Jump to content


Photo
- - - - -

ว่ากันด้วยเรื่องดราม่า"การศึกษา"กันอีกสักคำรบ


  • Please log in to reply
43 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 01:24

ผ่านการเลือกตั้งไปแล้วก็หมดเรื่องแล้ว หมดอารมณ์ทับถมพลพรรคเสื้อแดงแล้ว
ก็มาเจอไอ้เพจ "สมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย"
เอาข้อดีของประเทศฟินแลนด์มาถ่มถุยใส่การศึกษาไทยอย่างไม่เหลือชิ้นดี
ตามภาพ

QZD6Tmw.jpg

แหล่งที่มา : https://www.facebook...&type=1

 

และแน่นอนว่ามันต้องเป็นกระแสในสังคมออนไลน์บ้างไม่มากก็น้อย ต่อจากเรื่องทรงผม

ลามมาถึงเครื่องแบบนักเรียน แล้วก็ด่าระบบพร้อมกับเหน็บแนมประเทศตัวเอง

ตัว จขกท. เองก็ไปดราม่ากับเขาเหมือนกัน แต่ประเด็นที่มอยากเขียนมานานแล้ว คือ

อยากได้การศึกษาแบบต่างประเทศ อยากได้สวัสดิการเหมือนคนต่างชาติ

แล้วจะยอมเสียภาษีในอัตราต่างชาติไหม? เอาแค่ฟินแลนด์นี้ก็ได้ภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๒๓

นี่ยังไม่นับภาษีเงินได้แบบอัตราก้าวหน้าอีก

ถ้าคนไทยที่เรียกร้องสวัสดิการของรัฐทุกอย่างให้เท่ากับประเทศโน้นประเทศนี้

แต่เห็นหลายคนไม่พูดเรื่องภาษีกันเลยอยากได้เท่าเขาแต่ไม่ยอมจ่ายเท่าเขา

 

ประเทศที่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มต่ำๆเขาก็ไม่การเรียนฟรี ยกตัวอย่างญี่ปุ่นที่เก็บที่ร้อยละ ๕

แต่เสียค่าเทอมแพงหูฉี่ โรงเรียนมีแต่เก็บค่าเทอมในราคาถูกแต่ความพร้อมต้องทำใจ

จึงทำให้คนที่พอมีกำลังพยายามหาเงินส่งลูกเข้าเรียนเอกชนมากกว่าโรงเรียนรัฐ

แต่ประเทศไทยรัฐอุ้มโรงเรียนทั้งหมด ค่าจ้างราชการครู ค่าโน่นค่านี่ งบปีๆนึงเทมาศึกษาเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม

แล้วอย่างนี้จะมาเรียกร้องโน่น เรียกร้องนี่อีกหรือ?


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#2 มารยา

มารยา

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 85 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 01:49

ผมว่าชุดนักเรียนไทยน่ารักดีนะ  ผมว่่าที่ควรเปลี่ยนอย่างเดียวคือทัศนคติของอาจารย์บางคน รู้ว่าเไม่มีอาจารย์คนไหนหวังร้ายกับศิษย์ แต่บางครั้งการกระทำและคำพูด บางครั้งมันส่งผลเสียกับเด็กมากกว่า มันอาจทำให้เด็กเกลียดการเรียนหนังสือก็ได้หน่า


Edited by มายา, 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 01:50.

[color=#0000ff;]Donnie:  Why are you wearing that stupid bunny suit?  [/color]

 

[color=#ff0000;]A man in bunny suit:   And why are you wearing that stupid man suit?[/color]


#3 มารยา

มารยา

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 85 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:01

แล้วเรื่องการสอนด้วยครับ ในโรงเรียนมัธยมที่ผมเรียนมา การเรียนการสอนมักเคร่งเครียด เกินไป ยิ่งในวิชาวิทยาศาสตร์ ทำให้ผมในตอนนั้นรู้สึกเกลียดวิทย์มาก

 

แต่พอทุกวันนี้ได้มีโอกาสเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลับที่ตอนนี้รู้สึกว่า เออ มันสนุกแฮะ   ;)


[color=#0000ff;]Donnie:  Why are you wearing that stupid bunny suit?  [/color]

 

[color=#ff0000;]A man in bunny suit:   And why are you wearing that stupid man suit?[/color]


#4 nunoi

nunoi

    เด็กข้างถนน

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,745 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:06

สำหรับ ผม ไอ้ข้อหลังที่ใส่มาผมถือเป็นเรื่องไร้สาระเหมือนกันที่ใส่มา

 

ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา ต้องเริ่มที่การสอน ก่อน

 

หรือการเรียนรู้ หลักสูตร

 

มากกว่า 

 

ผมถือว่าข้อสุดท้ายที่ใส่มาก็แค่อยากทำตามประเทศอื่นโดยไม่คิดปรับปรุง 

 

ถ้าบอกว่าจะปรับปรุงแบบไหน ดีกว่า

 

อย่างนี้ผมก็สามารถหาข้อดีอีกฝ่าย มาใส่ข้อเสียอีกฝ่าย ตามจริต ของตัวเองได้เหมือนกันนั้นล่ะ ^^


กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่ 

 

 


#5 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:09

ผมว่าไอ้พิธีกรรมสัพเพเหระมีเหตุผลแฝงอยู่เหมือนกันนะครับ เรื่องแต่งตัวให้เหมือนๆ ใช้กระเป๋าให้เหมือนๆ กันหมด คือเรื่อง "ความเท่าเทียม" ไม่ว่าจะมาจากไหน เทือกเถาเหล่ากอเป็นใคร ก็ต้องใช้ของเหมือนกัน 

 

ส่วนมาสายโดนตีโดนด่าว่า อันนี้ก็ต้องโดนอยู่แล้วครับ

เมื่อคุณโตขึ้น เรียนจบแล้วมีการมีงานทำ ถ้าคุณไปทำงานแล้วยังมาสาย  แบบนี้เรียกว่าขาดวินัยครับ  

เจ้านายไม่ไว้หน้าแน่ๆ คุณต้องรับโทษทางวินัยตามกฎเกณฑ์ของต้นสังกัดที่คุณทำงาน 


Edited by อู๋ ฮานามิ, 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:09.

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#6 Et tu Brute?

Et tu Brute?

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,529 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:10

ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อว่าเดี๋ยวแจกแทปเล็ตแล้วเด็กไทยจะเก่งกว่าฟินแลนด์ภายในสามวันเจ็ดวันแน่นอน  :)


It's us against the world


#7 ควันหลง

ควันหลง

    I am Royalist

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,696 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:11

ชอบเปรียบเทียบเรื่องนั้นเรื่องนี้ กับประเทศนู้นนี้นั้น ลืมไปป่ะเนี้ยย คนไทยมันไม่เหมือนใครเหมือน และไม่เฉพาะคนไทย แต่คนชาติอื่น มันก็ไม่มีใครเหมือนๆกัน 

 

ก็คงตลกดี ถ้าที่ใช้วิธีการเหมือนกัน ในการพัฒนาคนของสังคมที่แตกต่างกันมากขนาดนั้น  :mellow: 



#8 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:15

ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อว่าเดี๋ยวแจกแทปเล็ตแล้วเด็กไทยจะเก่งกว่าฟินแลนด์ภายในสามวันเจ็ดวันแน่นอน  :)

 

เอาแท็ปเล็ตไปเล่นแองกรี้เบิร์ด เอาให้เก่งกว่าเด็กฟินแลนด์ ประเทศต้นกำเนิดเกมนี้เลย  -_-


Edited by อู๋ ฮานามิ, 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:21.

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#9 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:17

คนไทยส่วนหนึ่ง ชอบเอาเรื่องต่างชาติมาทับถมชาติตัวเอง โดยไม่มองอะไรให้รอบด้าน 


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#10 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:18

เอาของสองสิ่งที่ไม่เหมือนกัน มาเปรียบเทียบกัน

 

เอาง่าย ๆ

 

๑. ฟินแลนด์ ให้งบประมาณกับการศึกษา ๑๑.๑ พันล้านยูโรต่อปี จากจีดีพี ๑๙๕ พันล้านยูโร คิดเป็นราวร้อยละ ๕ ในขณะที่ไทยเราให้งบประมาณกับการศึกษาราว ๓ แสนล้านต่อปี จากจีดีพีราว ๑๑ ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละร้อยละ ๒

 

ในขณะที่ฟินแลนด์มีประชากรเพียง ๕ ล้านกว่าคน ส่วนของไทยมี ๖๐ กว่าล้านคน

 

เปรียบเทียบง่าย ๆ ฟินแลนด์ด้วยประชากรน้อยกว่า ๑๐ เท่าตัว ได้งบการศึกษาราวเกือบ ๕ แสนล้าน

 

ในขณะที่ไทยประชากรมากกว่าฟินแลนด์ ๑๐ เท่าตัว ได้งบการศึกษา ๓ แสนล้าน

 

๒. โรงเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของฟินแลนด์ เกือบทั้งหมดเป็นรัฐสนับสนุน มีมาตราฐานสูงตามงบประมาณที่ให้มา โรงเรียนเอกชนน้อยมาก ส่วนของเราเนื่องด้วยประชากรที่มากกว่า แต่สัดส่วนการสนับสนุนของการศึกษากลับน้อยกว่า คุณภาพของโรงเรียนในสังกัดรัฐส่วนใหญ่จึงต่ำกว่าโรงเรียนเอกชน

 

ดราม่าแบบไม่มีแบบแผน สักแต่ดราม่าไม่ดูข้อเท็จจริง

 

การศึกษาไทยมันไม่ได้ดีมากหรอก แต่เปรียบเทียบแบบนี้ มันเหมือนกับบอกว่า เสือชีตาร์วิ่งเร็ว ทำไมช้างไม่วิ่งเร็วเหมือนเสือชีตาร์บ้าง

 

อันนี้ช้างห่วยหรือเปล่า?


Edited by baezae, 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:27.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#11 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:19

เรื่องเครื่องแบบ ในหลวง ร. ๕ ท่านเป็นผู้กำหนดเครื่องแบบนักเรียนเป็นครั้งแรก ด้วยเหตุผลที่ว่า "จะได้ไม่มีความแตกต่าง ยากดีมีจน ก็จะได้เหมือนกัน"

 

ผมเห็นว่า เหตุผลนี้ ถูกต้องที่สุดครับ


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#12 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:39

คนเขียนไปอยู่ฟินแลนด์เลยก็แล้วกัน เจอ VAT 24% ซักหน่อย จะได้ไปรับการศึกษาแบบที่ต้องการ 

บางอย่างอาจจะถูกต้อง แต่อ่านซ้ำๆก็เบื่อ

บ่นมากๆก็น่าจะเสนออะไรบ้างนะ ผมว่า  ;)



#13 whiskypeak

whiskypeak

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,392 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:41

เรื่องเครื่องแบบ ในหลวง ร. ๕ ท่านเป็นผู้กำหนดเครื่องแบบนักเรียนเป็นครั้งแรก ด้วยเหตุผลที่ว่า "จะได้ไม่มีความแตกต่าง ยากดีมีจน ก็จะได้เหมือนกัน"

 

ผมเห็นว่า เหตุผลนี้ ถูกต้องที่สุดครับ

 

ผมยอมรับอย่างหนึ่งเลย พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ทรงเข้าใจแก่นแท้ของคนไทย และออกแบบประเทศไทย ในแบบที่ไทยควรจะเป็น

คนไทยส่วนใหญ่กลับรีบร้อน ให้ไทยเป็นอย่างต่างชาติ ผลลัพธ์ ดูได้ง่ายๆเลย "ประชาธิปไตย" แบบไทยๆ ประเทศชาติไปถึงไหนแล้วล่ะ


ถูกใจเสื้อแดง ของแพงไม่ว่า โดนโกงไม่ด่า ขอแค่ตระกูลชินนรกเป็น นายก พอ..

 


#14 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 03:00

finhoax.jpg



#15 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 03:28

คนเขียนไปอยู่ฟินแลนด์เลยก็แล้วกัน เจอ VAT 24% ซักหน่อย จะได้ไปรับการศึกษาแบบที่ต้องการ 

บางอย่างอาจจะถูกต้อง แต่อ่านซ้ำๆก็เบื่อ

บ่นมากๆก็น่าจะเสนออะไรบ้างนะ ผมว่า  ;)

 

แก้ให้ถูกจริง ๆ แล้ว โดยเฉลี่ย ประชากรฟินแลนด์เสียภาษีและค่าประกันสังคมต่าง ๆ โดยรวมราวร้อยละ ๒๙.๘ ครับ

 

ถ้าให้ประชากรไทยทุกคนเสียภาษีประมาณนั้น แล้วเอางบที่ได้ลงการศึกษาร้อยละ ๕ ผมว่า จะแซงฟินแลนด์ก็น่าจะไม่ยาก


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#16 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 03:40

ผมยกมาแต่ VAT น่ะครับ ;)  ไม่ได้รวมเฉลี่ยกับพวกภาษีรายได้หรืออื่นๆ 



#17 มารยา

มารยา

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 85 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 03:45

คนไทยส่วนหนึ่ง ชอบเอาเรื่องต่างชาติมาทับถมชาติตัวเอง โดยไม่มองอะไรให้รอบด้าน 

 

.ถูกต้องที่สุด


[color=#0000ff;]Donnie:  Why are you wearing that stupid bunny suit?  [/color]

 

[color=#ff0000;]A man in bunny suit:   And why are you wearing that stupid man suit?[/color]


#18 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 03:45

นี้คือตัวอย่างที่ดีมากของพวก คนไทยเห่อฝรั่งเหยียดประเทศตัวเองแบบไม่ทำการศึกษาค้นคว้า ไม่ดูตาม้าตาเรือ

เลยถูกนร.ฟินแลนด์ทั้งอดีตและปัจจุบันรุมกระหน่ำว่า "บูลชิต"!!!

5555555555555555


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#19 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 06:18

เด็กจะดีได้ มันเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากๆ เลยครับ เด็กบางคนพ่อรวยหมื่นล้านแต่ทำไมเรียนไม่จบ เด็กสลัมบางคนทำไมกระเสือกกระสนดิ้นรนจนได้เป็นด็อกเตอร์ เหตุผลต่างๆ ที่พวกยกเอามาด่าระบบของไทย มันเป็นแค่เรื่องเปลือก ผิวเผินมาก ผมว่ามันเป็นข้ออ้างของเด็กที่ยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้มากกว่า ผมเองก็ไม่ได้ชอบเรื่องระเบียบหยุมหยิมของไทยนะครับ ไม่ชอบถูกตีด้วย เรื่องประท้วงโรงเรียน ประท้วงครู ผมก็เคยทำ แต่พอโตมามีการมีงานทำ ผมมองย้อนกลับไปผมกลับตลกตัวเองด้วยซ้ำ จำได้ก็แต่เรื่องดีๆ ของโรงเรียน ระบบของไทยก็ไม่ได้เลวร้ายมากขนาดทำอะไรก็ผิดหมด เพียงแต่ว่านโยบายต่างๆที่เอามายัดเยียดใส่ในโรงเรียนมันมากเกินไป จนทำให้ครูเอาใจใส่เด็กได้น้อยลง ความรู้เด็กเลยไม่แน่น 



#20 gass

gass

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,239 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:00

เครื่องแบบ ขนาดสมัยผมนะ ยังมีการ ของนายทำไมออกสีม่วง (ร้านไม่ไม่รู้น่าจะสมใจนึกเสื้อขาว) ของเราอออกสีฟ้า(ท๊อป) ของนายนั้นทำไมเหลือง(ของเก่าจากพี่ๆ)

 

จากนั้นก็มารองเท้า ผมใส่บาจายัง มีการกระแนะกระแหน (เขาใส่รีบอร์คดำ ไม่ผิดกฎ) พวกใส่นันยางเหรอ เหอๆ ก็โดนอย่างที่รู้กัน (เด็กประถมนะ)

 

นี่ขนาดประถมนะ พอขึ้นมัธยมอย่าให้พูด

 

:lol:  :lol:  :lol:



#21 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:46

อีกอย่างที่ไม่ค่อยมีพวกโจมตีพูดถึงนั่นคือ

การศึกษาไม่ควรจะยกให้เป็นหน้าที่ของครู โรงเรียนอย่างเดียว

ครอบครัว สังคมรอบตัวเด็กสำคัญกว่าที่คิดไว้เยอะ

เพราะเด็กซึมซับพฤติกรรมต่างๆจากคนรอบข้างไม่ใช่จากโรงเรียน


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#22 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:58

อย่าให้เข้าทำนอง เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้างเลยครับ

ง่ายๆ ผมถามว่าถ้าทำทุกอย่างแบบที่กล่าวมาแบบฟินแลนด์ ประเทศไทยจะมีการศึกษาที่ดีเท่าฟินแลนด์มั้ยครับ

มันคนละประเทศกัน วัฒนธรรมผู้คนมันก็คนละแบบ เทียบกันง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้หรอก

แค่ฟินแลนด์มีการจัดการการศึกษาที่ดีกว่า ก็เหมาว่าสิ่งที่ประเทศตัวเองทำมันผิดไปหมดได้ยังไง

การที่แค่ด้อยกว่าไม่ได้ทำให้ระบบการศึกษาที่เราทำมาทั้งหมดมันเป็นเรื่องผิดพลาดนะครับ

หรือบางทีบทสรุปแบบนี้มันอาจจะเป็นผลผลิตของการจัดการการศึกษาที่ห่วยแตกก็ได้กระมัง

ถึงไม่สามารถทำให้คนไทยมีตรรกะที่ถูกที่ควรได้ ดีแต่ไปสรรเสริญคนที่เหนือกว่า

แต่ไม่มีละที่จะไปศึกษาจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงเหนือกว่า ดีแต่ดูแค่เปลือกนอก  -_-


" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#23 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:01

มันก้เป็นกระแสแหะ คราวนี้เป็นเรื่องที่มาของข้อมูลอ้างอิงของหน้านั้นว่ามั่วสิ้นดี

แต่ว่านะคนจะด่ามันก็ตั้งหน้าตั้งตาด่าต่อไป

โดยไม่สำเหนียกว่าการศึกษามันต้องพัฒนาจากตัวเราเอง วัฒนธรรมของเราเอง

ไม่ใช่เอาของชาติอื่นมาลอกเพราะบริบทมันไม่เหมือนกัน

 

 

http://pantip.com/topic/30211524


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#24 JUR1ST

JUR1ST

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,803 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:05

ปัญหาการศึกษาไทยอยู่ที่การเรียนเพื่อสอบครับ ไม่ได้มุ่งหวังให้เรียนไปแล้วมีความรู้

 

ผลที่ตามมาคือสถาบันติวเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพราะติวเตอร์สอนแล้วไปสอบได้ แต่อาจารย์ที่โรงเรียนสอนไปแล้วสอบไม่ได้

 

ผมยังพูดเล่นๆ กับเพื่อนเลยว่า ถ้าโรงเรียนไม่สามารถสอนตามหลักสูตรแล้วเด็กไปสอบได้ก็ปิดเถอะวะ แล้วให้เด็กไปเรียนกับติวเตอร์แทน



#25 JUR1ST

JUR1ST

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,803 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:08

