Jump to content


Photo
- - - - -

เพื่ื่อนๆเสรีไทยช่วยตอบ คำเเถของวิทยุชุมชนคนเสื้อเเดง กันหน่อยสิคับ ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้คับ


  • Please log in to reply
21 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 mr.patton

mr.patton

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:12

วิทยุชุมชนประโคมเรื่อง กรณีหุ้นขาย ปตท.หมดใน 77 วินาที  เรื่องหุ้นนั้นมันเเถไป เเบบนี้คับ

*** กรณีหุ้นขายหมดใน 77 วินาที ลองเทียบเคียงกับเรื่องนี้ดูนะ

ผมไม่สามารถตอบได้ถูกต้อง ชัดเจน แน่นอน กับคำถามนี้นะ
เพียงแต่ผมมีเรื่องจะมาเล่า อีกเรื่องนึงที่คล้ายๆ กัน มาเล่าให้คุณฟัง

2-3 ปีก่อน ตอนที่ลูกชายผม เรียน ม.4 จบ แล้วใกล้จะถึง Summer

ตามประสา เด็กสมัยนี้ พอตอนจะปิดเทอม ลูกและเพื่อนๆ ลูก ก็จะชักชวนกัน ไปเรียนพิเศษ 1-2 เดือนช่วง Summer ที่กรุงเทพฯ
ย่านที่มีเด็กๆ เรียนพิเศษกันเยอะมาก คือ แถวๆ สยามสแควร์ และ แถวๆ สี่แยกพญาไท

และสมัยนี้ เวลาเค้าจองเรียนพิเศษกัน เค้าใช้วิธี ไปโอนเงินค่าเรียน พร้อมกับ ระบุชั่วโมงเรียน (ลงรหัส) กันที่ธนาคารเลย
ปีแรกที่ผมจะไปโอนเงินจ่ายค่าเรียนพิเศษให้ลูก ผมไปถึงธนาคารตอน 9 โมงกว่า
พอถึงคิวที่ตัวเองจะต้องทำรายการโอนเงิน เจ้าหน้าที่แบงค์บอกว่า โอนไม่เข้าแล้ว คอร์สนี้ เต็มแล้ว !!!
ผมต้องรับเงินคืนมา แล้วจะกลับออกไป บังเอิญได้เจอพี่คนนึงที่รู้จักกัน และเค้าเป็นระดับหัวหน้าที่ธนาคารสาขานั้น ก็เลยเล่าให้เค้าฟังว่า วันนี้มาทำอะไรทีนี่

คุณรู้มั้ยว่า เค้าตอบผมว่าไง ??? (เอาเท่าที่จำได้คร่าวๆ นะ)
" โถ น้อง ทำไมน้องไม่โทรมาบอกพี่ก่อนล่ะ พี่จะได้ให้ลูกน้อง เค้าคีย์ลงเครื่องรอไว้ตั้งแต่ 8 โมงกว่าๆ เลย
พอระบบ ออนไลน์ของธนาคาร มันเปิด มันก็ไล่ทำรายการที่เข้าคิวไว้ แป๊บเดียวก็เสร็จ รับรองว่า ได้แน่นอน !!! "

หลังจากครั้งนั้นครั้งเดียว ที่ลูกผมลงทะเบียนเรียนพิเศษพลาดคอร์สที่ต้องการ ต้องไปไล่จัดวางแผนใหม่ หมด เพื่อให้ได้เรียนครบทุกวิชา ตามที่วางแผนไว้

ปีต่อมา ทุกปิดเทอมเล็ก/ใหญ่ ลูกผมไม่เคยพลาดอีกเลย อยากเรียนวิชาไหน ตอนกี่โมง ได้ตามที่วางแผนไว้เปี๊ยบ

คุณเข้าใจหรือยัง ???



#2 notcomeng

notcomeng

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,963 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:14

แถแล้วยกตัวอย่างมั่วซั่วแบบนั้น ใน สรท ก็มีครับ  :lol:  :lol:  :lol:



#3 แอบดูที่รูเดิม

แอบดูที่รูเดิม

    ขาประจำอำเช็ด!!!

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,025 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:16

เข้าใจว่าเค้าใช้วิธิพิศดารในการได้มาซึ่งหุ้นโดยไม่ต้องไปยืนต่อคิวกับชาวบ้านให้เสียเวลาครับ


ทำอาชีพยาม เงินเดือนน้อย ไม่ค่อยมีปัญหากะใคร

#4 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:19

ก็เพราะ คนไทย มันเป็น อย่างนี้ ไงครับ " ระบบอุปถัมภ์ "

 

ใครรู้จัก ช่วยกันก่อน ไม่ใช่ ใช้ความยุติธรรม ตามกฏ แต่ใช้ ใครรู้จัก ได้ก่อน

 

หรือในกรณี ผู้หลักผู้ใหญ่ ที่มี อำนาจ ได้ก่อน

 

 

ความยุติธรรม ไม่เคยเกิดบนผืนแผ่นดินไทย เพราะ ผู้ที่มีส่วนได้เสีย

 

มักไม่ยอมให้โอกาส ตกอยู่ในมือ คนที่สมควรได้ อย่างเท่าเทียมกัน

 

 

แต่ ไปใช้ ความมีอำนาจ ความเป็นผู้อุปถัมภ์ และ ความที่เป็นญาติกัน หรือ รู้จักกัน

 

นี่คือ การโกงแบบหนึ่ง ที่เรียกว่า โกงโอกาส

 

 

หากเราคิดว่า เรื่องแบบนี้ เป็น " ธรรมเนียม " ไปแล้ว

 

ทั้งที่เป็น สิ่งผิด สิ่งชั่วร้าย แต่ก็ฝืน จะนับเป็น " ธรรมเนียม " อย่างหนึ่ง (ที่จริงควรใช้ว่า " อธรรมเนียม " เพราะมันไม่เป็นธรรม)

 

ก็ทำกันไป แล้ว เมืองไทย คุณธรรม มันจะได้ตกต่ำ สืบกันไป ถึง รุ่นสุดท้าย

 

คงได้เห็น การแ่่ก่งแย่ง กันกลางถนน ให้ดูกันบ้างล่ะ (หลังจาก คุณธรรมไม่เหลือ ในสังคมแล้ว)


ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#5 antiseptic

antiseptic

    น้องใหม่และซิง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,672 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:19

แสดงว่าถ้าเป็นลูกตาสีตาสาไม่รู้จักพนักงานแบงค์ก็คงไม่ได้เรียนสินะ
"We all make choices. But in the end, our choices make us."Andrew Ryan

#6 raffy

raffy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,517 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:21

แล้วเสื้อแดงว่าไงต่อครับอยากฟัง
เห็นเล่นหนักเหลือเกินเรื่องนี้
ส่วนไอ้เรื่องนั้นมันก็ชาชินเสียแล้วกับระบบและกฏของบ้านเรา

#7 แอบดูที่รูเดิม

แอบดูที่รูเดิม

    ขาประจำอำเช็ด!!!

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,025 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:22

แสดงว่าถ้าเป็นลูกตาสีตาสาไม่รู้จักพนักงานแบงค์ก็คงไม่ได้เรียนสินะ

 

แนะนำให้พาบุตรหลานเรียนโรงเรียนวัดแถวบ้านไปก่อน ไว้มีตังค์ค่อยมาคุยกับเรานะครับ


ทำอาชีพยาม เงินเดือนน้อย ไม่ค่อยมีปัญหากะใคร

#8 mr.patton

mr.patton

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:23

บทเรียนที่เจ็บแล้วต้องจำ: 1 นาที 17 วินาที 

คนไทยกับหุ้น ปตท.ทักษิณไม่มีส่วนรู้เห็น (คุณเชื่อหรือไม่)
เมื่อ 2544 ปีก่อนการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย(ปตท.)เป็นรัฐวิสาหกิจที่ถูกแปลงสภาพเป็นบริษัทปตท. จำกัด(มหาชน) ด้วยการกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์แต่จากการตรวจสอบการกระจายหุ้น ปตท.ในครั้งนั้นของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) พบว่ามีนักการเมืองและญาติสนิทของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมในสมัยนั้น
ได้รับการจัดสรรหุ้นมากที่สุด
โดยอันดับ 1 คือ
นายทวีฉัตร จุฬางกูร หลานชายแท้ ๆ ของนายสุริยะ
ได้รับการจัดสรรหุ้นมากถึง 2.2 ล้านหุ้น
อันดับ 2 นายประยุทธ มหากิจศิริ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้รับการจัดสรรหุ้นจำนวน
2.06 ล้านหุ้น นอกจากนี้ภรรยาและบุตรของนายประยุทธคือนางสุวิมล และนายเฉลิมชัยมหากิจศิริ ยังได้รับการกระจายหุ้นอีก 1.546 ล้านหุ้นและ 1.5 ล้านหุ้น ตามลำดับ(รวมหุ้นที่ตระกูลมหากิจศิริได้รับคือ5.106 ล้านหุ้น)

ทำไมหุ้นมากมายถึงไปกองอยู่ในมือของคนเหล่านี้
กลต. ในฐานะผู้ดูแลได้อธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า
การที่นายทวีฉัตรได้รับการจัดสรรหุ้นสูงสุด 2.2 ล้านหุ้น
เพราะรับจัดสรรในรูปการจองผ่านธนาคารพาณิชย์ 1 แสนหุ้น ในฐานะลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์และเป็นหุ้นในส่วนของผู้มีอุปการคุณของ ปตท. อีก 2.1 ล้านหุ้น

ส่วนรายของนายประยุทธและนางสุวิมล มหากิจศิริ นั้น กลต. ก็ได้ชี้แจงว่า นายประยุทธได้ซื้อผ่านธนาคาร 1 แสนหุ้นและได้รับการจัดสรรผ่านบริษัทหลักทรัพย์และในฐานะผู้มีอุปการคุณอีก 1.96 ล้านหุ้นส่วนของนางสุวิมลก็ซื้อผ่านธนาคาร 1.1 ล้านหุ้น และจัดสรรผ่านตลาดหลักทรัพย์และในฐานะผู้มีอุปการคุณอีก
4.46 แสนหุ้น ซึ่งการกระจายหุ้นทั้งหมดนี้ กลต. ถือว่าถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทุกประการ


ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษ ได้กล่าวถึงกระบวนการยึดหุ้นของปตท.เมื่อครั้งนั้นว่า
“การขายหุ้น ปตท. ใช้เวลาในการขายทั้งหมดทั้งสิ้น
1 นาที 17 วินาที ประชาชนที่อยากจะเป็นเจ้าของหุ้น ปตท. ตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปที่ธนาคารแล้วเข้าแถวคอย
แม้ให้เป็นคนแรกในแถว แค่กรอกชื่อที่อยู่ รหัสไปรษณีย์
แล้วให้เทลเลอร์เค้าคีย์ชื่อที่อยู่ลงในคอมพิวเตอร์ก็เกิน 1นาที 17
วินาทีเรียบร้อยแล้ว“

ดร.วุฒิพงษ์อธิบายต่อไปว่าหุ้นที่ถูกยึดไปทั้งหมดนั้นไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียวถ้าสามารถควบคุมกลไกในการปั่นหุ้นตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยได้ยกตัวอย่างว่า

“เวลาขายหุ้น ปตท. รัฐบาลบีบเอาหุ้นปตท. ออกมาขาย 30% เหมือนที่กำลังจะทำกับ กฟผ. (รัฐบาลกำหนดให้นำไปกระจายในตลาดหลักทรัพย์25%) สำหรับกรณี ปตท. คิดเป็นหุ้นทั้งหมด 800 ล้านหุ้น ราคาจองที่เรียกว่า IPO(ราคาเสนอขายตอนต้น)
คือ 35 บาท(ต่อหุ้น) หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 28,000 ล้านบาท
หลังจากนั้นก็ป้อนข่าวดี ๆ เกี่ยวกับ ปตท. (หลังจากปล่อยให้หุ้นนิ่งและตกลงไปเล็กน้อยอยู่ช่วงหนึ่งส่งผลให้นักเล่นหุ้นรายเล็กประเภทแมลงเม่าต้องปล่อยขายออกมา)
เช่นบอกว่าต่อไปเมืองไทยจะเป็นศูนย์กลางของพลังงาน เป็น hub ไฟฟ้า เป็น hub พลังงาน ราคาหุ้น ปตท. ก็พุ่งขึ้นไปจาก 35บาท กลายมาเป็นเกือบ 200 บาท คิดง่าย ๆ ที่ 160 บาทต่อหุ้น จะเป็นมูลค่า 128,000 ล้านบาทต่อไปทำยังไงครับ เอาต้นทุน 28,000 ล้านบาทของท่านเก็บไว้ก่อนเพราะไม่ต้องใช้แล้วแล้วก็นำเอา 100,000 ล้านบาทที่กำไรมาซื้อหุ้น ปตท. แต่ก่อนซื้อท่านต้องทุบหุ้นปตท. ให้ตกลงมาเหลือ 30 กว่าบาทเสียก่อน ถ้าราคาหุ้น ปตท. เหลือ 30 กว่าบาท เงิน 100,000 ล้านบาทที่อยู่ในมือ ไม่ได้ซื้อ ปตท. 30% อีกแล้ว แต่สามารถซื้อ ปตท. ได้ทั้ง 100%เลย”

ตัวเลขรายรับทั้งหมดเป็นเพียงการเสนอภาพตัวอย่างให้เข้าใจถึงกระบวนการปั่นหุ้นทุบหุ้นและโอกาสในการที่จะฮุบกิจการของปตทที่ได้แปรรูปเป็นบริษัทเอกชนแต่ตัวเลขราคาหุ้นที่ขึ้นจาก 35 บาทเป็น 160 บาทนั้นเป็นตัวเลขที่ได้เกิดขึ้นจริงๆ ในช่วงที่ผ่านมา การที่นายทวีฉัตรหลานชายของนายสุริยะได้รับการจัดสรรหุ้นสูงสุด 2.2ล้านหุ้น โดยใช้เงินลงทุนเพียง 3.5 ล้านบาทกับหุ้น 1 แสนหุ้นเท่านั้น(เพราะอีก 2.1ล้านหุ้นได้รับในฐานะผู้มีอุปการคุณต่อ ปตท.) ทำให้เขามีรายได้มากถึง 352 ล้านบาทจากราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมาส่วนกลุ่มตระกูล “มหากิจศิริ”
ซึ่งมีหุ้นรวมกันแล้วอยู่ 5.106ล้านหุ้นจะมีรายได้มากกว่า 800 ล้านบาทจากราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น

เป็นความร่ำรวยอย่างมหาศาลที่เกิดขึ้นในพริบตา
ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่น ๆ (ส่วนใหญ่คือนักการเมืองและผู้ใกล้ชิด)ก็มีอาการร่ำรวยโดยพริบตาในลักษณะเดียวกันแทบทั้งสิ้น

สุทธิชัย หยุ่น
คอลัมนิสต์ชื่อดัง มองปรากฏการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการกระทำของคนไม่กี่ตระกูลที่กำลังขายของหลวงเพื่อเอารายได้นั้นมาซื้อประเทศการกระจายหุ้นของ ปตท.ได้ถูกรัฐบาลนำมาโฆษณาโดยตลอดว่าทำให้กิจการของ บริษัท ปตท. พัฒนาก้าวหน้ามากขึ้นกลายเป็นบริษัทชั้นนำที่สำคัญอยู่ในลำดับต้น ๆ ใตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการเพิ่มทุนกระจายหุ้นเพิ่มเติม มีผลตอบแทนที่ดีและมีเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ

แต่ความจริงก็คือ
การดำเนินกิจการของบริษัท ปตท. ไม่เคยส่งผลให้
ราคาน้ำมันที่ประชาชนต้องจ่ายให้ลดลงแต่อย่างใดและกลับเพิ่มสูงขึ้นโดยตลอด
รายได้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ปตท. นั้นส่วนหนึ่งมาจากเงินภาษีของประชาชนที่รัฐบาลเอามาตั้ง
เป็นกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อชดเชยราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
ซึ่งพบว่าตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2547 จนถึงวันที่ 19 เม.ย.2547 เป็นเวลา 100
วันรัฐบาลต้องจ่ายเงินให้กับบริษัท ปตท. และบริษัทน้ำมันต่างชาติอื่น ๆ
ไปแล้วถึงกว่า 6 พันล้านบาท
ขณะที่นักวิชาการส่วนหนึ่งได้แสดงความเห็นคัดค้านการใช้เงินชดเชยดังกล่าวว่า
ไม่ได้ส่งผลดีโดยรวมต่อประเทศชาติแต่อย่างใด ที่สำคัญที่สุดคือ
ทำให้ประชาชนไม่ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน
ซึ่งหากปล่อยให้เนิ่นนานไปความหายนะทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า
เพราะเป็นการเอาเงินของประชาชนมาอุ้มธุรกิจเอกชนโดยไม่มีขีดจำกัดและไร้การควบคุม
เป็นการเอาเงินของชาติมาหาเสียงในขณะเดียวกันเม็ดเงินทั้งหมดนี้ก็ตกไปอยู่กับนักธุรกิจพวกพ้อง
เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

สำหรับเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น
ประชาชนก็ต้องจ่ายให้ผ่านทางค่าไฟฟ้าในส่วนของค่าเอฟที ซ้ำการขยายกิจการของ บริษัท
ปตท. เพื่อผลกำไรของตัวเองก็ยังเป็นไปโดยขาดความรับผิดชอบต่อประชาชน
โดยดูได้จากกรณีที่โรงไฟฟ้าต้องปรับแผนมาใช้น้ำมันเตาที่มีราคาสูงกว่ามาผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซที่ขาดหายไปเนื่องจาก
บริษัท ปตท. ไม่ได้ส่งก๊าซมาให้เพราะต้องทำการปรับขยายท่อส่งก๊าซของตนเองอยู่
การกระจายหุ้นที่ไม่เป็นธรรมของ
ปตท. ดังกล่าว เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากและทำให้แผนการนำ กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่เป็นที่ไว้วางใจจากประชาชนและพนักงานรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป
จนรัฐบาลทักษิณต้องออกมาประกาศว่าจะไม่ปล่อยให้มีหุ้นในส่วนของผู้มีอุปการะอีก
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเคลือบแคลงสงสัยที่เกิดขึ้นหมดไปได้ง่าย ๆ
เพราะยังมีช่องทางหลีกเลี่ยงอีกมากมายหลายวิธีที่จะทำให้หุ้นส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือของนักการเมือง
นักธุรกิจเพียงไม่กี่กลุ่ม กี่ตระกูล



#9 raffy

raffy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,517 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:31

ต่อเลยครับ
เห็นได้ข่าวมาเหมือนกันว่าจะไปปิดกระทรวงพลังงาน
จะไปเมื่อไร แล้วเขาหวังผลขนาดไหน
แต่รู้มาว่าไอ้โกตี๋มันจะไปด้วยช่วยบอกตึกให้ถูกๆ ด้วยละกัน

#10 mr.patton

mr.patton

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:37

แล้วเสื้อแดงว่าไงต่อครับอยากฟัง
เห็นเล่นหนักเหลือเกินเรื่องนี้
ส่วนไอ้เรื่องนั้นมันก็ชาชินเสียแล้วกับระบบและกฏของบ้านเรา

เขาเข้ามาลบที่โพสด์ไว้ไป

เเล้วละคับ เขาเห็นผมตอบเรื่องเผาเมืองเขาคงกลัวไปตอบเรื่องหุ้น ปตท.มั่งคับ เเต่วิทยุชุมชนเเถวบ้านก็ยังเล่นเรื่องนี้อยู่พูดวนอยู่เเต่เรื่องนี้ เเละใส่ร้ายว่าอำมาตย์คือตัวการเป็นมือที่มองไม่เห็นทำให้นำ้มันเเพงของกินใช้เเพง นำ้ท่วม นำ้เเล้ง  ขัดขวางรัฐบาลพรรคข้าวเน่าของพวกมันทุกวิธีทาง 



#11 Majestic

Majestic

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,509 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:37

คอร์สเรียน 1 ห้อง คนเรียน 30-40 คน

แต่ความต้องการมากกว่านั้นเพราะเป็นที่ยอดนิยม ปกติธนาคารเปิดเวลา 8:30

แต่ไปถึงธนาคารทำรายการตอน 9 โมงกว่า ช้าไป 1 ชั่วโมงเศษ ก็ไม่แปลกที่จะเต็ม

 

แต่หุ้น ปตท. มีจำนวน 2,856,299,625 หุ้น (ข้อมูลอาจผิดพลาด ดูข้อมูลจาก settrade.com)

ตีว่า หุ้น ถูกจัดสรร ให้กับ กระทรวงการคลังไป 50% เท่ากับเหลือหุ้นอีก 1.4 พันล้านให้ซื้อขายกัน

ปัญหาคือ หุ้นมันเต็มเร็วเกินไป ถ้าไม่มีการล๊อคว่าจะขายให้ใคร ต้องใช้ระยะเวลานานกว่านี้แน่



#12 mr.patton

mr.patton

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:39

ต่อเลยครับ
เห็นได้ข่าวมาเหมือนกันว่าจะไปปิดกระทรวงพลังงาน
จะไปเมื่อไร แล้วเขาหวังผลขนาดไหน
แต่รู้มาว่าไอ้โกตี๋มันจะไปด้วยช่วยบอกตึกให้ถูกๆ ด้วยละกัน

เห็นประกาศมาว่า วันที่26มีค.นี้ เเต่ก็ยังไม่เห็นระดับเเกนนำออกมาพูดอะไร  ใครมีข่าวนี้เพิ่มเติมช่วยลงให้ชมกันที่สิคับ เเต่ผมไม่เชื่อ"นำ้ลาย"มันหร่อกคับ



#13 mr.patton

mr.patton

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:45

ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาช่วยตอบ คับ



#14 ช่อมัลลิกา

ช่อมัลลิกา

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,773 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:46

คุณรู้ไหมค่ะ เรื่องระบุเส้นสาย อุปถัมภ์หน่ะ มันมีทุกสังคม

และไม่แบ่งแยก สลิ่มไม่สลิมด้วยนะคะ

กรณีของหุ้น ปตท ที่ขายไม่ถึง 2 นาที....

