165 ความเห็นในกระทู้นี้

[aumddd]

พูดถึงเรื่อพลาสติกนึกถึงข้างบ้านผม

 

ขายพวกแก้วอุปกรณ์น้ำปั่น  แค่นี้ก็รวยแล้ว เห็นเปิดมาประมาณ 4 ปี ขยายร้านเพิ่มอีก 2 ร้านแล้ว (อิจฉาก็ว่าใช้แต่พี่ท่านแมร่งออกรถใหม่จอดขวางหน้าบ้านผมทุกวัน)

[samepong]

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

โห...พี่ก็ตาม ๆ เค้าไปหน่อยดิ.

เค้าอยากจะสร้างภาพพจน์ด้วยกระทู้สร้างสรรค์

อย่าเอ็ดไป ผมนะซุ่มนานแล้ว
ว่สแต่ เคนมันซึ้งอะไร เล่นประเด็นนี้มาหลายวันหละ

[Redbuffalo010]

 

 

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

โห...พี่ก็ตาม ๆ เค้าไปหน่อยดิ.

เค้าอยากจะสร้างภาพพจน์ด้วยกระทู้สร้างสรรค์

อย่าเอ็ดไป ผมนะซุ่มนานแล้ว
ว่สแต่ เคนมันซึ้งอะไร เล่นประเด็นนี้มาหลายวันหละ

เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทที่รัฐบาลจะกู้มาลงทุนมั้ง     

[เคนอิจิ-นามิ]

เศรษฐกิจพอเพียง ผมว่าที่เจ้ากระทู้โพสมามันยังไม่เข้าทฤษฏีสักเท่าไหร่นะครับ ตามความเห็นผม

รับทราบครับ

แล้วแบบไหนคือ เข้าทฤษฎี มีตัวอย่างไหมครับ?

แล้ว ปรับใช้ในชีวิตคุณได้อย่างไร

[เคนอิจิ-นามิ]

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

โห...พี่ก็ตาม ๆ เค้าไปหน่อยดิ.

เค้าอยากจะสร้างภาพพจน์ด้วยกระทู้สร้างสรรค์

อย่าเอ็ดไป ผมนะซุ่มนานแล้ว
ว่สแต่ เคนมันซึ้งอะไร เล่นประเด็นนี้มาหลายวันหละ

ผมแค่อยากได้ตัวอย่างครับ จะได้พูดตรงกัน

ตกลง คุณ 55555 ได้ทำอะไรตามทฤษฎีบ้างไหม?
ชีวิตประจำวัน หรือประจำเดือนก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่ ชีวิตนึงทำได้ครั้งเดียว

[เคนอิจิ-นามิ]

ที่บ้านผมทำแบบนี้ เพื่อนสมาชิกก็ทำคล้ายๆกัน แบบนี้เรียกว่าเศรษฐกิจพอเพียงได้หรือเปล่าhttp://webboard.seri...e-2#entry646988
ถ้าใช่ เพื่อนสมาชิกที่นี่ก็ทำกันอยู่แล้วครับ

หมายถึง หลังคาเขียวหรือครับ?
ผมก็ว่าใช้ได้ มันคือการหมุนเวียนของทรัพยากรเหมือนกัน
ก็น่าจะคล้ายๆกับผม
แต่ มันอาจจะแค่ลดโลกร้อนก็ได้มั้ง

เยี่ยมครับ
ได้ทั้งสองท่านเลยครับ ตามความคิดผม

อ่านหมดกระทู้หรือยังครับ ถึงจับใจความมาได้แค่หลังคาเขียวเพียงอย่างเดียว

มีเยอะแยะมากมากแถบจะครอบคลุมทั้งหมด การเปลี่ยนขยะเป็นรายได้ลดรายจ่าย การใช้ถุงซ้ำ ฯลฯ

น้าไม่สรุปล่ะครับ

ผมว่า ไม่ใช่ผมคนเดียวที่อ่านแล้วจับใจความได้เท่านี้

ถ้าน้าไม่บอก ใครจะเข้าใจ?

[พอล คุง]

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

โห...พี่ก็ตาม ๆ เค้าไปหน่อยดิ.

เค้าอยากจะสร้างภาพพจน์ด้วยกระทู้สร้างสรรค์

อย่าเอ็ดไป ผมนะซุ่มนานแล้ว
ว่สแต่ เคนมันซึ้งอะไร เล่นประเด็นนี้มาหลายวันหละ

ผมแค่อยากได้ตัวอย่างครับ จะได้พูดตรงกัน

ตกลง คุณ 55555 ได้ทำอะไรตามทฤษฎีบ้างไหม?
ชีวิตประจำวัน หรือประจำเดือนก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่ ชีวิตนึงทำได้ครั้งเดียว

โอ้วววว ศกพอเพียงมีเป็นครั้งด้วยเหรอ เคนอิจิ

[เคนอิจิ-นามิ]

http://webboard.seri...ินเองกันดีกว่า/

ไม่รู้ว่าเข้าข่ายหรือเปล่านะ

ผมว่า อันนี้เข้าประเด็นเปรี้ยงๆเลยครับ

อยากจะถามต่อว่า ถ้าที่อยู่เป็นคอนโด จะปรับปรุงเป็นปลูกอะไร หรือทำอะไรได้บ้าง?

[tonythebest]

ผมใช้ไอโฟนครับ หลังจากเครื่องเก่า nokia พังคามือไป

ทั้งชีวิตผมใช้โทรศัพท์มือถือมา 4 เครื่อง ในระยะเวลา 10 กว่าปี

เหตุผลที่ผมซื้อโทรศัพท์แพงหน่อย เพราะใช้ได้นานกว่า

 

ผมชอบถ่ายภาพเหมือนนู๋เคน และเสียตังค์ไปกับอุปกรณ์พอสมควร

ทั้งซื้อสดและเงินผ่อน แล้วแต่กรณี 

กล้องตัวแรก ผมซื้อมาพร้อมอุกปรณ์ประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท

หลังจากมีงานที่ต้องจ้างช่างภาพ ช่างภาพคิดตังค์ประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท

เลยตัดสินใจซื้อเอง ถ่ายเองดีกว่า ซึ่งถูกกว่า และใช้ได้เหมือนกัน

ส่วนตัวที่สอง ซื้อเพราะใจชอบอย่างเดียว

 

แม้เสียเงินไปกับกล้องเยอะ

แต่ผมเป็นคนไม่เรื่องมากกับการแต่งตัว เสื้อของผมแทบทุกตัวคือ เสื้อยืดคอกลมสีขาวครับ

เพราะไม่ต้องออกไปหาลูกค้า นั่งทำงานอยู่กับออฟฟิศเฉยๆ จนคนรอบข้างเรียกว่าเป็นยูนิฟอร์มไปแล้ว

ใช้วิธีซื้อทีละ 6 ตัวมั่ง โหลนึงมั่ง ราคาประมาณ 120-200 บาทต่อตัวครับ

 

ออฟฟิศของผม ใช้เครื่องแมคอินทอช ในการทำงานครับ

เพราะทำงานทางกราฟิคดีไซน์

เครื่องนึง ก็ใช้ได้ตั้งแต่ 3-5 ปีครับ

 

ลูกสาวเป็นคนชอบอ่านหนังสือ (นิยาย)

สามารถอ่านนิยายเล่มหนาๆ ได้จบเล่มภายใน 2-3 วัน (เรียน ม 1)

ทุกครั้งที่ไปห้างกัน มักชอบไปร้านหนังสือ ซึ่งผมไม่เคยขัด ถ้าเธอจะขอซื้อหนังสือ

อยากได้เล่มไหน กี่เล่ม เอาไปเลย ถ้าตังค์ในกระเป๋าผมมีพอ

เพราะอยากให้ลูกเป็นคนรักการอ่าน

เพื่อที่วันนึง เธออาจจะเปลี่ยนมาอ่านหนังสือที่เป็นสาระมากขึ้นได้

แต่ลูกสาวผมไม่แต่งตัว ไม่ชอบกินขนม

ของสิ้นเปลืองเลยไม่มีเท่าไหร่ จึงสนับสนุนเรื่องการอ่านเต็มที่

เพราะผมเองก็ทำกับตัวเองเช่นนั้น เมื่อเจอหนังสือที่ชอบ

 

อ้อ ถึงผมใช้ไอโฟน และสมัครเน็ตแบบอันลิมิต

แต่โทรศัพท์ผมไม่มีเสียงรอสายนะครับ เพราะมันไร้สาระ

 

ไม่ทราบว่า ผมพอจะเข้าข่ายเศรษฐกิจพอเพียงในสายตาคุณเคนมั๊ยครับ

 

[เคนอิจิ-นามิ]

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

โห...พี่ก็ตาม ๆ เค้าไปหน่อยดิ.

เค้าอยากจะสร้างภาพพจน์ด้วยกระทู้สร้างสรรค์

อย่าเอ็ดไป ผมนะซุ่มนานแล้ว
ว่สแต่ เคนมันซึ้งอะไร เล่นประเด็นนี้มาหลายวันหละ

ผมแค่อยากได้ตัวอย่างครับ จะได้พูดตรงกัน

ตกลง คุณ 55555 ได้ทำอะไรตามทฤษฎีบ้างไหม?
ชีวิตประจำวัน หรือประจำเดือนก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่ ชีวิตนึงทำได้ครั้งเดียว

โอ้วววว ศกพอเพียงมีเป็นครั้งด้วยเหรอ เคนอิจิ

ตกลง คุณจะมีอะไรมาแบ่งปันไหมครับ?
ไม่มี หรือไม่เคยทำ ผมไม่ว่านะ ^^

[55555]

 

 

 

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

โห...พี่ก็ตาม ๆ เค้าไปหน่อยดิ.