ถ้ามองกันจริงๆ แล้วการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนนี่ เราไม่ได้มุ่งหวังให้เด็กนักเรียนเป็นผู้มีความรู้เท่านั้นนะครับ แต่เรามุ่งหวังให้เด็กเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศด้วย

 

เรื่องระเบียบวินัย ศีลธรรมจรรยาก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะปลูกฝังให้เด็กเป็นประชากรที่ดีได้ แต่เท่าที่เห็นทุกวันนี้ระบบการศึกษาไม่ได้เห็นความสำคัญในส่วนนี้ มุ่งหวังแต่การยัดความรู้ (ที่ไม่รู้ว่าเอาไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่) เพื่อสอบเท่านั้น



#26 PPPP58

PPPP58

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 243 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:11

เด็กไทยสมัยนี้ขนาดยังมีกฎมีเกณฑ์ช่วยบังคับ ยัง อาเฮีย .ขนาดนี้ ติดยา ตีรันฟันแทง ยกพวกตีกัน อายุ 12-13 บางคน รู้จักจะมีผัวกันหมดแล้ว บ้างคน 13 มีลูกแล้ว  ถ้าปล่อยปะละเลยไม่มีกฎ อะไรในโรงเรียน สงสัยจะมีผัวตั้งแต่ 10 ขวบ หรือไม่ก็ตบกะบาลครูเล่นไปแล้วหรือ ทุกวันนี้พ่อแม่เด็กบางคนยังเถียงฉอดๆๆไม่เคารพ แล้วครูละมันจะเคารพไหม



#27 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:13

ปัญหาการศึกษาไทยอยู่ที่การเรียนเพื่อสอบครับ ไม่ได้มุ่งหวังให้เรียนไปแล้วมีความรู้

 

ผลที่ตามมาคือสถาบันติวเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพราะติวเตอร์สอนแล้วไปสอบได้ แต่อาจารย์ที่โรงเรียนสอนไปแล้วสอบไม่ได้

 

ผมยังพูดเล่นๆ กับเพื่อนเลยว่า ถ้าโรงเรียนไม่สามารถสอนตามหลักสูตรแล้วเด็กไปสอบได้ก็ปิดเถอะวะ แล้วให้เด็กไปเรียนกับติวเตอร์แทน

 

เป็นอย่างหนึ่งด้วย แต่การศึกษาก็ไม่ใช่เรื่องความรู้อย่างเดียวครับ

การศึกษาคือการสอนให้คนมีความคิด ฉลาด และมีความสามารถในการเรียนรู้

การเรียนๆ แล้วติวสอบ ได้ผลดีกับวิชาจำพวกวิทยาศาสตร์ครับ เราถึงมีหมอมีวิศวกรที่เก่ง

แต่สาขาวิชาอื่นๆ นั้นเราใช้วิธีติวสอบไม่ได้ เช่นวิชาสายศิลป์

ซึ่งเผอิญว่าเป็นเด็กส่วนใหญ่ของประเทศด้วยนะครับ  -_-


" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#28 อาบังคนเหนือ

อาบังคนเหนือ

    สมาชิกระดับรากหญ้า

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,535 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:15

กระผมว่าการศึกษาไทย......น่าจะไปเน้นทางผู้สอนให้มากนะครับ จากการที่ได้สัมผัสกับเพื่อนที่สอนสังกัดของ สพฐ.นี่...วันๆแทบไม่ได้สอนหนังสือเลยครับ...ประชุมเขต ทำวิทยฐานะ สมศ.เข้าตรวจโรงเรียน......ฯลฯ เวลาทีจะสอนนักเรียนหายไปกับเรื่องพวกนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ บางโรงเรียนบ้านนอก คุณเชื่อมั๊ยครับเด็ก ม2 ม3 ยังอ่านหนังสือไม่ได้เลย


"ดาบวิเศษแสนคมอยู่ในมือลิงย่อมไร้ประโยชน์_กลับกัน_ยอดฝีมือที่บรรลุแล้ว ใช้กิ่งไม้ไผ่ก็ฆ่าคนได้ "


#29 Diablo

Diablo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 566 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:25

กระผมว่าการศึกษาไทย......น่าจะไปเน้นทางผู้สอนให้มากนะครับ จากการที่ได้สัมผัสกับเพื่อนที่สอนสังกัดของ สพฐ.นี่...วันๆแทบไม่ได้สอนหนังสือเลยครับ...ประชุมเขต ทำวิทยฐานะ สมศ.เข้าตรวจโรงเรียน......ฯลฯ เวลาทีจะสอนนักเรียนหายไปกับเรื่องพวกนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ บางโรงเรียนบ้านนอก คุณเชื่อมั๊ยครับเด็ก ม2 ม3 ยังอ่านหนังสือไม่ได้เลย


อันนี้จริงเลยครับ ยิ่งอาจารย์มหาวิทยาลัยต้องยุ่งงานเอกสารนู่นนี่นั่น ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นภาระหน้าที่เลย ควรจะเตรียมเนื้อหาเตรียมสอนเด็กมากกว่าที่จะเอาเวลาไปนั่งทำเอกสารอื่น
ส่วนสอนโหดๆตอนมัธยมนี่ที่เจอกับตัวผมยอมรับนะว่าตอนอยู่มัธยมปลายรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก เรียนไม่รู้เรื่อง เกรดก็ต่ำ (ศิลป์-คำนวณ) แต่พอจบออกมาเรียนมหาลัยทำไมมันง่ายแบบนี้ เรียนสบายรู้เรื่องเกรดดี เพราะไอ้ที่โหดๆตอนม.ปลายนั่นแหละครับ


"The price good men pay for indifference to public affairs is to be ruled by evil men."

#30 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:30

กระผมว่าการศึกษาไทย......น่าจะไปเน้นทางผู้สอนให้มากนะครับ จากการที่ได้สัมผัสกับเพื่อนที่สอนสังกัดของ สพฐ.นี่...วันๆแทบไม่ได้สอนหนังสือเลยครับ...ประชุมเขต ทำวิทยฐานะ สมศ.เข้าตรวจโรงเรียน......ฯลฯ เวลาทีจะสอนนักเรียนหายไปกับเรื่องพวกนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ บางโรงเรียนบ้านนอก คุณเชื่อมั๊ยครับเด็ก ม2 ม3 ยังอ่านหนังสือไม่ได้เลย

 

มันเป็นปัญหาที่ทางผู้ใหญ่สร้างให้ใครครูผู้สอนเอง

นอกจากสอนแล้วครูไทยยังต้องทำอะไรเยอะแยะไปหมด

ครูไทยทำมันทุกอย่างทั้งๆที่น่าจะมีหน้าที่สอนอย่างเดียว


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#31 แอบดูที่รูเดิม

แอบดูที่รูเดิม

    ขาประจำอำเช็ด!!!

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,025 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:30

กระผมว่าการศึกษาไทย......น่าจะไปเน้นทางผู้สอนให้มากนะครับ จากการที่ได้สัมผัสกับเพื่อนที่สอนสังกัดของ สพฐ.นี่...วันๆแทบไม่ได้สอนหนังสือเลยครับ...ประชุมเขต ทำวิทยฐานะ สมศ.เข้าตรวจโรงเรียน......ฯลฯ เวลาทีจะสอนนักเรียนหายไปกับเรื่องพวกนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ บางโรงเรียนบ้านนอก คุณเชื่อมั๊ยครับเด็ก ม2 ม3 ยังอ่านหนังสือไม่ได้เลย

 

 

ที่เจอกับตัวเองมาล่าสุด เด็กจบม.ปลาย มาสมัครงานเป็นโอเปอเรเตอร์

ด้วยความที่เป็นบริษัทบางครั้งต้องใช้ภาษาบ้างเลยให้นับเลข 1-10

นับได้ครับ แต่เป็นนับไทย เลยบอกให้นับใหม่เป็นนับอังกฤษ เธอก็นับไปถึงสิบได้

แต่พอให้นับต่อเธอบอกว่าได้แค่นี้.....อ่าว...ถามว่าที่โรงเรียนไม่ได้สอนหรือ เธอบอกว่าครูไม่ค่อยสอนวันๆให้ทำแต่รายงาน

คุยกันอีกซักพักในหลายๆเรื่อง ผมก็เริ่มอ่อนใจกับน้องคนนี้

 

ในมุมมองผม มีอยู่สองอย่าง

1. ตัวเด็กเองไม่ตั้งใจ แต่กลับไปโทษแต่คนอื่น

2. ตัวครูเองที่ปล่อยปล่ะละเลย


ทำอาชีพยาม เงินเดือนน้อย ไม่ค่อยมีปัญหากะใคร

#32 JUR1ST

JUR1ST

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,803 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:38

ปัญหาการศึกษาไทยอยู่ที่การเรียนเพื่อสอบครับ ไม่ได้มุ่งหวังให้เรียนไปแล้วมีความรู้

 

ผลที่ตามมาคือสถาบันติวเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพราะติวเตอร์สอนแล้วไปสอบได้ แต่อาจารย์ที่โรงเรียนสอนไปแล้วสอบไม่ได้

 

ผมยังพูดเล่นๆ กับเพื่อนเลยว่า ถ้าโรงเรียนไม่สามารถสอนตามหลักสูตรแล้วเด็กไปสอบได้ก็ปิดเถอะวะ แล้วให้เด็กไปเรียนกับติวเตอร์แทน

 

เป็นอย่างหนึ่งด้วย แต่การศึกษาก็ไม่ใช่เรื่องความรู้อย่างเดียวครับ

การศึกษาคือการสอนให้คนมีความคิด ฉลาด และมีความสามารถในการเรียนรู้

การเรียนๆ แล้วติวสอบ ได้ผลดีกับวิชาจำพวกวิทยาศาสตร์ครับ เราถึงมีหมอมีวิศวกรที่เก่ง

แต่สาขาวิชาอื่นๆ นั้นเราใช้วิธีติวสอบไม่ได้ เช่นวิชาสายศิลป์

ซึ่งเผอิญว่าเป็นเด็กส่วนใหญ่ของประเทศด้วยนะครับ  -_-

 

ผมก็เด็กส่วนใหญ่ของประเทศที่เข้าสายวิทย์ไม่ได้เหมือนกัน แถมเป็นเด็กหลังห้องด้วย ไม่รู้ว่ารอดพ้นช่วงเวลานั้นมาได้ยังไง  :P

 

ระบบการศึกษาไทยเป็นระบบที่หน่วยงานภาครัฐต้องให้ความเห็นชอบ และการทดสอบจำเป็นต้องใช้ข้อสอบปรนัยที่มีคำตอบสำเร็จรูปเนื่องจากมีผู้เข้าร่วมทดสอบจำนวนมาก

 

เมื่อประกอบกับการเรียนเพื่อสอบเพียงอย่างเดียว การเรียนการสอนก็จะมุ่งเน้นให้ไปหาคำตอบสำเร็จรูปได้ หากถามว่าการสอนให้เด็กสอบได้นี่บรรลุวัตถุประสงค์หรือเปล่า ก็ต้องตอบว่าบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างดีเยี่ยม แต่หากถามว่าเด็กได้วิธีการคิดทางการศึกษาหรือไม่ คงต้องบอกว่าไม่แน่ใจ

 

ทุกวันนี้เวลาเด็กเข้าไปเรียนในระดับอุดมศึกษาจะเห็นได้ว่าเด็กยังคุ้นชินกับการหาคำตอบสำเร็จรูปเพื่อมาตอบข้อสอบอยู่ อาจารย์ที่สอนในมหาวิทยาลัยก็อาจคิดไปว่าเด็กคงคิดเป็นแหละ เพราะมีการปูพื้นฐานในระดับมัธยมศึกษาแล้ว แต่ในบางครั้งนี่แทบจะต้องบอกให้เด็กจดเป็นรายบรรทัดกันเลย 

 

โดยสรุปแล้วระบบการศึกษาไทยไม่เอื้อต่อการใช้ความคิดสร้างสรรค์ครับ ในเมืองไทยจึงมีนวัตกรให้เห็นน้อยมาก และที่เห็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ในสังคมไทยแล้วผมเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้เกิดขึ้นจากความสามารถของตนเองล้วนๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจากระบบการศึกษาไทยแต่อย่างใด



#33 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:41

จริงๆแล้วกุญแจของการเรียนรู้น่าจะเป็น "ปลุกจิตสำนึกให้ใฝ่เรียนรู้ - เรียนเพื่อรู้ - รู้เพื่อนำไปใช้จริง"
แต่ระบบการศึกษาปัจจุบันกลับเป็น "ท่องจำเพื่อเอาไปสอบ" ครับ

