Tag : สั่งจ่ายประกัน เซ็นทรัล เทเวศประกันภัย เสื้อแดง จลาจล / 05-03-13 21:37 อ่าน : 79
คอลัมน์ : เจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก
ต้องบอกว่าในช่วง 5 วันที่ผ่านมา มีคำตัดสินคดีของศาลแพ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองถึง 3 คดีติดๆกัน
ซึ่งแม้จะเป็นคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับเงินประกันภัย จากกรณีคามเสียหายของห้างสรรพสินค้าที่ถูกเผาในช่วงเหตุการณ์การชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 แต่รายละเอียดของการพิจารณาก็ได้ถูกนำไปบิดเบือนเพื่อเชื่อมโยงไปยังคดีก่อการร้าย ว่าไม่มีอยู่จริง
แต่จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ ก็ต้องมาพิสูจน์กัน
วันนี้ที่ห้องพิจารณาคดี 403 ศาลแพ่ง ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่บริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ผู้ประกอบการศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เป็นโจทก์ ฟ้อง บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย เรื่องประกันภัย
โดยโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทน ตามสัญญาประกันภัยทรัพย์สิน และประกันภัยก่อการร้าย กรณีเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าเซน แยกราชประสงค์ แขวงและเขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 แก่โจทก์ หรือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นเงิน 1,712,199,701.85 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้อง
และขอให้จำเลย ชำระค่าเสียหายเชิงลงโทษให้โจทก์ไม่เกิน 2 เท่าของค่าเสียหายที่แท้จริง จากเหตุการณ์ที่แกนนำ นปช. ประกาศยุติการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น หลังถูกกำลังเจ้าหน้าที่รัฐกดดันกระชับพื้นที่เพื่อสลายการชุมนุม กระทั่งเกิดเหตุการณ์บานปลายนำไปสู่การวางเพลิงเผาห้างเซ็นทรัล เวิลด์
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า ความเสียหายที่โจทก์ได้รับเป็นข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิดหรือไม่ ศาลเห็นว่า ทางนำสืบของจำเลยไม่ปรากฏชัดว่า การก่อวินาศกรรมหรือเหตุการณ์รุนแรง เป็นการกระทำของผู้เข้าร่วมชุมนุมคนใดหรือเป็นการสั่งการโดยแกนนำให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมกระทำการนั้น ส่วนที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช. ปราศรัยแม้จะมีเนื้อหาส่งเสริมความรุนแรง แต่อยู่บนเงื่อนไขว่าถ้ามีการสลายชุมนุมหรือมีการทำร้ายคนเสื้อแดงก็จะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น การปราศรัยของแกนนำดังกล่าวเป็นการทำเพื่อป้องกันไม่ให้มีการสลายการชุมนุมตามที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้น จึงจะถือว่าเป็นการกระทำเพื่อผลทางการเมืองย่อมไม่ได้ การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่และการเลือกตั้งใหม่นั้น ก็ไม่แน่ชัดว่าฝ่ายใดจะชนะและได้จัดตั้งรัฐบาลต่อไป
ส่วนการที่รัฐบาลประกาศขอให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมแต่ผู้ชุมนุมไม่ยุติแล้วยังคงใช้พื้นที่สาธารณะชุมนุมกันต่อไป ซึ่งหากขัดคำสั่งรัฐบาลหรือก่อให้เกิดความดือดร้อนแก่บุคคลอื่นหรือจะมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายใดย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก การชุมนุมเช่นนี้ไม่ได้มีลักษณะเป็นการข่มขู่เพื่อผลทางการเมือง หรือเป็นการชุมนุมเพื่อให้รัฐบาล หรือสาธารณชนตกอยู่ในภาวะตื่น ตระหนก หวาดกลัว การชุมนุมขอกลุ่มคนเสื้อแดงก่อนเกิดเหตุจึงยังรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการกระทำการก่อการร้าย
จึงพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์หรือสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์รวม 1,977,305,182.59 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้อง วันที่ 17 พ.ค.55 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมแก่ศาลในนามโจทก์ และจ่ายค่าทนายความโจทก์ 60,000 บาท
และนั่นก็เป็นคดีที่เกิดขึ้นล่าสุด ซึ่งมีสาระสำคัญนอกจากคำตัดสินก็คือการที่ศาลพิเคราะห์ว่าเหตุการณ์เผาไม่ใช่การก่อการร้าย
อีกหนึ่งคำตัดสินที่มีออกมาในวันนี้ ก็คือศาลแพ่ง พิพากษาให้ บริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)จ่าค่าสินไหมชดแทนให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามสัญญาประกันอัคคีภัยอาคารพาณิชย์ในศูนย์การค้าสยามสแควร์ จำนวน 53 คูหา จากกรณีที่เกิดเพลิงไหม้โรงภาพยนตร์สยาม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม2553
ซึ่งศาลก็ชี้เช่นเดียวกันว่าเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงภาพยนตร์สยามไม่ได้เป็นการก่อความไม่สงบที่เข้าข่ายคำว่า "ก่อการร้าย"แต่เป็นเหตุความปั่นป่วนวุ่นวายที่อยู่ในความหมายของคำว่า "จลาจล"อันเป็นข้อยกเว้นความคุ้มครองตามกรมธรรม์อัคคีภัย จำนวน 3 ฉบับ แต่ประกันอัคคีภัยอีก 2 ฉบับ ไม่มีข้อยกเว้น จึงพิพากษาให้ บริษัทเมืองไทยประกันภัยต้องรับผิดชอบจ่ายค่าสินไหมทดแทนอัคคีภัย ของอาคารพาณิชย์ ทั้ง 2 คูหา จำนวน 1,780,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2553
และถ้าย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีที่กองทุนรวมธุรกิจไทย 4 ที่ 1 กับพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัทเซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด และบริษัทห้างเซ็นทรัล ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จำกัด ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัทเทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยเรื่องผิดสัญญาประกันวินาศภัย และสัญญาประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก เรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวนทุนทรัพย์ 3,838,296,969 บาท จากกรณีเหตุไฟไหม้ห้างฯเซ็นทรัล เวิลด์ ระหว่างการกระชับพื้นที่เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53
และศาลก็พิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบเข้าหักล้างกันแล้วเห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่กรณีก่อการร้าย หรือกรณีอื่น ที่อยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์ศาลจึงพิพากษาให้บริษัท เทเวศประกันภัยฯชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 2,719,734,979.29 บาท สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สิน และ 989,848,850.01 บาท รวมประมาณ 3.7 พันล้านบาทสำหรับความเสียหายต่อธุรกิจหยุดชะงัก พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันที่ 31 มี.ค. 54 จนกว่าจะชำระครบถ้วน พร้อมชำระค่าทนายความอีก 60,000 บาท
ชัดเจนว่าทั้ง 3 คดีเผาศาลไม่ได้บอกว่าเป็นการก่อการร้ายแต่ใช้คำว่าเป็นเหตุจลาจล และก็เป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่นำไปขยายผลเพื่อเข้าข้างตัวเองทันที
นายจตุพร พรหมพันธุ์แกนนำนปช.บอกว่า" เรื่องเผาบ้านเผาเมืองศาลแพ่งก็พิพากษาแล้วว่าไม่ได้เป็นการก่อการร้าย และเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงเซ็นทรัลเวิล์ดก็ยืนยันว่า เสื้อแดงไม่ได้เผา จึงถือเป็นกลเกม
เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับคำตัดสินของศาลในครั้งนี้ ซึ่งเป็นแค่เพียงคดีเรียกร้องค่าประกันภัย ไม่ได้เป็นการตัดสินว่าใครเป็นผู้ลงมือเผา แต่ถึงกระนั้นก็ตามศาลก็บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปในลักษณะของการก่อการจลาจล อันเนื่องมาจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง
ส่วนข้ออ้างว่าไม่ได้เป็นการก่อการร้ายนั้น ก็ไม่สามารถนำมาเป็นคำตอบของการชุมนุมได้ เนื่องจากศาลไม่ได้ตัดสินคดีในภาพรวม ซึ่งเริ่มตั้งแต่การวางแผนชุมนุม เพื่อบรรลุเป้าหมาย และก็มีความเป็นไปได้ว่าการเผานั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนหรือคดีก่อการร้าย ซึ่ง ณ ขณะนี้คดีดังกล่าวก็ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลเป็นที่เรียบร้อย
โดย TnewsOnline
อ่าน 79
05-03-13 21:37