ลุงเบอร์ 7 ก็โดนยิง แถมเล่าด้วยว่าใครยิงเขาและนักข่าว
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:46
ลุงเบอร์ 7 ก็โดนยิง แถมเล่าด้วยว่าใครยิงเขาและนักข่าว
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:51
ลุงเบอร์ 7 ก็โดนยิง แถมเล่าด้วยว่าใครยิงเขาและนักข่าว
ลุงเบอร์พูดเหมือนสิงห์สนามหลวงเลย..
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:05
ขำ RaRa เรื่องเฟรมเรท
ไปก๊อป http://fuse.in.th/blogs/diy/3146 มาแท้ๆ หลอกกัน..ว่ารู้เรื่องนี่หว่าครับ
แล้วเอามาปะติดปะต่ออะไรก็ไม่รู้ อ่านแล้ว งง ตกลงจะเชื่อ5M หรือไม่เชื่อกันแน่หว่า
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:06
ขำ RaRa เรื่องเฟรมเรท
ไปก๊อป http://fuse.in.th/blogs/diy/3146 มาแท้ๆ หลอกกัน..ว่ารู้เรื่องนี่หว่าครับ
แล้วเอามาปะติดปะต่ออะไรก็ไม่รู้ อ่านแล้ว งง ตกลงจะเชื่อ5M หรือไม่เชื่อกันแน่หว่า
ไอ้แต๋ม เ้อ้ย
คนทำงานด้านนี้ เค้ารู้กันอยู่แล้ว
ไม่ต้องหาจากเวปหรอกว่ะ
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:08
== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==
เห็นด้วยคับน่าตั้งชื่อนี้มากคับ
Edited by MOD_09, 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:45.
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:47
ง่ายเลยคุณนามิ คุณดูสิ่งที่สิงห์สนามหลวงกำลังทำอยู่ตอนนี้ซิ นอกจากการเล่นคำที่ไร้สาระแล้ว
ทำไมต้อง "มีใจเป็นธรรมจริง ก็จะเห็น..." ด้วย?
เรื่องยิงเสื้อแดงหน้ากองสลาก ผมสรุปหลักฐานไว้ ยังไม่มีใครแย้งได้ซักคน ถือว่ายอมรับโดยพฤตินัย
คนที่บอกว่าเสื้อแดงโดนหลอกมายิง ก็บ่มิไก๊เหมือนกันนะฮะ
ต่อให้ถึงหน้า 50 "สิงห์เร็วกว่าแสง" ก็ไม่มีอะไรมากกว่าเดิม
นอกจากตะแบงว่าโน่นนี่เชื่อไมได้ ยังไม่เห็นจะมีอะไรเชื่อได้มากกว่าเลย
สิ่งที่ลวกเพี่ยของนามิ พอจะแย้งได้ ก็อยู่ที่กรณีคุณวสันต์
แต่ถ้านามิจะมีใจเป็นธรรมจริง ก็จะเห็นว่าฝ่ายแดงอย่างสิงห์สาคู หรือฝ่ายเราอย่างเสรีไทย
ใครจริงใจกว่ากัน ในการค้นหาความจริง...
----- ศรอรขุน -----
มีอะไรอีกเยอะแยะ ที่ทดสอบความไม่จริงใจ
และถ้าคุณวัดความจริงใจ ด้วยวาทกรรมนี้ มันก็เป็นการเริ่มความไม่จริงใจแล้ว
มีหลักฐานพยานอะไรบ้างที่มาแย้ง หลักฐานพยานของผม (ไม่ต้องเสียเวลาไปอ่านย้อนหลัง ผมตอบให้เลยว่าไม่มีครับ)
ฝ่ายผม และชาวเสรีไทย เรายอมรับกันที่หลักฐาน ความจริง
แต่คู่หูสิงห์สาคู กลับนำเพียงลมปากไร้สาระ มาแย้งพวกเรา...
คุณนามิคงเคยได้ยินประโยคนี้ ...
"ความจริง หรือจะสู้ จินตนาการ"
ขำศรอรชุนอ่ะ ที่ศรอรชุนเชื่อลมปากการ์ดนปช.+คนเสื้อแดง บางคน
แต่ถ้าสิงห์เอาคำต่อคำของคนเสื้อแดงบางคนที่ศรเคยเชื่อมาลง
ศรอรชุนก็จะบอก "ไม่เชื่อ" บลาๆๆๆ ในทันที ทั้งที่เป็นบุคคลคนเดียวกัน
ทีเราแย้ง ศร ยังตัดบทเอาดื้อๆ
ภาพที่โพสไว้หลังสุด ก็มีที่ให้แย้ง
แต่เราไม่แแย้งละ เพราะเห็นอยากจะต่อปากต่อคำกันแค่ 2-3 คน เรามันนอกวงโคจร #ยอมรับ
ถ้าให้สิง สาคูนำอะไรมาให้ แบบปอกกล้วยเข้าปาก พวกคุณก็แค่ตัดบทเอาดื้อๆ ง่ายๆตามสไตล์
ด้วยเหตุนี้ เราถึงสนับสนุนวิธีตอบโต้ของสิง และสาคู คือการให้พวกคุณไปหากันเอง
แต่ถ้าจะเฉลย เราก็อยากจะรู้ด้วย แค่นั้นแหละ
21 หน้า... 1, 044 ความเห็น คนดูกว่า 15, 000 ครั้ง
แล้วครับ พี่น้อง สาคู สิงห์ เว้ยเฮ้ย !!!
สิงห์ฯ ก็ยังไม่มีอะไรมาแสดง เพ้อหาแต่ยอดหญ้าอย่างเดียว
สาคูเอ็มก็ไม่มีอะไรมาแสดง งั้นผมสรุปละว่า ...
คุณวสันต์ ไม่ได้โดนทหารยิงตาย
จาก สองรูปนี้ เนื่องจากมีผู้ชุมนุมบังทิศทางยิงหน้าคุณวสันต์
ถ้าสิงห์สาคู จะแย้ง ก็นำหลักฐานมาแย้ง ก็แล้วกัน...
ทหารคนไหนยิง ยิงยังไง ก็ว่ามา
ถ้าไม่มีอะไรแย้ง มาเพ้อพร่ำรำพันหายอดหญ้า ถือว่ายอมรับโดยปริยาย
แย้งให้เห็น เป็นตัวอย่าง
--------------ถ้า--------------- คนยิง ยึืนอยู บริเวณ เส้นปะ ที่แบ่งเลนถนน ทางด้านซ้าย จากรูป
คนที่5 ที่ศร... บอกว่า ยึนบัง จนมิด จะต้องอยู่ ห่างจาก นายวสันต์ ประมาณ กี cm
รูปที่ศร... สร้างวงรี ขาดคนที่สำคัญ(เดิน) ไป 1 คน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--. ปล1 --คลิปนั้น-- คุณ สิงห์สนามหลวง มีอยู่มาตั้ง พอสมควร --พร้อมหลักฐานประกอบ--
-- ปล2 สิ่งที่เรา บอกไปแล้ว คือ ไม่ใช้เบอร์3 และ ถ้ากระสุนไม่หมด ได้ยินมากกว่า 9 นัด จำไว้ ศร....
.
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:53
อธิบายหน่อยได้มั้ยครับ ว่าทำไมเฟรมเรทไม่ตรงกันแล้วถึงเอามาเทียบเวลาไม่ได้?
เฟรมเรท (Frame Rate) คืออัตราที่ภาพเคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที ยกตัวอย่าง
ตาของคนเราสามารถมองเห็นภาพที่เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 24 ภาพต่อวินาที
หากเกินกว่านั้น เช่น 30 ภาพต่อนาที จะมองเห็นเป็นภาพต่อเนื่องหรือภาพวีดีโอ
ซึ่งในวงการภาพยนตร์จึงได้กำหนดค่าเฟรมเรท หรือภาพที่เคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที
เอาไว้ในช่วง 25-30 ภาพต่อวินาที เพื่อสร้างเป็นภาพต่อเนื่องที่สายตาของเรายอมรับได้
แต่ ความสามารถของกล้องแต่ละตัวไม่เท่ากัน และ ตั้งค่า FPS ไว้ต่างกัน
เมื่อนำมาเทียบกันแล้วมันจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้นะครับ
การถ่ายวิดีโอที่เฟรมเรทปกติ 24-25 เฟรม/วินาที
แล้วนำไฟล์ที่ได้ไปเปิดตัดต่อในโปรเจ็คต์ที่ "ตั้งค่าเฟรมเรทเท่ากัน"
เวลาเอาไปลดสปีดเพื่อทำภาพสโลโมชั่นแบบช้ามากๆ ต่ำกว่า 50% ลงไป
การเคลื่อนไหวของภาพอาจดูไม่ค่อยลื่นไหล และเกิดอาการเงาซ้อนในภาพอยู่บ้าง..!!!
ดังนั้น แสง เสียง ที่นำมาเทียบหน่วยกันเป็น m.sec มันอาจจะเกิดคลาดเคลื่อนได้ และ ที่สำคัญ
กล้องทั้งสองตัว อยู่คนละตำแหน่งอีกด้วย ต้นกำเนิดเสียง ก็ต้องไม่ตรงกัน ( จริงไหมครับ ? )
ขนาดการทดสอบ เฟรมเรท ใช้กล้อง 2 ตัว ( คนละรุ่น ) วางตำแหน่งเดียวกัน ค่าที่ได้ยังไม่เท่ากันเลยครับ
แล้วนี่ กล้องอยู่ตำแหน่งไหน ก็ไม่รู้ ต้นกำเนิดเสียง อยู่ไหนก็ไม่รู้อีก แต่ดันเอามาเทียบกันได้......งง ไหมครับ ??
มันจะได้ก็เพียง "ค่าประมาณ และ กะกะเอา" เท่านั้นแหล่ะครับ...( ตามที่ ไอ้คางคก เอามานับ ให้สาวก มันดูนั่นแหล่ะ )
ป.ล. นี่เป็นเพราะเห็นว่า คุณGop ก็มีความรู้เรื่องนี้อยู่พอสมควรนะครับ ( จากการวิเคราะห์ของคุณก่อนหน้านี้ )เลยลองแลกเปลี่ยนทัศนะ กันดูครับ
1 เรื่องเฟรมเรทไม่เท่ากันของสองคลิปนั้น ผมมองว่าทำให้เกิด error แน่ๆอยู่แล้วในการเปรียบเทียบ แล้วยังมี error ที่เกิดจากการกะด้วยสายตาอีก ว่าเวลาไหน หรือเฟรมไหน ที่แสงแฟลชตรงกันตัวผมเองก็ไม่คิดจะทำตรงนี้อยู่แล้ว เพราะไม่มีเครื่องมือ เห็นคุณ mmmmm พยายามทำอยู่ ก็ได้แสดงความหวังดีไปแล้ว เค้าจะเอาไปพิจารณาหรือไม่ ก็สุดแต่เค้าล่ะครับ
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
3 แนวทางที่ผมพยายามทำก็คือพยายามเทียบ time interval ของเสียงปืนที่ได้ยินทั้งสองคลิปนั้น ถือว่าตรงกันเมื่อเราคำนึงถึงความคลาดเคลื่อนต่างๆ แล้วหรือไม่? สิ่งที่น่าทำอีกอย่าง คือการคำนวณความน่าจะเป็นที่ชุดของเสียง หรือ time interval เหล่านี้จะตรงกันโดยบังเอิญ ซึ่งผมเชื่อว่า ต้องต่ำมากๆจนถือว่าเป็น 0 ได้เลย
โดยส่วนตัว ผมมั่นใจว่าชุดเสียงปืนทั้งสองคลิปนั้นตรงกันอย่างแน่นอน
คุณ RaRa คิดอย่างไรครับ
จะไม่ทำการปรับแต่ง ข้อมูลดิบ เปรืัยบเทียบ
ซึ่ง เคย เขียนไปหลายหนแล้ว แต่ --บอกวิธี ที่้ได้รูป+ตัวเลขนั้นๆ มาอย่างไร ให้ ไปลอง ทำแล้ว นำมาแย้ง
ว่า error แค่ไหน จึงเชื่อไม่ได้
จาก สว่างมาก -กลายเป็น- มืดมาก
........
.
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:13
ขำ RaRa เรื่องเฟรมเรท
ไปก๊อป http://fuse.in.th/blogs/diy/3146 มาแท้ๆ หลอกกัน..ว่ารู้เรื่องนี่หว่าครับ
แล้วเอามาปะติดปะต่ออะไรก็ไม่รู้ อ่านแล้ว งง ตกลงจะเชื่อ5M หรือไม่เชื่อกันแน่หว่า
ไอ้แต๋ม เ้อ้ย
คนทำงานด้านนี้ เค้ารู้กันอยู่แล้ว
ไม่ต้องหาจากเวปหรอกว่ะ
มาดูคอนเสิร์ต อย่าไปสนใจ เด็กยกเครื่องเสียงเลยครับ
ผ่านๆ ไปมั่งก็ได้ครับ มองเลย นักร้องไปดูหางเครื่องดีกว่านะครับ
ตัวเองทำอย่างไรไว้ ก็คิดว่าคนอื่นต้องทำตามอย่างนั้น
ผมตามไปดูลิงค์มาแล้ว...ลิงค์อื่นๆ ก็ประมาณนี้
แสดงว่า "ลอกกันทั้งประเทศ" เลยสิครับเนี่ยยยยย....!!!
ตรรกะวิบัติแล้วแบบนี้ วิชาการต่างๆ ก็คงไม่ต้องนำมาใช้สอน
ในสถาบันการศึกษาแล้วหล่ะครับ เพราะความรู้มันจะ "เหมือนกัน" หมดทุกคน....
ป.ล. สงสัยว่าจะจนแต้ม ก็เลย "แหย่เล่น" อีกหล่ะมั้งครับ ท่านพอลคุง
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:16
อธิบายหน่อยได้มั้ยครับ ว่าทำไมเฟรมเรทไม่ตรงกันแล้วถึงเอามาเทียบเวลาไม่ได้?
เฟรมเรท (Frame Rate) คืออัตราที่ภาพเคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที ยกตัวอย่าง
ตาของคนเราสามารถมองเห็นภาพที่เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 24 ภาพต่อวินาที
หากเกินกว่านั้น เช่น 30 ภาพต่อนาที จะมองเห็นเป็นภาพต่อเนื่องหรือภาพวีดีโอ
ซึ่งในวงการภาพยนตร์จึงได้กำหนดค่าเฟรมเรท หรือภาพที่เคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที
เอาไว้ในช่วง 25-30 ภาพต่อวินาที เพื่อสร้างเป็นภาพต่อเนื่องที่สายตาของเรายอมรับได้
แต่ ความสามารถของกล้องแต่ละตัวไม่เท่ากัน และ ตั้งค่า FPS ไว้ต่างกัน
เมื่อนำมาเทียบกันแล้วมันจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้นะครับ
การถ่ายวิดีโอที่เฟรมเรทปกติ 24-25 เฟรม/วินาที
แล้วนำไฟล์ที่ได้ไปเปิดตัดต่อในโปรเจ็คต์ที่ "ตั้งค่าเฟรมเรทเท่ากัน"
เวลาเอาไปลดสปีดเพื่อทำภาพสโลโมชั่นแบบช้ามากๆ ต่ำกว่า 50% ลงไป
การเคลื่อนไหวของภาพอาจดูไม่ค่อยลื่นไหล และเกิดอาการเงาซ้อนในภาพอยู่บ้าง..!!!
ดังนั้น แสง เสียง ที่นำมาเทียบหน่วยกันเป็น m.sec มันอาจจะเกิดคลาดเคลื่อนได้ และ ที่สำคัญ
กล้องทั้งสองตัว อยู่คนละตำแหน่งอีกด้วย ต้นกำเนิดเสียง ก็ต้องไม่ตรงกัน ( จริงไหมครับ ? )
ขนาดการทดสอบ เฟรมเรท ใช้กล้อง 2 ตัว ( คนละรุ่น ) วางตำแหน่งเดียวกัน ค่าที่ได้ยังไม่เท่ากันเลยครับ
แล้วนี่ กล้องอยู่ตำแหน่งไหน ก็ไม่รู้ ต้นกำเนิดเสียง อยู่ไหนก็ไม่รู้อีก แต่ดันเอามาเทียบกันได้......งง ไหมครับ ??
มันจะได้ก็เพียง "ค่าประมาณ และ กะกะเอา" เท่านั้นแหล่ะครับ...( ตามที่ ไอ้คางคก เอามานับ ให้สาวก มันดูนั่นแหล่ะ )
ป.ล. นี่เป็นเพราะเห็นว่า คุณGop ก็มีความรู้เรื่องนี้อยู่พอสมควรนะครับ ( จากการวิเคราะห์ของคุณก่อนหน้านี้ )เลยลองแลกเปลี่ยนทัศนะ กันดูครับ
1 เรื่องเฟรมเรทไม่เท่ากันของสองคลิปนั้น ผมมองว่าทำให้เกิด error แน่ๆอยู่แล้วในการเปรียบเทียบ แล้วยังมี error ที่เกิดจากการกะด้วยสายตาอีก ว่าเวลาไหน หรือเฟรมไหน ที่แสงแฟลชตรงกันตัวผมเองก็ไม่คิดจะทำตรงนี้อยู่แล้ว เพราะไม่มีเครื่องมือ เห็นคุณ mmmmm พยายามทำอยู่ ก็ได้แสดงความหวังดีไปแล้ว เค้าจะเอาไปพิจารณาหรือไม่ ก็สุดแต่เค้าล่ะครับ
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
3 แนวทางที่ผมพยายามทำก็คือพยายามเทียบ time interval ของเสียงปืนที่ได้ยินทั้งสองคลิปนั้น ถือว่าตรงกันเมื่อเราคำนึงถึงความคลาดเคลื่อนต่างๆ แล้วหรือไม่? สิ่งที่น่าทำอีกอย่าง คือการคำนวณความน่าจะเป็นที่ชุดของเสียง หรือ time interval เหล่านี้จะตรงกันโดยบังเอิญ ซึ่งผมเชื่อว่า ต้องต่ำมากๆจนถือว่าเป็น 0 ได้เลย
โดยส่วนตัว ผมมั่นใจว่าชุดเสียงปืนทั้งสองคลิปนั้นตรงกันอย่างแน่นอน
คุณ RaRa คิดอย่างไรครับ
จะไม่ทำการปรับแต่ง ข้อมูลดิบ เปรืัยบเทียบ
ซึ่ง เคย เขียนไปหลายหนแล้ว แต่ --บอกวิธี ที่้ได้รูป+ตัวเลขนั้นๆ มาอย่างไร ให้ ไปลอง ทำแล้ว นำมาแย้ง
ว่า error แค่ไหน จึงเชื่อไม่ได้
จาก สว่างมาก -กลายเป็น- มืดมาก
........
.
ไม่ทำครับ และก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อมันนำมา "ใช้ไม่ได้" ครับ...!!!
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:24
ลุงเบอร์ 7 ก็โดนยิง แถมเล่าด้วยว่าใครยิงเขาและนักข่าว
ลุงเบอร์พูดเหมือนสิงห์สนามหลวงเลย..
ลุงแกก็เป็นตุเป็นตะเลยนะครับเนี่ย ว่า "ยิงมาจากหลังแนวทหาร" ???
สุดท้ายแล้ว จะรู้ไหมว่า คุณHiramoto โดนกระสุนอะไร จากใคร...???
แล้วจะมีการแก้ตัวภายหลังอีกไหมครับว่า ตอนนั้นมันด่วน เลยบอกบทผิดไป
เหมือนกับ คำให้สัมภาษณ์ของ ซาเล้ง มานพ , เก่ง กู้ภัย อะไรพวกนั้น...
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 20:11
1 เรื่องเฟรมเรทไม่เท่ากันของสองคลิปนั้น ผมมองว่าทำให้เกิด error แน่ๆอยู่แล้วในการเปรียบเทียบ แล้วยังมี error ที่เกิดจากการกะด้วยสายตาอีก ว่าเวลาไหน หรือเฟรมไหน ที่แสงแฟลชตรงกันตัวผมเองก็ไม่คิดจะทำตรงนี้อยู่แล้ว เพราะไม่มีเครื่องมือ เห็นคุณ mmmmm พยายามทำอยู่ ก็ได้แสดงความหวังดีไปแล้ว เค้าจะเอาไปพิจารณาหรือไม่ ก็สุดแต่เค้าล่ะครับ - เห็นด้วยครับ
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก - ใช่เลยครับ
3 แนวทางที่ผมพยายามทำก็คือพยายามเทียบ time interval ของเสียงปืนที่ได้ยินทั้งสองคลิปนั้น ถือว่าตรงกันเมื่อเราคำนึงถึงความคลาดเคลื่อนต่างๆ แล้วหรือไม่? สิ่งที่น่าทำอีกอย่าง คือการคำนวณความน่าจะเป็นที่ชุดของเสียง หรือ time interval เหล่านี้จะตรงกันโดยบังเอิญ ซึ่งผมเชื่อว่า ต้องต่ำมากๆจนถือว่าเป็น 0 ได้เลย - นี่แหล่ะครับ ช่องความถี่ของเสียง ( wave ) ที่ใช้โปรแกรมทำมา มีเพื่อน สมาชิกบางท่าน ทำมาให้ดู แล้วก็สังเกตได้เลยว่า ช่องเสียงมันไม่เท่ากันครับ และอย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่า ต้นกำเนิดเสียง ณ ขณะเวลานั้นๆ มันไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน ( ถ้าเทียบเอาระยะจากต้นทางที่บันทึก เพราะกล้อง 2 ตัว อยู่คนละตำแหน่ง ) อีกทั้งสภาพรบกวน ของสภาวะแวดล้อมอีก และ เสียงปืนขณะนั้น ก็มีมากมายหลากหลาย ผมจึงนำมาสนทนากับคุณGop เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ยังไม่น่าจะฟันธง ด้วยการประมาณ และ กะกะเอา" ของ คุณ 5เอ็ม ไงครับ เพราะมันไม่มีใครรู้ถึงตำแหน่งต้นกำเนิดเสียงที่แท้จริงไงครับว่าอยู่ตำแหน่งใด..??
โดยส่วนตัว ผมมั่นใจว่าชุดเสียงปืนทั้งสองคลิปนั้นตรงกันอย่างแน่นอน
- อย่างที่นำเรียนไปข้างต้นนั่นแหล่ะครับ ว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปไปนะครับ!!!
๑ ผมไม่แน่ใจว่า ที่บอกว่าไม่ตรงนั้นใช่ของคุณ amplepoor หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ล่ะก็ โยนมันทิ้งไปได้เลย ( ความจริงเคยแจ้งไปทีนึงแล้ว ) เพราะภาพนั้นไม่มี time scale พอผมเอาภาพมาเทียบกันจริงๆ ผมพบว่า scale ของรูปไม่เท่ากันครับ พูดง่ายๆเลยคือรูปนั้นใช้ไม่ได้
๒ ที่ผมมั่นใจ เพราะผมวัดเป็นตัวเลขเรียบร้อยแล้วครับ ปรากฏว่าสัญญาณส่วนที่มีการรบกวนน้อย เวลาตรงกันชนิดที่เรียกว่าเป๊ะครับ คือผิดพลาดไม่ถึง 10 ms ซึ่งค่านี้สามารถมองได้ว่าเป็นความผิดพลาดจากการกะระยะกราฟด้วยสายตาได้ครับ ( แนะนำให้ลองทำ แค่ขยับนิดเดียว เวลาก็เลื่อนไป 4-5 ms แล้วครับ )
ยิ่งผมวัดมากขึ้น ช่วงเวลาก็ยิ่งสอดคล้องมากขึ้น ยิ่งเอาข้อมูลของคุณ mmmmm มารวมกับที่ผมทำ ก็ยิ่งสนับสนุนครับ ที่ผมต้องทำเพิ่มก็คือ วัดให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ค่าเฉลี่ยของข้อมูลนั้นน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นครับ
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:09
ค่า Error เกิดขึ้นได้ปรกติ โดยเฉพาะกรณีนี้ ค่าที่ได้จาก 2 กล้อง ที่อยู่ห่างกันหลายเมตร การเดินทางของแสงและเสียงมันมีแน่นอน
ดังนั้นเวลาพลอตกราฟแล้ว ค่าที่แตกต่างกันเล็กน้อย ของ2กล้องที่อยู่ห่างกัน ซึ่งต่างกันจนหน่วยมันเล็กมากเป็น millisecond (1/1,000วินาที) จึงไม่มีนัยยะสำคัญอะไรเลย
สรุปว่าสมาชิกคนไหนยังป่วนแบบพูดลอยๆ ว่า 2 กล้องในคลิปข้างบนเป็นคนละเวลากัน ผมถือว่าเป็นเสียงนกเสียงกามาป่วนเล่น จงอย่าไปสนใจ
(5Mเขาให้พลอตมาแย้งดูมั่งก็ทำไม่เป็นอีก )
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:44
ลุงก็โดนเว้ยเฮ้ยยยยยยยยยย!!! ยืนหลังสุดเนี้ยนะ ลุงไปโดนตอนไหนฟระเนี๊ยยยยยยยยยย!!!
หลังจากนายวสันต์ถูกยิงแน่เลยลุง
อ่านข้ามได้ข้ามนะครับ แต่มันแปลกสำหรับผม ณ.ตอนนี้เพราะไม่รู้ว่าลุงโดนตอนไหน แถวไหน(ใครอย่ามาบอกนะแถวขมับ เพราะผมหมายถึงสถานที่ 5555+)
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:55
อธิบายหน่อยได้มั้ยครับ ว่าทำไมเฟรมเรทไม่ตรงกันแล้วถึงเอามาเทียบเวลาไม่ได้?
เฟรมเรท (Frame Rate) คืออัตราที่ภาพเคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที ยกตัวอย่าง
ตาของคนเราสามารถมองเห็นภาพที่เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 24 ภาพต่อวินาที
หากเกินกว่านั้น เช่น 30 ภาพต่อนาที จะมองเห็นเป็นภาพต่อเนื่องหรือภาพวีดีโอ
ซึ่งในวงการภาพยนตร์จึงได้กำหนดค่าเฟรมเรท หรือภาพที่เคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที
เอาไว้ในช่วง 25-30 ภาพต่อวินาที เพื่อสร้างเป็นภาพต่อเนื่องที่สายตาของเรายอมรับได้
แต่ ความสามารถของกล้องแต่ละตัวไม่เท่ากัน และ ตั้งค่า FPS ไว้ต่างกัน
เมื่อนำมาเทียบกันแล้วมันจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้นะครับ
การถ่ายวิดีโอที่เฟรมเรทปกติ 24-25 เฟรม/วินาที
แล้วนำไฟล์ที่ได้ไปเปิดตัดต่อในโปรเจ็คต์ที่ "ตั้งค่าเฟรมเรทเท่ากัน"
เวลาเอาไปลดสปีดเพื่อทำภาพสโลโมชั่นแบบช้ามากๆ ต่ำกว่า 50% ลงไป
การเคลื่อนไหวของภาพอาจดูไม่ค่อยลื่นไหล และเกิดอาการเงาซ้อนในภาพอยู่บ้าง..!!!
ดังนั้น แสง เสียง ที่นำมาเทียบหน่วยกันเป็น m.sec มันอาจจะเกิดคลาดเคลื่อนได้ และ ที่สำคัญ
กล้องทั้งสองตัว อยู่คนละตำแหน่งอีกด้วย ต้นกำเนิดเสียง ก็ต้องไม่ตรงกัน ( จริงไหมครับ ? )
ขนาดการทดสอบ เฟรมเรท ใช้กล้อง 2 ตัว ( คนละรุ่น ) วางตำแหน่งเดียวกัน ค่าที่ได้ยังไม่เท่ากันเลยครับ
แล้วนี่ กล้องอยู่ตำแหน่งไหน ก็ไม่รู้ ต้นกำเนิดเสียง อยู่ไหนก็ไม่รู้อีก แต่ดันเอามาเทียบกันได้......งง ไหมครับ ??
มันจะได้ก็เพียง "ค่าประมาณ และ กะกะเอา" เท่านั้นแหล่ะครับ...( ตามที่ ไอ้คางคก เอามานับ ให้สาวก มันดูนั่นแหล่ะ )
ป.ล. นี่เป็นเพราะเห็นว่า คุณGop ก็มีความรู้เรื่องนี้อยู่พอสมควรนะครับ ( จากการวิเคราะห์ของคุณก่อนหน้านี้ )เลยลองแลกเปลี่ยนทัศนะ กันดูครับ
1 เรื่องเฟรมเรทไม่เท่ากันของสองคลิปนั้น ผมมองว่าทำให้เกิด error แน่ๆอยู่แล้วในการเปรียบเทียบ แล้วยังมี error ที่เกิดจากการกะด้วยสายตาอีก ว่าเวลาไหน หรือเฟรมไหน ที่แสงแฟลชตรงกันตัวผมเองก็ไม่คิดจะทำตรงนี้อยู่แล้ว เพราะไม่มีเครื่องมือ เห็นคุณ mmmmm พยายามทำอยู่ ก็ได้แสดงความหวังดีไปแล้ว เค้าจะเอาไปพิจารณาหรือไม่ ก็สุดแต่เค้าล่ะครับ
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
3 แนวทางที่ผมพยายามทำก็คือพยายามเทียบ time interval ของเสียงปืนที่ได้ยินทั้งสองคลิปนั้น ถือว่าตรงกันเมื่อเราคำนึงถึงความคลาดเคลื่อนต่างๆ แล้วหรือไม่? สิ่งที่น่าทำอีกอย่าง คือการคำนวณความน่าจะเป็นที่ชุดของเสียง หรือ time interval เหล่านี้จะตรงกันโดยบังเอิญ ซึ่งผมเชื่อว่า ต้องต่ำมากๆจนถือว่าเป็น 0 ได้เลย
โดยส่วนตัว ผมมั่นใจว่าชุดเสียงปืนทั้งสองคลิปนั้นตรงกันอย่างแน่นอน
คุณ RaRa คิดอย่างไรครับ
จะไม่ทำการปรับแต่ง ข้อมูลดิบ เปรืัยบเทียบ
ซึ่ง เคย เขียนไปหลายหนแล้ว แต่ --บอกวิธี ที่้ได้รูป+ตัวเลขนั้นๆ มาอย่างไร ให้ ไปลอง ทำแล้ว นำมาแย้ง
ว่า error แค่ไหน จึงเชื่อไม่ได้
จาก สว่างมาก -กลายเป็น- มืดมาก
........
.
ไม่ทำครับ และก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อมันนำมา "ใช้ไม่ได้" ครับ...!!!
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
.
.
.
Edited by mmmmm, 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:17.
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:00
อธิบายหน่อยได้มั้ยครับ ว่าทำไมเฟรมเรทไม่ตรงกันแล้วถึงเอามาเทียบเวลาไม่ได้?
เฟรมเรท (Frame Rate) คืออัตราที่ภาพเคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที ยกตัวอย่าง
ตาของคนเราสามารถมองเห็นภาพที่เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 24 ภาพต่อวินาที
หากเกินกว่านั้น เช่น 30 ภาพต่อนาที จะมองเห็นเป็นภาพต่อเนื่องหรือภาพวีดีโอ
ซึ่งในวงการภาพยนตร์จึงได้กำหนดค่าเฟรมเรท หรือภาพที่เคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที
เอาไว้ในช่วง 25-30 ภาพต่อวินาที เพื่อสร้างเป็นภาพต่อเนื่องที่สายตาของเรายอมรับได้
แต่ ความสามารถของกล้องแต่ละตัวไม่เท่ากัน และ ตั้งค่า FPS ไว้ต่างกัน
เมื่อนำมาเทียบกันแล้วมันจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้นะครับ
การถ่ายวิดีโอที่เฟรมเรทปกติ 24-25 เฟรม/วินาที
แล้วนำไฟล์ที่ได้ไปเปิดตัดต่อในโปรเจ็คต์ที่ "ตั้งค่าเฟรมเรทเท่ากัน"
เวลาเอาไปลดสปีดเพื่อทำภาพสโลโมชั่นแบบช้ามากๆ ต่ำกว่า 50% ลงไป
การเคลื่อนไหวของภาพอาจดูไม่ค่อยลื่นไหล และเกิดอาการเงาซ้อนในภาพอยู่บ้าง..!!!
ดังนั้น แสง เสียง ที่นำมาเทียบหน่วยกันเป็น m.sec มันอาจจะเกิดคลาดเคลื่อนได้ และ ที่สำคัญ
กล้องทั้งสองตัว อยู่คนละตำแหน่งอีกด้วย ต้นกำเนิดเสียง ก็ต้องไม่ตรงกัน ( จริงไหมครับ ? )
ขนาดการทดสอบ เฟรมเรท ใช้กล้อง 2 ตัว ( คนละรุ่น ) วางตำแหน่งเดียวกัน ค่าที่ได้ยังไม่เท่ากันเลยครับ
แล้วนี่ กล้องอยู่ตำแหน่งไหน ก็ไม่รู้ ต้นกำเนิดเสียง อยู่ไหนก็ไม่รู้อีก แต่ดันเอามาเทียบกันได้......งง ไหมครับ ??
มันจะได้ก็เพียง "ค่าประมาณ และ กะกะเอา" เท่านั้นแหล่ะครับ...( ตามที่ ไอ้คางคก เอามานับ ให้สาวก มันดูนั่นแหล่ะ )
ป.ล. นี่เป็นเพราะเห็นว่า คุณGop ก็มีความรู้เรื่องนี้อยู่พอสมควรนะครับ ( จากการวิเคราะห์ของคุณก่อนหน้านี้ )เลยลองแลกเปลี่ยนทัศนะ กันดูครับ
1 เรื่องเฟรมเรทไม่เท่ากันของสองคลิปนั้น ผมมองว่าทำให้เกิด error แน่ๆอยู่แล้วในการเปรียบเทียบ แล้วยังมี error ที่เกิดจากการกะด้วยสายตาอีก ว่าเวลาไหน หรือเฟรมไหน ที่แสงแฟลชตรงกันตัวผมเองก็ไม่คิดจะทำตรงนี้อยู่แล้ว เพราะไม่มีเครื่องมือ เห็นคุณ mmmmm พยายามทำอยู่ ก็ได้แสดงความหวังดีไปแล้ว เค้าจะเอาไปพิจารณาหรือไม่ ก็สุดแต่เค้าล่ะครับ
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
3 แนวทางที่ผมพยายามทำก็คือพยายามเทียบ time interval ของเสียงปืนที่ได้ยินทั้งสองคลิปนั้น ถือว่าตรงกันเมื่อเราคำนึงถึงความคลาดเคลื่อนต่างๆ แล้วหรือไม่? สิ่งที่น่าทำอีกอย่าง คือการคำนวณความน่าจะเป็นที่ชุดของเสียง หรือ time interval เหล่านี้จะตรงกันโดยบังเอิญ ซึ่งผมเชื่อว่า ต้องต่ำมากๆจนถือว่าเป็น 0 ได้เลย
โดยส่วนตัว ผมมั่นใจว่าชุดเสียงปืนทั้งสองคลิปนั้นตรงกันอย่างแน่นอน
คุณ RaRa คิดอย่างไรครับ
จะไม่ทำการปรับแต่ง ข้อมูลดิบ เปรืัยบเทียบ
ซึ่ง เคย เขียนไปหลายหนแล้ว แต่ --บอกวิธี ที่้ได้รูป+ตัวเลขนั้นๆ มาอย่างไร ให้ ไปลอง ทำแล้ว นำมาแย้ง
ว่า error แค่ไหน จึงเชื่อไม่ได้
จาก สว่างมาก -กลายเป็น- มืดมาก
........
.
ไม่ทำครับ และก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อมันนำมา "ใช้ไม่ได้" ครับ...!!!
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,0000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ว การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
.
.
.