วิทยุฟายแดงจะคิดว่าระบบอำมาตย์เหรอค่ะ

โถ  ก็พวกอำมาตย์แดงทั้งนั้นแหล่ะค่ะ...ด่าทั้งทีก็ขว้างงูไม่พ้นคอ

 

ระดับพ่อ เทพเจ้าของฟายแดง ทักกี้หน่ะค่ะ

เป้นตัวอย่างที่ดีที่วิทยุฟายแดงน่าจะเอาไปออกด้วยนะคะ

ก่อนปล่อยค่าเงินบาทลอยตัว ......ตุนเอาไว้และได้กำไรจาก

เงินบาทลอยตัวไปกี่พัน กี่ หมื่นล้านหล่ะค่ะ



#15 JUR1ST

JUR1ST

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,803 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:53

ผมว่าพวกเสื้อแดงชอบระบบอุปถัมภ์ที่สุด แค่ขอให้พวกมันได้ประโยชน์เท่านั้นมันก็ไม่แคร์อะไรแล้ว 



#16 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:58

บทเรียนที่เจ็บแล้วต้องจำ: 1 นาที 17 วินาที 

คนไทยกับหุ้น ปตท.ทักษิณไม่มีส่วนรู้เห็น (คุณเชื่อหรือไม่)
เมื่อ 2544 ปีก่อนการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย(ปตท.)เป็นรัฐวิสาหกิจที่ถูกแปลงสภาพเป็นบริษัทปตท. จำกัด(มหาชน) ด้วยการกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์แต่จากการตรวจสอบการกระจายหุ้น ปตท.ในครั้งนั้นของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) พบว่ามีนักการเมืองและญาติสนิทของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมในสมัยนั้น
ได้รับการจัดสรรหุ้นมากที่สุด
โดยอันดับ 1 คือ
นายทวีฉัตร จุฬางกูร หลานชายแท้ ๆ ของนายสุริยะ
ได้รับการจัดสรรหุ้นมากถึง 2.2 ล้านหุ้น
อันดับ 2 นายประยุทธ มหากิจศิริ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้รับการจัดสรรหุ้นจำนวน
2.06 ล้านหุ้น นอกจากนี้ภรรยาและบุตรของนายประยุทธคือนางสุวิมล และนายเฉลิมชัยมหากิจศิริ ยังได้รับการกระจายหุ้นอีก 1.546 ล้านหุ้นและ 1.5 ล้านหุ้น ตามลำดับ(รวมหุ้นที่ตระกูลมหากิจศิริได้รับคือ5.106 ล้านหุ้น)

ทำไมหุ้นมากมายถึงไปกองอยู่ในมือของคนเหล่านี้
กลต. ในฐานะผู้ดูแลได้อธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า
การที่นายทวีฉัตรได้รับการจัดสรรหุ้นสูงสุด 2.2 ล้านหุ้น
เพราะรับจัดสรรในรูปการจองผ่านธนาคารพาณิชย์ 1 แสนหุ้น ในฐานะลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์และเป็นหุ้นในส่วนของผู้มีอุปการคุณของ ปตท. อีก 2.1 ล้านหุ้น

ส่วนรายของนายประยุทธและนางสุวิมล มหากิจศิริ นั้น กลต. ก็ได้ชี้แจงว่า นายประยุทธได้ซื้อผ่านธนาคาร 1 แสนหุ้นและได้รับการจัดสรรผ่านบริษัทหลักทรัพย์และในฐานะผู้มีอุปการคุณอีก 1.96 ล้านหุ้นส่วนของนางสุวิมลก็ซื้อผ่านธนาคาร 1.1 ล้านหุ้น และจัดสรรผ่านตลาดหลักทรัพย์และในฐานะผู้มีอุปการคุณอีก
4.46 แสนหุ้น ซึ่งการกระจายหุ้นทั้งหมดนี้ กลต. ถือว่าถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทุกประการ


ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษ ได้กล่าวถึงกระบวนการยึดหุ้นของปตท.เมื่อครั้งนั้นว่า
“การขายหุ้น ปตท. ใช้เวลาในการขายทั้งหมดทั้งสิ้น
1 นาที 17 วินาที ประชาชนที่อยากจะเป็นเจ้าของหุ้น ปตท. ตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปที่ธนาคารแล้วเข้าแถวคอย
แม้ให้เป็นคนแรกในแถว แค่กรอกชื่อที่อยู่ รหัสไปรษณีย์
แล้วให้เทลเลอร์เค้าคีย์ชื่อที่อยู่ลงในคอมพิวเตอร์ก็เกิน 1นาที 17
วินาทีเรียบร้อยแล้ว“

ดร.วุฒิพงษ์อธิบายต่อไปว่าหุ้นที่ถูกยึดไปทั้งหมดนั้นไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียวถ้าสามารถควบคุมกลไกในการปั่นหุ้นตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยได้ยกตัวอย่างว่า

“เวลาขายหุ้น ปตท. รัฐบาลบีบเอาหุ้นปตท. ออกมาขาย 30% เหมือนที่กำลังจะทำกับ กฟผ. (รัฐบาลกำหนดให้นำไปกระจายในตลาดหลักทรัพย์25%) สำหรับกรณี ปตท. คิดเป็นหุ้นทั้งหมด 800 ล้านหุ้น ราคาจองที่เรียกว่า IPO(ราคาเสนอขายตอนต้น)
คือ 35 บาท(ต่อหุ้น) หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 28,000 ล้านบาท
หลังจากนั้นก็ป้อนข่าวดี ๆ เกี่ยวกับ ปตท. (หลังจากปล่อยให้หุ้นนิ่งและตกลงไปเล็กน้อยอยู่ช่วงหนึ่งส่งผลให้นักเล่นหุ้นรายเล็กประเภทแมลงเม่าต้องปล่อยขายออกมา)
เช่นบอกว่าต่อไปเมืองไทยจะเป็นศูนย์กลางของพลังงาน เป็น hub ไฟฟ้า เป็น hub พลังงาน ราคาหุ้น ปตท. ก็พุ่งขึ้นไปจาก 35บาท กลายมาเป็นเกือบ 200 บาท คิดง่าย ๆ ที่ 160 บาทต่อหุ้น จะเป็นมูลค่า 128,000 ล้านบาทต่อไปทำยังไงครับ เอาต้นทุน 28,000 ล้านบาทของท่านเก็บไว้ก่อนเพราะไม่ต้องใช้แล้วแล้วก็นำเอา 100,000 ล้านบาทที่กำไรมาซื้อหุ้น ปตท. แต่ก่อนซื้อท่านต้องทุบหุ้นปตท. ให้ตกลงมาเหลือ 30 กว่าบาทเสียก่อน ถ้าราคาหุ้น ปตท. เหลือ 30 กว่าบาท เงิน 100,000 ล้านบาทที่อยู่ในมือ ไม่ได้ซื้อ ปตท. 30% อีกแล้ว แต่สามารถซื้อ ปตท. ได้ทั้ง 100%เลย”

ตัวเลขรายรับทั้งหมดเป็นเพียงการเสนอภาพตัวอย่างให้เข้าใจถึงกระบวนการปั่นหุ้นทุบหุ้นและโอกาสในการที่จะฮุบกิจการของปตทที่ได้แปรรูปเป็นบริษัทเอกชนแต่ตัวเลขราคาหุ้นที่ขึ้นจาก 35 บาทเป็น 160 บาทนั้นเป็นตัวเลขที่ได้เกิดขึ้นจริงๆ ในช่วงที่ผ่านมา การที่นายทวีฉัตรหลานชายของนายสุริยะได้รับการจัดสรรหุ้นสูงสุด 2.2ล้านหุ้น โดยใช้เงินลงทุนเพียง 3.5 ล้านบาทกับหุ้น 1 แสนหุ้นเท่านั้น(เพราะอีก 2.1ล้านหุ้นได้รับในฐานะผู้มีอุปการคุณต่อ ปตท.) ทำให้เขามีรายได้มากถึง 352 ล้านบาทจากราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมาส่วนกลุ่มตระกูล “มหากิจศิริ”
ซึ่งมีหุ้นรวมกันแล้วอยู่ 5.106ล้านหุ้นจะมีรายได้มากกว่า 800 ล้านบาทจากราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น

เป็นความร่ำรวยอย่างมหาศาลที่เกิดขึ้นในพริบตา
ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่น ๆ (ส่วนใหญ่คือนักการเมืองและผู้ใกล้ชิด)ก็มีอาการร่ำรวยโดยพริบตาในลักษณะเดียวกันแทบทั้งสิ้น

สุทธิชัย หยุ่น
คอลัมนิสต์ชื่อดัง มองปรากฏการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการกระทำของคนไม่กี่ตระกูลที่กำลังขายของหลวงเพื่อเอารายได้นั้นมาซื้อประเทศการกระจายหุ้นของ ปตท.ได้ถูกรัฐบาลนำมาโฆษณาโดยตลอดว่าทำให้กิจการของ บริษัท ปตท. พัฒนาก้าวหน้ามากขึ้นกลายเป็นบริษัทชั้นนำที่สำคัญอยู่ในลำดับต้น ๆ ใตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการเพิ่มทุนกระจายหุ้นเพิ่มเติม มีผลตอบแทนที่ดีและมีเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ

แต่ความจริงก็คือ
การดำเนินกิจการของบริษัท ปตท. ไม่เคยส่งผลให้
ราคาน้ำมันที่ประชาชนต้องจ่ายให้ลดลงแต่อย่างใดและกลับเพิ่มสูงขึ้นโดยตลอด
รายได้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ปตท. นั้นส่วนหนึ่งมาจากเงินภาษีของประชาชนที่รัฐบาลเอามาตั้ง
เป็นกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อชดเชยราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
ซึ่งพบว่าตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2547 จนถึงวันที่ 19 เม.ย.2547 เป็นเวลา 100
วันรัฐบาลต้องจ่ายเงินให้กับบริษัท ปตท. และบริษัทน้ำมันต่างชาติอื่น ๆ
ไปแล้วถึงกว่า 6 พันล้านบาท
ขณะที่นักวิชาการส่วนหนึ่งได้แสดงความเห็นคัดค้านการใช้เงินชดเชยดังกล่าวว่า
ไม่ได้ส่งผลดีโดยรวมต่อประเทศชาติแต่อย่างใด ที่สำคัญที่สุดคือ
ทำให้ประชาชนไม่ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน
ซึ่งหากปล่อยให้เนิ่นนานไปความหายนะทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า
เพราะเป็นการเอาเงินของประชาชนมาอุ้มธุรกิจเอกชนโดยไม่มีขีดจำกัดและไร้การควบคุม
เป็นการเอาเงินของชาติมาหาเสียงในขณะเดียวกันเม็ดเงินทั้งหมดนี้ก็ตกไปอยู่กับนักธุรกิจพวกพ้อง
เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

สำหรับเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น
ประชาชนก็ต้องจ่ายให้ผ่านทางค่าไฟฟ้าในส่วนของค่าเอฟที ซ้ำการขยายกิจการของ บริษัท
ปตท. เพื่อผลกำไรของตัวเองก็ยังเป็นไปโดยขาดความรับผิดชอบต่อประชาชน
โดยดูได้จากกรณีที่โรงไฟฟ้าต้องปรับแผนมาใช้น้ำมันเตาที่มีราคาสูงกว่ามาผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซที่ขาดหายไปเนื่องจาก
บริษัท ปตท. ไม่ได้ส่งก๊าซมาให้เพราะต้องทำการปรับขยายท่อส่งก๊าซของตนเองอยู่
การกระจายหุ้นที่ไม่เป็นธรรมของ
ปตท. ดังกล่าว เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากและทำให้แผนการนำ กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่เป็นที่ไว้วางใจจากประชาชนและพนักงานรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป
จนรัฐบาลทักษิณต้องออกมาประกาศว่าจะไม่ปล่อยให้มีหุ้นในส่วนของผู้มีอุปการะอีก
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเคลือบแคลงสงสัยที่เกิดขึ้นหมดไปได้ง่าย ๆ
เพราะยังมีช่องทางหลีกเลี่ยงอีกมากมายหลายวิธีที่จะทำให้หุ้นส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือของนักการเมือง
นักธุรกิจเพียงไม่กี่กลุ่ม กี่ตระกูล

 

ถ้าไม่มีส่วนของหุ้นสำหรับผู้มีอุปการคุณ น่าจะยุติธรรมกว่านี้ครับ สมบัติของชาติ คุณเอาไปขายให้ในฐานะผู้มีอุปการคุณหรอ ไม่ทราบว่ามีอุปการคุณต่อชาติมากกว่าคนอื่นตรงไหน



#17 mr.patton

mr.patton

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:01

แล้วเสื้อแดงว่าไงต่อครับอยากฟัง
เห็นเล่นหนักเหลือเกินเรื่องนี้
ส่วนไอ้เรื่องนั้นมันก็ชาชินเสียแล้วกับระบบและกฏของบ้านเรา

เขาเข้ามาลบที่โพสด์ไว้ไป

เเล้วละคับ เขาเห็นผมตอบเรื่องเผาเมืองเขาคงกลัวไปตอบเรื่องหุ้น ปตท.มั่งคับ เเต่วิทยุชุมชนเเถวบ้านก็ยังเล่นเรื่องนี้อยู่พูดวนอยู่เเต่เรื่องนี้ เเละใส่ร้ายว่าอำมาตย์คือตัวการเป็นมือที่มองไม่เห็นทำให้นำ้มันเเพงของกินใช้เเพง นำ้ท่วม นำ้เเล้ง  ขัดขวางรัฐบาลพรรคข้าวเน่าของพวกมันทุกวิธีทาง 

เขาลบที่โพสดเเล้วเอาไปโพสด์ต่ออีกห้องหนึ่งคับคุณ raffy  เขาโพสด์ไว้ดังนี้คับ  ดูๆเเล้วมันเหมือนที่ ทางวิทยุเสื้อเเดงโฆษณาช่วนเชื่อไว้เลยเหมือนถอดคำต่อคำเลยคับ>> สำหรับคนที่พูดถึงเรื่องหุ้น

1.ทำไมต้องปันผลให้ผู้ถือหุ้น
ตอบ: เพราะผู้ถือหุ้นถือเป็นนักลงทุน นักลงทุนย่อมแสวงหาผลตอบแทน เช่นเดียวกับคนทั่วไปที่ฝากเงินเข้าแบงค์ย่อมแสวงหาดอกเบี้ยเงินฝาก แต่การปันผลให้ผู้ถือหุ้นปีที่ผ่านๆมาต่ำมาก ปี 55 ปันผลเพียง 12 บาท ปี 54 ปันผล 11.50 บาท คิดจากราคาหุ้นที่ 330 บาท คิดเป็น 3.6% เท่านั้น เท่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำเลย (และเงินปันผลเหล่านี้ต้องเสียภาษีด้วย)
--------
2.ผู้ถือหุ้นโกงชาติ ซื้อหุ้นไป 30 บาท ตอนนี้ราคา 356 บาท กำไรสิบกว่าเท่า!!
ตอบ: เป็นเรื่องปกติของการลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อบริษัทเติบโต ราคาควรจะเพิ่มขึ้นตามมูลค่าบริษัท เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วตอน ปตท.เข้าตลาดใหม่ๆที่ 30 หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ ราคาร่วงลงไปอีก แต่ไม่มีคนซื้อ.. (จำได้ว่าเคยเห็น 28-29 บาท) ทุกคนที่อยู่ในตลาดหุ้น ณ เวลานั้น มีสิทธิซื้อทุกคน ต่ำกว่าราคา IPO อีก หากคุณไม่ได้ซื้อในเวลานั้น คุณไม่สามารถโทษคนที่ซื้อในเวลานั้น แล้วปัจจุบันได้กำไรว่าเอาเปรียบชาติได้หรอกครับ มันก็เหมือนกับการลงทุนทั่วไปที่ผู้ลงทุนต้องรับความเสี่ยง ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะโจมตีผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นมาตั้งแต่ 30 บาทแล้วกำไรสิบกว่าเท่า เพราะคุณเองก็มีสิทธิ แต่คุณไม่ซื้อ ข้อโจมตีที่บอกว่าขายหุ้นหมด คนทั่วไปไม่มีสิทธิซื้อ ซื้อได้เฉพาะคนในนั้นไม่จริง จริงอยู่คนทั่วไปอาจจะไม่มีสิทธิซื้อก่อนวันเข้าตลาดวันแรก (IPO) เพราะจำนวนหุ้นมีจำกัด (ปัจจุบันหุ้นใหม่ๆที่เข้าตลาดทุกตัว โควต้าการซื้อ IPO จะขึ้นอยู่กับผู้แทนจัดขายหุ้น หรือโบรกเกอร์นั้นๆ ว่าจะจัดสรรให้ลูกค้าของตัวเองเท่าไหร่ มันเป็นแบบนี้มาตลอด และจะเป็นต่อไป นักลงทุนไม่เคยมีใครตัดพ้อว่าไม่ยุติธรรม) แต่หลังจากเข้าตลาดไปแล้ว ทุกคนมีสิทธิซื้อ (แถมดันถูกกว่าตอนแรกซะอีก) ข้อมูลย้อนหลังมีครับ สามารถไปเช็คได้ นอกจากนี้ เมื่อไปเทียบกับหุ้นอื่นๆที่เข้าตลาด หลายตัวราคาเพิ่มสูงกว่า ปตท. มาก อย่างเช่น CPN (เซ็นทรัล) หากใครซื้อที่ราคา IPO แล้วถือมาจนถึงปัจจุบัน จะมีกำไรประมาณ 5,700% หรือ 57 เท่า มากกว่า ปตท. หลายขุมเลยทีเดียว
-------
หากคนที่เล่นหุ้นไม่เป็น หรือไม่มีความรู้เรื่องหุ้น แนะนำอย่าให้นำประเด็นนี้มาโจมตีปตท.เลยครับ พลาดขึ้นมาแล้วมันจะเขินนะครับ<<   

 

 

>> เหตุใดหุ้นจึงขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาที

เพราะคนสนใจจองเยอะครับ ก็ต้องตามลำดับpriority ของผู้ได้รับโควต้าไป ปกติเวลาขายIPO เขาก็จะไปเสนอให้ลูกค้ารายใหญ่ก่อน รายย่อยได้ลำดับถัดๆไปเป็นปกติของระบบอยู่แล้ว

เพียงแต่ว่าคนที่สนใจจริงๆ ก็จะได้ซื้อในอีกไม่กี่เดือนต่อมาอยู่ดี ช่วงที่ราคาร่วงต่ำกว่าIPO นานหลายเดือนเลยครับ ช่วงนั้น คนที่อยากได้แต่แรกจริงๆก็เข้ามาช้อนซื้อสบาย ส่วนพวกที่ไม่ได้อยากได้จริงๆจังๆก็ไม่ได้ซื้อ แล้วก็มาพูดเอามันว่า อยากได้แต่จองไม่ทัน สงสัยนักการเมืองเอาไปหมด พูดตอนหวยออกแล้วว่าตอนนี้ราคาหุ้นมันแพง แต่ตัวเองซื้อไม่ทันเพราะขายหมดในไม่กี่นาที โดยไม่พูดถึงข้อเท็จจริงว่า ตอนที่มันถูกก็ไม่ซื้อเอง พวกเซียนหลังหวยออกก็แบบนี้แหละครับ รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้<<



#18 raffy

raffy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,517 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:18

ขอบคุณท่านmr.pattonที่ให้ข้อมูลครับ

#19 idolation

idolation

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,996 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:15

คำถามคือทำไมต้องขายปตท.
รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ร่วมกันต้าน ตระกูลชินวัตร

#20 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:31

ผมตีความหมายได้ว่า  ไม่มีอะไรผิดเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่เกิดขึ้นดาษดื่นในสังคม  สำหรับเสื้อแดง  ไม่เข้าใจสลิ่มจะเอามาพูดโจมตีทำไม 

ถ้าอยากได้ "ก็โกงให้เก่งกว่าชาวบ้านคนอื่นๆสิ"  หรือ  "ช่วยไม่ได้  ก็อยากไม่มีเส้นเอง"  ไม่ได้ก็ไม่ได้แล้วจะมาโวยวายอะไร? :(


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#21 สยาม

สยาม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 745 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:31

การบอกว่าซื้อตอนหลังได้มันก็เป็นการพูดทีหลังนะครับ เพราะตอนนั้นคนอดอาจจะเลิกตัดใจ หรืออาจจะไม่ว่าง อาจจะเอาเงินไปทำอย่างอื่นแล้ว

ประเด็นคือ ถ้าเสียโอกาสเพราะความไม่ยุติธรรมจริง ตอนหลังจะลงหรือขึ้นไปเท่าไรก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าตอนแรกไม่ยุติธรรมอยู่ดีครับ 



#22 สยาม

สยาม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 745 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:35

จำได้ว่าเคยมีกระทู้เสรีไทยเรื่องมีคนยื่นฟ้องเรื่องกระจายหุ้นไม่เป็นธรรม นี้อยู่ ณ ปัจจุบัน ไม่ทราบกระทู้อยู่ไหนแล้ว






ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน