วานนี้และวันนี้ (22-23 มี.ค.2556) แฟนเพจ Sulak Sivaraksa ของ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม แขกรับเชิญในรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้โพสต์ข้อความถึงปฏิกิริยาจากบุคคลต่างๆ ในสังคมต่อเทปรายการดังกล่าว รวม 2 ตอน มีข้อความว่า...
(ตอนที่ 1)
ผมอยากจะพูดถึงเรื่องรายการตอบโจทย์ แม้ผมจะร่วมอยู่ในรายการนี้ แต่ผมอยากจะยืนยันว่ารายการตอบโจทย์ล่าสุด โดยเฉพาะตอนที่สี่ ที่ห้า มันเป็นการแสดงความกล้าหาญทางจริยธรรมของไทยพีบีเอส ซึ่งเป็นการถางทางในทางประชาธิปไตยอย่างน่าสนใจ และถ้าเข้าใจประเด็นนี้ การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จะเป็นไปอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรมของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ถึงมีคนมาต่อต้านคัดค้านไม่แปลกประหลาด ผมไม่ว่าอะไรหรอก
แต่ที่ผมน่าเสียใจก็ตรงที่รัฐบาลก็เต้นแสดงอำนาจ เฉลิม อยู่บำรุง นี่ถึงกับสั่งให้ถอดเทป จะตั้งที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวมาเล่นงาน อันนี้ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล รัฐบาลควรจะเอื้ออำนวยประโยชน์สุขให้ราษฎร ไม่ใช่มาคอยจับผิด ผมเคยพูดตลอดเวลาไงครับ เมื่อคุณสนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ได้รับพระราชโองการให้บอกตำรวจทั้งหมดให้เลิกจับเรื่องคดีหมิ่น เพราะเป็นการทำร้ายพระองค์ท่าน เป็นการบั่นทองสถาบันพระมหากษัตริย์ เสธ.หนั่น ก็ทำอย่างนี้ตลอดเวลา แต่พวกนี้ไม่ทำตามนี้ เพราะพวกนี้ต้องการจะรังแกพระองค์ท่าน แล้วดันสั่งตำรวจทุกแห่งเลยนะ ถ้าจะแจ้งความให้จับก็ทำเรื่องเลย ซึ่งไอ้มาตรา 112 อันนี้ มันเป็นมาตราที่เลวร้ายมาก เปิดโอกาสให้ฟ้องร้องใครก็ได้ แล้วตำรวจเกลื่อนไปทั่วกันหมดเลย ตำรวจไม่มีงานจะทำหรือไง...
ผมสงสัยว่ารัฐบาลนี้ปกครองบ้านเมืองยังไงกัน เรื่องไม่เป็นเรื่อง นี่กรมตำรวจแห่งชาติ ตั้งกรรมการครับไม่รู้กี่สิบคน แล้วต้องรายงานกันทุกเดือน โอ้โห นี่ขี่ช้างไม่รู้กี่ตัวกันครับไปจับตั๊กแตน ผมสงสารเสียดายเงินงบประมาณแผ่นดิน
นี่ผมเตือนด้วยความหวังดีนะครับ และผมขอโทษ ผมอยู่ในรายการนี้ด้วย คุณภิญโญที่เขาเป็นผู้ดำเนินรายการด้วย เขาพึ่งได้รับรางวัลอายุมงคล โสณกุล อายุมงคลนี่เป็นหม่อมราชวงศ์ พ่อเขาเป็นหม่อมเจ้า เป็นนายพลตรีเสนาธิการในสมัยรัชกาลพระปกเกล้า สมัยก่อนนายพลมียากมากเลยครับ แล้วแม่เขานี่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุไรรัตนศิริมาน เป็นพระธิดาสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตร กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ แล้วพวกนี่เขาจะมาคิดให้รางวัลคนคิดล้มเจ้าหรือครับ แล้วการให้รางวัลอายุมงคลครั้งนี้ ให้ที่วังสวนผักกาด ซึ่งเป็นวังของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์วรศักดิพินิจ ถ้าเผื่อว่าไม่เกิด 2475 พระองค์จุมภฏก็เป็นพระเจ้าแผ่นดินไปแล้ว พวกนี่เขาอยู่ฝ่ายไหนครับ... แล้วผู้ที่มาให้รางวัลนั่นคือหม่อมเจ้ากรรณิกา จิตรพงศ์ พระธิดาสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ แล้วท่านเหล่านี้หรือครับ จะเห็นว่าภิญโญเป็นคนล้มเจ้า...
ภิญโญเขาทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อยกย่องเจ้านาย ให้ผมไปพูดที่วังวรดิศ ยกย่องสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ แล้วปีนี้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศฯ พระชนม์ครบ 150 ก็เตรียมจะไปทำรายการเกี่ยวกับท่าน เพื่อเชิดชูพระเกียรติยศ
แล้วคุณรังแกคนอย่างนี้ มันสมควรแล้วหรือ แล้วคนที่รังแกคือรัฐบาล คุณเฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งควรจะมีสติมีปัญญาบ้าง
(ตอนที่ 2)
ใช่แต่เท่านั้นนะครับ ผู้บัญชาการทหารบกออกมาพูดเลย ใครไม่พอใจไปอยู่เมืองอื่น แล้วคุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ บ้านเมืองเป็นของคุณหรือ แล้ว นสพ.ไทยโพสต์ มาสัมภาษณ์ผม พาดหัวข่าวไทยโพสต์ก็เหมือนหนังสือพิมพ์ทั่วไปลงนิดเดียว ผมบอกในประเทศประชาธิปไตยทุกแห่งครับ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ อเมริกา แม้กระทั่งศรีลังกาที่เอาอย่างอังกฤษมา มาเลเซียเอาอย่างอังกฤษมา แม่ทัพนายกองข้าราชการประจำไม่มีสิทธิ์ออกมาสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนได้เลย เพราะประชาธิปไตยนั้นชาวบ้านออกเสียงได้ พลเมืองออกเสียงได้ นักการเมืองออกเสียงได้ แต่ข้าราชการประจำออกเสียงไม่ได้ ทางสื่อมวลชน ออกเสียงส่วนตัวได้ครับ แต่มันมีโฆษกกองทัพบก ท่านแม่ทัพท่านก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ใช่ครับแต่ตราบใดที่คุณดำรงตำแหน่งแม่ทัพ ความเป็นประชาชนคนหนึ่งต้องออกเสียงวงใน ไม่ใช่ออกสื่อมวลชน เพราะคุณมีตำแหน่งหน้าที่มโหฬารครับ ผมถูกแม่ทัพรังแกมากี่แม่ทัพครับ คนแรกที่รังแกผมคือ อาทิตย์ กำลังเอก เป็นทั้งผู้บัญชาการทหารบก เป็นทั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด จับหนังสือของผมเรื่อง ลอกคราบสังคมไทย หนังสือยังไม่ออกจากโรงพิมพ์เลยครับ จับผม เอาผมเข้าคุก ขึ้นศาลทหาร พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ตรัสให้เลิกคดีในศาลทหารเลย เห็นไหมครับ คนที่สอง สุจินดา คาประยูร ยึดอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดครับ ไม่ได้จับผมอย่างเดียวครับ ออกหมายจับผม ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เอาคนมารังแกผม จะฆ่าฟันผมด้วย จนผมต้องหนีหัวซุกหัวซุน แล้วผมกลับมาสู้คดี ปีผมชนะคดี แม่ทัพทั้งนั้นครับ เคราะห์ดีอย่างหนึ่ง แม่ทัพคนนี้ยังไม่ถึงกับจะฟ้องร้อง กับผม ยังไม่ถึงจะหาคนมาเล่นงานกับผม ก็ต้องชมเขาครับ แต่ผมอยากจะเตือนนะครับ เมื่อแม่ทัพหมดตำแหน่งไปแล้ว คุณบอกคุณเป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่มีใครไปฟังเสียงคุณครับ ผมอยากจะรู้ตอนนี้มีใครไปฟังเสียง คุณอาทิตย์บ้าง มีใครไปฟังเสียงคุณสุจินดาบ้าง
ผมอยากจะเตือนนะท่านแม่ทัพ ว่าในระหว่างอยู่ในอำนาจนั้นทำตัวเป็นข้าราชการที่ดี สงบเสงี่ยมเจียมตัว อย่ากินสินบาทคาดสินบน จะซื้ออาวุธต่างๆ ต้องซื้อด้วยความประหยัดมัธยัสถ์ ไม่ให้มีการกินนอกกินใน ทำเท่านี้ก็พอแล้วครับ เพราะคุณไปรบกับใครก็สู้เขาไม่ได้ คุณรบกับราษฎรที่ไม่มีอาวุธ
โฆษกกองทัพบกออกมาพูดว่า กองทัพไทยไม่เคยรังแกราษฎร รังแกมาตลอดครับ ตั้งแต่รัชกาลที่ 5 จนรัชกาลปัจจุบัน เมื่อเร็วๆ นี้เอง ก็มาฆ่าผู้ฟันคน นี่อภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) ก็อาจจะโดนคดีเร็วๆ นี้ ฆ่าผู้ฟันคนอย่างเห็นได้ชัดเลย แล้วคุณบอกทหารอยู่ฝ่ายประชาชน ทหารไม่เคยอยู่ฝ่ายประชาชน ทหารตัวเล็กตัวน้อยอาจอยู่ฝ่ายประขาชน ไอ้ตัวโตๆ ไม่ได้อยู่เลย ผมอยากจะเตือนด้วยความเคารพครับ เพราะว่าคุณจะพูดอะไรก็ได้ และผมพูดผ่านเฟซบุ๊กนี่ ใครจะโต้ตอบจะเถียงยังไงก็ได้ ประชาธิปไตยต้องมีการถกเถียง อภิปราย ไม่ใช่มาคิดว่าถ้าไม่พอใจไปอยู่ที่อื่น คุณพูดยังไงนี้ได้ยังไงครับ เพราะมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ การเลิกทาสนี่สมัยก่อน ถ้าคุณไม่พอใจไปอยู่ที่อื่น แล้วไงจะให้ทาสหนีไปอยู่ประเทศอื่นหรือครับ พูดนี่ง่าย กฎหมายมี ถ้าคุณไม่ทำผิดกฎหมายไม่เป็นไร แน่นอนสิครับ ถ้าคุณอยากให้คนทั้งหมดเป็นปศุสัตว์ เชื่องๆ เดินตามคอก มนุษย์ที่มีสติปัญญาต้องท้าทายกฎหมายทุกฉบับที่ไม่ยุติธรรม แล้วมาเถียงกันสิครับ มาแก้ไขกัน ไม่ใช่ใครมาแตะเข้าหน่อยไม่ได้
นี่ผมพูดด้วยความเคารพนะครับ แล้วก็หวังดีกับคุณเฉลิม คุณเฉลิมเองก็เคยหนีสุจินดาไปต่างประเทศ พร้อมๆ กับผม อย่าลืมความหลังสิครับ คนมีอำนาจแล้วมักจะกร่าง ให้หัดมีความอ่อนน้อมถ่อมตนบ้าง เตือนมาด้วยความหวังดีครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ...
http://www.isranews....rm-prayuth.html
อ่านแล้ว... ลองพิจารณากันขอรับ... ปัญญาชนสยาม... นามากรนี้ท่านได้แต่ใดมาหนอ????
