Jump to content


Photo

สิ่งที่ยังคงอยู่....


  • Please log in to reply
7224 replies to this topic

#1001 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 30 April 2013 - 21:34

พระพุทธเจ้าทรงเตือนว่า

 

"คนที่ทำบาปกรรมไว้ แม้เขาจะหนีไปในอากาศ ท่ามกลางมหาสมุทร หรือช่องแห่งภูเขาก็ตาม  เขาพึงพ้นจากบาปกรรมมิได้เลย

หรือว่าเขาจะอยู่ ณ ดินแดนส่วนใดแล้ว พึงพ้นจากบาปกรรมได้ ประเทศแห่งแผ่นดินที่ว่านั้นไม่มีเลย"

 ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ลอยๆ และหายไปโดยไม่มีเหตุ

 ทุกสิ่งย่อมมีปัจจัยเกื้อหนุน เกิด ดับ ไปตลอดสายไม่ขาด

 เหตุย่อมสมควรแก่ผล  และผลย่อมสมควรแก่เหตุ ไม่ชาด ไม่เกิน

 

 กฎแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ

 กรรมใดใครก่อ ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น

 ไม่ช้า ก็เร็ว ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ ไม่ชาตินี้ ก็ชาติหน้า

 ไม่ชาติหน้า ก็ชาติถัดถัดไป  กรรมเป็นเรื่องที่ปิดบัง

 ไม่มีใครรู้ได้ว่ากรรมใดจะเลือก ให้ผลก่อนหน้าหลัง

 ให้ผลเมือไหร่ และให้ผลที่ใหน เว้นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ที่ทรงเป็นพระสัพพัญญู

ไม่ต้องห่วงความยุติธรรมในกฎแห่งกรรม

ย่อมให้ผลได้อย่างยุติธรรมและเท่าเทียม

ยิ่งกว่าศาลใดบนโลกใบนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย

 

พุทธบริษัท น้อมสักการะพระธรรมอันประเสริฐสุดของพระผู้มีพระภาค

แม้ผู้ใดได้เห็นพระวรกายพระองค์ ได้สดับฟังพระธรรมเทศนา จากพระโอษฐ์

หรือแม้ได้จับชายสังฆาฎิติดตามพระองค์ไป แต่ไม่รู้ธรรม ไม่เห็นธรรม

ผู้นั้นก็หาได้เห็นพระองค์ไม่  ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นย่อมเห็นตถาคต


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1002 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 21:44

คุณ Wat ไปไหน โปรดมาร่วมด้วยช่วยกันโปรดสัตว์ที่ตาบอดมืดด้วยเถิด อิอิ  เอานี่ไปดูก่อนเพื่อความบันเทิง จากอิฉันผู้มีทั้งหมาและแมว

 



#1003 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 30 April 2013 - 21:48

วันนี้เหมือนเวลาเดินเร็ว  เพราะรู้สึกว่าบางคนเริ่มอารมณ์ดี เริ่มมีคารมคมคาย ไม่บูดเหมือนเมื่อวานผ่านจอคอมพ์มาเลย  เหอๆ

 

สงสัยเราจะเคยเห็นคุณจักร์แน่เลย เด็กหัวเกรียนๆที่ถือข้าวโพด ทั้ง 2มือนั่นแน่เลย 55555555

เหลือเชื่อว่าในวันเก่าก่อนนั้น  เราต่างเคยเจอกันมาแล้วครั้งหนื่ง

เด็กหัวเกรียนๆถือข้าวโพดคั่วทั้งสองมือ คือผมแน่นอน 

ส่วนเด็กหญิงที่จ้องอยากกินข้าวโพดคั่วในมือผม คือพี่มะนาวอย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่อยากเชื่อว่าบังเอิญได้ขนาดนี้ 

 

เวลาผ่านไป …

 

เด็กหัวเกรียนมือถือข้าวโพดคั่วในวันนั้น คือชายที่ถูกหมายปองของบรรดาสาวสาว แห่ง มช

เด็กหญิงที่จ้องมองข้าวโพดคั่วในมือเด็กหัวเกรียนคนนั้น คือ ดาวจรัสแสง แห่ง มธ

เหลือเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะเป็นเรื่องจริงครับ

 

ขอมอบเพลงนี้แด่เธอ..  ผู้เป็นเสมือนดาวจรัสแสงบนฝากฟ้า… คนนั้น


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1004 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 21:49



#1005 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 30 April 2013 - 21:50

^_^  ถามง่ายๆนิดเดียวขอรับ... ตามพุทธชาดก... รู้จัก "องคุลีมาร" มั้ยขอรับ... แล้วทำไมองค์คุลีมารสร้างกรรมหนักขนาดฆ่าคนเป็นพัน... ยังเป็นพระอรหันต์พ้นกรรมได้... แล้วทำไมพระโมคลานะ ผู้ซึ่งมีกรรมหนักมาในชาติปางก่อน จึงหนีกรรมถูกโจรทุบตีตายไม่ได้ขอรับ...

 

:rolleyes:  ฮี่ๆๆ... อาบน้ำ คลุกแป้งโกกิก่อน เดี๋ยวค่อยมาเสวนาต่อ เอิ๊กๆๆๆ


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1006 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 21:56

สามารถเจงๆ  ผูกคนละเรื่องเดียวกันจนได้  ติดมาจากห้องกาแฟละซิ

 



#1007 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 30 April 2013 - 21:57

^_^  ระหว่างรอ... ลองอ่านทำความเข้าใจ 10 พระสูตรนี้คร่าวๆก่อนนะขอรับ เพราะคำอธิบายจะโยงหลายพระสูตร หากไม่เข้าใจพื้นฐานของพุทธวจน ซึ่งจะคลาดเคลื่อนกับความเข้าใจที่เคยได้เรียนรู้มาตลอดชีวิตได้หลายประการ...

 

http://webboard.seri...่านั้/?p=584976


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1008 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 21:58

อิฉันก็สงสัยเหมือนกันค่ะ เสร็จจากชุบโกกิ แล้วอย่าเพิ่งทอดนะเจ้าคะ กรุณามาเฉลยก่อน



#1009 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 30 April 2013 - 21:59

มารอฟังเฉลยด้วยคน


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1010 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 22:07

คุณจักร์เรารีบเปิดเพลงระหว่างคุณ Wat ไปอาบน้ำ ชุบโกกิก่อนเหอะนะ

 

 

 



#1011 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 22:17

ระหว่างรอขออีกเพลง

 



#1012 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 22:20

และอีกเพลง 

 



#1013 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 30 April 2013 - 22:24

โอ้พี่มะนาว ผมเปิดฟังไม่ทันเลยครับ

 

ขอไปชงกาแฟก่อนสักแก้ว พรุ่งนี้หยุดเสียด้วยซิ

แต่คงต้องไปหาแม่ เพราะไม่ได้ไปมาหลายอาทิตย์แล้ว

 

พูดอย่างนี้เหมือนเด็กติดแม่เลยครับ ทั้งที่แก่ขนาดนี้แล้ว


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1014 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 30 April 2013 - 22:34

ขออนุญาตไปอ่านที่คุณ Wat กรุณาเอามาฝากเป็น ธรรมทาน

 

ผมอดที่จะขอชื่นชมพี่มะนาวไม่ได้ ในการตั้งชื่อ หัวกระทู้ว่า สิ่งที่ยังคงอยู่

มันไปได้ทุกเรือง จริงจริง เปิดกว้าง และได้รับรู้นานาทัศนะ พูดไปแล้ว

อะไรที่มีอยู่ ก็เห็นจะ เป็นสิ่งที่ยังคงอยู่ 


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1015 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 30 April 2013 - 22:42

คุณ Wat หายไปใหนแล้วครับ

ผมได้เข้าไปอ่านแล้ว ตาม Link ที่บอกไว้

 

อ่านได้ง่ายและชัดเจน


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1016 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 30 April 2013 - 22:50

ทำลายความเงียบในช่วง 20 นาทีที่ผ่านมาสักเพลง

เพลงเดิมเดิม แต่เป็น style celtic woman เจ้าเก่า

 


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1017 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 30 April 2013 - 22:52

^_^  เล่นแบบด้นสด ไม่ลิ้งพระสูตรนะขอรับ ไปหาดูหลักฐานเอาเองได้ (ถ้าสนใจจะตรวจสอบ มีโปรแกรมตรวจสอบพระไตรปิฏกจากเวปวัดพระอาจารย์กระพ๊ม แล้วจะบอกให้อีกทีนะขอรับ)...

 

อันดับแรก... พระตถาคตกล่าวไว้ว่า ใครคือผู้ท่องเที่ยวไปในสังสารสัฏอันยาวไกลนี้ หากไม่ใช่ "สัตว์ หรือสัตตานัง" ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น ตัณหาเป็นเครื่องผูก มีขันธ์ทั้ง5 เป็นองค์ประกอบ... ท่องไปเที่ยวไปในสัสารวัฏนี้มาไม่รู้กี่กัปป์ต่อกี่กัปป์ เรานั้นเคยเป็นเทพ เทวดา มาร เปรต สัต ว์นรก เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นหญิง เป็นชาย เป็นพระราชา เป็นอำมาตย์ คนรวย คนจน คนพิการ สัตว์เดรั จฉานต่างๆ ฯลฯ ท่องเที่ยวจากโลกนี้สู่โลกอื่น จากโลกอื่นสู่โลกนี้กันมานับไม่ถ้วน พระตถาคตเปรียบว่า หากเลือดที่ไหลจากคอเราเนื่องจากถูกฆ่า, น้ำตาที่ไหลรินของเราตลอดทั้งสังสารวัฏนี้... มากมายกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งสี่ กระดูกเรานั้นกองรวมกันสูงกว่าเขาสิเนรุ... นี่คือเราคนเดียวนะขอรับที่ท่องไปในสังสารวัฏนี้ แล้วคิดเอาแล้วกันเรากระทำชั่ว, ดีอะไรกันมาบ้าง มากบ้าง น้อยบ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง ไอ้ที่เรามองว่ามันชั่วในสายตาเราวันนี้ ชาติปางใดปางหนึ่งในสังสารวัฏเรา... ต้องเคยทำชั่วยิ่งกว่านี้หลายเท่าก็เป็นได้... นี่แค่นับเนื่องเฉพาะในชาติที่ได้เกิดเป็นมนุษย์นะขอรับ ยิ่งไปเกิดเป็นสัตว์ พระตถาคตกล่าว มันมีแต่การเคี้ยวกินกันยิ่งแล้วใหญ่...

 

อันดับต่อมา... พระตถาคตกล่าวอธิบายหลักของกรรมที่แท้จริงมี 4 ประการคือ 1 กรรมไม่ได้เกิดจากผู้อื่นบันดาล 2 กรรมไม่ได้เกิดจากตนเองบันดาล 3 กรรมไม่ได้เกิดขึ้นเองลอยๆ 4 กรรมไม่ได้เกิดจากทั้งผู้อื่นและตนเองบันดาล... งงล่ะสิ... พระตถาคตเปรียบไว้ให้พิจารณาบทนี้ได้เหมือนดังเราเห็นคนตัดไม้ทำการลากกิ่งไม้, ต้นไม้นั้นไปเผา... เรารู้สึกเจ็บปวดเพราะถูกลาก ถูกเผานั่นหรือไม่?... พระตถาคตกล่าวถึงหลักของกรรมเป็นเช่นนี้ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือการกระทบกันของ "ธาตุ" ขอรับ... นี่ไม่ใช่ของเรา นี่ไม่ใช่เป็นเรา นี่ไม่ใช่ตัวตนของเรา... แล้วจะเป็นเราได้เช่นไรที่เป็นผู้ไปกระทำ "กรรม"...  พระตถาคตกล่าว "เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม" และวิบากของกรรมมี 3 ระดับคือ 1 ให้ผลในปัจจุบัน 2 ให้ผลในเวลาถัดไป 3 ให้ผลในเวลาถัดไปอีก... ซึ่งวิบากของกรรมนั่นแหละคือสิ่งที่ให้กำเนิดในวันนี้ ดังพระตถาคตกล่าวเราเกิดเป็นราชาก็เพราะกรรม เป็นโจรก็เพราะกรรม เป็นสัตว์เดรั จฉานก็เพราะกรรม ซึ่งวิบากของกรรมนั้นไม่ได้หมายความว่าเราทำกรรมอะไรกับใคร เราก็จะได้รับอย่างนั้น เช่นทำบุญตักบาตรใส่แต่ของโปรดของชอบ เพราะเชื่อว่าตายไปจะได้กินของชอบ หรืออย่างตลกเค้าเอามาเล่นกันว่าใครทำกรรมอะไรก็จะได้ผลกรรมอย่างนั้น... งั้นก็ฆ่าพระอรหันต์แล้วชาติหน้าก็จะได้เป็นพระอรหันต์มั่งสิ... ผลของกรรมหรือวิบากนั้น... ไม่มีใครจะหยั่งรู้ได้ดีและถูกต้องไปกว่าพระตถาคต เพราะความเป็นสัพพัญญูของพระองค์ ที่สามารถหยั่งรู้ได้ถึงเบื้องต้น เบื้องปลายของสังสารวัฏ... นอกนั้น "อนิจจัง" ขอรับ มีพระสูตรกล่าวถึงพระอรหันต์เองมีฤทธิ์หยั่งรู้อดีต อนาคต ยังทายผิดมาแล้วเลยเพราะความที่รู้ไม่สุดถึงเบื้องต้นเบื้องปลายเหมือนพระองค์ และจริงๆแล้วเป็นพระวินัยของพระเลยด้วยซ้ำ... ห้ามดูหมอ ดูฤกษ์ ดูยาม สะเดาะเคราะห์ ทำน้ำมนต์ ทำยันต์กันผี ฯลฯ... ซึ่งทุกวันนี้พระทำกันครบวงจรที่พระองค์เรียก "เดรั จฉานวิชชา"...

 

^_^  เอาไปก่อนสองกระเบื้องงั้น เดี๋ยวจะรอว่าหายไปไหนขอรับ... เอิ๊กๆๆๆ


Edited by wat, 30 April 2013 - 22:53.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1018 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 22:53

สงสัยคงจาโดนทอดไปแล้วมั๊ง  พรุ่งนี้คงเข้ามาตอบ แต่อิฉันคงเข้ามาอ่านตอนเย็นๆ ค่ำๆแหละเจ้าค่ะ บังเอิญมีธูระเจ้าค่ะ

คุณจักร์แว๊บไหนละเนี่ย

อะไรที่มีอยู่ ก็เห็นจะ เป็นสิ่งที่ยังคงอยู่ "

แต่อย่างที่บอกไง ควรมี  จำเป็นต้องมี หรือมันไม่ควรมี (แต่เกิดมี)

 

แหมเล่นง่ายเนอะ เอามาแต่เพลง Celtic woman 



#1019 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 22:55

อ้าวยังไม่โดนทอดแฮะ  จะอ่านเพื่อเรียนรู้เจ้าค่ะ ถ้าอิฉันถามอย่าว่านะเจ้าคะ เพราะอิฉันยังไม่เคยบวชเรียนน่ะเจ้าค่ะ


  • wat likes this

#1020 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 30 April 2013 - 23:02

^_^  เล่นแบบด้นสด ไม่ลิ้งพระสูตรนะขอรับ ไปหาดูหลักฐานเอาเองได้ (ถ้าสนใจจะตรวจสอบ มีโปรแกรมตรวจสอบพระไตรปิฏกจากเวปวัดพระอาจารย์กระพ๊ม แล้วจะบอกให้อีกทีนะขอรับ)...

 

อันดับแรก... พระตถาคตกล่าวไว้ว่า ใครคือผู้ท่องเที่ยวไปในสังสารสัฏอันยาวไกลนี้ หากไม่ใช่ "สัตว์ หรือสัตตานัง" ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น ตัณหาเป็นเครื่องผูก มีขันธ์ทั้ง5 เป็นองค์ประกอบ... ท่องไปเที่ยวไปในสัสารวัฏนี้มาไม่รู้กี่กัปป์ต่อกี่กัปป์ เรานั้นเคยเป็นเทพ เทวดา มาร เปรต สัต ว์นรก เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นหญิง เป็นชาย เป็นพระราชา เป็นอำมาตย์ คนรวย คนจน คนพิการ สัตว์เดรั จฉานต่างๆ ฯลฯ ท่องเที่ยวจากโลกนี้สู่โลกอื่น จากโลกอื่นสู่โลกนี้กันมานับไม่ถ้วน พระตถาคตเปรียบว่า หากเลือดที่ไหลจากคอเราเนื่องจากถูกฆ่า, น้ำตาที่ไหลรินของเราตลอดทั้งสังสารวัฏนี้... มากมายกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งสี่ กระดูกเรานั้นกองรวมกันสูงกว่าเขาสิเนรุ... นี่คือเราคนเดียวนะขอรับที่ท่องไปในสังสารวัฏนี้ แล้วคิดเอาแล้วกันเรากระทำชั่ว, ดีอะไรกันมาบ้าง มากบ้าง น้อยบ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง ไอ้ที่เรามองว่ามันชั่วในสายตาเราวันนี้ ชาติปางใดปางหนึ่งในสังสารวัฏเรา... ต้องเคยทำชั่วยิ่งกว่านี้หลายเท่าก็เป็นได้... นี่แค่นับเนื่องเฉพาะในชาติที่ได้เกิดเป็นมนุษย์นะขอรับ ยิ่งไปเกิดเป็นสัตว์ พระตถาคตกล่าว มันมีแต่การเคี้ยวกินกันยิ่งแล้วใหญ่...

 

อันดับต่อมา... พระตถาคตกล่าวอธิบายหลักของกรรมที่แท้จริงมี 4 ประการคือ 1 กรรมไม่ได้เกิดจากผู้อื่นบันดาล 2 กรรมไม่ได้เกิดจากตนเองบันดาล 3 กรรมไม่ได้เกิดขึ้นเองลอยๆ 4 กรรมไม่ได้เกิดจากทั้งผู้อื่นและตนเองบันดาล... งงล่ะสิ... พระตถาคตเปรียบไว้ให้พิจารณาบทนี้ได้เหมือนดังเราเห็นคนตัดไม้ทำการลากกิ่งไม้, ต้นไม้นั้นไปเผา... เรารู้สึกเจ็บปวดเพราะถูกลาก ถูกเผานั่นหรือไม่?... พระตถาคตกล่าวถึงหลักของกรรมเป็นเช่นนี้ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือการกระทบกันของ "ธาตุ" ขอรับ... นี่ไม่ใช่ของเรา นี่ไม่ใช่เป็นเรา นี่ไม่ใช่ตัวตนของเรา... แล้วจะเป็นเราได้เช่นไรที่เป็นผู้ไปกระทำ "กรรม"...  พระตถาคตกล่าว "เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม" และวิบากของกรรมมี 3 ระดับคือ 1 ให้ผลในปัจจุบัน 2 ให้ผลในเวลาถัดไป 3 ให้ผลในเวลาถัดไปอีก... ซึ่งวิบากของกรรมนั่นแหละคือสิ่งที่ให้กำเนิดในวันนี้ ดังพระตถาคตกล่าวเราเกิดเป็นราชาก็เพราะกรรม เป็นโจรก็เพราะกรรม เป็นสัตว์เดรั จฉานก็เพราะกรรม ซึ่งวิบากของกรรมนั้นไม่ได้หมายความว่าเราทำกรรมอะไรกับใคร เราก็จะได้รับอย่างนั้น เช่นทำบุญตักบาตรใส่แต่ของโปรดของชอบ เพราะเชื่อว่าตายไปจะได้กินของชอบ หรืออย่างตลกเค้าเอามาเล่นกันว่าใครทำกรรมอะไรก็จะได้ผลกรรมอย่างนั้น... งั้นก็ฆ่าพระอรหันต์แล้วชาติหน้าก็จะได้เป็นพระอรหันต์มั่งสิ... ผลของกรรมหรือวิบากนั้น... ไม่มีใครจะหยั่งรู้ได้ดีและถูกต้องไปกว่าพระตถาคต เพราะความเป็นสัพพัญญูของพระองค์ ที่สามารถหยั่งรู้ได้ถึงเบื้องต้น เบื้องปลายของสังสารวัฏ... นอกนั้น "อนิจจัง" ขอรับ มีพระสูตรกล่าวถึงพระอรหันต์เองมีฤทธิ์หยั่งรู้อดีต อนาคต ยังทายผิดมาแล้วเลยเพราะความที่รู้ไม่สุดถึงเบื้องต้นเบื้องปลายเหมือนพระองค์ และจริงๆแล้วเป็นพระวินัยของพระเลยด้วยซ้ำ... ห้ามดูหมอ ดูฤกษ์ ดูยาม สะเดาะเคราะห์ ทำน้ำมนต์ ทำยันต์กันผี ฯลฯ... ซึ่งทุกวันนี้พระทำกันครบวงจรที่พระองค์เรียก "เดรั จฉานวิชชา"...

 

^_^  เอาไปก่อนสองกระเบื้องงั้น เดี๋ยวจะรอว่าหายไปไหนขอรับ... เอิ๊กๆๆๆ

ผมได้อ่านข้อความสีน้ำเงิน และขอตอบว่า

เห็นเหมือนคุณ Wat ว่าไว้ครับ

 

ส่วนที่เหลือ ผมจะค่อยค่อยพิจารณาอ่านและไตร่ตรอง

 

นี้เป็นข้อพิสูจน์ครับ ว่า ศาสนาพุทธ ช่างลึกซึ้งเหลือเกิน

ประมาทไม่ได้เลย พระองค์ทรงเตือนว่า จงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท

นับรวมถึง ความคิด ความเห็น และความเข้าใจ

 

ต้องขอบคุณครับคุณ Wat

เพราะ ธรรมทานชนะทานทั้งปวง


  • wat likes this

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1021 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 30 April 2013 - 23:13

จะจริงหรือไม่ก็ตาม จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ทุกตรั้งที่ทำบุญ สวดมนตร์ จะอธิษฐานขอพรจากพระว่า ชาตินี้ ขอให้เจอแต่คนดีๆเข้ามาในชีวิต  ส่วนสิ่งอื่นนั้น เราเลือกได้

นี่เป็นสิ่งนึงที่บอกตัวเองว่า นี่คือบุญของเรา เพราะอย่างที่บอกว่าตอนนี้กำลังจะศึกษา และเรียนรู้ แล้วก็ได้มารู้จักกับคุณWat  และคุณจักร ที่สนใจในแนวทางเดียวกัน  

เรานี่โชคดีนะ ไม่ใช่มีแต่สิ่งไม่ดีที่เข้ามาอย่างเดียวหรอก  เรากำลังจะหาทางกำจัดตัวแห่งทุกข์นี้ให้ได้ ได้แค่ไหนก็คงแล้วแต่กุศลที่สร้างมาละเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณ Wat 

ที่อุตส่าห์เมตตาอธิบายให้ฟังอย่างง่ายๆ  

ขอออกจากห้องก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีธุระต้องทำแต่เช้าค่ะ ฝากคุณจักร์ถ้ายังอยู่ ปิดบ้านแทนนะคะ



#1022 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 30 April 2013 - 23:17

ช่วงนี้เป็นช่วงชีวิตทีผมต้องสวมหมวกหลายใบเหลือเกิน

 

พรุ่งนีไปหาแม่ตัว แล้วใหนจะแม่คุณ รวมถึงแม่เธออีก

นี้ยังไม่นับงานที่ต้องทำ อาชีพที่ต้องประกอบหาเลี้ยงชีพ

 

ว้นนี้ขออนุญาต พี่มะนาวไปก่อน และขอบคุณคุณ Wat ด้วย

 

ไปก่อน พรุ่งนี้หากดวงอาทิตย์ยังคงขึ้นทางทิศตะวันออก เราได้เจอกันอีกแน่

 

สวัสดีครับ


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1023 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 30 April 2013 - 23:23

^_^  ต่อๆๆ...

 

... เมื่อเราเองยังเวียนว่ายในสังสารวัฏอันยาวไกลนี้มานมนาน กระทำสิ่งที่เลวชั่วช้า ดีเลิศประเสริฐ (แต่ยังไม่พอ เพราะถ้าประเสริฐจริงคงจะหลุดพ้นกันไปแล้ว) มาตลอดกาลยาวนานดังพระตถาคตกล่าวไว้ แม้แต่ตัวพระตถาคตเองก่อนจะมาเป็นพระโพธิสัตว์... ท่านก็ไม่ได้แตกต่างจากพวกเราเลย ก็เวียนวนในสังสารวัฏอันหาที่สุดไม่ได้นี้มาเช่นเดียวกัน พระองค์กล่าวถึงผลกรรมที่พระองค์สั่งสมมาในแต่ละชาติจนถึงชาติปัจจุบันที่มีรูปกายเป็น "มหาบุรุษ 32 ประการ" โดยอธิบายถึงชาติโน้นทำกรรมเช่นนี้จึงได้ลักษณะมหาบุรุษเช่นนี้ ชาตินั้นทำกรรมนี้จึงได้ลักษณะมหาบุรุษเช่นนี้เป็นต้น...

 

บทสรุป... ตามที่กล่าวว่าเราท่องเที่ยวมาตลอดกาลยาวนานนี้ สั่งสม, กระทำกรรมต่างๆมานับไม่ถ้วน องคุลีมาร, พระโมคคัลลานะก็ตาม... ก็เป็นเหมือนเช่นพวกเราขอรับ แต่การที่พระโมคคัลลานะท่านสำเร็จอรหันต์แล้ว มีฤทธิ์มากมาย เป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายพระตถาคต (ซึ่งผิดกับอัครสาวกเบื้องขวา พระสารีบุตร... เป็นพระอรหันต์ที่ไม่ได้ฤทธิ์ใดๆเลย นอกจากความเป็นพหูสูตร... แต่ก็ยังมีผิดพลาด ถูกพระตถาคตตำหนิอยู่เช่นกันในพระสูตรขอรับ) ท่านหยั่งรู้ว่ากรรมปางใดมาถึงท่านแล้ว คือกรรมที่ฆ่าพ่อแม่ตนเอง โดยท่านได้หลีกเลี่ยงหมู่โจรที่มาดักรอทำร้ายได้สองครั้งด้วยญาณ แต่พอครั้งที่สามท่านก็หยั่งรู้ได้ว่า... กรรมตามทันแล้ว หลีกไปก็ไร้ประโยชน์... ท่านจึงเดินเข้าไปหามหมู่โจรให้กระทำอนันตริยกรรมท่านเสีย (เพราะท่านได้อรหัตผลแล้ว) แล้วท่านก็ก้าวสู่พระนิพพานไป  ส่วนองคุลีมารนั้น ได้ทำกรรมหนักไว้ในชาตินี้ด้วยความหลงผิด คือฆ่าคนมากมาย วิบากกรมของการปาณาติบาต พระตถาคตกล่าวว่าวิบากอย่างเบาคือทำให้มีอายุสั้น วิบากอย่างหนักคือกำเนิดนรก เดรั จฉานหรือ เปรตวิสัย... แต่องคุลีมารได้พบพระตถาคตก่อนตามชาตกะที่กล่าวถึงองคุลีมารว่าเป็นโจรหยาบช้า อาศัยในป่าชายเมือง มีฤทธิ์มากมาย ล้มผู้คนได้คราวละสามสิบ สี่สิบคน วิ่งได้เร็วดุจม้าอาชานัย พระพุทธองค์ทราบด้วยญาณจึงเดินไปตามเส้นทางนั้น องคุลีมารเห็นพระตถาคตก็วิ่งตามไป แต่ตามยังไงก็ไม่ทันจึงเกิดวลีที่เป็นอมตะโดยได้กล่าวร้องเรียกพระตถาคต... "หยุดก่อนสมณะ หยุดก่อนสมณะ หยุดก่อนสมณะ" พระตถาคตจึงกล่าว... "เรานั้นหยุดแล้ว... ท่านนั่นแหละ จงหยุดเสียเถิด" องคุลีมารสงสัยธรรมอันใดทำให้พระตถาคตกล่าวเช่นนั้น พระองค์จึงนั่งลงกล่าวธรรมให้องคุลีมารฟัง... องคุลีมารเกิดดวงตาเห็นธรรม โยนดาบทิ้งขอบวชตามพระตถาคตกลับเข้าเมืองไป แล้วได้บำเพ็ญเพียรจนบรรลุอรหัตผล โดยได้ทำกาละ (ตาย) ในภายหลังจากนั้นอีกหลายปีขอรับ... กรรมยังตามไม่ทันขอรับ...

 

ส่งท้าย... คนพุทธเองน้อยคนนักที่ไม่ทราบว่าพระตถาคตก็กล่าววิธี "แก้กรรม" ไว้เช่นกัน... แต่ไม่ใช่อย่างที่ทุกวันนี้ทำกันนะขอรับ... ไว้ถ้าสนใจจะมาเหลาต่อ...

 

^_^


Edited by wat, 30 April 2013 - 23:38.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1024 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 30 April 2013 - 23:28

จะจริงหรือไม่ก็ตาม จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ทุกตรั้งที่ทำบุญ สวดมนตร์ จะอธิษฐานขอพรจากพระว่า ชาตินี้ ขอให้เจอแต่คนดีๆเข้ามาในชีวิต ส่วนสิ่งอื่นนั้น เราเลือกได้
นี่เป็นสิ่งนึงที่บอกตัวเองว่า นี่คือบุญของเรา เพราะอย่างที่บอกว่าตอนนี้กำลังจะศึกษา และเรียนรู้ แล้วก็ได้มารู้จักกับคุณWat และคุณจักร ที่สนใจในแนวทางเดียวกัน
เรานี่โชคดีนะ ไม่ใช่มีแต่สิ่งไม่ดีที่เข้ามาอย่างเดียวหรอก เรากำลังจะหาทางกำจัดตัวแห่งทุกข์นี้ให้ได้ ได้แค่ไหนก็คงแล้วแต่กุศลที่สร้างมาละเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณ Wat
ที่อุตส่าห์เมตตาอธิบายให้ฟังอย่างง่ายๆ
ขอออกจากห้องก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีธุระต้องทำแต่เช้าค่ะ ฝากคุณจักร์ถ้ายังอยู่ ปิดบ้านแทนนะคะ


^_^ อันนี้ก็อนิจจังเช่นกันขอรับ พระตถาคตกล่าวคนที่มีศีลเสมอกัน จาคะเสมอกัน ปัญญาเสมอกัน... อาจจะได้เจอกันอีก เราเลือกไม่ได้ขอรับตราบยังไม่รู้ "อริยสัจ" ของพระองค์ ว่ากรรมใดจะส่งผลใดให้เราตอนไหน เจตนาใดที่วิบากกรรมนั้นจะเกิดขึ้น พระตถาคตเรียก กรรมดำ (ชั่ว) กรรมขาว (ดี) กรรมไม่ดำไม่ขาว (ปล่อยวาง) เปรียบง่ายๆ ชาตินี้เราเจอใครที่เรารัก อยากจะเจอกันต่อไปๆ ก็ตามที่พระองค์กล่าวข้างต้นคึอต้องมีศีลเสมอกัน จาคะเสมอกัน ปัญญาเสมอกัน... ก็อาจจะได้พบกันในชาติต่อๆไป แต่ถ้าไม่เสมอๆกันคนหนึ่งไปเกิดเป็นเทวดา อีกคนไปเกิดเป็นเดรั จฉาน... แล้วมันจะเจอกันยังไง? ในทางกลับกันใครที่พยาบาท ที่เราเรียกกันเจ้ากรรมนายเวรนั้น... ไม่มีขอรับ ก็หลักเดียวกันเราไปเกิดเป็นเทวดา หรือเพียรภาวนาจนหลุดพ้นไปแล้ว ขณะทีคนที่ผูกพยาบาทเราไปเกิดอีกภพ... แล้วมันจะเจอกันได้ยังไง... ตามหลักพระตถาคตกล่าวอีกหลายๆพระสูตร... ความเป็นไปได้น้อยมากขอรับ...

 

... คีย์เวิร์ดอีกอันที่อยากจะกล่าวไว้ให้พิจารณากันนะขอรับ... "เราเลือกเกิดได้" หากเรารู้แจ้งได้ใน "อริยสัจ4" ... ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของปุถุชนเลย...


Edited by wat, 30 April 2013 - 23:36.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1025 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 1 May 2013 - 21:34

สวัสดีเจ้าค่ะ ได้พักมาพอควร เพราะวันนี้ออกจากบ้าน 8 โมงไปหาหมอที่ศิริราช ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ปีหน้าค่อยไปใหม่ พลขับก็ไปบริจาคเลือด กรุ๊ปเขาเป็นกรุ๊ปหายาก AB  แล้วก็ทานข้าว แล้วไปต่อที่โบ๊เบ๊ หาซื้อชุดขาวเจ้าค่ะ จอดรถไกล เดินหอบแฮก กว่าจะถึงบ้าน 4 โมงเย็น อาบน้ำแล้วก็หลับไปเลย ตื่นมาทุ่มกว่าแล้ว อาบน้ำอีกรอบ

 

สิ่งที่คุณวัตรกล่าวถึงเรื่องที่อิฉันเล่านั้น ที่ว่าเป็นอนิจจังคืออย่างไรเจ้าคะ  มิใช่จะเถียงนะเจ้าคะ ชีวิตที่ผ่านมา มีเรื่องราวหลายอิฉันและครอบครัว เราเคยเฉียดตายจากรถคว่ำ (ลูกสาวซึ่งตอนก่อนเกิด ขอพรจาก ร.5 ให้แคล้วคลาด ทุก 5 ปีจะต้องไปถวายผลไม้ 9 อย่าง) รถที่นั่งยับเยินพอควร ลูกสาวกระเด็นออกมาจากกระจกหลังทีแตกทั้งบาน ออกมายืนอยู่ใต้ต้นไม้ อีก 3 ชีวิตติดในรถ ก็รีบคลานกันออกมา เพราะกลัวระเบิด มีคนที่เขาขับรถกำลังขึ้นไปบนหมู่บ้าน(อยู่ที่สูง) ลงมาช่วยพาไป ที่ รพ.ค่าย ของกาญจน์ มอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านไปเพี่อจะไปเที่ยวน้ำตก พาพ่ออุ้มลูกชายที่บอกว่าเจ็บหน้าอกซ้อนไปก่อน คนผู้หญิงมาช่วยอิฉันและลูกสาว ขึ็นปิคอัพที่มาช่วยตามไป ร.พ. ทีหลัง 

คนที่มาช่วยบอกว่าตอนเขาขับขึ้นเนินไป เห็นเหตุการณ์ตลอด เขาบอกว่าไม่อยากเชื่อว่าไม่มีคนเจ็บ (อิฉันเชื่อว่าเขาอยากใช้คำอื่นมากกว่านี้แน่ๆ) ตอนที่รถกลิ้งเข้าไปในที่นาเกือบ 100 ม. มีความรู้สึกว่ามันนานแสนนาน

ตัวเองเอามือดันหลังคารถกลัวมันยุบมาทับลูกเจ้าค่ะ (ช่างคิดเนอะ) ทุกคนไม่มีใครเลือดตกยางออก อยู่ในสภาพปกติ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณเดือนนี้แหละเจ้า ช่วงฉัตรมงคล อุตส่าห์เล่ามาเสียยาว คือจะบอกว่าที่แปลก คือก่อนเกิดเหตุ

เพื่อนๆที่ทำงานไปหาอาจารย์นั่งทางใน อิฉันติดรถไปเพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ทุกคนก็ดูกันหมด พี่ที่ไปเขาก็ถามว่าอิฉันไม่ดูหรือ เอาก็เอา อ. ก็ให้จุดธูปไหว้พระ หลับตา ทำจิตให้นิ่ง  สักครู่ พอลืมตา ท่านก็ถอนใจเฮือก บอกว่าเอาละผมจะช่วย

ตอนนั้นจำได้ว่าใกล้วันมาฆบูชา ท่านบอกให้ดิฉันถือศีล 5 ไม่แน่ใจว่าให้กินเจด้วยป่าว ตอนกลางคืนให้สวดมนตร์ก็ธรรมดาไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ให้ดิฉันเอาน้ำใส่ถ้วยแก้วใบเล็ก สวดมนตร์จบก่อนวางให้หมุน 3 รอบ แล้ววางบนหิ้งพระ ตอนเช้าให้เอาน้ำในแก้วนี้ล้างหน้าให้ทำตลอดทั้ง 7 วัน  ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน รุ่นน้องก็มาทักว่าพี่มีเหรียญ ร. 5 รุ่นนี้ด้วยหรือ เขาหากันนะ เหตุบังเอิญหรือไม่ดิฉันก็ไม่ทราบว่ามันเกี่ยวพันกันไหม ถามว่าเชื่อไหม จะตอบว่าไม่ก็คงโกหก แต่คิดตลอดว่านับเป็นโชคดีของเรา การถือศีล สวดมนตร์ช่วยเราจริงหรือ ก็ตอบตามตรงว่าไม่ทราบ รู้เพียงว่าอย่างน้อยๆ อาจารย์ก็แนะนำเราให้ทำสิ่งดีๆในชีวิต และที่ไปก็ไม่ได้มีการเสียเงินทอง เป็นค่าบูชาครู แต่อย่างใด

ผู้ที่เราเรียกว่าอาจารย์เอง ก็ทำงานอยู่ บ. ที่ใหญ่โตพอควร ทุกวันนี้บางทีก็เจอท่านค่ะ เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน แต่อิฉันก็ไม่ค่อยได้ไปรบกวนท่าน เพราะจากวันนั้นทำให้ดิฉันพยายามรักษาศีลมาตลอด ก็เอามาเล่าให้คุณ Wat ฟังแหละค่ะ

เพราะจะว่าไป บางทีสิ่งที่เหนือธรรมชาติก็มีมาให้ประสบ แต่ดิฉันก็คงประเภท ไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ลบหลู่ ก็คงเหมือนบางคนขี้เกียจไม่ยอมคลอด จนต้องขอพรพระ เกิดฟ้าผ่า ถึงออกมาได้กระมังเจ้าคะ ช่วยกรุณาตอบที่ดิฉันถามข้างต้นด้วยนะเจ้าคะ

อ่านเพลินเดี๋ยวลืมตอบ

 

ป.ล. ความจริงเรื่องนี้น่าไปอยู่ในกระทู้เรื่องเขย่าขวัญมากกว่านะเจ้าคะ  :P


Edited by lazylemon, 1 May 2013 - 21:36.


#1026 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 1 May 2013 - 21:45

เปิดเพลงเบาสบายสำหรับวันนี้

 



#1027 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 1 May 2013 - 21:52

เพลงนี้ร้องโดยศิลปินหลายคน แต่ขอเลือกเปิดของ George Michael ชอบเสียงเขามากมาย

 



#1028 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 1 May 2013 - 22:18

สวัสดีเจ้าค่ะ ได้พักมาพอควร เพราะวันนี้ออกจากบ้าน 8 โมงไปหาหมอที่ศิริราช ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ปีหน้าค่อยไปใหม่ พลขับก็ไปบริจาคเลือด กรุ๊ปเขาเป็นกรุ๊ปหายาก AB  แล้วก็ทานข้าว แล้วไปต่อที่โบ๊เบ๊ หาซื้อชุดขาวเจ้าค่ะ จอดรถไกล เดินหอบแฮก กว่าจะถึงบ้าน 4 โมงเย็น อาบน้ำแล้วก็หลับไปเลย ตื่นมาทุ่มกว่าแล้ว อาบน้ำอีกรอบ

 

สิ่งที่คุณวัตรกล่าวถึงเรื่องที่อิฉันเล่านั้น ที่ว่าเป็นอนิจจังคืออย่างไรเจ้าคะ  มิใช่จะเถียงนะเจ้าคะ ชีวิตที่ผ่านมา มีเรื่องราวหลายอิฉันและครอบครัว เราเคยเฉียดตายจากรถคว่ำ (ลูกสาวซึ่งตอนก่อนเกิด ขอพรจาก ร.5 ให้แคล้วคลาด ทุก 5 ปีจะต้องไปถวายผลไม้ 9 อย่าง) รถที่นั่งยับเยินพอควร ลูกสาวกระเด็นออกมาจากกระจกหลังทีแตกทั้งบาน ออกมายืนอยู่ใต้ต้นไม้ อีก 3 ชีวิตติดในรถ ก็รีบคลานกันออกมา เพราะกลัวระเบิด มีคนที่เขาขับรถกำลังขึ้นไปบนหมู่บ้าน(อยู่ที่สูง) ลงมาช่วยพาไป ที่ รพ.ค่าย ของกาญจน์ มอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านไปเพี่อจะไปเที่ยวน้ำตก พาพ่ออุ้มลูกชายที่บอกว่าเจ็บหน้าอกซ้อนไปก่อน คนผู้หญิงมาช่วยอิฉันและลูกสาว ขึ็นปิคอัพที่มาช่วยตามไป ร.พ. ทีหลัง 

คนที่มาช่วยบอกว่าตอนเขาขับขึ้นเนินไป เห็นเหตุการณ์ตลอด เขาบอกว่าไม่อยากเชื่อว่าไม่มีคนเจ็บ (อิฉันเชื่อว่าเขาอยากใช้คำอื่นมากกว่านี้แน่ๆ) ตอนที่รถกลิ้งเข้าไปในที่นาเกือบ 100 ม. มีความรู้สึกว่ามันนานแสนนาน

ตัวเองเอามือดันหลังคารถกลัวมันยุบมาทับลูกเจ้าค่ะ (ช่างคิดเนอะ) ทุกคนไม่มีใครเลือดตกยางออก อยู่ในสภาพปกติ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณเดือนนี้แหละเจ้า ช่วงฉัตรมงคล อุตส่าห์เล่ามาเสียยาว คือจะบอกว่าที่แปลก คือก่อนเกิดเหตุ

เพื่อนๆที่ทำงานไปหาอาจารย์นั่งทางใน อิฉันติดรถไปเพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ทุกคนก็ดูกันหมด พี่ที่ไปเขาก็ถามว่าอิฉันไม่ดูหรือ เอาก็เอา อ. ก็ให้จุดธูปไหว้พระ หลับตา ทำจิตให้นิ่ง  สักครู่ พอลืมตา ท่านก็ถอนใจเฮือก บอกว่าเอาละผมจะช่วย

ตอนนั้นจำได้ว่าใกล้วันมาฆบูชา ท่านบอกให้ดิฉันถือศีล 5 ไม่แน่ใจว่าให้กินเจด้วยป่าว ตอนกลางคืนให้สวดมนตร์ก็ธรรมดาไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ให้ดิฉันเอาน้ำใส่ถ้วยแก้วใบเล็ก สวดมนตร์จบก่อนวางให้หมุน 3 รอบ แล้ววางบนหิ้งพระ ตอนเช้าให้เอาน้ำในแก้วนี้ล้างหน้าให้ทำตลอดทั้ง 7 วัน  ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน รุ่นน้องก็มาทักว่าพี่มีเหรียญ ร. 5 รุ่นนี้ด้วยหรือ เขาหากันนะ เหตุบังเอิญหรือไม่ดิฉันก็ไม่ทราบว่ามันเกี่ยวพันกันไหม ถามว่าเชื่อไหม จะตอบว่าไม่ก็คงโกหก แต่คิดตลอดว่านับเป็นโชคดีของเรา การถือศีล สวดมนตร์ช่วยเราจริงหรือ ก็ตอบตามตรงว่าไม่ทราบ รู้เพียงว่าอย่างน้อยๆ อาจารย์ก็แนะนำเราให้ทำสิ่งดีๆในชีวิต และที่ไปก็ไม่ได้มีการเสียเงินทอง เป็นค่าบูชาครู แต่อย่างใด

ผู้ที่เราเรียกว่าอาจารย์เอง ก็ทำงานอยู่ บ. ที่ใหญ่โตพอควร ทุกวันนี้บางทีก็เจอท่านค่ะ เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน แต่อิฉันก็ไม่ค่อยได้ไปรบกวนท่าน เพราะจากวันนั้นทำให้ดิฉันพยายามรักษาศีลมาตลอด ก็เอามาเล่าให้คุณ Wat ฟังแหละค่ะ

เพราะจะว่าไป บางทีสิ่งที่เหนือธรรมชาติก็มีมาให้ประสบ แต่ดิฉันก็คงประเภท ไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ลบหลู่ ก็คงเหมือนบางคนขี้เกียจไม่ยอมคลอด จนต้องขอพรพระ เกิดฟ้าผ่า ถึงออกมาได้กระมังเจ้าคะ ช่วยกรุณาตอบที่ดิฉันถามข้างต้นด้วยนะเจ้าคะ

อ่านเพลินเดี๋ยวลืมตอบ

 

ป.ล. ความจริงเรื่องนี้น่าไปอยู่ในกระทู้เรื่องเขย่าขวัญมากกว่านะเจ้าคะ  :P

 

:D  

 

Bhudda Watjana (35).jpg
 
... พระตถาคตตรัสเรื่องประหลาด มหัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์ต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกนี้นั้น... มีมากมายขอรับ... มีผู้ทำได้มาแต่ก่อนพระองค์จะอุบัติขึ้นมาอีกด้วยซ้ำ... แต่ก็ตายเรียบ... จะเป็นเหตุที่คิดไปเอง หรือเกิดขึ้นจริงก็สุดจะคาดคะเน เพราะผู้ที่รู้ได้อย่างแท้จริงก็ไม่มีอยู่ในโลกนี้แล้ว... แต่ความเชื่อต่างๆก็เหมือนดังพุทธพจน์ที่แนบมาด้วย ณ โพสนี้นั่นแหละขอรับ...
 
... พระตถาคตกล่าวว่า นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษม นั่นไม่ใช่สรณะที่แท้จริงของเรา เพราะทุกอย่างนั้นมีเกิดย่อมมีดับไป... แต่จะดับเมื่อใด ไม่มีใครบอกได้ขอรับ... ที่พึ่งอันเกษมของเรานั่นก็คือ... ตนเอง และธรรมของพระตถาคต... สิ่งที่อยู่ในกายยาวประมาณวาหนึ่งนี้นั่นแหละ... คือทางออกจากทุกสรรพสิ่ง... 
 
:rolleyes:  แต่ก่อนกระพ๊มก็เพียบแหละขอรับ ด้วยความเป็นช่างต้องบูชาพระพิเคณศ เกิดไปได้ภาพสามมิติมาใหม่ เอาไปใส่กรอบ (กรอบแพงกว่าภาพอีก) ตั้งโต๊ะแยกบูชาต่างหาก วันแรกจุดธูปกล่าวบูชาเสร็จกลับมาห้องตัวเอง นั่นเล่นคอมอยู่ดีๆ หางตาทางขวาก็เห็นเหมือนหนูตัวใหญ่มากวิ่งเข้ามาจะชนเท้า... ตกใจมากยกเท้าหนี ตั้งสติได้หาใหญ่มาได้ไงฟ๊ะ... ส่องไปรอบห้อง มุดไปดูใต้ฝ้าก็ไม่มี... นั่ง งง เป็นไก่ตาแตก... อะไรวะ???? เบียร์ก็ยังไม่เปิดกินสักอึก...
 
... แต่พอมาเจอบทพยัญชนะอันเป็น "อนุสาสนีปาฏิหารย์" ของพระตถาคต ที่พระตถาคตกล่าวสรรเสริญว่าเป็นปาฏิหารย์ที่พระองค์เองอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่าเหาะเหิรเดินอากาศใดๆเสียอีก... กระพ๊ม "ละ" ทุกสิ่งที่มี ที่ทำมาโดยทันที ทุกวันนี้ไม่เคยจุดธูปไหว้พระ สวดสัชชายะก็แต่บทสรรเสริญพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บทเดียวก่อนออกจากบ้าน ไม่ต้องมาคอยระแวงดอกไม้เหี่ยวต้องคอยเปลี่ยน คอยจัดถวายเป็นประจำ รูปพระพิคเณศนั่นก็... อยู่ตรงนั้นแหละสวยดีแล้ว รื้อออกมาที่มันก็โบ๋ๆๆ ไม่สวย เลยปล่อยไว้งั้น... แต่ก็ไม่เคยกราบเช้ากราบเย็น... โอมมมมมม มะเมีย มะแม มะหมา สี่ขาโฮ่งๆ อะไรอีกเลย... ก็ไม่เห็นเป็นอะไร... กลับใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ยุ่งยากซับซ้อนซ่อนเงื่อน ต้องคิดต้องระแวงระวังกับ "สิ่งที่มองไม่เห็น" แต่เชื่อว่า "ศักดิ์สิทธิ์" อะไรอีกเลยขอรับ...
 
^_^  คงเป็นด้วย "อนุสาสนีปาฏิหารย์" ของพระตถาคตจริงๆนั่นแลขอรับ... อกุศลต่างๆที่ชอบกระทำเป็นนิสัยก็ค่อยๆละเลิกไปๆ... มันไม่อยากไปเอง หรือจิตมันแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นได้ ทำให้ชนะใจตนเองได้ละได้หลายอย่างขอรับ... 

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1029 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 1 May 2013 - 22:27

:)  ต่ออีกนิด... ก็ตามที่แถลงในทู้ต้นๆเกี่ยวกับกรรม เกี่ยวกับสังสารวัฏทั้งหลายนั่นแหละขอรับ ถ้าเชื่อในหลักของพระตถาคต ศึกษาแล้วน้อมนำมาพินิจพิจารณาด้วยเหตุและผล จะเห็นเองว่าธรรมของพระองค์ผู้รู้จริงเกี่ยวกับโลกนี้ยิ่งกว่านักวิทยาศาสตร์อันดับต้นๆของโลกนี้ที่เคยมีมาทั้งนั้น ธรรมของพระองค์เป็นเหตุเป็นผลในตัวเองขอรับ ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล คนที่ลุ่มหลงงมงายจะมองไม่เห็นธรรม (ความจริง) นี้ ไม่เห็นสัจจะความจริงของพระตถาคต แต่ถ้าเปิดใจน้อมรับคำพระองค์ไปปฏิบัติ... จะได้เห็นเอง (ปัจจัตตัง) ขอรับ...

 

^_^  คำตอบของกระพ๊มที่ว่าเป็นอนิจจังนั้นเป็นยังไง... ก็ตามนี้แลขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1030 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 1 May 2013 - 22:29

วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกครับ

มาตามนัด แต่สายไปหน่อย เพราะเพิ่งกลับจากบ้านแม่

 

มาสายดีกว่าไม่มา ครับ


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1031 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 1 May 2013 - 22:29

 "อนุสาสนีปาฏิหารย์" ของพระตถาคต

คืออะไรเจ้าคะ

 

ป.ล. รูปประกอบชัดเจนมากเลยเจ้าค่ะในความหมาย


Edited by lazylemon, 1 May 2013 - 22:30.


#1032 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 1 May 2013 - 22:36

 "อนุสาสนีปาฏิหารย์" ของพระตถาคต

คืออะไรเจ้าคะ

 

ป.ล. รูปประกอบชัดเจนมากเลยเจ้าค่ะในความหมาย

 

:D  คือสิ่งที่ทำให้องคุลีมารวางดาบได้ ทำให้ปริพาชกผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายก้มกราบแทบพระบาทขอบวชกับพระองค์ได้ ทำให้คนผู้หลงผิดมาตลอดสังสารวัฏอันยาวไกลนี้ เมื่อได้เงี่ยโสตสดับรับฟังแล้ว น้อมปฏิบัติตามให้รู้แจ้งก็หลุดพ้นได้... ก็คือธรรมอันเป็นวัจนจากปากของพระองค์นั่นแลขอรับ... อยู่ให้ผลมาได้สองพันกว่าปีแล้วกับผู้ประพฤติปฏิบัติ โดยไม่ผิดเพี้ยนจากปากพระองค์แม้แต่เรื่องเดียว คนสองพันกว่าปีที่แล้วคิดยังไง ทำยังไง สองพันปีต่อมาธรรมของพระองค์ก็ให้ผลได้เหมือนเดิมทุกประการ... ปาฏิหารย์มั้ยล่ะขอรับ


Edited by wat, 1 May 2013 - 22:37.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1033 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 1 May 2013 - 22:43

ภารกิจที่มีต่อครอบครัวสำคัญกว่าค่ะ  หลายเหตุการณ์ที่เจอมาทำให้พี่รู้สึกว่าชีวิตของคนเราช่างบอบบางยิ่งนัก มีสิ่งใดที่เราสามารถทำได้เพื่อคนที่เรารัก และห่วงใย ก็ทำไปเมื่อยังมีโอกาสค่ะ (วันหลังจะเล่าให้ฟัง)

ฟังเพลงญี่ปุ่นบ้าง คุณนายหามาให้ ลองเปลี่ยนบรรยากาศดุูบ้าง ไม่ชอบไม่ว่ากัน  ลูกๆฟังเพลงต่างกัน แต่ก็ดีแล้วที่ชอบฟังเพบง เขาชอบอะไรก็มาเรียกพี่ไปฟัง ก็เป็นถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำอะไรด้วยกันบ้าง

 

 

 



#1034 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 1 May 2013 - 22:53

คุณ Wat ครับผมขอแสดงความเห็นเป็นข้อสังเกตุสักหน่อย

 

เนื่องจากธรรมะไม่สาธารณะ หมายความว่า ไม่ทุกคนที่จะใส่ใจ

และสนใจ ในหลักธรรม ส่วนใหญ่ ก็ปฎิบัติหรือเชื่อ ไปตามที่

เคยได้พบได้เห็น ได้เชื่อ และร้ายยิ่งไปกว่านันคือ คนไทย

จำนวนมากมาย ที่นับถือศาสนาพุทธ ตามบัตรประชาชนเท่านั้น

 

ที่ผมจะพูดคือ เรื่องนี้ เราต้องไปกันช้าหน่อยครับ

เพราะหลักธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และลึกซึ้งมากมาก

และ คนส่วนใหญ่ ก็ประมาท คิดว่า อ่านเพียงไม่กี่บรรทัดก็รู้

แล้ว เข้าถึงแล้ว

 

อาจต้องช้ากันหน่อย


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1035 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 1 May 2013 - 23:03

วันนี้ขอ แสดงความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับศาสนาพุทธที่เรานับถือกันอยู่อีกสัก หนึ่ง ment ครับ

แล้วค่อย ย้ายไปเข้าสู่ theme อื่นบ้าง

 

เริ่มจากการยอมรับก่อนว่าปุถุชน ยังขาดปัญญาที่จะเข้าถึงสิ่งสูงสุดในอุดมคติของศาสนาพุทธ

ยังคงอยู่ในวังวน แห่ง โลภ รัก เกลียด หลง  แม้ศีล 5 ก็ยังห่างไปบ้างเป็นบางครั้ง แต่นั้นก็ไม่ไช่เหตุกั้น

ความสนใจและการศึกษาธรรม  และไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเป็นคนดี เพียงเพราะสนใจธรรม

 

ธรรม  มาจากคำภาษาบาลี คือ ธมฺม  หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่มีจริง   ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงและทรงแสดงความจริงนั้นซึ่งเรียกว่าพระธรรมคำสอน  เพราะไม่ได้ศึกษาให้เข้าใจพระธรรมคำสอน จึงเข้าใจว่า ธรรมคือธรรมชาติ หรือบางคนคิดว่าธรรมหมายถึงเฉพาะสิ่งที่ดีงามเท่านั้น เป็นต้น

ถ้าพูดถึงธรรมชาติ บางคนอาจคิดถึงภูเขา ต้นไม้ น้ำทะเล ดาว แต่ถ้าพูดถึงธรรมแล้ว เป็นสิ่งซึ่งมีปัจจัยเกิดขึ้น  ปรากฏแล้วก็ดับไปเพราะฉะนั้น  ถ้าพูดถึงธรรมชาติ ก็จะต้องเข้าใจด้วยว่า ธรรมชาติในทางธรรมหรือ ธรรมชาติในทางโลก 

 

ธรรมชาติในทางธรรมก็คือ ธรรมหมายถึง ไม่ใช่ตัวตนสัตว์  บุคคล เป็นธรรมะ เป็นธาตุ ใช้คำว่า ธาตุ ก็ได้ หรือ ธรรมะ ก็ได้ ธรรมะเป็นสิ่งที่มีจริง  พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรม คือ ตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ 

 

สิ่งที่มีจริงๆ ก่อนการตรัสรู้ ไม่มีใครพบว่าเป็นธรรมะเพราะเห็นว่าเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นเรา เป็นเขา เป็นวัตถุสิ่งต่างๆ แต่เมื่อทรงตรัสรู้แล้ว  ตรัสรู้ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา หมายความว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์  บุคคล  ไม่ใช่วัตถุสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยง แต่ลักษณะของธรรมนั้น เป็นสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้  ซึ่งจะต้องค่อยๆไตร่ตรองตามลำดับ เช่น ขณะนี้อะไรจริง  กำลังเห็นมีจริงๆ สิ่งที่ปรากฏทางตามีจริงๆ เสียงมีจริงๆ จิตที่ได้ยินรู้เสียงนั้นมีจริงๆ ความสุขมีจริง ความทุกข์มีจริง  ลักษณะของแข็งมีจริง สภาพที่กำลังรู้แข็งมีจริง ทั้งหมดนี้เป็นธรรม  เพราะฉะนั้น  ก็จะต้องศึกษาให้ทราบว่าที่เคยยึดถือว่าเป็นเรา แต่ถ้าไม่มีตัวธรรมะที่เกิดขึ้นปรากฏ  เราก็ไม่มี  แต่เมื่อมีเหตุปัจจัยที่จะทำให้สภาพธรรมหนึ่งสภาพธรรมใด เกิดขึ้น เพราะความไม่รู้   ก็เลยถือว่าสิ่งที่เกิดนั้นเป็นเราหรือว่าเป็นของเรา เช่น รูปตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า  มีเหตุปัจจัยปรุงแต่งเกิดขึ้น  แต่เพราะความไม่รู้ก็ยึดถือรูปนั้นว่าเป็นเรา แม้แต่สภาพของจิตใจ หรือความรู้สึกเป็นสุข  เป็นทุกข์ ก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แต่เมื่อไม่รู้ก็ยึดถือสภาพธรรมนั้นๆว่า เป็นเรา  เพราะฉะนั้นจากการที่เคยเป็นเราทั้งหมด ความรู้โดยการศึกษา จะทำให้เข้าใจว่า  เป็นสภาพธรรมแต่ละชนิด ซึ่งมีจริงๆ ที่มีจริงๆเพราะว่าเกิดขึ้นปรากฏ  ถ้าไม่เกิดปรากฏ ก็ไม่มีใครสามารถจะไปรู้ ไปเห็นไปเข้าใจได้  แต่เพราะว่าในขณะนี้เองสิ่งที่ปรากฏเป็นสิ่งที่มีจริงและเกิดขึ้นแล้วจึงปรากฏ และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ตรงกับไตรลักษณะที่ว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ สภาพธรรมใดที่มีปัจจัยเกิดขึ้น สภาพธรรมนั้นเกิดแล้วดับไป  ไม่เที่ยง  เป็นอนัตตา

 

นี้เราก็เข้ามาสู่หัวใจของศาสนพุทธครับ เพราะอนัตตาเป็นเรื่องเดียวที่เป็นแกนกลางของพุทธศาสนา รายละเอียดปลีกย่อยอีน

อาจไปตรงหรือไม่ตรงกับศาสนาอื่น หรือความเชื่ออื่นได้โดยบังเอิญ แต่เรื่องอนัตตา ไม่มีปรากฎอยู่ในลัทธิอื่นศาสนาอื่นเลย

และเป็นคำตอบสุดท้ายของพุทธศาสนาที่ว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1036 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 1 May 2013 - 23:24

ไม่ต้องทำสิ่งใดให้ผิดปกติ

แม้พระโสดาบันยังร้องไห้

เพราะตัดกิเลศยังไม่สิ้น

 

หากเหตุุพร้อม ผลก็ย่อมได้

หากสะสมมาดี ผลก็ย่อมดี

 

ค่อยค่อยสะสมความเห็นถูก ความเข้าใจถูกไป

เรายังต้องอยู่ในสังสารวัฎ อีกยาวนานนัก

หาเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้

 

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1037 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 1 May 2013 - 23:28

หากไม่เปิดเพลงบ้าง เดี่ยวจะหาว่า เครียดกันเกินไป

 

ในฐานะคนที่ยังตัดกิเลศไม่สิ้น

ขอเปิดเพลงสักเพลงครับ

 


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1038 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 1 May 2013 - 23:32

คุณจักร์เจอสิ่งถูกใจแล้วอะดิ ไปกันเรื่อยๆค่ะ เพราะพี่ยังไม่ค่อยเข้าใจ และออกจะเป็นคนที่เข้าใจหรือรับอะไรยาก จนกว่าจะแน่ใจ 

สำหรับตัวพี่เอง รู้ตัวว่ายังยึดติดกับบางอย่าง เหมือนยังมีอะไรที่ยังผูกพันไว้ บอกไม่ถูก เหมือนที่คุณจักร์เคยแหย่พี่ว่ามีกี่ senses

บางสิ่งที่มีอยู่ในตัว เหมือนอย่างที่เล่าเหตุการณ์ไป ในศาสนาจะบอกว่าไม่มีจริง แต่บางอย่างที่เกิดก็ปฏิเสธไม่ได้ พี่เพียงแค่รับรู้ แต่ไม่ได้ยึดติด

 

พี่เคยฝันซ้ำๆถึงแพไม้ริมน้ำ ตลาดขายของ   กำแพงสูงที่มีพระพุทธรุปตั้งอยู่เรียงราย  ฝันจะเป็นภาพเดิมตลอดไม่เคยเปลี่ยน 

เมื่อปีที่แล้วคุณนายชวนไปเที่ยวอัมพวา ไปค้างจะได้ดูหิ่งห้อย และพักค้างคืนจะได้ไม่เหนื่อยมาก ก็ไปกันตามโปรแกรมที่เธอจัดก็มีพาไปวัดทั้งไทย ทั้งคริสต์

ก็เข้าไปในเมือง ไปยังที่จอดซึ่งอยู่หน้าวัด  พอเดินผ่านหน้าวัด พี่บอกว่าแวะวัดนี้หน่อยเถอะ ทางเข้าเป็นทางแคบพื้นเป็นไม้ทั้งหมดอยู่ริมน้ำ เดินเข้าไปก็เป็นพระพุทธรูปประจำวัด ก็เข้าไปไหว้ตามธรรมเนียม

หันกลับมาเป็นโต๊ะตั้งให้เขียนชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด โดยมีสีตามวันเกิด ทางวัดเขียนว่าจะนำชื่อทั้งหลายนี้ไปทำบุญปีละครั้ง คุณจักร์ วันนั้นคือวันเกิดพี่  ถัดไปเป็นกำแพงกั้นสูงประมาณไม่เกิน 2 ม.

ตรงนั้นมีพระพุทธรูปหลายองค์ วางเรียงเป็นแถว  พอไหว้พระเสร็จก็เดินไปตามทางไปดูตลาดขายของ ที่มีขบวนรถไฟวิ่งผ่ากลาง ของก็ขายทั้ง 2 ฝั่ง กลับเข้าที่พัก ตอนเย็นออกมาใหม่หาอาหารทาน

ถ้าคุณเคยไปก็จะรู้ว่าร้านอาหารตั้งอยู่ริมน้ำ มีทางเดินยื่นออกไป ทานเสร็จก็นั่งเรือไปดูหิ่งห้อย น่ากลัวเล็กๆตรงที่ไปดูมันจะมืดเพื่อจะได้เห็นแสง พี่เคยเล่าให้ฟังทีนึงแล้วว่าพยายามจำกัดสายตาให้อยู่แค่แสงหิ่งห้อย 

กลัวเจออะไรวาวๆอ้ะ  และนับแต่กลับมาจากที่ไปอัมพวา พี่ไม่เคยฝันเกี่ยวกับเรืองนั้นอีกเลย พี่ไม่ได้คิดว่าตัวเองหยั่งรู้อะไร  คิดเพียงว่าบางอย่างอยากให้เราไป และเราก็ได้ไปไหว้พระ ทำสิ่งดีๆ สนุกกับครอบครัว

ไม่พยายามหาคำตอบใดๆ ที่อาจหาไม่เจอก็ปล่อยไปจริงๆ  พิมพ์เหนื่อยแระ ฟังเพลงคุณจักร์ก่อง แล้วเดี๋ยวพี่ค่อยหาเพลงเปิดต่อ


Edited by lazylemon, 2 May 2013 - 00:00.


#1039 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 1 May 2013 - 23:37

พี่มะนาวครับ เรื่องที่พี่มะนาวพูดนี้ ไม่ได้เป็นสิ่งผิดปกติอะไรเลย

 

ผู้ที่สิ้นสงสัยแล้ว ต้องเป็นชั้น โสดาบัน ครับ

 

พี่มะนาวสงสัยนั้นถูกแล้ว เพราะไม่งั้น จะกลายเป็นผมคุยกับ พระโสดาบัน  


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1040 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 1 May 2013 - 23:40

เธอรอฉันอยู่ ณ ที่ใด สักวันฉันจะไปหาเธอ

 



#1041 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 1 May 2013 - 23:43

ผมรีบกด like เลยครับ สำหรับเพลงนี้

และชอบเสียง Josh Groban มาก


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1042 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 1 May 2013 - 23:46

เธอรอฉันอยู่ ณ ที่ใด สักวันฉันจะไปหาเธอ

ชายหนุ่มคนนั้น ช่างโชคดีเหลือเกิน

ที่ดาวจรัสแสง แห่ง ม.ธ เพ้อหาเลยทีเดียว

 

บอกตามตรง อิจฉาครับ


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1043 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 1 May 2013 - 23:48

วันนี้พี่ว่าคงเป็นเพลงก่อนปิดบ้าน เพราะคุณจักร์ คงจะเหนื่อยกับการเดินทาง พักก่อนเพื่อพลังที่จะสู่ต่อไปในวันพรุ่งนี้

อยากบอกว่า สำหรับพี่จะบอกตัวเองเสมอว่า วันพรุ่งนี้ จะดีกว่าวันนี้  เป็นการสอนตัวเองหลังจากที่ไปผ่าตัดนอน ร.พ. 1 สัปดาห์ อิอิ และจะบอกแก่คุณจักร์ด้วยเช่นกัน

 



#1044 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 1 May 2013 - 23:52

แหมแค่อยากเขียนไรๆ ที่มันซึ้งๆ ตามชื่อเพลงจ้ะ



#1045 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

Posted 1 May 2013 - 23:55

แหมแค่อยากเขียนไรๆ ที่มันซึ้งๆ ตามชื่อเพลงจ้ะ

งั้นขอลาด้วยเสียงเพลงจาก ศิลปิน ที่พี่มะนาวชื่นชอบครับ

 

สวัสดีครับ


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#1046 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 2 May 2013 - 09:13

:D  ตอบรวมๆเลยแล้วกันขอรับ...

 

1. ก็ไม่ได้รีบไปไหน แค่ถามมาก็ตอบไป... เชื่อหรือไม่ก็ "ปัจจัตตัง" แต่กระพ๊มเรียนรู้ได้เช่นนี้ก็บอกอย่างนี้... อินทรีย์บารมีทุกคนไม่เหมือนกัน เกิดมาจากกรรมต่างกัน เรียนรู้มาต่างกัน คิดต่างกัน พบเจออุปสรรคขวากหนามชีวิตมาไม่เหมือนกัน จึงรู้และเชื่อในเรื่อง "ทุกข์" ไม่เหมือนกัน... ธรรมจากสิ่งที่พระตถาคตตรัสรู้คือ "อริยสัจ 4" จึงต้องแตกแขนงมาให้มากมายเพื่อครอบคลุมอินทรีย์บารมีของมนุษย์, เทวดา แต่สุดท้ายทั้งหมดทั้งมวลก็คือ อริยสัจ 4 นั่นเอง... เปรียบง่ายๆขอรับ คนบางคนบอก 2x100=200 เข้าใจ... บางคนต้องบอกเอา 2 มาเรียงกัน 100 ตัวนะ แล้วนับๆๆๆรวมกันจึงจะได้ 200... ก็อย่างที่บอกขอรับ ถามมาตอบได้ก็ตอบ ถามกลับไปก็แค่อยากทราบมีความเข้าใจเหมือนกันหรือเปล่า ไม่เหมือน เพราะอะไร?... นั่นก็คือเหตุผลของแต่ละคนขอรับ... สิ่งนี้มันละเอียดอ่อนทางความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คุยกับคนคิดไม่เหมือนกันมันก็จะพาไปแบบเสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อสลิ่มไปโน่น จริงๆก็ไม่ได้อยากประกาศศักดาความรู้, ความคิดตัวเองกับใครเท่าไหร่ แต่ถ้าสนใจถามมา... ก็ตอบไปตามความเห็นกระพ๊มก็แค่นั้น...

 

2. โสดาบันเท่าที่คณะทีมงานพระอาจารย์สืบค้นมาตอนนี้มี 54 นัยยะขอรับ... 1 ใน 54 นัยยะนั้นคือ... มั่นคงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะหนึ่งเดียว (แตกแยกย่อยไปอีกนิดคือ "พุทธ" แบบไหน, "ธรรม" แบบไหน และ "สงฆ์" แบบไหนที่เรียกว่าได้ว่าเป็นสรณัง คฉามิ) ไม่มีเจ้าที่สรณัง คฉามิ, ศาลพระภูมิ สรณังคฉามิ, เทพแมวไส้กรอกอีสาน สรณังคฉามิ ฯลฯ แล้ว และพ้นจากภัยเวร 5 ประการ... คือศีล 5 นั่นเองขอรับ... โสดาบันคืออริยะขั้นแรกที่ยังเวียนกลับมาเกิดในภพมนุษย์ หรือเทวดาอีกไม่เกิน 7 ครั้งแล้วจะปรินิพพาน ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง มีจน รวย สุข ทุกข์ สมบูรณ์ พิการ ตามแต่กรรมเป็นผู้ให้กำเนิดมา เป็นฆราวาสอยู่ครองเรือนธรรมดาๆนี่ก็ได้ แค่ละสังโยชน์ได้ 3 ประการ ซึ่งเป็นอริยะขั้นแรกที่ปิดประตูกำเนิดนรก เดรั จฉาน เปรตวิสัยได้สนิท และไม่มีทางตกต่ำไปกว่านี้ได้อีกเลยขอรับ...

 

^_^ คิดว่ายากมั้ยล่ะขอรับ... เอิ๊กๆๆๆ


Edited by wat, 2 May 2013 - 09:15.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1047 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 2 May 2013 - 10:31

วันนี้ขอ แสดงความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับศาสนาพุทธที่เรานับถือกันอยู่อีกสัก หนึ่ง ment ครับ

แล้วค่อย ย้ายไปเข้าสู่ theme อื่นบ้าง

 

เริ่มจากการยอมรับก่อนว่าปุถุชน ยังขาดปัญญาที่จะเข้าถึงสิ่งสูงสุดในอุดมคติของศาสนาพุทธ

ยังคงอยู่ในวังวน แห่ง โลภ รัก เกลียด หลง  แม้ศีล 5 ก็ยังห่างไปบ้างเป็นบางครั้ง แต่นั้นก็ไม่ไช่เหตุกั้น

ความสนใจและการศึกษาธรรม  และไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเป็นคนดี เพียงเพราะสนใจธรรม

 

นี้เราก็เข้ามาสู่หัวใจของศาสนพุทธครับ เพราะอนัตตาเป็นเรื่องเดียวที่เป็นแกนกลางของพุทธศาสนา รายละเอียดปลีกย่อยอีน

อาจไปตรงหรือไม่ตรงกับศาสนาอื่น หรือความเชื่ออื่นได้โดยบังเอิญ แต่เรื่องอนัตตา ไม่มีปรากฎอยู่ในลัทธิอื่นศาสนาอื่นเลย

และเป็นคำตอบสุดท้ายของพุทธศาสนาที่ว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

 

^_^  พระตถาคตกล่าวเรื่อง "สังขตธรรม" กับ "อสังขตธรรม" อนัตตาเป็นลักษณะอย่างหนึ่งของสังขตธรรมคือ "เป็นตัวตนชั่วคราว" เพราะกำหนดเป็นอัตตาได้ต้องมีรูป เมื่อมีรูปย่อมมีเสื่อม เสื่อมเรื่อยๆแล้วจึงดับไปเป็นธรรมดา จึงเป็นลักษณะ "การเกิดขึ้นชั่วคราว" คืออนัตตาที่เรียกว่า "ไม่ใช่ตัวเรา ของเรา" ขอรับ... ส่วน "อสังขตธรรม" เกิดไม่ปรากฏ เสื่อมไม่ปรากฏ จึงไม่เข้าลักษณะของทั้งอัตตาและอนัตตา ซึ่งก็คือพระนิพพานนั่นเองขอรับ... นี่คือมุมมองจากทางผู้ค้นคว้าศึกษาทางพุทธวจนนะขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1048 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

Posted 2 May 2013 - 10:45

ขอเข้ามาตอบก่อนไปดูแลเด็กๆ  ก่อนอื่นขอบอกคุณ Wat นะคะว่าสิ่งที่อิฉันเล่าไปมิได้เพื่อการขัด หรือแย้ง ตรงข้ามดิฉันแค่สงสัย ว่าเพียงแค่ความฝันทำไมถึงนำเราไปสู่สถานที่ที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยไป

การที่ดิฉันถามคุณ นั้น เพราะต้องการรู้จริงๆ อยากศึกษาจากหลายๆคน(ที่อิฉันเชื่อว่าแตกฉาน) และจากที่ติดตามอ่านสิ่งที่คุณเขียนเกี่ยวกับศาสนามาตลอด คือคุณเข้าใจจริง เพราะบางทีคุณใช้ถ้อยคำง่ายที่จะอธิบายเพื่อให้ดิฉันเข้าใจ

บอกตรงๆว่าอ่านคำตอบข้างบน ไม่แน่ใจจริงๆว่าคุณ Wat คิดอย่างไร (อ่านอารมณ์ไม่ออก) และดิฉันยังไม่มีเวลาอ่านอย่างละเอียด

แต่ขอบอกคุณ Wat  ณ ตรงนี้ว่า ดิฉันตัดสินใจ และมีความตั้งใจ ที่จะศึกษาในหลักธรรม มิได้ทำไป เพื่ออะไรทั้งสิ้น การเล่าเรื่องที่ผ่านมาก็แค่อยากบอกในสิ่งที่ประสบมาและก็ไม่เข้าใจ

ทุกอย่างที่ถามคุณ Wat คือความอยากรู้จริง การทำให้คุณต้องมานั่งเสียเวลาตอบ ก็เป็นความกรุณาอย่างมากแล้ว 

อิฉันก็เป็นแบบนี้ละคะ สงสัยไปเรื่อย แต่ไม่ใช่แค่สงสัย ?????แล้วก็ผ่านไป ชอบที่จะมานั่งใคร่ครวญค่ะ และถ้าบังเอิญ ได้มาเจอผู้รู้ จึงยินดี 

อยากให้คุณ Wat เข้าใจในเจตนา ของอิฉัน หากเป็นการทำที่ทำให้คุณ Wat คิด ว่ายัยคนนี้เรื่องมากจริง ก็ขอน้อมรับแต่โดยดี ว่าเป็นคนอย่างนี้ แต่มิได้มีเจตนาที่จะล่วงเกินความคิดอ่าน และความรู้ของคุณ Wat อย่างเด็ดขาด

หากอิฉันทำไรไปที่ไม่ถูกไม่ควร ก็ขออภัย ณ ที่นี้ เพราะ ศาสนา การเมือง  ฟุตบอล เป็นข้อห้ามในการสนทนา เพราะอาจตีกันได้เจ้าค่ะ


  • wat likes this

#1049 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 2 May 2013 - 11:12

ขอเข้ามาตอบก่อนไปดูแลเด็กๆ  ก่อนอื่นขอบอกคุณ Wat นะคะว่าสิ่งที่อิฉันเล่าไปมิได้เพื่อการขัด หรือแย้ง ตรงข้ามดิฉันแค่สงสัย ว่าเพียงแค่ความฝันทำไมถึงนำเราไปสู่สถานที่ที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยไป

การที่ดิฉันถามคุณ นั้น เพราะต้องการรู้จริงๆ อยากศึกษาจากหลายๆคน(ที่อิฉันเชื่อว่าแตกฉาน) และจากที่ติดตามอ่านสิ่งที่คุณเขียนเกี่ยวกับศาสนามาตลอด คือคุณเข้าใจจริง เพราะบางทีคุณใช้ถ้อยคำง่ายที่จะอธิบายเพื่อให้ดิฉันเข้าใจ

บอกตรงๆว่าอ่านคำตอบข้างบน ไม่แน่ใจจริงๆว่าคุณ Wat คิดอย่างไร (อ่านอารมณ์ไม่ออก) และดิฉันยังไม่มีเวลาอ่านอย่างละเอียด

แต่ขอบอกคุณ Wat  ณ ตรงนี้ว่า ดิฉันตัดสินใจ และมีความตั้งใจ ที่จะศึกษาในหลักธรรม มิได้ทำไป เพื่ออะไรทั้งสิ้น การเล่าเรื่องที่ผ่านมาก็แค่อยากบอกในสิ่งที่ประสบมาและก็ไม่เข้าใจ

ทุกอย่างที่ถามคุณ Wat คือความอยากรู้จริง การทำให้คุณต้องมานั่งเสียเวลาตอบ ก็เป็นความกรุณาอย่างมากแล้ว 

อิฉันก็เป็นแบบนี้ละคะ สงสัยไปเรื่อย แต่ไม่ใช่แค่สงสัย ?????แล้วก็ผ่านไป ชอบที่จะมานั่งใคร่ครวญค่ะ และถ้าบังเอิญ ได้มาเจอผู้รู้ จึงยินดี 

อยากให้คุณ Wat เข้าใจในเจตนา ของอิฉัน หากเป็นการทำที่ทำให้คุณ Wat คิด ว่ายัยคนนี้เรื่องมากจริง ก็ขอน้อมรับแต่โดยดี ว่าเป็นคนอย่างนี้ แต่มิได้มีเจตนาที่จะล่วงเกินความคิดอ่าน และความรู้ของคุณ Wat อย่างเด็ดขาด

หากอิฉันทำไรไปที่ไม่ถูกไม่ควร ก็ขออภัย ณ ที่นี้ เพราะ ศาสนา การเมือง  ฟุตบอล เป็นข้อห้ามในการสนทนา เพราะอาจตีกันได้เจ้าค่ะ

 

^_^  ก็ตอบ ณ ที่นี้แทนทุกคำตอบเรื่องนี้กับผู้อื่น ผู้ใดด้วยเลยขอรับ... กระพ๊มปราศจากอคติใดๆกับคำตอบของทุกๆท่านที่ตอบกระพ๊ม หรือสนทนากับกระพ๊มเรื่องนี้ขอรับ อย่างที่บอกแค่หากเห็นว่าแนวความคิดกระพ๊มมันเกิดความแตกต่างทางความเชื่อ... หากไม่มารุกรานความเชื่อกระพ๊ม กระพ๊มก็ถอยขอรับ... เพราะอย่างที่กล่าวนั่นแหละ... มันละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกคนเรา... ไม่เหมือนกัน... หากต้องการทราบจริงๆ ว่ากระพ๊มศึกษาปฏิบัติ หรือเรียกว่าปฏิปทากระพ๊มทำอย่างไร... ก็ตามที่กล่าวมาให้ฟังทั้งหมด หรือตามที่ถามมากระพ๊มก็ตอบไปทั้งหมดนั่นแล ถามตัวเองว่าอยากประกาศคำพระตถาคตออกไปมั้ย? อยากให้คนทุกคนได้รู้ และปฏิบัติตามแนวทางที่ปฏิบัติอยู่มั้ย? ก็อยากทำทั้งนั้นแหละขอรับ  แต่สิ่งนี้ได้เห็นมาตั้งแต่พระอาจารย์กระพ๊มได้ประสบมาถึง "แรงต่อต้าน" จากกลุ่มอื่นๆที่ค่อนข้างจะรุนแรงในแนวความคิด... แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครคัดง้างได้... เพราะนั่นเป็นปฏิปทาของพระตถาคตจริง มีหลักฐานอยู่จริงในพระไตรปิฎกเล่มเดียวกันที่ทุกสำนักศึกษา... แต่สำนักต่างๆก็ยังเลือกจะเชื่อตามแนวทางเดิม จะด้วยมิจฉาทิฐฐิ หรืออามิสสินทรัพย์ที่รับมา, ได้มา ก็หาทราบได้ขอรับ... กระพ๊มจึงต้องออกตัวไว้ก่อน มิใช่รำคาญ หรืออคติใดๆต่อคำตอบ คำถามต่างๆที่มีมาขอรับ...ยินดีเสียด้วยซ้ำที่มีคนถาม แล้วได้ประกาศคำตถาคตจริงๆนั้นออกไป... ในส่วนบอกไปแล้ว จะเชื่อหรือไม่? มันเป็น "ปัจจัตตัง" รู้ได้เฉพาะตนขอรับ... กระพ๊มก็ไม่ได้คาดคั้น คาดหมายว่าท่าน หรือใครๆที่กระพ๊มนำคำพระตถาคตประกาศออกไปแล้วจะต้องเชื่อชั้น อย่าหลงไปเชื่อใคร ชั้นดีและห่วงใย ของแท้และแน่จริง... <_<  ชักไปเพลงพี่แจว๊แล้ววุ๊ย...

 

:D  ยินดีเสมอถ้าจะถามขอรับ ก็เหมือนเดิมตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็บอกไม่รู้ รู้มาอย่างไรก็บอกอย่างนั้นขอรับ ส่วนสดับรับฟังไปแล้ว... อันนี้กระพ๊มไม่ทราบแล้วขอรับว่าคิดกันยังไง แต่กระพ๊มเชื่อว่าได้ประกาศ "สิ่งที่ถูกต้อง ตรงจริง" จากปากพระตถาคตไปแล้ว หรือตอบอยู่ในพื้นฐานหลักธรรมจากปากพระตถาคตที่กล่าวออกมา... กระพ๊มไม่ได้ตอบจากสิ่งที่คิด หรือปรุงแต่งเอาเองมาบอกกล่าวในเรื่องนี้เท่านั้นขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#1050 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 2 May 2013 - 11:31

ขอเข้ามาตอบก่อนไปดูแลเด็กๆ  ก่อนอื่นขอบอกคุณ Wat นะคะว่าสิ่งที่อิฉันเล่าไปมิได้เพื่อการขัด หรือแย้ง ตรงข้ามดิฉันแค่สงสัย ว่าเพียงแค่ความฝันทำไมถึงนำเราไปสู่สถานที่ที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยไป

การที่ดิฉันถามคุณ นั้น เพราะต้องการรู้จริงๆ อยากศึกษาจากหลายๆคน(ที่อิฉันเชื่อว่าแตกฉาน) และจากที่ติดตามอ่านสิ่งที่คุณเขียนเกี่ยวกับศาสนามาตลอด คือคุณเข้าใจจริง เพราะบางทีคุณใช้ถ้อยคำง่ายที่จะอธิบายเพื่อให้ดิฉันเข้าใจ

 

^_^  พระตถาคตกล่าวว่า "จิต มโน วิญญาณ" คือสิ่งเดียวกันขอรับ... ที่มีอยู่เป็นธรรมชาติ มีการเกิด ดับอยู่ตลอดเวลา เปรียบเหมือนฟองน้ำในมหาสมุทรที่เกิดขึ้นเวลาฝนตกลงไป (จินตนาการวิญญาณตามคำสอนพระตถาคตก็เปรียบง่ายๆ เหมือนวิทยาศาสตร์อธิบายเรื่องแสงไฟที่เกิดจาก "คลื่นความถี่" ที่กระพริบอยู่ตลอดเวลาแต่เร็วมากจนเรามองไม่เห็นว่ามันกระพริบอยู่นั่นแหละขอรับ)... จิตนั้นเปรียบได้ดั่งลิง ที่โดดจับกิ่งไม้ต้น ไปต้นนี้ ไป ยังอีกต้นนั้น... อยู่ตลอดเวลา... คือความไม่อยู่นิ่งของธาตุรู้ ที่เมื่อไปขันธ์ทั้งสี่ไปจับ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร) จึงเกิดการรับรู้ สัมผัสเกิดขึ้นขอรับ... ความฝันนั่นก็คือจิตกำลังทำงานอยู่ดังกล่าวข้างต้นนั่นเองขอรับ ขณะที่หลับสำหรับคนที่ไม่เคยฝึกนั่งสมาธิ จิตก็จะยังวนเวียนอยู่กับขันธ์ทั้ง4 นั่นอยู่ตลอดเวลา ไปจับกับสัญญา (ความจำได้ หมายรู้) ก็เหมือนจะฝันถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมา ซ้ำๆวนเวียนไปเรื่อยๆ...

 

... หากฝึกทำสติปัฐฐานแล้ว ทำอานาปานสติให้บ่อยๆ จะเห็นเองขอรับว่าฝันจะลดลง และแทบจะไม่ฝันอีกเลย... ส่วนฝันแบบเป็นนิมิตอะไรนั่น ตอบไม่ได้ขอรับว่าใช่หรือไม่ เพราะอย่างที่เคยบอก... มันเป็นอนิจจัง...

 

:D  กระพ๊มทุกวันนี้หัวถึงหมอน พลิกสามรอบพอสุกทั่วๆก็สนิท พอเช้ามาเริ่มฝันโน่น ฝันนี่ก็รู้ตัวแล้วว่าตื่นแล้ว เพราะรับรู้ว่าจิตมันเริ่มทำงาน... อยู่ที่อยากจะลุกหรือนอนต่อไปเรื่อยเพราะแส๊นสุขขอรับ...


Edited by wat, 2 May 2013 - 11:57.

:) Sometime...Sun shine through the rain...




7 user(s) are reading this topic

0 members, 7 guests, 0 anonymous users