จะชำนาญอะไรมากมาย เอาเสียงมาเทียบอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ เอาหลักฐานคนยิงมาลงเลย และมาดูกันว่า ความน่าจะเป็น เป็นไปได้ไหมในหลักฐานชิ้นนี้
ง่ายกว่าไหม..... แล้วอธิบายด้วยว่า ทหาร(ใส่เกราะคนนั้น)ยิงยังในลักษณะไหนถึงเกิดบาดแผลเช่นนั้นได้
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:11
อธิบายหน่อยได้มั้ยครับ ว่าทำไมเฟรมเรทไม่ตรงกันแล้วถึงเอามาเทียบเวลาไม่ได้?
เฟรมเรท (Frame Rate) คืออัตราที่ภาพเคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที ยกตัวอย่าง
ตาของคนเราสามารถมองเห็นภาพที่เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 24 ภาพต่อวินาที
หากเกินกว่านั้น เช่น 30 ภาพต่อนาที จะมองเห็นเป็นภาพต่อเนื่องหรือภาพวีดีโอ
ซึ่งในวงการภาพยนตร์จึงได้กำหนดค่าเฟรมเรท หรือภาพที่เคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที
เอาไว้ในช่วง 25-30 ภาพต่อวินาที เพื่อสร้างเป็นภาพต่อเนื่องที่สายตาของเรายอมรับได้
แต่ ความสามารถของกล้องแต่ละตัวไม่เท่ากัน และ ตั้งค่า FPS ไว้ต่างกัน
เมื่อนำมาเทียบกันแล้วมันจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้นะครับ
การถ่ายวิดีโอที่เฟรมเรทปกติ 24-25 เฟรม/วินาที
แล้วนำไฟล์ที่ได้ไปเปิดตัดต่อในโปรเจ็คต์ที่ "ตั้งค่าเฟรมเรทเท่ากัน"
เวลาเอาไปลดสปีดเพื่อทำภาพสโลโมชั่นแบบช้ามากๆ ต่ำกว่า 50% ลงไป
การเคลื่อนไหวของภาพอาจดูไม่ค่อยลื่นไหล และเกิดอาการเงาซ้อนในภาพอยู่บ้าง..!!!
ดังนั้น แสง เสียง ที่นำมาเทียบหน่วยกันเป็น m.sec มันอาจจะเกิดคลาดเคลื่อนได้ และ ที่สำคัญ
กล้องทั้งสองตัว อยู่คนละตำแหน่งอีกด้วย ต้นกำเนิดเสียง ก็ต้องไม่ตรงกัน ( จริงไหมครับ ? )
ขนาดการทดสอบ เฟรมเรท ใช้กล้อง 2 ตัว ( คนละรุ่น ) วางตำแหน่งเดียวกัน ค่าที่ได้ยังไม่เท่ากันเลยครับ
แล้วนี่ กล้องอยู่ตำแหน่งไหน ก็ไม่รู้ ต้นกำเนิดเสียง อยู่ไหนก็ไม่รู้อีก แต่ดันเอามาเทียบกันได้......งง ไหมครับ ??
มันจะได้ก็เพียง "ค่าประมาณ และ กะกะเอา" เท่านั้นแหล่ะครับ...( ตามที่ ไอ้คางคก เอามานับ ให้สาวก มันดูนั่นแหล่ะ )
ป.ล. นี่เป็นเพราะเห็นว่า คุณGop ก็มีความรู้เรื่องนี้อยู่พอสมควรนะครับ ( จากการวิเคราะห์ของคุณก่อนหน้านี้ )เลยลองแลกเปลี่ยนทัศนะ กันดูครับ
1 เรื่องเฟรมเรทไม่เท่ากันของสองคลิปนั้น ผมมองว่าทำให้เกิด error แน่ๆอยู่แล้วในการเปรียบเทียบ แล้วยังมี error ที่เกิดจากการกะด้วยสายตาอีก ว่าเวลาไหน หรือเฟรมไหน ที่แสงแฟลชตรงกันตัวผมเองก็ไม่คิดจะทำตรงนี้อยู่แล้ว เพราะไม่มีเครื่องมือ เห็นคุณ mmmmm พยายามทำอยู่ ก็ได้แสดงความหวังดีไปแล้ว เค้าจะเอาไปพิจารณาหรือไม่ ก็สุดแต่เค้าล่ะครับ
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
3 แนวทางที่ผมพยายามทำก็คือพยายามเทียบ time interval ของเสียงปืนที่ได้ยินทั้งสองคลิปนั้น ถือว่าตรงกันเมื่อเราคำนึงถึงความคลาดเคลื่อนต่างๆ แล้วหรือไม่? สิ่งที่น่าทำอีกอย่าง คือการคำนวณความน่าจะเป็นที่ชุดของเสียง หรือ time interval เหล่านี้จะตรงกันโดยบังเอิญ ซึ่งผมเชื่อว่า ต้องต่ำมากๆจนถือว่าเป็น 0 ได้เลย
โดยส่วนตัว ผมมั่นใจว่าชุดเสียงปืนทั้งสองคลิปนั้นตรงกันอย่างแน่นอน
คุณ RaRa คิดอย่างไรครับ
จะไม่ทำการปรับแต่ง ข้อมูลดิบ เปรืัยบเทียบ
ซึ่ง เคย เขียนไปหลายหนแล้ว แต่ --บอกวิธี ที่้ได้รูป+ตัวเลขนั้นๆ มาอย่างไร ให้ ไปลอง ทำแล้ว นำมาแย้ง
ว่า error แค่ไหน จึงเชื่อไม่ได้
จาก สว่างมาก -กลายเป็น- มืดมาก
........
.
ไม่ทำครับ และก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อมันนำมา "ใช้ไม่ได้" ครับ...!!!
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,0000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ว การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
.
.
.
จะชำนาญอะไรมากมาย เอาเสียงมาเทียบอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ เอาหลักฐานคนยิงมาลงเลย และมาดูกันว่า ความน่าจะเป็น เป็นไปได้ไหมในหลักฐานชิ้นนี้
ง่ายกว่าไหม..... แล้วอธิบายด้วยว่า ทหาร(ใส่เกราะคนนั้น)ยิงยังในลักษณะไหนถึงเกิดบาดแผลเช่นนั้นได้
เรียกว่า --แค่-- คิดจะวิจารณ์ ยังใช้ --ข้อมูลไม่ดีพอ--
แล้ว เรา ควรยอมรับหรือ
ทั้งเรารู้ ลึกๆ กว่านั้น
ในสิงที่ วิจารณ์
ว่าอะไรเป็นอะไร
มีที่มาที่ไป
ทำไม ต้องใช้ค่านั้น ค่านี้
.
.......
.
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:20
อธิบายหน่อยได้มั้ยครับ ว่าทำไมเฟรมเรทไม่ตรงกันแล้วถึงเอามาเทียบเวลาไม่ได้?
เฟรมเรท (Frame Rate) คืออัตราที่ภาพเคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที ยกตัวอย่าง
ตาของคนเราสามารถมองเห็นภาพที่เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 24 ภาพต่อวินาที
หากเกินกว่านั้น เช่น 30 ภาพต่อนาที จะมองเห็นเป็นภาพต่อเนื่องหรือภาพวีดีโอ
ซึ่งในวงการภาพยนตร์จึงได้กำหนดค่าเฟรมเรท หรือภาพที่เคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที
เอาไว้ในช่วง 25-30 ภาพต่อวินาที เพื่อสร้างเป็นภาพต่อเนื่องที่สายตาของเรายอมรับได้
แต่ ความสามารถของกล้องแต่ละตัวไม่เท่ากัน และ ตั้งค่า FPS ไว้ต่างกัน
เมื่อนำมาเทียบกันแล้วมันจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้นะครับ
การถ่ายวิดีโอที่เฟรมเรทปกติ 24-25 เฟรม/วินาที
แล้วนำไฟล์ที่ได้ไปเปิดตัดต่อในโปรเจ็คต์ที่ "ตั้งค่าเฟรมเรทเท่ากัน"
เวลาเอาไปลดสปีดเพื่อทำภาพสโลโมชั่นแบบช้ามากๆ ต่ำกว่า 50% ลงไป
การเคลื่อนไหวของภาพอาจดูไม่ค่อยลื่นไหล และเกิดอาการเงาซ้อนในภาพอยู่บ้าง..!!!
ดังนั้น แสง เสียง ที่นำมาเทียบหน่วยกันเป็น m.sec มันอาจจะเกิดคลาดเคลื่อนได้ และ ที่สำคัญ
กล้องทั้งสองตัว อยู่คนละตำแหน่งอีกด้วย ต้นกำเนิดเสียง ก็ต้องไม่ตรงกัน ( จริงไหมครับ ? )
ขนาดการทดสอบ เฟรมเรท ใช้กล้อง 2 ตัว ( คนละรุ่น ) วางตำแหน่งเดียวกัน ค่าที่ได้ยังไม่เท่ากันเลยครับ
แล้วนี่ กล้องอยู่ตำแหน่งไหน ก็ไม่รู้ ต้นกำเนิดเสียง อยู่ไหนก็ไม่รู้อีก แต่ดันเอามาเทียบกันได้......งง ไหมครับ ??
มันจะได้ก็เพียง "ค่าประมาณ และ กะกะเอา" เท่านั้นแหล่ะครับ...( ตามที่ ไอ้คางคก เอามานับ ให้สาวก มันดูนั่นแหล่ะ )
ป.ล. นี่เป็นเพราะเห็นว่า คุณGop ก็มีความรู้เรื่องนี้อยู่พอสมควรนะครับ ( จากการวิเคราะห์ของคุณก่อนหน้านี้ )เลยลองแลกเปลี่ยนทัศนะ กันดูครับ
1 เรื่องเฟรมเรทไม่เท่ากันของสองคลิปนั้น ผมมองว่าทำให้เกิด error แน่ๆอยู่แล้วในการเปรียบเทียบ แล้วยังมี error ที่เกิดจากการกะด้วยสายตาอีก ว่าเวลาไหน หรือเฟรมไหน ที่แสงแฟลชตรงกันตัวผมเองก็ไม่คิดจะทำตรงนี้อยู่แล้ว เพราะไม่มีเครื่องมือ เห็นคุณ mmmmm พยายามทำอยู่ ก็ได้แสดงความหวังดีไปแล้ว เค้าจะเอาไปพิจารณาหรือไม่ ก็สุดแต่เค้าล่ะครับ
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
3 แนวทางที่ผมพยายามทำก็คือพยายามเทียบ time interval ของเสียงปืนที่ได้ยินทั้งสองคลิปนั้น ถือว่าตรงกันเมื่อเราคำนึงถึงความคลาดเคลื่อนต่างๆ แล้วหรือไม่? สิ่งที่น่าทำอีกอย่าง คือการคำนวณความน่าจะเป็นที่ชุดของเสียง หรือ time interval เหล่านี้จะตรงกันโดยบังเอิญ ซึ่งผมเชื่อว่า ต้องต่ำมากๆจนถือว่าเป็น 0 ได้เลย
โดยส่วนตัว ผมมั่นใจว่าชุดเสียงปืนทั้งสองคลิปนั้นตรงกันอย่างแน่นอน
คุณ RaRa คิดอย่างไรครับ
จะไม่ทำการปรับแต่ง ข้อมูลดิบ เปรืัยบเทียบ
ซึ่ง เคย เขียนไปหลายหนแล้ว แต่ --บอกวิธี ที่้ได้รูป+ตัวเลขนั้นๆ มาอย่างไร ให้ ไปลอง ทำแล้ว นำมาแย้ง
ว่า error แค่ไหน จึงเชื่อไม่ได้
จาก สว่างมาก -กลายเป็น- มืดมาก
........
.
ไม่ทำครับ และก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อมันนำมา "ใช้ไม่ได้" ครับ...!!!
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,0000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ว การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
.
.
.
จะชำนาญอะไรมากมาย เอาเสียงมาเทียบอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ เอาหลักฐานคนยิงมาลงเลย และมาดูกันว่า ความน่าจะเป็น เป็นไปได้ไหมในหลักฐานชิ้นนี้
ง่ายกว่าไหม..... แล้วอธิบายด้วยว่า ทหาร(ใส่เกราะคนนั้น)ยิงยังในลักษณะไหนถึงเกิดบาดแผลเช่นนั้นได้
เรียกว่า --แค่-- คิดจะวิจารณ์ ยังใช้ --ข้อมูลไม่ดีพอ--
แล้ว เรา ควรยอมรับหรือ
ทั้งเรารู้ ลึกๆ กว่านั้น
ในสิงที่ วิจารณ์
ว่าอะไรเป็นอะไร
มีที่มาที่ไป
ทำไม ต้องใช้ค่านั้น ค่านี้
.
.......
.
แต่คงไม่ชำนาญ ว่า กระสุนนั้นมาทางไหนยังไงใช่ไหมครับ ถึงไม่บอกสักทีว่ามาแนวไหนยังไง จากทางแนวฝั่งทหาร ถ้ามี นำมาลงเลยครับ
อย่ามัวแต่ วิ่งหาข้อมูล มันหลายวันแล้วผมว่าคนมีข้อมูลจริงๆคงกลับมาจากเล่นสงกรานต์แล้วมั๊ง นำมาลงเลย
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:29
ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยาญ หรือ ชำนาญเรื่องเสียง แบบคุณหรอกนะครับ
ดังนั้นผมก็เลยไม่มีเครื่องมือแบบที่คุณว่ามาหรอกนะครับ
แต่ที่ผมบอกไปคือ เมื่อนำ คลิป มาทำเป็น กราฟเสียงแล้ว
จังหวะของเสียง ที่มันเกิดขึ้น..ทำไมมันถึงไม่ตรงกันหล่ะครับ ??
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:48
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
โอเค ผมยอมรับว่าผิดเรื่อง sampling rate ที่คิดหยาบไป
แล้วไม่ทราบว่ามันทำให้สาระสำคัญที่ผมบอกนั้นผิดไปหรือเปล่าครับ โปรแกรม wave edit ส่วนใหญ่นั้น ค่าละเอียดสุดที่แสดงผล ก็ระดับ 1ms เท่านั้น
แล้วเวลาวัดว่าเสียงเกิด peak ที่ไหน เราก็ไม่สามารถดูได้ละเอียดกว่าที่หน้าจอโปรแกรมแสดงผล ก็เท่านั้นเอง ( หรือว่าคุณใช้วิธีอื่น? )
ที่ผมบอกนั้น ก็แค่ประเด็นเรื่อง error จาก sampling นั้นน้อยจนแม้แต่ตัวโปรแกรมยังไม่แสดงผล error ที่มีผลมากกว่าคือการกะด้วยสายตา ว่า Peak อยู่ที่ไหน??
ตรงนี้มีอะไรแย้งมั้ยครับ??
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:01
ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยาญ หรือ ชำนาญเรื่องเสียง แบบคุณหรอกนะครับ
ดังนั้นผมก็เลยไม่มีเครื่องมือแบบที่คุณว่ามาหรอกนะครับ
แต่ที่ผมบอกไปคือ เมื่อนำ คลิป มาทำเป็น กราฟเสียงแล้ว
จังหวะของเสียง ที่มันเกิดขึ้น..ทำไมมันถึงไม่ตรงกันหล่ะครับ ??
ผมก็อยากรู้คำตอบจากเจ้าของกราฟเหมือนกัน
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:10
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
ทำไมเราต้องสุ่มเป็นสองเท่าให้เปลืองด้วยครับ????
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:18
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
ทำไมเราต้องสุ่มเป็นสองเท่าให้เปลืองด้วยครับ????
เพราะ 1 cycle มีความหมาย
อ้างอิง sinewave
http://www.aaroncake...8_sine_wave.png
หรือ
http://users.rowan.e...s1/sinewave.GIF
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
เป็นค่า + 10mS
เป็นค่า - 10mS
ถ้าสุ่ม เท่ากับ ความถี่ จะวัดค่า รู้ค่าได้อย่างไร ว่าเป็น + หรือ -
+ เท่าไร
- เท่่าไร
.
.
Edited by mmmmm, 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:26.
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 00:00
เอาอย่างนี้แล้วกัน พอทดสอบเสียงอะไรเสร็จแล้ว หันมาหาเส้นทางของกระสุนตามเสียงนั้นๆไปที่คุณวสันต์ต่อเลยนะครับ........
เพราะจากที่อ่านดูแล้ว เป็นแค่การบอกว่า ต้นสายของวิถีกระสุนมาจากฝั่ง แนวทหาร แต่ไม่ได้ยืนยันอะไรเลยว่า นัดไหนเป็นนัดที่วิ่งไปที่คุณวสันต์ ถึงแม้จะบอกว่า เกิดเสียง ตรงกับจังหวะที่ คุณวสันต์ล้มด้วยการถูกยิง
ลองหันมาแย้งในจุดที่ คนยืนบังกันบ้างเถอะครับ พล็อตกันไปเลย ตรงไหนคนไหนผิดจุด ก็ช่วยกันบอก แล้วมาดูว่า คนไหนที่น่าจะเป็น คนยิงมากที่สุด
และมาสรุปกันว่า ตรงตามที่ จขกท.ตั้งไว้ไหม.....
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 02:31
เอาอย่างนี้แล้วกัน พอทดสอบเสียงอะไรเสร็จแล้ว หันมาหาเส้นทางของกระสุนตามเสียงนั้นๆไปที่คุณวสันต์ต่อเลยนะครับ........
เพราะจากที่อ่านดูแล้ว เป็นแค่การบอกว่า ต้นสายของวิถีกระสุนมาจากฝั่ง แนวทหาร แต่ไม่ได้ยืนยันอะไรเลยว่า นัดไหนเป็นนัดที่วิ่งไปที่คุณวสันต์ ถึงแม้จะบอกว่า เกิดเสียง ตรงกับจังหวะที่ คุณวสันต์ล้มด้วยการถูกยิง
ลองหันมาแย้งในจุดที่ คนยืนบังกันบ้างเถอะครับ พล็อตกันไปเลย ตรงไหนคนไหนผิดจุด ก็ช่วยกันบอก แล้วมาดูว่า คนไหนที่น่าจะเป็น คนยิงมากที่สุด
และมาสรุปกันว่า ตรงตามที่ จขกท.ตั้งไว้ไหม.....
ถ้า กรณี ที่ไม่เอาเรื่อง "การทดสอบเสียง" มาเกี่ยวข้องกับ "คลิป" นี้ด้วยนั้น
ก็ลองดูเอาจากจำนวน จนท.ทหารที่ปรากฎอยู่ใน "คลิป" ( ที่ถ่ายจากฝั่งทหาร )
จะเห็นว่า ตำแหน่งที่ จนท.ทหาร ยืนนั้น ค่อนข้างจะมีแสงสว่างน้อย
และ ภาพที่เราเห็นจาก "คลิป" ก็จะเห็นว่าบริเวณนั้น "มืด" ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น เมื่อกระสุน ถูกยิงออกไป จะต้อง "เกิดประกายไฟ" ใช่ไหมครับ
( ตามรายละเอียดที่ผมบอกไปแล้ว ก่อนหน้านี้ )
และ...ใน "คลิป" นั้น ทั้งๆ ที่บริเวณนั้น มี "แสงสว่างน้อย" กว่าจุดอื่นๆ
ทำไมถึงไม่เห็น "ประกายไฟ" จากปากกระบอกปืน ของ จนท.ทหาร เลย !!!
แสดงว่า มือยิงคุณวสันต์ ไม่ได้ปรากฎอยู่ใน "คลิป" ดังกล่าว ใช่หรือไม่ ครับ ??
และ อาจจะอยู่ "หลัง" ผู้ถ่าย "คลิป" ไปอีก หรือ อยู่ระนาบเดียวกับ ผู้ถ่าย "คลิป"
( แต่ ลุงเบอร์ 7 อะไรนั่น ที่มาบอกว่า ตนเองก็โดนยิงด้วย โดยมาจาก "แนวหลัง จนท.ทหาร"
ซึ่งก็ คงจะไม่ใช่ "จนท.ทหาร แนวหน้า" ที่อยู่ใกล้กลุ่มผู้ชุมนุม ( ในคลิป ) ใช่ไหมครับ ??? )
....ดังนั้น ระยะทางมันก็ "ไม่ใช่" ตามที่ คุณ5เอ็ม จะเอามาเทียบเสียงได้ไงหล่ะครับ
นี่คือ สิ่งที่ผม อยากจะถามมาตลอดไงครับ ว่า "ไม่รู้ตำแหน่งที่เกิดเสียง จะรู้ระยะทางได้ไง??"
เหมือน กรณีถ้าจะถอดสูตรสมการใดๆ ถ้ามันมีตัวแปร 2 ตัว ค่าที่ได้มันก็ยังไม่แน่นอนไงครับ..มันติดค่า "ตัวแปร" อยู่ ครับ...!!!
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 03:03
ก็คือ จะได้มีคำตอบออกมาทีละประเด็นครับ เพราะ อีกฝ่ายบอกมีข้อมูลหลักฐานมัดแน่น แต่ไม่โชว์สักที (ไม่รู้จะตัดต่อ หรือ เชื่อมโยง หลายเหตุการณ์ให้เข้ากันหรือเปล่า)
ผมก้เลย ถ้างั้น เสียงมาจากทางแนวทหาร ก็มาต่อกันที่(ซึ่งหลายๆท่านในนี้ก็พยายามจะให้มาจุดนี้) ทหารคนไหนยิง และ ถ้ายิง วิถีกระสุน สามารถไปที่คุณวสันต์ได้ไหม
สิ่งกีดขวางสิ่งแรก คือ แนวผู้ชุมุนมที่อยู่ระหว่างกลาง ซึ่ง จากที่ ท่านศรลงไว้ ที่มีเส้นแนวตั้ง เส้นตามทางม้าลาย ขาดเส้น แนวขวาง ซึ่งก็จะบ่งบอกว่า ใครยื่นยังไงจุดไหน และทีนี้ก็คงต้อง มีภาพ top กำหนดจุด และ โยงเส้น จากทหารแต่ละคนว่า ของใครที่สามารถไปที่คุณวสันต์ได้ มันก็จะมีคำตอบออกมา อีกคำตอบ จากหลายๆคำตอบ
ปล.ทั้งหมดนี้คือการจินตนาการ ทั้งสิ่ง แต่ใกล้เคียงความจริงที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ด้วยมือสมัครเล่น *\(^^)/*
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 03:21
ก็คือ จะได้มีคำตอบออกมาทีละประเด็นครับ เพราะ อีกฝ่ายบอกมีข้อมูลหลักฐานมัดแน่น แต่ไม่โชว์สักที (ไม่รู้จะตัดต่อ หรือ เชื่อมโยง หลายเหตุการณ์ให้เข้ากันหรือเปล่า)
ผมก้เลย ถ้างั้น เสียงมาจากทางแนวทหาร ก็มาต่อกันที่(ซึ่งหลายๆท่านในนี้ก็พยายามจะให้มาจุดนี้) ทหารคนไหนยิง และ ถ้ายิง วิถีกระสุน สามารถไปที่คุณวสันต์ได้ไหม
สิ่งกีดขวางสิ่งแรก คือ แนวผู้ชุมุนมที่อยู่ระหว่างกลาง ซึ่ง จากที่ ท่านศรลงไว้ ที่มีเส้นแนวตั้ง เส้นตามทางม้าลาย ขาดเส้น แนวขวาง ซึ่งก็จะบ่งบอกว่า ใครยื่นยังไงจุดไหน และทีนี้ก็คงต้อง มีภาพ top กำหนดจุด และ โยงเส้น จากทหารแต่ละคนว่า ของใครที่สามารถไปที่คุณวสันต์ได้ มันก็จะมีคำตอบออกมา อีกคำตอบ จากหลายๆคำตอบ
ปล.ทั้งหมดนี้คือการจินตนาการ ทั้งสิ่ง แต่ใกล้เคียงความจริงที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ด้วยมือสมัครเล่น *\(^^)/*
โอเคครับ....เข้าใจความต้องการของ คุณฟังทั้งสองฝ่าย แล้วครับ
หลายๆ ครั้ง หลายๆ กระทู้ คุณฟังฯ มักจะเป็นผู้ที่ทำให้การโต้ตอบ
ของท้ังสองฝ่าย "ยืดหยุ่น" ขึ้น ( ไม่มากก็น้อย )....ขอบคุณครับ
งั้นตั้งแต่ คคห. นี้ ผมขอพักเรื่อง "การทดสอบเสียง" ไว้ก่อนก็ได้ครับ
( ซึ่งจริงๆ แล้ว ความชำนาญเรื่องดังกล่าว ผมคงจะมีน้อยเกินไปด้วยครับ )
เพราะจะได้กลับเข้าสู่เนื้อหาของ "หัวข้อกระทู้" ซะทีนึงนะครับ......ขอบคุณอีกครั้งครับ
ป.ล. หางเครื่อง กองเชียร์ แม่ยก หรือ แม้แต่เด็กยกเครื่องเสียง ไม่ต้องมา "กระแนะกระแหน" ผม
ผมแค่พักไว้ก่อนเท่านั้น อยากดู หลักฐานเด็ดๆ ที่จะสามารถทุบ ท่านแอมป์ ได้ แล้วหน่ะครับ...
