ยิ่งลักษณ์ ทัวร์นอก ส.ส. โดดสภาล่มครั้งที่สองในสมัยประชุม เดียว ส่อเสียบบัตรแทนกันอีก จุรินทร์ จี สมศักดิ์ เร่งสรุปผลสอบ เซ็ง ปู หนีกระทู้ตลอดสมัยประชุม เสนอ สภาทำหนังสือประจานพฤติกรรม ไม่ให้ความสำคัญสภา เผย รัฐ ส่อหนีแถลงผลงาน 1 ปี รอบสอง หลังบรรจุวาระแน่น พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน แก้ รธน. แต่ไร้แผนแถลงผลงานต่อสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกันชีวิต ได้เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบทำให้สภาล่ม โดยในการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติครั้งแรกมีผู้อยู่ในห้องประชุมจำนวน 266 คน แต่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ท้วงติงว่าไม่น่าจะมีสมาชิกอยู่มากขนาดนั้นเนื่องจากประเมินจากสายตาเห็นว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมน้อยมาก จึงเสนอให้มีการเสียบบัตรนับองค์ประชุมใหม่อีกครั้ง โดยผลการนับครั้งที่สองปรากฏว่ามีผู้อยู่ในห้องประชุมเพียง 235 คน ซึ่งไม่ถึงครึ่งหนึ่งของส.ส.ทั้งหมดทำให้ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมสั่งปิดประชุมทันที ถือว่าสภาล่มเป็นครั้งที่สองในสมัยประชุมนี้
การประชุมสภาในวันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยมีกำหนดการเดินทางไปนิวซีแลนด์และปาปัวนิวกินี ในวันที่ 21-25 มีนาคมนี้ ทำให้ส.ส.รัฐบาลมาร่วมประชุมสภาอย่างบางตาจนเป็นเหตุให้สภาล่มดังกล่าว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ประธานวิปฝ่ายค้่าน กล่าวว่า มีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจสองอย่างในสภาวันนี้คือ กรณีที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไม่สนใจงานสภา หนีกระทู้สดของฝ่ายค้านจนต้องเลื่อนการถามกระทู้สดมาหลายสัปดาห์ และกรณีสภาล่ม แสดงให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับสภาอย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่นายกฯถึงรัฐมนตรี ซึ่งทุกสัปดาห์จะมีปัญหาไม่มาตอบกระทู้สดของฝ่ายค้าน และมักจะมอบหมายให้รองนายกหรือรัฐมนตรีมาชี้แจงแทนแต่ก็เกิดปัญหาจนต้องเลื่อนการถามกระทู้ทุกครั้ง แต่สัปดาห์นี้ถือว่าหนักที่สุดคือไม่มีผู้มาตอบกระทู้ถึง 2 กระทู้ ทำให้ต้องเลื่อนไปสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นไปได้ยากเนื่องจากในสัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน และสัปดาห์ถัดไปรัฐบาลจะนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเข้ามาพิจารณาอีก จากนั้นก็จะติดเทศกาลสงกรานต์ และปิดสมัยประชุม เท่ากับรัฐบาลหนีกระทู้ทั้งสมัยประชุม
ส่วนกรณีที่สภาล่มก็น่าเชื่อว่าจะมีการกดบัตรแทนกันในการตรวจสอบองค์ประชุมหลายครั้ง ซึ่งตนได้ยื่นเรื่องให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯทำการสอบสวนเรื่องการกดบัตรแทนกันในที่ประชุมเมื่อสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาไปแล้ว และวันนี้ก็น่าจะอนุมานได้ว่ามีการกดบัตรแทนกันอีก เพราะการตรวจสอบองค์ประชุมครั้งแรกมีสมาชิกกดบัตร 266 เสียง แต่เมื่อให้มีการกดบัตรใหม่โดยเป็นที่รู้กันว่าถ้ามีการกดบัตรแทนกันอีกจะต้องถูกสอบสวนทำให้คะแนนออกมาเหลือ 235 แปลว่ามีการกดบัตรแทนกัน 31 เสียง สะท้อนให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบ ซึ่งตนไม่ตำหนิใครคนใดคนหนึ่งเป็นการเฉพาะ แต่สภาต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับประมวลจริยธรรม ไม่เช่นนั้นจะให้คนอื่นมาปฏิบัติตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญคงเป็นไปได้ยาก ซึ่งเป็นเรื่องที่นายสมศักดิ์จะต้องตรวจสอบรวมกับเรื่องที่ตนร้องไปก่อนหน้านี้
“ความจริงไม่ต้องรอให้ผมยื่นเรื่องให้สอบสวนเพราะเป็นหน้าที่ประธานสภาต้องทำอยู่แล้ว แต่เมือมีการส่งให้ประธานกรรมการประมวลจริยธรรมของสภาตรวจสอบ เราก็ต้องรอผลแต่คิดว่าเวลานี้สมควรแล้วที่ควรจะมีการทวงถามความคืบหน้าในเรื่องนี้ หวังว่านายสมศักดิ์จะทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งไม่เช่นนั้นก็จะเสื่อมไปด้วยที่จงใจปล่อยปละละเลยให้มีการทำผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญ” นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากคิดว่ามีการทำผิดกฎหมายในสภาจะมีการยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอให้ประธานสภาทำการตรวจสอบให้สุดทางก่อนว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะนายสมศักดิ์ก็รับปากว่าจะประสานงานกับนายกฯและรัฐมนตรีให้มาตอบแต่หลายสัปดาห์ก็ยังไม่ดีขึ้้น ดังนั้นตนคิดว่ารัฐบาลสมควรถูกประนามแล้วจากสถานการณ์ที่หนักข้อขึ้นตามลำดับ เริ่มตั้งแต่ตัวนายกฯที่มาประชุมสภาน้อยมาก ปรากฏตัวในสภานับครั้งได้ ส่วนกระทู้ถามสดตั้งแต่มีสภาชุดนี้นายกฯเพิ่งมาตอบแค่สองครั้ง เป็นกระทู้สดของรัฐบาลด้วยกันหนึ่งครั้งและฝ่ายค้านหนึ่งครั้ง นอกจากนั้นไม่เคยมาตอบเลย
เมื่อถามว่าประธานสภาเป็นคนของพรรคเพื่อไทยจะกล้าทำหนังสือประนามนายกรัฐมนตรีหรือ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตรงนี้จะเป็นสิ่งสะท้อนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภา เพราะการเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง นายกฯจะปฏิเสธไม่มาร่วมก็ได้เพราะอยู่ฝ่ายบริหารแต่ต้องไม่ลืมว่านายกฯก็เป็นผู้แทนคนหนึ่งมีหน้าที่ต้องมาประชุมอย่างน้อยในฐานะส.ส.และต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้แทนคนอื่นด้วย และเป็นผู้นำหลักของพรรคการเมืองก็ต้องเป็นผู้นำส.ส.ในสังกัดพรรคเดียวกันด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า จากการพิจารณาการบรรจุวาระของประธานสภาคิดว่ามีแนวโน้มที่รัฐบาลจะหนีการแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี เป็นครั้งที่สองในสมัยประชุมนี้ หลังจากพยายามหลีกเลี่ยงที่จะแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีมาตั้งแต่สมัยประชุมที่แล้ว ทำให้การที่รัฐสภาลงมติให้รัฐบาลแถลงผลงานในสมัยประชุมนิติบัญญัติได้เป็นเพียงแค่ปาหี่หรือละครฉากหนึ่งเพื่อให้รอดตัวไม่ให้รัฐบาลถูกประนามว่าหนีการแถลงผลงานเท่านั้น เพราะเมื่อรัฐสภาอนุมัตแล้วกลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ และยังไม่มีการบรรจุในวาระการประชุมแต่อย่างใด
////////
จากเพจสายตรงภาคสนาม
คห.ส่วนตัว
ผมว่าน่าจะมีมาตรการปรับคนที่โดดสภาได้แล้วนะครับ เช่น ปรับ 1 หมื่นบาท/ครั้ง สำหรับ สส. ปรับ 1 แสนบาท/ครั้ง สำหรับ รมต./รมช. และปรับ 1 ล้านบาท/ครั้ง สำหรับ นรม.