นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยว่าการส่งออกเดือน มค. 2556 มีมูลค่า 18,269 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.09%
ส่วนการนำเข้า มค. มีมูลค่า 23,755 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 40.87 %
ส่งผลให้ไทยขาดดดุลการค้า 5,486 ล้านเหรียญสหรัฐ
.........................................
เห็นแต่ตัวเลขขาดดุล ก็รีบโวยวายกันใหญ่
แมลงสาปตีความหมายไม่ออก .. เพราะโง่
ไอ้ ....เงินในเป๋า *คุณ* ลดลงเป็นประวัติศาตร์ ชาติไทย เงิน เข้า น้อยกว่าเงินออก
ประเด็นคือ รวมกันมันติดลบ.....ในบ้านไม่มีเงิดสด ติดลบ
ยังทะลึ่ง มาบอกเพิ่มขึ้น อีก มันขึ้นมา เทียบจากปีก่อน ปีก่อน ก็คือ อีปูไง
ระอาจิงไรจิง .. ต้องมานั่งสอนเด็กเซาะกราวแบบนี้
แต่ใหนแต่ไรมา ประเทศไทยพึ่งพาการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากภาคการส่งออกประมาณ 60 % ของ GDP
มันก็ดีนะ .. แต่ปัญหาคือ เมื่อเกิดภาวะถดถอยจากทางฝั่งผู้สั่งซื้อสินค้าในประเทศหลักๆ อย่างอเมริกา และยุโรป
ภาคส่งออกของไทยจะมีปัญหาทันที และจะกระทบต่อการขยายตัว และการจ้างงาน รวมถึงการบริโภคภายใน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
............
จากตัวเลขขาดดุลที่ว่ามา จะเห็นว่า ภาคส่งออกก็ยังขยายตัวอยู่ และยอดขาดดุลเกิดจากภาคการนำเข้า
ซึ่งมันก็ต้องเกิดจาก การบริโภคภายในประเทศ และ การลงทุน หรือการสั่งซื้อเครื่องจักร เพราะความต้องการในประเทศของเราเอง
คงไม่มีพ่อค้าหน้าโง่คนใหนสั่งซื้อสินค้ามาเล่นๆ ถ้าไม่มีดีมานท์ของตลาดรองรับ และค่าเงินก็แข็ง ทำให้การซื้อสินค้าถูกกว่าที่ควรจะเป็น
ยอดขาดดุลที่เห็น ต้องไปดูว่าตัวเลข GDP ขยายหรือ หดตัว ต้องไปดูว่า การเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าหรือไม่
ถ้าทั้งสองอย่างอยู่ในเกณฑ์ขยายตัว ก็แปลว่า .. ประเทศไทย กำลังยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ต้องไปกังวลกับวิกฤตเศรษฐกิจของโลกให้มากนัก
.
.
ขอถามนิ๊สนุง .................. แล้วแบบนี้มันไม่ดีตรงใหน (จะรีบโวยวายให้อายชาวบ้าน... เพื่อ ????)
เจอตรรกะขี้ข้าแม้วเข้าไปเล่นเอามึนเบย!! ขาดดุลการค้าต้องไปดูที่GDP กับการเก็บภาษี ท่านเรียนโรงเรียนแดงมาใช่ป่ะเนี่ย
ไม่ต้องขยายความก็พอจะประเมิณได้เลยว่าโรงเรียนนปช สอนเป็นแต่เรื่องเผาประเทศ ตอแหลแถลไถล
เฮร้อ .... พอดีจบด้านนี้ ปริญญา 2 ใบ ทำงานโดยตรง ก็ไม่มีไรมากกว่านี้
จบป่ะ .........
1-ประเทศไทยกำลังยืนได้ด้วยลำแข้งด้วยตัวเอง แล้วทำไมรัฐบาลต้องกู้2.2ล้านล้าน ก็กำลังยืนได้นี่
2-อ้อ..ช่วยแถต่อทีทำไมขาดดุลการค้าต้องไปดูที่GDPและการเก็บภาษี ทำไมไม่ดูการนำเข้าส่งและส่งออกที่เป็นปัจจัยหลัก!!!
3-คุณบอกว่าภาคการส่งออกยังขยาย ในขณะที่ภาคการนำเข้าขยายตัวสูงกว่า แล้วมันจะออกมาดีอย่างไร??
ผมชอบผู้มีความรู้มีการศึกษาและมีจริยธรรมที่สูงครับ จึงอยากฟังทัศนะของท่านมากๆ
1. รัฐบาลกู้เงิน เพราะแหล่งเงินภายในไม่พอ และมันก็ไม่เกี่ยวกับยอดนำเข้าส่งออกนี่นา (ถามทำไม) แต่มันจะไปเกี่ยวกับเงินลงทุนภาครัฐ ในสมการ GDP
2. แทนที่จะพยายามทำความเข้าใจ ก็มาว่าคนอื่นแถ ทั้งๆที่ตัวเองก็เถียงอะไรไม่ได้ ได้แต่ตั้งคำถามแก้หน้า เอาล่ะ .. จะสงเคราะห์ให้
GDP = C + I + G + (X - M) "" ก็ตัวเลขนำเข้า ส่งออก มันอยู่ในการคำณวน แล้วจะไม่ให้มันเกี่ยวได้ไง และทั้งหมด มันนะแปลมาในรูปของภาษีไง
3. ผมอธิบายไปแล้ว .. จะยกมาให้ดู
แต่ใหนแต่ไรมา ประเทศไทยพึ่งพาการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากภาคการส่งออกประมาณ 60 % ของ GDP
มันก็ดีนะ .. แต่ปัญหาคือ เมื่อเกิดภาวะถดถอยจากทางฝั่งผู้สั่งซื้อสินค้าในประเทศหลักๆ อย่างอเมริกา และยุโรป
ภาคส่งออกของไทยจะมีปัญหาทันที และจะกระทบต่อการขยายตัว และการจ้างงาน รวมถึงการบริโภคภายใน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
............
จากตัวเลขขาดดุลที่ว่ามา จะเห็นว่า ภาคส่งออกก็ยังขยายตัวอยู่ และยอดขาดดุลเกิดจากภาคการนำเข้า
ซึ่งมันก็ต้องเกิดจาก การบริโภคภายในประเทศ และ การลงทุน หรือการสั่งซื้อเครื่องจักร เพราะความต้องการในประเทศของเราเอง
คงไม่มีพ่อค้าหน้าโง่คนใหนสั่งซื้อสินค้ามาเล่นๆ ถ้าไม่มีดีมานท์ของตลาดรองรับ และค่าเงินก็แข็ง ทำให้การซื้อสินค้าถูกกว่าที่ควรจะเป็น
ยอดขาดดุลที่เห็น ต้องไปดูว่าตัวเลข GDP ขยายหรือ หดตัว ต้องไปดูว่า การเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าหรือไม่
ถ้าทั้งสองอย่างอยู่ในเกณฑ์ขยายตัว ก็แปลว่า .. ประเทศไทย กำลังยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ต้องไปกังวลกับวิกฤตเศรษฐกิจของโลกให้มากนัก
.
.
ขอถามนิ๊สนุง .................. แล้วแบบนี้มันไม่ดีตรงใหน