ความจริงที่เจ็บปวด : จิ๋วเป็นคนตั้ง ปรส.
และทักษิณเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของจิ๋ว
ในช่วงที่ช่วยกันทำประเทศล่มจม
จนต้องไปจำนำประเทศกับ IMF
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:04
POPULAR
ความจริงที่เจ็บปวด : จิ๋วเป็นคนตั้ง ปรส.
และทักษิณเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของจิ๋ว
ในช่วงที่ช่วยกันทำประเทศล่มจม
จนต้องไปจำนำประเทศกับ IMF
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:39
POPULAR
ความจริงข้อต่อไปก็คือ
โกร่งวิ่งหาคนมาทำปรส. หมดประเทศแล้ว ไม่มีใครเอา
จึงต้องมากราบตรีนอมเรศ
คนที่จะมานั่งปรส. นั้น มีความจริงที่เจ็บปวดตามมาก็คือ
IMF ต้องรับรอง
สรุปให้สั้นก็คือ
จิ๋วทำประเทศเจ๊ง
จิ๋วต้องไปตาม IMF มาช่วย
IMF ช่วยโดยวางเงื่อนไขให้สูบเลือดไทยได้คล่องที่สุด
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:43
อ๋อที่แท้เป็น จิ๋ว ที่สั่งปิด 56 Finance
ซึ่งบาง Finance กำลังขอจัดตั้งเป็น Bank อยู่
เป็นคนไปขอ IMF มาช่วยนี่เอง
ลูกหนี้ของ Finance ที่ถูกกดราคาประมูล
ขายถูกยิ่งกว่าเสื้อผ้าที่ยัดขายเหมาเป็นกระสอบ
เศร้าใจจริง ๆ
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:47
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:47
POPULAR
ความจริงที่เจ็บปวด : จิ๋วเป็นคนตั้ง ปรส.
และทักษิณเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของจิ๋ว
ในช่วงที่ช่วยกันทำประเทศล่มจม
จนต้องไปจำนำประเทศกับ IMF
พวกไพร่เสื้อแดง บัตรเติมเงิน จรเช้ามีลิ้นที่ไหนจะมีความจำไกลถึงขนาดนั้น.....
ความจำของพวกหยุด จอดป้ายที่ว่า'ทักษิณใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ'........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ทักษิณไม่ได้เป็น'ลูกผู้ชายกล้าทำกล้ารับ'ตรงนี้แหละ....
พูดความจริงเล็กน้อย ไม่กล้าพูดความจริงทั้งหมด....
กลัวไพร่เสื้อแดงไม่มีความภูมิใจในตัวทักษิณ.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ปล.ทักษิณทำอะไรไม่สมกับมีร่างกายเป็น"ผู้ชาย"หลายเรื่อง เช่น....
ไม่กล้ารับผิด รับโทษตามศาลยุติธรรมพิจารณาโทษ....
หลอกศาลฯจะไปดูโอลิมปิดที่ปักกิ่ง แล้วไม่กลับมารับโทษ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:50
เตรียมตัวบริจาคเลือดให้ห้องราชดำเนินด่วน เอ๊ะ !! หรือจะกลืนเลือดดี
มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต
และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต
แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:51
ข่าววงในว่า ..จิ๋ว ..มีปัญหาทาง
ระบบสมอง...คนที่ให้ข่าว อยู่ใน
ระดับเดียวกับจิ๋ว......เรื่องนี้ ได้
ข่าว.ชัวร์..เมื่อไร จะรายงาน.....
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:51
ความจริงข้อต่อไปก็คือ
โกร่งวิ่งหาคนมาทำปรส. หมดประเทศแล้ว ไม่มีใครเอา
จึงต้องมากราบตรีนอมเรศ
คนที่จะมานั่งปรส. นั้น มีความจริงที่เจ็บปวดตามมาก็คือ
IMF ต้องรับรอง
สรุปให้สั้นก็คือ
จิ๋วทำประเทศเจ๊ง
จิ๋วต้องไปตาม IMF มาช่วย
IMF ช่วยโดยวางเงื่อนไขให้สูบเลือดไทยได้คล่องที่สุด
นอกจากจิ๋วหาคนที่ IMF เชื่อไม่ได้แล้ว....
แม๊วช่วยหาให้ IMF ก็ไม่ยอมรับ....
บอกว่ามี"คนดี"อย่างนั้น
ทำไมหามาใช้ก่อนหน้านี้.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:51
รอคนกลางสามโลก และ เสื้อแดง มาแถ
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:53
จิ้วเป็นนายกหุ่นเชิดของแม้วตัวแรกใช่ไหมนิ
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:37
เดี๋ยวนี้เค้าไม่เป็นหุ่นเชิดกันแล้ว อัพเกรดเป็นขี้ข้าแม้วแทน
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:49
คุณว่าอย่างชายกบางจะกล้าเข้ามาไหมหละรอคนกลางสามโลก และ เสื้อแดง มาแถ
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:07
รอคนกลางสามโลก และ เสื้อแดง มาแถ
เสียใจด้วยครับ...วันนี้ "วันเสาร์" คงต้องรอไปถึง "วันจันทร์" แล้วหล่ะครับท่าน....!!!
