อ่านเรื่องนี้จบ นึกถึงสิงห์สนามหลวงชักว่าว เลยเอามาฝาก สนุกครับงานนี้
โดย : โอภาส บุญล้อม...สำนักข่าวเนชั่น @opas_nna
ออกอาการ "กระดี๊กระด๊า" ไม่น้อยสำหรับแกนนำ นปช. บางคน เมื่อศาลแพ่ง รัชดาฯ ได้มีคำพิพากษาให้ บริษัท เทเวศประกันภัย จ่ายค่าสินไหมทดแทนและค่าเสียหายรวม 2 คดีกว่า 5 พันล้านบาทในคดีที่ "กลุ่มเซ็นทรัล "ซึ่งประกอบกิจการห้างสรรพสินค้า" เซ็นทรัลเวิลด์" และ"เซน" ยื่นฟ้องบริษัท เทเวศประกันภัย ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย เพราะศาลแพ่ง รัชดาฯเห็นว่า เหตุการณ์ชุมนุมของ นปช. เมื่อ พ.ค. 53 "ไม่ใช่ก่อการร้าย" เพราะคนร้ายเผาห้างสรรพสินค้า หลังจากที่แกนนำ นปช. ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว การวางเพลิงจึงไม่ใช่การกระทำที่หวังผลทางการเมือง อีกทั้งการนำสืบของบริษัท เทเวศประกันภัย จำเลยในคดีก็ไม่ปรากฏชัดว่า การก่อวินาศกรรมเป็นการกระทำของผู้เข้าร่วมชุมนุมหรือเป็นการสั่งการโดยแกนนำ จึงเป็นเพียง "การจลาจล " ซึ่งอยู่ในเงื่อนไขของกรมธรรม์ฯที่บริษัท เทเวศประกันภัย ต้องรับผิดชอบจากการที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์และเซน ถูกวางเพลิง
และตอนนี้ทนายความ นปช. ก็เตรียมขอคัดคำพิพากษาศาลแพ่ง รัชดาฯ ทั้ง 2 คดี คือ คดีเซ็นทรัลเวิลด์และเซน เพื่อนำไปสู้คดีที่แกนนำ นปช.ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีก่อการร้ายซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา
แต่ก็ใช่ว่าแกนนำ นปช. จะนำคำพิพากษาของศาลแพ่งรัชดาฯใน 2 คดีดังกล่าวไปอ้างในคดีก่อการร้ายซึ่งเป็นคดีอาญาได้โดยง่าย เพราะได้มีการตรวจสอบพบว่า คดีที่เกี่ยวกับการชุมนุมของ นปช.เมื่อ พ.ค.53 ไม่ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งรัชดาฯเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลอื่น คือ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ด้วย กล่าวคือ เป็นคดีเลขที่ ผบ. 1007/54 คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ชาวบ้านซึ่งอาคารบ้านเรือนถูกไฟไหม้จากการวางเพลิงลุกลาม ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องบริษัท อาคเนย์ประกันภัย เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย
แต่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวเมื่อ 16 ส.ค. 2554 ว่าเป็นการ "ก่อการร้าย" โดยศาลเห็นว่า จุดประสงค์ของการวางเพลิงไม่ได้มุ่งที่ตัวทรัพย์ แต่เป็นการกระทำต่อเนื่องจากการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและมีการสร้างสถานการณ์วุ่นวาย เป็นการกระทำมุ่งหมายผลทางการเมือง จึงเป็นการ "ก่อการร้าย" จากแนวคำวินิจฉัยดังกล่าว ทำให้บริษัท อาคเนย์ประกันภัย ไม่ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพราะความเสียหายจากการ "ก่อการร้าย "อยู่นอกเหนือความคุ้มครองของกรมธรรม์ฯ
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ไม่ใช่มีเพียงแต่คดี ผบ. 1007 /54 ที่บริษัท อาคเนย์ประกันภัย ถูกฟ้องเท่านั้นที่ศาลพิพากษาว่า การชุมนุมของ นปช. เมื่อ พ.ค. 53 เป็นการ "ก่อการร้าย" แต่ยังมีคดีอื่นอีกซึ่งเป็นคดีที่บริษัทประกันภัยถูกผู้เอาประกันภัยฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ฯอันเนื่องมาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ชุมนุมของ นปช.เมื่อ พ.ค. 53 และศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีคำพิพากษาว่า การชุมนุมของ นปช. เป็นการ "ก่อการร้าย" บริษัทประกันภัยจึงไม่ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพราะอยู่นอกเหนือความคุ้มครองของกรมธรรม์ฯ
หรืออีกนัยนะหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่า คดีที่ผู้เอาประกันภัยฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย อันเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์การชุมของ นปช.เมื่อ พ.ค. 53 หากคดีขึ้นศาลแพ่งรัชดาฯ ผลก็มักจะออกมาว่า การชุมนุมของ นปช. "ไม่ใช่ก่อการร้าย" แต่หากคดีขึ้นศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ผลก็มักจะออกมาว่า เป็นการ "ก่อการร้าย"
เมื่อเป็นอย่างนี้หากทาง แกนนำ นปช. นำคำพิพากษาของศาลแพ่งรัชดาฯที่วินิจฉัยว่า การชุมนุมของ นปช. เมื่อ พ.ค. 53 ไม่ใช่การก่อการร้าย ไปอ้างต่อศาลอาญาในคดีก่อการร้าย ที่ตนเองเป็นจำเลย ทางอัยการซึ่งเป็นโจทก์ ก็สามารถนำคำพิพากษาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ที่พิพากษาว่าการชุมนุมของ นปช. เมื่อ พ.ค. 53 เป็นการก่อการร้าย ไปอ้างต่อศาลอาญาในคดีก่อการร้ายได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การที่ 2 ศาลมีคำพิพากษาที่ต่างกันในเหตุการณ์เดียวกัน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ซึ่งในอดีตก็เคยมีมาแล้ว ทั้งนี้อาจเป็นเพราะการนำสืบในชั้นศาลได้ข้อเท็จจริงที่ต่างกัน หรือแม้กระทั่งนำสืบข้อเท็จจริงในชั้นศาลได้เหมือนกัน แต่เนื่องจากผู้พิพากษาเป็นคนละองค์คณะกัน ซึ่งผู้พิพากษาแต่ละคน ก็มีประสบการณ์ในทางคดีที่ต่างกัน ส่งผลให้มุมมองในทางคดีต่างกันได้ ซึ่งก็ต้องรอดูว่าเมื่อคดีขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์ซึ่งมีเพียงศาลเดียว คดีที่เคยขึ้นศาลแพ่งรัชดาฯและคดีที่เคยขึ้นศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ผลคดีจะยังออกมาต่างกันอีกหรือไม่
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่มีการพูดถึงกัน ก็คือ คำพิพากษาในคดีแพ่ง จะมีผลต่อคดีก่อการร้ายที่แกนนำ นปช.เป็นจำเลยและศาลอาญากำลังพิจารณาอยู่มากน้อยแค่ไหน ประเด็นนี้ต้องบอกว่า ไม่มีผลผูกพันต่อคดีก่อการร้าย เพราะคำพิพากษาคดีใดก็มีผลเฉพาะจำเลยในคดีนั้นเท่านั้น อย่างคดีที่ศาลแพ่ง รัชดาฯ พิพากษาในคดีเทเวศประกันภัยว่า ไม่ใช่ก่อการร้าย แกนนำ นปช. ก็ไม่ได้เป็นจำเลยในคดีดังกล่าว
และคดีก่อการร้ายที่อัยการยื่นฟ้องแกนนำ นปช.เป็นจำเลยคดีอาญา มีการบรรยายพฤติการณ์แห่งคดีและการกระทำของจำเลยไว้หลายพฤติการณ์ด้วยกัน "การเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์" เป็นแค่"พฤติการณ์หนึ่ง" ในหลายๆพฤติการณ์ที่อัยการยื่นฟ้องในคดีก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอดูว่า "คดีก่อการร้าย " ที่เป็นตัวชี้ชะตาว่า "แกนนำ นปช " จะรอดคุกหรือไม่ ผลคำพิพากษาจะออกมาในทางใด
-------------------------------http://www.oknation....3/03/12/entry-1