ต้นทุนการขนส่งทางราง ถูกว่า จริงค่ะ แต่ต้องนับค่าขนส่งระบบรางด้วยค่าขนส่งปัจจุบัน ที่ไม่ใช่รถไฟความเร็วสูงค่ะ
ทางภาคเหนือจะปลูกกะหล่ำปลีกันเยอะ 1 คันรถกะบะ คาดว่าน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1 -1.5 ตัน (1000-1500 กิโลกรัม)
ถ้าเราเทียบค่าตั๋วรถไฟความเร็วสูง ด้วยค่าตั๋วเครื่องบิน Low cost
คุณคิดว่า กะหล่ำปลี 1 ตัน จะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะต้นทุน รถไฟความเร็วสูงเท่าไหร่ + ค่ารถกะบะ ขนลงจากดอย + ค่ารถกะบะ ขนของมาส่งที่ตลาด
ด้วยเหตุผลนี้ คนไทย กินผักที่มันสดเท่าปัจจุบัน หรือถ้าอยากกินผักสดมากๆก็ปลูกผักกระถางกินเอง
ช่วยอนาคตของลูกหลาน เหลน โหลน จะดีกว่ามั๊ยคะ
อย่าปล่อยให้คนรุ่นต่อไป ก่นด่า คนรุ่นเราว่าสร้างภาระให้เค้าเลยค่ะ
การจะไปบอกว่าขนส่งผักบุ้งหรือกระหล่ำจากเชียงใหม่มา กทม อันนั้นมันก็เว่อร์เกิน มันต้องเอาไปขนส่งสินค้าที่มีมีมูลค่าเพิ่มจากฟาร์มมาสู่เมืองพอสมควรมันจึงจะเกิดการค้าขาย เช่น สินค้าเกษตรประเภทออร์แกนิคปัจจุบันมันราคาขายสูงขึ้นเรื่อยๆ บางอย่างสูงกว่าสินค้าแบบธรรมดาตั้ง 2 ้เท่าก็มี แล้วแต่ความยากง่ายในการผลิต
กรุงเทพผลิตอาหารเองไม่ได้อยู่แล้ว ดูจากในช่วงน้ำท่วมเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็พอว่าลำบากขนาดไหน ผักถึงจะแพงขึ้น คนกรุงเทพก็ต้องซื้อกิน เป็นไปไม่ได้ที่จะให้คนกรุงเทพซึ่งต้องทำงานนอกบ้านทุกวันไปปลูกผักกินกันทุกครอบครัว
การขนส่งที่รวดเร็วช่วยให้สินค้าทางการเกษตรบางอย่างจากบางจังหวัดในเมืองไทยเข้าไปขายในสิงคโปร์แข่งกับสินค้าจากมาเลเชียได้ สินค้าที่ปลูกได้เฉพาะในเชียงใหม่ ก็สามารถวื่งข้ามประเทศไปขายได้ไม่ได้ขายให้เฉพาะคนกรุงเทพกินเท่านั้น
ผมไม่คิดว่าเขาสร้างรถไฟความเร็วสูงขึ้นมาเพื่อใช้ขนผักโดยเฉพาะนะ มันเป็นเพียงผลพลอยได้และสร้างโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจให้กับเกษตรกรและผู้ที่มองเห็นลู่ทาง
เราเคยลงทุนไปมากมายเพื่อสร้างทางด่วนข้อมูลซึ่งชาวนาเขาไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย มีแต่บริษัทยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมและไอทีและบริษัทซึ่งใช้ทางด่วนดังกล่าวแสวงหาประโยชน์ได้เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ และดึงแรงงานภาคเกษตรเข้ามาสู่เมืองเพื่อเป็นทาสของระบบทุนนิยม แต่ก็ไม่เคยเห็นชาวนาที่ไหนเขาคัดค้านเลย
แต่พอเราจะสร้างอะไรที่มันมีประโยชน์สำหรับคนทั้งประเทศและสำหรับเกษตรกรเป็นผลพลอยได้เพื่อผลักดันให้แรงงานในเมืองกันกลับไปสู่ชนบทซึ่งเขาเห็นโอกาสที่สุงขึ้น ทำไมเราจึงบ่นกันนักหนา???
สำหรับผม ผมมองว่าการขนส่งความเร็วสูงอย่างนี้เป็นไฟลท์บังคับของประเทศไทยที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอดได้ท่ามกลางเพื่อนบ้านที่เขามุ่งไปทางนั้นกันหมด
ผมบอกแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องต้นทุนการขนส่งที่จะเป็นปัญหา แต่มันอยู่ที่เรื่องทำยังไงไม่ให้มีการทุจริตคอรัปชั้นมากกว่า
มันจะเอาไปขนส่งคนหรือผัก หากมันคุ้มทุน ธุรกิจที่เขาจะใช้บริการเขาก็ตัดสินใจเดินหน้า หากสินค้าประเภทใดไม่คุ้มค่าส่ง เขาก็ไม่ใช้บริการ เรื่องมันมีแค่นั้นเอง ไม่ใช่พวกคุณที่จะมาตัดสินใจไปหัวเราะเขาว่ามันไม่คุ้มทุนในการขนผัก
จะค้านก็ค้านให้ถูกเรื่อง
ที่ต้องยกตัวอย่างเชียงใหม่ เพราะรถไฟนี้ถูกวางเส้นทางไปเชียงใหม่ค่ะ
และที่ยกตัวอย่างสินค้าเกษตร ก็มาจากคำพูดของนายกเอง ที่พูดถึงสินค้าเกษตร
จะว่ากรุงเทพ ปลูกผักกินเองไม่ได้ ก็ไม่ใช่นะคะ แถวทวีวัฒนา หรือหนองจอก แม้แต่ละแวกใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เช่น บางบัวทอง ไทรน้อย พื้นที่บางส่วนยังปลูกผักอยู่ค่ะ หรือจะขยับเส้นทางออกไป ปากช่อง วังน้ำเขียว ก็ได้ไกลจนขนส่งผักด้วยรถบรรทุกไม่ได้ค่ะ ดังนั้น คนกรุงเทพ ไม่ได้ขาดแคลนผักสด ยืนยันค่ะ
จริงอยู่ที่ประเทศเราควรมีระบบการขนส่ง ระบบรางที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเราควรวางเส้นให้ได้ประโยชน์ครอบคลุมพื้นที่ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านให้ได้มากที่สุด แต่เส้นทางที่รัฐบาลนำเสนอ เชียงใหม่ หัวหิน ไปเชื่อมโยงกับใครได้ค่ะ ผลประโยชน์กับประเทศชาติ มากพอให้คนทั้งประเทศ ที่ต้องเป็นหนี้ร่วมจริงหรือคะ
คนต่างจังหวัด ที่ไม่ได้อยู่ในเส้นทางรถไฟตรงนี้ ถามว่า ทำไม เค้าต้องมาแบกรับภาระหนี้ร่วมด้วย ในสิ่งที่เขาไม่ได้ประโยชน์
จะให้เขาเป็นหนี้ ถามเขาหรือยัง ว่าเขาอยากได้ไหม
จากผลงานของรัฐบาลที่ผ่ามา มันไม่เพียงพอให้ประชาชนมั่นใจว่า เขาจะบริหารจัดการเงินจำนวนมาได้อย่างโปร่งใส
เพราะแม้แต่เงินบริจาคน้ำท่วม ซึ่งไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ยังเกิดการทุจริตให้เห็น
ดังนั้น ไม่ว่าจะสร้างรถไฟความเร็วสูงมาขนคน หรือขนผัก แต่การกู้เงิน ด้วยพรบ. ซึ่งยากต่อการตรวจสอบ
ก็ยากที่ประชาชนอย่างดิฉันจะเชื่อ ว่ารัฐบาลจะไม่ทุจริต