ไม่ว่าบทสรุปเรื่องนี้จะออกมาเป็นอย่างไร
ผมขอเป็นกำลังใจให้ชาวอุเทนถวาย
ในฐานะเพื่อนคนหนึ่งครับ
ผู้บริหารอุเทนถวาย หวั่นมือที่สาม ป่วนการชุมนุม
#51
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 06:10
- Zǐlóng สุภาพบุรุษเสียงสาน likes this
#52
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 06:35
ย้อนอดีตไปสมัยนั้น เรียนแถวพระราม4 ผมสั้นติดหนังหัว ตัวดำ ยืนรอรถเมล์ (ปอ.2) อยู่หน้า มาบุญครอง เห็นอุเทน ซัดกับโรงเรียนไรไม่รู้ฝั่งตรงข้ามที่เป็นโบนันซ่ามอล ยังแหยงๆเลยครับ
สังคมทุกสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีครับ อย่าไปมองว่าอุเทน ยังไงก็ต้องจิ้กโก๋ หรือ จุฬาเป็นปัญญาชนไปซะทั้งหมด....มาดูกันด้วยเหตุและผลดีกว่าว่ามันควรจะเดินไปข้างหน้าต่อยังไง วันนี้ผมคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรนะ มีคนโตๆแล้วเยอะ ไม่ได้มีแต่จิ้กโก๋อย่างเดียว
ต้นสน(หลังสนามมวยลุมพินี)หนึ่งรอบ ไปได้
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
#53
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 06:40
คุณ JD300 ตอบไว้น่าสนใจครับ แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าใครโกหกกันแน่ หลักฐานแน่นจริงๆแต่น่าจะเอารูปมาลงให้เห็นด้วย
#54
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:09
ผู้บริหารวงการก่อสร้าง หากรู้ ว่าจบ อุเทนฯ เขารับเข้าทำงานทันทีครับ ...
น่าแปลก ...กุ้ย ไม่น่าทำงานเก่ง และเป็นเจ้าของบริษัทฯก่อสร้าง ระดับประเทศได้นะครับ
การแต่งกาย เด็ก หัวศิลป ก็แบบนั้นแหละครับ ...อาจดูไม่เรียบร้อย สำหรับภาพเด็กดี
คนที่จบมาแต่ละคนเป็นที่ยอมรับครับ แต่ศิษย์ปัจจุบันบางคนนี่น่าเตะครับบอกตรงๆ
ที่ปั่นป่วนอยู่ทุกวันนี้ก็พวกที่เคยเรียนอยู่แต่ไม่ได้เรียนแล้วแต่ยังรักสถาบันอยู่
แต่อยากให้ลบภาพที่เป็นเด็กเกเรออกให้ได้จะดีมากเลย ยกระดับออกมาให้พ้นเสียที
นั้นแหละครับ ถ้าสถานบันดูแลเอาใจใส่จริง ๆ
#55
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:25
พูด ถึงอุเทนถวาย ปีที่รวมเป็นมหาลัย เทคโนโลยีราชมงคลภาคตะวัน ออก ไปรวมงานบางพระ เอามีดฟันศิษย์เก่าบางพระตายไปคน เจ็บอีกหลายคน
แถมทรัพย์ สินของเด็กบางพระเสียหายไปหลายอย่าง จับกลุ่มตรวจแถมจะดักทำร้าย เด็กภาคประมงเพราะเขม่งกัน (ไม่ใช่ไอ้คนที่มีเรื่องด้วย) นี้ยังไม่รวมอีกหลายเรื่อง แถมอาจราย์ทางนั้นให้ท้ายพาหนี อีก พูดตรงๆว่า ผมไม่เห็นด้วยเลยที่งราชมงคลบางพระจะไปรวมกับอุเทนถวาย เพราะการำแบบนั้นมันไม่ใช่ปัญญาชน มันกุย พอมีเรื่องเยอะเข้า ผมก็สงสัยว่า สถาับันนั้นสอนอะไรกันแน่รบกวนขอข้อมูลข่าวทีได้มั๊ยครับ เรื่องนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ
ข้อมูลถ้าเป็นข่าว คง ไม่มีหรอครับ จะเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ แต่ผมเป็นศิษย์ ราชมงคลบางพระ วทบ.พืช ศาสตร์ รุ่น 36 รุ่นที่มีเกิดเรื่องเป็นตอนปี 4 ของรุ่น 38 (น่าจะเป็น รุ่น สุดท้าย ของ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลคณะเกษตรศาสตร์ บางพระ )
รุ่นน้องแท้ๆ ของผมเอง
#56
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:01
ใจเย็นๆ นะขอรับ กระผมเป็นเพียงศิษย์เก่าตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่พยายามรักษาสถาบันของตัวเองเท่านั้น
ส่วนที่ถามว่าทำไมศิษย์เก่าจะมายุ่งเรื่องนี้ทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้บริหารขอตอบว่า จุฬาฯมีหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์ หน่วยงานด้านกฏหมาย หน่วยงานด้านกากจัดการทรัพย์สิน เป็นของตัวเอง แต่อุเทนถวายไม่มีครับ ศิษย์เก่าจึงต้องเข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้
แต่ขอเวลาสักนิดนะครับ ตัวผมเองก็มีงานการที่ต้องทำเช่นกัน
ด้วยความเคารพครับ
งานเสวนาวิชาการ "เหลียวหลัง แลหน้าสู่ 1 ศตวรรษโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย คุณค่าที่ควรอยู่"
#57
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:34
คิดจะเป็นมหาวิทยาลัย ก็ช่วยเคารพกฏหมายด้วยนะครับ ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ คุณก็ไม่มีศักดิ์ศรีของความเป็นมหาวิทยาลัยครับ อุเทนถวาย
ถึงขั้นยื่นฏีกา แล้วสำนักราชเลขา เขาก็ยืนยันให้ย้าย ก็น่าจะสำนึกได้แล้วนะครับ ว่าควรทำยังไง
- Satan for Vendetta likes this
#58
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:47
คิดจะเป็นมหาวิทยาลัย ก็ช่วยเคารพกฏหมายด้วยนะครับ ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ คุณก็ไม่มีศักดิ์ศรีของความเป็นมหาวิทยาลัยครับ อุเทนถวาย
ถึงขั้นยื่นฏีกา แล้วสำนักราชเลขา เขาก็ยืนยันให้ย้าย ก็น่าจะสำนึกได้แล้วนะครับ ว่าควรทำยังไง
ขณะนี้อุเทนถวายมีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยครับ เปิดสอนในสาขาวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทครับผม
ส่วนเรื่องการยื่นฎีกา สำนักราชเลขาฯ ตีเรื่องกลับและยืนตามคำวินิจฉัยของกยพ. (คณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ที่อุเทนถวายไม่เคยได้มีส่วนร่วมในการใต่สวนและชี้แจงครับ (กยพ. เป็นหน่วยงานหนึ่งของสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นเพียงผลการตัดสินของคณะกรรมการมิใช่ศาล) โดยที่ทั้ง 2 ครั้งยังไม่เคยมีพระบรมราชวินิจฉัยลงมาเลย
งานเสวนาวิชาการ "เหลียวหลัง แลหน้าสู่ 1 ศตวรรษโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย คุณค่าที่ควรอยู่"
#59
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:04
ก่อนที่ผู้ที่ยังไม่ทราบที่มาที่ไปจะคิดกันไปยืดยาวกว่านี้ ขอลัดข้อมูลบางส่วนจากที่ผมเกริ่นไว้ถึงเรื่องการปล้นที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ไว้คร่าวๆ แล้วกันนะครับ
โดยที่พระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธ์ที่ดินมีหน้าตาดังนี้ครับ
http://www.ratchakit...2482/A/1364.PDF
ทั้งนี้ พรบ.ฉบับนี้ถูกรวบรัดออกในสมัยจอมพลป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี อดีดอธิการบดีจุฬาฯ ในสมัยที่เรียกได้ว่าเผด็จการภายใต้หน้ากากประชาธิปไตย
ในการขึ้นเป็นนายกฯสมัยแรก ปี 2481-2485 (ปีที่ออกพรบ.จุฬาฯ ปี 2482) จอมพลป. ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและกลาโหมในเวลาเดียวกัน (รวบอำนาจเบ็ดเสร็จ เป็นสาเหตุที่ทำไมพรบ.จุฬาฯถึงได้ผ่านสภารวดเร็วนัก) และในช่วงนั้นมีการปราบปรามบุคคลที่เรียกว่า "ปรปักษ์รัฐบาล" ซึ่งคือกลุ่มข้าราชการฝ่ายเจ้า ด้วยการยัดข้อหากบฏ บุคคลสำคัญสมัยนั้นถูกประหารชีวิต จองจำ รวมถึงเสียชีวิตกระทันหันแบบแปลกๆ จำนวนมาก รวมถึงการริดรอนพระราชอำนาจ การปล้น โกง ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เป็นจำนวนมาก
http://www.cabinet.t.../bb2_main11.htm
ลองมาดูคำให้การของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ผู้เดียวกับผู้ซึ่่งลงนามในพรบ. ที่ดินจุฬาฯ ดูครับ
คำให้การของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล หลังจากได้กราบบังคมทูลลาออกจากบรรดาศักดิ์พร้อมกันทั้งครม. นี่เป็นสาเหตุที่ทำไมคุณหลวงคุณพระทั้งหลายจึงได้ลุกขึ้นมาสลัดศักดินาทิ้งกันในตอนนั้น
และอีกหนึ่งคำให้การในหนังสือประวัติศาสตร์อีกเล่ม
ขุนนิรันดรชัย เป็นผู้ก่อการคณะราษฎรรุ่นเด็ก ทำงานรับใช้ผู้ใหญ่มาตลอด ตอนหลังจอมพล ป. ไว้ใจมาก เข้านอกออกในได้พอๆกับพล.อ.ต.อดุล ทำหน้าที่ประสานระหว่างจอมพล ป. (ในนามของรัฐบาล) กับคณะผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในรัชกาลที่ 8 ซึ่งแต่งตั้งขึ้นโดยรัฐบาลให้กระทำการแทนพระเจ้าอยู่หัวที่ยังทรงพระเยาว์และศึกษาอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ ประกอบด้วย เจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน (อุ่ม อินทรโยธิน) ได้รับการแต่งตั้งหลังจากการสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์) ที่ยิงพระองค์เองสิ้นพระชนม์คราวที่ถูกคณะราษฎร์บีบบังคับให้ลงนามยึดพระราชทรัพย์ของพระมหากษัตริย์มาเป็นของแผ่นดิน หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์) แทนเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา เมื่อเจ้าพระยาพิชเยนทรโยธินถึงแก่อสัญกรรมในปี พ.ศ. 2485 คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จึงเหลือเพียง 2 คน ต่อมา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ซึ่งทรงลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2487 เพราะความกลัวที่ถูกจอมพล ป. โกรธเพราะไปลงพระนามแต่งตั้งให้นายควงเป็นนายกรัฐมนตรี ทรงให้การในศาลว่า “ข้าพเจ้าได้ถูกกดขี่ข่มเหงมาทำนองนี้หลายครั้ง ข้าพเจ้าสารภาพว่าข้าพเจ้ากลัว เพราะข้าพเจ้าตัวคนเดียวไม่มีพวกพ้อง” เมื่อพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภาลาออกแล้วไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดเพิ่ม จึงมีนายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แต่ผู้เดียว ตลอดเวลาดังกล่าวขุนนิรันดรชัย อยู่ในตำแหน่งในตำแหน่งเลขาธิการคณะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯทรงสละราชสมบัติและรัฐบาลได้แต่งตั้งคณะผู้สำเร็จขึ้นมาแทนองค์พระมหากษัตริย์ไม่นาน คณะราษฎร์ได้จัดรายการ จึงบอกเพื่อน กระซิบชวนให้จับจองซื้อที่ดินแปลงหรู ทำเลเลิศ ผ่อนง่ายๆสบายๆ ไม่มีดอกเบี้ย โดยเอาที่ดินของพระคลังข้างที่ ที่ได้รับพระราชทานมา(ฟังดูเป็นศิริมงคลดีนะครับ)มาขายกันถูกๆ ที่ดินแถวสาธร วิทยุ และในเมืองอีกหลายแปลง เป็นเหตุให้ผู้แทนฝ่ายตงฉินนำมาอภิปรายในสภาถึงกับรัฐบาลพระยาพหลทนถูกด่าไม่ได้ ลาออกเปิดทางให้หลวงพิบูล(ซึ่งรีบคืนที่ดินเพิ่งจะซื้อมาเหมือนกันนั้นไปด้วยความกระดาก)
ผมพอจะเรียก พรบ. ฉบับนี้ว่า "ปล้นที่ดินกษัตริย์" ได้หรือไม่ครับ
Credit : www.reurnthai.com
Edited by Zǐlóng สุภาพบุรุษเสียงสาน, 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:07.
งานเสวนาวิชาการ "เหลียวหลัง แลหน้าสู่ 1 ศตวรรษโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย คุณค่าที่ควรอยู่"
#60
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 18:15
ไม่ว่าบทสรุปเรื่องนี้จะออกมาเป็นอย่างไร
ผมขอเป็นกำลังใจให้ชาวอุเทนถวาย
ในฐานะเพื่อนคนหนึ่งครับ
ขอบคุณครับพี่ 2 สถาบันจบกันไปทำงานด้วยกัน กอดคอกันสังสรรค์มากมายครับ
- G-GEAR53 likes this
งานเสวนาวิชาการ "เหลียวหลัง แลหน้าสู่ 1 ศตวรรษโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย คุณค่าที่ควรอยู่"
#61
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 18:25
คิดจะเป็นมหาวิทยาลัย ก็ช่วยเคารพกฏหมายด้วยนะครับ ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ คุณก็ไม่มีศักดิ์ศรีของความเป็นมหาวิทยาลัยครับ อุเทนถวาย
ถึงขั้นยื่นฏีกา แล้วสำนักราชเลขา เขาก็ยืนยันให้ย้าย ก็น่าจะสำนึกได้แล้วนะครับ ว่าควรทำยังไง
สามัญสำนึกไม่มี มีแต่ "สามานย์สำนึก"
"คนที่เลวกว่าน.ช.ทักษิณ ก็คือ คนที่ช่วยให้น.ช.ทักษิณ ยังมีชีวิต พูดพล่าม และ ทำเลวต่อไป"
#62
ตอบ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 21:09
คิดจะเป็นมหาวิทยาลัย ก็ช่วยเคารพกฏหมายด้วยนะครับ ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ คุณก็ไม่มีศักดิ์ศรีของความเป็นมหาวิทยาลัยครับ อุเทนถวาย
ถึงขั้นยื่นฏีกา แล้วสำนักราชเลขา เขาก็ยืนยันให้ย้าย ก็น่าจะสำนึกได้แล้วนะครับ ว่าควรทำยังไง
ขณะนี้อุเทนถวายมีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยครับ เปิดสอนในสาขาวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทครับผม
ส่วนเรื่องการยื่นฎีกา สำนักราชเลขาฯ ตีเรื่องกลับและยืนตามคำวินิจฉัยของกยพ. (คณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ที่อุเทนถวายไม่เคยได้มีส่วนร่วมในการใต่สวนและชี้แจงครับ (กยพ. เป็นหน่วยงานหนึ่งของสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นเพียงผลการตัดสินของคณะกรรมการมิใช่ศาล) โดยที่ทั้ง 2 ครั้งยังไม่เคยมีพระบรมราชวินิจฉัยลงมาเลย
ทราบครับว่ามีสถานะเป็นมหาวิทยาลัย ผมหมายความโดยนัยว่า เป็นมหาวิทยาลัย เป็นที่สั่งสอนคน ก็ต้องมีความเคารพกฏหมาย เป็นพื้นฐานครับ
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน