ผมเข้าใจว่า สิ่งที่คุณกำลังอ่านอยู่นั้นเปนเรื่องของการแสดงผล graphic ที่มา ซ้อนกัน หน่วยแสดงผล ต้องหาวิธี composite image ต่างๆเหล่านั้น ให้ออกมาเปน ภาพ 2D ภาพเดียว
http://en.wikipedia....pha_compositing
เคยได้ยินใช่ไหม ว่า เส้น เกิดจาก "จุด" จุดเล็กๆๆๆ ที่ plot ต่อๆกันติดๆกัน จนเปนเส้นยาวๆ นั่นคือ ต้นกำเนิดของภาพด้วย เช่นกัน
เพราะการแสดงผลบนหน้าจอนี้ เราต่างรู้จักกันในหน่วยที่เรียกว่า pixel และ หน่วยการแสดงผล เราไปเรียกมันว่า dot per pixel ในความเปนจริงแล้ว pixel ที่เราเห็นนี้ ก็คือ ตาราง ที่เปน 4 เหลี่ยม นั่นเอง
dot per pixel ก็คือ ใน 1 ตารางนั้น มี จุดอยู่กี่จุด ที่อัดแน่นเรียงตัวกันอยู่ในนั้ น
การแสดงผลบนหน้าจอนั้น ถ้ามีภาพ 2 ภาพ มา overlay หรือวางซ้อนกัน ในความเปนจริง มันทับซ้อนกัน ในสเกลของ จุด แต่เมื่อแสดงผล มันต้องแสดง ผลเปน pixel
ในภาพ A xx B ที่เห็นในเพจ วิกี้นั้น แสดงให้เห็นว่า เมื่อภาพ ที่ซ้อนกัน 2 ภาพ นั้น เกิดขึ้นในตำแน่งที่ คาบเกี่ยว pixel กัน จากสูตร จะได้การแสดงผลออกมา ตาม 5 สถานการณ์นั้น
ขนาดของตาราง subpixel ที่เห็น (แถวที่สาม) คือการแสดงผลจริง กล่าวคือ ถ้าภาพ 2 ภาพ เข้ามาซ้อนกันในตำแหน่งที่ 1 (A over
จะมี 3 pixel ที่แสดงผล อีก 1 pixel จะ transparent หรือไม่มีการแสดงผล และ so on... จนถึงกรณีที่ 5
่อันนี้ java tutorials ครับ
http://docs.oracle.c...ompositing.html
------------------------------------------------------
การที่คุณจะเขียนโปรแกรม หรือ software animation สมัยนี้ไม่จำเปนต้องรู้ เรื่อง composition เพราะ os จะทำการแสดงผลให้คุณเสร็จศัพท์แล้ว ที่คุณต้องทำคือ การนำ library มาให้ใช้ ถูกส่วนเท่านั้นเอง
แต่จะรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย จะได้เข้าใจเรื่องการแสดงผล
ผมเคยแนะนำให้คุณไปนำ class สำเร็จรูปมาใช้เพื่อเป นแนวทางในการพัฒนา logic ของตัวเอง เพราะคุณไม่ได้เรียนมา ไม่ได้คุ้นเคย การดูจากตัวอย่าง (learning by example) จะเปนการพัฒนา ได้อย่างรวดเร็ว (คอนเซปเดียวกับสมองกล neuron network) แต่ มันจะ กลายไปเปนปญหา ถ้าคุณ ยังไม่สามารถ พัฒนา logic ได้ด้วยตัวเอง กล่าวคือ หากยังหา example ไม่ ได้ คุณจะไม่ได้เรียนรู้ อะไรเพิ่มเติม
สิ่งที่าสำคัญ คือการเขียน algorithm ลองไปศึกษาคำนี้ดู แล้วฝกพัฒนา ไป พร้อมๆกับทักษะด้านอื่นๆ เห็น concept อะไรที่ไหน ให้ลองนึกถึง algorithm ขึ้นมาทันที ไม่เช่นนั้น แล้ว เวลาคุณอยากสื่ออะไร ผมจะเข้าใจคุณ แต่เวลาผมจะสื่ออะไร หรือแนะนำอะไรไป คุณจะไม่เข้าใจ ต้องแก้โค๊ด ต้องเขียนโค๊ดเสร็จแล้วเท่านั้น จึงจะเข้าใจกัน ซึ่งในความเปนจริง เราไม่มีวันได้โค๊ดมาก่อนที่เราจะเข้าใจมัน
สู้ๆ