พอดีเห็นในพันทิป ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ ทั้งห้องการเมือง+รัชดา
เลยอยากได้ความเห็นจากคนในนี้ครับ เพราะผมยังคิดข้อแย้งไม่ออก ถึงจะรู้ว่ามันมีจุดผิดก็เถอะ แต่ดูเหมือนขาอวยจะได้ใจกันเพียบ ที่สามารถออกมาเนียนนอกห้องการเมืองได้
http://pantip.com/topic/30298868
ข้างล่างคือเนื้อความในกระทู้ครับ ขอย่อหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวเผลอมีคนคิดว่ามันคือความคิดเห็นของผม
************************
หรือ ไม่ต้องทำ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป
ถ้าตอบแบบไม่ดัดจริต
เราเป็นประชาชนที่ต้องดิ้นรนเพื่อหาเงิน เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง คนกรุงเทพที่บ่นกันเรื่องรถติด ถ้ามีรถไฟฟ้าอยากได้ไหม ถามจริงๆ?
คนที่ตั้งกระทู้แล้วบอกว่ามันยังไม่จำเป็น คุณได้ขึ้นรถเมล์กับคนอื่นบ้างหรือเปล่า? หรือขึ้นไปแล้ว รถเมล์ โล่งมาก มีที่นั่งว่าง จริงๆ หรือ?
คุณเคยรอรถเมล์นานไหม 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง ก็ไม่มาซะที
ไปขึ้นรถตู้ โอ้ว ให้ตาย เหมือนขึ้นโลง บินได้ อยากนั่งไหม
แล้วถ้ากู้มาแล้ว หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นมา จะทำอย่างไร ชีวิตคุณมีรายจ่ายเพิ่มไหม ถ้ามีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นมา ลองคิดดู อืมก็ไม่เห็นมีหนี้
อะไรเพิ่มมาในชีวิตประจำวันเรานิ เพราะ หนี้สาธารณะ ก็มีมานานก่อนที่จะกู้ 2 ล้านล้านบาทมิใช่หรือ
แล้วทำไมเราถึงไม่อยากได้สิ่งเหล่านี้ล่ะ เพราะอะไร
---------------------------------------
ไปต่างจังหวัดทีในช่วงเทศกาล นี่ก็ใกล้สงกรานต์แล้ว คุณอยากให้เป็นเหมือนเดิมหรือ ที่ต้องอยู่บนถนน 24 ชม. แย่งเข้าห้องน้ำกัน
รถไปสายเหนือ สายอีสานติดตั้งแต่อยู่ บางปะอิน เราอยากเป็นแบบนี้ไปอีกถึงเมื่อไหร่
นั่งรถไฟไปต่างจังหวัดทีไร ก็บอกญาติไม่ได้เลย ว่าจะถึงกี่โมง เพราะไม่มีใครรู้ ขนาดคนขับรถไฟเอง ยังไม่รู้
คุณอยากเป็นแบบนี้หรือ
---------------------------------------
ถามว่ากู้มาแล้วจะโกงไหม ผมไม่รู้หรอกครับ ว่าจะโกงไหม เพราะใครโกง เวรกรรมก็จะตามเอาคืนเอง
แล้วถ้าคุณกลัวโกง คุณจะไม่ต้องทำอะไรเลยหรือ
ตอนรัฐบาลอภิสิทธิ์ กู้มาผมก็ไม่เคยคิดว่าโกง แต่พอได้เห็นผลงานแล้ว พวกคุณก็คิดเอาเองแล้วกันว่าเป็นอย่างไร?
---------------------------------------
ถามว่าทำไมไม่กู้แบบ พ.ร.บ. รายจ่ายประจำปี คุณว่ารายจ่ายประจำปีเราเกินดุลหรือขาดดุล
เราขาดดุล แล้ว ระเบียบก็บอกไว้ว่า กู้ได้ไม่เกิน 10% ของรายจ่ายประจำปี
10% ของรายจ่ายประจำปี ก็ประมาณ 200,000 ล้านบาทต่อปี แต่ พ.ร.บ เงินกู้ 2 ล้านๆ บาท นั้น
รัฐบาลจะทำการกู้เป็นจำนวน 300,000 ล้านบาทต่อปี เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน
แล้วต่างกันอย่างไร ต่างตรงที่ถ้าเป็น รายจ่ายประจำปี ก็ต้องกู้เป็นเวลา 10 ปีติดต่อกัน
ผลลัพธ์ไม่ต่างกันหรอกครับ จะกู้แบบไหน ก็ได้ เราเป็นหนี้อยู่แล้ว อันนี้จริง
----------------------------------------
คนทั่วไปอาจมองว่าก็เหมือนๆ กัน แต่มี สว. บางคน ตั้งแง่ว่า จะขัดกับ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ
ในปี พ.ศ. 2548 โดย ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ยังไม่มีช่องทางยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้
ต้องรอผ่านการพิจารณาของทั้ง 2 สภาก่อน จังหวะนั้นจะมีห้วงเวลาก่อนที่นายกฯจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ส.ส. และ ส.ว.
หรือสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
สามารถเข้าชื่อกันร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยได้ตามมาตรา 154 ว่าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
----------------------------------------
แต่ต้องไม่ลืมน่ะครับว่า ในสมัยที่ประชาธิปปัตย์เป็นรัฐบาลก็ทำแบบนี้เหมือนกัน
และใช้ประโยชน์จากคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาในการดำเนินการกู้เงินตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง
ฉะนั้นจึงอาจต้องใช้เฉพาะเสียง ส.ว.เท่านั้น
-----------------------------------------
แต่ถ้าศาล รธน.ตีตกรัฐบาลก็ต้องลาออก
-----------------------------------------
สรุปผมว่า มันเป็นเกมการเมืองเท่านั้น ประชาชนอย่างเราไม่เคยได้อะไร เป็นแค่เพียง หมากตัวหนึ่ง
ที่ต้องดู พวกเขาเล่นกัน โดยไม่สนว่า ประเทศจะเป็นอย่างไร ประชาชนจะเป็นอย่างไร
------------------------------------------
คุณลองคิดดูสิครับว่า ถ้าระบบการขนส่งเราดีขึ้นจะเป็นอย่างไร
เหมือนกับที่เรามี สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 50 ล้านคน
และถ้าประเทศเรามีเส้นทางคมนาคมที่ดี เราจะลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้อีกไม่ว่า
จะเป็นทางรถ หรือทางรถไฟ
-----------------------------------------
ผมอยากถามใจคุณจริงๆ ว่าอยากมีไหมครับ โครงสร้างพื้นฐานดีๆ แบบนี้
อย่าเพิ่งเอาความเกลียดชังมาเป็นที่ตั้ง แล้วมาตอบ
ลองคิดดูว่า ตอนคุณเกิดมา คุณก็เป็นหนี้อยู่แล้ว แต่ทำไมเป็นหนี้แล้วยังลำบากล่ะครับ
ในเมื่อเป็นหนี้แล้ว เราจะสบายบ้างไม่ดีหรือครับ แล้วเงินในกระเป๋าคุณก็ไม่ได้ลดลงไปด้วยน่ะครับ
ขอโทษที่ต้องพิมพ์ให้อ่านยาวๆ อย่างนี้ และขออนุญาติ แท็กลงห้องรถยนต์ด้วยน่ะครับ เพราะผมคิดว่า
โครงการนี้มีประโยชน์ กับเราทุกคน