ธีระชัย" อดีตขุนคลังรัฐบาลปู 1 จัดเต็มใส่ "คน(เคย)กันเอง" เตือนให้ระวังที่มุ่งกู้ 2 ล้านล้านเน้น "รถไฟความเร็วสูง" ซึ่งการลงทุนจะไม่คุ้ม ส่อต้องใช้หนี้ถึง 100 ปี ไม่ใช่ 50 ปีตามที่กล่าวอ้าง ชี้แนะควรทำ "ระบบรางคู่" ให้เต็มระบบทั่วปท.ก่อน จากนั้นค่อยลุยระบบรางรอบกทม. ส่วน "รถไฟความเร็วสูง" ควรทำเป็นสิ่งสุดท้าย
วันที่ 2 เม.ย. 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง ในรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยติติงรัฐบาลที่มุ่งแต่จะดำเนินนโยบายประชานิยม ที่กู้ 2 ล้านล้านบาท เน้นโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง แต่อาจทำให้ประเทศไทยต้องใช้หนี้กว่า 100 ปี ไม่ใช่ 50 ปีตามที่กล่าวอ้าง
โดยข้อความที่นายธีระชัยโพสต์บนเฟซบุ๊ค มีรายละเอียดดังนี้...
เมื่อคืนนี้ ผมได้ไปงานศพและได้มีโอกาสพูดคุยกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในกระทรวงคมนาคม ผมสอบถามท่านว่า ในแง่ข้าราชการ ได้วางแผนการลงทุนในระบบรถไฟของประเทศไว้อย่างไร ท่านแจ้งให้ผมทราบว่า
1.ความสำคัญลำดับหนึ่ง ควรจะลงทุนในการสร้างรางคู่ให้เต็มระบบทั่วประเทศ ระบบรางคู่ดังกล่าว จะเปิดให้รถไฟสามารถสวนทางกันได้ โดยไม่ต้องจอดรอในทางเบี่ยง ระบบรางคู่จึงจะทำให้การเดินทางขนส่งผู้โดยสารทำได้รวดเร็วขึ้นอยู่แล้ว และจะทำให้การขนส่งสินค้าสะดวกมากขึ้น รวมทั้งจะลดความเสี่ยงอุบัติเหตุด้วย ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนขนาดรางให้กว้างขึ้นเกินกว่า 1 เมตรด้วย เพราะตัวโบกี้รถไฟของเราทั้งหมดมีล้อกว้าง 1 เมตร แต่การขนส่งออกไปต่างประเทศนั้น สามารถทำได้โดยใช้คอนเทนเนอร์วางบนโบกี้ และเมื่อเดินทางไปจนสุดชายแดนของไทย ก็สามารถยกตู้คอนเทนเนอร์ย้ายไปตั้งบนโบกี้รถไฟของประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างสะดวก
2.ความสำคัญลำดับสอง ควรจะลงทุนในระบบรางในบริเวณรอบกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นศุนย์กลางทางธุรกิจที่จำเป็นต้องบริหารจัดการด้านเวลาในการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารให้ทำได้รวดเร็วมากขึ้น
3.ความสำคัญลำดับสาม ถ้ามีเงินเหลือหลังจากลงทุนลำดับหนึ่งและลำดับสองแล้ว จึงค่อยคิดอ่านลงทุนในระบบรถไฟความเร็วสูง เพราะการลงทุนใช้เงินสูง เพื่อให้คุ้มทุน จึงจำเป็นต้องคิดค่าโดยสารในราคาสูง คาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการน้อย
ดังน้ั้น ในความเห็นของผม หากไม่ระมัดระวังและทุ่มลงทุนในระบบรถไฟความเร็วสูงไปตั้งแต่ต้น โครงการลงทุนน่าจะไม่คุ้มทุน และมีโอกาสที่จะกลายเป็นภาระต่องบประมาณในอนาคต เพราะรัฐบาลในขณะนั้น อาจจะจำเป็นจะต้องคิดค่าโดยสารในราคาต่ำกว่าทุนเพื่อเป็นประชานิยม ถ้าเป็นเช่นนี้ โอกาสที่จะชำระหนี้คืนภายใน 50 ปี ก็อาจจะเป็นเพียงแต่ความฝัน ระวังมันจะเลื่อนไปเป็น 100 ปีแทนนะครับ...
http://thaiinsider.i.../22342---100-50