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 04:15
ถ้าว่าตามหัวข้อกระทู้ว่า "10 เมษา วันหลอกฆ่ามวลชนตัวเอง" ผมว่าใครยิงไม่สำคัญเท่ากับทำให้มีคนตายได้สำเร็จ ยิ่งคนตายเป็นฝ่ายนปช.ยิ่งดี เพราะจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ง่ายขึ้น เพราะงั้นคำว่า "10 เมษา วันหลอกฆ่ามวลชนตัวเอง" ก็ยังเป็นความจริงอยู่ดี พวกแกนนำท่าทางดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อรู้ว่ามีคนตาย
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 06:03
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
โอเค ผมยอมรับว่าผิดเรื่อง sampling rate ที่คิดหยาบไป
แล้วไม่ทราบว่ามันทำให้สาระสำคัญที่ผมบอกนั้นผิดไปหรือเปล่าครับ โปรแกรม wave edit ส่วนใหญ่นั้น ค่าละเอียดสุดที่แสดงผล ก็ระดับ 1ms เท่านั้น
แล้วเวลาวัดว่าเสียงเกิด peak ที่ไหน เราก็ไม่สามารถดูได้ละเอียดกว่าที่หน้าจอโปรแกรมแสดงผล ก็เท่านั้นเอง ( หรือว่าคุณใช้วิธีอื่น? )
ที่ผมบอกนั้น ก็แค่ประเด็นเรื่อง error จาก sampling นั้นน้อยจนแม้แต่ตัวโปรแกรมยังไม่แสดงผล error ที่มีผลมากกว่าคือการกะด้วยสายตา ว่า Peak อยู่ที่ไหน??
ตรงนี้มีอะไรแย้งมั้ยครับ??
ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
นี้ก็เป็นการเข้าใจที่ผิด
wave edit มองไฟล์เสียงเป็นแค่
1. มีความละเอียดของข้อมูลที่สุ่มมา ขนาด 8 -10 -12 -16 หรือ 24 bit
2. มีจำนวน(byte word ..) เท่าไร ใน 1 ไฟล์
3. จึงไม่มีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง ยกเว้นแต่ ตอน --เล่น-- ไฟล์เสียงเท่านั้น
ที่จะเป็นตัว กำหนด อัตราความเร็ว ในการส่งข้อมูล ให้ chip ที่ทำการแปลงข้อมูล(DAC) ใ้ห้เป็น สัญญาณเสียง
--เบื้องหลัง-- คือ
1. การต้ดต่อ คือ ย้าย-เพิ่ม-ลด ---จำนวน--- ข้อมูล
2. การเพิ่มลดเสียง คือ เพิ่มหรือลด ---ค่าของ--- ข้อมูล
เพียงแต่การทำงานกับไฟล์เหล่านี้ แปลงให้เป็นรูปภาพ -เหมือน- เสียง แสดงออก หน้าจอ คอมพิวเตอร์
ให็ผู้ใช้เข้าใจง่าย และทำงานกับ ข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายเท่านั้น
----------------------------
ตัวอย่าง โปรแกรม ราคา และ ความละิเีอียด
http://f.ptcdn.info/209/004/000/1366154613-1742556538-o.gif
Edited by mmmmm, 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 06:24.
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 06:55
ถ้าว่าตามหัวข้อกระทู้ว่า "10 เมษา วันหลอกฆ่ามวลชนตัวเอง" ผมว่าใครยิงไม่สำคัญเท่ากับทำให้มีคนตายได้สำเร็จ ยิ่งคนตายเป็นฝ่ายนปช.ยิ่งดี เพราะจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ง่ายขึ้น เพราะงั้นคำว่า "10 เมษา วันหลอกฆ่ามวลชนตัวเอง" ก็ยังเป็นความจริงอยู่ดี พวกแกนนำท่าทางดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อรู้ว่ามีคนตาย
เค้าไม่ได้ดีใจเท่าไหร่น๊ะ...
แห่ฉลองทั้งเมืองเฉย..
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:01
ก็คือ จะได้มีคำตอบออกมาทีละประเด็นครับ เพราะ อีกฝ่ายบอกมีข้อมูลหลักฐานมัดแน่น แต่ไม่โชว์สักที (ไม่รู้จะตัดต่อ หรือ เชื่อมโยง หลายเหตุการณ์ให้เข้ากันหรือเปล่า)
ผมก้เลย ถ้างั้น เสียงมาจากทางแนวทหาร ก็มาต่อกันที่(ซึ่งหลายๆท่านในนี้ก็พยายามจะให้มาจุดนี้) ทหารคนไหนยิง และ ถ้ายิง วิถีกระสุน สามารถไปที่คุณวสันต์ได้ไหม
สิ่งกีดขวางสิ่งแรก คือ แนวผู้ชุมุนมที่อยู่ระหว่างกลาง ซึ่ง จากที่ ท่านศรลงไว้ ที่มีเส้นแนวตั้ง เส้นตามทางม้าลาย ขาดเส้น แนวขวาง ซึ่งก็จะบ่งบอกว่า ใครยื่นยังไงจุดไหน และทีนี้ก็คงต้อง มีภาพ top กำหนดจุด และ โยงเส้น จากทหารแต่ละคนว่า ของใครที่สามารถไปที่คุณวสันต์ได้ มันก็จะมีคำตอบออกมา อีกคำตอบ จากหลายๆคำตอบ
ปล.ทั้งหมดนี้คือการจินตนาการ ทั้งสิ่ง แต่ใกล้เคียงความจริงที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ด้วยมือสมัครเล่น *\(^^)/*
โอเคครับ....เข้าใจความต้องการของ คุณฟังทั้งสองฝ่าย แล้วครับ
หลายๆ ครั้ง หลายๆ กระทู้ คุณฟังฯ มักจะเป็นผู้ที่ทำให้การโต้ตอบ
ของท้ังสองฝ่าย "ยืดหยุ่น" ขึ้น ( ไม่มากก็น้อย )....ขอบคุณครับ
งั้นตั้งแต่ คคห. นี้ ผมขอพักเรื่อง "การทดสอบเสียง" ไว้ก่อนก็ได้ครับ
( ซึ่งจริงๆ แล้ว ความชำนาญเรื่องดังกล่าว ผมคงจะมีน้อยเกินไปด้วยครับ )
เพราะจะได้กลับเข้าสู่เนื้อหาของ "หัวข้อกระทู้" ซะทีนึงนะครับ......ขอบคุณอีกครั้งครับ
ป.ล. หางเครื่อง กองเชียร์ แม่ยก หรือ แม้แต่เด็กยกเครื่องเสียง ไม่ต้องมา "กระแนะกระแหน" ผม
ผมแค่พักไว้ก่อนเท่านั้น อยากดู หลักฐานเด็ดๆ ที่จะสามารถทุบ ท่านแอมป์ ได้ แล้วหน่ะครับ...
เวลาเค้าสร้างหนังให้เราดู...ถ้าอยากจะให้ดูเป็นกองทัพอันเกรียงไกร...
ก็เอาคน 5-60 คน มาเดินมาวิ่ง แล้ว ใส่แสงสีเสียงเข้าไป เอาคำบรรยายใส่เค้าไป..เลือกมุมกล้องให้ดี ๆ....เลือกจุดที่จะเน้นย้ำ
มันทำให้เราดูแล้วเชื่อตามที่เค้าอยากให้เราเชื่อ...เห็นตามที่เค้าอยากให้เห็น...ว่าเป็นกองทัพนับหมื่น....
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:02
เอาอย่างนี้แล้วกัน พอทดสอบเสียงอะไรเสร็จแล้ว หันมาหาเส้นทางของกระสุนตามเสียงนั้นๆไปที่คุณวสันต์ต่อเลยนะครับ........
เพราะจากที่อ่านดูแล้ว เป็นแค่การบอกว่า ต้นสายของวิถีกระสุนมาจากฝั่ง แนวทหาร แต่ไม่ได้ยืนยันอะไรเลยว่า นัดไหนเป็นนัดที่วิ่งไปที่คุณวสันต์ ถึงแม้จะบอกว่า เกิดเสียง ตรงกับจังหวะที่ คุณวสันต์ล้มด้วยการถูกยิง
ลองหันมาแย้งในจุดที่ คนยืนบังกันบ้างเถอะครับ พล็อตกันไปเลย ตรงไหนคนไหนผิดจุด ก็ช่วยกันบอก แล้วมาดูว่า คนไหนที่น่าจะเป็น คนยิงมากที่สุด
และมาสรุปกันว่า ตรงตามที่ จขกท.ตั้งไว้ไหม.....
เห็นด้วยครับ ลงตำแหน่งบุคคลรอบๆตัวคุณวสันต์ ให้ไกล้เคียงโดยเฉพาะคุณวสันต์ วินาทีสุดท้ายก่อนโดนยิง ยืนท่าไหน-หันหน้าไปทางไหน ให้ยอมรับตำแหน่งที่พล๊อตกันทุกฝ่าย ก็น่าจะจบโดยตนเอง ...หมายถึงใครเชื่อว่าทหารยิงก็ยังเชื่อต่อไป คนไม่เชื่อก็ยังคงไม่เชื่อต่อไป ที่สำคัญคือคนติดตามข้อมูลก็จะตัดสินได้ด้วยตัวเอง
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:05
-
Edited by mmmmm, 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:14.
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:37
เห็นด้วยครับ...ถ้าว่าตามหัวข้อกระทู้ว่า "10 เมษา วันหลอกฆ่ามวลชนตัวเอง" ผมว่าใครยิงไม่สำคัญเท่ากับทำให้มีคนตายได้สำเร็จ ยิ่งคนตายเป็นฝ่ายนปช.ยิ่งดี เพราะจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ง่ายขึ้น เพราะงั้นคำว่า "10 เมษา วันหลอกฆ่ามวลชนตัวเอง" ก็ยังเป็นความจริงอยู่ดี พวกแกนนำท่าทางดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อรู้ว่ามีคนตาย
ขออนุญาตเเทรกหน่อยครับ
ในเมื่อการสลายการชุมนุมที่สามเหลี่ยม ดินเเดงปี 52 ก็เป็นปฎิบัติการในยามฟ้ามืด
โดยขุนพลภาคสนาม พันเอก ร่มเกล้า(เวลานั้น) เเละ พล.ต.วลิต เป็นผู้บฺชการสูงสุด ได้พิสูจน์เเล้ว ว่าประสพผลสำเร็จโดย"ไม่มี"ผู้ใดเสียชีวิต....
มันจึงไม่ใช่เรื่องเเปลกเลย ถ้าปี 53 จะใช้ปฏิบัติการในยามฟ้ามืด เช่นกัน
เเต่ การที่มีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ใช้ระเบิดเเละกระสุน โจมตีเเละสังหาร ผู้บังคับบัญชา เเละ ทหารเช่นนั้น
ย่อมต้องทราบถึงผลที่ตามมา อยู่เเล้วว่า ทหารจะต้องยิงสกัดเพื่อถอยร่นตามสูตร
มันไม่สมเหตุผลเลย...
ที่ฝ่ายรัฐบาลจะโง่ พอที่จะสังหารนายทหารเเละทำลายปฎิบัติการ ที่ ได้ "พิสูจน์ในทางปฏิบัติ" เเล้วว่าประสพผลสำเร็จ...
รูปการณ์ที่เห็นมันค่อนข้างชัดว่า...
มันผู้ใดที่วางเเผนเเละสมรู้ ให้มีการจู่โจมเเละสังหารทหาร...ต้องหวังผลให้มีการสูญเสียเลือดเนื้อของผู้ชุมนุมอย่างเลือดเย็น...
Edited by PeaceMan, 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:44.
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 09:51
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
โอเค ผมยอมรับว่าผิดเรื่อง sampling rate ที่คิดหยาบไป
แล้วไม่ทราบว่ามันทำให้สาระสำคัญที่ผมบอกนั้นผิดไปหรือเปล่าครับ โปรแกรม wave edit ส่วนใหญ่นั้น ค่าละเอียดสุดที่แสดงผล ก็ระดับ 1ms เท่านั้น
แล้วเวลาวัดว่าเสียงเกิด peak ที่ไหน เราก็ไม่สามารถดูได้ละเอียดกว่าที่หน้าจอโปรแกรมแสดงผล ก็เท่านั้นเอง ( หรือว่าคุณใช้วิธีอื่น? )
ที่ผมบอกนั้น ก็แค่ประเด็นเรื่อง error จาก sampling นั้นน้อยจนแม้แต่ตัวโปรแกรมยังไม่แสดงผล error ที่มีผลมากกว่าคือการกะด้วยสายตา ว่า Peak อยู่ที่ไหน??
ตรงนี้มีอะไรแย้งมั้ยครับ??
ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
นี้ก็เป็นการเข้าใจที่ผิด
wave edit มองไฟล์เสียงเป็นแค่
1. มีความละเอียดของข้อมูลที่สุ่มมา ขนาด 8 -10 -12 -16 หรือ 24 bit
2. มีจำนวน(byte word ..) เท่าไร ใน 1 ไฟล์
3. จึงไม่มีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง ยกเว้นแต่ ตอน --เล่น-- ไฟล์เสียงเท่านั้น
ที่จะเป็นตัว กำหนด อัตราความเร็ว ในการส่งข้อมูล ให้ chip ที่ทำการแปลงข้อมูล(DAC) ใ้ห้เป็น สัญญาณเสียง
--เบื้องหลัง-- คือ
1. การต้ดต่อ คือ ย้าย-เพิ่ม-ลด ---จำนวน--- ข้อมูล
2. การเพิ่มลดเสียง คือ เพิ่มหรือลด ---ค่าของ--- ข้อมูล
เพียงแต่การทำงานกับไฟล์เหล่านี้ แปลงให้เป็นรูปภาพ -เหมือน- เสียง แสดงออก หน้าจอ คอมพิวเตอร์
ให็ผู้ใช้เข้าใจง่าย และทำงานกับ ข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายเท่านั้น
----------------------------
ตัวอย่าง โปรแกรม ราคา และ ความละิเีอียด
http://f.ptcdn.info/209/004/000/1366154613-1742556538-o.gif
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:22
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
โอเค ผมยอมรับว่าผิดเรื่อง sampling rate ที่คิดหยาบไป
แล้วไม่ทราบว่ามันทำให้สาระสำคัญที่ผมบอกนั้นผิดไปหรือเปล่าครับ โปรแกรม wave edit ส่วนใหญ่นั้น ค่าละเอียดสุดที่แสดงผล ก็ระดับ 1ms เท่านั้น
แล้วเวลาวัดว่าเสียงเกิด peak ที่ไหน เราก็ไม่สามารถดูได้ละเอียดกว่าที่หน้าจอโปรแกรมแสดงผล ก็เท่านั้นเอง ( หรือว่าคุณใช้วิธีอื่น? )
ที่ผมบอกนั้น ก็แค่ประเด็นเรื่อง error จาก sampling นั้นน้อยจนแม้แต่ตัวโปรแกรมยังไม่แสดงผล error ที่มีผลมากกว่าคือการกะด้วยสายตา ว่า Peak อยู่ที่ไหน??
ตรงนี้มีอะไรแย้งมั้ยครับ??
ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
นี้ก็เป็นการเข้าใจที่ผิด
wave edit มองไฟล์เสียงเป็นแค่
1. มีความละเอียดของข้อมูลที่สุ่มมา ขนาด 8 -10 -12 -16 หรือ 24 bit
2. มีจำนวน(byte word ..) เท่าไร ใน 1 ไฟล์
3. จึงไม่มีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง ยกเว้นแต่ ตอน --เล่น-- ไฟล์เสียงเท่านั้น
ที่จะเป็นตัว กำหนด อัตราความเร็ว ในการส่งข้อมูล ให้ chip ที่ทำการแปลงข้อมูล(DAC) ใ้ห้เป็น สัญญาณเสียง
--เบื้องหลัง-- คือ
1. การต้ดต่อ คือ ย้าย-เพิ่ม-ลด ---จำนวน--- ข้อมูล
2. การเพิ่มลดเสียง คือ เพิ่มหรือลด ---ค่าของ--- ข้อมูล
เพียงแต่การทำงานกับไฟล์เหล่านี้ แปลงให้เป็นรูปภาพ -เหมือน- เสียง แสดงออก หน้าจอ คอมพิวเตอร์
ให็ผู้ใช้เข้าใจง่าย และทำงานกับ ข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายเท่านั้น
----------------------------
ตัวอย่าง โปรแกรม ราคา และ ความละิเีอียด
http://f.ptcdn.info/209/004/000/1366154613-1742556538-o.gif
ว้าว
จ่ายตังเพิ่ม ความละเอียดก็เพิ่ม ต่ไม่รู้ว่าทำให้การกะด้วยสายตาดีขึ้นหรือเปล่า?
เราอ่านว่า
1..สิทธิ์ในการ ใช้่งาน 1 ปี(one year) คิดราคา 19 USD
2..สิทธิ์ในการใช้งาน ตลอดไป(Lifetime) คิดราคา 49 USD
.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ของฟรี ก็มีเช่นกัน
http://audacity.sour...e.net/download/
และนี้คือสิ่งที่ลอง ทำให้ดู โดยการ -ตัด- ว่าได้ละเอียดแค่ไหน
http://f.ptcdn.info/...742556124-o.gif
Edited by mmmmm, 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:58.
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:42
เทคนิคการขาย
เวลา Present ให้กับผู้บริหาร(ที่ไม่รู้เรื่องเทคนิค) ใช้การอธิบายด้วยข้อมูลเทคนิคลึกๆ ใช้ศัพท์เทคนิคยากๆ จะให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือ ทั้งนี้เนื้อหาอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการจะขายคน Present เท่านั้นที่รู้
การเอา Tools ที่ละเอียดมาก ไปประมวลผล Source ความละเอียดต่ำ เพื่อ??? และ เพ้อเจ้อ
เอาโคตร Tools อ่านไฟล์ MP3 แล้ว Save เป็น ACC จะทำให้มันละเอียดขึ้นได้เสียงมีคุณภาพดีขึ้นงั้นหรือ????
Source error ควบคุมไม่ได้และไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ส่วนหนึ่ง
Human error เป็นสิ่งที่ควบคุมได้บางส่วน และไม่สามารถควบคุมได้บางส่วน
ซึ่งสาคูไม่เคยอธิบายสิ่งเหล่านี้ได้
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:42
อืมมมมมตามตรรกะของสิงห์
คำประกาศนี่ ก็มีวันหมดอายุแฮะ
เหลือเชื่อนะ ที่กล้าเอาเรื่องนี้มาแถ
ถ้างั้น ที่แม้วสั่งอะไรไว้ในปี 2552 ก็ห้ามเอามาอ้างหลังตากนั้น
เอ๊ ....หรือว่า
คำพูดแม้ว มีสลาก อย. ปิดวันหมดอายุไว้ด้วย
หึหึ
สิงห์อย.
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:13
ความจริงที่เจ็บปวด : คลิปเดียวกันแต่เห็นคนถูกยิง 2 คน
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:13
ปล. ตายทั้ง 2 คน
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:19
เทคนิคการขาย
เวลา Present ให้กับผู้บริหาร(ที่ไม่รู้เรื่องเทคนิค) ใช้การอธิบายด้วยข้อมูลเทคนิคลึกๆ ใช้ศัพท์เทคนิคยากๆ จะให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือ ทั้งนี้เนื้อหาอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการจะขายคน Present เท่านั้นที่รู้
การเอา Tools ที่ละเอียดมาก ไปประมวลผล Source ความละเอียดต่ำ เพื่อ??? และ เพ้อเจ้อ
เอาโคตร Tools อ่านไฟล์ MP3 แล้ว Save เป็น ACC จะทำให้มันละเอียดขึ้นได้เสียงมีคุณภาพดีขึ้นงั้นหรือ????
Source error ควบคุมไม่ได้และไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ส่วนหนึ่ง
Human error เป็นสิ่งที่ควบคุมได้บางส่วน และไม่สามารถควบคุมได้บางส่วน
ซึ่งสาคูไม่เคยอธิบายสิ่งเหล่านี้ได้
ใช้ --วิธีการเขียน-- หักล้าง ความจริงไม่ได้หรอก
ยิ่งบนโลก internet หา
- หลักฐาน
- หลักการ
- คำิอธิบาย+ตัวอย่าง+การคำนวณ+การสุ่มตัวอย่าง(SH)+การแปลงค่า(ADC)+การสร้าง(DAC)กลับ+ ค่า error
- หาได้ง่าย
อยากได้ คำอธิบาย.... ทางวิชาการแบบไหน กดได้ที่ link
---เพิ่ม---
และกรุณา อย่าเอาคำอธิบาย การบันทึกแบบ analog ที่ใช้มอเตอร์หมุนเทปคาสเซท มาอธิบายการ Error ของเวลา
ฐานเวลาที่ ใช้การ Sampling จะเป็นใช้เป็น 10 เท่า--เป็นอย่างน้อย-- ของความถี่ Sampling
เช่น Sampling Rate 40KHz ฐานเวลา จะเป็น 400KHz แล้วหาร 10
และส่วนใหญ่ 90% ใช้ Crytal กำเนิดฐานเวลานี้
Edited by mmmmm, 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:40.
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:48
เทคนิคการขาย
เวลา Present ให้กับผู้บริหาร(ที่ไม่รู้เรื่องเทคนิค) ใช้การอธิบายด้วยข้อมูลเทคนิคลึกๆ ใช้ศัพท์เทคนิคยากๆ จะให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือ ทั้งนี้เนื้อหาอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการจะขายคน Present เท่านั้นที่รู้
การเอา Tools ที่ละเอียดมาก ไปประมวลผล Source ความละเอียดต่ำ เพื่อ??? และ เพ้อเจ้อ
เอาโคตร Tools อ่านไฟล์ MP3 แล้ว Save เป็น ACC จะทำให้มันละเอียดขึ้นได้เสียงมีคุณภาพดีขึ้นงั้นหรือ????
Source error ควบคุมไม่ได้และไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ส่วนหนึ่ง
Human error เป็นสิ่งที่ควบคุมได้บางส่วน และไม่สามารถควบคุมได้บางส่วน
ซึ่งสาคูไม่เคยอธิบายสิ่งเหล่านี้ได้
ใช้ --วิธีการเขียน-- หักล้าง ความจริงไม่ได้หรอก
ยิ่งบนโลก internet หา
- หลักฐาน
- หลักการ
- คำิอธิบาย+ตัวอย่าง+การคำนวณ+การสุ่มตัวอย่าง(SH)+การแปลงค่า(ADC)+การสร้าง(DAC)กลับ+ ค่า error
- หาได้ง่าย
อยากได้ คำอธิบาย.... ทางวิชาการแบบไหน กดได้ที่ link
.
ยิ่งพูดยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเอง
ไม่รู้จะยกเรื่อง Converter มาทำไม ยิ่งพูดยิ่งดูแย่ โปรแกรม ADC (Analog to Digital Converter) ในกล้องทั่วไป ปกติบันทึกในคุณภาพแค่ "พอรับได้" และถึงแม้จะบันทึกได้ดี Source ที่นำมาใช้คำนวนถูกแปลง+ลดขนาด มากี่รอบ? คุณภาพของ Source ที่นำมาคำนวนไม่ต้องใช้เครื่องมือก็สัมผัสได้ว่า "หยาบ" แค่ไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่สาคูควบคุมไม่ได้
และการคำนวน คำนวนบน Source ที่เป็น Digital อยู่แล้ว จะพูดถึง DAC (Digial to Analog Converter) เพื่อ?
แค่ให้ดูดี???
แค่ให้ดูน่าเชื่อถือ???
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:55
เทคนิคการขาย
เวลา Present ให้กับผู้บริหาร(ที่ไม่รู้เรื่องเทคนิค) ใช้การอธิบายด้วยข้อมูลเทคนิคลึกๆ ใช้ศัพท์เทคนิคยากๆ จะให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือ ทั้งนี้เนื้อหาอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการจะขายคน Present เท่านั้นที่รู้
การเอา Tools ที่ละเอียดมาก ไปประมวลผล Source ความละเอียดต่ำ เพื่อ??? และ เพ้อเจ้อ
เอาโคตร Tools อ่านไฟล์ MP3 แล้ว Save เป็น ACC จะทำให้มันละเอียดขึ้นได้เสียงมีคุณภาพดีขึ้นงั้นหรือ????
Source error ควบคุมไม่ได้และไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ส่วนหนึ่ง
Human error เป็นสิ่งที่ควบคุมได้บางส่วน และไม่สามารถควบคุมได้บางส่วน
ซึ่งสาคูไม่เคยอธิบายสิ่งเหล่านี้ได้
ใช้ --วิธีการเขียน-- หักล้าง ความจริงไม่ได้หรอก
ยิ่งบนโลก internet หา
- หลักฐาน
- หลักการ
- คำิอธิบาย+ตัวอย่าง+การคำนวณ+การสุ่มตัวอย่าง(SH)+การแปลงค่า(ADC)+การสร้าง(DAC)กลับ+ ค่า error
- หาได้ง่าย
อยากได้ คำอธิบาย.... ทางวิชาการแบบไหน กดได้ที่ link
.
ยิ่งพูดยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเอง
ไม่รู้จะยกเรื่อง Converter มาทำไม ยิ่งพูดยิ่งดูแย่ โปรแกรม ADC (Analog to Digital Converter) ในกล้องทั่วไป ปกติบันทึกในคุณภาพแค่ "พอรับได้" และถึงแม้จะบันทึกได้ดี Source ที่นำมาใช้คำนวนถูกแปลง+ลดขนาด มากี่รอบ? คุณภาพของ Source ที่นำมาคำนวนไม่ต้องใช้เครื่องมือก็สัมผัสได้ว่า "หยาบ" แค่ไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่สาคูควบคุมไม่ได้
และการคำนวน คำนวนบน Source ที่เป็น Digital อยู่แล้ว จะพูดถึง DAC (Digial to Analog Converter) เพื่อ?
แค่ให้ดูดี???
แค่ให้ดูน่าเชื่อถือ???
100 mS
10 mS
1 mS
0.5 mS
0.25 mS
0.10 mS = 100uS
50 uS
25 uS
10uS
1 uS
ทั้งหมด คือการคุย เรื่อง เวลา
--------------------------------------------------------------------
กรุณา ไป -จับ- ประเด็นใหม่
เช่น คุณภาพของเสียง มี loss
..
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:56
2 เรื่องการเทียบเสียงเป็นอีกเรื่องครับ การบันทึกเสียงจะมี sampling rate ของเครื่องวัดอยู่ เท่าที่ผมรู้ ความถี่ในการวัดจะสูงมาก เพราะข้อมูลที่บันทึกนั้นต้องนำไปสร้างเสียงทุกเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ ดังนั้นความถี่ในการวัดก็ต้องอย่างน้อย 20000 Hz ดังนั้นเวลาที่วัด อย่างน้อยๆก็ต้องละเอียดถึง1/20000 วินาที หรือ 0.05 ms ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
ใช้ไม่ได้ ต้องอย่างนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เคยบอกไ้ว้ ADC ที่เราใช้งาน จะมีความละเอียด อย่า่างน้อย คือ 1 uS เที่ยบได้กับความุถี่ 1,000,000 Hz
2. 20000 Hz เป็น ความถี่เสียง ที่ สูงสุด ที่ หูมนุษย์ -บาง- คน สามารถได้ -ยิน-ได้
3 การสุ่มสัญญาณ ADC อย่างหยาบทีี่สุด ต้องเป็น 2 เท่าของความถี่สูงสุด ที่จะต้องการวัด เช่น 20KHz ต้องสุ่ม = 40KHz
4.ตัวอย่าง ถ้าตัวสุมสัญญาณ ที่ 40KHz = 0.025mS
4.1 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 50 Hz ใน 1 ไซเคิล(+-) จะได้ตัวอย่าง 20mS/0.025 = 800 ตัวอย่าง
4.2 ถ้าสัญญานที่สุม มีความถี่ 1000 Hz ใน 1 ไซเคิล จะได้ตัวอย่าง 1mS/0.025 = 40 ตัวอย่าง
5. เสียงกระสุนที่คุณได้ยิน ใครคลิป ใช่แค่ 1 ไซเคืล และความถี่ไม่เกิน 5KHz
และช่วงมีที่ดังสุด ที่ความยาวมากกว่า 100mS ถ้าคิดกับเป็นความถี่ ต่ำกว่า 20Hz อีก
จึงสามารถ กล่าวได้ การวิจารณ์ ของคุณ จึงเรียกว่า ใช้ไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรีัยกเรื่อง เราชำนาญ กว่าคุณมากนัก
โอเค ผมยอมรับว่าผิดเรื่อง sampling rate ที่คิดหยาบไป
แล้วไม่ทราบว่ามันทำให้สาระสำคัญที่ผมบอกนั้นผิดไปหรือเปล่าครับ โปรแกรม wave edit ส่วนใหญ่นั้น ค่าละเอียดสุดที่แสดงผล ก็ระดับ 1ms เท่านั้น
แล้วเวลาวัดว่าเสียงเกิด peak ที่ไหน เราก็ไม่สามารถดูได้ละเอียดกว่าที่หน้าจอโปรแกรมแสดงผล ก็เท่านั้นเอง ( หรือว่าคุณใช้วิธีอื่น? )
ที่ผมบอกนั้น ก็แค่ประเด็นเรื่อง error จาก sampling นั้นน้อยจนแม้แต่ตัวโปรแกรมยังไม่แสดงผล error ที่มีผลมากกว่าคือการกะด้วยสายตา ว่า Peak อยู่ที่ไหน??
ตรงนี้มีอะไรแย้งมั้ยครับ??
ซึ่งละเอียดมากๆครับละเอียดกว่าตัวโปรแกรม wave edit ทั่วๆไปเสียอีก
นี้ก็เป็นการเข้าใจที่ผิด
wave edit มองไฟล์เสียงเป็นแค่
1. มีความละเอียดของข้อมูลที่สุ่มมา ขนาด 8 -10 -12 -16 หรือ 24 bit
2. มีจำนวน(byte word ..) เท่าไร ใน 1 ไฟล์
3. จึงไม่มีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง ยกเว้นแต่ ตอน --เล่น-- ไฟล์เสียงเท่านั้น
ที่จะเป็นตัว กำหนด อัตราความเร็ว ในการส่งข้อมูล ให้ chip ที่ทำการแปลงข้อมูล(DAC) ใ้ห้เป็น สัญญาณเสียง
--เบื้องหลัง-- คือ
1. การต้ดต่อ คือ ย้าย-เพิ่ม-ลด ---จำนวน--- ข้อมูล
2. การเพิ่มลดเสียง คือ เพิ่มหรือลด ---ค่าของ--- ข้อมูล
เพียงแต่การทำงานกับไฟล์เหล่านี้ แปลงให้เป็นรูปภาพ -เหมือน- เสียง แสดงออก หน้าจอ คอมพิวเตอร์
ให็ผู้ใช้เข้าใจง่าย และทำงานกับ ข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายเท่านั้น
----------------------------ตัวอย่าง โปรแกรม ราคา และ ความละิเีอียด
http://f.ptcdn.info/209/004/000/1366154613-1742556538-o.gif
ว้าวจ่ายตังเพิ่ม ความละเอียดก็เพิ่ม ต่ไม่รู้ว่าทำให้การกะด้วยสายตาดีขึ้นหรือเปล่า?
เราอ่านว่า
1..สิทธิ์ในการ ใช้่งาน 1 ปี(one year) คิดราคา 19 USD
2..สิทธิ์ในการใช้งาน ตลอดไป(Lifetime) คิดราคา 49 USD
.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ของฟรี ก็มีเช่นกัน
http://audacity.sour...e.net/download/
และนี้คือสิ่งที่ลอง ทำให้ดู โดยการ -ตัด- ว่าได้ละเอียดแค่ไหน
http://f.ptcdn.info/...742556124-o.gif
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:42
อ้าว....อะไรกันเนี่ย ยังไม่จบเรื่อง "ทดสอบเสียง" กันอีกเหรอครับ ??
แล้ว...ไอ้โปรแกรมอะไรที่ว่าเนี่ย มันสามารถตรวจสอบ "ต้นกำเนิดเสียง" ได้เลยหรือไงกันครับ ??
ถึงได้เอามาเป็นประเด็นหลัก จนแทบจะเบียดเอา "เนื้อหาหลักของ ของหัวข้อกระทู้" ไปหมดแล้วนะครับ
หรือว่า จะใช้ "หลักแถ" เอาเรื่อง ทดสอบเสียง นั้นๆ มากลบ "หลักฐาน" ที่ อ้างว่ามี กันแน่ครับ ??
ผมว่า "พอเถอะครับ" กับ เรื่องเสียง แสง อะไรทำนองนั้น เพราะมันไม่สามารถ "ระบุตำแหน่ง" ต้นกำเนิดได้ชัดเจนหน่ะครับ !!!
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 20:24
อ้าว....อะไรกันเนี่ย ยังไม่จบเรื่อง "ทดสอบเสียง" กันอีกเหรอครับ ??
แล้ว...ไอ้โปรแกรมอะไรที่ว่าเนี่ย มันสามารถตรวจสอบ "ต้นกำเนิดเสียง" ได้เลยหรือไงกันครับ ??
ถึงได้เอามาเป็นประเด็นหลัก จนแทบจะเบียดเอา "เนื้อหาหลักของ ของหัวข้อกระทู้" ไปหมดแล้วนะครับ
หรือว่า จะใช้ "หลักแถ" เอาเรื่อง ทดสอบเสียง นั้นๆ มากลบ "หลักฐาน" ที่ อ้างว่ามี กันแน่ครับ ??
ผมว่า "พอเถอะครับ" กับ เรื่องเสียง แสง อะไรทำนองนั้น เพราะมันไม่สามารถ "ระบุตำแหน่ง" ต้นกำเนิดได้ชัดเจนหน่ะครับ !!!
จนแทบจะเบียดเอา "เนื้อหาหลักของ ของหัวข้อกระทู้"
จนแทบจะเบียดเอา "เนื้อหาหลักของ ของหัวข้อกระทู้"
จนแทบจะเบียดเอา "เนื้อหาหลักของ ของหัวข้อกระทู้"
มีด้วย หรือ "เนื้อหาหลัก"
ช่วย ระบุด้วย ว่า
1.หน้าที่เท่าไร
2.ความเห็นที่เท่าไร
ผู้ตั้งกระทู้ ยังหาไม่ได้เลย เท่าเรา อ่านผ่านๆ
...
ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:12
โหย มาไกลตั้ง 22 หน้าแล้ว
สิงห์ยังไม่โผล่หัวกลับหาทุบ amplepoor ซักที
สงสัยจบจากสงกรานต์กรุงเทพฯ แกจะไปต่อที่บางแสน แล้วรออาทิตย์หน้าไปต่อที่พระประแดง
ปล่อยให้พวกพากระทู้ออกนอกจักรวาลไปแล้ว
บอกแล้วว่าสไตล์เสื้อแดง แถไม่ไป หายหัวปล่อยให้คนลืม
หาหัวข้อที่จะทุบไม่เจอแล้ว 55555 (ล้อเล่น)
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน