อยากรู้คะแนน ดร.โสภณ พรโชคชัย จัง
จะได้เท่าไหร่นอ ไหนๆ แกก็เป็นคนเก่า คนแก่ของเว๊บเสรีไทย ของเรา นะ
แถมสร้าลวลีระดับตำนานชนิดที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ เช่น เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง อิอิ
Posted 3 March 2013 - 18:13
อยากรู้คะแนน ดร.โสภณ พรโชคชัย จัง
จะได้เท่าไหร่นอ ไหนๆ แกก็เป็นคนเก่า คนแก่ของเว๊บเสรีไทย ของเรา นะ
แถมสร้าลวลีระดับตำนานชนิดที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ เช่น เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง อิอิ
ผมเป็นแฟนคลับ แคนไท , ริดกุน , เช neverdie , eAT , Moon , tonythebest [/color][color=#0000FF;], -3- , Limmy , amplepoor , ติ๊บไตบูชาเงิน . เด็กปากดี , โจโฉ นายกตลอดกาล , อารยา, ตะนิ่นตาญี , ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่
พอดีผมลืม password เก่า และ e-mail ที่ใช้สมัครครับก็เลยจำเป็นต้องสมัครใหม่
Posted 3 March 2013 - 18:23
18:23
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
Posted 3 March 2013 - 18:28
18:23
ก๊ากกกกก ไอ้ด๊อกเตอร์เสื้อแดง แม่งหน้าไม่อายจริงๆ อุตส่าลงทุนว่ายน้ำในเจ้าพระยาได้มา 720 เสียง ก๊ากกกก
ผมเป็นแฟนคลับ แคนไท , ริดกุน , เช neverdie , eAT , Moon , tonythebest [/color][color=#0000FF;], -3- , Limmy , amplepoor , ติ๊บไตบูชาเงิน . เด็กปากดี , โจโฉ นายกตลอดกาล , อารยา, ตะนิ่นตาญี , ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่
พอดีผมลืม password เก่า และ e-mail ที่ใช้สมัครครับก็เลยจำเป็นต้องสมัครใหม่
Posted 3 March 2013 - 18:29
จะถึงพันไหมเนี่ย
Posted 3 March 2013 - 19:47
กรูจะบ้าตาย............. เห้ออออ บอกไปเเล้วให้ไปทำความดีมากๆๆ ไม่ใช่อยากเป็นผู้ว่าก็กระโดดลงมาเลยมันๆไม่มีคะเเนนจัดตั้ง ขาดประสบการณ์ให้ความช่วยเหลือประชาชน ไอเดียเยอะก็จริง เเต่ความเชื่อมั่นมันไม่มี
Posted 3 March 2013 - 20:14
เอาคนใน สรท บางคน อย่างน้าเช ลงสมัคร เผลอๆ ได้คะแนนเยอะกว่าท่านด็อกนะเนี่ียะ
Posted 3 March 2013 - 20:23
ตอนเเรกนึกว่าจะได้เกินห้าพัน เอาเข้าจริงไม่ถึงพัน กรูจะบ้าใ......
Posted 3 March 2013 - 20:27
เห้อ...........
Posted 3 March 2013 - 20:51
Posted 3 March 2013 - 20:55
สำหรับผม ผมว่าคะแนนคุณโสภณได้คะแนนถือว่าใช้ได้เลยนะครับ ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ
/人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
Posted 3 March 2013 - 21:07
18:23
ฮารูปนี้มากๆ ผมฮาซะน้ำลายกระเด็นโดนโน้ตบุ้คเลย ดีไม่ได้กินน้ำอยู่
Posted 3 March 2013 - 21:55
เสียดายๆ เกือบมีเฮครับ
แพ้พี่ตู่ติงลี่ผมไปไม่ถึงสองร้อยคะแนน
Posted 3 March 2013 - 22:03
ติดไลท์ไว้ก่อน นะ
ต้องเปลี่ยนเป็น เสียง 1,128 คะแนนคือความถูกต้อง
Posted 3 March 2013 - 22:12
Posted 3 March 2013 - 22:17
แล้วใครที่ว่า ไม่ใช่คนดี ไม่ต้องเลือกผม มันได้กี่คะแนน
(ผิดตกขออภัย เพราะไม่ได้จำ ไร้สาระ)
Posted 3 March 2013 - 22:18
คนที่เลือกนี่.....เลือกเพราะหน้าด๊อคเค้าตลกหรือเปล่าหว่าประมาณเลือกเล่น ๆ ขำ ๆ อะไรทำนองนี้ - -"
Posted 3 March 2013 - 22:29
ถือว่าเป็นสีสันก็แล้วกันครับ อย่างไรเค้าก็สู้เต็มที่ในแบบของเค้า
แต่ผมสงสัยอย่างนึงนะ คนที่เลือกเค้านั้น รู้หรือเปล่าว่าเค้ามีแผนจะแบ่งพื้นที่สนามหลวงไปทำไนท์บาร์ซ่าร์ ( ผมว่าผมเข้าใจนโยบายเค้าไม่ผิดนะ )
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
Posted 3 March 2013 - 23:11
เห็นท่านบอกว่าจะไปเยี่ยมนักโทษการเมืองในคุก ไม่รู้ว่าท่านหาทางออกได้หรือเปล่า ยิ่งชอบหลงทางอยู่ด้วย ดร.กระทง หลงทาง
"ถึงเวลาแล้วที่ใครมีอาวุธชนิดไหนก็ต้องจับขึ้นมาใช้รบกับมัน”
Posted 7 March 2013 - 09:00
วันที่ 06 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10:32:48 น.
วันนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 4 ได้ออกมากล่าว ขอบพระคุณท่านผู้สื่อข่าว และท่านผู้ลงคะแนนเสียงให้ รวมทั้งขอชื่นชมทุกฝ่ายที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิกันมากขึ้น
และเพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใส จึงขอนำเสนอค่าใช้จ่ายการหาเสียงเบื้องต้น ดังนี้:
1. ค่าผู้ช่วยหาเสียง เป็นเงิน 36,500 บาท
2. ค่าทำสื่ออินเตอร์เน็ต 10,000 บาท
3. ค่าทำการปราศรัยผ่าน Internet 2 ครั้ง 7,000 บาท
4. ค่าใบปลิว ค่าแจกและค่าส่งใบปลิว 76,590 บาท
5. ค่าทำเสื้อ 10,000 บาท
6. ค่าทำสติกเกอร์และโปสเตอร์ 10,807 บาท
7. ค่าใช้จ่ายในวันไปว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 3,300 บาท
8. ค่าเล่นว่าวที่สนามหลวง 1,700 บาท
9. ค่าสังฆทานทำบุญวันมาฆะบูชา 5 ชุด 1,174 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 157,071 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการหาเสียงโดยตรง ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าสมัครรับเลือกตั้ง 50,000 บาท และค่าออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 อีก 80,000 บาท ซึ่งผู้สมัครไม่ต้องจ่าย แต่ กกต. กำหนดให้ผู้สมัครใส่ไว้เป็นค่าสมัครด้วย และอาจมีอื่นๆ อีกบางส่วน
การที่ค่าใช้จ่ายน้อยเพราะไม่มีป้ายติดที่เสาไฟฟ้าต่าง ๆ แม้แต่ป้ายเดียว ทั้งนี้ผมมุ่งหวังจะเป็นการหาเสียงในมิติใหม่ที่ไม่ต้องการให้มีป้ายระเกะระกะ ไม่มีการจัดเวทีปราศรัยราคาแพง ไม่มีการไหว้วานคนมาฟังปราศรัย แต่ใช้การปราศรัยผ่านระบบ Internet แทน และไม่มีค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียงจำนวนมาก โดยมีเพียง 3 คน นอกนั้นได้รับความกรุณาจากญาติมิตรไปร่วมเป็นครั้งคราวประมาณ 3-4 ครั้ง เช่นวันเดินทางไปว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา วันหาเสียงในตลาดแถวบ้าน และวันเต้นฮาเร็มเชคในสวนลุมพินี เป็นต้น
คะแนนที่ได้ 1,144 คะแนนนั้นนับว่าเป็นเกียรติต่อผมเป็นอย่างยิ่ง มีอยู่ท่านหนึ่งออกค่าเครื่องบินเกือบ 10,000 บาทมาลงคะแนนให้ด้วย มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ เพื่อนและลูกศิษย์มาลงคะแนนให้ เช่นที่หมู่บ้านปัญญา มี ดร.ท่านหนึ่งและศรีภริยาลงให้ผมเพียง 2 คน อีกท่านซึ่งเป็นนักเขียนหญิงที่ผมเคารพเขียนว่า “ที่สน.ทองหล่อฝนตก ดิฉันยืนเท้าแช่น้ำโหวตให้อาจารย์ค่ะ แม้จะมีคนบอกมาก่อนว่า เอาคะแนนให้คุณชายสุขุมพันธ์เถิด เดี๋ยวเบอร์ 16 จะแพ้เบอร์ 9 แต่เพื่อนก็คือเพื่อน และสัญญาก็คือสัญญา ไว้สู้วันใหม่ได้อีกนะคะ Back away to fight another day”.
ผมไม่ท้อที่จะทำงานการเมืองเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในอนาคต แต่ไม่คิดจะสมัครตำแหน่ง สส. หรือ สว. เพราะถนัดเป็นนักบริหารการพัฒนาเมืองมากกว่าจะเป็นผู้ออกกฎหมาย และผมได้เคยประกาศไว้แล้วว่าจะไม่คิดไปรับตำแหน่งช่วยงานใครในแง่ของพรรคการเมืองหรือในการบริหารเมือง เพราะเท่ากับเป็นการ “เกี่ยเซี๊ยะ” หรือ “ซูเอี๋ย” ครับผม
Posted 7 March 2013 - 09:02
ดร. สมควรที่จะไปขอบคุณท่านเฉลิม นะ ถ้าแกไม่บอกให้เลือกเบอร์ 4 คะแนนอาจจะได้แค่หลักร้อยก็ได้นะ
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
Posted 7 March 2013 - 09:07
วรัญชัยเลิกไป
โสภณมาใหม่แทน
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
Posted 7 March 2013 - 09:14
ทายซิ ! ดร.โสภณ เบอร์ 4 ใช้งบหาเสียงเท่าไร แลก 1,144 คะแนน
วันที่ 06 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10:32:48 น.
วันนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 4 ได้ออกมากล่าว ขอบพระคุณท่านผู้สื่อข่าว และท่านผู้ลงคะแนนเสียงให้ รวมทั้งขอชื่นชมทุกฝ่ายที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิกันมากขึ้น
และเพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใส จึงขอนำเสนอค่าใช้จ่ายการหาเสียงเบื้องต้น ดังนี้:
1. ค่าผู้ช่วยหาเสียง เป็นเงิน 36,500 บาท
2. ค่าทำสื่ออินเตอร์เน็ต 10,000 บาท
3. ค่าทำการปราศรัยผ่าน Internet 2 ครั้ง 7,000 บาท
4. ค่าใบปลิว ค่าแจกและค่าส่งใบปลิว 76,590 บาท
5. ค่าทำเสื้อ 10,000 บาท
6. ค่าทำสติกเกอร์และโปสเตอร์ 10,807 บาท
7. ค่าใช้จ่ายในวันไปว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 3,300 บาท
8. ค่าเล่นว่าวที่สนามหลวง 1,700 บาท
9. ค่าสังฆทานทำบุญวันมาฆะบูชา 5 ชุด 1,174 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 157,071 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการหาเสียงโดยตรง ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าสมัครรับเลือกตั้ง 50,000 บาท และค่าออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 อีก 80,000 บาท ซึ่งผู้สมัครไม่ต้องจ่าย แต่ กกต. กำหนดให้ผู้สมัครใส่ไว้เป็นค่าสมัครด้วย และอาจมีอื่นๆ อีกบางส่วน
การที่ค่าใช้จ่ายน้อยเพราะไม่มีป้ายติดที่เสาไฟฟ้าต่าง ๆ แม้แต่ป้ายเดียว ทั้งนี้ผมมุ่งหวังจะเป็นการหาเสียงในมิติใหม่ที่ไม่ต้องการให้มีป้ายระเกะระกะ ไม่มีการจัดเวทีปราศรัยราคาแพง ไม่มีการไหว้วานคนมาฟังปราศรัย แต่ใช้การปราศรัยผ่านระบบ Internet แทน และไม่มีค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียงจำนวนมาก โดยมีเพียง 3 คน นอกนั้นได้รับความกรุณาจากญาติมิตรไปร่วมเป็นครั้งคราวประมาณ 3-4 ครั้ง เช่นวันเดินทางไปว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา วันหาเสียงในตลาดแถวบ้าน และวันเต้นฮาเร็มเชคในสวนลุมพินี เป็นต้น
คะแนนที่ได้ 1,144 คะแนนนั้นนับว่าเป็นเกียรติต่อผมเป็นอย่างยิ่ง มีอยู่ท่านหนึ่งออกค่าเครื่องบินเกือบ 10,000 บาทมาลงคะแนนให้ด้วย มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ เพื่อนและลูกศิษย์มาลงคะแนนให้ เช่นที่หมู่บ้านปัญญา มี ดร.ท่านหนึ่งและศรีภริยาลงให้ผมเพียง 2 คน อีกท่านซึ่งเป็นนักเขียนหญิงที่ผมเคารพเขียนว่า “ที่สน.ทองหล่อฝนตก ดิฉันยืนเท้าแช่น้ำโหวตให้อาจารย์ค่ะ แม้จะมีคนบอกมาก่อนว่า เอาคะแนนให้คุณชายสุขุมพันธ์เถิด เดี๋ยวเบอร์ 16 จะแพ้เบอร์ 9 แต่เพื่อนก็คือเพื่อน และสัญญาก็คือสัญญา ไว้สู้วันใหม่ได้อีกนะคะ Back away to fight another day”.
ผมไม่ท้อที่จะทำงานการเมืองเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในอนาคต แต่ไม่คิดจะสมัครตำแหน่ง สส. หรือ สว. เพราะถนัดเป็นนักบริหารการพัฒนาเมืองมากกว่าจะเป็นผู้ออกกฎหมาย และผมได้เคยประกาศไว้แล้วว่าจะไม่คิดไปรับตำแหน่งช่วยงานใครในแง่ของพรรคการเมืองหรือในการบริหารเมือง เพราะเท่ากับเป็นการ “เกี่ยเซี๊ยะ” หรือ “ซูเอี๋ย” ครับผม
มีข้อสงสัยประการหนึ่งค่ะ
ดร. ทำบุญวันมาฆบูชา เพื่อหาเสียงหรือคะ ????
Now! Restart Thailand
Posted 7 March 2013 - 14:12
ถ้า ดร คิดเเบบนี้คงไม่มีโอกาสได้เป็นครับ ผู้ว่า
ถึงว่านะครับ พวก ดร คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น ............. มองไม่้เห็นความจริง มีเเต่ไอเดีย ที่เป็นไปไม่ได้
Posted 13 March 2013 - 11:25
ถ้า ดร คิดเเบบนี้คงไม่มีโอกาสได้เป็นครับ ผู้ว่า
ถึงว่านะครับ พวก ดร คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น ............. มองไม่้เห็นความจริง มีเเต่ไอเดีย ที่เป็นไปไม่ได้
คุณเอาอะไรมาพูด ดู http://sopon4.housingyellow.com นโยบายของผมชัด ทำได้จริง ดีกว่า. . . เสียอีก
Posted 13 March 2013 - 11:57
ถ้า ดร คิดเเบบนี้คงไม่มีโอกาสได้เป็นครับ ผู้ว่า
ถึงว่านะครับ พวก ดร คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น ............. มองไม่้เห็นความจริง มีเเต่ไอเดีย ที่เป็นไปไม่ได้
คุณเอาอะไรมาพูด ดู http://sopon4.housingyellow.com นโยบายของผมชัด ทำได้จริง ดีกว่า. . . เสียอีก
ท่าน ดร ครับ นโยบายดี เเต่ยุทธศาสตร์กการหาเสียงของท่านมันไม่ได้มวลชนนะครับ ท่านอย่าลืมท่านต้องได้มวลชนเป็นล้านนะครับ
ท่านต้องมีชื่อเสียงจริงๆ ไม่ใช่เเค่ว่ายน้ำข้ามเเม่น้ำนะะครับ สี่ปปีนี้ผมขอเเนะนำให้ท่านรีบสร้างมวลชน สร้างกระเเส ทำความดี การจะให้คนนักล้านมาเลือกท่านไม่ง่ายนะครับ คะเเนน สส คนเดียว อย่างมาก ก็ 50,000-70,000 คะเเนน ถ้าท่านคิดจะลงผู้ว่าคงต้องทำการบ้านเเต่เนิ่นๆ
Posted 13 March 2013 - 12:00
ถ้า ดร คิดเเบบนี้คงไม่มีโอกาสได้เป็นครับ ผู้ว่า
ถึงว่านะครับ พวก ดร คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น ............. มองไม่้เห็นความจริง มีเเต่ไอเดีย ที่เป็นไปไม่ได้
คุณเอาอะไรมาพูด ดู http://sopon4.housingyellow.com นโยบายของผมชัด ทำได้จริง ดีกว่า. . . เสียอีก
ท่านกระโดดลงมาหาเสียงก่อนเลือกตั้งเเค่ไม่กี่วัน มาเเบบโนเนม เเถมมาเจอกระเเส พรรคใหญ่ ขนาด ท่านเสรีย์ ยังเอาไม่อยู่เลยครับ
ถ้าท่านจะเอาจริงคงต้องหาเสียงเเต่เนิ่น ๆ สองปี สามปปีล่วงหน้า ถ้าจะมาเเบบอิสระ จริงๆ ผมว่าไม่ง่ายเหมือนเดิมครับ ถ้าอยากทำเพื่อประชาชนจริงๆ ไป ลง สส ยังพอเห็นทางอยู่บ้าง เเต่ก็เเล้วเเต่ท่านครับ
Posted 13 March 2013 - 12:39
“คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ”
ความจริง ข้อความในลายเซ็นข้างล่างของท่าน
น่าจะได้ย้อนไปเตือนตัวท่านเองได้ในระดับหนึ่ง
ถ้าท่านได้มีโอกาสไล่ดูกระทู้อื่นๆ เช่นกระทู้ที่เกี่ยวกับ สุหฤท
ท่านจะเห็นว่า เขาก็มาแนวเดียวกับท่าน
คือไม่ติดป้าย พยายามหาเสียงในแนวใหม่
ส่วนที่แตกต่างระหว่างท่านกับสุหฤท คือ เขามีชื่อเสียงมากกว่าท่าน
กองเชียร์เขามีในระดับหนึ่ง
รวมถึงนโยบายที่ชัดเจนกว่าท่าน และจูงใจผู้คนได้มากกว่า
ทีนี้ ท่านลองดู ว่านโยบายของท่าน มีอะไรแปลกใหม่ หรือชัดเจนไปว่าคนอื่น
ผมไม่เห็นนะครับ ผมเชื่อว่า คนอื่นก้ไม่เห็น
จริงอยู่ แม้นโยบายของท่าน จะเป็นนโยบายที่ดี
แต่หากมันไม่ต่างจากคนอื่น คนเลือก ก็ต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นประกอบ
ทางเลือก มันอาจเหลือแค่สองทาง
ทางแรก เมื่อทำในสิ่งที่ซ้ำกับคนอื่น ท่านจะทำอย่างไรให้ของๆ ท่าน
เป็นที่พบเห็นได้มากกว่าคนอื่น ประจักษ์ใจประชาชนได้มากกว่าคนอื่น
ทางที่สอง หากท่านสามารถค้นคิดกรรมวิธีใดๆ หรือนโยบายใดๆ ที่แตกต่าง
และเป็นประโยชน์ได้มากกว่าคนอื่นๆ ผมเชื่อว่า มันจะสามารถแทงทะลุคนอื่นมาได้เช่นกัน
ท่านลองหันกลับไปมองดู ว่าท่านสามารถเดินออกมายืนหน้าแถวคนอื่นได้หรือไม่
ถ้าท่านทำไม่ได้ ท่านก็เป็นได้แค่ไม้ประดับไปเรื่อยๆ
เอาเท่าที่ผมเห็นนะครับ
มีผู้สมัคร 3 คน ที่มีวิธีการที่แปลกออกไป และเรียกสายตาคนดูได้ไม่น้อย
ท่านแรก คือตัวท่านเอง ที่ลงทุนว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
ท่านที่สอง คือคุณ..... (จำชื่อไม่ได้) ที่สมัครด้วยโองการสวรรค์
ท่านที่ 3 คือสุหฤท ที่ใช้กลยุทธ์แปลกออกไป สื่อหาเสียงที่แปลกออกไป
ท่านคิดว่า ใน 3 ท่าน มีใครน่าสนใจที่สุด
ผมเห็นการลงทุนว่ายน้ำของท่าน แต่ผมไม่เห็น ว่าท่านว่ายไปเพื่ออะไร
ผมเห็นการแต่งตัวและการพูดจา ของคุณ...... แต่ผมไม่อยากให้กรุงเทพเป็นสำนักทรง
ผมเห็นสุหฤท ที๋โดดเด่นและน่าสนใจที่สุด เพียงแต่ว่า หลายเรื่องที่ผมไม่เชื่อว่าจะสามารถทำได้
อย่างไรเสีย ใน 3 ท่าน ทำไมสุหฤทถึงโดดเด่นที่สุด
ผมอยากเสนอแนะให้ท่านลองศึกษาดู
ท่านต้องไม่ลืมว่าท่านมาตัวเปล่า
ไม่มีแบค ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีฐานเสียงอยู่ก่อนแล้ว
ถ้าท่านไม่มีกรรมวิธีใดๆ ที่จะเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้ได้
ท่านก็ไม่มีหวังครับ
ผมเชื่อ ว่าผู้สมัครอิสระท่านอื่นๆ ก็หวังดีต่อชาติ ต่อกรุงเทพไม่น้อยหน้าไปกว่าท่านครับ
แต่ปัญหาก็คือ มันจะสามารถเอาชนะคนอื่นขึ้นมายืนหน้าแถวได้อย่างไร
ผมใช้คำว่า ยืนหน้าแถวนะครับ ไม่ใช่แค่แถวหน้า
ผมเห็น (ด้วยความคิดส่วนตัว) ว่าท่านเย่อหยิ่งเกินไป
ที่จะรับฟัง ท่านภาคภูมิต่อตนเองเกินไป จนไม่สามารถรับการสบประมาท
และท่านมองเห็นตัวท่านเองมากเกินไป จนมองไม่เห็นคู่แข่ง
ด้วยความหวังดีครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
Posted 13 March 2013 - 14:50
“คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ”
ความจริง ข้อความในลายเซ็นข้างล่างของท่าน
น่าจะได้ย้อนไปเตือนตัวท่านเองได้ในระดับหนึ่ง
ถ้าท่านได้มีโอกาสไล่ดูกระทู้อื่นๆ เช่นกระทู้ที่เกี่ยวกับ สุหฤท
ท่านจะเห็นว่า เขาก็มาแนวเดียวกับท่าน
คือไม่ติดป้าย พยายามหาเสียงในแนวใหม่
ส่วนที่แตกต่างระหว่างท่านกับสุหฤท คือ เขามีชื่อเสียงมากกว่าท่าน
กองเชียร์เขามีในระดับหนึ่ง
รวมถึงนโยบายที่ชัดเจนกว่าท่าน และจูงใจผู้คนได้มากกว่า
ทีนี้ ท่านลองดู ว่านโยบายของท่าน มีอะไรแปลกใหม่ หรือชัดเจนไปว่าคนอื่น
ผมไม่เห็นนะครับ ผมเชื่อว่า คนอื่นก้ไม่เห็น
จริงอยู่ แม้นโยบายของท่าน จะเป็นนโยบายที่ดี
แต่หากมันไม่ต่างจากคนอื่น คนเลือก ก็ต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นประกอบ
ทางเลือก มันอาจเหลือแค่สองทาง
ทางแรก เมื่อทำในสิ่งที่ซ้ำกับคนอื่น ท่านจะทำอย่างไรให้ของๆ ท่าน
เป็นที่พบเห็นได้มากกว่าคนอื่น ประจักษ์ใจประชาชนได้มากกว่าคนอื่น
ทางที่สอง หากท่านสามารถค้นคิดกรรมวิธีใดๆ หรือนโยบายใดๆ ที่แตกต่าง
และเป็นประโยชน์ได้มากกว่าคนอื่นๆ ผมเชื่อว่า มันจะสามารถแทงทะลุคนอื่นมาได้เช่นกัน
ท่านลองหันกลับไปมองดู ว่าท่านสามารถเดินออกมายืนหน้าแถวคนอื่นได้หรือไม่
ถ้าท่านทำไม่ได้ ท่านก็เป็นได้แค่ไม้ประดับไปเรื่อยๆ
เอาเท่าที่ผมเห็นนะครับ
มีผู้สมัคร 3 คน ที่มีวิธีการที่แปลกออกไป และเรียกสายตาคนดูได้ไม่น้อย
ท่านแรก คือตัวท่านเอง ที่ลงทุนว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
ท่านที่สอง คือคุณ..... (จำชื่อไม่ได้) ที่สมัครด้วยโองการสวรรค์
ท่านที่ 3 คือสุหฤท ที่ใช้กลยุทธ์แปลกออกไป สื่อหาเสียงที่แปลกออกไป
ท่านคิดว่า ใน 3 ท่าน มีใครน่าสนใจที่สุด
ผมเห็นการลงทุนว่ายน้ำของท่าน แต่ผมไม่เห็น ว่าท่านว่ายไปเพื่ออะไร
ผมเห็นการแต่งตัวและการพูดจา ของคุณ...... แต่ผมไม่อยากให้กรุงเทพเป็นสำนักทรง
ผมเห็นสุหฤท ที๋โดดเด่นและน่าสนใจที่สุด เพียงแต่ว่า หลายเรื่องที่ผมไม่เชื่อว่าจะสามารถทำได้
อย่างไรเสีย ใน 3 ท่าน ทำไมสุหฤทถึงโดดเด่นที่สุด
ผมอยากเสนอแนะให้ท่านลองศึกษาดู
ท่านต้องไม่ลืมว่าท่านมาตัวเปล่า
ไม่มีแบค ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีฐานเสียงอยู่ก่อนแล้ว
ถ้าท่านไม่มีกรรมวิธีใดๆ ที่จะเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้ได้
ท่านก็ไม่มีหวังครับ
ผมเชื่อ ว่าผู้สมัครอิสระท่านอื่นๆ ก็หวังดีต่อชาติ ต่อกรุงเทพไม่น้อยหน้าไปกว่าท่านครับ
แต่ปัญหาก็คือ มันจะสามารถเอาชนะคนอื่นขึ้นมายืนหน้าแถวได้อย่างไร
ผมใช้คำว่า ยืนหน้าแถวนะครับ ไม่ใช่แค่แถวหน้า
ผมเห็น (ด้วยความคิดส่วนตัว) ว่าท่านเย่อหยิ่งเกินไป
ที่จะรับฟัง ท่านภาคภูมิต่อตนเองเกินไป จนไม่สามารถรับการสบประมาท
และท่านมองเห็นตัวท่านเองมากเกินไป จนมองไม่เห็นคู่แข่ง
ด้วยความหวังดีครับ
“คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า . . . .
---- อย่างผมถ้าไม่เปิดใจกว้าง จะมาตอบคุณและคนอื่นทำไม มีคนอื่นมาคุยกับคุณไหมครับ
ความจริง ข้อความในลายเซ็นข้างล่างของท่าน น่าจะได้ย้อนไปเตือนตัวท่านเองได้ในระดับหนึ่ง
---- เขียนให้ชัดๆ
ส่วนที่แตกต่างระหว่างท่านกับสุหฤท คือ . . . . รวมถึงนโยบายที่ชัดเจนกว่าท่าน และจูงใจผู้คนได้มากกว่า
---- แน่ใจหรือ ลองอ่าน http://sopon4.housingyellow.com หรือยังครับ
ผมเห็นการลงทุนว่ายน้ำของท่าน แต่ผมไม่เห็น ว่าท่านว่ายไปเพื่ออะไร
---- คุณอ่านหนังสือพิมพ์ คุณก็จะเห็น บอกแล้วให้อ่าน http://sopon4.housingyellow.com ผมแถลงไว้ชัดเลยครับ
ผมเห็นการแต่งตัวและการพูดจา ของคุณ...... แต่ผมไม่อยากให้กรุงเทพเป็นสำนักทรง
---- คุณคงจำผิดคนแล้วครับ (ฮา) ผมแต่งตัวแบบผู้สมัครอื่นเลยครับ
ผมเห็น (ด้วยความคิดส่วนตัว) ว่าท่านเย่อหยิ่งเกินไป
---- อย่าใช้ลางสังหรณ์ หรือลูกแก้วในการวิจารณ์คนอื่น ควรมีเหตุผลครับ ผมไม่เคยมีอาการนี้เลย
Posted 13 March 2013 - 14:50
ทายซิ ! ดร.โสภณ เบอร์ 4 ใช้งบหาเสียงเท่าไร แลก 1,144 คะแนน
วันที่ 06 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10:32:48 น.
วันนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 4 ได้ออกมากล่าว ขอบพระคุณท่านผู้สื่อข่าว และท่านผู้ลงคะแนนเสียงให้ รวมทั้งขอชื่นชมทุกฝ่ายที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิกันมากขึ้น
และเพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใส จึงขอนำเสนอค่าใช้จ่ายการหาเสียงเบื้องต้น ดังนี้:
1. ค่าผู้ช่วยหาเสียง เป็นเงิน 36,500 บาท
2. ค่าทำสื่ออินเตอร์เน็ต 10,000 บาท
3. ค่าทำการปราศรัยผ่าน Internet 2 ครั้ง 7,000 บาท
4. ค่าใบปลิว ค่าแจกและค่าส่งใบปลิว 76,590 บาท
5. ค่าทำเสื้อ 10,000 บาท
6. ค่าทำสติกเกอร์และโปสเตอร์ 10,807 บาท
7. ค่าใช้จ่ายในวันไปว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 3,300 บาท
8. ค่าเล่นว่าวที่สนามหลวง 1,700 บาท
9. ค่าสังฆทานทำบุญวันมาฆะบูชา 5 ชุด 1,174 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 157,071 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการหาเสียงโดยตรง ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าสมัครรับเลือกตั้ง 50,000 บาท และค่าออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 อีก 80,000 บาท ซึ่งผู้สมัครไม่ต้องจ่าย แต่ กกต. กำหนดให้ผู้สมัครใส่ไว้เป็นค่าสมัครด้วย และอาจมีอื่นๆ อีกบางส่วน
การที่ค่าใช้จ่ายน้อยเพราะไม่มีป้ายติดที่เสาไฟฟ้าต่าง ๆ แม้แต่ป้ายเดียว ทั้งนี้ผมมุ่งหวังจะเป็นการหาเสียงในมิติใหม่ที่ไม่ต้องการให้มีป้ายระเกะระกะ ไม่มีการจัดเวทีปราศรัยราคาแพง ไม่มีการไหว้วานคนมาฟังปราศรัย แต่ใช้การปราศรัยผ่านระบบ Internet แทน และไม่มีค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียงจำนวนมาก โดยมีเพียง 3 คน นอกนั้นได้รับความกรุณาจากญาติมิตรไปร่วมเป็นครั้งคราวประมาณ 3-4 ครั้ง เช่นวันเดินทางไปว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา วันหาเสียงในตลาดแถวบ้าน และวันเต้นฮาเร็มเชคในสวนลุมพินี เป็นต้น
คะแนนที่ได้ 1,144 คะแนนนั้นนับว่าเป็นเกียรติต่อผมเป็นอย่างยิ่ง มีอยู่ท่านหนึ่งออกค่าเครื่องบินเกือบ 10,000 บาทมาลงคะแนนให้ด้วย มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ เพื่อนและลูกศิษย์มาลงคะแนนให้ เช่นที่หมู่บ้านปัญญา มี ดร.ท่านหนึ่งและศรีภริยาลงให้ผมเพียง 2 คน อีกท่านซึ่งเป็นนักเขียนหญิงที่ผมเคารพเขียนว่า “ที่สน.ทองหล่อฝนตก ดิฉันยืนเท้าแช่น้ำโหวตให้อาจารย์ค่ะ แม้จะมีคนบอกมาก่อนว่า เอาคะแนนให้คุณชายสุขุมพันธ์เถิด เดี๋ยวเบอร์ 16 จะแพ้เบอร์ 9 แต่เพื่อนก็คือเพื่อน และสัญญาก็คือสัญญา ไว้สู้วันใหม่ได้อีกนะคะ Back away to fight another day”.
ผมไม่ท้อที่จะทำงานการเมืองเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในอนาคต แต่ไม่คิดจะสมัครตำแหน่ง สส. หรือ สว. เพราะถนัดเป็นนักบริหารการพัฒนาเมืองมากกว่าจะเป็นผู้ออกกฎหมาย และผมได้เคยประกาศไว้แล้วว่าจะไม่คิดไปรับตำแหน่งช่วยงานใครในแง่ของพรรคการเมืองหรือในการบริหารเมือง เพราะเท่ากับเป็นการ “เกี่ยเซี๊ยะ” หรือ “ซูเอี๋ย” ครับผม
Posted 13 March 2013 - 15:29
“คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และที่สำคัญ เราควรมีความรัก ปรารถนาดีและเมตตาคู่สนทนาแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม นี่จึงเป็นกุศลแท้ครับ”
ความจริง ข้อความในลายเซ็นข้างล่างของท่าน
น่าจะได้ย้อนไปเตือนตัวท่านเองได้ในระดับหนึ่ง
ถ้าท่านได้มีโอกาสไล่ดูกระทู้อื่นๆ เช่นกระทู้ที่เกี่ยวกับ สุหฤท
ท่านจะเห็นว่า เขาก็มาแนวเดียวกับท่าน
คือไม่ติดป้าย พยายามหาเสียงในแนวใหม่
ส่วนที่แตกต่างระหว่างท่านกับสุหฤท คือ เขามีชื่อเสียงมากกว่าท่าน
กองเชียร์เขามีในระดับหนึ่ง
รวมถึงนโยบายที่ชัดเจนกว่าท่าน และจูงใจผู้คนได้มากกว่า
ทีนี้ ท่านลองดู ว่านโยบายของท่าน มีอะไรแปลกใหม่ หรือชัดเจนไปว่าคนอื่น
ผมไม่เห็นนะครับ ผมเชื่อว่า คนอื่นก้ไม่เห็น
จริงอยู่ แม้นโยบายของท่าน จะเป็นนโยบายที่ดี
แต่หากมันไม่ต่างจากคนอื่น คนเลือก ก็ต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นประกอบ
ทางเลือก มันอาจเหลือแค่สองทาง
ทางแรก เมื่อทำในสิ่งที่ซ้ำกับคนอื่น ท่านจะทำอย่างไรให้ของๆ ท่าน
เป็นที่พบเห็นได้มากกว่าคนอื่น ประจักษ์ใจประชาชนได้มากกว่าคนอื่น
ทางที่สอง หากท่านสามารถค้นคิดกรรมวิธีใดๆ หรือนโยบายใดๆ ที่แตกต่าง
และเป็นประโยชน์ได้มากกว่าคนอื่นๆ ผมเชื่อว่า มันจะสามารถแทงทะลุคนอื่นมาได้เช่นกัน
ท่านลองหันกลับไปมองดู ว่าท่านสามารถเดินออกมายืนหน้าแถวคนอื่นได้หรือไม่
ถ้าท่านทำไม่ได้ ท่านก็เป็นได้แค่ไม้ประดับไปเรื่อยๆ
เอาเท่าที่ผมเห็นนะครับ
มีผู้สมัคร 3 คน ที่มีวิธีการที่แปลกออกไป และเรียกสายตาคนดูได้ไม่น้อย
ท่านแรก คือตัวท่านเอง ที่ลงทุนว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
ท่านที่สอง คือคุณ..... (จำชื่อไม่ได้) ที่สมัครด้วยโองการสวรรค์
ท่านที่ 3 คือสุหฤท ที่ใช้กลยุทธ์แปลกออกไป สื่อหาเสียงที่แปลกออกไป
ท่านคิดว่า ใน 3 ท่าน มีใครน่าสนใจที่สุด
ผมเห็นการลงทุนว่ายน้ำของท่าน แต่ผมไม่เห็น ว่าท่านว่ายไปเพื่ออะไร
ผมเห็นการแต่งตัวและการพูดจา ของคุณ...... แต่ผมไม่อยากให้กรุงเทพเป็นสำนักทรง
ผมเห็นสุหฤท ที๋โดดเด่นและน่าสนใจที่สุด เพียงแต่ว่า หลายเรื่องที่ผมไม่เชื่อว่าจะสามารถทำได้
อย่างไรเสีย ใน 3 ท่าน ทำไมสุหฤทถึงโดดเด่นที่สุด
ผมอยากเสนอแนะให้ท่านลองศึกษาดู
ท่านต้องไม่ลืมว่าท่านมาตัวเปล่า
ไม่มีแบค ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีฐานเสียงอยู่ก่อนแล้ว
ถ้าท่านไม่มีกรรมวิธีใดๆ ที่จะเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้ได้
ท่านก็ไม่มีหวังครับ
ผมเชื่อ ว่าผู้สมัครอิสระท่านอื่นๆ ก็หวังดีต่อชาติ ต่อกรุงเทพไม่น้อยหน้าไปกว่าท่านครับ
แต่ปัญหาก็คือ มันจะสามารถเอาชนะคนอื่นขึ้นมายืนหน้าแถวได้อย่างไร
ผมใช้คำว่า ยืนหน้าแถวนะครับ ไม่ใช่แค่แถวหน้า
ผมเห็น (ด้วยความคิดส่วนตัว) ว่าท่านเย่อหยิ่งเกินไป
ที่จะรับฟัง ท่านภาคภูมิต่อตนเองเกินไป จนไม่สามารถรับการสบประมาท
และท่านมองเห็นตัวท่านเองมากเกินไป จนมองไม่เห็นคู่แข่ง
ด้วยความหวังดีครับ
“คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า . . . .
---- อย่างผมถ้าไม่เปิดใจกว้าง จะมาตอบคุณและคนอื่นทำไม มีคนอื่นมาคุยกับคุณไหมครับ
ความจริง ข้อความในลายเซ็นข้างล่างของท่าน น่าจะได้ย้อนไปเตือนตัวท่านเองได้ในระดับหนึ่ง
---- เขียนให้ชัดๆ
ส่วนที่แตกต่างระหว่างท่านกับสุหฤท คือ . . . . รวมถึงนโยบายที่ชัดเจนกว่าท่าน และจูงใจผู้คนได้มากกว่า
---- แน่ใจหรือ ลองอ่าน http://sopon4.housingyellow.com หรือยังครับ
ผมเห็นการลงทุนว่ายน้ำของท่าน แต่ผมไม่เห็น ว่าท่านว่ายไปเพื่ออะไร
---- คุณอ่านหนังสือพิมพ์ คุณก็จะเห็น บอกแล้วให้อ่าน http://sopon4.housingyellow.com ผมแถลงไว้ชัดเลยครับ
ผมเห็นการแต่งตัวและการพูดจา ของคุณ...... แต่ผมไม่อยากให้กรุงเทพเป็นสำนักทรง
---- คุณคงจำผิดคนแล้วครับ (ฮา) ผมแต่งตัวแบบผู้สมัครอื่นเลยครับ
ผมเห็น (ด้วยความคิดส่วนตัว) ว่าท่านเย่อหยิ่งเกินไป
---- อย่าใช้ลางสังหรณ์ หรือลูกแก้วในการวิจารณ์คนอื่น ควรมีเหตุผลครับ ผมไม่เคยมีอาการนี้เลย
อ่านดีดีค่ะด็อกเตอร์ จับใจความให้ได้ก่อนตอบ..
