เหอะ เหอะ ผมว่าเรื่องขึ้นศาลโลกนี่ อย่าไป เป๋ ตามพวกปลุกระดมนะครับ
เขมรเป็นผู้ไปฟ้องศาลโลก ไทยอยู่ในฐานะที่ไปคัดค้านการฟ้องของเขมร
แต่พวกปลุกระดมบอก อย่าไป อย่าไป โดยอ้างว่าเราไม่ได้เป็นสมาชิกของ
ศาลโลก
การไปคัดค้านที่เขาฟ้อง กับการอยู่เฉย ๆ ไม่รับรู้อะไร ถามว่าเขมรเขาฟ้องได้ไหม
เขาก็ฟ้องได้อยู่แล้ว และศาลโลกสามารถพิจารณาข้างเดียวได้ แล้วผลได้กับ
ผลเสียมันคืออะไรล่ะ ระหว่าง การไม่ไปขึ้นศาล กับการไปขึ้นศาลเพื่อคัดค้านที่เขา
ฟ้อง
ถ้าเราไม่ไปขึ้นศาลแล้วศาลตัดสินตามเขมร เราก็บอกเราไม่รับรู้เพราะไม่ได้เป็นสมาชิก
ไม่ได้ขึ้นศาล เราต้องการแสดงออกต่อชาวโลกอย่างนั้นจริง ๆ หรือ แล้วปัญหามันจะจบไหม
มันไม่จบแน่นอน แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป แต่ที่สำคัญก็คือ จะมีประเทศไหนเชื่อน้ำหน้า
ประเทศไทยอีกไหม เพราะตอนขึ้นศาลเราก็ไม่มีอะไรไปคัดค้านเขา ประเทศต่าง ๆ เขา
จะรับรู้ไหมว่า อะไรถูกอะไรผิด เป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม
ตรงกันข้ามการไม่ไปขึ้นศาลเพื่อคัดค้านของไทยมันอาจทำให้นานาประเทศมองได้เหมือนกัน
ว่า เพราะไทยอาจไปลุกล้ำเขตแดนของเขมรจริง
ถ้าเราไปคัดค้านแล้วศาลตัดสินตามเขมร แล้วเราไม่ยอมรับเพราะดูแล้วเห็นว่าศาลตัดสินไม่
เป็นธรรม มันก็ไม่ต่างกับการไม่ไปขึ้นศาล แต่นานาประเทศเขาพิจารณาได้ว่าข้อมูลที่เรา
คัดค้านนั้น เราไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงไหม
มีหลายประเทศ ที่ขึ้นศาลโลกแล้วแพ้ และเขาก็ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลโลกเพราะเขา
เห็นว่าไม่เป็นธรรม มันไม่ใช่ว่าศาลโลกชี้มาอย่างไรเราก็ต้องทำตามไปหมด แต่ประเด็นมันก็คือ
ถ้าเราไม่ไปคัดค้าน ก็ไม่มีใครรู้ว่า แล้วความจริงมันคืออะไร ที่ศาลโลกตัดสินมานั้นมันยุติธรรมไหม
ผมมองว่าปัญหาของประเทศไทยตอนนี้ก็คือ รัฐบาลนี้มีความจริงใจหรือเปล่าที่ออกมาพูดปาว ๆ ว่า
คนไทยต้องยอมรับคำตัดสินของศาลโลก ทั้ง ๆ ที่ศาลโลกยังไม่ได้ตัดสินเลย
ปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือพวกปลุกระดม ไม่ควรพูดหรือทำอะไรที่มันเกินเหตุ จนกลายเป็นเกิดเหตุ
ขึ้นมาอีก เพราะถ้ามันเกิดเหตุขึ้นมาอีก ประเทศไทยก็ต้องถูกมองว่า เอาอีกแล้วไปรังแกเขาอีกแล้ว
เพราะเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่าเขานั่นแหละ