ผลของระบบการศึกษาแบบนี้ ก็เลยกลายเป็นว่า เราอัดความรู้เกินจำเป็นลงไปให้เด็กระดับประถมถึงมัธยมปลาย
ความรู้หลายๆอย่างที่สอนกันในระดับมัธยมนั้น จริงๆแล้วควรสอนกันในระดับมหาวิทยาลัยเป็นต้นไปเสียด้วยซ้ำ
ความรู้ที่อัดลงไปเกินจำเป็นจึงกลายเป็นการอัดให้เด็กท่องจำอย่างเดียว ท่องจำเสร็จแล้วทิ้ง เพื่อเคลียร์สมองรับข้อมูลใหม่
แทนที่จะนำความรู้ที่ใช้จริงมาสอน และฝึกฝนให้เด็กใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว เพื่อที่เด็กที่จบการศึกษาสามัญภาคบังคับชั้นม.ปลาย
จะสามารถเข้าสู่ระบบงานได้ทันที เพื่อลดความจำเป็นในการศึกษาต่อระดับชั้นอุดมศึกษา และหากเด็กต้องการพัฒนาตัวเองต่อ
ก็สามารถจะศึกษาต่อในระดับสูง หรือไม่ก็จะหาความรู้เพิ่มเติมเฉพาะด้านได้จากแหล่งอบรมความรู้อื่นๆ
ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการศึกษาของเด็ก ทั้งด้านภาครัฐ และครอบครัวของเด็กเอง

ผลลัพธ์อย่างหนึ่งของการศึกษาแบบนี้คือทำให้เด็กไทยกลายเป็นคนที่ไม่ใฝ่ศึกษา ชอบแต่การป้อนถึงปาก บางครั้ง
ป้อนให้แล้วยังบ้วนทิ้งด้วยซ้ำ พอจบมาเป็นคนทำงาน ก็กลายเป็นพวกเสพสื่อแบบไม่มีความคิด ไม่รู้จักวิเคราะห์พิจารณา
และมองข้ามความจริงว่าการศึกษาเป็นกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ชีวิตก็เลยย่ำอยู่ที่เดิม
หรือบางคนอาจจะศึกษาเพิ่มเติม ก็เป็นไปในแง่การอัพวุฒิเพื่อหวังความก้าวหน้าทางตำแหน่งหรือเงินเดือน
ไม่ได้เกิดจากการใฝ่เรียนรู้จริง สิ่งที่เรียนรู้ไปก็ค่อนข้างจะสูญเปล่า

ปัญหาอีกอย่างก็คือ การศึกษายิ่งสูงขึ้น ก็ยิ่งเรียนรู้แคบลง การศึกษาแบบนี้เหมาะกับการสร้างคนออกมาเป็นนักวิชาการ
แต่ไม่เหมาะจะสร้างคนทำงาน คนทำงานที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างและหลากหลาย
ซึ่งหมายถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง แต่ขณะเดียวกัน ก็สามารถแชร์มุมมองร่วมกับคนต่างสายงานได้
เพื่อสะดวกในการทำงานเป็นทีมที่จะต้องนำผู้เชี่ยวชาญจากหลายๆฝ่ายมาร่วมกันผลักดันโครงการเดียวกันให้สำเร็จ
ในจุดนี้ การศึกษาไทยยังล้มเหลวอยู่ครับ กลายเป็นว่าคนยิ่งเรียนเก่ง ยิ่งมีปัญหาในการทำงาน
มีเพียงไม่กี่คนที่ก้าวข้ามอุปสรรคนี้สำเร็จ นอกจากนี้ สิ่งที่เรียกว่า "การยืมความรู้ข้ามสาย"
เพื่อแก้ปัญหาบางอย่าง ก็เป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งการแก้ปัญหาของสายวิทย์ โดยยืมวิธีคิดแบบสายศิลป์ไปใช้
ก็กลายเป็นการแก้ปัญหาบางอย่างแบบไม่น่าเชื่อได้ ซึ่งวิธีคิดแบบนี้ นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ของบ้านเรายังมองกันไม่เป็น
หรือบางครั้ง ในการแก้ปัญหาบางอย่าง ก็มองกันเฉพาะในมุมของตัวเองจนมองข้ามปัญหาอื่นๆ
เช่นพวกวิศวกรที่เสนอแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยการปล่อยน้ำผ่านกรุงเทพฯ
โดยไม่มีความคิดเรื่องปัญหาการบริหารจัดการบรรเทาทุกข์คนเป็นล้านๆอยู่ในหัวเลยนั่นเอง

ปัญหาการศึกษาไทยแบบท่องจำอีกอย่างที่คนส่วนใหญ่ยังมองไม่เห็นกันก็คือ
ทำให้เพศหญิงที่การทำงานของสมองเอื้อต่อความจำมากกว่าเพศชาย ได้เปรียบอย่างมาก
จึงเบียดเด็กเพศชายออกไปจากการศึกษาระดับสูง ในระยะยาว
มันก็กลายเป็นปัญหาในการสร้างครอบครัว เพราะเรื่องการเลือกคู่
ผู้หญิงไทยจะเลือกชายที่ฐานะเสมอกับตัวเองขึ้นไป ดังนั้นแม้อัตราการเกิดจะไม่ต่างกันมากมาย
แต่ในระดับคนทำงานนั้น อัตราส่วนหญิงชายกลายเป็น 1 ต่อ 7
ซึ่งจะเป็นปัญหาให้มีคนโสดมากขึ้น มีการแต่งงานกับคนต่างชาติมากขึ้น มีอัตราการประพฤติชู้สาวเพิ่มขึ้น
และความเป็นอยู่ของประชากรจะห่างจากกันมากขึ้น ขณะที่ครอบครัวที่ประกอบด้วยชาย + หญิงที่มีการศึกษาสูง
จะมีมาตรฐานการครองชีพสูง ครอบครัวของชายที่ถูกกันจากระบบการศึกษาระดับสูงจะมีรายได้ต่ำ
มีคู่ครองที่รายได้ต่ำเช่นกัน หรือไม่มีรายได้เลย และประชากรบางส่วนที่หาคู่ไม่ได้
แม้จะยังช่วยสังคมในเรื่องภาษี แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือในด้านการผลิตประชากรรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพมารองรับสังคมอนาคตได้เลย...

