ทำไมต้อง รธน 2540
ลองมาย้อนดู เจตนารมณ์ของ รธน 2540 สักหน่อย
พิจารณาจาก คำปรารภของ รธน. แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๓๙ ความว่า
( 4 ปี รัฐธรรมนูญ : ปัญหาและอุปสรรคต่อการปฏิรูปการเมือง, ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์
อุวรรณโณ, 10 ตค. 2544, หน้า 33 )
" ....รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้บัญญัติ
ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้น ประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งจากรัฐสภาจำนวน ๙๙ คน
มีหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการปฏิรูปการเมือง
.....
.....สภาร่างรัฐธรรมนูญได้จัดทำรัฐธรรนูญโดยมีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิเสรีภาพของประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองและการตรวจสอบการใช้
อำนาจรัฐเพิ่มขึ้น ตลอดทั้งปรับปรุงโครงสร้างทางการเมืองให้มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพ
ยิ่งขึ้น ทั้งนี้โดยได้คำนึงถึงความคิดเห็นของประชาชนเป็นสำคัญ..."
จากข้อความข้างต้น..พอจะอนุมานได้ว่า เจตนารมณ์หลักของ รธน. 2540 คือ การปฏิรูป
การเมือง โดยมีเป้าหมาย
1.) เพิ่มสิทธิ เสรีภาพ และการมีส่วนรวมของพลเมือง
2.) เพิ่มอำนาจการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ เพื่อให้มีความสุจริต, มีความชอบธรรม
ในการใช้อำนาจรัฐ ทุกระดับ ครอบคลุมทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ
3.) การทำให้ระบอบการเมืองมีเสถียรภาพ นายกมีภาวะความเป็นผุ้นำ เพื่อแก้ไขปัญหา
บ้านเมืองได้อย่างแท้จริงและมีประสิทธิภาพ
ในการยกร่าง รธน ประชาชนมีส่วนร่วมในการให้ความคิดเห็น พิจารณาจากข้อมูล
" หนังสือ กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญของรัฐสภาและสภาร่างรัฐธรรมนูญ " โดย
กองกรรมาธิการ 2 สำนักงนเลาขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร, หน้า 131-149
- การรับฟังความคิดเห็นก่อนยกร่าง 76 จังหวัด โดยวิธีประชาพิจารณ์และแบบสอบถาม
ซึ่งได้รับคำตอบกลับมา 629,232 ชุด
- การทำประชาะจารณ์ร่าง รธน ระดับจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ระดับภาค 5 ภาค และระดับ
ชาติ 1 ครั้ง โดยมีผู้เข้าร่วมทำประชาพิจารณ์ 88,625 คน ลงมติรับรองร่าง รธน มีผู้เห็นด้วย
จำนวน 85,747 คน (คิดเป็น 96.64%) ไม่เห็นด้วย 2,878 คน
- ส่งแบบสอบถามไปยัง 76 จังหวัด ได้รับแบบสอบถามตอบกลับ 87,912 ชุด ยอมรับ
ร่าง รธนคิดเป็นร้อยละ 81.44
การยกร่าง รธน ครั้งนี้ ยังได้กำหนดให้ ประชาชนมีอำนาจออกเสียงเป็นประชามติ ในกรณี
ที่รัฐสภาไม่เห็นด้วยกับร่าง รธน ที่สภาร่าง รธน จัดทำขึ้น....
แต่ รธน. 2540 ก็ไม่ได้ผ่านการลงมติของประชาชน..เพราะ รัฐสภาลงมติรับร่าง รธน. ที่
สภาร่าง รธน จัดทำขึ้น...
เป็นอันจบสิ้น กระบวนการ ยกร่าง รธน 2540 ด้วยประการทั้งปวง
คราวนี้ลองย้อนดู...บทบัญญัติ ลายลักษณ์อักษร ใน รธน. 2540 ว่ามีความสอดคล้อง
กับเจตนารมณ์ของการยกร่าง รธน ทั้ง 3 ประการหรือไม่
1.) เพิ่มสิทธิ เสรีภาพ และ การมีส่วนร่วมของพลเมือง
- รธน. 2540 ได้ขยายและเพิ่มสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และ การมีส่วนรวมทางการ
เมืองของประชาชน โดยกำหนดไว้ในหมวดสิทธิ เสรีภาพของประชาชนชาวไทย โดย
เพิ่มจาก 30 มาตรา เป็น 53 มาตรา อีกทั้งยังมีการสอดแทรก การมีส่วนร่วมทางการเมือง
ของประชาชนในหมวดอื่น ๆ อีกหลายมาตรา ซึ่งไม่เคยบัญญัติไว้ใน รธน. ที่ผ่านมา
2.) เพิ่มอำนาจการตรวจสอบ การใช้อำนาจรัฐ
- รธน. 2540 กำหนดให้การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของประชาชน และ ยังบัญญัติให้มีการ
เข้าชื่อถอดถอนนักการเมืองที่ทุจริต ร่ำรวยผิดปกติ ได้ ซึ่งไม่เคยบัญญัติไว้ใน รธน
ที่ผ่านมาอีกเช่นกัน ถือเป็นการเพิ่มอำนาจให้ประชาชนในระดับหนึ่ง
3.) สร้างเสถียรภาพให้รัฐบาล ให้นายกมีภาวะผู้นำ ฯ
- รธน. 2540 กำหนดให้มี สส ที่มาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน
โดยพรรคการเมืองที่มีผู้เลือกไม่ถึง 5% จะไม่มีสิทธิได้ สส แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อจำกัด
จำนวนพรรคการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลให้น้อยลง เพื่อสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาล
อยู่บริหารราชการแผ่นดินได้ครบวาระ
ที่นี้..ลองมาดูว่า การนำ รธน มาใช้นั้น สอดคล้องกับเจตนารมณ์และบทบัญญัติหรือไม่
1.) การเพิ่มสิทธิเสรีภาพ พิจารณาได้จาก จำนวนผู้ใช้เลือกในการเลือกตั้งเพิ่มมากขึ้น
มีการรวบรวมรายชื่อยื่นถอดถอนผุ้มีตำแหน่งทางการเมือง มีการขอจดทะเบียนจัดตั้ง
พรรคการเมืองมากขึ้น...ถือว่า...สอดคล้องกับเจตนารมณ์ รธน ในระดับหนึ่ง
2.) เพิ่มอำนาจการตรวจสอบ...พิจารณาได้จากจำนวนองค์กรอิสระที่เกิดขึ้นหลายองค์กร
เช่น กกต ศาลรัฐธรรมนูญ และ ปปช เป็นต้น ซึ่งองกรณ์เหล่านี้จะทำหน้าที่ตรวจสอบ
ทำให้การเมืองมีความสุจริต มีความชอบธรรม ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นและเป็นที่ยอมรับ
ในสังคมโลกมากขึ้น....ก็ถือว่า...สอดคล้องกับเจตนารมณ์ ของ รธน...เช่นกัน
3.) การสร้างเสถียรภาพการเมือง....พิจารณาจาก ผลการเลือกตั้งทั้วไป 2544 ซึ่งถือ
เป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกภายใต้ รธน 2540 ปรากฎว่ามีพรรคการเมืองได้รับเลือก
คือ ไทยรักไทย, ประชาธิปัตย์, ชาติไทย, ความหวังใหม่, ชาติพัฒนา และ เสรีธรรม
แต่ในระยะเวลาไม่นาน ความหวังใหม่ ชาติพัฒนา เสรีธรรม ก็ยุบพรรคเข้ารวมเป็น
ส่วนหนึ่งของ ไทยรักไทย...ส่งผลให้ ไทยรักไทย มี สส เกือบครื่งหนึ่งของจำนวน
สสทั้งหมด 500 คน...ทำให้เป็นรัฐบาลผสมเพียง 2 พรรค คือ ไทยรักไทย และ
ชาติไทย...มี ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียว..และเป็นครั้งแรกที่รัฐบาล
อยู่บริหารราชการแผ่นดินครบวาระ
ก็น่าจะถือว่า สอดคล้องกับเจตนารมณ์ สร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาล
บทพิสูจน์อีกประการในการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง คงจะเป็นผลการเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548 ที่ ไทยรักไทย ชนะการเลือกตั้งได้จำนวน สส
377 คนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สส 500 คน สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์...
แต่...
- กลับเพิ่มปัญหาเรื่องการทุจริต เพื่อให้ได้รับการเลือกตั้งที่ทวีความซับซ้อนมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นทางตรง และ ทางอ้อม..เช่น การใช้อำนาจ ใช้อิทธิพล ตลอดจนบุญคุณ
ทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้รับการเลือกตั้ง..ถึงแม้ว่าจะจับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็คงปฏิเสธ
ไม่ได้ว่า...ไม่มีการทุจริต...
- การตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้าน ตามกลไกของ รธน ไม่สามารถกระทำได้ เพราะ
มาตรา 185 ของ รธน 2540 ได้กำหนดจำนวนขั้นต่ำของ สส ในการเข้าชื่อขอเปิด
อภิปราย เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นายก ต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ใน 5 ของจำนวน
สมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทน และยังกำหนดอีกว่า ผู้เสนอญัตติดังกล่าว
ต้องเสนอชื่อบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่ง นายก มาด้วย.. และ การลงมตินั้น ต้อง
มีมติไม่ไว้วางใจด้วยคะแนนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สส เท่าที่มีอยู่..ซึ่งแทบจะไม่มี
โอกาส...เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก เกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สส ทั้งหมด...
ทั้งจะเห็นได้จาก...ช่วงเวลาดังกล่าว...ไม่เคยมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายก ได้เลย...
- การตรวจสอบการทุจริตขององค์กรอิสระ ถูกแทรกแซง ทำให้ความเชื่อถือในองค์กร
ลดน้อยลง ซึ่งส่งผลให้ความชอบธรรมในการใช้อำนาจรัฐขาดความชอบธรรมไปด้วย
ดังตัวอย่าง การเลือกตั้ง 2 เมษายน 2548 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำพิพากษาให้เป็น
โมฆะ เพราะทำผิด รธน. และมีคำพิพากษา กกต 5 ท่านให้มีความผิด..
ข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลที่เกิดขึ้นจากการใช้ รธน 2540 ซึ่งหลาย ๆ ท่าน
คงปฏิเสธไม่ได้..
แต่...ทำไมต้องเป็น รธน 2540
ด้วยเจตนารมณ์ของ รธน ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการปฏิรูปการเมือง การสร้างเสถียรภาพ
ทางการเมือง จึงอาจจะบัญญัติกฎหมายที่ค่อนข้างจะเอื้อประโยชน์ให้แก่ฝ่ายบริหาร
เพื่อสร้างเสถียรภาพให้สถาบันการเมือง จนกลายเป็นการเปิดทางให้กลุ่มการเมือง
ใช้เป็นช่องทาง ในการเข้าสู่อำนาจ และ ใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมสังคมให้เดิน
ไปตามเส้นทางที่ต้องการ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว มากกว่า ผลประโยชน์ของชาติ
พอจะอนุมานได้หรือไม่ว่า...นั้นเป็นเหตุผลที่ว่า...ทำไมต้องเป็น รธน. 2540
เพราะ..แท้จริงแล้ว...ทำเพื่อตนเอง ญาติพี่น้อง และ พวกพ้อง มากกว่าที่จะทำเพื่อ
ประชาชน..อย่างที่กล่าวอ้าง