แม่ค้าพ่อขาย นายห้าง ร้านทอง ชอบอกชอบใจทักสินเป็นอย่างยิ่ง..ขายของได้โกยเงินเป็นกอบเป็นกำ เห็นชมกันมาก (แต่ไม่เคยนึกเลยว่าเงินมาจากเงินกู้ของผู้บริโภคทั้งนั้น)
เมื่อเศรษฐกิจเริ่มทรุดลงไป รัฐบาลนังปู ก็ใช้วิธีเดิมที่ถนัด หาเงินกู้มาเข้าระบบ ทั้ง3.5 แสนล้าน+2.2 ล้านล้าน .... โปรยเหยื่อให้ชาวบ้านต่อ ด้วยโครงการจำนำข้าว +ด้วยเพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้านอีก..แม่ค้าพ่อขาย ห้างร้าน ผู้ประกอบการ ยิ้มปากกว้าง ขานรับนโยบายแบบนี้...
เศรษฐกิจจะเฟื่องฟูไปอีกระยะ (วงรอบเดิม)...จะอิ่มหมีพีมันกันไปอีกสองสามปี....แต่หลังจากนั้น..อาจจะล่มจมหนักได้เพราะหนี้ท่วมหัวยันลูกหลานแบกภาระต่อ
มีขี้ข้าทักสินคนไหน เข้ามารับรองหรือตอบคำถามให้ชัดเจนหน่อยได้หรือไม่
1.กองทุนหมู่บ้านได้สร้างหนี้ให้ภาคครัวเรือน แบบที่ชาวบ้านไม่มีเงินส่ง ถึงเวลาต้องไปกู้หรือยืมมาส่ง แล้วกู้ยอดเงินต่อ เป็นหนี้ไปเรื่อยๆ...ที่เป็นชิ้นงานสร้างรายได้เมื่อเทียบเปอร์เซนต์ น้อยมากๆ ..ไม่งั้นคงไม่ทุ่มเงินกองทุนหมู่บ้านเพิ่มลงไปหรอก..ชาวนาเป็นหนี้ ธกส.แบบไม่รู้จะชดใช้ยังไงหมดในรุ่นตัวเอง..ข้าราชการเป็นหนี้ธนาคาร กู้แล้วกู้อีก จนหมดยอดกู้(คาดว่าจะต้องเอาลูกตัวเล็กๆ มาค้ำประกันต่อไปเพื่อกู้ได้อีก) เตรียมรับ หนี้เสียจาก รากหญ้า และข้าราชการจำนวนมหาศาล ได้เลย เพราะตอนนี้เริ่มไม่มีส่งธนาคารกันมากขึ้น และเริ่มเลียนแบบกัน
2.แม่ค้าพ่อขาย ห้างร้าน กอบโกยได้ในช่วงนี้ หลังจากนี้ไป จะขายของออกหรือไม่ ยอดจำหน่ายจะลดลงแบบฮวบ หรือไม่ เพราะเงินจะเริ่มหมดจากระบบ หรือรัฐบาลต้องกู้ไปเรื่อยๆ จนกว่าประเทศจะวิกฤตแบบประเทศอื่น
3.ในอนาคต จะรัฐบาลต้องเก็บภาษีเงิน ใช้ดอกอีกเท่าไร...เราทำงานเงินเดือนไม่ขึ้นกัน..ขายของไม่ได้เงินกัน...หรือรัฐต้องขายรัฐวิสาหกิจ กินกันต่อไป...
ถ้ามีคนชื่นชมนโยบาย ฉาบฉวยแบบนี้...ผมก็เห็นว่า เห็นแก่ตัวกันมากและเอาเปรียบรุ่นลูกหลานมากมาย สังคมจะอยู่ยาก คนรวยจะถูกคนจนปล้น..คนจนจะมุ่งค้ายาเสพติดให้คนรวยเสพกัน แล้ววิกฤต ต่างๆจะตามมา เช่นขายสิ้นค้าเกษตรไม่ได้เงินไม่ได้ราคา ประท้วง ....ฯลฯ....อยากให้เป็นเช่นนั้นหรือ....หรือคิดได้แค่วันสองวันนี้ ว่าขอให้ได้ประโยชน์ให้พวกกรูไว้ก่อน ชาติจะบรรลัยอย่างไร ช่างมัน..งั้นหรือ
แนวทางการดำเนินชีวิต แบบเศรษฐกิจ พอเพียง ของในหลวง เยี่ยมยอดที่สุด ในทุกยุคทุกสมัย มีน้อยใช้น้อย อยู่พอเพียงของใครของมัน ดำรงชีพอย่างมีความสุข ช่วยเหลือกันและกัน ไม่แก่งแย่งกัน....แต่ปัญหาคือรัฐบาลชอบให้เกิดการบริโภค ชอบให้ใช้ ชอบให้ฟุ้งเฟ้อ เอาค่าตัวเลขทางเศรษฐกิจวัดความเจริญ ไม่เคยมีนโยบายประหยัด .... ที่สำคัญเพราะเงินเข้ากระเป๋านายทุน...
Edited by galaxy, 18 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:03.
