ชาวอ่างทองโวยคนได้รับสิทธิรถคันแรกถูกสั่ง “ห้ามตาย”
ชาวอ่างทองครวญใช้สิทธิซื้อรถคันแรกไม่ทันไรก็เจอปัญหาแล้ว หลังถูกสรรพสามิตทวงเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย หลังผู้ใช้สิทธิเสียชีวิต โวยไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ว่า “ห้ามขายโอนก่อนครบ 5 ปี” แต่ไม่ได้มีการระบุว่า “ห้ามตาย” ด้านรองสรรพสามิตพื้นที่อ่างทอง แจงฝ่ายกฏหมายตีความ “สิทธิดังกล่าวไม่เป็นมรดก” คือคนที่ได้รับสิทธิคืนเงินรถใหม่คันแรกนั้น “ห้ามตาย”
วันนี้ (19 มี.ค.) นายบุญส่ง สุนทรนันท์ อายุ 52 ปี พร้อมบุตรสาว น.ส.พัชรี สุนทรนันท์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 ม.5 ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้นำหลักฐานเดินทางมาพบผู้สื่อข่าวเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่ถูกกรมสรรพสามิตทวงเงินจากโครงการรถคันแรกคืนพร้อมดอกเบี้ย ทั้งที่ไม่ได้กระทำผิดเงื่อนไขแต่อย่างใด
น.ส.พัชรี กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพค้าขายในตลาดอ่างทอง มีสามีชื่อ นายเดี่ยว อยู่ยืน อายุ 34 ปี ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2555 สามีตนได้ไปยื่นคำขอใช้สิทธิและเงื่อนไขตามโครงการถใหม่คันแรกของรัฐบาลผ่านสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ จ.อ่างทอง หลังจากตรวจเอกสารหลักฐานครบถ้วนเรียบร้อย และได้รับรถยนต์นิสสัน มาร์ช จากบริษัท สยามนิสสัน อ่างทอง โดยเช่าซื้อกับธนาคารไทยพาณิชย์ และทำการจดทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว หมายเลขทะเบียน กค 8911 อ่างทอง
ต่อมา วันที่ 2 ก.ค.2555 นายเดี่ยว สามีตนได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และตนได้เป็นผู้จัดการมรดก จึงนำหลักฐานการเสียชีวิตของสามีเดินทางไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ จ.อ่างทอง ทราบว่า สามีเสียชีวิต และขอทราบเกี่ยวกับสิทธิของสามีที่ได้ยื่นเรื่องไว้ตามนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลว่ายังคงจะได้รับต่อไปหรือไม่ เพราะยังมีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์คันนี้ต่อไปจนกว่าจะครบกำหนดตามเงื่อนไข มิได้มีความประสงค์ขาย หรือโอนแต่อย่างใด รวมทั้งต้องทำอย่างไรบ้าง ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งรับเรื่องก็ตอบไม่ได้ และบอกว่ายังไม่ต้องทำอะไรขอส่งหนังสือไปหารือกรมสรรพสามิตก่อน
ต่อมา เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2555 ทางกรมสรรพสามิตได้โอนเงินตามโครงการมาเข้าบัญชีตนจำนวน 60,511 บาท หลังได้รับเงิน บุตรสาวจึงเอาไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาจัดงานศพของสามีจนหมด
แต่ต่อมา เมื่อต้นเดือน มี.ค.2556 ทางสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ จ.อ่างทอง ได้แจ้งให้ตนทราบว่า ทางกรมสรรพสามิตได้ตอบข้อหารือมาแล้วว่า สำนักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี 2 กรมสรรพสามิต โดย น.ส.สุจิตรา เลาหวัฒนภิญโญ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ได้ออกหนังสือราชการที่ กค 0616/2398 ลงวันที่ 1 ก.พ.2556 มีใจความว่า กรณีของนายเดี่ยว เสียชีวิต ก่อนได้รับเงินตามสิทธินั้นถือว่าสิทธิของผู้ตายสิ้นสุดลง จึงไม่ได้รับสิทธิ และสิทธินั้นไม่ถือเป็นทรัพย์มรดก เมื่อสิทธิสิ้นสุดลงจึงขอให้ทายาทโดยชอบธรรมของผู้เสียชีวิตนำใบมรณบัตรมายื่นที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ จ.อ่างทอง เพื่อขอทำการยกเลิกสิทธิในระบบ
แต่ในส่วนของตนเองซึ่งรับเงินมาแล้วจะต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวมาใช้คืนกรมสรรพสามิต พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีด้วย ตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ว่า “ห้ามขายโอนก่อนครบ 5 ปี” ในนี้ไม่ได้มีการระบุว่า “ห้ามตาย” นอกจากนั้น ตนไม่มีเงินใช้คืนด้วย จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงจาก นายสมชาย ศรีประทุมรัตน์ รองสรรพสามิตพื้นที่ จ.อ่างทอง ได้รับการเปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดเมื่อตอนที่นายเดี่ยว อยู่ยืน มาขอใช้สิทธินั้นครบถ้วนถูกต้องตามเงื่อนไข และข้อกำหนด แต่เมื่อมาเกิดเหตุสุดวิสัย และเสียชีวิตลง สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ สิทธินี้เป็นมรดกหรือไม่ จึงได้หารือไปทางกรม เมื่อฝ่ายกฎหมายตีความว่า สิทธิดังกล่าวไม่เป็นมรดก คือ คนที่ได้รับสิทธิคืนเงินรถใหม่คันแรกนั้น “ห้ามตาย” ซึ่งตนได้ไปตรวจสอบบัญชีเพื่ออายัด แต่พบว่าเงินถูกเบิกออกไปหมดแล้ว จึงติดตามทวงถามจากทายาทให้นำเงินมาคืนกรมสรรพสามิต แต่เมื่อทางทายาทไม่มีเงินคืนให้ตนจะรายงานให้กรมสรรพสามิตทราบ และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
http://mgr.manager.c...D=9560000033812
ตัวรถเป็นมรดกนี่พอว่า แต่ "สิทธิ" ตามกรณีนี้ ตีความเป็นมรดก... อืมมมม น่าคิดนะขอรับ ใครที่ใช้สิทธินี้ก็ระวังดีๆนะขอรับ... ห้ามตายเด็ดขาด... ลูกหลานจะเดือดร้อน...
Edited by wat, 20 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:05.
