... แม้แต่ การแพ้เลือกตั้งผู้ว่า กทม.
การเลือกผู้ว่าฯ คราวนี้ไม่ได้แสดงถึงเรื่องทางเศรษฐกิจ แต่นี่คือยุทธศาสตร์ทางการเมือง
ไม่ต้องคิดหรอกครับว่า การหาเสียงผิดตรงไหน... การเลือกตัวบุคคลผิดตรงไหน...
ผมบอกเลย สิ่งที่ทำมาทั้งหมดดีแล้ว คุณพงศพัศถือเป็นตัวเลือกที่ดีแล้ว และไม่มีคู่แข่งรายไหนที่จะโหลยโท่ยบ่มิไก๊ ขนาดต้องขุดเอาบรรพบุรุษของตัวเองมาทวงบุญคุณประชาชนขนาด สุขุมพันธ์ อีกแล้ว...
ผมรับประกันว่า หากเป็นการเลือกตั้งที่อื่นๆในโลก คุณพงศพัศจะชนะเลือกตั้งแบบสบายๆแบเบอร์ แต่ไม่ใช่ที่นี่...
ทั้งนี้ก็เพราะเรื่องทั้งหมดนี้ มันไม่ได้สะท้อนถึงเรื่องทางนโยบาย ใครจะทำงานได้ดีกว่ากัน แต่นี่คือสิ่งที่สะท้อนถึงยุทธศาสตร์ทางการเมือง...
ชนชั้นกลาง ชาวเมืองกรุงที่ว่ากันว่าเป็น "คนรุ่นใหม่" แต่แท้จริงแล้วคนพวกนี้นี่แหละมีความเป็น "อนุรักษ์นิยม" มากที่สุด...
พวกเขาไม่เหมือนพวกพี่ๆป้าๆน้าๆคนเสื้อแดงนะครับ ที่ส่วนมากได้พบเจอบุคคลมากมาย ได้สัมผัสกับอะไรๆที่เป็น "ของจริง"
แต่คนพวกนี้พึ่งหลุดพ้นออกจากระบบ ซึ่งก็คือระบบการศึกษา และพอพ้นจากระบบก็เข้าไปสู่ระบบต่ออีก...
ซึ่งอะไรที่เกี่ยวกับการเข้าระบบแบบไทยๆ ทุกท่านก็คงรู้ดีว่าเป็น "แหล่งบ่มเพาะสลิ่มชั้นดี"
และเมื่อรวมกับวิถีชีวิตการประกอบอาชีพของคนพวกนี้ ที่นโยบายทางเศรษฐกิจต่างๆไม่ได้มีผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขาเลย ยิ่งทำให้การชูนโยบายนั้นยิ่งไม่เป็นผล
( อาจมีนะ นโยบายที่ชาวกรุงเห็นแล้วตาลุก เช่น รถไม่ติดอีกต่อไป แต่อันนั้นผมว่าไปตามพระเจ้ามาก็ยังทำไม่ได้ )
พวกท่านไม่ได้แพ้เพราะนโยบาย ไม่ได้แพ้เพราะบุคคล ไม่ได้แพ้เพราะแคมเปญ เพราะฝ่ายตรงข้ามมันไม่มี***อะไรอยู่แล้ว... พวกมันยังยอมรับเองเลยว่า สุขุมพันธ์ นะโหลยโท่ย
แต่ที่ท่านจะแพ้ก็เพราะ "ยุทธศาสตร์ทางการเมือง" ที่ไม่สามารถแทรกเข้าไปในใจกลางดงสลิ่มได้...
วาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง เสียกรุงฯ อาจพึ่งถูกสร้างขึ้นมาไม่นาน แต่เหล่านี้มันเกิดสืบเนื่องจากสิ่งที่มาก่อนหน้านั้นคือ ระบอบทักษิณ และที่สำคัญ "ไม่จงรักภักดี ล้มเจ้า"
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า วาทกรรมเหล่านี้ "จุดติด" แล้ว และก็ยังไม่ดับ... และการจุดติดนั้นน่ะ ก็ไม่ได้มาจากเหตุผลอะไรหนักแน่นที่จะเล่นงานฝ่ายคุณทักษิณหรือพรรคเพื่อไทยในปัจจุบันหรอก แต่มาจากการ "ลงขัน" ที่จะเล่นงานทักษิณตั้งแต่ตอนนั้น โดยเหล่าอภิชนหรือที่เรียกกันว่าอำมาตย์ ( มีใครบ้างคงไม่ต้องกล่าว ) ซึ่งในแง่นี้ บุคคล กลับกลายเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า เหตุผล ในการยืนยันว่าใครเป็นอะไรจริงๆ
เหล่าชาวกรุง คนเมืองทั้งหลาย แม้จะฉาบฉวย กลวง หากแต่อ่อนไหวต่อสิ่งที่เกี่ยวกับสถาบันอย่างยิ่ง เพราะคนเหล่านี้เติบโตขึ้นมาพร้อมกับ อย่างที่บอกไปข้างต้น... แหล่งบ่มเพาะสลิ่มซาบซึ้ง ชั้นดี...
พวกนี้พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อค้านครับ ขอแค่มีอะไรที่เกี่ยวกับทักษิณ เพราะว่ามัน "ฝังหัว" ไปแล้ว และไม่สนหลักการประชาธิปไตยง่ายๆที่ว่า ใครเลือกมาก็ต้องได้โอกาสทำนโยบายของเขาไป 4 ปีก่อนด้วย
เพราะเดิมพันในความคิดของพวกนี้มันสูงกว่านั้นครับ มันคิดไปแล้วว่าทักษิณเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันฯ ไม่ว่าจะแสดงความจงรักภักดีเท่าไหร่... หรือจะเอานโยบายมาล่อ ก็จะไม่เข้าหัวกันแม้แต่น้อย...
สุดท้าย คงไม่เป็นเรื่องที่ผิดถ้าผมจะบอกว่า ยุทธศาสตร์ทางนโยบายแบบทักษิณนั้น คงใช้ไม่ได้ผลแล้ว เมื่อวิกฤติทางการเมืองมันเดินมาถึงขนาดนี้...
จริงๆไม่ใช่แค่เรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ คราวนี้ แต่รวมไปถึงบรรดานโยบายปรองดองต่างๆ การแก้รัฐธรรมนูญ ที่ก็โดนขัดขาตลอดด้วย...
หากคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยอยากให้การเมืองทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ ตามทำนองคลองธรรมในระบอบประชาธิปไตยจริงๆ หยุดการเมืองที่บ้าคลั่งแบบนี้...
เริ่มทำได้แล้วครับ ทำเรื่องการเมืองที่เกี่ยวกับสถาบัน ให้เป็นเรื่องที่คนจะไม่ต้องเป็นตาย มาฆ่ากันเสียที...
http://forum.banrasd...d.php?tid=21236
นับเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสสไตล์กาสรโดยแท้
อ่านแล้วเหนื่อยใจ สปิริตไม่มี ความสำนึกไม่มี ดีแต่โทษฟ้าโทษฝน
นี่หรือสมาชิกคุณภาพและกระทู้คุณภาพที่คนแถวนั้นเขายกย่องกัน