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:11
เอสไอฟันธง คดี ปรส.ผิดจริง คนขายชาติตัวจริง ประชาธิปปัตย์!!! ***
นายไกรสร บารมีอวยชัย รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นประธานประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับอัยการสำนักคดีพิเศษ และที่ปรึกษาจากกระทรวงการคลัง
สรุปสำนวนคดีการขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ใช้เวลาประชุมนานประมาณ 2 ชั่วโมง ร่วมกันแถลงว่า
ในการสอบสวนมุ่งถึงการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จากการนำทรัพย์สินของ 56 สถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการ มูลค่า 851,000 ล้านบาท ไปประมูลขายเพียง 190,000 ล้านบาท และการดำเนินการของ ปรส. ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่มุ่งแก้ไข ระบบสถาบันการเงินด้วยการฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินการ
แต่ขั้นตอนดำเนินการของ ปรส. กลับไม่แยกหนี้ดี หนี้เสีย เพื่อแยกหนี้ดีไปให้กับธนาคารรัตนสิน จำกัด (มหาชน) นำไปบริหาร ทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ
รายงานระบุว่า คดี ปรส. มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 5 คดี
ประกอบด้วย
คดีที่ 1 กรณี บริษัท เลห์แมนบราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงค์ ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมโกลบอลไทยพร็อพเพอร์ตี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2541 ยอดคงค้างทางบัญชี 24,616.95 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 11,520 ล้านบาท
คดีที่ 2 กรณีบริษัท โกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอล ยอดคงค้างทางบัญชี 115,890.96 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 22,454.87 ล้านบาท
คดีที่ 3 - 4 กรณี บริษัท เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับ กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 1 - 3 ยอดคงค้างทางบัญชี 64,303.34 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 23,176.38 ล้านบาท
คดีที่ 5 กรณี บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมวีแคปปิตอล ยอดคงค้างทาง บัญชี2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท
ในคดีที่ 1 มีการสอบปากคำพยานบุคคล ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวม 106 ปาก แยกประเด็นการสอบสวนออกเป็นประเด็นข้อกฎหมายและประเด็นข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้หลักฐานถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปสถาบันการเงิน และกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงการจงใจหลีกเลี่ยงภาษี
หลายกรณี ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 10 ประเด็น
ประกอบด้วย
1. ปรส. ยินยอมให้นิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. เข้าประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. โดยมิชอบ
2. คณะกรรมการ ปรส.บางคนมีส่วนเกี่ยวข้อง ปกปิดข้อเท็จจริง กระทำการโดยไม่โปร่งใส
3. ข้อกำหนดของ ปรส. ที่ให้ผู้ชนะการประมูลโอนสิทธิได้ขัดต่อกฎหมาย
4. การโอนสิทธิ ของผู้ชนะการประมูลไม่ชอบ ขัดต่อ พ.ร.ก.ปรส.
5. ข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของคณะกรรมการ ปรส. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
6. คณะกรรมการ ปรส. และกลุ่มนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. ฝ่าฝืนข้อสนเทศการขายทรัพย์สิน
7. กองทุนรวมที่รับโอนสิทธิจากผู้ชนะการประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. ยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
8. มีการทำสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
9. สิทธิของนิติบุคคลที่ชนะการประมูลไม่สมบูรณ์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของปรส. และ
10. ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปรส.บางคนขาดคุณสมบัติ เนื่องจากดำรงตำแหน่งทับซ้อนกับสถาบันการเงินอีกแห่ง
การขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินทั้ง 56 แห่ง ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความผิดทางอาญา
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!
แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรหลังจากนี้ กรรมการ ปรส. ที่รู้เห็นเกี่ยวข้องโดยตรงในการขายและนิติบุคคลที่มีส่วนร่วมและสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่กระทำผิดอาญาจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 ราย จะถูกดำเนินคดี
ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และร่วมกันกระทำโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบายเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ในคดีภาษีอากรต้องระวางโทษจำคุก 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 -200,000 บาท ถ้าคดีนี้ฟ้องได้ ก็มีโอกาสที่ประเทศจะได้เงินกลับคืนมา สำหรับคดีนี้เกี่ยวพันกับบริษัทใหญ่หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขายสินทรัพย์ของ ปรส. ที่ผ่านมา เคยตั้งนายยุวรัตน์ กมลเวชช เป็นกรรมการตรวจสอบ และได้ตั้งประเด็นในการตรวจสอบตรงกับการสอบสวนของดีเอสไอ การสอบสวนพบพยานหลักฐานว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหาก ดีเอสไอ สั่งฟ้องคดีที่ 1 เรียบร้อย ก็จะเป็นบรรทัดฐานข้อกฎหมายที่จะมาใช้ฟ้องกรณีบริษัทอื่น ๆ ต่อไป
องทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าวใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:25
มาเน้นให้เห็นชัดๆ
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!
แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรองทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าว ใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!
แปลกเนอะ
คดีนี้ รัฐบาลเพื่อไทย เงียบกริ๊บเลย
มัยแต๋มไม่บอกให้เขาเล่นงานชวนล่ะ
แล้ว ปรส. ทำอิ๊บอ๋ายขนาดนี้ พรรคเพื่อไทยเคยมีนโยบายเรื่องนี้ออกมาหรือเปล่า....กร๊าก
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:37
Edited by nhum, 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:38.
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:46
มาเน้นให้เห็นชัดๆ
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!
แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรองทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าว ใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!
แปลกเนอะ
คดีนี้ รัฐบาลเพื่อไทย เงียบกริ๊บเลย
มัยแต๋มไม่บอกให้เขาเล่นงานชวนล่ะ
แล้ว ปรส. ทำอิ๊บอ๋ายขนาดนี้ พรรคเพื่อไทยเคยมีนโยบายเรื่องนี้ออกมาหรือเปล่า....กร๊าก
พรรคเส้นไหย๊ไหย่ ยังไง ก็ไปทำอะไรไ่ได้หรอก
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:49
ไปหาอ่านกฏหมายตั้งปรส. ก่อนจะมาคุยกันต่อ
สำนักเศรษฐกิจการคลังมีแปะไว้
แล้วก็ ถ้าไม่มีประสบการณ์ตรง อย่ามาโม้
จะอวดรู้อะไรออกมา ก็ควรรู้ด้วยว่า 23 ผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยน่ะ
1 ในนั้น เป็นผู้ช่วยเลขาธิการปรส.
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:51
พรรคเส้นไหย๊ไหย่ ยังไง ก็ไปทำอะไรไ่ได้หรอก
โอย จาบ้าเลยกรู
ไปไม่เป็นก็ออกลูกนี้
แต๋มทำเราผิดหวังมาก .....แต๋มลืมไปแล้วหรือ ว่ายุวรัตน์ถูกใครตั้งมาเช็คบิลปรส.
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:53
ข้อเท็จจริงอีกอย่างก็คือ
พวกที่มาซื้อของถูกหลังต้มยำกุ้งน่ะ
คู่ค้ากับทักษิณทั้งน้านนน
เหอๆๆๆๆ
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:47
ผมมีเรื่อง อยากถาม คุณ amplepoor หน่อยครับ ด้วยความที่ตอนนั้นผมยังเด็ก มากแต่ผมก็สงสัยมานานแล้วว่าทำไมเหมือนกัน
ทำไม พลเอก เปรม ถึง สนับสนุน ให้ บิ้กจิ๋ว เป็น ผบ ทบ ครับ จะ่่ว่าไปการเมือง ไทย เละเทะ มาจนถึงปัจจุับัน ก็ เพราะไอ้จิ๋วนี่แหละ
ที่ทำให้ ประเทศนี้ต้องล่มจม จนเกิดปีศาจหน้าเหลี่ยมขึ้นมา ผมเคยคิดนะบางที ป๋าเปรม ก็เป็นสาเหตุของการเน่าเละเทะของปัจจุบัน เพราะสนับสนุนไอ้จิ๋ว
จนมันมี ความโลภ อยากเป็นนายก เลยประกาศเดินทางล้าน กม อะไรนี่แหละ หากตอนนั้น มันไม่ได้เป็น ผบทบ คงหายหัวไปจากสารบบ ไปแล้ว
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 22:01
ผมมีเรื่อง อยากถาม คุณ amplepoor หน่อยครับ ด้วยความที่ตอนนั้นผมยังเด็ก มากแต่ผมก็สงสัยมานานแล้วว่าทำไมเหมือนกัน
ทำไม พลเอก เปรม ถึง สนับสนุน ให้ บิ้กจิ๋ว เป็น ผบ ทบ ครับ จะ่่ว่าไปการเมือง ไทย เละเทะ มาจนถึงปัจจุับัน ก็ เพราะไอ้จิ๋วนี่แหละ
ที่ทำให้ ประเทศนี้ต้องล่มจม จนเกิดปีศาจหน้าเหลี่ยมขึ้นมา ผมเคยคิดนะบางที ป๋าเปรม ก็เป็นสาเหตุของการเน่าเละเทะของปัจจุบัน เพราะสนับสนุนไอ้จิ๋ว
จนมันมี ความโลภ อยากเป็นนายก เลยประกาศเดินทางล้าน กม อะไรนี่แหละ หากตอนนั้น มันไม่ได้เป็น ผบทบ คงหายหัวไปจากสารบบ ไปแล้ว
เดาล้วนๆ นะครับ
1 ไม่เคยคุมกำลัง โตมาจากสายวิชาการ ดันขึ้นมาก็จะไม่กลายเป็นหอกข้างแคร่ แถมยังเข้ามาขวางจปร. 5 ได้พอดี
2 มีแนวทางการเมืองนำทหาร ช่วงนั้นเราต้องปรับตัวเพราะสหรัฐกำลังถอนตัว จีนกำลังเข้ามาแทนที่ สายเหยี่ยวนั้นไม่น่าจะคุยกับจีนรู้เรื่อง
3 เหลืออายุราชการไม่มาก เหมาะกับงานเฉพาะกิจคือปรับกองทัพให้เข้ากับการเมืองยุคใหม่ ที่ทหารจะต้องลดบทบาทลง
4 เลียเก่ง
5 ไม่มีตัวเลือก
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 22:07
ผมมีเรื่อง อยากถาม คุณ amplepoor หน่อยครับ ด้วยความที่ตอนนั้นผมยังเด็ก มากแต่ผมก็สงสัยมานานแล้วว่าทำไมเหมือนกัน
ทำไม พลเอก เปรม ถึง สนับสนุน ให้ บิ้กจิ๋ว เป็น ผบ ทบ ครับ จะ่่ว่าไปการเมือง ไทย เละเทะ มาจนถึงปัจจุับัน ก็ เพราะไอ้จิ๋วนี่แหละ
ที่ทำให้ ประเทศนี้ต้องล่มจม จนเกิดปีศาจหน้าเหลี่ยมขึ้นมา ผมเคยคิดนะบางที ป๋าเปรม ก็เป็นสาเหตุของการเน่าเละเทะของปัจจุบัน เพราะสนับสนุนไอ้จิ๋ว
จนมันมี ความโลภ อยากเป็นนายก เลยประกาศเดินทางล้าน กม อะไรนี่แหละ หากตอนนั้น มันไม่ได้เป็น ผบทบ คงหายหัวไปจากสารบบ ไปแล้ว
เดาล้วนๆ นะครับ
1 ไม่เคยคุมกำลัง โตมาจากสายวิชาการ ดันขึ้นมาก็จะไม่กลายเป็นหอกข้างแคร่ แถมยังเข้ามาขวางจปร. 5 ได้พอดี
2 มีแนวทางการเมืองนำทหาร ช่วงนั้นเราต้องปรับตัวเพราะสหรัฐกำลังถอนตัว จีนกำลังเข้ามาแทนที่ สายเหยี่ยวนั้นไม่น่าจะคุยกับจีนรู้เรื่อง
3 เหลืออายุราชการไม่มาก เหมาะกับงานเฉพาะกิจคือปรับกองทัพให้เข้ากับการเมืองยุคใหม่ ที่ทหารจะต้องลดบทบาทลง
4 เลียเก่ง
5 ไม่มีตัวเลือก
อืม แล้วทำไม จปร 5 ถึงมีปัญหากับป๋าเปรมครับ
เท่าที่ผมเคยอ่านหนังสือมา นี่ สมัยนั้น จิ่ว แข่งกับ บิ้กเสือ พิจิตร อะไรนี่แหละ และปัญหา จปร 5 จปร 7
ว่าไป ปัญหาตอนนั้น ก็สะสมถึงตอนนี้นะครับ คนอย่าง จิ๋ว จำลอง พัลลภ ก็ยังอยู่ในแวดวงการเมือง จนถึงปัจจุบัน
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:40
มาเน้นให้เห็นชัดๆ
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!
แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรองทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าว ใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!
