นี่คือบทความบทวิเคราะห์ส่วนตัว
และจะชี้ไปถึงอีกสี่ปีข้างหน้าด้วย
"หลังจากนี้ก็ถึงยุคสิ้นสุดของพรรคเพื่อทักษิณในสนามท้องถิ่นอย่างกรุงเทพฯสักที"
การเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อไทย หรือ เพื่อแม้ว
ได้ส่งผู้สมัครที่นับได้ว่า "แข็งแรง" และ "แข็งแกร่ง" ที่สุดมาแล้ว
หลังจากนี้ต่อไปคงจะไม่มีใครแข็งแรง แข็งแกร่ง เท่าพงศพัศ อีกแล้ว
ลองดูย้อนหลังไปสองคนก่อนก็ได้
ตุ๊ ประภัสร์ กับ แซม ยุรนันท์ ยังไม่มีความแข็งแรงเท่าพงศพัศเลย
ทั้งความนิยม ความเชื่อมั่น ก็ยังเทียบไม่ติด
ที่พูดแบบนี้ผมก็ยังให้ราคาค่าตัว จูดี้ พงศพัศอยู่บ้าง เพราะเป็น
บุคคลหนึ่งที่พอมีต้นทุนทางสังคมอยู่ เชื่อว่าทักษิณก็คงจะเห็นจุดนี้
ถึงเคาะแล้วส่งลงสมัคร หลังจากนี้อีก 4 ปีข้างหน้า ก็คิดว่าคงไม่เท่านี้แล้ว
เพราะ "แชมป์ ก็ต้องทำงานหนัก เพื่อรักษาแชมป์ไว้ และ ค่อยๆฟื้นศรัทธา
ลบคำปรามาสว่าคนเลือกเพราะความกลัว"
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการทำงานอย่างหนักของคุณชายสุขุมพันธ์
และ "การร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวแบบไร้รอยต่อของสภากทม."
เพราะทาง ส.ก. เพื่อไทยเองก็คาดไว้แล้วว่าผลเลือกตั้งเป็นเช่นนี้แน่
การร่วมมือทำงานกับคุณชายสุขุมพันธ์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ถ้าไม่มีคำสั่งเชิงบังคับมาให้บรรดา ส.ก. คอยเตะถ่วงซะก่อนนะ
หรือ ถ้าถึงที่สุดก็เป็นไปได้ที่จะมีปรากฎการณ์ย้ายค่ายในสนามเล็กนี่แหละ
เพราะหวังจะพึ่งพาหญิงหน่อย ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ
"เมีย ที่รอ สามี (จากต่างแดน) เรียกขึ้นห้อง"
ถ้าไม่เรียกเลย ก็ได้แต่เข้าวัด เฝ้าเรือนมันอย่างนั้นแหละ
อำนาจ บารมี ก็อาจเสื่อมลงง่ายๆ สิ่งนี้เหล่าคนใกล้ชิดก็ย่อมรู้อยู่
มิฉะนั้นคงไม่ดันเธอลงมาชิงตำแหน่งเป็นตัวแทนพรรคแข่งกับพงศพัศหรอก
เมื่อหญิงหน่อยไม่ลง ป้อมค่ายของ "เจ้าแม่ฝั่งพระนคร" ก็สะเทือนพอสมควร
นกที่ดีย่อมรู้จักหากิ่งไม้เกาะ นับประสาอะไรกับคน
เมื่อป้อมค่ายเจ้าแม่ฝั่งพระนครสะเทือน มีหรือป้อมค่ายของ
เจ้าพ่อฝั่งธนฯไม้เบื่อไม้เมาจะไม่กระทบบ้าง เพียงแต่สัญญาณยังไม่ชัด
เมื่อสนามเล็กเริ่มสลายพลพรรคเพื่อไทยลง ก็คาดหวังต่อได้เลย
สะเทือนถึงสนามใหญ่ในกรุงเทพฯแน่
ที่เพื่อไทยมีวันนี้ เพราะ "ขาดสามัคคี คอยแต่แก่งแย่งเอาใจคนต่างแดน"
ก็สมควรแล้วที่จะสูญพันธ์ในกรุงเทพมหานคร........
โจโฉ นายกตลอดกาล