Jump to content


Photo
- - - - -

เมื่อน้ำแล้งเราก็มีฝนหลวง

พระราชกรณียกิจ ฝนหลวง ในหลวงของปวงชนชาวไทย

  • Please log in to reply
2 replies to this topic

#1 momentum

momentum

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 9 posts

Posted 4 April 2013 - 13:44

...แต่มาเงยดูท้องฟ้า มีเมฆ ทำไมมีเมฆอย่างนี้ ทำไมจะดึงเมฆนี่ลงมาให้ได้ ก็เคยได้ยินเรื่องการทำฝน ก็มาปรารภกับคุณเทพฤทธิ์ ฝนทำได้มี มีหนังสือ เคยอ่านหนังสือทำได้..."
 
พุทธศักราช2498จึงได้มีพระราชดำริค้นหาวิธีการ ที่จะทำให้เกิดฝนตกนอกเหนือจากที่จะได้รับจากธรรมชาติโดยนำเทคโนโลยีนำสมัยและทรัพยากร ที่มีอยู่ประยุกต์กับศักยภาพของการเกิดฝนในเขตร้อน เช่น ประเทศไทยมุ่งขจัดปัญหา ความเดือดร้อนดังกล่าว และทรงมีพระราชหฤทัยเชื่อมั่นว่าวิธีการดังกล่าวนี้ จะทำให้การพัฒนาระบบการจัดทรัพยากรน้ำของชาติเกิดความพร้อมและครบบริบูรณ์ตามวัฎจักรของ น้ำ คือ
1. การพัฒนาระบบ การจัดการทรัพยากรแหล่งน้ำใต้ดิน
2. การพัฒนาระบบ การจัดการทรัพยากรแหล่งน้ำผิวดิน
3. การพัฒนา การจัดการทรัพยากรแหล่งน้ำในบรรยากาศ
 
ทรงเชื่อมั่นในพระราชหฤทัย ว่าด้วยลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศ ของประเทศจะสามารถดำเนินการให้บังเกิดผลสำเร็จได้ อย่างแน่นอน ดังนั้น ในปีพุทธศักราช 2499 จึงได้ทรงพระมหากรุณาพระราชทานโครงการพระราชดำริ "ฝนหลวง" ให้หม่อมราชวงศ์ เทพฤทธิ์ เทวกุล รับไปดำเนินการศึกษาวิจัยและการพัฒนากรรมวิธีการทำฝนให้บังเกิดผลโดยเร็ว
 
sample1.jpg
 
 


#2 Redbuffalo010

Redbuffalo010

    พ่อไอัควายแดงทุกตัว

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,120 posts

Posted 4 April 2013 - 15:38

ภาคกลางในวันที่แห้งแล้ง กับสายฝนพระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัวไทย

 

Đầu tháng 3 năm 2005, tôi đang học tại Học viện Công nghệ Châu Á (AIT) có trụ sở tại Thái Lan. Thời điểm đó đất nước Thái đang khô hạn trầm trọng. Việt Nam chúng ta cũng vậy, đặc biệt là miền Trung, đồng bào ta đang "chết khát".

 

ต้นเดือนมีนาคม 2005 ผมกำลังเรียนที่ AIT ในประเทศ ในเวลานั้นประเทศไทยประสบปัญหาหนักจากภัยแล้ง ประเทศเวียตนามของผมก็เช่นกัน โดยเฉพาะภาคกลาง”ประชาชนกำลังอดน้ำตาย”

 

Qua yahoo chat, thằng bạn thân của tôi cho biết nhà nó vừa chết 30 con bò vì không có nước ngọt cho chúng uống. Đối với cậu ấy, ngoài việc tiếc vì mất của nó còn đau xót vì cái sự bất lực trong việc tìm nước ngọt. Trong lúc tôi đang chia sẻ nỗi buồn với thằng bạn, thì điện thoại trong phòng reng lên. Một người bạn Thái Lan hào hứng báo rằng, 9:15 phút sáng ngày mai mày sẽ được hưởng “King rain” của tụi tao. Cô bạn này cũng giải thích, King rain là cơn mưa nhân tạo do đức vua Thái Lan tài trợ từ nguồn kinh phí thu được từ việc bán vé cho khách tham quan cung điện nhà vua. King rain xảy ra tại một khu vực lân cận campus của AIT, nơi đang cần nước ngọt cho nông nghiệp và AIT cũng hưởng chút ít.

 

จากการพูดคุยกับเพื่อนผ่านทาง yahoo ทราบว่าวัวที่เพื่อนเลี้ยงไว้เพิ่งตายไป 30 ตัวเนื่องจากไม่มีน้ำให้ดื่ม สำหรับเพื่อนคนนี้ นอกจากเสียใจกับการสูญเสียฝูงวัวแล้ว เค้ายังหมดกำลังใจที่จะหาน้ำมาใช้ ในขณะที่ผมกำลังปลอบใจเพื่อนคนนี้อยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึน เพื่อนคนไทยที่ปลายสายพูดด้วยนำเสียงที่ตื่นเต้นว่า 9 โมง15 พรุ่งนี้พวกเราจะได้รับฝนพระราชทาน พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า ฝนพระราชทานคือฝนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยสนับสนุนจากเงินที่เก็บค่าผ่านประตูเยี่ยมชมพระราชวัง ฝนพระราชทานจะตกลงบริเวณหอพัก AIT เพราะบริเวณนี้ต้องการน้ำเพื่อเกษตรกรรม

 

Hầu như đêm đó tôi không ngủ được, tôi không rõ mình đang chờ đợi cái gì. Khoảng 8:30 sáng ngày hôm sau, tôi cảm bầu trời tại AIT thay đổi, trời không nắng dữ dội như mọi ngày nữa. 9:11 phút thì có những hạt mưa li ti. 9:20 thì mưa bắt đầu lớn, cơn mưa kéo dài được gần 45 phút. Trong cơn mưa “King rain” tôi đạp xe đạp lòng vòng campus của AIT và tôi đã khóc. Tôi khóc cho gia đình thằng bạn tôi, cho người miền trung quê thằng bạn, và tôi khóc cho chính tôi

 

ดูเหมือนว่าคืนนั้น ผมจะไม่ได้หลับ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมกำลังรอคอยการมาถึงของใคร ประมาณ 8.30 เช้าวันต่อมา ผมมองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงบนท้องฟ้าบริเวณ AIT อากาศไม่ร้อนเหมือนเช่นทุกวัน เวลา 9.11 ฝนเริ่มโปรยปรายลงมา 9.20 ฝนเริ่มตกหนัก และตกหนักอย่างนั้นประมาณ 45 นาที ท่ามกลางสายฝนพระราชทาน ผมได้ปั่นจักรยานไปรอบๆสถาบัน AIT พร้อมกับร้องไห้ ร้องไห้ให้กับครอบครัวของเพื่อน ให้กับชาวภาคกลางที่กำลังประสพภัยแล้ง และร้องไห้ให้แก่ตัวเอง

.........

 

Tôi vẫn tìm thấy trên trang web của Bộ Tài nguyên - Môi trường thông tin về năm 2010 Việt Nam sẽ có mưa nhân tạo của năm nào. Tôi đọc kỹ lời trả lời phỏng vấn báo chí của vị Viện Trưởng Viện Khí tượng thủy văn, Bộ Tài nguyên - Môi trường đáng kính của chúng ta năm 2004. Tôi bỗng giật tỉnh cả người vì nội dung của nó. Xin tóm tắt những điểm chính như sau “nếu tiến hành tốt thì hiệu quả kinh tế của việc làm mưa nhân tạo có thể gấp 10 tới 20 lần số kinh phí bỏ ra. Nhưng kinh phí để làm đề án nghiên cứu tạo mưa nhân tạo vào khoảng 50-60 tỷ đồng. Đây là số tiền lớn, vì vậy chúng tôi phải thận trọng từng bước, bảo đảm chắc chắn thành công”.

 

ติดตามข่าวเก่าๆในเวบไซต์ของกระทรวงทรัพยากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่าเวียตนามจะทำฝนเทียมได้ในปี 2010 ผมจึงอ่านอย่างละเอียดคำให้สัมภาษณ์ของฯพณฯอธิบดี กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯที่ให้สัมภาษณ์ในปี 2004 ว่า”การทำฝนเทียม ถ้าทำตามหลักการณ์สามารถส่งผลดีถึงเศรษฐกิจ 10 ถึง 20 เท่าของค่าใช้จ่ายที่ลงทุน แต่ทุนทีจะวิจัยศึกษาสูงถึงหลายร้อยล้านบาท ซึงเป็นจำนวนเงินที่มาก ดังนั้นพวกผมจึงต้องพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เมื่อลงมือทำต้องสำเร็จ”

 

 

Buồn và thất vọng, tôi viết email cho một vài người bạn mong nhận được sự cảm thông. Một vài ngày sau, một anh bạn rất thân của tôi đã gởi một tin nhắn ngắn gọn “Việt Nam đâu có vua, nên làm gì có ai tạo mưa cho dân, còn khuya”. Cái tin nhắn này như một mũi tên đâm thẳng vào tim tôi. Khi tôi choáng váng thì bà xã tôi thông báo, trên VTV1 chính phủ thông báo sẽ hỗ trợ cho nông dân vùng bị hạn. Một lần nữa tôi đặt trọn niềm tin vào chính phủ. Thật ra tôi chẳng biết tin ai có thể giúp đồng bào tôi trong việc này. Không nhẽ tôi lại đặt niềm tin vào nhà vua Thái Lan Bhumibol Adulyadej.

Tôi sẽ tiếp tục chờ đợi cái ngày mình sẽ được khóc rất to, khóc hạnh phúc dưới cơn mưa nhân tạo đầu tiên tại Việt Nam, một cơn mưa vì dân.

 

อ่านจบ ผมรู้สึกเศร้าใจและผิดหวัง ผมจึงเขียนอีเมล์ไปถึงเพื่อนด้วยหวังว่าจะได้รับคำปลอบใจ จากนั้นไม่กี่วัน เพื่อนสนิทของผมคนหนึง ได้ตอบกลับมาว่า “ เวียตนามไม่มีพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นจะมีพระเจ้าอยู่หัวที่ไหนมาทำฝนเทียมให้กับพสกนิกร คอยไปเถอะ” ข้อความนี้เหมือนกับลูกศรที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของผม ขณะที่ผมทำอะไรไม่ถูก ภรรยาผมเดินเข้ามาบอกว่า รัฐบาล(เวียตนาม) เพิ่งประกาศออกทีวีสถานี VTV ว่าจะจ่ายค่าชดเชยให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง อีกครั้งหนึงที่ผมฝากความหวังไว้กับรัฐบาล เพราะผมไม่รู้ว่าจริงๆแล้วจะมีใครมั้ยที่สามารถจะช่วยเกษตรกรที่ประสพปัญหาจากภัยแล้ง หรือว่าผมจะต้องฝากความหวังไว้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ของประเทศไทย

 

ผมจะรอคอยต่อไปจนถึงวันที่ผมได้ร้องไห้เสียงดัง ร้องไห้อย่างมีความสุข ภายใต้ฝนเทียมในประเทศเวียตนาม ฝนเทียมเพื่อประชาชน

http://vnexpress.net...7/3ba1e1da/?p=2


Edited by redbuffalo0110, 4 April 2013 - 15:39.

อย่าเชื่อในสิ่งที่ไอ้แม้วและไอ้พวกแกนนำ นปช. พูด
แต่ให้ดูในสิ่งที่พวกมันทำ


#3 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

Posted 5 April 2013 - 03:33

ใช่ครับ....เพราะเหตุนี้เราจึงมีคำพูดประโยคที่ว่า

 

"เย็นศิระเพราะพระบริบาล" ใต้ร่มพระบารมี ไงครับ !!! ^_^ ^_^


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย





1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users