ประโยคนี้ท่านโทนี่ไม่ได้ว่าด็อกเตอร์ แต่พูดถึงคุณธรณี ฤทธีธรรมรงค์ เบอร์ 21 ค่ะ
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
Posted 13 March 2013 - 16:03
“คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า . . . .
1.---- อย่างผมถ้าไม่เปิดใจกว้าง จะมาตอบคุณและคนอื่นทำไม มีคนอื่นมาคุยกับคุณไหมครับ
ความจริง ข้อความในลายเซ็นข้างล่างของท่าน น่าจะได้ย้อนไปเตือนตัวท่านเองได้ในระดับหนึ่ง
2.---- เขียนให้ชัดๆ
ส่วนที่แตกต่างระหว่างท่านกับสุหฤท คือ . . . . รวมถึงนโยบายที่ชัดเจนกว่าท่าน และจูงใจผู้คนได้มากกว่า
3.---- แน่ใจหรือ ลองอ่าน http://sopon4.housingyellow.com หรือยังครับ
ผมเห็นการลงทุนว่ายน้ำของท่าน แต่ผมไม่เห็น ว่าท่านว่ายไปเพื่ออะไร
4.---- คุณอ่านหนังสือพิมพ์ คุณก็จะเห็น บอกแล้วให้อ่าน http://sopon4.housingyellow.com ผมแถลงไว้ชัดเลยครับ
ผมเห็นการแต่งตัวและการพูดจา ของคุณ...... แต่ผมไม่อยากให้กรุงเทพเป็นสำนักทรง
5.---- คุณคงจำผิดคนแล้วครับ (ฮา) ผมแต่งตัวแบบผู้สมัครอื่นเลยครับ
ผมเห็น (ด้วยความคิดส่วนตัว) ว่าท่านเย่อหยิ่งเกินไป
6.---- อย่าใช้ลางสังหรณ์ หรือลูกแก้วในการวิจารณ์คนอื่น ควรมีเหตุผลครับ ผมไม่เคยมีอาการนี้เลย
1. ท่านเพียงเข้ามาหาเสียง และแปะโฆษณาหาเสียงครับ
2. ผมเพียงนำเสนอท่าน ว่าน่าจะอ่านทบทวนข้อความที่ผมโควทมาแปะไว้ตรงช่องลายเซ็นต์ให้ดีครับ
3. ท่านพยายามนำเสนอมาหลายต่อหลายครั้ง เพื่อนสมาชิกบางท่าน
หรือแม้แต่ผมเอง ก็เคยนำข้อเท็จจริงของผู้สมัครท่านอื่น
รวมถึงโครงการต่างๆ ที่อดีตผู้ว่าได้เคยทำไปแล้วมาแย้ง
ว่าท่านไม่ได้เป็นคนคิดใหม่ เพียงแค่ต่อยอดความคิดคนอื่นไปบ้าง
เช่นโครงการเช่าจักรยาน อดีตผู้ว่าก็เคยทำไปแล้ว
ท่านเพียงเพิ่มเติมในส่วนที่เป็นไฟฟ้าขึ้นเท่านั้น
4. ขออภัย ที่ผมเพียงได้ติดตามข่าวท่านว่ายน้ำจากทีวี
โดยที่ไม่ได้รับทราบรายละเอียดเพิ่มเติม (นั่นก็เป็นส่วนที่ท่านควรจะนำไปคิดต่อ
ว่าทำไม ทีวีนำเสนอเพียงภาพท่านว่ายน้ำ แต่กลับไมาบอกว่าว่ายทำไม)
5. ขออภัยครับ ผมไม่ได้หมายถึงท่าน ผมจำชื่อเธอไม่ได้
แต่ไปหามาแล้ว เธอคือ ธรณี ฤทธีธรรมรงค์ ครับ
6. ประเด็นนี้ ผมคงไม่สามารถชี้ให้ท่านยอมรับได้
แต่คำตอบของท่าน ก็บ่งบอกถึงความเป็นตัวท่านได้แล้ว
ท่านได้อธิบายคำพูดของผมได้ชัดเจนแล้วครับ
ทีนี้
ผมอยากจะชี้ให้ท่านดูเพิ่มเติมไปจากการรับรู้ของท่านครับ
ผมอาจเป็นเด็กกว่าท่าน รวมถึงการศึกษาอยู่ในระดับต่ำกว่าท่าน
ดังนั้น ผมจึงไม่บังอาจสั่งสอน คำพูดของผมในความเห็นบน
คือข้อเสนอแนะ จากมุมมองของผม ที่มีต่อท่าน
เพื่อท่านจะสามารถนำไปพิจารณา
แต่ด้วยคำตอบ ที่ที่ท่านกรุณาตอบผมมานั้น
มันสามารถชี้ให้ผมเห็นแล้ว ว่าคำความเห็นด้านบนของผมนั้น
ไม่สามารถนำไปเป็นประโยชน์ต่อท่านได้
เพียงเพราะท่านเชื่อไว้อยู่แล้วว่า คนที่เสรีไทย ต้องคิดแบบนี้ กระทำแบบนี้
มันก็เป็นเรื่องของท่านครับ
ด้วยความปรารถนาดี
อ้อ ผมยังยืนยันความเห็นข้อ 6 ครับท่าน
Edited by tonythebest, 13 March 2013 - 16:04.
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
0 members, 1 guests, 0 anonymous users