#34 ZipPa

ZipPa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,291 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:46

อยากบอกสั้นๆว่า

 

มันจะอะไรกันนักหนากับ   เรียนพิเศษ

 

ทำอะไรก็ได้ดีๆ  ที่ไม่ต้องแห่ไปเรียน

 

 

ปล ผมไม่ใช่เด็ก แต่สงสารเด็กๆ



#35 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:47

ย่อหน้าสุดท้ายของคุณ isa นี่สถานการณ์จริงมันถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ? หรือเป็นความเห็นเฉยๆ



#36 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:52

...g

ย่อหน้าสุดท้ายของคุณ isa นี่สถานการณ์จริงมันถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ? หรือเป็นความเห็นเฉยๆ

เป็นความเห็นส่วนตัวครับ... แต่ถ้าลองสังเกตรอบๆตัว ผมก็ว่าสมมุติฐานนี้มันก็มีส่วนจริงอยู่นะ
ตอนนี้แม้แต่คณะที่เคยเป็นของชายเกือบล้่วนๆ อย่างวิศวะ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ตอนนี้
เด็กผู้หญิงท่วมแล้วครับ

ทุกวันนี้ผมขึ้นลิฟต์ทำงาน ทั้งลิฟต์ 20 คน มีผู้ชายแค่ 3-4 คนครับ

#37 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 11:19

การศึกษาไทย...  สอนให้มีความรู้ เพื่อวัดผล...  

แต่ ไม่มีความรู้ และ ความคิด เพื่อ เอาไปใช้..

 

ถามเด็ก ป5 สมัยนี้ จะรู้ว่า เมฆชื่อ คิวมูโลนิมบัส หน้าตาเป็นอย่างไร ก่อให้เกิดอะไร อยู่ชั้นไหน...

เด็กตอบได้...  แต่ถามว่า...  แล้วจะรู้ไปทำไม...  

 

เด็กดีเชื่อครู จะตอบว่า..  เพราะครูสอน... 

เด็กเกือบเก่ง จะตอบว่า..  เพื่อจะได้รู้ว่า ฝนจะตกเมื่อไร แถวไหน อย่างไร...  (เหอๆๆ  กรมอุตุมันยังไม่รู้เลยน้อง... )

เด็กฉลาด จะตอบว่า.. "เอาไปสอบครับ"    เพราะมันใช้แค่นั้นจริงๆ

:D   


"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#38 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 11:28

...g

ย่อหน้าสุดท้ายของคุณ isa นี่สถานการณ์จริงมันถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ? หรือเป็นความเห็นเฉยๆ

เป็นความเห็นส่วนตัวครับ... แต่ถ้าลองสังเกตรอบๆตัว ผมก็ว่าสมมุติฐานนี้มันก็มีส่วนจริงอยู่นะ
ตอนนี้แม้แต่คณะที่เคยเป็นของชายเกือบล้่วนๆ อย่างวิศวะ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ตอนนี้
เด็กผู้หญิงท่วมแล้วครับ

ทุกวันนี้ผมขึ้นลิฟต์ทำงาน ทั้งลิฟต์ 20 คน มีผู้ชายแค่ 3-4 คนครับ

เด็กผู้หญิงท่วมนี่จริงครับ คณะวิศวะเคยเห็นผู้หญิง 2-3 คนในสมัยผม ตอนนี้มีเด็กผู้หญิงครึ่งห้องเลย แต่เท่าที่ผมรู้จักกับผู้หญิงที่รุ่นราวคราวเดียวกับผม(แก่)  :P​  พวกที่ไม่แต่งงานนี่เค้าก็ดูแลพ่อแม่ตามปกตินะครับ บางคนตัวเล็กๆหน้าเด็กๆหน่อยโดนรุ่นน้องอ่อนกว่าเกือบสิบปีมาจีบก็มี พอรู้อายุจริงต่างฝ่ายต่างทำหน้าไม่ถูก  :D

 

แต่งงานกับต่างชาตินี่เห็นหลายคนอยู่ คือเป็นผู้หญิงทำงานนี่แหละ พอแต่งงานกับฝรั่ง ต้องไปเป็นแม่บ้านก็เบื่อเหมือนกัน แต่ก็อยู่ด้วยกันได้ อาจเป็นเพราะมีความอดทนสูงก็ได้มั้งครับ 

 

แต่ก็เห็นใจผู้หญิงที่มีหน้าที่การงานสูงๆนะครับ ผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวก็แต่งงานกันไปแล้ว เหลืออีกครึ่งนึงก็เป็นเกย์เสียนี่ แล้วมันจะเหลือผู้ชายซักเท่าไหร่ เพื่อนๆผมบอกขี้เกียจแย่งชาวบ้านว่ะ กลับไปดูแลพ่อแม่กับไปเที่ยวดีกว่า


Edited by Lucy Van Pelt, 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 11:28.

  • isa likes this

#39 ทัชชี่

ทัชชี่

    ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,784 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 11:34

คนเขียนไปอยู่ฟินแลนด์เลยก็แล้วกัน เจอ VAT 24% ซักหน่อย จะได้ไปรับการศึกษาแบบที่ต้องการ 

บางอย่างอาจจะถูกต้อง แต่อ่านซ้ำๆก็เบื่อ

บ่นมากๆก็น่าจะเสนออะไรบ้างนะ ผมว่า  ;)

 

แก้ให้ถูกจริง ๆ แล้ว โดยเฉลี่ย ประชากรฟินแลนด์เสียภาษีและค่าประกันสังคมต่าง ๆ โดยรวมราวร้อยละ ๒๙.๘ ครับ

 

ถ้าให้ประชากรไทยทุกคนเสียภาษีประมาณนั้น แล้วเอางบที่ได้ลงการศึกษาร้อยละ ๕ ผมว่า จะแซงฟินแลนด์ก็น่าจะไม่ยาก

 

จริงๆ แล้วประเทศเราเอาเงินภาษีมาลงทุนเรื่องการศึกษา "สูงสุด" ในอาเซียนนะครับ... แต่คุณภาพที่ได้กลับ...ต่ำที่สุด ในอาเซียน แพ้แม้กระทั่งลาว หรือ เขมร


ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ


#40 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:05

ผมยังชอบชุดนักเรียนไทยอยู่ครับ

แต่บางครั้ง ก็ไม่เห็นด้วยกับอะไรหยุมหยิมนัก

แต่ก็ต้องดูกันอีก ว่ามันมีที่มาอย่างไร

 

ถ้าหากวันนี้กฏกระทรวงยกเลิกชุดนักเรียนทันที

ผลที่ตามมาคือ นักเรียนจะระดมกันแต่งตัวอวดกัน แข่งกัน

พ่อแม่คงกระเป๋าแฟนกันไป

 

ถ้ายกเลิกทรงผมบังคับ

เราคงเห็นเด็กไว้ผมทุกทรงเท่าที่ทำได้ ทั้งสี ทั้งรูปแบบ

 

ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ทรงผมและเครื่องแบบ

ปัญหาคือจิตสำนึก ความคิดอ่าน และการเรียนรู้หนทางที่ถูกต้อง

 

การปรับเปลี่ยนอะไรเหล่านี้ คงต้องค่อยเป็นค่อยไป

ไม่สามารถเปลี่ยนได้เร็ววัน

 

ที่สำคัญ น่าจะเป็นเรื่องหลักสูตร แนวคิด และมาตรฐานการสอนเสียมากกว่า

ถ้าครูโง่ ผมเชื่อว่าไม่สามารถจะสร้างเด็กฉลาดได้

ทำอย่างไรให้ครูฉลาด ทำอย่างไรให้ครูเป็นครู โรงเรียนเป็นโรงเรียน

นั่นต่างหาก ที่ต้องคิดแก้ไข

 

การแก้ปัญหาแค่แจกแทปเล็ตหรือลกเลิกทรงผม

มันไม่ใช่ทางแก้ แต่เป็นเพียงการซื้อเสียงผ่านเด็กไปยังผู้ปกครอง


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#41 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:54

 

คนเขียนไปอยู่ฟินแลนด์เลยก็แล้วกัน เจอ VAT 24% ซักหน่อย จะได้ไปรับการศึกษาแบบที่ต้องการ 

บางอย่างอาจจะถูกต้อง แต่อ่านซ้ำๆก็เบื่อ

บ่นมากๆก็น่าจะเสนออะไรบ้างนะ ผมว่า  ;)

 

แก้ให้ถูกจริง ๆ แล้ว โดยเฉลี่ย ประชากรฟินแลนด์เสียภาษีและค่าประกันสังคมต่าง ๆ โดยรวมราวร้อยละ ๒๙.๘ ครับ

 

ถ้าให้ประชากรไทยทุกคนเสียภาษีประมาณนั้น แล้วเอางบที่ได้ลงการศึกษาร้อยละ ๕ ผมว่า จะแซงฟินแลนด์ก็น่าจะไม่ยาก

 

จริงๆ แล้วประเทศเราเอาเงินภาษีมาลงทุนเรื่องการศึกษา "สูงสุด" ในอาเซียนนะครับ... แต่คุณภาพที่ได้กลับ...ต่ำที่สุด ในอาเซียน แพ้แม้กระทั่งลาว หรือ เขมร

 

แต่ของไทยเป็นการลงทุนแบบขี่ช้างจับตั๊กแตนครับเพราะงบประมาณต้องไปอุดหนุนโรงเรียนของรัฐทั้งหมด

ซึ่งโรงเรียนรัฐไม่ใช่เป็นแค่โรงเรียนเพื่อสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมมนูญแต่เป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ประจำอำเภอ ประจำตำบล ประจำหมู่บ้าน

โดยไม่มีเอกชนมาแบ่งเบาเลย รัฐผูกขาดการศึกษาไว้ที่รัฐหมดมันจึงต้องใช้งบประมาณที่มากไป 

ความจริงแนวคิดที่จะปล่อยโรงเรียนให้ท้องถิ่นดูแลอย่างโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมันก็น่าทำเพราะทุกจังหวัดมี อบจ.


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#42 ฉันรักเมืองไทย

ฉันรักเมืองไทย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 267 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:42

...g

ย่อหน้าสุดท้ายของคุณ isa นี่สถานการณ์จริงมันถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ? หรือเป็นความเห็นเฉยๆ

เป็นความเห็นส่วนตัวครับ... แต่ถ้าลองสังเกตรอบๆตัว ผมก็ว่าสมมุติฐานนี้มันก็มีส่วนจริงอยู่นะตอนนี้แม้แต่คณะที่เคยเป็นของชายเกือบล้่วนๆ อย่างวิศวะ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ตอนนี้เด็กผู้หญิงท่วมแล้วครับทุกวันนี้ผมขึ้นลิฟต์ทำงาน ทั้งลิฟต์ 20 คน มีผู้ชายแค่ 3-4 คนครับ

คณะแพทย์ก็เหมือนกันค่ะ แต่ก่อนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง. เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงกับชายที่ไม่แท้. ส่วนชายแท้ๆมีน้อยมากค่ะ

#43 ฉันรักเมืองไทย

ฉันรักเมืองไทย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 267 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:01

ปัญหาการศึกษาไทยอยู่ที่การเรียนเพื่อสอบครับ ไม่ได้มุ่งหวังให้เรียนไปแล้วมีความรู้
 
ผลที่ตามมาคือสถาบันติวเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพราะติวเตอร์สอนแล้วไปสอบได้ แต่อาจารย์ที่โรงเรียนสอนไปแล้วสอบไม่ได้
 
ผมยังพูดเล่นๆ กับเพื่อนเลยว่า ถ้าโรงเรียนไม่สามารถสอนตามหลักสูตรแล้วเด็กไปสอบได้ก็ปิดเถอะวะ แล้วให้เด็กไปเรียนกับติวเตอร์แทน


ไหนๆการศึกษาไทย ก็จะยึดแนวการเรียนการสอนแบบเดิมๆ คือ เรียนไปเพื่อสอบ.อยู่แล้ว. ก็เอาหลักสูตรจากติวเตอร์ระดับสุดยอดทั้งหลายมาทำเป็น DVD ให้นร. ดูกันทั้งประเทศซะเลย. ให้มันเหมือนๆกันทุก รร. จะได้ไม่เหลื่อมล้ำ. ครูมีหน้าที่อธิบายเพิ่มเติม ตอบคำถาม คุมทำแล็ป สอนเรื่องวินัย มารยาท หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม จริยธรรม. สอนให้โตไปไม่โกง. ไม่ขายเสียง. สอนเพิ่มให้พวกหัวช้าตามไม่ทัน เป็นที่ปรึกษา ช่วยแก้ปัญหา และอื่นๆ. เลิกเรียน นักเรียนจะได้ไม่ต้องไปเรียนพิเศษอีก เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่ชอบ. เช่น ดนตรี กีฬา

#44 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:06

เท่าที่อ่านความเห็นของใครหลายๆ คนมา ก็เลยคิดว่า  การศึกษาไทยบ้านเรายังไม่เท่าเทียมกันทุกโรงเรียน(อันนี้พูดถึงคุณภาพของการเรียนการสอนนะครับ) ค่านิยมโรงเรียนดังๆ ก็ยังคงอยู่ เพียงเพราะอยากเรียนโรงเรียนที่คิดว่ามีคุณภาพในการสอน แต่เด็กหลายคนก็ยังไปเรียนพิเศษ ไปกวดวิชาเพราะมีเทคนิคการสอนที่ดีกว่าครูในโรงเรียนปกติ


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ





ผู้ใช้ 3 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 3 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน