หมายเหตุเลือกตั้งซ่อมเชียงใหม่ หัวใจทศกัณฐ์ของทรราช
ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแม่ออน สันกำแพง และดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ กำลังจะได้เลือกตั้งซ่อม (อีกครั้ง) ในวันที่ 21 เมษายน 2556 นี้
เรียกว่า เล่นสงกรานต์เสร็จหมาดๆ ก็เตรียมตัวไปลงคะแนนเลือก ส.ส.
สืบเนื่องมาจากการลาออกแบบไม่มีความรับผิดชอบของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายเกษม นิมมลรัตน์ เด็กในคาถาเจ๊แดง ทำให้ประเทศชาติต้องเสียเงินแผ่นดินกว่า 14 ล้านบาท เพื่อจัดการเลือกตั้งซ่อม
ล่าสุด น่าจะชัดเจนแล้วว่า คนที่มาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย คงไม่ใช่ใครที่ไหน
แอ่น แอ๊น....นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง
ท่าทีล่าสุดจากพรรคเพื่อไทย โดยนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ เปิดเผยว่า จากการประชุมกลุ่มย่อย ของ สส.พรรคเพื่อไทยภาคเหนือ มีมติเห็นพ้องต้องกันสนับสนุนให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงใหม่ เขต 3 อย่างท่วมท้น และในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งจะเป็นวันเปิดรับสมัครวันแรก จะมีกลุ่ม สส.ภาคเหนือ และชมรมเสียงสตรีจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางไปเชียร์และให้กำลังใจเจ๊แดงด้วย
ตอกย้ำโครงการ 1 ตระกูล 4 นายกรัฐมนตรี
หรือที่สื่อมวลชนวิเคราะห์ว่า ทักษิณต้องการให้ “น้องแดง” มีตำแหน่ง ส.ส. เผื่อว่า “น้องปู” มีอันต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป ก็จะได้ให้บรรดา ส.ส.ขี้ข้าช่วยกันยกก้นเจ๊แดงขึ้นไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทน
เป็น “อะไหล่(ชินวัตร)แท้” ว่างั้นเถอะ
เข้าใจว่า นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยจะต้องเป็นคนในวงศ์วานว่านเครือตระกูลชินวัตรเท่านั้น (หรือทักษิณเห็นชอบ) จึงจะถือเป็นประชาธิปไตย
ขณะนี้ ยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่าจะมีผู้สมัครจากพรรคการเมืองไหนลงชิงชัยสนามเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้อีกบ้าง พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ออกมายืนยันว่าจะส่งใครลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้
หลายคนอาจจะมองว่าสนามเลือกตั้งซ่อมหนนี้ ไม่มีอะไรน่าสนใจ...
แต่นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธ์ศาสตร์การเมืองการปกครอง นักศึกษาปริญญาเอกปรัชญา ผู้นำทางสังคม ธุรกิจและการเมือง มหาวิทยาลัยรังสิต (ลูกชายของนายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา ผู้ซึ่งถูกแกนนำเสื้อแดงและกลุ่มอันธพาลขี้ข้าทักษิณ รุมสังหารอย่างโหด***ม เมื่อเดือน พ.ย.ปี 2551) ได้นำเสนอข้อมูลประกอบการวิเคราะห์การเมืองในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
ว่าด้วยเรื่อง “ยุทธ์ศาสตร์การปกป้องหัวใจทศกัณฐ์ของทรราช (เลือกตั้งเชียงใหม่)”
ขออนุญาตสรุปแบบเก็บใจความสำคัญบางตอน บันทึกไว้เป็นหมายเหตุของการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้
1) การเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่เขต 3 ประกอบไปด้วยอำเภอแม่ออน สันกำแพง ดอยสะเก็ด เป็นพื้นที่สำคัญที่สุดของทรราช เปรียบเหมือนเมืองหลวง เพราะถือว่าเป็นหัวใจของเมืองตามหลักยุทธ์ศาสตร์การเมือง เพราะหากทรราชพ่ายแพ้ในเขตเลือกตั้งนี้ก็จะเปรียบเสมือนหัวใจถูกควักออกมา
2) หากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามสามารถชนะทรราชในเขตนี้ ก็จะทำให้เกิดทฤษฎีโดมิโน่ ที่จะเกิดการล้มทั้งกระดานไปยังโดมิโน่ตัวอื่นๆอันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบเกิดขึ้นตามหลักยุทธ์ศาสตร์การเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
3) ในการเลือกตั้ง 21 เมษายน 2556 ทรราชได้กำหนดยุทธ์ศาสตร์การปกป้องหัวใจทศกัณฐ์ ทำทุกวิถีทางให้ได้ชัยชนะ โดยยึดวาทะกรรมเหมือนครั้งที่ผ่านมาคือ “แพ้ไม่ได้” เพราะเป็นบ้านนายกรัฐมนตรี หากแพ้จะมิใช่เพียงผู้สมัครแพ้ แต่จะเป็นนากยกรัฐมนตรีพ่ายแพ้
เขากำหนดยุทธการในศึกครานี้ 2 ยุทธการและ 11 ยุทธวิธี ได้แก่
(1) ยุทธการข่มขู่
ใช้กลุ่มคนเสื้อแดง(ชาวเงี้ยว)ขับรถตระเวนไปทั่วทั้ง 3 อำเภอเพื่อข่มขู่ประชาชนที่จะมาใช้สิทธิเลือกตั้งพรรคตรงข้าม โดยขับจักยายนต์ รถยนต์ อ้างเป็นการปลุกระดมเสื้อแดงให้มาสนับสนุน เพราะพื้นฐานคนในเขตเลือกตั้งส่วนใหญ่ จะเป็นคนไทยยอง ไทยลื้อ ชำนาญด้านเย็บปักถักร้อย งานศิลปะ ทำร่ม ทอผ้า มิใช่นักสู้หรือนักรบ
(2) ยุทธการโกงทุกเขต
จัดให้มีการโกงเลือกตั้งในทุกรูปแบบ เพราะจุดอ่อนของผู้สมัครทรราช คือ ไม่เคยลงพื้นที่ ตั้งแต่ยุคหลานทรราช คนขับรถทรราช จนมาถึงคนปัจจุบัน ทำให้คนได้ยินเพียงแต่ชื่อ ไม่เคยลงในเขตเลือกตั้ง
(2) 11 ยุทธวิธี
คือ จัดผ้าป่าแจกเงินวัด พระ ทุกวัดในเขตเลือกตั้ง เป็นการซื้อเสียงทางอ้อม, จัดทำถนนในหมู่บ้านที่ยังมิได้ซ่อมแซม โดยอุดหนุนผ่านงบเทศบาล, ให้กระทรวงพัฒนาสังคม ออกแจกจ่ายเงิน อ้างกรณีน้ำท่วมซ้ำซาก, แจกบัตรเครดิตเกษตรกร, จัดให้สหกรณ์ แม่บ้าน จัดการประชุมและมีการแจกจ่ายเงินรายละสามพันบาท, เปลี่ยนหีบเลือกตั้ง, ส่งคนขับคะแนนให้บัตรคู่แข่งเป็นบัตรเสีย, ส่งตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลส่งคนลงประกบเพื่อร้องเรียนพรรคตรงข้าม, ส่งคนเข้าแทรกแซงสืบข่าวจากพรรคตรงข้าม, ให้ผีมาลงคะแนนเลือกตั้ง, อนุมัติโครงการจำนำข้าวกรณีพิเศษ
นายเทอดศักดิ์ มองว่า “หากการเลือกตั้งครั้งนี้พลิกความคาดหมาย แน่นอนการเมืองไทยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากเกิดทฤษฎีโดมิโน่เกิดขึ้นได้ พรรคที่อยู่ในอันดับสองก็จะสามารถพลิกกระดานกลับขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทนได้ไม่ยาก เพราะจากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง การบริหารงานที่ล้มเหลว ราคาน้ำมันแพง ประกอบกับการกู้ยืมเงิน 2.2 ล้านล้านบาท อันเป็นการกู้ยืมเงินที่มากที่สุดตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา และต้องใช้เวลาใช้หนี้ถึง 50 ปี อันจะเกิดการทุจริตครั้งใหญ่ที่สุดในโลกมูลค่าสูงถึงกว่า 9 แสนล้านบาท หรือ 30%จาก 2.2 ล้านล้านบาท อันเป็นจุดอ่อนสำคัญ หากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามทรราชมีความแม่นยำในยุทธศาสตร์ กำหนดยุทธการและยุทธวิธี ก็จะสามารถเอาชนะทรราชได้ เพราะในประวัติศาสตร์ไทยหลายต่อหลายครั้งที่กำลังน้อยสามารถเอาชนะกำลังมากได้ “รู้เขารู้เรา” ก็ชนะไปกว่าครึ่งแล้ว กระมัง....”
ทีมา คอลัมภ์ สารส้ม http://www.naewna.co.../columnist/5872