เค้าอยากจะสร้างภาพพจน์ด้วยกระทู้สร้างสรรค์

อย่าเอ็ดไป ผมนะซุ่มนานแล้ว
ว่สแต่ เคนมันซึ้งอะไร เล่นประเด็นนี้มาหลายวันหละ

ผมแค่อยากได้ตัวอย่างครับ จะได้พูดตรงกัน

ตกลง คุณ 55555 ได้ทำอะไรตามทฤษฎีบ้างไหม?
ชีวิตประจำวัน หรือประจำเดือนก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่ ชีวิตนึงทำได้ครั้งเดียว

 

 

ผมทำในชีิวิตจริง อยู่หลายปีแล้วครับ

 

ตั้งแต่ครั้ง ชิบหายเพราะฟองสบู่แตก

 

ใช้จ่ายเท่าที่ตัวเองมี...มีมากก็ใ้ช้ มีน้อยก็ใช้น้อย

 

เงินออม ก็เป็นเงินออม ....เดือนไหนขาดมือ (ไม่ค่อยบ่อยนัก)ก็ไม่เคยเอาเงินออมมาใช้

 

เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยได้ประหยัดเท่าไหร่...( อีก 1-2 วัน ก็จะข้ามโลกอีกแล้ว)  เพราะ ถือว่ายังไม่เกินรับ

 

ในโลกไซเบอร์ ก็ใช้หลักพอเพียงเช่นกันครับ...ใช้น้ำลายอย่างพอเพียง...ไม่ยอมให้มันฟูมปากจนสิ้นเปลืองเกินความจำเป็น

 

แต่อย่าว่าผมเป็นกระบือน๊ะครับ...เพราะลักษณะแบบนี้ นักวิชาการทู้โน้นเค้าบอกไม่ใช่ เศรษฐกิจพอเพียง

 

แต่มันเป็น self - sufficient economy

 

 

Edited by 55555, 19 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:23.

[ter162525]

หลักใหญ่มันก็ แค่ หาได้เท่าไหร่ ใช้แค่นั้น พึ่งพาตนเองให้มากลดการพึ่งพาคนอื่น

คนหาตังได้วันละ แสน ใช้วันละ 90000  กับคนที่หาได้วันละ 10000 ใช้ 11000

เราก็ตอบได้ว่าใครเป็นเศษฐกิจพอเพียงมากกว่ากัน

ที่นี้คนมันมีหลายระดับ จะไปตัดสินใจว่าให้อยู่เจียมๆ เหมือนไอ้หงอกบ้างตัว โจมตี ถ้าความคิดมันมีแค่นั้น

ก็เหมือน หมาที่คิดว่าตัวเองฉลาด แต่สมองมันเท่าเม็ดถั่ว

 

 

ท่านสอนให้ตั้งหลักตัวเองให้ดี จะขยับขยายก็ทำฐานให้ดี มันจะไม่พัง

Edited by ter162525, 19 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:23.

[เคนอิจิ-นามิ]

ไม่ได้น้อมนำครับ เพราะรู้สึกว่ารายรับมากพอ ไม่ได้เป็นคนที่ชอบซื้อนั่นซื้อนี่
ค่อนข้างจะใช้เงินเปลืองแต่แค่เรื่องของกิน ไม่ซื้อของใช้ของอะไรที่สิ้นเปลืองเท่าไหร่

หมายถึง แบบนี้ไม่ใช่ ศก พอเพียง หรือ อาจจะเป็นหรือไม่เป็นไม่รู้ แค่ใช้ชีวิตไปแบบนี้?

[ชามู]

 

 

 

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

โห...พี่ก็ตาม ๆ เค้าไปหน่อยดิ.

เค้าอยากจะสร้างภาพพจน์ด้วยกระทู้สร้างสรรค์

อย่าเอ็ดไป ผมนะซุ่มนานแล้ว
ว่สแต่ เคนมันซึ้งอะไร เล่นประเด็นนี้มาหลายวันหละ

ผมแค่อยากได้ตัวอย่างครับ จะได้พูดตรงกัน

ตกลง คุณ 55555 ได้ทำอะไรตามทฤษฎีบ้างไหม?
ชีวิตประจำวัน หรือประจำเดือนก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่ ชีวิตนึงทำได้ครั้งเดียว

 

 

ผมใช้ครับ....

แต่จะไม่ตอบว่าใช้อย่างไรนะครับ

 

เพราะเดี๋ยวจะมีบางคนมาบอกว่า อย่างนี้ไม่เรียกว่าศก.พอเพียง

ไม่ได้ ต้องเป็นอย่างฉันเท่านั้น ถึงเรียกว่าพอเพียง

ไหน... อะไรนะ... ไม่ใช่ ก็บอกว่าไม่ใช่พอเพียงก็ไม่ใช่ดิ

ต้องอย่างฉันเท่านั้น ถึงเรียกว่าพอเพียง

 

เถียงเหรอ... เดี๋ยวตบเกรียนด้วยหลักการ ศก.พอเพียงจากเวปไซต์เลย

ยังไม่เงียบอีก !!!!   เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว....

 

 

สรุปว่า ผมไม่บอกดีกว่า แค่อยากจะบอกว่า ทุกวันนี้ ผมมีความสุขตามอัตภาพแล้ว

พอแล้ว สบายแล้ว ไม่ย่ำกับที่ แต่ก็ไม่วิ่งตามอะไรจนเป็นลม

ไม่มากไป ไม่น้อยไป สบายๆชิลล์ๆ  อิ อิ อิ

[เคนอิจิ-นามิ]

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

แล้วคุณทำอะไรที่เหมือนหัวข้อกระทู้บอกบ้างครับ?

อย่างผมไม่พอเพียงครับ เพราะผมกับแฟนใช้โทรศัพท์เครื่องละ2หมื่น กินอาหารก็ขอให้ดีไว้ก่อน แพงหน่อยไม่ว่า แต่ ผมไม่ประมาท
ผมกับแฟนทำประกันเตรียมพร้อม รายได้ก่อนนำไปใข้หักออม30%เสมอ
ส่วนไอ่คุณบอกนะ ถุงนะผมใช้แล้วใช้อีก แก้วกาแฟผมไม่เคยซื้อแจกมากับสินค้าที่ผมขาย จนแจกบ้างขายบ้างยิ่งกว่าใช้คนเดียวอีก
ไป7 ผมซื้อของถ้าไม่ใช่ว่าเยอะมากผมก็ไม่ใส่ถุง
ขับรถไปไหนมาไหนก็ใช้ จยย. รถยนต์ถ้าไม่ออกต่างจังหวัดไม่ขับ ขนาดไปจ.ใกล้เคียงนังรถตู้เลย
ไอที่คุณทำนะเด็กที่บ้านผมเรียก รณรงค์ลดโลกร้อนครับ
ไม่เชื่อไปถามเด็กแถวบ้านเลยว่า เราจะช่วยลดโลกร้อนยังไง คำตอบก็แบบที่คุณทำนั้นแหละ

คุณหมายถึง คุณไม่ได้นำแนว ศก พอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน
และการนำสิ่งที่มีอยู่ กลับมาใช้ใหม่"ไม่ใช่" ศกพอเพียง

ถูกหรือไม่ครับ?

[พอล คุง]

ครอบครัวผมนำ ศกพอเพียง มาใช้ยิ่งกว่า เคนอิจิ ลดโลกร้อนอีก

นี่หรือศกพอเพียงของ เคนอิจิ หว่า

[samepong]

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

แล้วคุณทำอะไรที่เหมือนหัวข้อกระทู้บอกบ้างครับ?

อย่างผมไม่พอเพียงครับ เพราะผมกับแฟนใช้โทรศัพท์เครื่องละ2หมื่น กินอาหารก็ขอให้ดีไว้ก่อน แพงหน่อยไม่ว่า แต่ ผมไม่ประมาท
ผมกับแฟนทำประกันเตรียมพร้อม รายได้ก่อนนำไปใข้หักออม30%เสมอ
ส่วนไอ่คุณบอกนะ ถุงนะผมใช้แล้วใช้อีก แก้วกาแฟผมไม่เคยซื้อแจกมากับสินค้าที่ผมขาย จนแจกบ้างขายบ้างยิ่งกว่าใช้คนเดียวอีก
ไป7 ผมซื้อของถ้าไม่ใช่ว่าเยอะมากผมก็ไม่ใส่ถุง
ขับรถไปไหนมาไหนก็ใช้ จยย. รถยนต์ถ้าไม่ออกต่างจังหวัดไม่ขับ ขนาดไปจ.ใกล้เคียงนังรถตู้เลย
ไอที่คุณทำนะเด็กที่บ้านผมเรียก รณรงค์ลดโลกร้อนครับ
ไม่เชื่อไปถามเด็กแถวบ้านเลยว่า เราจะช่วยลดโลกร้อนยังไง คำตอบก็แบบที่คุณทำนั้นแหละ

คุณหมายถึง คุณไม่ได้นำแนว ศก พอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน
และการนำสิ่งที่มีอยู่ กลับมาใช้ใหม่"ไม่ใช่" ศกพอเพียง

ถูกหรือไม่ครับ?

ต้นประโยค ผมโพสชัดเจน อ่านไม่เห็นเหรอ
แต่ผมไม่ประมาท ทุกอย่างผมเตรียมสำหนับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เข้าใจไหม
ผมไม่พอเพียงเพราะยังต้องหาให้มี ถ้าอยากมีต้องควรมี ผมเห็น นักวิชาการ บางกระทู้บอกว่า ต้องมี ภาษาอังกฤษ self ไรนั้นนนะ

[susu]

ใช้โทรศัพท์ เก่าจนพัง ค่อยซื้อเครื่องใหม่ ครับ

[เคนอิจิ-นามิ]

เลือกปรับใช้ให้เข้ากับครอบครัวครับ
ทำบัญชีครัวเรือน แบ่งการใช้จ่ายให้เป็นสัดส่วน
เพราะรายรับของที่บ้าน มาจากเงินเดือน ดังนั้นจึงทำรายรับรายจ่ายที่ตายตัวได้

แต่หลักๆคือ ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ฟุ้งเฟ้อ

ตัวอย่างๆๆๆๆๆๆๆๆ
เผื่อนำไปใช้บ้างครับ

รู้เงินเข้าเงินออก ปรับให้เหมาะสม จัดแบ่งเงินเก็บไว้ ตามสัดส่วน แค่นี้ก็มีพอกินพอใช้ เบื้องต้นแล้ว
ต่อมาคือ จัดการกับใจของตัวท่านเอง ว่าอย่าหลงฟุ้งเฟ้อ ไอ้นู่นอยากมี ไอ้นี่อยากได้
ท่านดูความจำเป็นว่า เราต้องใช้ขนาดไหน ต้องมีขนาดนั้นหรือ ตรงนี้ยากสุดๆ
แต่โตๆกันแล้ว พิจารณาเองให้เหมาะสม ให้ ค.ว.ย ครับ

ขอรายละเอียดว่า เหมาะสม ตามสัดส่วน คุณแบ่งอะไรเท่าไหร่บ้าง
คำว่าเหมาะสม มันยากนะครับ บางคน ไม่รู้ว่าเหมาะสมคืออะไร
แต่แน่นอน เหมาะสมของทุกคนไม่เหมือนกัน
และเป้าหมายการจัดสรรค์ ต่างกัน

อย่างผมบอก เก็บได้ 50% แล้ว ที่เหลือ ใครจะว่าสุรุ่ยสุร่าย ก็แล้วแต่
แต่เงินเก็บ ผมเอาไปซื้อทุกอย่าง "ตามสมควร" เพียงแค่เหลืออีก 50% ของเงินเก็บ เพื่อปัจจัยสี่

[เคนอิจิ-นามิ]

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

แล้วคุณทำอะไรที่เหมือนหัวข้อกระทู้บอกบ้างครับ?