แปลกเนอะ
คดีนี้ รัฐบาลเพื่อไทย เงียบกริ๊บเลย
มัยแต๋มไม่บอกให้เขาเล่นงานชวนล่ะ
แล้ว ปรส. ทำอิ๊บอ๋ายขนาดนี้ พรรคเพื่อไทยเคยมีนโยบายเรื่องนี้ออกมาหรือเปล่า....กร๊าก
พรรคเส้นไหย๊ไหย่ ยังไง ก็ไปทำอะไรไ่ได้หรอก
จิ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:42
ข้อเท็จจริงอีกอย่างก็คือ
พวกที่มาซื้อของถูกหลังต้มยำกุ้งน่ะ
คู่ค้ากับทักษิณทั้งน้านนน
เหอๆๆๆๆ
อั๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย ย่ะ !!!
แดงว่าไงครับ แย้งยังไง อีกดี
คู่ค้าอื่นก็ได้เหมือนกัน............เป๊ะ
Edited by ฟังทั้งสองฝ่าย, 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:45.
ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:50
มาเน้นให้เห็นชัดๆ
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!
แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรองทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าว ใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!
แปลกเนอะ
คดีนี้ รัฐบาลเพื่อไทย เงียบกริ๊บเลย
มัยแต๋มไม่บอกให้เขาเล่นงานชวนล่ะ
แล้ว ปรส. ทำอิ๊บอ๋ายขนาดนี้ พรรคเพื่อไทยเคยมีนโยบายเรื่องนี้ออกมาหรือเปล่า....กร๊าก
พรรคเส้นไหย๊ไหย่ ยังไง ก็ไปทำอะไรไ่ได้หรอก
ฝ่ายค้านรู้ว่ายกมือยังไงก็แพ้ เขายังยกมือเลยนะท่านนะ
รู้ว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เลยมาเล่นงานเขาด้วยปากแทน ไม่ละอายเหรอ
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 00:10
อืม แล้วทำไม จปร 5 ถึงมีปัญหากับป๋าเปรมครับ
เท่าที่ผมเคยอ่านหนังสือมา นี่ สมัยนั้น จิ่ว แข่งกับ บิ้กเสือ พิจิตร อะไรนี่แหละ และปัญหา จปร 5 จปร 7
ว่าไป ปัญหาตอนนั้น ก็สะสมถึงตอนนี้นะครับ คนอย่าง จิ๋ว จำลอง พัลลภ ก็ยังอยู่ในแวดวงการเมือง จนถึงปัจจุบัน
จปร.5 กับ 7 มีคนเก่งมาก และเติบโตมาในยุคที่ทหารได้แสดงฝีมือในสมรภูมิกันคึกคัก
เป็นธรรมดาของทหารในยุคนั้น ที่จะต้องหวังความก้าวหน้าทางการเมืองด้วย
เพราะรัฐธรรมนูญยังเป็นแบบประชาธิปไตยบ้างไม่ไตยบ้าง ข้าราชการเป็นรัฐมนตรีได้ อะไรทำนองนี้แหละ
ป๋าเป็นนายกโดยการคานอำนาจหลายฝ่าย แล้วการเมืองก็ค่อยๆ พัฒนามาทางเต็มใบยิ่งขึ้นทุกที
เศรษฐกิจก็เปลี่ยนมาเป็นเสรีนิยมกันทั้งโลก จะเอาทหารมาเป็นนายกอีกก็จะป่วยการ
ป๋าเองฉลาดพอที่จะใช้ประโยชน์คนใหม่ๆ ท่านก็เลี้ยงรุ่น 7 ที่คุมกำลังไว้ แล้วก็สนับสนุนรุ่นใหญ่ที่กำลังจะคุมกองทัพ
รุ่น 5 ก็เลยเคว้งเพราะโตใหญ่เกินไป แต่ยังใหญ่ไม่พอ ช่วงรอยต่อตรงนี้ รุ่น 7 ก็เลยจับมือกับรุ่นจิ๋วที่เป็นรุ่นใหญ่บิ๊ก ค้ำจุนบัลลังก์ป๋า
ส่วนใครเหยียบตีนใครนั่น ไปอยู่ต่อหน้าป๋า ก็ทำตัวเป็นลูกป๋า รักชาติราชบัลลังก์ทั้งนั้น
ครั้นพอป๋าส่งตำแหน่งให้น้าชาติ รุ่น 5 ก็ขึ้นยกแผงพอดี น้าแกก็เดินแผนพลาดไปหน่อย น้องจ๊อดก็เลยโดนลูกยุ สอยเจ้านายเสียเลย
เล่าหยาบๆ นะครับ เพราะมันไม่เกี่ยวกับกระทู้
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 00:24
ความจริงที่เจ็บปวด : จิ๋วเป็นคนตั้ง ปรส.
และทักษิณเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของจิ๋ว
ในช่วงที่ช่วยกันทำประเทศล่มจม
จนต้องไปจำนำประเทศกับ IMF
ขอเสริมตรงนี้นิด ทักษิณเป็นรองนายกดูแลด้านเศรษฐกิจ
อำนวย วีรวรรณ เป็นรมตคลัง ถูกถีบออก
เอาทนง ลำใยมาเป็นคนลดค่าเงิน
และออกจดหมายขอความช่วยเหลือด้านการเงินจาก IMF ฉบับแรกลงนาม
สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ใช่ของทักษิณ แต่มาจากเงินภาษีของหนู..ของคนไทยทุกคน.. แตงโม เวทีราชดำเนิน 5/11/2013
ผมยังยอมติดคุก 15 วัน แล้วพวกคุณมานิรโทษอะไรกัน .. เต๋า สมชาย เวทีราชดำเนิน 6/11/2013
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 01:00
ข้อเท็จจริงอีกอย่างก็คือ
พวกที่มาซื้อของถูกหลังต้มยำกุ้งน่ะ
คู่ค้ากับทักษิณทั้งน้านนน
เหอๆๆๆๆ
ติดตามข่าวมา คนที่ชื่อวิชัย ทองแดง ก็ชอบช้อนซื้อของถูกนะครับ แกพูดของแกอย่างนั้น คนนี้เปลี่ยนจากทนายแม้วเป็นเศรษฐีหุ้น
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:01
มาเน้นให้เห็นชัดๆ
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!
แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรองทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าว ใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!
แปลกเนอะ
คดีนี้ รัฐบาลเพื่อไทย เงียบกริ๊บเลย
มัยแต๋มไม่บอกให้เขาเล่นงานชวนล่ะ
แล้ว ปรส. ทำอิ๊บอ๋ายขนาดนี้ พรรคเพื่อไทยเคยมีนโยบายเรื่องนี้ออกมาหรือเปล่า....กร๊าก
พรรคเส้นไหย๊ไหย่ ยังไง ก็ไปทำอะไรไ่ได้หรอก
http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000500
***************************************************
อยากแถอะไร ก็แถตามสบายเลยละกัน
Edited by Ricebeanoil, 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:57.
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:09
มาเน้นให้เห็นชัดๆ
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!
แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรองทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าว ใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!
แปลกเนอะ
คดีนี้ รัฐบาลเพื่อไทย เงียบกริ๊บเลย
มัยแต๋มไม่บอกให้เขาเล่นงานชวนล่ะ
แล้ว ปรส. ทำอิ๊บอ๋ายขนาดนี้ พรรคเพื่อไทยเคยมีนโยบายเรื่องนี้ออกมาหรือเปล่า....กร๊าก
พรรคเส้นไหย๊ไหย่ ยังไง ก็ไปทำอะไรไ่ได้หรอก
หาแดรก โครตง่าย
หาเรื่องฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ อ้างเส้นใหญ่ตลอด
เป็นควายแดงนี่แสนดี มีสมองไม่ต้องใช้
มีปากเหมือนมีตรูด พ่นอะไรแต่ละทีมีแต่ของเน่าเหม็น
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:45
ผมมีเรื่อง อยากถาม คุณ amplepoor หน่อยครับ ด้วยความที่ตอนนั้นผมยังเด็ก มากแต่ผมก็สงสัยมานานแล้วว่าทำไมเหมือนกัน
ทำไม พลเอก เปรม ถึง สนับสนุน ให้ บิ้กจิ๋ว เป็น ผบ ทบ ครับ จะ่่ว่าไปการเมือง ไทย เละเทะ มาจนถึงปัจจุับัน ก็ เพราะไอ้จิ๋วนี่แหละ
ที่ทำให้ ประเทศนี้ต้องล่มจม จนเกิดปีศาจหน้าเหลี่ยมขึ้นมา ผมเคยคิดนะบางที ป๋าเปรม ก็เป็นสาเหตุของการเน่าเละเทะของปัจจุบัน เพราะสนับสนุนไอ้จิ๋ว
จนมันมี ความโลภ อยากเป็นนายก เลยประกาศเดินทางล้าน กม อะไรนี่แหละ หากตอนนั้น มันไม่ได้เป็น ผบทบ คงหายหัวไปจากสารบบ ไปแล้ว
เดาล้วนๆ นะครับ
1 ไม่เคยคุมกำลัง โตมาจากสายวิชาการ ดันขึ้นมาก็จะไม่กลายเป็นหอกข้างแคร่ แถมยังเข้ามาขวางจปร. 5 ได้พอดี
2 มีแนวทางการเมืองนำทหาร ช่วงนั้นเราต้องปรับตัวเพราะสหรัฐกำลังถอนตัว จีนกำลังเข้ามาแทนที่ สายเหยี่ยวนั้นไม่น่าจะคุยกับจีนรู้เรื่อง
3 เหลืออายุราชการไม่มาก เหมาะกับงานเฉพาะกิจคือปรับกองทัพให้เข้ากับการเมืองยุคใหม่ ที่ทหารจะต้องลดบทบาทลง
4 เลียเก่ง
5 ไม่มีตัวเลือก
ขออนุญาต คุณ แอมฯ สักนิดเถอะครับ
ตะนิ่นตาญี ยัง เข้าใจ ว่า น้าจิ๋ว เธอมาได้จากสองเหตุการณ์
ประการแรกมาจาก เรื่องนโยบาย ๖๖/๒๔ ของ ป๋า
อีกประการหนึ่งเป็นเพราะ เรื่อง เมษาฮาวาย
ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่กับ ข้อ ๔ ของ คุณแอมฯ นั้น เห็นด้วย เพราะเคยเห็นกับตาตัวเองมาแล้ว
ตะนิ่นตาญี
วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
เวลา ๗.๔๕ นาฬิกา
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:17
ตอบคุณตะนิ่นตาญี
นโยบาย ๖๖/๒๔ จิ๋วเธอเคลมว่าเป็นผลงาน ป๋าก็ไม่ได้ว่าอะไร (ปกติท่านไม่เคยเสนอหน้ารับความดีความชอบ ไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งนั้น)
จิ๋วชอบอ้างว่า ตัวเองเขียนคำสั่งด้วยลายมือด้วยซ้ำ
แต่ผมเห็นว่า นโยบายนั้น เป็นแค่กระดาษแผ่นเดียว ความสำเร็จของนโยบายมาจากความจริงใจในการปฎิบัติ ซึ่งคนสั่งการสูงสุดควรได้รับการยกย่อง เพราะต้องโน้มน้าวทุกฝ่ายให้ยอมรับการปรองดอง เป็นงานที่ยุ่งยากมาก ...ดูตัวอย่างคึกฤทธิ์กับน้าชาติแหกด่านความมั่นคงไปพบเหมาที่ปักกิ่ง นั่นก็แทบทำให้วงแตกมาแล้ว
นอกจากผู้นำแล้ว ฝ่ายที่ประสานงานก็ต้องชมเชย ส่วนนี้อาจจะแบ่งให้จิ๋วได้บ้างครับ
ส่วนกบฎเมษาฮาวาย ผมจำได้ว่าคนสำคัญคือพลตรีอาทิตย์
พลตรีชวลิตน่าจะมีบทบาทหลังจากนั้น เมื่ออาทิตย์คิดว่าตัวเองใหญ่กว่าป๋าจนถูกปลด
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:42
Edited by gears, 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:43.
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:30
ขอบคุณค่ะ บางเรื่องเกิดไม่ทันแต่ได้ความรู้ความเห็นจากกระทู้นี้
มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต
และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต
แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:00
เอสไอฟันธง คดี ปรส.ผิดจริง คนขายชาติตัวจริง ประชาธิปปัตย์!!! ***
นายไกรสร บารมีอวยชัย รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นประธานประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับอัยการสำนักคดีพิเศษ และที่ปรึกษาจากกระทรวงการคลัง
สรุปสำนวนคดีการขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ใช้เวลาประชุมนานประมาณ 2 ชั่วโมง ร่วมกันแถลงว่า
ในการสอบสวนมุ่งถึงการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จากการนำทรัพย์สินของ 56 สถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการ มูลค่า 851,000 ล้านบาท ไปประมูลขายเพียง 190,000 ล้านบาท และการดำเนินการของ ปรส. ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่มุ่งแก้ไข ระบบสถาบันการเงินด้วยการฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินการ
แต่ขั้นตอนดำเนินการของ ปรส. กลับไม่แยกหนี้ดี หนี้เสีย เพื่อแยกหนี้ดีไปให้กับธนาคารรัตนสิน จำกัด (มหาชน) นำไปบริหาร ทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ
รายงานระบุว่า คดี ปรส. มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 5 คดี
ประกอบด้วย
คดีที่ 1 กรณี บริษัท เลห์แมนบราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงค์ ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมโกลบอลไทยพร็อพเพอร์ตี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2541 ยอดคงค้างทางบัญชี 24,616.95 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 11,520 ล้านบาท
คดีที่ 2 กรณีบริษัท โกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอล ยอดคงค้างทางบัญชี 115,890.96 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 22,454.87 ล้านบาท
คดีที่ 3 - 4 กรณี บริษัท เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับ กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 1 - 3 ยอดคงค้างทางบัญชี 64,303.34 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 23,176.38 ล้านบาท
คดีที่ 5 กรณี บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมวีแคปปิตอล ยอดคงค้างทาง บัญชี2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท
ในคดีที่ 1 มีการสอบปากคำพยานบุคคล ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวม 106 ปาก แยกประเด็นการสอบสวนออกเป็นประเด็นข้อกฎหมายและประเด็นข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้หลักฐานถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปสถาบันการเงิน และกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงการจงใจหลีกเลี่ยงภาษี
หลายกรณี ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 10 ประเด็น
ประกอบด้วย
1. ปรส. ยินยอมให้นิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. เข้าประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. โดยมิชอบ
2. คณะกรรมการ ปรส.บางคนมีส่วนเกี่ยวข้อง ปกปิดข้อเท็จจริง กระทำการโดยไม่โปร่งใส
3. ข้อกำหนดของ ปรส. ที่ให้ผู้ชนะการประมูลโอนสิทธิได้ขัดต่อกฎหมาย
4. การโอนสิทธิ ของผู้ชนะการประมูลไม่ชอบ ขัดต่อ พ.ร.ก.ปรส.
5. ข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของคณะกรรมการ ปรส. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
6. คณะกรรมการ ปรส. และกลุ่มนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. ฝ่าฝืนข้อสนเทศการขายทรัพย์สิน
7. กองทุนรวมที่รับโอนสิทธิจากผู้ชนะการประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. ยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
8. มีการทำสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
9. สิทธิของนิติบุคคลที่ชนะการประมูลไม่สมบูรณ์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของปรส. และ
10. ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปรส.บางคนขาดคุณสมบัติ เนื่องจากดำรงตำแหน่งทับซ้อนกับสถาบันการเงินอีกแห่ง
การขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินทั้ง 56 แห่ง ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความผิดทางอาญา
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!
แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรหลังจากนี้ กรรมการ ปรส. ที่รู้เห็นเกี่ยวข้องโดยตรงในการขายและนิติบุคคลที่มีส่วนร่วมและสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่กระทำผิดอาญาจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 ราย จะถูกดำเนินคดี
ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และร่วมกันกระทำโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบายเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ในคดีภาษีอากรต้องระวางโทษจำคุก 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 -200,000 บาท ถ้าคดีนี้ฟ้องได้ ก็มีโอกาสที่ประเทศจะได้เงินกลับคืนมา สำหรับคดีนี้เกี่ยวพันกับบริษัทใหญ่หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขายสินทรัพย์ของ ปรส. ที่ผ่านมา เคยตั้งนายยุวรัตน์ กมลเวชช เป็นกรรมการตรวจสอบ และได้ตั้งประเด็นในการตรวจสอบตรงกับการสอบสวนของดีเอสไอ การสอบสวนพบพยานหลักฐานว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหาก ดีเอสไอ สั่งฟ้องคดีที่ 1 เรียบร้อย ก็จะเป็นบรรทัดฐานข้อกฎหมายที่จะมาใช้ฟ้องกรณีบริษัทอื่น ๆ ต่อไป
องทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าวใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!
ผมขีดเส้นใต้ชัดแล้ว ใครจะแย้งก็แย้งให้มันตรงหน่อย ผมจะได้ศึกษาไปด้วย
ส่วนคุณแอม มือตกฮวบ ถึงขนาดตัดเอาเพียงบางท่อนของข้อมูล เพื่อเอามาโต้แย้ง !!
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:00
เอสไอฟันธง คดี ปรส.ผิดจริง คนขายชาติตัวจริง ประชาธิปปัตย์!!! ***
นายไกรสร บารมีอวยชัย รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นประธานประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับอัยการสำนักคดีพิเศษ และที่ปรึกษาจากกระทรวงการคลัง
สรุปสำนวนคดีการขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ใช้เวลาประชุมนานประมาณ 2 ชั่วโมง ร่วมกันแถลงว่า
ในการสอบสวนมุ่งถึงการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จากการนำทรัพย์สินของ 56 สถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการ มูลค่า 851,000 ล้านบาท ไปประมูลขายเพียง 190,000 ล้านบาท และการดำเนินการของ ปรส. ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่มุ่งแก้ไข ระบบสถาบันการเงินด้วยการฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินการ
แต่ขั้นตอนดำเนินการของ ปรส. กลับไม่แยกหนี้ดี หนี้เสีย เพื่อแยกหนี้ดีไปให้กับธนาคารรัตนสิน จำกัด (มหาชน) นำไปบริหาร ทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ
รายงานระบุว่า คดี ปรส. มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 5 คดี
ประกอบด้วย
คดีที่ 1 กรณี บริษัท เลห์แมนบราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงค์ ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมโกลบอลไทยพร็อพเพอร์ตี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2541 ยอดคงค้างทางบัญชี 24,616.95 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 11,520 ล้านบาท
คดีที่ 2 กรณีบริษัท โกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอล ยอดคงค้างทางบัญชี 115,890.96 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 22,454.87 ล้านบาท
คดีที่ 3 - 4 กรณี บริษัท เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับ กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 1 - 3 ยอดคงค้างทางบัญชี 64,303.34 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 23,176.38 ล้านบาท
คดีที่ 5 กรณี บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมวีแคปปิตอล ยอดคงค้างทาง บัญชี2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท
ในคดีที่ 1 มีการสอบปากคำพยานบุคคล ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวม 106 ปาก แยกประเด็นการสอบสวนออกเป็นประเด็นข้อกฎหมายและประเด็นข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้หลักฐานถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปสถาบันการเงิน และกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงการจงใจหลีกเลี่ยงภาษี
หลายกรณี ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 10 ประเด็น
ประกอบด้วย
1. ปรส. ยินยอมให้นิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. เข้าประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. โดยมิชอบ
2. คณะกรรมการ ปรส.บางคนมีส่วนเกี่ยวข้อง ปกปิดข้อเท็จจริง กระทำการโดยไม่โปร่งใส
3. ข้อกำหนดของ ปรส. ที่ให้ผู้ชนะการประมูลโอนสิทธิได้ขัดต่อกฎหมาย
4. การโอนสิทธิ ของผู้ชนะการประมูลไม่ชอบ ขัดต่อ พ.ร.ก.ปรส.
5. ข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของคณะกรรมการ ปรส. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
6. คณะกรรมการ ปรส. และกลุ่มนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. ฝ่าฝืนข้อสนเทศการขายทรัพย์สิน
7. กองทุนรวมที่รับโอนสิทธิจากผู้ชนะการประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. ยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
8. มีการทำสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
9. สิทธิของนิติบุคคลที่ชนะการประมูลไม่สมบูรณ์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของปรส. และ
10. ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปรส.บางคนขาดคุณสมบัติ เนื่องจากดำรงตำแหน่งทับซ้อนกับสถาบันการเงินอีกแห่ง
การขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินทั้ง 56 แห่ง ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความผิดทางอาญา
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!
แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรหลังจากนี้ กรรมการ ปรส. ที่รู้เห็นเกี่ยวข้องโดยตรงในการขายและนิติบุคคลที่มีส่วนร่วมและสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่กระทำผิดอาญาจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 ราย จะถูกดำเนินคดี
ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และร่วมกันกระทำโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบายเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ในคดีภาษีอากรต้องระวางโทษจำคุก 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 -200,000 บาท ถ้าคดีนี้ฟ้องได้ ก็มีโอกาสที่ประเทศจะได้เงินกลับคืนมา สำหรับคดีนี้เกี่ยวพันกับบริษัทใหญ่หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขายสินทรัพย์ของ ปรส. ที่ผ่านมา เคยตั้งนายยุวรัตน์ กมลเวชช เป็นกรรมการตรวจสอบ และได้ตั้งประเด็นในการตรวจสอบตรงกับการสอบสวนของดีเอสไอ การสอบสวนพบพยานหลักฐานว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหาก ดีเอสไอ สั่งฟ้องคดีที่ 1 เรียบร้อย ก็จะเป็นบรรทัดฐานข้อกฎหมายที่จะมาใช้ฟ้องกรณีบริษัทอื่น ๆ ต่อไป
องทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าวใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!
ผมขีดเส้นใต้ชัดแล้ว ใครจะแย้งก็แย้งให้มันตรงหน่อย ผมจะได้ศึกษาไปด้วย
ส่วนคุณแอม มือตกฮวบ ถึงขนาดตัดเอาเพียงบางท่อนของข้อมูล เพื่อเอามาโต้แย้ง !!
เอามาให้ดูแล้วก็ไม่อ่านอีก
ตามที่ขีดเส้นใต้สีแดงไว้นั้นละ คือ วัตถุประสงค์ หรือ หน้าที่ ที่ ปรส. ต้องไปทำ
ตาม พรก. ที่ออกโดย ชวลิต เป็นนายกฯ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ต้องบอกว่า ปรส. ทำตามวัตถุประสงค์ของกฏหมายแล้วต่างหาก เพราะกฏหมายบอกว่าให้ขายหรือจำหน่ายได้
แต่จำหน่ายแล้วห้ามขาดทุนเท่าไหร่หรืออย่างไร กฏหมายไม่ได้กำหนดไว้ อย่าคิดเอาเอง
คณะกรรมการ ปรส. ในที่นี้ จะผิดได้ก็แค่กรณีเดียวเท่านั้น คือ ฮั้วกับผู้ประมูล
ดังนั้นถ้าไม่มีหลักฐานว่า คณะกรรมการ ปรส. ฮั้วกับผู้ประมูลแล้ว
การกระทำของ ปรส. ทั้งหมด ถือว่าชอบด้วย พรก. นี้แล้วทั้งสิ้น
Edited by Ricebeanoil, 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:10.
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:15
และการดำเนินการของ ปรส. ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่มุ่งแก้ไข ระบบสถาบันการเงินด้วยการฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินการ
ส่วน คำว่า แก้ไขฟื้นฟู ในมาตรา 7 ..... คือการเอาไปขายต่างชาติถูกๆ ?
Edited by Tam-mic-ra., 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:16.
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:34
และการดำเนินการของ ปรส. ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่มุ่งแก้ไข ระบบสถาบันการเงินด้วยการฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินการ
ส่วน คำว่า แก้ไขฟื้นฟู ในมาตรา 7 ..... คือการเอาไปขายต่างชาติถูกๆ ?
อย่ามาตลกดีกว่า
ไฟแนนซ์ที่โดนสั่งระงับการดำเนินการมีทั้งหมด 58 แห่ง
คณะกรรมการ ปรส. ให้ไฟแนนซ์เหล่านั้นส่งแผนฟื้นฟูมาให้พิจารณา
แต่ทั้ง 58 แห่งมีเพียง 2 แห่งเท่านั้นที่ทำได้ คือ
1. บง.เอไอจีไฟแนนซ์ (จำชื่อเดิมไม่ได้ แต่หลังจากออกแผนฟื้นฟูได้ ถูกกลุ่มเอไอจีซื้อไป ต่อมาไปรวมกับ ธ.กรุงศรี)
2. บงล.เกียรตินาคิน (ต่อมากลายเป็น ธ.เกียรตินาคิน ในปัจจุบัน)
ดังนั้นจึงเหลือไฟแนนซ์แค่ 56 แห่งที่ถูกปิด ทรัพย์สินทั้งหมดจึงถูกโอนให้ ปรส. จัดการตาม พรก. ฉบับนี้
อย่าตัดตอนเฉพาะสิ่งที่ต้องการดีกว่า
คณะกรรมการ ปรส. เค้าให้ส่งแผนมาพิจารณาแล้ว ถ้าผ่านก็ได้รับการ "ฟื้นฟูฐานะ" แต่ไม่ผ่านเลยโดนปิด
อย่าตัดตอนเอาเฉพาะที่อยากโจมตี
Edited by Ricebeanoil, 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:39.
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:02
กระทู้แมงสาป ปั่นหัว แมงสาป เห็นแล้วสังเวชใจแท้
จะด่าใคร “โง่” กรุณาโชว์ความ “ชาญฉลาด” วิพากษ์วิจารณ์อย่างน้อย 3 บรรทัด
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:25
กระทู้แมงสาป ปั่นหัว แมงสาป เห็นแล้วสังเวชใจแท้
ไม่มีความรู้อะไร แต่อยากเสร่อแสดงความเห็นว่างั้น สมเพชดีแท้
นี่เหรอ ระดับมือดีจากพระนคร มีฝีมือแค่นี้เอง
Edited by Ricebeanoil, 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:45.
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:30
ส่วนคุณแอม มือตกฮวบ ถึงขนาดตัดเอาเพียงบางท่อนของข้อมูล เพื่อเอามาโต้แย้ง !!
อธิบายให้ชัดเจนหน่อย
ผมก็อยากรู้ว่ามือตกเป็นยังงัย
ที่จริงกลับคิดว่ามือขึ้นนะ กระทู้ชุดความจริงที่เจ็บปวด....ลูกค้าตรึม
55555
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:43
POPULAR
เรื่องปิดสถาบันการเงินน่ะ
อ.รังสรรค์แกเรียกว่าเป็นเงินดาวน์ก่อนปล่อยกู้ของ IMF
แต่จะเรียกอย่างไรมันก็คือชื่อที่ตั้งเพื่อสะท้อนมุมมอง
ข้อเท็จจริงก็คือ จิ๋วทำประเทศถังแตก ล้มละลาย ไม่มีเงินทำให้ประเทศยืนอยู่ได้
มันกับทีมเศษสะเก็ดที่มีทักสินเป็นหัวหน้า ก็เลยต้องไปกราบตรีน เชิญฝรั่งมารับจำนำประเทศไทย
ฝรั่งมันก็วางเงื่อนไขเอาตามใจชอบ ไอ้จิ๋วก็ต้องยอมไปทุกอย่าง
พอลงชื่อรับความผูกพันแล้ว มันก็ได้เงินก้อนแรก ก้อนใหญ่มาอุดรูรั่ว
ฝรั่งให้มาก้อนแรก จากนั้นก็รอจิ๋วส่งการบ้าน เพื่อแลกเงินก้อนต่อไป
จิ๋วก็ลาออก ทิ้งข้อสอบ IMF ให้หัวหน้าชวนทำต่อ
ชวนไม่ทำ IMF ก็หยุดป้อนเงิน ชวนอยากได้เงินก็ต้องทำตามเงื่อนไขที่จิ๋วไปเซ็นจำนำประเทศไว้
เรื่องก็มีแค่นี้แหละ
ไปลากเรื่องอื่นๆ มาโพสต์ ยิ่งพูดก็ยิ่งกราตึ้บจิ๋ว จิ๋วเจ็บก็กระเทือนแม้ว
เพราะสองคนเป็นคู่หูดิ่งนรก
ทำประเทศถังแตก แต่ตัวเองรวยกระเป๋าตุง
รู้หรือไม่ว่าจิ๋วเอาเงินที่ใหนไปซื้อตึกที่ข้างโรงพยาบาลเลิศสิน
สมเป็นของเบ้งจริงๆ
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:21
ชวนจำใจทำเพราะไอ้จิ้ว-แม้วมันไปเซ็นสัญญาทาสไว้ก่อนหน้านี้แล้วต่างหาก จะยกเลิกก็ไม่ได้เพราะประเทศไทยขาดเงินต้องการเงินจาก IMF
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:25
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:08
กระทู้แมงสาป ปั่นหัว แมงสาป เห็นแล้วสังเวชใจแท้
ไม่มีความรู้อะไร แต่อยากเสร่อแสดงความเห็นว่างั้น สมเพชดีแท้
นี่เหรอ ระดับมือดีจากพระนคร มีฝีมือแค่นี้เอง
ขนาดฝีมือแค่นี้ ยังกุดหัว กวาดล้างเหลืองเกรียนล้มตาย ไม่รู้กี่รายต่อกี่รายแล้วล่ะ
จะด่าใคร “โง่” กรุณาโชว์ความ “ชาญฉลาด” วิพากษ์วิจารณ์อย่างน้อย 3 บรรทัด
ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:11
เรารู้...ว่านายเจ็บ
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน