ศาลอุทธรณ์ขอนแก่นพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 8 แกนนำเสื้อแดงขอนแก่นมือเผาธ.กรุงเทพ คนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้ ธ.กรุงเทพ รวม 29.5 ล้าน ได้ประกันตัว
แต่ทั้งนี้จำเลยทั้ง 8 คน ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 โดยคงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนดโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และ จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 มีกำหนดโทษคนละ 6 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 3 ที่ 4 และจำเลยที่ 7 คนละ 1 ปี
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 มีนาคม ที่ห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดขอนแก่น ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาพิจารณาคดี กรณี ธ.กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาประชาสโมสร เขตเทศบาลนครขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 8 แกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่น ประกอบด้วย นายไชยยงค์ ถูระพี จำเลยที่ 1 นายวีรพันธ์ ไชยจันดา จำเลยที่ 2 นายสุทัศน์ สิงห์บัวขาว จำเลยที่ 3 นายอดิศัย วิบูลย์เสธ จำเลยที่ 4 นายสุชาติ รักจันดา จำเลยที่ 5 นายบรรจง คำหงษา จำเลยที่ 6 น.ส.ปาริชาติ ภูนกยูง จำเลยที่ 7 และ นายอุดม คำมูล จำเลยที่ 8 ผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปใน ธ.กรุงเทพ แล้วก่อเหตุเผาทำลายทรัพย์สินของทางธนาคาร จนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553
ศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นสรุปคดีว่า จำเลยทั้ง 8 คน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ,365(1) (2) ประกอบกับมาตรา 83, 362 ,364 คือการกระทำของจำเลยทั้ง 8 คน ร่วมกันร่วมกันบุกรุกเข้าไปในธนาคารเพื่อเจตนาทำลายทรัพย์สินให้ได้รับความเสียหาย จึงให้ลงโทษฐานบุกรุกซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
แต่เนื่องจากการกระทำของจำเลยทั้ง 8 กับพวก ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันในทางการเมือง ก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงหลงผิดก่อให้เกิดการกระทำความผิด จึงสมควรกำหนดโทษจำคุกมีกำหนดกระทงละ 1 ปี โดยจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 คือจำคุกจำเลยที่ 1 รวมสามกระทง มีกำหนด 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 คนละ 1 กระทง มีโทษกำหนดจำคุกคนละ 1 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 มีความผิดคนละสองกระทง มีกำหนดโทษจำคุกคนละ 2 ปี
แต่ทั้งนี้จำเลยทั้ง 8 คน ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 โดยคงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนดโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และ จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 มีกำหนดโทษคนละ 6 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 3 ที่ 4 และจำเลยที่ 7 คนละ 1 ปี
เมื่อพิจารณาถึงผลการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก และจำเลยทั้ง 8 คน ก็มิได้มีการบรรเทาผลร้ายชดใช้ค่าเสียหาย รวมทั้งเพื่อมิให้บุคคลอื่นถือเป็นเยี่ยงอย่างก่อเหตุขึ้นในลักษณะเดียวกัน คือการสร้างความวุ่นวายเสียหายต่อสังคมและสุจริตชน จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้ และให้จำเลยทั้ง 8 คนร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายแก่โจทย์
โดยให้จำเลยที่ 1 ร่วมรับผิดเป็นจำนวนเงิน 8.3 ล้านบาท จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดจำนวน 1.8 ล้านบาท จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 ร่วมรับผิดคนละจำนวน 5.3 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 ร่วมรับผิดคนละจำนวน 3.5 ล้านบาท ให้กับโจทก์ คือ ธ.กรุงเทพฯ ผู้เสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากที่ศาลได้พิพากษาตัดสินคดีเสร็จสิ้นยืนตามศาลชั้นต้นที่พิจารณาคดี ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 8 คน จำเลยในคดีนี้ถึงกับเข่าอ่อน หลังจากที่ศาลอุทรณ์ยืนยันคำพิพากษาโทษตามศาลชั้นต้น จากนั้นทนายความของทั้ง 8 คน ได้ยื่นขอประกันตัว และเตรียมยื่นต่อสู้คดีใช้ชั้นศาลฎีกา โดยการพิจารณาคดีครั้งนี้มีกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารับฟังการพิพากษาคดีไม่กี่สิบคน และไม่มีแกนนำเข้าร่วมรับฟังด้วย
ที่มา : คมชัดลึก
หมาหัวเน่า เป็นไปตามกรรมแล้วล่ะเมิงงานนี้...ใช้หนี้กันหัวบานล่ะเมิง...
เอิ๊กๆๆๆๆๆ