อย่างผมไม่พอเพียงครับ เพราะผมกับแฟนใช้โทรศัพท์เครื่องละ2หมื่น กินอาหารก็ขอให้ดีไว้ก่อน แพงหน่อยไม่ว่า แต่ ผมไม่ประมาท
ผมกับแฟนทำประกันเตรียมพร้อม รายได้ก่อนนำไปใข้หักออม30%เสมอ
ส่วนไอ่คุณบอกนะ ถุงนะผมใช้แล้วใช้อีก แก้วกาแฟผมไม่เคยซื้อแจกมากับสินค้าที่ผมขาย จนแจกบ้างขายบ้างยิ่งกว่าใช้คนเดียวอีก
ไป7 ผมซื้อของถ้าไม่ใช่ว่าเยอะมากผมก็ไม่ใส่ถุง
ขับรถไปไหนมาไหนก็ใช้ จยย. รถยนต์ถ้าไม่ออกต่างจังหวัดไม่ขับ ขนาดไปจ.ใกล้เคียงนังรถตู้เลย
ไอที่คุณทำนะเด็กที่บ้านผมเรียก รณรงค์ลดโลกร้อนครับ
ไม่เชื่อไปถามเด็กแถวบ้านเลยว่า เราจะช่วยลดโลกร้อนยังไง คำตอบก็แบบที่คุณทำนั้นแหละ

คุณหมายถึง คุณไม่ได้นำแนว ศก พอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน
และการนำสิ่งที่มีอยู่ กลับมาใช้ใหม่"ไม่ใช่" ศกพอเพียง

ถูกหรือไม่ครับ?

ต้นประโยค ผมโพสชัดเจน อ่านไม่เห็นเหรอ
แต่ผมไม่ประมาท ทุกอย่างผมเตรียมสำหนับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เข้าใจไหม
ผมไม่พอเพียงเพราะยังต้องหาให้มี ถ้าอยากมีต้องควรมี ผมเห็น นักวิชาการ บางกระทู้บอกว่า ต้องมี ภาษาอังกฤษ self ไรนั้นนนะ

จะโมโหอะไรกันนักหนาคร้าบบบ
ผมบอกว่า ใครพอเพียงอย่างไร ให้ช่วยกันเล่า คุณมาเล่า ว่าไม่พอเพียง แถมมวิจารณ์ผมอีก ผมก็สับสนสิ

งั้นผมผ่านครับ ขอบคุณที่ช่วยแสดงความเห็น

[samepong]

เลือกปรับใช้ให้เข้ากับครอบครัวครับ
ทำบัญชีครัวเรือน แบ่งการใช้จ่ายให้เป็นสัดส่วน
เพราะรายรับของที่บ้าน มาจากเงินเดือน ดังนั้นจึงทำรายรับรายจ่ายที่ตายตัวได้

แต่หลักๆคือ ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ฟุ้งเฟ้อ

ตัวอย่างๆๆๆๆๆๆๆๆ
เผื่อนำไปใช้บ้างครับ

รู้เงินเข้าเงินออก ปรับให้เหมาะสม จัดแบ่งเงินเก็บไว้ ตามสัดส่วน แค่นี้ก็มีพอกินพอใช้ เบื้องต้นแล้ว
ต่อมาคือ จัดการกับใจของตัวท่านเอง ว่าอย่าหลงฟุ้งเฟ้อ ไอ้นู่นอยากมี ไอ้นี่อยากได้
ท่านดูความจำเป็นว่า เราต้องใช้ขนาดไหน ต้องมีขนาดนั้นหรือ ตรงนี้ยากสุดๆ
แต่โตๆกันแล้ว พิจารณาเองให้เหมาะสม ให้ ค.ว.ย ครับ

ขอรายละเอียดว่า เหมาะสม ตามสัดส่วน คุณแบ่งอะไรเท่าไหร่บ้าง
คำว่าเหมาะสม มันยากนะครับ บางคน ไม่รู้ว่าเหมาะสมคืออะไร
แต่แน่นอน เหมาะสมของทุกคนไม่เหมือนกัน
และเป้าหมายการจัดสรรค์ ต่างกัน

อย่างผมบอก เก็บได้ 50% แล้ว ที่เหลือ ใครจะว่าสุรุ่ยสุร่าย ก็แล้วแต่
แต่เงินเก็บ ผมเอาไปซื้อทุกอย่าง "ตามสมควร" เพียงแค่เหลืออีก 50% ของเงินเก็บ เพื่อปัจจัยสี่

ชอบถามอะไรที่ตอบไม่มีถูกผิดเนอะ คนเรา

[เคนอิจิ-นามิ]

ใช้โทรศัพท์ เก่าจนพัง ค่อยซื้อเครื่องใหม่ ครับ

คือ ที่จริงแล้ว ไม่อยากซื้อโทรศัพท์ใหม่
เพราะกลัวระบบติดตามตัว แล้วเมียจับได้ว่าอยู่ไหน

ใช่ไหมครับ

*กรุณาอย่าอ้างพอเพียง

[เคนอิจิ-นามิ]

เลือกปรับใช้ให้เข้ากับครอบครัวครับ
ทำบัญชีครัวเรือน แบ่งการใช้จ่ายให้เป็นสัดส่วน
เพราะรายรับของที่บ้าน มาจากเงินเดือน ดังนั้นจึงทำรายรับรายจ่ายที่ตายตัวได้

แต่หลักๆคือ ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ฟุ้งเฟ้อ

ตัวอย่างๆๆๆๆๆๆๆๆ
เผื่อนำไปใช้บ้างครับ

รู้เงินเข้าเงินออก ปรับให้เหมาะสม จัดแบ่งเงินเก็บไว้ ตามสัดส่วน แค่นี้ก็มีพอกินพอใช้ เบื้องต้นแล้ว
ต่อมาคือ จัดการกับใจของตัวท่านเอง ว่าอย่าหลงฟุ้งเฟ้อ ไอ้นู่นอยากมี ไอ้นี่อยากได้
ท่านดูความจำเป็นว่า เราต้องใช้ขนาดไหน ต้องมีขนาดนั้นหรือ ตรงนี้ยากสุดๆ
แต่โตๆกันแล้ว พิจารณาเองให้เหมาะสม ให้ ค.ว.ย ครับ

ขอรายละเอียดว่า เหมาะสม ตามสัดส่วน คุณแบ่งอะไรเท่าไหร่บ้าง
คำว่าเหมาะสม มันยากนะครับ บางคน ไม่รู้ว่าเหมาะสมคืออะไร
แต่แน่นอน เหมาะสมของทุกคนไม่เหมือนกัน
และเป้าหมายการจัดสรรค์ ต่างกัน

อย่างผมบอก เก็บได้ 50% แล้ว ที่เหลือ ใครจะว่าสุรุ่ยสุร่าย ก็แล้วแต่
แต่เงินเก็บ ผมเอาไปซื้อทุกอย่าง "ตามสมควร" เพียงแค่เหลืออีก 50% ของเงินเก็บ เพื่อปัจจัยสี่

ชอบถามอะไรที่ตอบไม่มีถูกผิดเนอะ คนเรา

ไม่เคยมีใครถูก ใครผิด ในชีวิตส่วนตัวของตัวเองทั้งนั้นครับ
ผมไม่ได้ตัดสิน และคิดว่า ไม่มีใครตัดสินได้ ด้วยข้อมูลแค่นี้ครับ
ส่วนที่ถาม เพื่อเป็นตัวอย่าง สำหรับคนที่เข้ามาอ่าน และยังไม่เคยคำนึงถึงเรื่องนี้

จะใช่ หรือไม่ใช่ ศก พอเพียง
แต่ถือว่า ทุกคน ร่วมปฏิบัติตามแนวคิด
จะถูกหรือผิด ต้องดูที่ หลักการ
ซึ่งผม ไม่สามารถตัดสินได้ครับ

[เคนอิจิ-นามิ]

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง น่าจะเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล
จะมีผลกับคนรอบข้างบ้างเช่นในครอบครัว
เมื่อน้อมนำมาใช้ก็จะเห็นผลต่างจากจากตอนที่ไม่ได้ใช้ชัดเจน
ต่างกับการใช้วัสดุหมุนเวียน หรือกิจกรรมอื่นเช่นลดโลกร้อน
ทำคนเดียวทำแทบตายไม่เห็นผล ต้องใช้คนเยอะๆ

ปัจเจกนั่นแหละครับ ขอประสบการณ์ที่คุณมี

มีเรื่องไหน ที่เราพอทำได้ และตรงตามแนวทางครับ?

[ไฮยีน่า]

เศรฐกิจพอเพียงกับการประหยัด ไม่เหมือนกันนะเพื่อนสมาชิกส่วนมากเหมือนการประหยัดมากกว่า 

อย่างเช่น เราได้รายวันวันละ 300 แต่เราใช้วันละ 350 มันพอเพียงไหม เราจะเอาไปเทียบกับที่เขาได้วันละ 500 เขาใช้ 350ไม่ได้ มันแล้วแต่ฐานะ รายได้ของเรามากกว่า ไม่ใช่ว่ากำลังเราแค่รถมอเตอร์ไซด์ แต่เราจะขับรถยนต์แข่งกับนายจ้างมันไม่ใช่ 

อยู่อย่างไม่มีหนี้สิน มีเงินเก็บเงินออม ไม่เดือดร้อนทั้งตัวเองกับคนรอบข้างก็เพียงพอแล้ว 

[เคนอิจิ-นามิ]

ถ้ารู้จักพอ ชีวิตก็จะมีความสุขครับ

ถูกครับ

วิตนี้เพียงพอกับอะไรแล้วบ้างครับ?

สำหรับผมคือ เครื่องประดับ ที่เกินจาก 32 ส่วนองร่างกาย เช่น เสื้อผ้า นาฬิกา แหวนสร้อยเข็มขัด คือ ถ้าไม่ไปทำงาน มีแค่เสื้อกะ กางเกง ออกนอกบ้านเลยครับ

อีกอย่าง ที่ไม่พอสักทีคือ ชา-กาแฟ

[เคนอิจิ-นามิ]

จากที่อ่านแต่ละคนมีแนวคิดไม่เหมือนกันจริงๆ
บางอย่างราคาแพงแต่ถูกใจแล้วมีโอกาสใช้อย่างคุ้มค่าก็ซื้อ ถูกไม่ได้ใช้ไม่ซื้อ แล้วแต่เหตุผลแต่ละคนค่ะ บางอย่างหลายคนก็เห็นว่าขัดกับเค้าก็ถูกตำหนิมา แต่ส่วนตัวถ้ายังหาอะไรทดแทนไม่ได้ก็ใช้ของมีราคานั่นแหละ เราเองยังขัดตากับคนที่ซื้อของถูกจำนวนเยอะๆแล้วปล่อยให้เน่าเสีย บอกตรงๆเสียดายแทน

ครับ ต่างคนต่างแนวคิด
บางคนทำเหมือนเราได้ แต่ทำเหมือนอีกคนไม่ได้ ก็เลยอยากให้ช่วยกันเสนอไอเดียครับ

ถามคุณต้นหอมนิดนึง

ก่อนและหลังการนำแนวคิดมาใช้กับชีวิตประจำวันนั้น ส่งเสริม หรือลดอะไรไปจากชีวิตบ้างค่ับ?

[samepong]

อย่างไร

อย่างแม่บ้านของผม เลือกซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นแก้ว หรือกระเบื้อง แทนการใช้กล่องโฟม ซึ่งใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง
ชา กาแฟ ต้องมีแก้ประจำตัวไปด้วยเสมอ แม้ของต่างๆเหล่านั้น จะมีราคาแพงกว่า บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นพลาสติก

การช้อปปิ้งตาม 0 การค้า ใช้ถุงรีฟิว 1 เพื่อลดปริมาณขยะ 2 ลดใช้พลาสติก 3 นำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ หากมีความจำเป้นต้องรับถุงก้อแก้บกลับมา จะนำไปเป็นถุงขยะ

เลือกใช้พลังงานทางเลือก ที่มีส่วนต่างการจ่าย เพื่อจะได้นำส่วนต่างนั้นไว้เป็นเงินออม หรือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ต่อไป
หากวันไหน ต้องเข้าเส้นทางที่รถติด จะจอดรถไว้ตามที่จอก bts หรือ mrt แล้วใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อลดเวลา และค่าน้ำมัน

สอนลูกหลานให้รู้จัก ปิดไฟหลังการใช้ ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้

ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ จึงมักจะนำมัน ออกมาทำเป็นโปสการ์ด ปฏิทิน หรือการ์ดวันสำคัญต่างๆ เพื่อแจก หรือจำหน่าย รายได้ มอบให้การกุศล
ถือว่าไม่มาก แต่สามารถต่อยอดเงินได้ บางครั้ง ลงทุนอยู่ เกือบพัน แต่ได้มาเกือบหมื่น ดีกว่า เราบริจาคไปพันนึง ยอดก็คือพันเดียว


แล้วคุณๆล่ะ มาแบ่งปันไอเดียกันหน่อยไหม

ที่คุณโพสมาเนี่ย เค้าเรียกว่ารณรงค์ลดโลกร้อนครับ ไม่ใช่ อะไรที่หัวกระทู้เลยบอกเลย

แล้วคุณทำอะไรที่เหมือนหัวข้อกระทู้บอกบ้างครับ?

อย่างผมไม่พอเพียงครับ เพราะผมกับแฟนใช้โทรศัพท์เครื่องละ2หมื่น กินอาหารก็ขอให้ดีไว้ก่อน แพงหน่อยไม่ว่า แต่ ผมไม่ประมาท
ผมกับแฟนทำประกันเตรียมพร้อม รายได้ก่อนนำไปใข้หักออม30%เสมอ
ส่วนไอ่คุณบอกนะ ถุงนะผมใช้แล้วใช้อีก แก้วกาแฟผมไม่เคยซื้อแจกมากับสินค้าที่ผมขาย จนแจกบ้างขายบ้างยิ่งกว่าใช้คนเดียวอีก
ไป7 ผมซื้อของถ้าไม่ใช่ว่าเยอะมากผมก็ไม่ใส่ถุง
ขับรถไปไหนมาไหนก็ใช้ จยย. รถยนต์ถ้าไม่ออกต่างจังหวัดไม่ขับ ขนาดไปจ.ใกล้เคียงนังรถตู้เลย
ไอที่คุณทำนะเด็กที่บ้านผมเรียก รณรงค์ลดโลกร้อนครับ
ไม่เชื่อไปถามเด็กแถวบ้านเลยว่า เราจะช่วยลดโลกร้อนยังไง คำตอบก็แบบที่คุณทำนั้นแหละ

คุณหมายถึง คุณไม่ได้นำแนว ศก พอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน
และการนำสิ่งที่มีอยู่ กลับมาใช้ใหม่"ไม่ใช่" ศกพอเพียง

ถูกหรือไม่ครับ?

ต้นประโยค ผมโพสชัดเจน อ่านไม่เห็นเหรอ
แต่ผมไม่ประมาท ทุกอย่างผมเตรียมสำหนับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เข้าใจไหม
ผมไม่พอเพียงเพราะยังต้องหาให้มี ถ้าอยากมีต้องควรมี ผมเห็น นักวิชาการ บางกระทู้บอกว่า ต้องมี ภาษาอังกฤษ self ไรนั้นนนะ

จะโมโหอะไรกันนักหนาคร้าบบบ
ผมบอกว่า ใครพอเพียงอย่างไร ให้ช่วยกันเล่า คุณมาเล่า ว่าไม่พอเพียง แถมมวิจารณ์ผมอีก ผมก็สับสนสิ

งั้นผมผ่านครับ ขอบคุณที่ช่วยแสดงความเห็น

เปล่าโมโห แค่บอกว่าโพสตั่งแต่คำแรกแล้วเท่านั้น

[เคนอิจิ-นามิ]

เศรษฐกิจพอเพียง ผมว่าที่เจ้ากระทู้โพสมามันยังไม่เข้าทฤษฏีสักเท่าไหร่นะครับ ตามความเห็นผม

ผมบอกแล้วเด็กข้างบ้านผมเรียก ลดโลกร้อน

ลดโลกร้อนมันผลพลอยได้ครับ (จริงๆ มันลดหรือไม่ลดเราไม่รู้หรอก ไปเชื่อตามฝรั่งมัน)

รู้แต่ว่าใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม เอาทรัพยากรขึ้นมาเปลี่ยนเป็นตัวเลขในบัญชีให้น้อยลง ก็เรียกว่าพอเพียงแล้ว

ทุกวันนี้ธุรกิจต่างๆ เร่งรีบแข่งกันขุดเอาทรัพยากรธรรมชาติมาเปลี่ยนเป็นตัวเลขในบัญชีธนาคาร ใครเปลี่ยนได้เร็วในระดับตัวเลขสองหลักคือผู้ประสบความสำเร็จ ได้รับความชื่นชม

พอถีงวันหนี่ง ตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นหลายสิบหลัก แต่มันไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นทรัพยากรที่เอาไว้กินไว้ใช้ได้

เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับผมคือชะลออัตราการเปลี่ยนทรัพยากรธรรมชาติที่กินใช้ได้มาเป็นตัวเลขที่ว่างเปล่าในบัญชีธนาคารครับ

คุณโพสแบบนี้ เดี๋ยว จขดท.บอกว่าไม่ใช่นะครับ

ผมยังไม่ตัดสินใครในกระทู้นี้สักคนว่า ใช่หรือไม่
แต่บังเอิญ คุณลีพูดถูก ตามแนวทางที่ผมวางไว้ครับ

การหมุนเวียนใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
รู้ไหมครับ น้ำแก้วละ 20 ผมซื่อได้ 18 เพราะแม่ค้าลดให้
เขาบอกว่า ค่าแก้วบาทนึง
เขาคงอยากช่วยลดโลกร้อนให้อีกบาทนึงด้วย

บางที เราทำแล้ว คนอื่นได้ประโยชน์ ก็เป็นได้ครับ


พี่ลี ฝรั่งมันรู้จัก พอเพียงสะที่ไหน

[เคนอิจิ-นามิ]

จากที่อ่านแต่ละคนมีแนวคิดไม่เหมือนกันจริงๆ
บางอย่างราคาแพงแต่ถูกใจแล้วมีโอกาสใช้อย่างคุ้มค่าก็ซื้อ ถูกไม่ได้ใช้ไม่ซื้อ แล้วแต่เหตุผลแต่ละคนค่ะ บางอย่างหลายคนก็เห็นว่าขัดกับเค้าก็ถูกตำหนิมา แต่ส่วนตัวถ้ายังหาอะไรทดแทนไม่ได้ก็ใช้ของมีราคานั่นแหละ เราเองยังขัดตากับคนที่ซื้อของถูกจำนวนเยอะๆแล้วปล่อยให้เน่าเสีย บอกตรงๆเสียดายแทน

ราคาบางครั้งไม่ใช่วัดในทฤษฎี เพื่อนผมชอบนาฬิกาเรือนละหกเจ็ดร้อยบอกว่าใช้ได้เหมือนกัน ผมบอกว่าเอาที่ราคา6_7000เลย ชีวิตนี้ถ้าไม่ทำหายใช้เรือนเดียว 3ปีมันเปลี่ยน4เรือน สุดท้ายมันยอมซื้อตามผมแนะนำ จากวันนั้น3ปีมันไม่เคยเปลี่ยนอีกเลยดังนั้นบางทีแพงก็อาจจะพอเพียงได้ ถ้าระยะการใช้งานมันคุ้มกว่า

6-7000 ผมซื่อเรือนละ 100ได้ 6-70 เรือน
ใส่เดือนละเรือนได้ 5ปีเลยนะ

[phoosana]

ง่ายๆ เคยกินเหล้าสูบบุหรี่ ก็เลิกประมาณแล้วมีค่าใช้จ่ายจากสองอย่างนี้ตกเดือนละ

2000 - 2500 บาท เปลี่ยนเป็นเงินออม ทุกวันผมก็ออมเงินจากหลายวิธี

สิบกว่าปีมีหุ้นในสหกรณ์ 500,000 บาท มีฌาปนกิจสงเคราะห์ไม่ต้องห่วงค่าทำศพครับ

ตายได้ 600,000 บาท ที่บ้านมีรถยนต์ มีมอเตอร์ไซค์

แต่คำนวนดูแล้ว ทำงานไปกลับ 80 กิโลเมตร ขับมอเตอร์ไซด์ไปทำงาน

น้ำมันสองลิตรเอาอยู่ไหม นั่งรถไปทำงาน ขาไป 40 บาท ขากลับ 35

อย่าสงสัยว่าทำไมไม่เท่ากัน ฮ่าๆๆ รวมแล้ว 75 บาท แถมปลอดภัยกว่า

 

การประหยัด ไม่ใช่ว่าเขียมซะจนตัวเองก็เดือดร้อน

มีมากจ่ายมากไม่เป็นไร แต่ขอให้พอเหมาะแก่ฐานะของตน

และมีเงินออมเก็บไว้ออมบ้าง เพราะข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะพบเจอกับอะไร

[เคนอิจิ-นามิ]

ของผมนะ
1) เมื่อก่อนใส่เสื้อตัวเป็นพันซื้อในห้าง เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดตัวละร้อยสองร้อยซื้อใน BigC Lotus เดี๋ยวนี้ไปเดินในห้างเห็นเสื้อผ้าแล้วซื้อไม่ลง เสียดายตังค์ บางครั้งก็ให้ภรรยาตัดกางเกงให้ใส่ ข้อดีของการแต่งตัวแบบบ้านนอกก็คือ เวลาเดินในห้าง จะไม่มีคนมาคอยเรียกให้สมัครบัตรโน้นบัตรนี้

2) ฝึกให้ลูกนั่งรถเมล์กลับมาบ้านเองบ้าง บางครั้งจึงจะไปรับ

3) ส่วนใหญ่ผมจะอยู่บ้านเกือบทั้งวัน ที่บ้านก็มีคอม+อินเตอร์เน็ตแล้ว ผมเลยไม่เห็นความจำเป็นต้องซื้อ tablet ลูกผมก็ไม่เคยเรียกร้องขอ tablet เลย ผมจะใช้ 3G แบบสมัครทีละ 5 ชม บ้าง 20 ชม บ้าง เอาไว้ใช้กับโทรศัพท์เวลาต้องเดินทางออกต่างจังหวัด ไม่เคยเสียแบบ unlimited เพราะนานๆ ใช้ที

4) TV ที่บ้านผมยังเป็นจอแก้วอยู่ ใช้มาหลายปีแล้วมันก็ยังใช้งานได้ดี ผมยังไม่เปลี่ยนไปใช้ LCD LED Plasma เลย รอมันเสียอยู่

นึกออกแค่นี้ สรุปว่า ชีวิตผมในช่วง 10 ปีมานี้ เรียบง่ายลงมากจนเกือบจะเหมือนคนบ้านนอกไปทุกที

เจ๋งเป้งเลยคุณลี

ผมนั่งรถเมล์ไปมหาลัย ไม่ต่ำกว่า ชม.ครึ่งต่อเที่ยว ขากลับนี่อาจถึง สามชม. พ่อเคยถามจะเอารถไหม (สงสาร) ผมก็ว่า มันไม่จำเป็นหรอก
เรานั่งคิดอะไรได้เยอะแยะ บนรถเมล์นะ (พอดีได้นั่ง)
ทบทวนการบ้าน ทบทวนเรื่องที่ครูสอน หรือถ้ากลับกับเพื่อน ก็ช่วยติวกันได้
ดีกว่าเสียเวลาขับรถเอง

พอทำงาน ต้องมานั่งขับเอง อยากนอนก็นอนไม่ได้ เสียดุลย ครับ อิอิ

แต่งตัว... ถ้าไม่ทำงาน ก็เสื้อยืดเกงขาสั้นเหมือนกัน
ผมมันไม่มีราศี พนักงาน ไม่สนใจขายเลย
(ก็ดี ไม่รำคาญ

ส่วนเน็ท 3g บางคนบอกว่า unlimited มันถูกกว่าเมื่อเทียบกับรายชม.
ผมถามว่า แล้วได้ใช้ไหมล่ะ
มันถูกกว่า แต่เวีย 800 กว่าใช้แค่ 300
ก็ไปเอาเป็นรายชม. แบบพี่ว่า ถึงมันจะแพง แต่เพียงพอให้ใช้
เดือนไหนเกิดอยากใช้มาก ก็ topup แค่เดือนนั้นก็พอ เอาเงินไปบริจาค unicef wscr ไรพวกนั้นดีกว่า


นิดนึงครับ... ผมมักจะเก็บรายรับไว้ส่วนนึงเสมอ
สมัยก่อนมีเพลง อัสนี-วสันต์
เหลือเก็บค่อยเอาไปใช้ เหลือจ่ายค่อยเอาไปเก็บ

ผมจะออมเงินไว้ส่วนนึงก่อนเพื่อตั้งต้น เช่น กะว่าเก็บมัน 50% เลย
ใช้ไม่หมด ก็เอาไปเก็บ
พอได้ประมาณนึงแล้ว ก็คิดอีกว่า มีสิ่งฟุ่มเฟทอยอะไรที่ตัดได้อีก
สิ่งที่เหลือจากเก็บนั้น ผมใช้หมด
แต่จะใช้ในรูปของ เงินหมุนเวียนบ้าง บริจาคบ้าง ถือว่า เป็นเงินที่ไม่มีความเสี่ยง

ส่วนเกบ 50% ก็เผื่อเอาไว้ใช้ยามจำเป็นส่วนนึง
ดาวน์ อะไร เพื่อกู้ให้น้อยลงส่วนนึง
หลักประกันที่มั่นคงสุดตอนคือ ทำประกันครับ
แบบมีเงินจ่ายให้ทุกปีหลังเกษียณ

ไอ้ที่ว่ามาทั้งหมดเนี่ย...

เห็นนักวิชาการทู้โน้นนนน เค้าบอกมันไม่ใ่ช่เศรษฐกิจพอเพียง

แต่มันเป็น self - sufficiency economy น๊ะครับ

คุณก็ยังเข้าใจความหมาย ไม่ตรงกับผมอยู่ดี

[เคนอิจิ-นามิ]

เศรฐกิจพอเพียงกับการประหยัด ไม่เหมือนกันนะเพื่อนสมาชิกส่วนมากเหมือนการประหยัดมากกว่า
อย่างเช่น เราได้รายวันวันละ 300 แต่เราใช้วันละ 350 มันพอเพียงไหม เราจะเอาไปเทียบกับที่เขาได้วันละ 500 เขาใช้ 350ไม่ได้ มันแล้วแต่ฐานะ รายได้ของเรามากกว่า ไม่ใช่ว่ากำลังเราแค่รถมอเตอร์ไซด์ แต่เราจะขับรถยนต์แข่งกับนายจ้างมันไม่ใช่
อยู่อย่างไม่มีหนี้สิน มีเงินเก็บเงินออม ไม่เดือดร้อนทั้งตัวเองกับคนรอบข้างก็เพียงพอแล้ว

เพียงพอ ใช่พอเพียงไหมครับ


*แซะ...

[เคนอิจิ-นามิ]

ครอบครัวผมนำ ศกพอเพียง มาใช้ยิ่งกว่า เคนอิจิ ลดโลกร้อนอีก

นี่หรือศกพอเพียงของ เคนอิจิ หว่า

ทำอย่างไรครับ ขอทราบเป็นแนวทาง

[55555]

 

 

ของผมนะ
1) เมื่อก่อนใส่เสื้อตัวเป็นพันซื้อในห้าง เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดตัวละร้อยสองร้อยซื้อใน BigC Lotus เดี๋ยวนี้ไปเดินในห้างเห็นเสื้อผ้าแล้วซื้อไม่ลง เสียดายตังค์ บางครั้งก็ให้ภรรยาตัดกางเกงให้ใส่ ข้อดีของการแต่งตัวแบบบ้านนอกก็คือ เวลาเดินในห้าง จะไม่มีคนมาคอยเรียกให้สมัครบัตรโน้นบัตรนี้

2) ฝึกให้ลูกนั่งรถเมล์กลับมาบ้านเองบ้าง บางครั้งจึงจะไปรับ

3) ส่วนใหญ่ผมจะอยู่บ้านเกือบทั้งวัน ที่บ้านก็มีคอม+อินเตอร์เน็ตแล้ว ผมเลยไม่เห็นความจำเป็นต้องซื้อ tablet ลูกผมก็ไม่เคยเรียกร้องขอ tablet เลย ผมจะใช้ 3G แบบสมัครทีละ 5 ชม บ้าง 20 ชม บ้าง เอาไว้ใช้กับโทรศัพท์เวลาต้องเดินทางออกต่างจังหวัด ไม่เคยเสียแบบ unlimited เพราะนานๆ ใช้ที

4) TV ที่บ้านผมยังเป็นจอแก้วอยู่ ใช้มาหลายปีแล้วมันก็ยังใช้งานได้ดี ผมยังไม่เปลี่ยนไปใช้ LCD LED Plasma เลย รอมันเสียอยู่

นึกออกแค่นี้ สรุปว่า ชีวิตผมในช่วง 10 ปีมานี้ เรียบง่ายลงมากจนเกือบจะเหมือนคนบ้านนอกไปทุกที

เจ๋งเป้งเลยคุณลี

ผมนั่งรถเมล์ไปมหาลัย ไม่ต่ำกว่า ชม.ครึ่งต่อเที่ยว ขากลับนี่อาจถึง สามชม. พ่อเคยถามจะเอารถไหม (สงสาร) ผมก็ว่า มันไม่จำเป็นหรอก
เรานั่งคิดอะไรได้เยอะแยะ บนรถเมล์นะ (พอดีได้นั่ง)
ทบทวนการบ้าน ทบทวนเรื่องที่ครูสอน หรือถ้ากลับกับเพื่อน ก็ช่วยติวกันได้
ดีกว่าเสียเวลาขับรถเอง

พอทำงาน ต้องมานั่งขับเอง อยากนอนก็นอนไม่ได้ เสียดุลย ครับ อิอิ

แต่งตัว... ถ้าไม่ทำงาน ก็เสื้อยืดเกงขาสั้นเหมือนกัน
ผมมันไม่มีราศี พนักงาน ไม่สนใจขายเลย
(ก็ดี ไม่รำคาญ

ส่วนเน็ท 3g บางคนบอกว่า unlimited มันถูกกว่าเมื่อเทียบกับรายชม.
ผมถามว่า แล้วได้ใช้ไหมล่ะ
มันถูกกว่า แต่เวีย 800 กว่าใช้แค่ 300
ก็ไปเอาเป็นรายชม. แบบพี่ว่า ถึงมันจะแพง แต่เพียงพอให้ใช้
เดือนไหนเกิดอยากใช้มาก ก็ topup แค่เดือนนั้นก็พอ เอาเงินไปบริจาค unicef wscr ไรพวกนั้นดีกว่า


นิดนึงครับ... ผมมักจะเก็บรายรับไว้ส่วนนึงเสมอ
สมัยก่อนมีเพลง อัสนี-วสันต์
เหลือเก็บค่อยเอาไปใช้ เหลือจ่ายค่อยเอาไปเก็บ

ผมจะออมเงินไว้ส่วนนึงก่อนเพื่อตั้งต้น เช่น กะว่าเก็บมัน 50% เลย
ใช้ไม่หมด ก็เอาไปเก็บ
พอได้ประมาณนึงแล้ว ก็คิดอีกว่า มีสิ่งฟุ่มเฟทอยอะไรที่ตัดได้อีก
สิ่งที่เหลือจากเก็บนั้น ผมใช้หมด
แต่จะใช้ในรูปของ เงินหมุนเวียนบ้าง บริจาคบ้าง ถือว่า เป็นเงินที่ไม่มีความเสี่ยง

ส่วนเกบ 50% ก็เผื่อเอาไว้ใช้ยามจำเป็นส่วนนึง
ดาวน์ อะไร เพื่อกู้ให้น้อยลงส่วนนึง
หลักประกันที่มั่นคงสุดตอนคือ ทำประกันครับ
แบบมีเงินจ่ายให้ทุกปีหลังเกษียณ

ไอ้ที่ว่ามาทั้งหมดเนี่ย...

เห็นนักวิชาการทู้โน้นนนน เค้าบอกมันไม่ใ่ช่เศรษฐกิจพอเพียง

แต่มันเป็น self - sufficiency economy น๊ะครับ

คุณก็ยังเข้าใจความหมาย ไม่ตรงกับผมอยู่ดี

 

 

แต่ผมเข้าใจเหมือนกับ คุณ ลี  นามสกุลเดียว กับ คุณเคนน๊ะครับ

 

 

[เคนอิจิ-นามิ]

ง่ายๆ เคยกินเหล้าสูบบุหรี่ ก็เลิกประมาณแล้วมีค่าใช้จ่ายจากสองอย่างนี้ตกเดือนละ
2000 - 2500 บาท เปลี่ยนเป็นเงินออม ทุกวันผมก็ออมเงินจากหลายวิธี
สิบกว่าปีมีหุ้นในสหกรณ์ 500,000 บาท มีฌาปนกิจสงเคราะห์ไม่ต้องห่วงค่าทำศพครับ
ตายได้ 600,000 บาท ที่บ้านมีรถยนต์ มีมอเตอร์ไซค์
แต่คำนวนดูแล้ว ทำงานไปกลับ 80 กิโลเมตร ขับมอเตอร์ไซด์ไปทำงาน
น้ำมันสองลิตรเอาอยู่ไหม นั่งรถไปทำงาน ขาไป 40 บาท ขากลับ 35
อย่าสงสัยว่าทำไมไม่เท่ากัน ฮ่าๆๆ รวมแล้ว 75 บาท แถมปลอดภัยกว่า

การประหยัด ไม่ใช่ว่าเขียมซะจนตัวเองก็เดือดร้อน
มีมากจ่ายมากไม่เป็นไร แต่ขอให้พอเหมาะแก่ฐานะของตน
และมีเงินออมเก็บไว้ออมบ้าง เพราะข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะพบเจอกับอะไร

คลับคล้ายคลับคลา จะทำงานที่เดียวกัน 5555
แต่ผมยังมีไม่ถึง 5แสนเลยครับ

[เคนอิจิ-นามิ]

ของผมนะ
1) เมื่อก่อนใส่เสื้อตัวเป็นพันซื้อในห้าง เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดตัวละร้อยสองร้อยซื้อใน BigC Lotus เดี๋ยวนี้ไปเดินในห้างเห็นเสื้อผ้าแล้วซื้อไม่ลง เสียดายตังค์ บางครั้งก็ให้ภรรยาตัดกางเกงให้ใส่ ข้อดีของการแต่งตัวแบบบ้านนอกก็คือ เวลาเดินในห้าง จะไม่มีคนมาคอยเรียกให้สมัครบัตรโน้นบัตรนี้

2) ฝึกให้ลูกนั่งรถเมล์กลับมาบ้านเองบ้าง บางครั้งจึงจะไปรับ

3) ส่วนใหญ่ผมจะอยู่บ้านเกือบทั้งวัน ที่บ้านก็มีคอม+อินเตอร์เน็ตแล้ว ผมเลยไม่เห็นความจำเป็นต้องซื้อ tablet ลูกผมก็ไม่เคยเรียกร้องขอ tablet เลย ผมจะใช้ 3G แบบสมัครทีละ 5 ชม บ้าง 20 ชม บ้าง เอาไว้ใช้กับโทรศัพท์เวลาต้องเดินทางออกต่างจังหวัด ไม่เคยเสียแบบ unlimited เพราะนานๆ ใช้ที

4) TV ที่บ้านผมยังเป็นจอแก้วอยู่ ใช้มาหลายปีแล้วมันก็ยังใช้งานได้ดี ผมยังไม่เปลี่ยนไปใช้ LCD LED Plasma เลย รอมันเสียอยู่

นึกออกแค่นี้ สรุปว่า ชีวิตผมในช่วง 10 ปีมานี้ เรียบง่ายลงมากจนเกือบจะเหมือนคนบ้านนอกไปทุกที

เจ๋งเป้งเลยคุณลี

ผมนั่งรถเมล์ไปมหาลัย ไม่ต่ำกว่า ชม.ครึ่งต่อเที่ยว ขากลับนี่อาจถึง สามชม. พ่อเคยถามจะเอารถไหม (สงสาร) ผมก็ว่า มันไม่จำเป็นหรอก
เรานั่งคิดอะไรได้เยอะแยะ บนรถเมล์นะ (พอดีได้นั่ง)
ทบทวนการบ้าน ทบทวนเรื่องที่ครูสอน หรือถ้ากลับกับเพื่อน ก็ช่วยติวกันได้
ดีกว่าเสียเวลาขับรถเอง

พอทำงาน ต้องมานั่งขับเอง อยากนอนก็นอนไม่ได้ เสียดุลย ครับ อิอิ

แต่งตัว... ถ้าไม่ทำงาน ก็เสื้อยืดเกงขาสั้นเหมือนกัน
ผมมันไม่มีราศี พนักงาน ไม่สนใจขายเลย
(ก็ดี ไม่รำคาญ

ส่วนเน็ท 3g บางคนบอกว่า unlimited มันถูกกว่าเมื่อเทียบกับรายชม.
ผมถามว่า แล้วได้ใช้ไหมล่ะ
มันถูกกว่า แต่เวีย 800 กว่าใช้แค่ 300
ก็ไปเอาเป็นรายชม. แบบพี่ว่า ถึงมันจะแพง แต่เพียงพอให้ใช้
เดือนไหนเกิดอยากใช้มาก ก็ topup แค่เดือนนั้นก็พอ เอาเงินไปบริจาค unicef wscr ไรพวกนั้นดีกว่า


นิดนึงครับ... ผมมักจะเก็บรายรับไว้ส่วนนึงเสมอ
สมัยก่อนมีเพลง อัสนี-วสันต์
เหลือเก็บค่อยเอาไปใช้ เหลือจ่ายค่อยเอาไปเก็บ

ผมจะออมเงินไว้ส่วนนึงก่อนเพื่อตั้งต้น เช่น กะว่าเก็บมัน 50% เลย
ใช้ไม่หมด ก็เอาไปเก็บ
พอได้ประมาณนึงแล้ว ก็คิดอีกว่า มีสิ่งฟุ่มเฟทอยอะไรที่ตัดได้อีก
สิ่งที่เหลือจากเก็บนั้น ผมใช้หมด
แต่จะใช้ในรูปของ เงินหมุนเวียนบ้าง บริจาคบ้าง ถือว่า เป็นเงินที่ไม่มีความเสี่ยง

ส่วนเกบ 50% ก็เผื่อเอาไว้ใช้ยามจำเป็นส่วนนึง
ดาวน์ อะไร เพื่อกู้ให้น้อยลงส่วนนึง
หลักประกันที่มั่นคงสุดตอนคือ ทำประกันครับ
แบบมีเงินจ่ายให้ทุกปีหลังเกษียณ

ไอ้ที่ว่ามาทั้งหมดเนี่ย...

เห็นนักวิชาการทู้โน้นนนน เค้าบอกมันไม่ใ่ช่เศรษฐกิจพอเพียง

แต่มันเป็น self - sufficiency economy น๊ะครับ

คุณก็ยังเข้าใจความหมาย ไม่ตรงกับผมอยู่ดี

แต่ผมเข้าใจเหมือนกับ คุณ ลี นามสกุลเดียว กับ คุณเคนน๊ะครับ

พี่ลีนั่นพูดถูกครับ แนวทางเดียวกับผม

[55555]

 

 

 

 

ของผมนะ
1) เมื่อก่อนใส่เสื้อตัวเป็นพันซื้อในห้าง เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดตัวละร้อยสองร้อยซื้อใน BigC Lotus เดี๋ยวนี้ไปเดินในห้างเห็นเสื้อผ้าแล้วซื้อไม่ลง เสียดายตังค์ บางครั้งก็ให้ภรรยาตัดกางเกงให้ใส่ ข้อดีของการแต่งตัวแบบบ้านนอกก็คือ เวลาเดินในห้าง จะไม่มีคนมาคอยเรียกให้สมัครบัตรโน้นบัตรนี้

2) ฝึกให้ลูกนั่งรถเมล์กลับมาบ้านเองบ้าง บางครั้งจึงจะไปรับ

3) ส่วนใหญ่ผมจะอยู่บ้านเกือบทั้งวัน ที่บ้านก็มีคอม+อินเตอร์เน็ตแล้ว ผมเลยไม่เห็นความจำเป็นต้องซื้อ tablet ลูกผมก็ไม่เคยเรียกร้องขอ tablet เลย ผมจะใช้ 3G แบบสมัครทีละ 5 ชม บ้าง 20 ชม บ้าง เอาไว้ใช้กับโทรศัพท์เวลาต้องเดินทางออกต่างจังหวัด ไม่เคยเสียแบบ unlimited เพราะนานๆ ใช้ที

4) TV ที่บ้านผมยังเป็นจอแก้วอยู่ ใช้มาหลายปีแล้วมันก็ยังใช้งานได้ดี ผมยังไม่เปลี่ยนไปใช้ LCD LED Plasma เลย รอมันเสียอยู่

นึกออกแค่นี้ สรุปว่า ชีวิตผมในช่วง 10 ปีมานี้ เรียบง่ายลงมากจนเกือบจะเหมือนคนบ้านนอกไปทุกที

เจ๋งเป้งเลยคุณลี

ผมนั่งรถเมล์ไปมหาลัย ไม่ต่ำกว่า ชม.ครึ่งต่อเที่ยว ขากลับนี่อาจถึง สามชม. พ่อเคยถามจะเอารถไหม (สงสาร) ผมก็ว่า มันไม่จำเป็นหรอก
เรานั่งคิดอะไรได้เยอะแยะ บนรถเมล์นะ (พอดีได้นั่ง)
ทบทวนการบ้าน ทบทวนเรื่องที่ครูสอน หรือถ้ากลับกับเพื่อน ก็ช่วยติวกันได้
ดีกว่าเสียเวลาขับรถเอง

พอทำงาน ต้องมานั่งขับเอง อยากนอนก็นอนไม่ได้ เสียดุลย ครับ อิอิ

แต่งตัว... ถ้าไม่ทำงาน ก็เสื้อยืดเกงขาสั้นเหมือนกัน
ผมมันไม่มีราศี พนักงาน ไม่สนใจขายเลย
(ก็ดี ไม่รำคาญ

ส่วนเน็ท 3g บางคนบอกว่า unlimited มันถูกกว่าเมื่อเทียบกับรายชม.
ผมถามว่า แล้วได้ใช้ไหมล่ะ
มันถูกกว่า แต่เวีย 800 กว่าใช้แค่ 300
ก็ไปเอาเป็นรายชม. แบบพี่ว่า ถึงมันจะแพง แต่เพียงพอให้ใช้
เดือนไหนเกิดอยากใช้มาก ก็ topup แค่เดือนนั้นก็พอ เอาเงินไปบริจาค unicef wscr ไรพวกนั้นดีกว่า


นิดนึงครับ... ผมมักจะเก็บรายรับไว้ส่วนนึงเสมอ
สมัยก่อนมีเพลง อัสนี-วสันต์
เหลือเก็บค่อยเอาไปใช้ เหลือจ่ายค่อยเอาไปเก็บ

ผมจะออมเงินไว้ส่วนนึงก่อนเพื่อตั้งต้น เช่น กะว่าเก็บมัน 50% เลย
ใช้ไม่หมด ก็เอาไปเก็บ
พอได้ประมาณนึงแล้ว ก็คิดอีกว่า มีสิ่งฟุ่มเฟทอยอะไรที่ตัดได้อีก
สิ่งที่เหลือจากเก็บนั้น ผมใช้หมด
แต่จะใช้ในรูปของ เงินหมุนเวียนบ้าง บริจาคบ้าง ถือว่า เป็นเงินที่ไม่มีความเสี่ยง

ส่วนเกบ 50% ก็เผื่อเอาไว้ใช้ยามจำเป็นส่วนนึง
ดาวน์ อะไร เพื่อกู้ให้น้อยลงส่วนนึง
หลักประกันที่มั่นคงสุดตอนคือ ทำประกันครับ
แบบมีเงินจ่ายให้ทุกปีหลังเกษียณ

ไอ้ที่ว่ามาทั้งหมดเนี่ย...

เห็นนักวิชาการทู้โน้นนนน เค้าบอกมันไม่ใ่ช่เศรษฐกิจพอเพียง

แต่มันเป็น self - sufficiency economy น๊ะครับ

คุณก็ยังเข้าใจความหมาย ไม่ตรงกับผมอยู่ดี

แต่ผมเข้าใจเหมือนกับ คุณ ลี นามสกุลเดียว กับ คุณเคนน๊ะครับ

พี่ลีนั่นพูดถูกครับ แนวทางเดียวกับผม

 

 

ผมก็คิดเหมือนพี่ลี..แต่ของผมไม่ตรงกับคุณเคน

 

 

Edited by 55555, 19 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:16.

[numkorat]

ครอบครัวผมงดทานอาหารนอกบ้านมาเกือบ 2 ปีแล้วเมื่อก่อนอาทิตย์ละครั้งประหยัดไปได้เยอะ  เลิกดื่มสังสรรเหมือนแต่ก่อน ล่าสุดเลิกบุหรี่เป็นการ ถาวร( หมอเตือนกลัวตาย) แม่บ้านมาสรุปยอดให้ฟัง เดือนๆประหยัดได้มากโข...

[สุกี้น้อย]

ผมก็ไม่รู้ว่าการดำรงชีวิตของผมที่เป็นอยู่จะถือว่าพอเพียงหรือไม่

ปลูกผักปลูกผลไม้ไว้กินเอง....เหลือ แม่ก็เก็บไปขาย

 

ผมไม่ซื้อรถยนต์เพราะมันไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตผมตอนนี้  จะสร้างภาระและค่าใช้จ่ายมากกว่า  แต่ต่อไปถ้ามีความจำเป็นก็ซื้อ

 

ผมซื้อทีวีเครื่องเบิ้มเลย  เพราะว่าเป็นหนึ่งในสิ่งบันเทิงในบ้าน...กลับมาเหนื่อยๆได้นักพักดูทีวีเพลินๆก็มีความสุขดี  และผมพิจารณาดูแล้วว่าผมมีกำลังซื้อพอไม่ได้ก่อหนี้  ผมคิดว่า  ทำไมผมต้องมาทนดูทีวีสิบสี่นิ้ววะเนี่ย  ในเมื่อเราพอจะซื้อเครื่องใหญ่กว่านี้ได้

 

ผมไม่ซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ตามกระแส  เพราะโทรศัพท์สำหรับผมไว้โทรเข้าออกเฉยๆ

 

เสื้อผ้าผมส่วนมากเป็นของมือสองจาก U.S.  หรือไม่ก็โลตัส...จะซื้อของแพงหน่อยก็รองเท้า

 

ผมซื้อปลาทองตัวละห้าพันถึงหมื่นได้....เพราะผมถือว่าเป็นการลงทุนของผมและได้ชื่นชมสิ่งที่เรารักอีกด้วย

 

สรุปคร่าวๆคือ ผมจะจ่ายเงินซื้ออะไรก็ตามผมจะพิจาณาถึงความจำเป็นเป็นอันดับแรก

 

ความพอเพียงของผมคือไม่ใช่การไม่ใช้  แต่ใช้อย่างคุ้มค่าและมีสติ  หารายได้เพิ่มเติมเข้าบ้านจากงานอดิเรกที่เราถนัด  ประมาณนี้แหละครับ  

[susu]

ใช้โทรศัพท์ เก่าจนพัง ค่อยซื้อเครื่องใหม่ ครับ

คือ ที่จริงแล้ว ไม่อยากซื้อโทรศัพท์ใหม่
เพราะกลัวระบบติดตามตัว แล้วเมียจับได้ว่าอยู่ไหน

ใช่ไหมครับ

*กรุณาอย่าอ้างพอเพียง

yes เข้  รู้ทันจริงแล้ว เมียไม่อนุมัติมากกว่า

 

 ไม่หรอกครับ ผมอาจไม่ทันสมัยพอ และมองว่า มันคือเครื่องมือติดต่อเท่านั้นเอง มากกว่านั้น มันจะทำชีวิตเราวุ่นวายเกินไป

[kaidum]

ชอบกินผักกันทั้งครอบครัวครับ หลายๆมื้อที่หมดเงินไปกับค่าผัก 

แม่บ้านเลยตัดสินใจซื้อกระถางพลาสติกใบใหญ่ๆ มาลงกะเพราบ้าง 

ยี่หร่าบ้าง ผักชีฝรั่ง ต้นหอม เพราะเนื้อที่ไม่มีจะปลูก แต่จากการดูแลเอาใจใส่ของแม่บ้าน

ก็ทำให้มีผักพื้นๆเอาไว้ทาน โดยไม่ต้องซื้อเหมือนแต่ก่อน ก็ถือว่าลดค่าใช้จ่ายลงไปได้

ยอดสวยๆ ใบสวยๆ ยังพอเหลือแจกให้ข้างบ้านผัดกะเพราไก่ 

เรื่องขายคงไม่ได้ขาย เพราะลำพังกินเอง กับแจกข้างบ้าน ก็โตไม่ทันแล้ว

 

แต่ถ้าเป็นที่บ้านเกิด ไม่ต้องพูดถึงครับ ไม่ต้องซื้อผัก ไม่ต้องซื้อไข่ เพราะทั้งไก่

ทั้งไข่ ทั้งผัก มีพื้นที่เลี้ยง มีพื้นที่ปลูก ทำบ่อดินเลี้งปลาดุกรัสเซียตัวอ้วนๆ ได้เป็นเมนู

ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้โข 

อยู่กรุงเทพใช้ชีวิตพอเพียงแบบกรุงเทพ อยู่บ้านเกิด ได้ใช้ทรัพยากรบ้านเกิด

แต่เศรษฐกิจพอเพียงแบบบ้านๆ เหนื่อยกว่า สนุกกว่า และเห็นชัดกว่า

[dahlia v2]

ตอนนี้ผมกำลังสร้างบ้าน

แต่แทนที่ผมจะสร้างบ้านหลังใหญ่โต สวยหรู 4 ชั้น ราคา 12 ล้านบาท

ผมยอมบ้านหลังเล็กลงเหลือ 2 ชั้นครึ่ง ราคา 7 ล้านบาท เอาอีก 2 ล้านบาท ไปสร้างเต๊นท์รถไว้ขายรถมือสองในที่ดินอีกที่นึง

ส่วนเงิน 3 ล้านบาทที่เหลือเป็นเงินเก็บไว้ใช้สำรอง แบบนี้เรียกว่า เศรษฐกิจพอเพียงได้มั๊ย

Edited by dahlia v2, 19 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:49.

[พอล คุง]

บ้านผม เป็นทั้ง เกษตรกร และ ค้าขายไปในตัว

 

พ่อผมทำนา แต่ไม่ได้ใช้ทฤษฐีใหม่นะ เอามาปรับบ้างอย่าง บ้านผมไม่ต้องมีบ่อน้ำ เนื่องจากนา ของพ่อมีอยู่ติดถนน ซึ่งมีคลองขนาดเล็กอยู่ และ ไ้ด้รับอนิจสงค์ จาก เขื่ือนแม่กวง จึงไม่ต้องมีบ่อน้ำ การทำนาจึงมีน้ำ ตลอดปี ทั้งท้าย ๆ ปลายที่นา ก้อมีคลองที่อีักที่ซะไหลมาจากฝาย อีกที่หนึ่ง ซึ่งก้อสบายดี จึงไม่ต้องพะวงกับน้ำ 

 

แต่ก้อไม่ใช่ว่า จะสบายเพราะต้องปล่อยให้ไปนาคนอื่นบ้าง จึ่งทำทางน้ำเล็ก ๆ ใว้ให้คนอื่นด้วย 

 

เรื่องปุ๋ย เมื่อก่อนใช้แค่ปุ๋ยเคมี แต่ผมเป็นคนให้พ่อ ลองเอาปุ๋ยชีวภาพมาใช้ดู ซึ่งผมศึกษามาพอสมควร เมื่อก่อนผมได้ไปอบรมเรื่องปุ๋ยชีวภาพที่ตำบล ส่งไป อบรมที่อำเภอ (พี่ผมที่เป็นรอง นายก อบตไม่รู้เอาใครไปเลยให้ผมไปแทน 555) ผมเลยลองนำมาทำดู ซึ่งลองใช้มาได้ 3-4 ปี ละ ผลปรากฎว่า สามารถลดต้นทุนได้ ถึง 50 % แถมได้ผลผลิตที่ดีขึ้น

 

พ่อของผมเป็นก้อเลี้ยงไก่ชน และ ไก่เมือง เพื่อไวขาย และ เก็บไข่มากิน ไก่ชน ก้อเอาไปชนบ้าง เพราะพ่อชอบ ห้าาาาาาาาาาาาาา (ผมมีไก่ ชน อยุ่ตัวนะ พ่อยกให้ ตั้งชื่อมันว่า ทอร์นาโด โหดมาก เอาไปชนที่ไหนไม่เคยแพ้ ห้าาาาาาาาาาา) 

 

ด้านหน้าบ้านผม แม่ผมเปิดร้านขายของขำ และ ขายก๋ววยเตี๋ยวอาหารตามสั่ง ผมก้อช่วยบ้าง 

 

พื้นที่ด้านหลังบ้านติดกับเล้าไก่ ของพ่อมีที่ว่าง ผมกำึลังคิดจะปลูกเห็ดนางฟ้า ไว้ขาย เนื่องจาก ตอนที่ผมได้ช่วย ภรรยา การวิจัย ศกพอเพียงเรื่องการปลูกเห็ดนางฟ้า ทำให้ผมรู้ว่ามันปลูกไม่ยาก ใช้ทุนน้อย เก็บเกี่ยวได้ ทั้งปี ถ้ามีน้ำมากพอ (ที่จริง 8 เดือนนะ แต่ไม่นับ ตอนเพราะเชื่อ) ผมหาซื้อได้ ก้อนละ 7 บาท ซึ่งปรกรติเค้าขายที่ 15 บาท ห้าาาา ลูกแม่ค้า ต่อรอง

 

ด้านการชีวิต ผมเป็น ชอบต่อรองนะ ติดนิสัยแม่ อย่างเวลา ซื้อเสื้อผ้า งี้ ถ้าขาย 150 ผมต้องต่อให้ได้ 130 ไรงี้ ห้าาาาาาาาาาา

 

ผมประหยัดบ้างนะ ซื้อของบ้างที่อยากได้ แต่พอดีกัับรายจ่าย ที่พอเหลือเก็บบ้างพอสมควร

Edited by พอล คุง, 19 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:05.

[CrazyDaimon]

เศรษฐกิจพอเพียง ผมว่าที่เจ้ากระทู้โพสมามันยังไม่เข้าทฤษฏีสักเท่าไหร่นะครับ ตามความเห็นผม

รับทราบครับ

แล้วแบบไหนคือ เข้าทฤษฎี มีตัวอย่างไหมครับ?

แล้ว ปรับใช้ในชีวิตคุณได้อย่างไร

 

ตามที่ได้เคยอ่านปรัชญานี้มา แล้วสังเคราะห์ด้วยตัวเอง

 

.........................................................................................................................................................................

เริ่มจากคำว่า พอเพียง ตามชื่อที่ตั้ง หมายความว่า เราจะต้องมีปัจจัยเพียงพอที่จะให้เราดำรงค์ชีวิตอยู่ได้ก่อนโดยไม่ก่อให้เกิดหนี้สิน

 

ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ยานพาหนะ การติดต่อสื่อสาร

สิ่งจำเปนพื้นฐานเหล่านี้ เลือกใช้ตามขนาดที่ตัวเองรับได้โดยไม่ก่อนให้เกิดหนี้

 

พอเรา "พอเพียง" ตามข้างต้นแล้ว เราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องสภาพการเงินสำหรับปัจจัยในการดำรงค์ชีวิตแล้ว

 

หากพอเพียงตามข้างต้นแล้วไม่สามารถมีเงินเก็บได้ นั้นหมายความว่า ท่านไม่ตาย แต่ท่านก็ไม่โต

หากท่านต้องการจะโตท่านต้องสร้างเงินเก็บให้ได้ แล้วนำเงินเก็บนั้นมาลงทุนในแบบ "พอเพียงอีก"

 

คือการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดหนี้ เพราะหากเจ๋งขึ้นมา ท่านก็ไม่ตาย(เพราะปัจจัยพื้นฐานท่านมีอยู่แล้ว)

..........................................................................................................................................................................

 

หลักการนี้เราจะเติบโตที่ละน้อยแบบมั่นคง แต่จะเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับความสามารถที่ท่านจะสร้างเงินเก็บได้เยอะเท่าไหร่

ท่านสร้างได้เยอะมาก ท่านก็จะมีเงินไปลงทุนมาก หลักการ "พอเพียง" เพื่อประยุกต์ปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจผมก็ประมาณนี้

...........................................................................................................................................................................

 

 

จะกินข้าวแกง หรือ กินฟูจิ

จะอยู่บ้านเช่าชานเมือง หรือ คอนโดกลางเมือง

จะสวมเสื้อห่านคู่ หรือ เชิตรีวาย

จะนอน รพ รัฐ หรือ นอน รพ เอกชน

จะใช้เบนซ์ หรือ รถกระบะมือสอง

จะใช้โทรศัพท์สาธารณะ หรือ ไอโฟน5

 

ก็เข้าหลัก พอเพียงได้หมด ถ้าสิ่งที่ท่านมีนั้นไม่ทำให้ท่านเกิดภาระหนี้สินที่ไปทำให้เงินเก็บท่านลดลง

[พอล คุง]

เรื่ืองก้อเหล้า ผมกินเหล้านะ เรียกว่า บ่อยเหมือนกัน แต่ชอบใช้เกินงบในกระเป๋าเหมือนกัน

 

บ้างที่เวลากินกับเพือน หรือ พี่ ๆ ลุง ๆ ที่รู้จัก ชอบเพลิน มีเงินในกระเป๋า 500 งี้ (เม้ม เงินไว้ก่อนภรรยาจะเอาไปหมด ห้าาา) เช็คบิลมา 8-900 ต้องออกไปกดตัง 

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

[Redbuffalo010]

เรื่ืองก้อเหล้า ผมกินเหล้านะ เรียกว่า บ่อยเหมือนกัน แต่ชอบใช้เกินงบในกระเป๋าเหมือนกัน

 

บ้างที่เวลากินกับเพือน หรือ พี่ ๆ ลุง ๆ ที่รู้จัก ชอบเพลิน มีเงินในกระเป๋า 500 งี้ (เม้ม เงินไว้ก่อนภรรยาจะเอาไปหมด ห้าาา) เช็คบิลมา 8-900 ต้องออกไปกดตัง 

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

พอล คุง ตัวจริงมาแล้ว    

[พอล คุง]

เรื่ืองก้อเหล้า ผมกินเหล้านะ เรียกว่า บ่อยเหมือนกัน แต่ชอบใช้เกินงบในกระเป๋าเหมือนกัน

 

บ้างที่เวลากินกับเพือน หรือ พี่ ๆ ลุง ๆ ที่รู้จัก ชอบเพลิน มีเงินในกระเป๋า 500 งี้ (เม้ม เงินไว้ก่อนภรรยาจะเอาไปหมด ห้าาา) เช็คบิลมา 8-900 ต้องออกไปกดตัง 

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

พอล คุง ตัวจริงมาแล้ว    

 

ว้าาาาาาาาาาาาาา เสียหมด ๆ ๆ ภาพพจน์ 

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ทันไมเนี่ย

[ต้นหอม]

จากที่อ่านแต่ละคนมีแนวคิดไม่เหมือนกันจริงๆ
บางอย่างราคาแพงแต่ถูกใจแล้วมีโอกาสใช้อย่างคุ้มค่าก็ซื้อ ถูกไม่ได้ใช้ไม่ซื้อ แล้วแต่เหตุผลแต่ละคนค่ะ บางอย่างหลายคนก็เห็นว่าขัดกับเค้าก็ถูกตำหนิมา แต่ส่วนตัวถ้ายังหาอะไรทดแทนไม่ได้ก็ใช้ของมีราคานั่นแหละ เราเองยังขัดตากับคนที่ซื้อของถูกจำนวนเยอะๆแล้วปล่อยให้เน่าเสีย บอกตรงๆเสียดายแทน

ครับ ต่างคนต่างแนวคิด
บางคนทำเหมือนเราได้ แต่ทำเหมือนอีกคนไม่ได้ ก็เลยอยากให้ช่วยกันเสนอไอเดียครับ

ถามคุณต้นหอมนิดนึง

ก่อนและหลังการนำแนวคิดมาใช้กับชีวิตประจำวันนั้น ส่งเสริม หรือลดอะไรไปจากชีวิตบ้างค่ับ?

ไม่ได้ลดหรือเพิ่มอะไรค่ะ เพราะไม่ได้ขัดกับแนวคิดเดิม และทำมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ใช้ชีวิตปกติ ก่อนซื้อหรือใช้อะไรก็ถามตัวเองก่อนว่า "เพื่อ..." ถ้าได้คำตอบก็เดินหน้า ถ้าไ่ม่ได้ก็แสดงว่ามันไม่ไ้ด้จำเป็นกับชีวิตเรามากนัก แต่ดูจากคนในบ้านแต่ละคนก็มีจุดสนใจต่างกัน ไอ้บางอย่างที่เราคิดว่าฟุ่มเฟือย แต่เค้าชอบสุดท้ายก็ต้องให้ความสุขเค้าบ้าง สุดท้ายเราว่าอย่างนี้ก็ดีออก ธุรกิจต่างๆก็ดำเนินไปได้ เงินส่วนตัวเค้าเราจะบ่นแทนทำไมคะ (แต่ถ้ามาบ่นทีหลังว่าไม่ได้ใช้ สุดท้ายต้องทิ้งมีถล่มทับ เพราะถือว่าต้องรับผิดชอบความคิดตัวเองด้วย  )

Edited by ต้นหอม, 19 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:17.

[tonythebest]

แว้ อุตส่าห์ตอบตามหัวกระทู้ ไม่ออกทะเล

นู๋เคนไม่ยักมาแสดงความเห็นในความเห็นของผมเลย

 

น้อยใจนะเนี่ย