมร้อย..............ฝากไว้เพียงนาม
.
.

งดงามพันผูกด้วย.....................สายใย
ความคิดถึงอาลัย......................ฝั่งโน้น
กายเหินห่างสองใจ...........ยังสนิท...สนมนา
เฝ้ากระซิบคนไกลโพ้น........หลับแล้วฝันดี
.
.

ราตรีกลางม่านน้ำ-.................ละอองฝน
เพียงพรุ่งหวังรวียล..................เยี่ยมฟ้า
สองกรกราบกุศลดล...........เธอปลอด...ภัยเฮย
วสันต์สร่างหวังเจอหน้า.......อุ่นด้วยอ้อมแขน
 

 

"อธิฏฐาน"

.http://www.oknation....1/09/26/entry-1

 

 

จุดความหวังว่า"อธิฏฐาน"จะมาเยี่ยมเยือน"ร้อยรักกวีวรรณ"ของ "เสรีไทยดอทเนท"

ด้วยบทกลอน"สายลมหวน" ของเธอเอง....

 

อยากอ่านบทกลอนที่"อธิฏฐาน"บรรจงเขียน สถิตไว้ "ร้อยรักกวีวรรณ"แห่งนี้.......

.

[kwan_kao]

_{- = วัสสาคราคิมหันต์ = -}

 

 

_{๐ ชโลมชลฝนชะด้าว.........ดับไคล}

_{คราบหม่นคน***............จับเร้น}

_{ผดุงกรุงรุ่งไผท.................เทิดเถิด.....ดีพ่อ}

_{ยั้งหุ่นสิงมารเต้น...............ไต่เย้ยตามหยัน ฯ}

 

 

 

_{====================================}

 

_{"....ป้องกันคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ...."
ขอคารวะคนกรุงเทพฯ ครับ}

 

 

_{เรียน  คุณปุถุชน}

 

_{ขอนำของคุณ "วฤก" มาไว้ที่นี่รวมกัน}

 

_{พูดถึง ฝน ทั้งสองท่าน}

 

_{แล้ว ก็ ไพเราะ มาก ทั้งสองท่าน}

 

_{เพื่อน ๆ เข้ามาอ่าน จะได้อ่านของ ทั้งสองท่าน}

 

_{โอ๊ย อ่านแล้ว ใจละลาย จริง ๆ เล๊ย}

 

 

 

 

_{ปล. จริง ๆ แล้ว "วสันต์" คือ ถดูใบไม้ผลิ}

 

_{"วัสสานะ"  คือ ฤดูฝน  (ใช้ชื่อนี้เลยทราบค่ะ)}  

Edited by kwan_kao, 6 March 2013 - 20:06.

[ปุถุชน]

_{- = วัสสาคราคิมหันต์ = -}

 

 

_{๐ ชโลมชลฝนชะด้าว.........ดับไคล}

_{คราบหม่นคน***............จับเร้น}

_{ผดุงกรุงรุ่งไผท.................เทิดเถิด.....ดีพ่อ}

_{ยั้งหุ่นสิงมารเต้น...............ไต่เย้ยตามหยัน ฯ}

 

 

 

_{====================================}

 

_{"....ป้องกันคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ...."
ขอคารวะคนกรุงเทพฯ ครับ}

 

 

_{เรียน  คุณปุถุชน}

 

_{ขอนำของคุณ "วฤก" มาไว้ที่นี่รวมกัน}

 

_{พูดถึง ฝน ทั้งสองท่าน}

 

_{แล้ว ก็ ไพเราะ มาก ทั้งสองท่าน}

 

_{เพื่อน ๆ เข้ามาอ่าน จะได้อ่านของ ทั้งสองท่าน}

 

_{โอ๊ย อ่านแล้ว ใจละลาย จริง ๆ เล๊ย}

 

 

 

 

_{ปล. จริง ๆ แล้ว "วสันต์" คือ ถดูใบไม้ผลิ}

 

_{"วัสสานะ"  คือ ฤดูฝน  (ใช้ชื่อนี้เลยทราบค่ะ)}  

 

 

 

ดีครับ...

หลายใจ(คน)มีหลายอารมณ์ หลากหลายประสบการณ์ฝน...

[kwan_kao]

_{คุณ "เพลงผ้า  ปรพากย์" กวีหญิง แห่ง OK Nation}

_{เป็นอีกท่านหนึ่งก็แต่งได้ไพเราะเช่นกันค่ะ}

 

 

_{๏ หนาวเอยหนาวหนัก...อุ่นตักอยู่ไหน}

_{ข้าหนาวหน่วงใน..............หนาวใจแสนสา}

_{ลมหนาวคลี่หัตถ์.........โอบรัดตัวข้า}

 

_{อุ่นไอไม่มา.....................ปลอบข้าหรือไร}
 

 

_{๏ หรือหลงสัญจร................เว้าวอนวาดหวาน}

 

_{โอบเอื้อเนื้อตาล.................โอบเอื้อเนื้อไหน}

 

_{จางกรุ่นกายเก่า...............โลมเร้ากายใด}

 

_{พ้นผ่านวารไป...................ช่างใจใครคอย}

_{๏ เคยอยู่คู่เคียง.................ชื่นเสียงเคยยิน}

 

 

_{คงข้าเนื้อดิน...................ใช่ถิ่นสูงสอย}

_{ใช่ดาวใช่เดือน.....................จึงเลือนร่องรอย}

_{ใช่เพชรใช่พลอย................จึงปล่อยอาดูร}

_{๏ ข้าจักตากลม..................ไม่ห่มแสงหาว}

_{ปล่อยให้เนื้อหนาว..............ไม่ห่มแสงสูรย์}

_{ข้าจักหนาวตาย....................ไม่หมายเกื้อกูล}

<sub>ปล่อยเป็นเช่นมูล................ไว้ท่ามเหมันต์

(วิชชุมมาลาฉันท์ 8)
.... เพลงผ้า ปรพากย์
๑๘ กันยายน ๒๕๕</sub>

Edited by kwan_kao, 6 March 2013 - 21:13.

[พระฤๅษี]

>> ไม่ได้อ่านมานานแล้ว ( วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ ) คำฉันท์  ชนิดนี้

..มีแผนผัง คล้าย ( มาณวกฉันท์ ๘ )  ต่างกันนิดเดียวตรง วิชชุมฯ

..ใช้คำ ( ครุ ) ล้วน ๆ ไม่มี ( ลหุ ) แทรก.  อ่านแล้ว จะได้ยินแต่ --

..เสียงหนัก. เป็น ( ฑีฆะ  ทั้ง โฆษะ.อโฆษะ )......

 

>>> ทั้งนี้ มีเหตุ.............สังเวช พันผูก

>>พ่อแม่ แลลูก............เกินขัด ผัดผ่อน

>>มาตรภัย ร้ายขวาง..........หนทาง ท่านจร

>>ฤๅพรั่น หวั่นมรณ์............ห่อนเกรง กลัวใด.....ฯลฯ

 

 

>>>>>>>>> จากหนังสือ..สุวรรณสามคำฉันท์ <<<<<<<<< 

          

[wat]

  เอ่อ... "อธิษฐาน" เขียนงี้ไม่ใช่หรือขอรับ... แฮะๆๆ  หรือเป็นนัยยะทางกวีอะไรป่าวหว่า?

 

[ปุถุชน]

  เอ่อ... "อธิษฐาน" เขียนงี้ไม่ใช่หรือขอรับ... แฮะๆๆ  หรือเป็นนัยยะทางกวีอะไรป่าวหว่า?

 

 

 

เจ้าตัว สะกด..."อธิฏฐาน" ครับ

 

 

"อธิฏฐาน"

.http://www.oknation....1/09/26/entry-1

[ปุถุชน]

หนาวตัก
นันทิดา แก้วบัวสาย....

..ทะเล งาม ยามดึกดื่น
ฮึม....เหมือนคลื่น หลับ
แสงเดือน จับ เจิดนภา เวหา หาว
นั่งเรือ น้อย เคลื่อนคล้อย ใต้แสงดาว
พร่าง น้ำพราว ผ่องเพชรเกล็ด นที
ดู ซิดู ใคร สอน ให้นอนหนุน ตัก
ซุก ซนนัก ไม่ กลัวน้อง จะหมองศรี
หนาว ตัก หนัก จิต ดรร-ชนี
หาก นาวี อรุโณทัย ไม่กลับคืน
ดู ซิดู ใคร สอน ให้นอนหนุน ตัก
ซุก ซนนัก ไม่ กลัวน้อง จะหมองศรี
หนาว ตัก หนัก จิต ดรร-ชนี
หาก นาวี อรุโณทัย ไม่กลับคืน

 

 

http://music.gmember...Song-9100079501

 

 

 

ผมเคยไปชมละครเรื่อง"หนาวตัก"บนเวที ไม่แน่ใจว่าเป็น"เฉลิมไทย"หรือ"เฉลิมกรุง"....

และเคยดูภาพยนต์เรื่องนี้ด้วย ชอบเพลงนี้มาก...

 

นานนักจึงจะซาบซึ้งคำว่า "หนาวตัก หนักจิต" ของ "อิงอร".....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Edited by ปุถุชน, 10 March 2013 - 00:15.

[ปุถุชน]

>> ไม่ได้อ่านมานานแล้ว ( วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ ) คำฉันท์  ชนิดนี้

..มีแผนผัง คล้าย ( มาณวกฉันท์ ๘ )  ต่างกันนิดเดียวตรง วิชชุมฯ

..ใช้คำ ( ครุ ) ล้วน ๆ ไม่มี ( ลหุ ) แทรก.  อ่านแล้ว จะได้ยินแต่ --

..เสียงหนัก. เป็น ( ฑีฆะ  ทั้ง โฆษะ.อโฆษะ )......

 

>>> ทั้งนี้ มีเหตุ.............สังเวช พันผูก

>>พ่อแม่ แลลูก............เกินขัด ผัดผ่อน

>>มาตรภัย ร้ายขวาง..........หนทาง ท่านจร

>>ฤๅพรั่น หวั่นมรณ์............ห่อนเกรง กลัวใด.....ฯลฯ

 

 

>>>>>>>>> จากหนังสือ..สุวรรณสามคำฉันท์ <<<<<<<<< 

          

 

 

ไม่สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้...

แต่อยากอ่านเป็นความรู้เหมือนกัน......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

หนาวตัก ไม่ห่มตัก

หนาวเนื้อ ไม่ผิงไฟ

หนาวใจ ไม่วิงวอน

ดั่งใบไม้ ร่วงหล่นดิน

 

"ไฮปุ" ของ "ปุถุชน"

[พระฤๅษี]

ไม่ได้นะ  พี่ปุระชัย....เอ๊ออ  เรียกผิดทุกที... ว่างต้องเข้ามาคุยกัน

เป็นหรือไม่เป็น..เก่งหรือไม่เก่ง ไม่เป็นไร..ถ้าเป็นกันมากๆ เก่งกัน

มากๆ  ฉันทลักษณ์..ไทยคงไม่มีปัญหา..

>>>> ผมอยากให้คนที่มีใจชอบ  ใช้เวลาว่าง  นำของเก่าหรือของ

ใหม่ก็ได้มาเผยแพร่  สู่คนรุ่นหลัง. พี่ปุฯก็ช่วยได้...ดู..แม่ขวัญ ซี  --

เธอขยันช่วย.คนอื่นอีกหลายคน  ก็ช่วย  

>>>> คิดเพียงว่าเราช่วย  เผยแพร่ ..สิ่งถูกต้องให้คนรุ่นต่อไปได้

เรียนรู้  สิ่งที่ถูก  ตาม..ฉันทลักษณ์...  เท่านี้เราก็พอใจแล้ว  ผมเอง

ก็ไม่ได้หวังอะไรมากกว่านี้......... 

[ปุถุชน]

เย็นวันต้นเดือนมีนาคม

พบปะเพื่อน ส.ว.ห้าคนรู้ใจ

ชวนกันดื่มเบียร์บนดาดฟ้าสูง

ช่วยกันรินไม่รอสาวเชียร์เบียร์...

 

เห็นว่าวงูหางยาวส่ายไปมาบนท้องฟ้าใส

ว่าวตัวเล็กขยับย้ายตามทิศทางกระแสลมพัด...

คนชักว่าวรู้ทันโอนอ่อนไม่ขัดขืนฝืนใจ

ใบไม้ ใบกล้วยเขียวไหวระริกต้องสายลม

 

วิถีชีวิตคนกินที่สูงใช่แตกต่างว่าวตัวน้อย....

กินดื่มไม่ฝืนกำลังคนวัยชราเกินห้ารอบ

ยามนี้เพื่อนตายหาง่ายเพื่อนกินหายาก

เอาใจถามว่าอาหารจานนี้อร่อยไหม ?

 

 

สั่งเพิ่มอีกดีหรือไม่ดี......ฮา

 

 

อยากบรรจงรจนาเป็นบทกลอน

แต่รู้ฝีมือนั้นแค่นอย่างไรก็ไม่มีทาง

ขอ"พระฤๅษี" และ"วฤก"จับใจความ

กรุณาช่วยถ่ายทอดแทนเทอญ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

วันนี้จังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงสุดคือ แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์และเลย 38 องศา!

ฝากส่งเพลงรักนี้ไปให้นะครับ "..ปากคอคิ้วคางหว่างทรวงล่วงล้ำเลย อกเอ๋ยพี่เชยชมทั่วไป

ดังลอยคล้อยชมวิมานฟ้าไกล กอดกายไว้เคียงใกล้ไม่ยอมห่าง.." รักกันอ่ะเนอะ..ร้อนแค่ไหน เหงื่อชุ่มเพียงใด ก็ยังดับร้อนได้ด้วย..!!..

 

จาก Kanok Ratwongsakul Fan Page

 

http://www.facebook....130660513618323

 

มนต์รักในฤดูร้อน
คำร้อง : ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวาทการ
ทำนอง : ครูสมาน กาญจนะผลิน
ต้นฉบับ : สุเทพ วงศ์กำแหง ขับร้อง

ลมฤดูร้อนแห่งเดือนเมษา
ผ่านพัดมาพาให้ร้อนรน
ร้อนเหมือนลมหายใจแรงพ่น
พรายพลิ้วมนต์ของรักมา

ในฤดูร้อนก่อนเคยได้ฝัน
ฝากสัมพันธ์คำมั่นสัญญา
รักร้อนแรงแฝงลมชมหล้า
อนิจจาอ่อนใจ

ปากคอคิ้วคางหว่างทรวงล่วงล้ำเลย
อกเอ๋ยพี่เชยชมทั่วไป
ดังลอยคล้อยชมวิมานฟ้าไกล
กอดกายไว้เคียงใกล้ไม่ยอมห่าง

ในฤดูร้อนแห่งคืนคิมหันต์
ใต้แสงจันทร์งามทั่วทุกทาง
รักร้อนรนหาคนคลอร่าง
ดับร้อนพลางดื่มฝัน

 

 

 

แผ่นเสียงรุ่นเก่า ฟังแล้วขลัง ได้อารมณ์ ไม่มีการดัดแปลง เสริมแต่ง

 

 

ผมชอบเพลงของ"ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวาทการ"

หลายเพลง ชอบเนื้อร้อง ชอบความหมายของเพลง

 

 

 

ลาทีปากน้ำ

เนื้อร้อง "ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวาทการ"

ทำนอง  "เอื้อ สุนทรสนาน"

ต้นฉบับขับร้องโดยนพดฬ ชาวไร่เงิน

 

 

ตัวมาปากน้ำ น้ำตาเจ้ากรรม พรำร่วง
มันรินล้นทรวง รดแด ร้อนดวง ร่วงพรำ จนช้ำเลือดตรม

อยากผลักชีวิตผลอย คล้อยลอยน้ำไปตามคลื่นลม
ระทวยระทม แล้วจมร่างตามความรักร้างไป

เธอคนปากน้ำ น้ำคงขึ้นลงตรงหน้า
จะลอยน้ำมา หาเธอทุกคราคลื่นครวญรัญจวนป่วนใจ

จะพร่ำคำเพ้อ ละเมอมนต์รักมาตามฝั่งไกล
ร้องเพลงผีพราย พิไรขอรักเธอไว้โลมฝั่ง

ฝันฝัน เพ้อเพ้อ เธอก็คงคร่ำครวญ
ปากน้ำคงซึ้งโศกชวน
ทบทวนหวนไปยังเบื้องหลัง

เราฝากสัมพันธ์ น้อยหรือนั่นมันรักหรือชัง
เพราะเธอว่าจะรักจริงจัง ฉันจึงหวังคลั่งไคล้มิคลาย

ลาทีปากน้ำ น้ำจงจบกรรม จำเศร้า
วิญญาณรักเราน้ำจงรับเอา เฝ้าธารอันพล่านภูติพราย

อนาถใจหนา ขอลาดินฟ้าอาวรณ์ก่อนตาย
โถยังเสียดาย เสียดาย นิยายสวรรค์สวาท

 

ขอบคุณเนื้องเพลงจาก http://music.forthai...lyric/?sid=3046

Edited by ปุถุชน, 18 March 2013 - 00:06.

[ตะนิ่นตาญี]

หนาวตัก ไม่ห่มตัก

หนาวเนื้อ ไม่ผิงไฟ

หนาวใจ ไม่วิงวอน

ดั่งใบไม้ ร่วงหล่นดิน

 

"ไฮปุ" ของ "ปุถุชน"

 

ร่ำร่ำจะ ติง พี่ปุฯ แล้วว่า ไฮกุ ไม่ใช่หรือครับ? 

 

อ่านไป-อ่านมา อ่ะ...นี่มัน ลูกเล่น ของ ผู้มีวัยอันสมควรนี่นา    

 

ตะนิ่นตาญี ขอลอกเลียน พี่ปุฯ แต่ง กลอนญี่ปุ่น บ้าง   

 

"ฝนตกพรำพรำ...

 

ปูดำ เก็บเห็ด..." 

 

ไฮตะ ของ ตะนิ่นตาญี   

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันจันทร์ที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา๑๘.๐๖ นาฬิกา

[ปุถุชน]

หนาวตัก ไม่ห่มตัก

หนาวเนื้อ ไม่ผิงไฟ

หนาวใจ ไม่วิงวอน

ดั่งใบไม้ ร่วงหล่นดิน

 

"ไฮปุ" ของ "ปุถุชน"

 

ร่ำร่ำจะ ติง พี่ปุฯ แล้วว่า ไฮกุ ไม่ใช่หรือครับ? 

 

อ่านไป-อ่านมา อ่ะ...นี่มัน ลูกเล่น ของ ผู้มีวัยอันสมควรนี่นา    

 

ตะนิ่นตาญี ขอลอกเลียน พี่ปุฯ แต่ง กลอนญี่ปุ่น บ้าง   

 

"ฝนตกพรำพรำ...

 

ปูดำ เก็บเห็ด..." 

 

ไฮตะ ของ ตะนิ่นตาญี   

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันจันทร์ที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา๑๘.๐๖ นาฬิกา

 

 

 

มีไฮปุ มีไฮตะ

มีฟ้าไทย ฟ้าเขมร

แผ่นดินพม่า แดนดินลาว

สูงต่ำ เพื่อนอาเซียน

 

"ไฮปุ" ของ "ปุถุชน"

[พระฤๅษี]

หนีกันมาอยู่นี่เอง...สองเฒ่า..ผู้ยิ่งใหญ่...ร่ายกวี..แล้วไม่มี

...ใบไผ่เขียว...( มันก็เสียวโดยไม่มีสาว) หนาวในความร้อน.

ต้องกลับไปอ้อน  เจ้านายในบ้าน..

...ทั่วโลก  มีกวีอยู่หลากหลาย.( ไฮกุ.ไดกุ. ) ต่างจาก..ไฮปุ..ตรง 

ผู้รจนานาม..ปุ   กวีของ  ปุ ก็ต้อง ( ไฮปุ) ส่วน ( ไฮกุ.ไดกุ = เซน )

เหมือน..โศลก...ส.( หลีไตแปะ...ยอดกวีจีน..) ทั่วโลก มีกวีเด่น

มากมาย  แม้แต่อินเดีย...ระพินทรนาถฯ   รัสเซีย  ไชยก๊อปสกี้..

บั๊ค .บราวด์ บีโธเฟ้น ฯลฯ  ทุกท่านเป็นหนึ่งในโลก...แต่ เรื่อง

..ฉันทลักษณ์.. เป็นเอกลักษณ์  ประจำชาติ   ไม่มีประเทศไหน

ยุ่งยาก..หยุมหยิม..เหมือนของไทย.( วรรณคดีวิจารณ์ ) ฉะนั้น

ต้องแยก  ฉันทลักษณ์...ออกจาก...โศลก. หรือ  ไฮกุ   ของญี่ปุ่น

ท่านเก่าๆ ที่เอามา  จะลากเข้าฉันทลักษณ์ไทยหมด  ตัวอย่างเช่น

.....บทพระราชนิพนธ์...ในรัชกาลที่ ๖  เอาของตะวันตกมาตั้งหลาย

เรื่อง..ก็ออกมาเป็นบทกวี  ฉันทลักษณ์ ไทยหมด...( ดูในหนังสือ-

หม่อมหลวงปิ่น  มาลากุล ) โอยยย   ร้อน.....

[wewe]

จันทร์แรมหนึ่งค่ำคล้อย…...........ละออตา

โสมส่องเดือนมีนา...................เริ่มร้อน

มองเมฆหมอกเลือนลา............แลพิสุทธิ์

อรุณรุ่งรอรวีย้อน......................สว่างเวิ้งเดือนฉาย

 

ฟ้าพรายกระจ่างแจ้ง................ราตรี

ดึกดื่นจารบทกวี.........................กลั่นถ้อย
อักษรเยื่อใยมี............................คงมั่น
กานท์รักบรรจงร้อย..................ส่งให้คนึงหา

 

ผืนนภาประดับด้วย....................ดวงดาว

ปานเพชรระยิบพราว..................ตกบ้าง
ลำแสงวูบใจราว.........................หล่นร่วง
หรีดร่ำรอน้ำค้าง.......................ห่อนรู้หลับไหล

 

อาลัยยามคลาดแคล้ว.................ไกลกัน

คำรักปลายเหมันต์......................อุ่นล้ำ
ฤดูกาลล่วงคิมหันต์....................เหินห่าง
ตะแบกร่วงสีม่วงช้ำ...................ซบนั้นเพียงดิน

 

ยังถวิลยามหลับนั้น....................เพียงตา

นอนนับดาริกา..........................กว่าแจ้ง
เสียงคีตะลอยพา........................หวานกล่อม
วันพรุ่งฤๅลมแล้ง.....................ห่อนได้คืนหวน

 

                                              (อธิฏฐาน)

 

คิดถึงคุณอธิฏฐานเช่่นกันค่ะลุงปุ

อยากให้เธอกลับมาเยือนอีกครั้ง

รอคอยอย่างมีความหวังคะ

[ปุถุชน]

จันทร์แรมหนึ่งค่ำคล้อย…...........ละออตา

โสมส่องเดือนมีนา...................เริ่มร้อน

มองเมฆหมอกเลือนลา............แลพิสุทธิ์

อรุณรุ่งรอรวีย้อน......................สว่างเวิ้งเดือนฉาย

 

ฟ้าพรายกระจ่างแจ้ง................ราตรี

ดึกดื่นจารบทกวี.........................กลั่นถ้อย
อักษรเยื่อใยมี............................คงมั่น
กานท์รักบรรจงร้อย..................ส่งให้คนึงหา

 

ผืนนภาประดับด้วย....................ดวงดาว

ปานเพชรระยิบพราว..................ตกบ้าง
ลำแสงวูบใจราว.........................หล่นร่วง
หรีดร่ำรอน้ำค้าง.......................ห่อนรู้หลับไหล

 

อาลัยยามคลาดแคล้ว.................ไกลกัน

คำรักปลายเหมันต์......................อุ่นล้ำ
ฤดูกาลล่วงคิมหันต์....................เหินห่าง
ตะแบกร่วงสีม่วงช้ำ...................ซบนั้นเพียงดิน

 

ยังถวิลยามหลับนั้น....................เพียงตา

นอนนับดาริกา..........................กว่าแจ้ง
เสียงคีตะลอยพา........................หวานกล่อม
วันพรุ่งฤๅลมแล้ง.....................ห่อนได้คืนหวน

 

                                              (อธิฏฐาน)

 

คิดถึงคุณอธิฏฐานเช่่นกันค่ะลุงปุ

อยากให้เธอกลับมาเยือนอีกครั้ง

รอคอยอย่างมีความหวังคะ

 

 

หลายคนพูดถึง....

เธอน่าจะจามไอ

สำลักน้ำบ้าง......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[พระฤๅษี]

>>อยากจะเอาบทกวี  เขียนใหม่มาลง  ก็ดูแล้วมันแนว

กระบวนบรรยายเขามา หวาน ๆ  เราก็เลยไม่กล้าลง ของ-

เรามันแนว ..หนีนรก  โลกันต์ ดันมาเกิด.....จะไปเปิดกระทู้

ใหม่ก็  นิดเดียว  ติดไม่ออก เก็บไว้ก่อน  เดี๋ยวไปเดินหาดู

ขอใครลงได้ก็..ขอเค้าลงไว้อ่านกัน.......

[kwan_kao]

จ้องตากับความเหงา :  ลานนา คัมมินส์

 

MV สวย  ฝนนี่บางครั้งให้ความรู้สึกเศร้าจริง ๆ

 

 

 

 

(เซ็งจัง ภาพไม่ขึ้น เฮ้อ)

Edited by kwan_kao, 30 March 2013 - 15:31.

[ปุถุชน]

จ้องตากับความเหงา :  ลานนา คัมมินส์

 

MV สวย  ฝนนี่บางครั้งให้ความรู้สึกเศร้าจริง ๆ

 

 

 

(เซ็งจัง ภาพไม่ขึ้น เฮ้อ)

[ปุถุชน]

 

เนื้อเพลง: สัญญากาสะลอง
ศิลปิน: พลพล พลกองเส็ง
อัลบั้ม: คนกันเอง

 

กลางค่ำคืนแสงจันทร์ อ้ายบ่าวบ้านใด๋กัน มายืนเดียวดาย
เพียงมาชื่นชมดอกไม้ หรือมาพบมาคอยใคร ใต้เงาแสงจันทร์

กลางค่ำคืนแสงดาว กาสะลองพร่างพราว ขาวนวลเต็มลาน
มีใครจะพอสงสาร ให้ที่พักคนเดินทาง ได้พอพึ่งพา

ขอฝากตัวฝากใจ (คงฝากไผมานัก เจอผู้ใดก็ฮักไปเรื่อยกา)
(ข้าบ่ฮับฝากใจไผ) รับเอาไว้เถิดหนา สัญญาว่าไม่มีวันขอคืน ทั้งตัวทั้งใจ
(เพียงถ้อยคำสัญญา จะเชื่อใจได้กา ว่าจริงเพียงใด)
ชั่วฟ้าดินสลาย สัญญารักที่ให้ไป ไม่เลือนร้างลา

ขอฝากตัวฝากใจ (คงฝากไผมานัก เจอผู้ใดก็ฮักไปเรื่อยกา)
(ข้าบ่ฮับฝากใจไผ) รับเอาไว้เถิดหนา สัญญาว่าไม่มีวันขอคืน ทั้งตัวทั้งใจ
(เพียงถ้อยคำสัญญา จะเชื่อใจได้กา ว่าจริงเพียงใด)
ชั่วฟ้าดินสลาย สัญญารักที่ให้ไป ไม่เลือนร้างลา

ปากหวานๆจะไว้ใจได้กา อู้เพราะๆจะไว้ใจได้กา
ตาซึ้งๆจะไว้ใจได้กา เสียงนุ่มๆจะไว้ใจได้กา
ตัวสูงๆจะไว้ใจได้กา คำอ้อนๆจะไว้ใจได้กา
อยู่เมืองไกลจะไว้ใจได้กา บอกฮักข้าเจ้าจะไว้ใจได้กา

ปากหวานๆจะไว้ใจได้กา อู้เพราะๆจะไว้ใจได้กา
ตาซึ้งๆจะไว้ใจได้กา เสียงนุ่มๆจะไว้ใจได้กา
ตัวสูงๆจะไว้ใจได้กา คำอ้อนๆจะไว้ใจได้กา
อยู่เมืองไกลจะไว้ใจได้กา บอกฮักข้าเจ้าจะไว้ใจได้กา

 

นำเนื้อเพลงไปลงที่เว็บอื่น อย่าลืมให้เครดิต lyrics.in.th ผู้แกะเนื้อเพลงด้วยครับ : )
เนื้อเพลง สัญญากาสะลอง - พลพล Feat.ลานนา, 10.0 out of 10 based on 1 rating

 

 

 

 

.

 

เมื่อสี่สิบปีก่อนนี้

มีเพลงนี้ก็ดีซินะ

จะพูดกับสาวที่เพิ่งจะรู้จัก....

 

มีใครจะพอสงสาร ให้ที่พักคนเดินทาง ได้พอพึ่งพา

ขอฝากตัวฝากใจ....

[ปุถุชน]

>>อยากจะเอาบทกวี  เขียนใหม่มาลง  ก็ดูแล้วมันแนว

กระบวนบรรยายเขามา หวาน ๆ  เราก็เลยไม่กล้าลง ของ-

เรามันแนว ..หนีนรก  โลกันต์ ดันมาเกิด.....จะไปเปิดกระทู้

ใหม่ก็  นิดเดียว  ติดไม่ออก เก็บไว้ก่อน  เดี๋ยวไปเดินหาดู

ขอใครลงได้ก็..ขอเค้าลงไว้อ่านกัน.......

 

 

อาหารสำรับหนึ่ง

น่าจะมีคาวหวาน

เพ็ด เปรี้ยว เค็ม

มัหวานผสมรสชาติ

กลมกล่อมอาหารไทย...

 

คนเข้ามาที่นี่ส่วนใหญ่

ผ่านห่วงเวลาหนีนรกปะโลกีย์มาแล้ว....

 

อัญเชิญครับ....

Edited by ปุถุชน, 31 March 2013 - 14:56.

[ปุถุชน]

 

เกิดเมืองไทยเป็นรุ่นที่สอง

ได้ยินเสียงดนตรีแผ่นดินบรรพบุรุษ...

คิดถึง เข้าถึงกว่าดนตรีฝรั่งตาน้ำข้าว....

[ปุถุชน]

 

เพลงจันทร์ บรรเลงดนตรีไทย...

 

ฤารักฉันจะเป็นเพียงความฝัน ไม่มีวันนั้น

จันทร์คืนแรม วับแวมอยู่บนปลายฟ้า คงล้าอ่อนแรง ทอแสงแหว่งเว้าครึ่งดวง
คืนเหงามันเศร้ามันซึมในทรวง จันทร์เพียงครึ่งดวง คล้ายจันทร์เจ้ารอใคร

จันทร์คืนแรม วับแวมมีเพียงครึ่งใบ คงดังกับใจฉันที่มีเพียงครึ่งดวง
คอยรักที่จักเดิมเต็มในทรวง โอ้ใจครึ่งดวง เฝ้ารอมาเนิ่นนาน

จันทร์เอ๋ยจันทร์ที่ลอยเด่นฟ้า จะมีน้ำตาหลั่งมาเหมือนฉันบ้างไหม

ความรักมันช่างห่างไกลแสนไกล ไม่รู้วันไหน หัวใจถึงจะเต็มดวง

คงมีวันที่จันทร์เจ้าจะเต็มใบ แต่ว่าหัวใจฉันจะมีไหมวันนั้น
ฤารักฉันจะเป็นเพียงความฝัน ไม่มีวันนั้น วันที่ใจเต็มดวง

จันทร์เอ๋ยจันทร์ที่ลอยเด่นฟ้า จะมีน้ำตาหลั่งมาเหมือนฉันบ้างไหม

คงมีวันที่จันทร์เจ้าจะเต็มใบ แต่ว่าหัวใจฉันจะมีไหมวันนั้น
ฤารักฉันจะเป็นเพียงความฝัน ไม่มีวันนั้น วันที่ใจเต็มดวง

ฤารักฉันจะเป็นเพียงความฝัน ไม่มีวันนั้น วันที่ใจเต็มดวง

 

 

 

ผมกำลังอินกับเสียงร้อง

เพลงจันทร์ coverสุดเศร้า by แพท ทริสา

[พระฤๅษี]

  >> เอางั้นเลยนะ  พี่ปุฯ เอาก็เอา  บรรเลงเลย <<

 

 

>>>>>>> หนีนรก <<<<<<<

 

 

>>๑. อตีตัง ตามเชื้อไท----------------ตยะภัย พิบัติพา

......เล่ห์ลี้  นรกมา............................มนุษย์ภพ  ปฐพี

 

>>๒.เสนียด  สนิทสอง.....................ชินะผอง ผยองผี

.......ล้างผลาญ เซ่นมารพลี...............ผสมผสาน  ทะยานยง

 

>>๓.อุบัติ  บอกวิบัติ.........................ณ นักษัตร์ มิประสงค์

.......อสูร  สภาพพงศ์........................อธิศูทร์  ผสมพันธุ์

 

>>๔.ก่อเกิด กะกาฬปักษ์..................จิ้งจกทัก  ทุราถรรพ์

.......รางร้าย มาโรมรัน.......................นครา  สยามินทร์

 

>>๕.พระเสาร์  สถิตทับ.....................คำนวณนับ ทศกสิณ

.......วัดวัง ฤๅพังภินท์........................เพราะอำนาจ อุบาทว์เบียร

 

>>๖.ดวงเมือง ดูดวงแตก..................มันยุแยก  อยู่กลางเศียร

.......โหรหา  ว่าแนบเนียน..................เป็นนัยยะ  กะดวงดาว

 

>>๗.สงสาร สยามยั้ง........................อยู่ฤๅพัง  ก็เกินกล่าว

.......เงามืด  มันยืดยาว......................ดูยากแย่  จะแก้กัน.....ฯะ

 

 

 >>>>>>> พระฤๅษี<<<<<<

 

 

.................๓๑//๓//๕๖...........( ยานี ๑๑)        

[ปุถุชน]

  >> เอางั้นเลยนะ  พี่ปุฯ เอาก็เอา  บรรเลงเลย <<

 

 

>>>>>>> หนีนรก <<<<<<<

 

 

>>๑. อตีตัง ตามเชื้อไท----------------ตยะภัย พิบัติพา

......เล่ห์ลี้  นรกมา............................มนุษย์ภพ  ปฐพี

 

>>๒.เสนียด  สนิทสอง.....................ชินะผอง ผยองผี

.......ล้างผลาญ เซ่นมารพลี...............ผสมผสาน  ทะยานยง

 

>>๓.อุบัติ  บอกวิบัติ.........................ณ นักษัตร์ มิประสงค์

.......อสูร  สภาพพงศ์........................อธิศูทร์  ผสมพันธุ์

 

>>๔.ก่อเกิด กะกาฬปักษ์..................จิ้งจกทัก  ทุราถรรพ์

.......รางร้าย มาโรมรัน.......................นครา  สยามินทร์

 

>>๕.พระเสาร์  สถิตทับ.....................คำนวณนับ ทศกสิณ

.......วัดวัง ฤๅพังภินท์........................เพราะอำนาจ อุบาทว์เบียร

 

>>๖.ดวงเมือง ดูดวงแตก..................มันยุแยก  อยู่กลางเศียร

.......โหรหา  ว่าแนบเนียน..................เป็นนัยยะ  กะดวงดาว

 

>>๗.สงสาร สยามยั้ง........................อยู่ฤๅพัง  ก็เกินกล่าว

.......เงามืด  มันยืดยาว......................ดูยากแย่  จะแก้กัน.....ฯะ

 

 

 >>>>>>> พระฤๅษี<<<<<<

 

 

.................๓๑//๓//๕๖...........( ยานี ๑๑)        

 

 

 

ไม่น่าอัดอั้นไว้นานเลย  แค่....

 

สจจํ เว อมตาวาจา วาจาจริง
คือพูดจริง เป็นคำพูดที่ไม่ตาย.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

ควันโขมงโยงภาพซากปรัก
จำสลักดวงจินต์สิสิ้นสาย
เงาทะมึนสูญเสียเมืองวอดวาย
ความงมงายครอบงำขย้ำไทย

เมืองสวรรค์รอยยิ้มพิมพ์สยาม
เหลือเพียงนามยามกล่าวเพื่อคว้าไขว่
ถึงอดีตคิดตามงามวิไล
น้ำมือไทยทำไทยเพื่อใครกัน

เสียงโห่ร้องก้องฟ้า...หารู้สึก
หาสามัญสำนึกจิตสร้างสรรค์
หาน้ำใจไมตรีเคยพลีกัน
ความกระสันบังบดหมดน้ำใจ

ฤา...ยอมสิ้นแผ่นดิน..โลกปรามาส
ประวัติศาสตร์จารึกว่าศึกไหน?
เหลือเพียงเศษและซากความปราชัย
เหลือทิ้งไว้ให้ลูกหลานขนานนาม

ความย่อยยับอปราธในครานี้
คงบ่งชี้ดีชั่ว...ขอมั่วถาม?
อยากเห็นไทยใสสดใต้ฟ้าคราม
ความงดงามแบบเดิม..เติมอย่างไร?

 

'กชมนวรรณ'

 

 

คัดลอกมาให้อ่านจาก....

http://www.bloggang....id=kodchamonwan

ขอขอบคุณครับ

Edited by ปุถุชน, 31 March 2013 - 21:47.

[พระฤๅษี]

 >>>>> กู้....ลดฟาย..ฟามเลวสูง <<<<<

 

 

 >>๑. กู้กู้ กูกู้วะ .......................ใครจะ  มาจู้จี้

.......กู้เกิน  ก็เงินดี.....................นี่หนี้  น่าหนักใจ

 

>>๒.เกาะกลุ่ม  กันกู้กู้...............รู้รู้  ก็บอดใบ้

.......แผ่นเอย แผ่นดินไทย.........ยากใย  จะยืดยาว

 

>>๓.หนี้นับ  ยิ่งหนักหนา...........นครา  อย่าลืมหลง

.......ทั่วไทย  ไม่มั่นคง ..............คิดปลง  ก็เปล่าปอง

 

>>๔.หนี้ท่วม  ประเทศทุกข์.......ซ่อนซุก  เป็นซ้ำสอง

.......เจ็บช้ำ  น้ำตานอง..............หนี้กอง  ก็ท่วมกาย

 

>>๕.มันกู้  ให้กูแก้....................แย่แย่  แย่.. อิ๊บอ๋าย..

....... เขาสุข  สนุกสบาย.............เอาร้าย  มาลงเรา

 

>>๖.สงสาร  ลูกหลานเหลน........กรรมเวร  เป็นหนี้เขา

.......ชักโยง  มาโกงเอา..............มัวเมา  เหมือนหมู่มาร...ฯะ

 

 

 

>>>>>>> พระฤๅษี <<<<<<

 

................๑//๔//๕๖..............( กลอน ๕ )

[ปุถุชน]

เพลง : สามก๊ก (ต้นเรื่อง)
 

กุ๋นกุ่นฉางเจียงตุงซื่อเสว่ย์              น้ำแยงซีรี่ไหลไปบูรพา

ล่างฮวาถาวจิ้นอิงสยุง                    คลื่นซัดกวาดพาวีรชนหล่นลับหาย

ซื่อเฟย์เฉิงไป้จ่วนโถวคุง                ถูกผิดแพ้ชนะวัฏจักรเวียนว่างดาย

ชิงซานอีจิ้วจ้ายจี่ตู้ซีหยางหุง           สิขรยังคง ตะวันยังฉาย นานเท่านาน    

ไป๋ฟ่าอวี๋เฉียวเจียงจู๋ซ่าง                  เกาะกลางชล คนตัดฟืนผมขาว เฒ่าหาปลา

กว้านค่านชิวเยวี่ยชวุนเฟิง                สารทวสันต์เห็นมาเหลือหลายที่กรายผ่าน

อี้หูจว๋อจิ่วสี่เซียงเฝิง                        สรวลสุราขุ่นป้านใหญ่ให้ตำนาน

กู่จินตวอส่าวซื่อโตวฟู่เซี่ยวถานจุง     เก่าๆ ใหม่ๆ เสพสราญว่ากันไป

 

 

http://board.palungj...โลก-113725.html

Edited by ปุถุชน, 6 April 2013 - 09:58.

[ปุถุชน]

เพลงเปิดเรื่องสามก๊กแบบแปลของ ยาขอบ
สามเชี่ยวของแม่แยงซี(เชียงกัง)
ไหลไปสู่ทิศของอรุณรุ่งไม่มีเปลี่ยนแปลง
แต่ในความเคว้งคว้างวันแล้ววันเล่านั้น
ก็พาขุนทหารอันแกร่งกล้าแห่งอดีตไปด้วย
จะถูกหรือผิด จะสัมฤทธิ์ผลหรือปราชัย
เมื่อหวนมาคิดดูแล้วเป็นอนัตตา
แต่ขุนไศลยั่งยืนคงที่ อาทิตย์จะอุทัยกี่ครั้งก็ยังคงแดงอยู่
ธชีที่นั่งตกปลาริมฝั่งถนัด
ผมขาวโพลนอยู่กลางแสงจันทร์เพ็ญ
ลมของต้นคิมหันต์ก็เล่นกับหัวหงอกของแกไม่เปลี่ยนแปลง

     จะเห็นได้ว่าบทแปลของท่านยาขอบนั้น ชัดเจนและลุ่มลึก แม้ไม่ได้สัมผัสแห่งกาพย์กลอน แต่สัมผัสแห่งรสภาษายังเต็มเปี่ยม ยิ่งถ้าเราได้อ่านความในตอนต้นของ "โจโฉ ผู้ไม่ยอมให้โลกทรยศ" เราจะ ทราบว่าท่านมีเรื่องขัดข้องใจกับคนในแวดวงจึงต้องมาระบายด้วยกลอนบทนี้ (ผมไม่อาจทราบความเป็นมาของเหตุการณ์ว่าท่านทะเลาะหรือเขียนกระทบใคร วานผู้รู้ช่วยบอก) กลอนบทนี้จึงมีความอัดอั้นตันใจของ ยาขอบ เจือปนอยู่

     บทเพลงเปิดเรื่องสามก๊กนี้ เป็นข้อสรุปทั้งหมดของหนังสือสามก๊กเล่มโต เรื่องราวต่าง ๆ ล้วนไม่จีรังยั่งยืน สุดท้ายก็จะผ่านพ้นไปเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ....

     เพลงเปิดเรื่องสามก๊ก หายไปจากหนังสือสามก๊กภาษาไทยของผม ส่วนบ้านเราเมืองเราเวลานี้ สุดแสนจะวุ่นวาย บางทีไม่ต้องไปเสียเวลาร่างกฎหมาย หรืออ่านตำราสามก๊กเล่มหนาเป็นตึก .....

     ... เปิดเพลงลำนำสามก๊ก ของแอ๊ดคาราบาว หรือนึกถึงบทแปลของยาขอบ ก็พอ ...

 

http://samkok911.blo...e-Kingdoms.html

Edited by ปุถุชน, 6 April 2013 - 09:59.

[ปุถุชน]

สามก๊ก (อังกฤษ: Romance of the Three Kingdoms; จีนตัวเต็ม: 三國演義; จีนตัวย่อ: 三国演义; พินอิน: sān guó yǎn y&igrave

สามก๊กแต่งขึ้นประมาณช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในสมัยราชวงศ์หยวน โดย หลอกว้านจง (Luo Guanzhong) (羅貫中) กล่าวถึงประวัติศาสตร์จีนในยุคสามก๊ก (ค.ศ. 220-280) โดยเริ่มปูที่มาที่ไปตั้งแต่ยุคโจรโพกผ้าเหลือง (ค.ศ.183) เนื้อเรื่องเน้นการชิงอำนาจในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น ของก๊กต่างๆ อันประกอบด้วยวุยก๊ก (เว่ย์ 魏) จ๊กก๊ก (ฉู่ 蜀) และง่อก๊ก (หวู 吳) จนไปถึงการสถาปนาราชวงศ์จิ้นโดยสุมาเอี๋ยนหลานชายของสุมาอี้ (บุตรชายของสุมาเจียว) สามก๊กเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีนร่วมกับไซอิ๋ว ซ้องกั๋ง และความฝันในหอแดง บางคนบอกว่าสามก๊กเป็น บทเรียนตำราพิชัยสงคราม ภาคปฏิบัติ

สามก๊กฉบับต้นฉบับนั้น แต่งขึ้นโดย "เฉินโซ่ว" ชาวเสฉวนที่มีชีวิตอยู่ในยุคสามก๊กจริงๆ แต่เกิดไม่ทันฉากสำคัญหลายฉาก เขาเกิดหลังพระเจ้า***นเต้ตกบัลลังก์ไปแล้ว ตระกูลของเขานั้นทำงานเป็นบริวารให้จ๊กก๊กของเล่าปี่ รวมทั้งตัวเขาด้วย แต่พ่อเขาบันทึกเรื่องราวการต่อสู้ของทั้งสามก๊กไว้อย่างละเอียดและเป็นจริง

ค.ศ. 264 แผ่นดินแคว้นฉู่ที่เขาอยู่ประกาศยอมแพ้ต่อแคว้นเว่ย์ เฉินโซ่วและครอบครัว และชาวแคว้นฉู่อื่นๆ จึงถูกนำตัวไปที่แคว้นเว่ย์ ขณะนั้นสุมาเจียว (司馬昭) อ๋องแห่งแคว้นเวย์ เสียชีวิตลง สุมาเอี๋ยนขึ้นเป็นวุยอ๋องแห่งเว่ย์แทน
ค.ศ. 265 สุมาเอี๋ยน ขับกษัตริย์พระเจ้าโจฮวน (曹奐) ออกและสถาปนาตนเป็นพระเจ้าจิ้นหวู่ตี้ (晉武帝) จักรพรรดิพระองค์แรกแห่งราชวงศ์ใหม่ ราชวงศ์จิ้นตะวันตก และสามารถรวบรวมสามก๊กเป็นหนึ่งเดียวได้ พระเจ้าจินหวู่ตี้ ทรงโปรดให้เฉินโซ่ว รวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงศึกสามก๊กมาให้ละเอียดตั้งแต่ช่วงจุดเริ่ม ต้นกบฏโพกผ้าเหลืองในค.ศ. 183 จนถึงพระเจ้าจินหวู่ตี้ขึ้นครองราชย์ใน ค.ศ. 265 อย่างละเอียด เพื่อเอากลศึกต่างๆ ที่เกิดในยุคนี้ให้เป็นตำราสงครามให้แก่คนรุ่นหลัง สามก๊กฉบับแรกนี้มีชื่อว่า "ซานกว๋อจื้อ" แต่ซานกว๋อจื้อก็ไม่ได้รับความนิยม

แล้วต่อมาในช่วงใดช่วงหนึ่งระหว่าง ค.ศ. 1330 - ค.ศ. 1400 หลอกว้านจง ก็ได้นำซานกว๋อจื้อมาแต่งใหม่ในรูปแบบนิยายกึ่งประวัติศาสตร์ โดย เนื้อเรื่องนำมาจากซานกว๋อจื้อบ้างและแต่งเพิ่มเองบ้าง ซึ่งเมื่อเทียบกับซานกว๋อจื้อนั้น พบว่ามาจากซานกว๋อจื้อ ร้อยละ 70 และแต่งเอง ร้อยละ 30 โดยประมาณ เรื่องราวที่หลอกว้านจงได้แต่งเพิ่มขึ้นเองที่เด่นๆนั้น มีหลายจุด ซึ่งผู้ที่จำเนื้อเรื่องของสามก๊กได้ทั้งเรื่องควรรู้ เช่น

จุดแรก จุดเริ่มต้นของเรื่อง ฉากที่ เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ได้กรีดเลือดสาบานเป็นพี่น้องกันนั้น สมัยนั้นยังไม่มีประเพณีการสาบานเป็นพี่น้องกันแบบนี้ มีเพียงการดื่มเลือดสาบานของเหล่าบ่าวรับใช้ว่าจะจงรักภักดีต่อนายเท่านั้น การดื่มเลือดสาบานเป็นพี่น้องนั้นมาจากลัทธิหมิงเจี้ยว ที่เพิ่งเกิดขึ้นและโด่งดังมากในช่วงชีวิตของหลอกว้านจง และหลอกว้านจงได้นำลัทธิหมิงเจี้ยวนี้เอง มาใส่ลงวรรณกรรมสามก๊กของตน และในซานกว๋อจื้อของเฉินโซ่วก็ไม่ได้กล่าวว่ามีการดื่มเลือดสาบานระหว่าง เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุยแต่อย่างใด
อีกจุดหนึ่งที่เด่นๆ คือ จุดที่กล่าวว่า ขงเบ้งตอนจนตรอกถูกสุมาอี้ยกทัพมากว่าแสนคนจะมายึดเมืองเสเสีย ขณะที่ตนมีเพียงทหารที่ไม่ชำนาญศึกเพียงห้าพันนาย ขงเบ้งจึงเปิดประตูเมืองทุกบาน ให้ทหารปลอมเป็นชาวเมืองและทำกิริยาเหมือนเป็นชาวบ้านกำลังทำกิจวัตรตามปกติ ส่วนขงเบ้งก็ไปนั่งดีดพิณบนกำแพงเมืองอย่างสบายใจ เมื่อสุมาอี้มาถึงเห็นว่าชาวเมืองและขงเบ้งไม่มีอาการตกใจหรือลนลาน ขงเบ้งคงเตรียมการรับมือไว้อย่างดีแล้วกระมัง เราคงสู้ขงเบ้งไม่ได้ สุมาอี้จึงถอยทัพไปเอง

จุดที่กล่าวมานี้ไม่มีในซานกว๋อจื้อ แต่หลอกว้านจง นำประวัติศาสตร์จากยุคจิ๋นซีฮ่องเต้มา โดยมีเรื่องราวว่า ในสมัยนั้นจีนก็แตกเป็นแคว้นๆดังเช่นยุคสามก๊ก และมีช่วงหนึ่ง รัฐฉู่ยกทัพมาจะรบรับรัฐเจิ้ง รัฐเจิ้งอ่อนแอกว่ารัฐฉู่อย่างเห็นได้ชัด แต่แม่ทัพใหญ่แห่งรัฐเจิ้งได้หลอกชาวเมืองว่ารัฐฉู่มาค้าขายไม่ใช่มารบ ชาวเมืองจึงเชื่อสนิทยกข้าวของมาค้าขายนอกกำแพงรัฐอย่างเอิกเกริก เมื่อทัพฉู่มาถึงก็ตกใจว่าทำไมรัฐเจิ้งไม่ตกใจลนลานกลับทำทุกอย่างเหมือนไม่ มีอะไรเกิดขึ้น นี่จะเป็นกลลวงหรือเปล่า บุกเข้าไปเราคงตายหมดแน่ ทัพฉู่จึงถอยทัพ
หลอกว้านจงจึงนำเรื่องราวนี้มาแต่งเพิ่มลงในสามก๊กฉบับของตน และหลอกว้านจงยังมีการแต่งเพิ่ม หรือดัดแปลงเนื้อเรื่องจากซานกว๋อจื้ออีกหลายจุด เมื่อหลอกว้านจงแต่งเสร็จ สามก๊กของหลอกว้านจงก็เป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน

ฉบับภาษาไทยมีหลายสำนวนแปล ที่โด่งดังคือฉบับของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) และยาขอบ (สามก๊กฉบับวณิพก)


ได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นสุดยอดวรรณกรรมชิ้นหนึ่งของโลกด้วย


ข้อมูล : วิกิพีเดีย

 

 

"SUN WU"

 

http://board.palungj...โลก-113725.html

[ปุถุชน]

ขุนศึก ผู้กล้า ท่านผู้นำ ทรราชมาแล้วไป...

ขุนเขาตระหง่าน หน้าผาสูงสถิตย์

 

สายน้ำไหลรี่ขึ้นลงตามกาลเวลา

พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออกไม่เปลี่ยนแปลง...

 

ผมขาวคิดถึงวันวาร

ผมดำคิดถึงวันพรุ่งนี้....

 

 

รำพึงโดย ปุถุชน คนธรรมดา

[พระฤๅษี]

แหม..ไม่ได้มา 2 วัน  ได้มาอ่าน สามก๊ก..อีก มิติหนึ่ง..ใยพี่ปุฯ

จึงลืม บุคคลสำคัญอีกผู้หนึ่ง..ที่ไม่มีตัวตน แต่ หลอกว้านจง..

อุปโลก...ขึ้นมา..จนมีศาลเจ้าบูชา  มาจนทุกวันนี้..นางคือ---

( ส้าวฉาน) หรือ  เตียวเสี้ยน....นางได้รับฉายาว่า(หญิงผู้พลิก-

แผ่นดิน)..และนางนี่แหละ ที่ทำให้ ( หลี่ปู้ ) กระแทกอก(ต่งจั๋ว)

จนหลายเก๋ง..ดับจอมโหดลงอย่างสิ้นฤทธิ์ ( วรรณคดีวิจารณ์ )

ว่า...( ทำไมคนจีน และเชื้อสายจีน ) นับร้อยล้าน จีงบูชา คนที่

เป็นแค่..ตัวละคร..ไม่มีตัวตน..?? คำตอบง่าย ๆ คือ ( ความดี )

ความดี = เป็น .นามธรรม..ความดีที่เราต้องยกให้..นักเขียนบท

งิ้ว  อย่าง หลอกว้านจง.ที่นำนางมาไว้กับ  ( หวางหยุ่น ) ......

และหวางหยุ่นก็ใช้นางทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ใหญ่หลวง

ต่งจั๋ว..ไอ้ถ่อยจอมกักขฬะ..จึงเจอหอก หลี่ปู้..กระแทกกลางอก

ไปนรก..ทันที......คน..สะใจ..ทั้งแผ่นดิน...ใช่ไหม ?????งานนี้

ต้องยกประโยชน์ให้ ..ท่าน หลอกว้านจง.....เต็ม ๆ ...ฮ่าาาา

[ปุถุชน]

ในเรื่องสามก๊ก....

ผมชอบ"จูล่ง"มากที่สุด....

เป็นคนดี นักรบคนดี......

 

ถุกตำหนิบ้าง...

คือปกป้อง'"อาเต๊า" เด็กโง่ให้มีชีวิตยืนยาว เป็นฮ่องเต้ทำลาย"จ๊กก๊ก"....!

 

ปล.ไม่แน่ใจว่า'ตงจั๊ว'กับ'ชิวต๋าซิน'....

ใครเลวกว่ากัน....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[พระฤๅษี]

อนาคต ไม่มีใครทราบครับ พี่ปุ.....สุภาพบุรุษแห่งเสียงสาน..

เสี่ยงชีวิตฝ่าดงหอก.ดาบ.แหลน.หลาว.ง้าว.ทวน. ก็ด้วยภักดี

แต่ก็ไม่มีใครทราบว่า..อาเต๊า..ที่เขาเสี่ยงชีวิตช่วยออกมา....

จะกลายเป็น..ฮ่องเต้  I Q  ต่ำ.. คงเป็นที่..สิ่งแวดล้อม+ สติ.

ปัญญาด้วยนะครับ.ตั้งแต่  ขงเบ้ง..ยังอยู่ ก็เคยโดน ฮ่องเต๊า..

เรียกกลับเมือง ทั้งที่จะชนะศึกอยู่แล้ว..แต่ว่า ของ หลอกว้านจง.

กับของ..ซือหม่าเฉียน..นักประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของจีน  ก็ต่าง

กันอยู่บ้างนะครับ...แม้แต่  ใน  ตำรา  พิชัยสงคราม ซุนวู  ก็ยัง-

ไม่รับรอง  การบุกเข้านำอาเต๊าออกมา ของ จูล่ง.แนวประวัติศาสตร์

กล่าวว่า  เป็นไปไม่ได้  ที่จูล่งเพียงคนเดียวจะรอดมาได้เพราะฝีมือ.

ทั้งที่มีเด็ก คาดอยู่ที่อก.(ไม่ได้คาดหลัง)เพราะหลังจูล่งโดนเกาทัณฑ์

(อุปมา  เดินตากฝน..ย่อมเปียกศีรษะ..แต่ไม่เปียกไข่ ) ฮ้า....ฮ่า...

เขาอุปมากันไว้แบบนี้นะครับ..จริง ๆ ...แค่นี้ก่อนนะครับ...๕๕๕๕๕๕

[ตะนิ่นตาญี]

เนื่องในวาระดิถี วันปีใหม่ ขอให้ พี่ปุถุชน และ ครอบครัว

 

มีความสุขตลอดไปด้วยเถอะครับ

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันเสาร์ที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๕.๑๐ นาฬิกา

 

 

 

ตะนิ่นตาญี ต้องขอประทานโทษ พี่ปุฯ ที่ หลับหู-หลับตา 

 

อวยพรวันปีใหม่ให้กับ พี่ปุฯ ผิดกระทู้ ด้วยความสะเพร่าหนึ่ง และด้วยความ ที่พึ่งตื่นอีกหนึ่ง

 

ทำให้ไปเขียนอวยพรผิดกระทู้ ขอประทานโทษ พี่ปุฯ ด้วยครับ

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันอาทิตย์ที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๔.๕๒ นาฬิกา

 

 

[ปุถุชน]

ผมไม่ได้ยินเสียงร้อง Brenda Lee..?

[ปุถุชน]

 

เห็นชื่อ"อธิฏฐาน"ใน"คนเดินเท้าก้าวในบางวัน"....

Started by ปุถุชน, 24 February 13 09:11

  เพลงผ้า ปรพากย์

วันเสาร์

ค ว า ม ชั่ ว พ อ กั น มั น กั บ มึ ง ......!!



๐ มึงจะเอาก้อนหิน กูก็ให้
บอกโคตรเหง้ามึงก่อไว้ กูก็เชื่อ
มึงลี้ภัยข้ามขุน กูจุนเจือ
ให้ปูเสื่อนอนกินบนดินไทย

๐ กี่หลายครั้งสุดแรงมึงแว้งกัด
กี่หมื่นนัดมึงกราดกระสุนใส่
กี่ครั้งแล้วอัปรีย์ ยํ่ายีใจ
มึงรู้ไหม ไทยเก็บความเจ็บลึก

๐ คนชาติกูดูมึงมาครึ่งชาติ
ทนให้มึงปรามาสความรู้สึก
มึงมันเหมือนงูพิษผิดสํานึก
จะรู้ตรึกเกรงใจกระไรมี

๐ มึงเหิมเกริมจะกินแผ่นดินไทย
มึงล่วงลํ้าอธิปไตย บัดฉะนี้
บังอาจ ไอ้สัญชาติทรพี
เลือดพระยาละแวกนี่ อัปรีย์จริง

๐ หากผู้นําชาติกู เป็นผู้เป็นคน
ไม่วางตนใฝ่ตํ่าผู้นําหญิง
ทั้งเสนาตําบอนละครลิง
มึงอย่าหมายได้ชิงแผ่นดินกู

........ เพลงผ้า ป ร พ า ก ย์
๒๐ เมษายน ๒๕๕๖

— กับ Nurse Joe Worawirat และ 11 อื่นๆ

 

 

 

 

 

๐ หากผู้นําชาติกู เป็นผู้เป็นคน
ไม่วางตนใฝ่ตํ่าผู้นําหญิง
ทั้งเสนาตําบอนละครลิง
มึงอย่าหมายได้ชิงแผ่นดินกู

........ เพลงผ้า ป ร พ า ก ย์

 

 

หลังจากตามหา"อธิฏฐาน" ไม่พบ....

เผอิญไปเห็น'เพลงผ้า ปรพากย์'......

จึงนำมาให้อ่าน....