Jump to content


Photo
- - - - -

อะไรคือผลของค่าเงินบาทที่กำลังแข็งตัว


  • Please log in to reply
823 ความเห็นในกระทู้นี้

#101 MIRO

MIRO

    Praise the Sun

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,883 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:37

 

 

แล้วที่เขาเถียงกันว่า  จะคงดอกเบี้ยนโบาย  ลดดอกเบี้ยนโยบาย  มันเกี่ยวกับบาทแข็งมั๊ย?  แล้วควรทำอย่างไร?

 

 

เกี่ยวครับ  คือสรุปคร่าวๆ คือ  การที่ดอกเบี้ยสูง  มันจะทำให้ต่างประเทศเอาเงินมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น  เพราะผลตอบแทนดีกว่า  ซึ่งถ้าเงินต่างประเทศไหลเข้ามากก็จะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนไป  เงินในประเทศ (เงินบาท) จะแข็งค่าขึ้น เพราะต่างชาติจะมีความต้องการเงินบาทมากขึ้นเพื่อมาลงทุนในประเทศ (หลัก Demand Supply ปกติเลย คือ Demand บาทมาก  เงินบาทเลยราคาแพง = เงินบาทแข็ง)
 
ถามว่าแล้วทำไมต่างชาติถึงมีเงินเยอะเหลือเกิน  ก็เพราะต่างประเทศเค้าใช้นโยบายเพิ่มเงินในประเทศของเค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครับ เช่น USA มี QE 1 2 3 ออกมา  ส่วน ญี่ปุ่น ก็มีมาตรการคล้ายๆ กันออกมาเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจประเทศเค้า เป็นต้น
 
ทีนี้มันจะมีเรื่องของการลดดอกเบี้ยมาเกี่ยวข้องตรงนี้ครับคือ มีทั้งฝ่ายที่เสนอให้ลดดอกเบี้ย  และไม่ลดดอกเบี้ย
 
โดยที่ฝ่ายหนึ่งมองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะสามารถสกัดเงินทุนไหลเข้า และหากไม่ลดดอกเบี้ยเงินบาทก็จะแข็งค่าขึ้นไปอีกจนอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่าหากลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว อาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ (ทั้งจากภาคอสังหาริมทรัพย์ หนี้ภาคครัวเรือน และหุ้น) และจะเป็นตัวเร่งให้เงินเฟ้อภายในประเทศขยายตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงได้
 
ประเด็น “บาทแข็ง” กับ “ดอกอ่อน” ยังสรุปไม่ได้ว่าแนวคิดใครถูกหรือผิด เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผล แต่สิ่ประเด็นคือ ดอกเบี้ยนโยบายของไทยสูงจริงหรือไม่? คำตอบคร่าวๆ คือ
 
- ดอกเบี้ยไทยสูงเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยประเทศพัฒนาแล้วที่ต่ำเกือบ 0% 
 
- ดอกเบี้ยไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศของเอเชียตะวันออกและอาเซียนที่ติดลบ ถ้าคิดในรูปดอกเบี้ยที่แท้จริง 
 
- ดอกเบี้ยไทยต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่มี Credit Rating เท่ากันคือ Baa1 เช่น เม็กซิโก แอฟริกาใต้ และรัสเซีย
 
- ดอกเบี้ยอินโดสูงมากกว่าเราเยอะ  แต่เงินไม่ไหลเข้าเท่าไทย
 
ทีนี้ถ้าถามความเห็นผม (ทำอาชีพเกี่ยวกับเรื่องนี้พอประมาณ) ไม่มีความเห็นจริงๆ ว่าควรทำยังไง  เพราะอย่างข้อมูลที่มีคือดอกเบี้ยในสูงกว่า USA กับ Japan และ China จริง  ทำให้ดูดเงินลงทุนไหลเข้าได้  แต่ดอกเบี้ยที่แท้จริงเราติดลบ (เงินเฟ้อสูงกว่าดอกเบี้ย) มันก็เลยกั๊กๆ กันระหว่าง 2 ทางคือ
 
(1) ถ้าลดอกเบี้ย ก็ทำให้ตลาดหุ้นยิ่งฟองสบู่เข้าไปอีก  คนธรรมดาๆ ที่มีเงินฝากก็ยิ่งแย่ เข้าไปอีก  ตลาดอสังหาอาจเกิดฟองสบู่ (กู้ง่าย + ดอกต่ำ)
(2) ถ้าไม่ลดดอกเบี้ย เงินก็จะแข็งอยู่แบบนี้ต่อไป
 
เอาเป็นว่าผมเชื่อ ดร. ประสาร ครับ  ผมว่าการที่ท่านจะทำอะไรซักอย่าง  คงมีเหตุผลที่ดีพอที่คิดมามากกว่าผม
 
(ยาวมาก  จะมีใครอ่านมั๊ยเนี่ย)  :o  :o  :o

 

ผมอ่าน...   ทำทุกอย่างมีได้มีเสียครับ..      

ผมสงสัยว่า... 

 

"ดอกเบี้ยอินโดสูงมากกว่าเราเยอะ  แต่เงินไม่ไหลเข้าเท่าไทย"  

 

นั่นสิครับ... ทำไม.. 

 

:D

คำถามน่าสนใจ

 

จับประเด็นของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย 

http://www.bot.or.th...cle17_03_13.pdf


The most valuable things in life are not measured in monetary terms.

The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,

but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.


#102 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:39

เฮนไตมาโชว์โง่อีกละ

 

อาหารที่นี่มันพอร์ชั่นใหญ่เพราะอะไร เพราะถ้าให้ปริมาณเท่ากับบ้านเรา ฝรั่งมันกินไม่อิ่ม ในขณะที่เรากินกันธรรมดาอิ่ม กลับกันหากคนไทยบ้านเรามากินอาหารที่อเมริกา ปริมาณมันก็เยอะเกินกว่าความต้องการกินไม่หมด ดังนั้นมันจึงต้องเทียบเป็น relative term เพื่อให้ให้มันเหมาะกับสถานที่ และสถานะ

 

กระทั่งโค้กที่เฮนไตพยายามจะแถให้มันเท่ากัน แต่หารู้ไม่ว่า พฤติกรรมการกินน้ำอัดลมของฝรั่งกันคนไทยต่างกันโดยสิ้นเชิง ในขณะที่น้ำอัดลมบ้านเรากินกันเป็นกระป๋อง ๑ กระป๋องก็เรอแล้ว ที่นี้ส่วนใหญ่จะกินทีก็กินขวด ๕๐๐ มิลเป็นปกติ โค้กกระป๋องนี่สำหรับเอาไว้แจกรวมไปกับพวก lunch special ด้วยซ้ำไป

 

นี่ยังไม่นับว่า อเมริกันเป็นจำนวนมาก กินน้ำอัดลม หรือโซดาพวกเซลเซอร์แทบน้ำเปล่ากันไปเลย ในขณะที่คนไทยเรากินเป็นของหวาน กินวันนึง ๒ กระป๋องก็ถือว่าเยอะ

 

อ้อ แล้วไม่เห็นรึ ว่าก่อนหน้าได้เปรียบเทียบยกตัวอย่างนม ที่ด้วยปริมาณเท่ากัน อเมริกามันก็ขายแพงกว่าเรา ขนาดว่าไทยเรานำเข้าน้ำนมเป็นจำนวนมากและมากกว่าที่ผลิตในประเทศเสียอีก เช่นเดียวกันกับถั่วเหลือง ในขณะที่อเมริกามันผลิตนมได้เอง ผลิตราว ๙๐ ล้านตัน แต่นำเข้าเพียงแค่ไม่เกิน ๓ ล้านตัน แต่กลับขายนมในราคาแพงกว่าเราเป็นเท่า

 

ตกลงว่า  ท่านใช้ความฉลาดของท่าน เทียบ จานใหญ่ของฝรั่ง กับ จานเล็กของไทย...  

แล้วใช้ ข้าว ที่ฝรั่งไม่ค่อยกิน... แล้วบอกว่า ถูกต้องแล้ว...  ทีี่

ค่าแรงเราวันนึง เลยซื้อได้ เยอะจานกว่า...   เมพมากๆ 

 

อวดฉลาด แล้วหาว่าคนอื่น โชว์โง่

แบบนี้ ผมกลัวแล้วครับ...    

 

เคยอ่าน ลายเซ้น ผมป่าวครับ ใช้มา สองปีแล้วไม่เคยเปลี่ยน...  เพราะ คนที่นี่ ต้องการมัน อย่างแรง...

:D

 

 

เฮนเอ๊ย เอ็งไม่รู้จักวิธี Normalization สำหรับตัวแปรหรือปัจจัยที่แตกต่างกันสินะ ถึงกล้าแถแถด ๆ แบบนี้เนี่ย

 

เอาเถอะ เข้าใจเอ็งแล้ว


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#103 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:41

Baezae วิ่งหนีหางจุกตุด. ถ้าคนมันรู้มากฉลาดมันต้องเขียนเป็น. ภาษาอังกฤษ. ไม่ใช่รู้มากแต่เอาตัวไม่รอด. สักแต่ด่าว่าคนอื่น. เหอะ

 

โธ่ ไอ้ตัวตอแหล โกหกไปเรื่อย ๆ หน้าด้านหน้าทน ยังมีหน้ามาด่าคนอื่นอีกเนี่ยนะ เกินจินตนาการจริง ๆ ว่ะเอ็ง


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#104 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:44

Do we have Disneyland or Disneyworld in California?

What baseball team does California have in San Diego?

Is Yuma in California? Is Modesto in California?

Answer in less than 5 minutes in English. if you can't, you know nothing just like most Thai men.

#105 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:47

Do we have Disneyland or Disneyworld in California?

What baseball team does California have in San Diego?

Is Yuma in California? Is Modesto in California?

Answer in less than 5 minutes in English. if you can't, you know nothing just like most Thai men.

 

ก๊าก ไปก๊อปมาจากไหนล่ะไอ้ตอแหล

 

แต่ประโยคสุดท้ายมันดันบอกว่ะ ว่าความรู้ภาษาอังกฤษเอ็งมันชั้นงู ๆ ปลา ๆ เท่านั้นเอง กลับไปอ่านทบทวนใหม่ไป๊ ว่าเอ็งพลาดยังไง

 

๕๕๕๕๕

 

ปล. จริง ๆ มันทั้งหมดเลยว่ะ ที่บอกว่าชั้นภาษาเอ็งมันระดับหางอึ่งเท่านั้น


Edited by baezae, 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:50.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#106 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:49

Ha Ha.

#107 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:54

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล == ออกมาแล้ว. เขียนภาษาอังกฤษ ไม่ได้. Baezae. นึกว่าแน่ คำถามง่ายๆ. ***อวดฉลาด.


Edited by Mod_108, 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:30.
7.ห้ามตั้งกระทู้หรือแสดงความเห็นที่มีลักษณยั่วยุให้เพื่อนสมาชิกโกรธเคือง หรือสร้างความร้าวฉาน แตกความสามัคคีในหมู่สมาชิก


#108 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:56

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==


Edited by Mod_108, 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:30.
7.ห้ามตั้งกระทู้หรือแสดงความเห็นที่มีลักษณยั่วยุให้เพื่อนสมาชิกโกรธเคือง หรือสร้างความร้าวฉาน แตกความสามัคคีในหมู่สมาชิก


#109 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:57

อ่ะ เมตตา ช่วยชี้ให้อันนึง

 

What baseball team does California have in San Diego?

 

ประโยคนี้น่ะ โคตรเวิ่นเว้อ San Diego มันมีอยู่ที่เดียว เอ็งไม่ต้องใส่รัฐคนอยู่อเมริกาใครเขาก็รู้ว่าเมืองนี้มันอยู่ใน CA

 

แถมให้อีกอย่าง CA มันเป็นรัฐ มันทำกริยา does ไม่ได้ มันต้องใช้กริยาตัวอื่น แล้วต้องเรียงรูปประโยคใหม่

 

ส่วนรูปประโยคเอ็งเนี่ย เด็กประถมชัดเจนเลยว่ะ

 

สงสัยที่เอ็งว่าเรียนสูงนี่ น่ากลัวจะประมาณชั้น ๑๐


Edited by baezae, 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:05.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#110 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:11

 

 

 

แล้วที่เขาเถียงกันว่า  จะคงดอกเบี้ยนโบาย  ลดดอกเบี้ยนโยบาย  มันเกี่ยวกับบาทแข็งมั๊ย?  แล้วควรทำอย่างไร?

 

 

เกี่ยวครับ  คือสรุปคร่าวๆ คือ  การที่ดอกเบี้ยสูง  มันจะทำให้ต่างประเทศเอาเงินมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น  เพราะผลตอบแทนดีกว่า  ซึ่งถ้าเงินต่างประเทศไหลเข้ามากก็จะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนไป  เงินในประเทศ (เงินบาท) จะแข็งค่าขึ้น เพราะต่างชาติจะมีความต้องการเงินบาทมากขึ้นเพื่อมาลงทุนในประเทศ (หลัก Demand Supply ปกติเลย คือ Demand บาทมาก  เงินบาทเลยราคาแพง = เงินบาทแข็ง)
 
ถามว่าแล้วทำไมต่างชาติถึงมีเงินเยอะเหลือเกิน  ก็เพราะต่างประเทศเค้าใช้นโยบายเพิ่มเงินในประเทศของเค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครับ เช่น USA มี QE 1 2 3 ออกมา  ส่วน ญี่ปุ่น ก็มีมาตรการคล้ายๆ กันออกมาเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจประเทศเค้า เป็นต้น
 
ทีนี้มันจะมีเรื่องของการลดดอกเบี้ยมาเกี่ยวข้องตรงนี้ครับคือ มีทั้งฝ่ายที่เสนอให้ลดดอกเบี้ย  และไม่ลดดอกเบี้ย
 
โดยที่ฝ่ายหนึ่งมองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะสามารถสกัดเงินทุนไหลเข้า และหากไม่ลดดอกเบี้ยเงินบาทก็จะแข็งค่าขึ้นไปอีกจนอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่าหากลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว อาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ (ทั้งจากภาคอสังหาริมทรัพย์ หนี้ภาคครัวเรือน และหุ้น) และจะเป็นตัวเร่งให้เงินเฟ้อภายในประเทศขยายตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงได้
 
ประเด็น “บาทแข็ง” กับ “ดอกอ่อน” ยังสรุปไม่ได้ว่าแนวคิดใครถูกหรือผิด เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผล แต่สิ่ประเด็นคือ ดอกเบี้ยนโยบายของไทยสูงจริงหรือไม่? คำตอบคร่าวๆ คือ
 
- ดอกเบี้ยไทยสูงเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยประเทศพัฒนาแล้วที่ต่ำเกือบ 0% 
 
- ดอกเบี้ยไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศของเอเชียตะวันออกและอาเซียนที่ติดลบ ถ้าคิดในรูปดอกเบี้ยที่แท้จริง 
 
- ดอกเบี้ยไทยต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่มี Credit Rating เท่ากันคือ Baa1 เช่น เม็กซิโก แอฟริกาใต้ และรัสเซีย
 
- ดอกเบี้ยอินโดสูงมากกว่าเราเยอะ  แต่เงินไม่ไหลเข้าเท่าไทย
 
ทีนี้ถ้าถามความเห็นผม (ทำอาชีพเกี่ยวกับเรื่องนี้พอประมาณ) ไม่มีความเห็นจริงๆ ว่าควรทำยังไง  เพราะอย่างข้อมูลที่มีคือดอกเบี้ยในสูงกว่า USA กับ Japan และ China จริง  ทำให้ดูดเงินลงทุนไหลเข้าได้  แต่ดอกเบี้ยที่แท้จริงเราติดลบ (เงินเฟ้อสูงกว่าดอกเบี้ย) มันก็เลยกั๊กๆ กันระหว่าง 2 ทางคือ
 
(1) ถ้าลดอกเบี้ย ก็ทำให้ตลาดหุ้นยิ่งฟองสบู่เข้าไปอีก  คนธรรมดาๆ ที่มีเงินฝากก็ยิ่งแย่ เข้าไปอีก  ตลาดอสังหาอาจเกิดฟองสบู่ (กู้ง่าย + ดอกต่ำ)
(2) ถ้าไม่ลดดอกเบี้ย เงินก็จะแข็งอยู่แบบนี้ต่อไป
 
เอาเป็นว่าผมเชื่อ ดร. ประสาร ครับ  ผมว่าการที่ท่านจะทำอะไรซักอย่าง  คงมีเหตุผลที่ดีพอที่คิดมามากกว่าผม
 
(ยาวมาก  จะมีใครอ่านมั๊ยเนี่ย)  :o  :o  :o

 

ผมอ่าน...   ทำทุกอย่างมีได้มีเสียครับ..      

ผมสงสัยว่า... 

 

"ดอกเบี้ยอินโดสูงมากกว่าเราเยอะ  แต่เงินไม่ไหลเข้าเท่าไทย"  

 

นั่นสิครับ... ทำไม.. 

 

:D

คำถามน่าสนใจ

 

จับประเด็นของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย 

http://www.bot.or.th...cle17_03_13.pdf

 

 

ขอบคุณที่ช่วยเหลือครับ  แต่จะขอเน้นของอินโดหน่อย  เพราะผมยกตัวอย่างมาก่อนบ้างละ  กลัวหาว่าเอามาแปะแล้วก็หนีไปเฉยๆ 
 
 
ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของอินโด (ของเค้าเรียก BI Rate) คือ 5.75%  ของไทย 2.75% (ต่างกันตั้ง 3%) แต่เงินบาทไทยแข็งเยอะกว่ามาก (เพราะเงินไหลเข้ามาก)
 
 
แต่ตั้งแต่ต้นปีมา  เงินบาทไทยแข็งไป 5.07% ในขณะที่ อินโด แข็งขึ้นแค่ 0.91%  ทั้งๆที่อัตราดอกเบี้ยอินโดสูงกว่า  คนน่าจะลงทุนมากกว่าสิ ???
 
 
แสดงว่าก็แปลว่าอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวไม่น่าจะเป็นตัวที่ทำให้เงินแข็งขึ้น  ทีนี้เลยคาดกันว่าเป็นเพราะอันดับความน่าเชื่อถือของไทยมันมากกว่าอินโด  คนเลยมาลงทุนมากกว่า (เพราะความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ไทยน้อยกว่า  แปลง่ายๆ ว่าไทยน่าลงทุนมากกว่าเพราะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า) เหตุผลก็เป็นไปตาม link ของท่าน MIRO เลยครับ
 
 
โดยไทยอันดับเครดิต BBB+  สูงกว่า อินโด BB+  2 ขั้น (อันดับของ S&P นะ  ผมไม่มี log in ดูของ Moody's) 
 
 
แต่ช้าก่อน  อย่าเพิ่งเหมาว่าเป็นเพราะปูทำให้ประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือ  เพราะสมัยมาร์คประเทศไทยก็อันดับ Rating BBB+ อยู่แล้วนะครับ   :lol:
 
 
เรื่องทั้งหมดก็ประมาณนี้แหละครับ (ส่วนเรื่องการถกภาษาอังกฤษ ไม่เห็นเกี่ยวกับกระทู้เลย) 


#111 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:13

มีไอ้คนพันนี้แหละ. ถึงว่าชาติไม่เจริญ.

#112 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:19

Do we have Disneyland or Disneyworld in California?

What baseball team does California have in San Diego?

Is Yuma in California? Is Modesto in California?

Answer in less than 5 minutes in English. if you can't, you know nothing just like most Thai men.

โอ้ย...ว่าวลาวได้บ่

 

:)  



#113 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:21

 

เฮนไตมาโชว์โง่อีกละ

 

อาหารที่นี่มันพอร์ชั่นใหญ่เพราะอะไร เพราะถ้าให้ปริมาณเท่ากับบ้านเรา ฝรั่งมันกินไม่อิ่ม ในขณะที่เรากินกันธรรมดาอิ่ม กลับกันหากคนไทยบ้านเรามากินอาหารที่อเมริกา ปริมาณมันก็เยอะเกินกว่าความต้องการกินไม่หมด ดังนั้นมันจึงต้องเทียบเป็น relative term เพื่อให้ให้มันเหมาะกับสถานที่ และสถานะ

 

กระทั่งโค้กที่เฮนไตพยายามจะแถให้มันเท่ากัน แต่หารู้ไม่ว่า พฤติกรรมการกินน้ำอัดลมของฝรั่งกันคนไทยต่างกันโดยสิ้นเชิง ในขณะที่น้ำอัดลมบ้านเรากินกันเป็นกระป๋อง ๑ กระป๋องก็เรอแล้ว ที่นี้ส่วนใหญ่จะกินทีก็กินขวด ๕๐๐ มิลเป็นปกติ โค้กกระป๋องนี่สำหรับเอาไว้แจกรวมไปกับพวก lunch special ด้วยซ้ำไป

 

นี่ยังไม่นับว่า อเมริกันเป็นจำนวนมาก กินน้ำอัดลม หรือโซดาพวกเซลเซอร์แทบน้ำเปล่ากันไปเลย ในขณะที่คนไทยเรากินเป็นของหวาน กินวันนึง ๒ กระป๋องก็ถือว่าเยอะ

 

อ้อ แล้วไม่เห็นรึ ว่าก่อนหน้าได้เปรียบเทียบยกตัวอย่างนม ที่ด้วยปริมาณเท่ากัน อเมริกามันก็ขายแพงกว่าเรา ขนาดว่าไทยเรานำเข้าน้ำนมเป็นจำนวนมากและมากกว่าที่ผลิตในประเทศเสียอีก เช่นเดียวกันกับถั่วเหลือง ในขณะที่อเมริกามันผลิตนมได้เอง ผลิตราว ๙๐ ล้านตัน แต่นำเข้าเพียงแค่ไม่เกิน ๓ ล้านตัน แต่กลับขายนมในราคาแพงกว่าเราเป็นเท่า

 

ตกลงว่า  ท่านใช้ความฉลาดของท่าน เทียบ จานใหญ่ของฝรั่ง กับ จานเล็กของไทย...  

แล้วใช้ ข้าว ที่ฝรั่งไม่ค่อยกิน... แล้วบอกว่า ถูกต้องแล้ว...  ทีี่

ค่าแรงเราวันนึง เลยซื้อได้ เยอะจานกว่า...   เมพมากๆ 

 

อวดฉลาด แล้วหาว่าคนอื่น โชว์โง่

แบบนี้ ผมกลัวแล้วครับ...    

 

เคยอ่าน ลายเซ้น ผมป่าวครับ ใช้มา สองปีแล้วไม่เคยเปลี่ยน...  เพราะ คนที่นี่ ต้องการมัน อย่างแรง...

:D

 

 

เฮนเอ๊ย เอ็งไม่รู้จักวิธี Normalization สำหรับตัวแปรหรือปัจจัยที่แตกต่างกันสินะ ถึงกล้าแถแถด ๆ แบบนี้เนี่ย

 

เอาเถอะ เข้าใจเอ็งแล้ว

 

ท่านเคยเห็นตัวเลข GDP สถาบันไหนเค้า normalize กับ การที่ ประชากร กินจุ กินไม่จุ

หรือ ตัวไม่เท่ากันป่าวครับ...   ทำไมไม่ทำละครับ...  

 

ฝรั่งตัวใหญ่กินจุกว่า ก็ต้อง ผลิตของได้มากกว่า... 

 

จะเอาฮาไปไหน..    

:D  


"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#114 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:35

 

 

 

 

แล้วที่เขาเถียงกันว่า  จะคงดอกเบี้ยนโบาย  ลดดอกเบี้ยนโยบาย  มันเกี่ยวกับบาทแข็งมั๊ย?  แล้วควรทำอย่างไร?

 

 

เกี่ยวครับ  คือสรุปคร่าวๆ คือ  การที่ดอกเบี้ยสูง  มันจะทำให้ต่างประเทศเอาเงินมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น  เพราะผลตอบแทนดีกว่า  ซึ่งถ้าเงินต่างประเทศไหลเข้ามากก็จะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนไป  เงินในประเทศ (เงินบาท) จะแข็งค่าขึ้น เพราะต่างชาติจะมีความต้องการเงินบาทมากขึ้นเพื่อมาลงทุนในประเทศ (หลัก Demand Supply ปกติเลย คือ Demand บาทมาก  เงินบาทเลยราคาแพง = เงินบาทแข็ง)
 
ถามว่าแล้วทำไมต่างชาติถึงมีเงินเยอะเหลือเกิน  ก็เพราะต่างประเทศเค้าใช้นโยบายเพิ่มเงินในประเทศของเค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครับ เช่น USA มี QE 1 2 3 ออกมา  ส่วน ญี่ปุ่น ก็มีมาตรการคล้ายๆ กันออกมาเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจประเทศเค้า เป็นต้น
 
ทีนี้มันจะมีเรื่องของการลดดอกเบี้ยมาเกี่ยวข้องตรงนี้ครับคือ มีทั้งฝ่ายที่เสนอให้ลดดอกเบี้ย  และไม่ลดดอกเบี้ย
 
โดยที่ฝ่ายหนึ่งมองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะสามารถสกัดเงินทุนไหลเข้า และหากไม่ลดดอกเบี้ยเงินบาทก็จะแข็งค่าขึ้นไปอีกจนอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่าหากลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว อาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ (ทั้งจากภาคอสังหาริมทรัพย์ หนี้ภาคครัวเรือน และหุ้น) และจะเป็นตัวเร่งให้เงินเฟ้อภายในประเทศขยายตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงได้
 
ประเด็น “บาทแข็ง” กับ “ดอกอ่อน” ยังสรุปไม่ได้ว่าแนวคิดใครถูกหรือผิด เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผล แต่สิ่ประเด็นคือ ดอกเบี้ยนโยบายของไทยสูงจริงหรือไม่? คำตอบคร่าวๆ คือ
 
- ดอกเบี้ยไทยสูงเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยประเทศพัฒนาแล้วที่ต่ำเกือบ 0% 
 
- ดอกเบี้ยไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศของเอเชียตะวันออกและอาเซียนที่ติดลบ ถ้าคิดในรูปดอกเบี้ยที่แท้จริง 
 
- ดอกเบี้ยไทยต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่มี Credit Rating เท่ากันคือ Baa1 เช่น เม็กซิโก แอฟริกาใต้ และรัสเซีย
 
- ดอกเบี้ยอินโดสูงมากกว่าเราเยอะ  แต่เงินไม่ไหลเข้าเท่าไทย
 
ทีนี้ถ้าถามความเห็นผม (ทำอาชีพเกี่ยวกับเรื่องนี้พอประมาณ) ไม่มีความเห็นจริงๆ ว่าควรทำยังไง  เพราะอย่างข้อมูลที่มีคือดอกเบี้ยในสูงกว่า USA กับ Japan และ China จริง  ทำให้ดูดเงินลงทุนไหลเข้าได้  แต่ดอกเบี้ยที่แท้จริงเราติดลบ (เงินเฟ้อสูงกว่าดอกเบี้ย) มันก็เลยกั๊กๆ กันระหว่าง 2 ทางคือ
 
(1) ถ้าลดอกเบี้ย ก็ทำให้ตลาดหุ้นยิ่งฟองสบู่เข้าไปอีก  คนธรรมดาๆ ที่มีเงินฝากก็ยิ่งแย่ เข้าไปอีก  ตลาดอสังหาอาจเกิดฟองสบู่ (กู้ง่าย + ดอกต่ำ)
(2) ถ้าไม่ลดดอกเบี้ย เงินก็จะแข็งอยู่แบบนี้ต่อไป
 
เอาเป็นว่าผมเชื่อ ดร. ประสาร ครับ  ผมว่าการที่ท่านจะทำอะไรซักอย่าง  คงมีเหตุผลที่ดีพอที่คิดมามากกว่าผม
 
(ยาวมาก  จะมีใครอ่านมั๊ยเนี่ย)  :o  :o  :o

 

ผมอ่าน...   ทำทุกอย่างมีได้มีเสียครับ..      

ผมสงสัยว่า... 

 

"ดอกเบี้ยอินโดสูงมากกว่าเราเยอะ  แต่เงินไม่ไหลเข้าเท่าไทย"  

 

นั่นสิครับ... ทำไม.. 

 

:D

คำถามน่าสนใจ

 

จับประเด็นของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย 

http://www.bot.or.th...cle17_03_13.pdf

 

 

ขอบคุณที่ช่วยเหลือครับ  แต่จะขอเน้นของอินโดหน่อย  เพราะผมยกตัวอย่างมาก่อนบ้างละ  กลัวหาว่าเอามาแปะแล้วก็หนีไปเฉยๆ 
 
 
ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของอินโด (ของเค้าเรียก BI Rate) คือ 5.75%  ของไทย 2.75% (ต่างกันตั้ง 3%) แต่เงินบาทไทยแข็งเยอะกว่ามาก (เพราะเงินไหลเข้ามาก)
 
 
แต่ตั้งแต่ต้นปีมา  เงินบาทไทยแข็งไป 5.07% ในขณะที่ อินโด แข็งขึ้นแค่ 0.91%  ทั้งๆที่อัตราดอกเบี้ยอินโดสูงกว่า  คนน่าจะลงทุนมากกว่าสิ ???
 
 
แสดงว่าก็แปลว่าอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวไม่น่าจะเป็นตัวที่ทำให้เงินแข็งขึ้น  ทีนี้เลยคาดกันว่าเป็นเพราะอันดับความน่าเชื่อถือของไทยมันมากกว่าอินโด  คนเลยมาลงทุนมากกว่า (เพราะความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ไทยน้อยกว่า  แปลง่ายๆ ว่าไทยน่าลงทุนมากกว่าเพราะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า) เหตุผลก็เป็นไปตาม link ของท่าน MIRO เลยครับ
 
 
โดยไทยอันดับเครดิต BBB+  สูงกว่า อินโด BB+  2 ขั้น (อันดับของ S&P นะ  ผมไม่มี log in ดูของ Moody's) 
 
 
แต่ช้าก่อน  อย่าเพิ่งเหมาว่าเป็นเพราะปูทำให้ประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือ  เพราะสมัยมาร์คประเทศไทยก็อันดับ Rating BBB+ อยู่แล้วนะครับ   :lol:
 
 
เรื่องทั้งหมดก็ประมาณนี้แหละครับ (ส่วนเรื่องการถกภาษาอังกฤษ ไม่เห็นเกี่ยวกับกระทู้เลย) 

 

รู้ทันด้วย....   จะปูหรือ ม้ากทำไว้..  ประเทศไทย ก็น่าเชื่อถือกว่า เพื่อนบ้านแถวนี้เยอะ..

ต่างจากที่หลายคนจินตนการไว้ซะน่ากลัว..    

 

ยิ่ง การเมืองนิ่ง ไร้ผู้ต่อต้าน..แบบที่เป็นอยู่  ..      ความเชื่อมั่น มันมาเอง

 

การย้ายเงิน ผมมองว่ามันเป็นการทำไร่เลื่อนลอยแบบนึง...  

 ย้่ายเงินเข้ามากินดอกเบี้ย ในประเทศที่มีความน่าเชื่อพอสมควร  มีความเสียงต่ำ และ ได้โบนัสเป็น ส่วนต่างของ ค่าเงินที่แข็งขึ้นอีกต่างหาก...   

 

:D


"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#115 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:55

เรียนจบมหาลัยที่ไทยยังสู้เด็กอนุบาลที่ us ไม่ได้เลย. เหอะจะอ่านออกไม่นะ. ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนดังหลายแห่งในไทย. เด็กโง่หัวขี้เลื่อย อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ไอคิวตำ่สุดๆ. โธ่. จะฝากลูกทีก็ต้องเสียใต้โต๊ะ ระบบมันแย่มานานแล้ว. แกล้งเป็นเกลียดตัวกินหนอน วัฒนธรรมก็รับเขามาเต็มบ้านเต็มเมือง. โธ่ เจริญขึ้นก็เพราะต่างชาติ นิยมโอ๋อวดอีกต่างหาก พี่ไทย ทีหลังจะข่มคนให้ดูซะมัง. ว่าใครแน่ว่าใคร.

#116 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 14:57

ที่จริงมันไม่เกี่ยวหรอก. แต่อ่านเนื้อหาข้่างบนว่ามันเกี่ยวยังไง....

#117 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:01

ถามตัวเองเถอะ ว่าเคยไปเหยียบอเมิกาหรือเปล่า. ไม่ทราบไปซื้อที่ซอกไหนมิทราบ ถึงได้แพงจัง us มี ของกิน นมเนย ชีส ขนมปัง ทุกอย่างเป็นร้อย ยี่ห้อ ให้เลือกซื้อเลือกหา. ในห้างร้าน. ถูกแสนถูก กว่าเมืองไทย. รสชาติและคุณภาพไม่ต้องพูดถึง. ยิ่งเป็นแบรนเนมของแท้. ถูกกว่าไทย. แน่นอน. ของไทยราคาใช้แต่เป็นของปลอม. อย่ามาเถียงคนอยู่ อเมริกามาเป็น 20ปี แม้ตัวเองโง่. ก็อวดฉลาดนะ. ไอ้พี่ไทย มันบ้ามาเถียงคนเขาอยู่us มาทั้งนาน น่าสมเพชมากกว่า ไปไกลเลยน่าเบื่อ โถนึกว่าแน่. น่าสงสาร. คงจะไปเที่ยวแล้วโง่ลงไปซื้อร้านแพง. สมนำ้หน่้า. โง่.

 

อยู่อเมริกามา ๒๐ ปีเชียวรึ

 

งั้นผมถามง่าย ๆ ดังนี้ เป็นคำถามที่คนอยู่อเมริกามา ๒๐ ปี สมควรจะตอบได้

 

๑. HYPSM คืออะไร

 

๒. Ivy leagues มีโรงเรียนอะไรบ้าง และรวมตัวกันอย่างไร

 

๓. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอเมริกาใต้ว่าอย่างไร

 

๔. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอินเดียว่าอย่างไร

 

๕. คนไทยในอเมริกา เรียกคนฟิลิปปินส์ว่าอย่างไร

 

ตอบไม่ได้ ไม่ตอบ ถือว่าตอแหล

 

 

 

ตลกหว่ะแบะแบะ
 
ผมเคยไปเรียนหนังสือที่อเมริกามาตั้งแต่สมัยคลินตัน ผมไม่เห็นต้องรู้เรื่องที่คุณว่ามาเลย
 
HYPSM ผมเดาว่าคงหมายถึง Havard, Yale, Princeton, Standford กับ MIT
 
ส่วนคนอเมริกาใต้ คุณเรียกอะไรไม่รู้แต่ตอนผมอยู่เขาเรียกกันว่าไอ้เม็ก เรื่องอื่นๆ ที่คุณว่าผมไม่เห็นจะรู้เลย
 
คุณเอาไปพิสูจน์ได้หรือว่าใครเคยอยู่อเมริกา???
 
ตรรกะคุณเหมือนกับไอเชที่มันไม่เชื่อผมว่าผมเลือก ปชป มาตลอดชีวิต เชเขาถามหาหมายเลขสมาชิกพรรค ปชป เพื่อพิสูจน์!!!
 
ส่วนตรรกะคุณก็พอกับของไอเช
 
โรงเรียนคุณเขาสอนมาอย่างนั้นหรือ?


#118 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:03

คนเขาจบนอก ยังไงฝรั่งก็ฉลาดกว่าอยู่แล้ว. ไทยได้แต่เฟ้อฝัน. ไม่มีปัญญาหรอก. เห็นเงินนะวิ่งเขาใส่.

#119 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:04

เรียนจบมหาลัยที่ไทยยังสู้เด็กอนุบาลที่ us ไม่ได้เลย. เหอะจะอ่านออกไม่นะ. ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนดังหลายแห่งในไทย. เด็กโง่หัวขี้เลื่อย อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ไอคิวตำ่สุดๆ. โธ่. จะฝากลูกทีก็ต้องเสียใต้โต๊ะ ระบบมันแย่มานานแล้ว. แกล้งเป็นเกลียดตัวกินหนอน วัฒนธรรมก็รับเขามาเต็มบ้านเต็มเมือง. โธ่ เจริญขึ้นก็เพราะต่างชาติ นิยมโอ๋อวดอีกต่างหาก พี่ไทย ทีหลังจะข่มคนให้ดูซะมัง. ว่าใครแน่ว่าใคร.

 

 

เด็กที่เมกามันเก่งตรงไหน...

 

แข่งวิชาการโอลิมปิค ไม่เห็นเด็กเมกามันสู้ไทยได้

 

หลานผมสอนเด็กไฮอยู่ ยังปวดหัว ว่ามันท่องสูตรคูณไม่เป็น...

 

ไปนั่งกินข้าวในร้าน....เจอเด็กจบจูเนี่ยร์ แมร่งฉลองกันเต็มร้าน..

 

:lol: 



#120 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:06

 

  เมื่อเช้าได้ยินแวบว่าค่าเงินตอนนี้ขึ้นสูงมาก และอาจสูงถึง 26-27 บาท ตือ USD และได้มีการุยอย่างจริงจังเรื่องปัญหาเงินไหลเข้าที่ทำให้ค่าเงินพุ่งขึ้นแบบนี้

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรไหม? ที่เห็นชัดๆตอนนี้คือส่งออกจะยากเพราะค่าเงินที่สูงทำให้เราต้องขายแพงขึ้น ขายยากขึ้น  ยิ่งเราพึ่งพิงส่งออกเสีย 70 %

  ผมไม่แน่ใจว่านี้กำลังจะผนวชรวมกับค่าแรงที่ขึ้นทำให้ SME ที่แย่อยู่แล้แย่ขึ้นไหม?

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้มูลค่าข้าวที่จำนำราคาจะสูงเกินตลาดโลกไหม

 

  ฯลฯ

 

  ระดมความคิดกันที  จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยที่ค่าเงินกำลังพุ่ง

 

 

คุณมองแต่ปัญหา/ข้อเสีย 

บางธุรกิจก็เสียประโยชน์แต่บางธุรกิจเขาก็ได้ประโยชน์
เช่นธุรกิจที่เขามีหนี้ต่างประเทศอยู่ เขาก็ถือโอกาสกู้ US ก้อนใหม่มาโปะก้อนเก่าได้ ต้นทุนเขาก็ต่ำลง

 

หนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน หากคิดเป็นหน่วย USD อยู่ที่ราว ๖.๗ หมื่นล้าน หากแต่ประเทศที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของภาคเอกชนเราเป็นสิงคโปร์ มีสัดส่วนหนี้ที่เกือบ ๆ ๓ หมื่นล้าน

 

ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้คือ สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของภาคเอกชน ไต่ไปอยู่ระดับพอ ๆ กับสมัยตอนปี ๔๐ แล้ว ลองคิดแค่ว่า เงินบาทแข็ง ก็พากันไปกู้เป็น USD มาโปะ หากเงินบาทอ่อนตัวเมื่อไร แค่สัก ๒ บาท ก็เดี้ยงกันเป็นแถบ ๆ

 

แล้วธุรกิจพวกนี้ เค้าไม่ได้เหมือนบัตรเครดิตที่ไปทำหลายๆ ใบเพื่อมาหมุนได้ง่าย ๆ นะ การจะไปขอกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก เค้าต้องมีการประเมินความเสี่ยง ความสามารถในการใช้หนี้อย่างรอบคอบ ถ้าเป็นการขอเป็นพอร์ตกู้เพื่อนำไปลงทุน และมีเครดิตดี ก็แล้วไป แต่กรณีที่มีหนี้อยู่แล้วมาขอกู้เพื่อจะไปโปะหนี้เก่า อันนี้เค้าแทบจะไม่ให้ เพราะมันเป็นเหมือนกันกับตัวบ่งชี้ว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความสามารถในการใช้หนี้ เพียงแต่ใช้วิธีกู้มาโปะ สถาบันการเงินเค้าก็กลัวจะเป็นเจ้าสุดท้ายที่ให้กู้แล้วลูกหนี้หาเงินมาคืนไม่ได้เหมือนกัน

 

คิดตื้น ๆ

 

 

ทำไมจะไม่ได้ครับ เขาทำกันเยอะแยะ

บริษัทใหญ่ๆ ที่เขามีเครดิตเรทติ้งดีๆ ค่าเงินในประเทศแข็งขึ้นเขาก็กู้เข้ามาโปะก้อนเก่าที่ต้นทุนสูงกันทั้งนั้น



#121 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:12

 

ถามตัวเองเถอะ ว่าเคยไปเหยียบอเมิกาหรือเปล่า. ไม่ทราบไปซื้อที่ซอกไหนมิทราบ ถึงได้แพงจัง us มี ของกิน นมเนย ชีส ขนมปัง ทุกอย่างเป็นร้อย ยี่ห้อ ให้เลือกซื้อเลือกหา. ในห้างร้าน. ถูกแสนถูก กว่าเมืองไทย. รสชาติและคุณภาพไม่ต้องพูดถึง. ยิ่งเป็นแบรนเนมของแท้. ถูกกว่าไทย. แน่นอน. ของไทยราคาใช้แต่เป็นของปลอม. อย่ามาเถียงคนอยู่ อเมริกามาเป็น 20ปี แม้ตัวเองโง่. ก็อวดฉลาดนะ. ไอ้พี่ไทย มันบ้ามาเถียงคนเขาอยู่us มาทั้งนาน น่าสมเพชมากกว่า ไปไกลเลยน่าเบื่อ โถนึกว่าแน่. น่าสงสาร. คงจะไปเที่ยวแล้วโง่ลงไปซื้อร้านแพง. สมนำ้หน่้า. โง่.

 

อยู่อเมริกามา ๒๐ ปีเชียวรึ

 

งั้นผมถามง่าย ๆ ดังนี้ เป็นคำถามที่คนอยู่อเมริกามา ๒๐ ปี สมควรจะตอบได้

 

๑. HYPSM คืออะไร

 

๒. Ivy leagues มีโรงเรียนอะไรบ้าง และรวมตัวกันอย่างไร

 

๓. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอเมริกาใต้ว่าอย่างไร

 

๔. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอินเดียว่าอย่างไร

 

๕. คนไทยในอเมริกา เรียกคนฟิลิปปินส์ว่าอย่างไร

 

ตอบไม่ได้ ไม่ตอบ ถือว่าตอแหล

 

 

 

ตลกหว่ะแบะแบะ
 
ผมเคยไปเรียนหนังสือที่อเมริกามาตั้งแต่สมัยคลินตัน ผมไม่เห็นต้องรู้เรื่องที่คุณว่ามาเลย
 
HYPSM ผมเดาว่าคงหมายถึง Havard, Yale, Princeton, Standford กับ MIT
 
ส่วนคนอเมริกาใต้ คุณเรียกอะไรไม่รู้แต่ตอนผมอยู่เขาเรียกกันว่าไอ้เม็ก เรื่องอื่นๆ ที่คุณว่าผมไม่เห็นจะรู้เลย
 
คุณเอาไปพิสูจน์ได้หรือว่าใครเคยอยู่อเมริกา???
 
ตรรกะคุณเหมือนกับไอเชที่มันไม่เชื่อผมว่าผมเลือก ปชป มาตลอดชีวิต เชเขาถามหาหมายเลขสมาชิกพรรค ปชป เพื่อพิสูจน์!!!
 
ส่วนตรรกะคุณก็พอกับของไอเช
 
โรงเรียนคุณเขาสอนมาอย่างนั้นหรือ?

 

HYPSM  =  Harvard University,  Yale University,  Princeton University,  Stanford University,  Massachusetts Institute of Technology

 

 
Ivy league =  Brown University, Columbia University, Cornell University, Dartmouth College, Harvard University, Princeton University, the University of Pennsylvania, and Yale University.
 
ที่เหลือผมก็ไม่รู้ เพราะไม่ค่อยได้เจอคนไทย... 
 
 
คุณลีครับ...  
เค้าคิดว่า กะลาเค้าคือโลกทั้งใบ  ใครก็ตามริอ่าน จะบอกว่าอยู่ในโลก  
ต้อง รู้สิ่งที่อยู่ในกะลาเค้าด้วย... 
 
:D

"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#122 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:14

Baezae มันหายหัวแล้ว.

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==


Edited by Mod_108, 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:32.
7.ห้ามตั้งกระทู้หรือแสดงความเห็นที่มีลักษณยั่วยุให้เพื่อนสมาชิกโกรธเคือง หรือสร้างความร้าวฉาน แตกความสามัคคีในหมู่สมาชิก


#123 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:17

 

เฮนไตมาโชว์โง่อีกละ

 

อาหารที่นี่มันพอร์ชั่นใหญ่เพราะอะไร เพราะถ้าให้ปริมาณเท่ากับบ้านเรา ฝรั่งมันกินไม่อิ่ม ในขณะที่เรากินกันธรรมดาอิ่ม กลับกันหากคนไทยบ้านเรามากินอาหารที่อเมริกา ปริมาณมันก็เยอะเกินกว่าความต้องการกินไม่หมด ดังนั้นมันจึงต้องเทียบเป็น relative term เพื่อให้ให้มันเหมาะกับสถานที่ และสถานะ

 

กระทั่งโค้กที่เฮนไตพยายามจะแถให้มันเท่ากัน แต่หารู้ไม่ว่า พฤติกรรมการกินน้ำอัดลมของฝรั่งกันคนไทยต่างกันโดยสิ้นเชิง ในขณะที่น้ำอัดลมบ้านเรากินกันเป็นกระป๋อง ๑ กระป๋องก็เรอแล้ว ที่นี้ส่วนใหญ่จะกินทีก็กินขวด ๕๐๐ มิลเป็นปกติ โค้กกระป๋องนี่สำหรับเอาไว้แจกรวมไปกับพวก lunch special ด้วยซ้ำไป

 

นี่ยังไม่นับว่า อเมริกันเป็นจำนวนมาก กินน้ำอัดลม หรือโซดาพวกเซลเซอร์แทบน้ำเปล่ากันไปเลย ในขณะที่คนไทยเรากินเป็นของหวาน กินวันนึง ๒ กระป๋องก็ถือว่าเยอะ

 

อ้อ แล้วไม่เห็นรึ ว่าก่อนหน้าได้เปรียบเทียบยกตัวอย่างนม ที่ด้วยปริมาณเท่ากัน อเมริกามันก็ขายแพงกว่าเรา ขนาดว่าไทยเรานำเข้าน้ำนมเป็นจำนวนมากและมากกว่าที่ผลิตในประเทศเสียอีก เช่นเดียวกันกับถั่วเหลือง ในขณะที่อเมริกามันผลิตนมได้เอง ผลิตราว ๙๐ ล้านตัน แต่นำเข้าเพียงแค่ไม่เกิน ๓ ล้านตัน แต่กลับขายนมในราคาแพงกว่าเราเป็นเท่า

 

ตกลงว่า  ท่านใช้ความฉลาดของท่าน เทียบ จานใหญ่ของฝรั่ง กับ จานเล็กของไทย...  

แล้วใช้ ข้าว ที่ฝรั่งไม่ค่อยกิน... แล้วบอกว่า ถูกต้องแล้ว...  ทีี่

ค่าแรงเราวันนึง เลยซื้อได้ เยอะจานกว่า...   เมพมากๆ 

 

อวดฉลาด แล้วหาว่าคนอื่น โชว์โง่

แบบนี้ ผมกลัวแล้วครับ...    

 

เคยอ่าน ลายเซ้น ผมป่าวครับ ใช้มา สองปีแล้วไม่เคยเปลี่ยน...  เพราะ คนที่นี่ ต้องการมัน อย่างแรง...

:D

 

 

เฮนเอ๊ย เอ็งไม่รู้จักวิธี Normalization สำหรับตัวแปรหรือปัจจัยที่แตกต่างกันสินะ ถึงกล้าแถแถด ๆ แบบนี้เนี่ย

 

เอาเถอะ เข้าใจเอ็งแล้ว

 

 

 

เวลาเขา normalize เขาไม่ normalize แบบที่คุณว่าหรอก
เขาเทียบค่าครองชีพกับรายได้เพื่อดูว่าคุณมีกำลังซื้อแค่ไหน
 
ดูกันอย่างเร็วๆ นะ อาจจะคลาดเคลื่อนบ้าง แต่พอได้ไอเดีย
 
 
 
-Consumer Prices in United States are 50.86% higher than in Thailand
 
-Consumer Prices Including Rent in United States are 56.92% higher than in Thailand
 
-Rent Prices in United States are 73.14% higher than in Thailand
 
-Restaurant Prices in United States are 159.25% higher than in Thailand
 
-Groceries Prices in United States are 34.37% higher than in Thailand
 
เข้าไปดูรายการ ของบางอย่างในอเมริกาแพงกว่าไทย แต่มีสินค้าและบริการบางอย่างที่ถูกกว่าไทย
เช่น
 
Milk (regular), 1 liter 44.00 ฿     29.02 ฿      -34.03 %
 
Local Cheese (1kg) 440.00 ฿     258.59 ฿      -41.23 %
 
Bottle of Wine (Mid-Range) 500.00 ฿     348.30 ฿      -30.34 %
 
Gasoline (1 liter) 40.00 ฿     28.37 ฿      -29.07 %
 
Fitness Club, Monthly Fee for 1 Adult 1,200.00 ฿     1,161.00 ฿      -3.25 %
 
1 Pair of Jeans (Levis 501 Or Similar) 1,400.00 ฿     1,161.00 ฿      -17.07 %
 
1 Pair of Nike Shoes 2,500.00 ฿     2,176.88 ฿      -12.92 %
 
Price per Square Meter to Buy Apartment in City Centre 72,379.00 ฿     46,863.37 ฿      -35.25 %
Price per Square Meter to Buy Apartment Outside of Centre 45,000.00 ฿     34,366.47 ฿      -23.63 %
 
 
แต่
 
-Median Monthly Disposable Salary (After Tax) 15,000.00 ฿     91,893.15 ฿      +512.62 %
 
-Mortgage Interest Rate in Percentanges (%), Yearly 6.00     4.42      -26.33 %
 
 
เพราะฉะนั้น
Local Purchasing Power in United States is 290.41% higher than in Thailand


#124 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:18

 

 

ถามตัวเองเถอะ ว่าเคยไปเหยียบอเมิกาหรือเปล่า. ไม่ทราบไปซื้อที่ซอกไหนมิทราบ ถึงได้แพงจัง us มี ของกิน นมเนย ชีส ขนมปัง ทุกอย่างเป็นร้อย ยี่ห้อ ให้เลือกซื้อเลือกหา. ในห้างร้าน. ถูกแสนถูก กว่าเมืองไทย. รสชาติและคุณภาพไม่ต้องพูดถึง. ยิ่งเป็นแบรนเนมของแท้. ถูกกว่าไทย. แน่นอน. ของไทยราคาใช้แต่เป็นของปลอม. อย่ามาเถียงคนอยู่ อเมริกามาเป็น 20ปี แม้ตัวเองโง่. ก็อวดฉลาดนะ. ไอ้พี่ไทย มันบ้ามาเถียงคนเขาอยู่us มาทั้งนาน น่าสมเพชมากกว่า ไปไกลเลยน่าเบื่อ โถนึกว่าแน่. น่าสงสาร. คงจะไปเที่ยวแล้วโง่ลงไปซื้อร้านแพง. สมนำ้หน่้า. โง่.

 

อยู่อเมริกามา ๒๐ ปีเชียวรึ

 

งั้นผมถามง่าย ๆ ดังนี้ เป็นคำถามที่คนอยู่อเมริกามา ๒๐ ปี สมควรจะตอบได้

 

๑. HYPSM คืออะไร

 

๒. Ivy leagues มีโรงเรียนอะไรบ้าง และรวมตัวกันอย่างไร

 

๓. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอเมริกาใต้ว่าอย่างไร

 

๔. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอินเดียว่าอย่างไร

 

๕. คนไทยในอเมริกา เรียกคนฟิลิปปินส์ว่าอย่างไร

 

ตอบไม่ได้ ไม่ตอบ ถือว่าตอแหล

 

 

 

ตลกหว่ะแบะแบะ
 
ผมเคยไปเรียนหนังสือที่อเมริกามาตั้งแต่สมัยคลินตัน ผมไม่เห็นต้องรู้เรื่องที่คุณว่ามาเลย
 
HYPSM ผมเดาว่าคงหมายถึง Havard, Yale, Princeton, Standford กับ MIT
 
ส่วนคนอเมริกาใต้ คุณเรียกอะไรไม่รู้แต่ตอนผมอยู่เขาเรียกกันว่าไอ้เม็ก เรื่องอื่นๆ ที่คุณว่าผมไม่เห็นจะรู้เลย
 
คุณเอาไปพิสูจน์ได้หรือว่าใครเคยอยู่อเมริกา???
 
ตรรกะคุณเหมือนกับไอเชที่มันไม่เชื่อผมว่าผมเลือก ปชป มาตลอดชีวิต เชเขาถามหาหมายเลขสมาชิกพรรค ปชป เพื่อพิสูจน์!!!
 
ส่วนตรรกะคุณก็พอกับของไอเช
 
โรงเรียนคุณเขาสอนมาอย่างนั้นหรือ?

 

HYPSM  =  Harvard University,  Yale University,  Princeton University,  Stanford University,  Massachusetts Institute of Technology

 

 
Ivy league =  Brown University, Columbia University, Cornell University, Dartmouth College, Harvard University, Princeton University, the University of Pennsylvania, and Yale University.
 
ที่เหลือผมก็ไม่รู้ เพราะไม่ค่อยได้เจอคนไทย... 
 
 
คุณลีครับ...  
เค้าคิดว่า กะลาเค้าคือโลกทั้งใบ  ใครก็ตามริอ่าน จะบอกว่าอยู่ในโลก  
ต้อง รู้สิ่งที่อยู่ในกะลาเค้าด้วย... 
 
:D

 

ผมก็ไม่ค่อยได้สุงสิงกับคนไทยหรอกครับ ส่วนใหญ่ผมคบแต่พวกเด็กจีน ไต้หวัน เกาหลี อินโด
เลยไม่ค่อยรู้ว่าในกะลาเค้ามีอะไร   :)


Edited by Leeporter ขี้แพ้, 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:33.


#125 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:18

55555 เหรอ. พึ่งรู้ว่าเด็กไทยฉลาด. ถึงว่าชาติบ้านเมืองถึงได้เป็นยังงี้ไง....

#126 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:53

 

 

  เมื่อเช้าได้ยินแวบว่าค่าเงินตอนนี้ขึ้นสูงมาก และอาจสูงถึง 26-27 บาท ตือ USD และได้มีการุยอย่างจริงจังเรื่องปัญหาเงินไหลเข้าที่ทำให้ค่าเงินพุ่งขึ้นแบบนี้

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรไหม? ที่เห็นชัดๆตอนนี้คือส่งออกจะยากเพราะค่าเงินที่สูงทำให้เราต้องขายแพงขึ้น ขายยากขึ้น  ยิ่งเราพึ่งพิงส่งออกเสีย 70 %

  ผมไม่แน่ใจว่านี้กำลังจะผนวชรวมกับค่าแรงที่ขึ้นทำให้ SME ที่แย่อยู่แล้แย่ขึ้นไหม?

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้มูลค่าข้าวที่จำนำราคาจะสูงเกินตลาดโลกไหม

 

  ฯลฯ

 

  ระดมความคิดกันที  จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยที่ค่าเงินกำลังพุ่ง

 

 

คุณมองแต่ปัญหา/ข้อเสีย 

บางธุรกิจก็เสียประโยชน์แต่บางธุรกิจเขาก็ได้ประโยชน์
เช่นธุรกิจที่เขามีหนี้ต่างประเทศอยู่ เขาก็ถือโอกาสกู้ US ก้อนใหม่มาโปะก้อนเก่าได้ ต้นทุนเขาก็ต่ำลง

 

หนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน หากคิดเป็นหน่วย USD อยู่ที่ราว ๖.๗ หมื่นล้าน หากแต่ประเทศที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของภาคเอกชนเราเป็นสิงคโปร์ มีสัดส่วนหนี้ที่เกือบ ๆ ๓ หมื่นล้าน

 

ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้คือ สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของภาคเอกชน ไต่ไปอยู่ระดับพอ ๆ กับสมัยตอนปี ๔๐ แล้ว ลองคิดแค่ว่า เงินบาทแข็ง ก็พากันไปกู้เป็น USD มาโปะ หากเงินบาทอ่อนตัวเมื่อไร แค่สัก ๒ บาท ก็เดี้ยงกันเป็นแถบ ๆ

 

แล้วธุรกิจพวกนี้ เค้าไม่ได้เหมือนบัตรเครดิตที่ไปทำหลายๆ ใบเพื่อมาหมุนได้ง่าย ๆ นะ การจะไปขอกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก เค้าต้องมีการประเมินความเสี่ยง ความสามารถในการใช้หนี้อย่างรอบคอบ ถ้าเป็นการขอเป็นพอร์ตกู้เพื่อนำไปลงทุน และมีเครดิตดี ก็แล้วไป แต่กรณีที่มีหนี้อยู่แล้วมาขอกู้เพื่อจะไปโปะหนี้เก่า อันนี้เค้าแทบจะไม่ให้ เพราะมันเป็นเหมือนกันกับตัวบ่งชี้ว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความสามารถในการใช้หนี้ เพียงแต่ใช้วิธีกู้มาโปะ สถาบันการเงินเค้าก็กลัวจะเป็นเจ้าสุดท้ายที่ให้กู้แล้วลูกหนี้หาเงินมาคืนไม่ได้เหมือนกัน

 

คิดตื้น ๆ

 

 

ทำไมจะไม่ได้ครับ เขาทำกันเยอะแยะ

บริษัทใหญ่ๆ ที่เขามีเครดิตเรทติ้งดีๆ ค่าเงินในประเทศแข็งขึ้นเขาก็กู้เข้ามาโปะก้อนเก่าที่ต้นทุนสูงกันทั้งนั้น

 

 

เพิ่งโพสเสร็จ ออกไปอ่านข่าววันนี้ก็เจอเลย

http://www.bangkokbi...้เงินดอลล์.html

 

 

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (11 เม.ย.) มีมติเห็นชอบแผนการจัดหาเงินกู้ของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2556-2560) วงเงินรวม 2.5 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมที่จะครบกำหนดชำระรวม 1.5 แสนล้านบาท และอีก 1 แสนล้านบาทใช้ในการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และการร่วมทุน พร้อมทั้งจะหาโอกาสด้านธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ไฟฟ้า และ ถ่านหิน

--

 

 

ปตท คิดตื้นๆ อิ๋บอ๋าย



#127 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:26

 

 

 

  เมื่อเช้าได้ยินแวบว่าค่าเงินตอนนี้ขึ้นสูงมาก และอาจสูงถึง 26-27 บาท ตือ USD และได้มีการุยอย่างจริงจังเรื่องปัญหาเงินไหลเข้าที่ทำให้ค่าเงินพุ่งขึ้นแบบนี้

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรไหม? ที่เห็นชัดๆตอนนี้คือส่งออกจะยากเพราะค่าเงินที่สูงทำให้เราต้องขายแพงขึ้น ขายยากขึ้น  ยิ่งเราพึ่งพิงส่งออกเสีย 70 %

  ผมไม่แน่ใจว่านี้กำลังจะผนวชรวมกับค่าแรงที่ขึ้นทำให้ SME ที่แย่อยู่แล้แย่ขึ้นไหม?

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้มูลค่าข้าวที่จำนำราคาจะสูงเกินตลาดโลกไหม

 

  ฯลฯ

 

  ระดมความคิดกันที  จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยที่ค่าเงินกำลังพุ่ง

 

 

คุณมองแต่ปัญหา/ข้อเสีย 

บางธุรกิจก็เสียประโยชน์แต่บางธุรกิจเขาก็ได้ประโยชน์
เช่นธุรกิจที่เขามีหนี้ต่างประเทศอยู่ เขาก็ถือโอกาสกู้ US ก้อนใหม่มาโปะก้อนเก่าได้ ต้นทุนเขาก็ต่ำลง

 

หนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน หากคิดเป็นหน่วย USD อยู่ที่ราว ๖.๗ หมื่นล้าน หากแต่ประเทศที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของภาคเอกชนเราเป็นสิงคโปร์ มีสัดส่วนหนี้ที่เกือบ ๆ ๓ หมื่นล้าน

 

ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้คือ สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของภาคเอกชน ไต่ไปอยู่ระดับพอ ๆ กับสมัยตอนปี ๔๐ แล้ว ลองคิดแค่ว่า เงินบาทแข็ง ก็พากันไปกู้เป็น USD มาโปะ หากเงินบาทอ่อนตัวเมื่อไร แค่สัก ๒ บาท ก็เดี้ยงกันเป็นแถบ ๆ

 

แล้วธุรกิจพวกนี้ เค้าไม่ได้เหมือนบัตรเครดิตที่ไปทำหลายๆ ใบเพื่อมาหมุนได้ง่าย ๆ นะ การจะไปขอกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก เค้าต้องมีการประเมินความเสี่ยง ความสามารถในการใช้หนี้อย่างรอบคอบ ถ้าเป็นการขอเป็นพอร์ตกู้เพื่อนำไปลงทุน และมีเครดิตดี ก็แล้วไป แต่กรณีที่มีหนี้อยู่แล้วมาขอกู้เพื่อจะไปโปะหนี้เก่า อันนี้เค้าแทบจะไม่ให้ เพราะมันเป็นเหมือนกันกับตัวบ่งชี้ว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความสามารถในการใช้หนี้ เพียงแต่ใช้วิธีกู้มาโปะ สถาบันการเงินเค้าก็กลัวจะเป็นเจ้าสุดท้ายที่ให้กู้แล้วลูกหนี้หาเงินมาคืนไม่ได้เหมือนกัน

 

คิดตื้น ๆ

 

 

ทำไมจะไม่ได้ครับ เขาทำกันเยอะแยะ

บริษัทใหญ่ๆ ที่เขามีเครดิตเรทติ้งดีๆ ค่าเงินในประเทศแข็งขึ้นเขาก็กู้เข้ามาโปะก้อนเก่าที่ต้นทุนสูงกันทั้งนั้น

 

 

เพิ่งโพสเสร็จ ออกไปอ่านข่าววันนี้ก็เจอเลย

http://www.bangkokbi...้เงินดอลล์.html

 

 

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (11 เม.ย.) มีมติเห็นชอบแผนการจัดหาเงินกู้ของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2556-2560) วงเงินรวม 2.5 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมที่จะครบกำหนดชำระรวม 1.5 แสนล้านบาท และอีก 1 แสนล้านบาทใช้ในการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และการร่วมทุน พร้อมทั้งจะหาโอกาสด้านธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ไฟฟ้า และ ถ่านหิน

--

 

 

ปตท คิดตื้นๆ อิ๋บอ๋าย

 

เอ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

อธิบายคร่าวๆ 

 

PTT มีหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในปี 2556 สมมติ 1000 ล้านบาท  ทีนี้เค้าเลยจะกู้เงินกู้ใหม่ 1000 ล้านบาทในปี 2556 เช่นกัน  มาใช้เพื่อจ่ายหนี้ก้อนเดิม  คือใช้หนี้ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แปลว่าเค้ากู้เงินมาเพื่อลดดอกเบี้ยแต่อย่างใด



#128 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:39

 

 

 

 

  เมื่อเช้าได้ยินแวบว่าค่าเงินตอนนี้ขึ้นสูงมาก และอาจสูงถึง 26-27 บาท ตือ USD และได้มีการุยอย่างจริงจังเรื่องปัญหาเงินไหลเข้าที่ทำให้ค่าเงินพุ่งขึ้นแบบนี้

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรไหม? ที่เห็นชัดๆตอนนี้คือส่งออกจะยากเพราะค่าเงินที่สูงทำให้เราต้องขายแพงขึ้น ขายยากขึ้น  ยิ่งเราพึ่งพิงส่งออกเสีย 70 %

  ผมไม่แน่ใจว่านี้กำลังจะผนวชรวมกับค่าแรงที่ขึ้นทำให้ SME ที่แย่อยู่แล้แย่ขึ้นไหม?

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้มูลค่าข้าวที่จำนำราคาจะสูงเกินตลาดโลกไหม

 

  ฯลฯ

 

  ระดมความคิดกันที  จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยที่ค่าเงินกำลังพุ่ง

 

 

คุณมองแต่ปัญหา/ข้อเสีย 

บางธุรกิจก็เสียประโยชน์แต่บางธุรกิจเขาก็ได้ประโยชน์
เช่นธุรกิจที่เขามีหนี้ต่างประเทศอยู่ เขาก็ถือโอกาสกู้ US ก้อนใหม่มาโปะก้อนเก่าได้ ต้นทุนเขาก็ต่ำลง

 

หนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน หากคิดเป็นหน่วย USD อยู่ที่ราว ๖.๗ หมื่นล้าน หากแต่ประเทศที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของภาคเอกชนเราเป็นสิงคโปร์ มีสัดส่วนหนี้ที่เกือบ ๆ ๓ หมื่นล้าน

 

ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้คือ สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของภาคเอกชน ไต่ไปอยู่ระดับพอ ๆ กับสมัยตอนปี ๔๐ แล้ว ลองคิดแค่ว่า เงินบาทแข็ง ก็พากันไปกู้เป็น USD มาโปะ หากเงินบาทอ่อนตัวเมื่อไร แค่สัก ๒ บาท ก็เดี้ยงกันเป็นแถบ ๆ

 

แล้วธุรกิจพวกนี้ เค้าไม่ได้เหมือนบัตรเครดิตที่ไปทำหลายๆ ใบเพื่อมาหมุนได้ง่าย ๆ นะ การจะไปขอกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก เค้าต้องมีการประเมินความเสี่ยง ความสามารถในการใช้หนี้อย่างรอบคอบ ถ้าเป็นการขอเป็นพอร์ตกู้เพื่อนำไปลงทุน และมีเครดิตดี ก็แล้วไป แต่กรณีที่มีหนี้อยู่แล้วมาขอกู้เพื่อจะไปโปะหนี้เก่า อันนี้เค้าแทบจะไม่ให้ เพราะมันเป็นเหมือนกันกับตัวบ่งชี้ว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความสามารถในการใช้หนี้ เพียงแต่ใช้วิธีกู้มาโปะ สถาบันการเงินเค้าก็กลัวจะเป็นเจ้าสุดท้ายที่ให้กู้แล้วลูกหนี้หาเงินมาคืนไม่ได้เหมือนกัน

 

คิดตื้น ๆ

 

 

ทำไมจะไม่ได้ครับ เขาทำกันเยอะแยะ

บริษัทใหญ่ๆ ที่เขามีเครดิตเรทติ้งดีๆ ค่าเงินในประเทศแข็งขึ้นเขาก็กู้เข้ามาโปะก้อนเก่าที่ต้นทุนสูงกันทั้งนั้น

 

 

เพิ่งโพสเสร็จ ออกไปอ่านข่าววันนี้ก็เจอเลย

http://www.bangkokbi...้เงินดอลล์.html

 

 

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (11 เม.ย.) มีมติเห็นชอบแผนการจัดหาเงินกู้ของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2556-2560) วงเงินรวม 2.5 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมที่จะครบกำหนดชำระรวม 1.5 แสนล้านบาท และอีก 1 แสนล้านบาทใช้ในการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และการร่วมทุน พร้อมทั้งจะหาโอกาสด้านธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ไฟฟ้า และ ถ่านหิน

--

 

 

ปตท คิดตื้นๆ อิ๋บอ๋าย

 

เอ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

อธิบายคร่าวๆ 

 

PTT มีหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในปี 2556 สมมติ 1000 ล้านบาท  ทีนี้เค้าเลยจะกู้เงินกู้ใหม่ 1000 ล้านบาทในปี 2556 เช่นกัน  มาใช้เพื่อจ่ายหนี้ก้อนเดิม  คือใช้หนี้ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แปลว่าเค้ากู้เงินมาเพื่อลดดอกเบี้ยแต่อย่างใด

 

 

เอ๊ะ ผมว่าผมไม่เคยพูดเรื่องลดดอกเบี้ยเลยนะ

ผมบอกว่า ปตท กู้มาตอนสมมุติ 35 บาท 1 เหรียญ

ตอนนี้เขาต้องเอาไปคืน  1 เหรัยญ เขาก็กู้มาที่ 29 บาทเพื่อเอาไปคิน

เขามีหนี้ 1 เหรียญเท่าเดิม แต่ต้นทุนมันลดลงจาก 35 เหลือ 29

มันเกี่ยวกับดอกเบี้ยตรงไหนครับ??



#129 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:47

 

 

 

 

 

  เมื่อเช้าได้ยินแวบว่าค่าเงินตอนนี้ขึ้นสูงมาก และอาจสูงถึง 26-27 บาท ตือ USD และได้มีการุยอย่างจริงจังเรื่องปัญหาเงินไหลเข้าที่ทำให้ค่าเงินพุ่งขึ้นแบบนี้

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรไหม? ที่เห็นชัดๆตอนนี้คือส่งออกจะยากเพราะค่าเงินที่สูงทำให้เราต้องขายแพงขึ้น ขายยากขึ้น  ยิ่งเราพึ่งพิงส่งออกเสีย 70 %

  ผมไม่แน่ใจว่านี้กำลังจะผนวชรวมกับค่าแรงที่ขึ้นทำให้ SME ที่แย่อยู่แล้แย่ขึ้นไหม?

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้มูลค่าข้าวที่จำนำราคาจะสูงเกินตลาดโลกไหม

 

  ฯลฯ

 

  ระดมความคิดกันที  จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยที่ค่าเงินกำลังพุ่ง

 

 

คุณมองแต่ปัญหา/ข้อเสีย 

บางธุรกิจก็เสียประโยชน์แต่บางธุรกิจเขาก็ได้ประโยชน์
เช่นธุรกิจที่เขามีหนี้ต่างประเทศอยู่ เขาก็ถือโอกาสกู้ US ก้อนใหม่มาโปะก้อนเก่าได้ ต้นทุนเขาก็ต่ำลง

 

หนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน หากคิดเป็นหน่วย USD อยู่ที่ราว ๖.๗ หมื่นล้าน หากแต่ประเทศที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของภาคเอกชนเราเป็นสิงคโปร์ มีสัดส่วนหนี้ที่เกือบ ๆ ๓ หมื่นล้าน

 

ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้คือ สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของภาคเอกชน ไต่ไปอยู่ระดับพอ ๆ กับสมัยตอนปี ๔๐ แล้ว ลองคิดแค่ว่า เงินบาทแข็ง ก็พากันไปกู้เป็น USD มาโปะ หากเงินบาทอ่อนตัวเมื่อไร แค่สัก ๒ บาท ก็เดี้ยงกันเป็นแถบ ๆ

 

แล้วธุรกิจพวกนี้ เค้าไม่ได้เหมือนบัตรเครดิตที่ไปทำหลายๆ ใบเพื่อมาหมุนได้ง่าย ๆ นะ การจะไปขอกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก เค้าต้องมีการประเมินความเสี่ยง ความสามารถในการใช้หนี้อย่างรอบคอบ ถ้าเป็นการขอเป็นพอร์ตกู้เพื่อนำไปลงทุน และมีเครดิตดี ก็แล้วไป แต่กรณีที่มีหนี้อยู่แล้วมาขอกู้เพื่อจะไปโปะหนี้เก่า อันนี้เค้าแทบจะไม่ให้ เพราะมันเป็นเหมือนกันกับตัวบ่งชี้ว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความสามารถในการใช้หนี้ เพียงแต่ใช้วิธีกู้มาโปะ สถาบันการเงินเค้าก็กลัวจะเป็นเจ้าสุดท้ายที่ให้กู้แล้วลูกหนี้หาเงินมาคืนไม่ได้เหมือนกัน

 

คิดตื้น ๆ

 

 

ทำไมจะไม่ได้ครับ เขาทำกันเยอะแยะ

บริษัทใหญ่ๆ ที่เขามีเครดิตเรทติ้งดีๆ ค่าเงินในประเทศแข็งขึ้นเขาก็กู้เข้ามาโปะก้อนเก่าที่ต้นทุนสูงกันทั้งนั้น

 

 

เพิ่งโพสเสร็จ ออกไปอ่านข่าววันนี้ก็เจอเลย

http://www.bangkokbi...้เงินดอลล์.html

 

 

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (11 เม.ย.) มีมติเห็นชอบแผนการจัดหาเงินกู้ของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2556-2560) วงเงินรวม 2.5 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมที่จะครบกำหนดชำระรวม 1.5 แสนล้านบาท และอีก 1 แสนล้านบาทใช้ในการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และการร่วมทุน พร้อมทั้งจะหาโอกาสด้านธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ไฟฟ้า และ ถ่านหิน

--

 

 

ปตท คิดตื้นๆ อิ๋บอ๋าย

 

เอ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

อธิบายคร่าวๆ 

 

PTT มีหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในปี 2556 สมมติ 1000 ล้านบาท  ทีนี้เค้าเลยจะกู้เงินกู้ใหม่ 1000 ล้านบาทในปี 2556 เช่นกัน  มาใช้เพื่อจ่ายหนี้ก้อนเดิม  คือใช้หนี้ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แปลว่าเค้ากู้เงินมาเพื่อลดดอกเบี้ยแต่อย่างใด

 

 

เอ๊ะ ผมว่าผมไม่เคยพูดเรื่องลดดอกเบี้ยเลยนะ

ผมบอกว่า ปตท กู้มาตอนสมมุติ 35 บาท 1 เหรียญ

ตอนนี้เขาต้องเอาไปคืน  1 เหรัยญ เขาก็กู้มาที่ 29 บาทเพื่อเอาไปคิน

เขามีหนี้ 1 เหรียญเท่าเดิม แต่ต้นทุนมันลดลงจาก 35 เหลือ 29

มันเกี่ยวกับดอกเบี้ยตรงไหนครับ??

 

 

พอๆ กับคนกลางเล้ยยยย  พิมพ์ผิดไม่ได้เลย

ขอแก้ อัตราดอกเบี้ยเป็นอัตราแลกเปลี่ยน ใน Comment ที่แล้ว 

 

แต่สรุปคือมันไม่เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนครับพี่  เพราะเค้ากู้มาเพราะ "เงินกู้ก้อนปัจจุบัน  มันถึงกำหนดชำระ  แต่ไม่อยากเอาเงินตัวเองมาชำระ เลยกู้ก้อนใหม่มาชำระ"  แค่นั้นเอง

 

ป.ล. 1  ถ้าถามว่ารู้ได้อย่างไร ตอบว่าเพิ่งปิดดีลแบบนี้ไปจ้ะพี่ลี  วง IB เค้ามองกันเป็นเรื่องปกติ  ใช้หนี้ต่อหนี้เนี่ย

ป.ล. 2  PTT ออก Debenture ส่วนมากเป็น"บาท"นะพี่  อัตราแลกเปลี่ยนยิ่งไม่เกี่ยวเลย



#130 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:54

 

 

 

 

 

 

  เมื่อเช้าได้ยินแวบว่าค่าเงินตอนนี้ขึ้นสูงมาก และอาจสูงถึง 26-27 บาท ตือ USD และได้มีการุยอย่างจริงจังเรื่องปัญหาเงินไหลเข้าที่ทำให้ค่าเงินพุ่งขึ้นแบบนี้

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรไหม? ที่เห็นชัดๆตอนนี้คือส่งออกจะยากเพราะค่าเงินที่สูงทำให้เราต้องขายแพงขึ้น ขายยากขึ้น  ยิ่งเราพึ่งพิงส่งออกเสีย 70 %

  ผมไม่แน่ใจว่านี้กำลังจะผนวชรวมกับค่าแรงที่ขึ้นทำให้ SME ที่แย่อยู่แล้แย่ขึ้นไหม?

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้มูลค่าข้าวที่จำนำราคาจะสูงเกินตลาดโลกไหม

 

  ฯลฯ

 

  ระดมความคิดกันที  จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยที่ค่าเงินกำลังพุ่ง

 

 

คุณมองแต่ปัญหา/ข้อเสีย 

บางธุรกิจก็เสียประโยชน์แต่บางธุรกิจเขาก็ได้ประโยชน์
เช่นธุรกิจที่เขามีหนี้ต่างประเทศอยู่ เขาก็ถือโอกาสกู้ US ก้อนใหม่มาโปะก้อนเก่าได้ ต้นทุนเขาก็ต่ำลง

 

หนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน หากคิดเป็นหน่วย USD อยู่ที่ราว ๖.๗ หมื่นล้าน หากแต่ประเทศที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของภาคเอกชนเราเป็นสิงคโปร์ มีสัดส่วนหนี้ที่เกือบ ๆ ๓ หมื่นล้าน

 

ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้คือ สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของภาคเอกชน ไต่ไปอยู่ระดับพอ ๆ กับสมัยตอนปี ๔๐ แล้ว ลองคิดแค่ว่า เงินบาทแข็ง ก็พากันไปกู้เป็น USD มาโปะ หากเงินบาทอ่อนตัวเมื่อไร แค่สัก ๒ บาท ก็เดี้ยงกันเป็นแถบ ๆ

 

แล้วธุรกิจพวกนี้ เค้าไม่ได้เหมือนบัตรเครดิตที่ไปทำหลายๆ ใบเพื่อมาหมุนได้ง่าย ๆ นะ การจะไปขอกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก เค้าต้องมีการประเมินความเสี่ยง ความสามารถในการใช้หนี้อย่างรอบคอบ ถ้าเป็นการขอเป็นพอร์ตกู้เพื่อนำไปลงทุน และมีเครดิตดี ก็แล้วไป แต่กรณีที่มีหนี้อยู่แล้วมาขอกู้เพื่อจะไปโปะหนี้เก่า อันนี้เค้าแทบจะไม่ให้ เพราะมันเป็นเหมือนกันกับตัวบ่งชี้ว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความสามารถในการใช้หนี้ เพียงแต่ใช้วิธีกู้มาโปะ สถาบันการเงินเค้าก็กลัวจะเป็นเจ้าสุดท้ายที่ให้กู้แล้วลูกหนี้หาเงินมาคืนไม่ได้เหมือนกัน

 

คิดตื้น ๆ

 

 

ทำไมจะไม่ได้ครับ เขาทำกันเยอะแยะ

บริษัทใหญ่ๆ ที่เขามีเครดิตเรทติ้งดีๆ ค่าเงินในประเทศแข็งขึ้นเขาก็กู้เข้ามาโปะก้อนเก่าที่ต้นทุนสูงกันทั้งนั้น

 

 

เพิ่งโพสเสร็จ ออกไปอ่านข่าววันนี้ก็เจอเลย

http://www.bangkokbi...้เงินดอลล์.html

 

 

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (11 เม.ย.) มีมติเห็นชอบแผนการจัดหาเงินกู้ของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2556-2560) วงเงินรวม 2.5 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมที่จะครบกำหนดชำระรวม 1.5 แสนล้านบาท และอีก 1 แสนล้านบาทใช้ในการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และการร่วมทุน พร้อมทั้งจะหาโอกาสด้านธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ไฟฟ้า และ ถ่านหิน

--

 

 

ปตท คิดตื้นๆ อิ๋บอ๋าย

 

เอ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

อธิบายคร่าวๆ 

 

PTT มีหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในปี 2556 สมมติ 1000 ล้านบาท  ทีนี้เค้าเลยจะกู้เงินกู้ใหม่ 1000 ล้านบาทในปี 2556 เช่นกัน  มาใช้เพื่อจ่ายหนี้ก้อนเดิม  คือใช้หนี้ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แปลว่าเค้ากู้เงินมาเพื่อลดดอกเบี้ยแต่อย่างใด

 

 

เอ๊ะ ผมว่าผมไม่เคยพูดเรื่องลดดอกเบี้ยเลยนะ

ผมบอกว่า ปตท กู้มาตอนสมมุติ 35 บาท 1 เหรียญ

ตอนนี้เขาต้องเอาไปคืน  1 เหรัยญ เขาก็กู้มาที่ 29 บาทเพื่อเอาไปคิน

เขามีหนี้ 1 เหรียญเท่าเดิม แต่ต้นทุนมันลดลงจาก 35 เหลือ 29

มันเกี่ยวกับดอกเบี้ยตรงไหนครับ??

 

 

พอๆ กับคนกลางเล้ยยยย  พิมพ์ผิดไม่ได้เลย

ขอแก้ อัตราดอกเบี้ยเป็นอัตราแลกเปลี่ยน ใน Comment ที่แล้ว 

 

แต่สรุปคือมันไม่เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนครับพี่  เพราะเค้ากู้มาเพราะ "เงินกู้ก้อนปัจจุบัน  มันถึงกำหนดชำระ  แต่ไม่อยากเอาเงินตัวเองมาชำระ เลยกู้ก้อนใหม่มาชำระ"  แค่นั้นเอง

 

ป.ล. 1  ถ้าถามว่ารู้ได้อย่างไร ตอบว่าเพิ่งปิดดีลแบบนี้ไปจ้ะพี่ลี  วง IB เค้ามองกันเป็นเรื่องปกติ  ใช้หนี้ต่อหนี้เนี่ย

ป.ล. 2  PTT ออก Debenture ส่วนมากเป็น"บาท"นะพี่  อัตราแลกเปลี่ยนยิ่งไม่เกี่ยวเลย

 

 

แล้วเวลาเขาคืนตังค์เขาคืนเป็นเงินบาทหรือครับ

เขาก็ต้องเอา 29 บาทไปคืนเป็น 1 เหรียญ จากเดิมที่เขากู้มา 1 เหรียญมาใช้ในประเทศเป็นเงิน 35 บาท

มันจะไม่เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนยังไงครับ???



#131 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:55

โอ้ย ๆ ๆ 

 

จะมีบ้างไหมเนี่ยที่คุณลี ไม่แถสีข้างถลอก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#132 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:59

แล้วก็ที่คุณบอกว่าผมไปจับผิดว่าคุณพิมพ์ผิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยนะ ผมเอามาให้ดูอีกทีนะว่าคุณพูดว่าไร

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

คุณจะพิมพ์ผิดโดยต้องการหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไงไม่ทราบ???

ลองอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังสิครับ



#133 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:04

 

 

 

 

 

 

 

  เมื่อเช้าได้ยินแวบว่าค่าเงินตอนนี้ขึ้นสูงมาก และอาจสูงถึง 26-27 บาท ตือ USD และได้มีการุยอย่างจริงจังเรื่องปัญหาเงินไหลเข้าที่ทำให้ค่าเงินพุ่งขึ้นแบบนี้

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรไหม? ที่เห็นชัดๆตอนนี้คือส่งออกจะยากเพราะค่าเงินที่สูงทำให้เราต้องขายแพงขึ้น ขายยากขึ้น  ยิ่งเราพึ่งพิงส่งออกเสีย 70 %

  ผมไม่แน่ใจว่านี้กำลังจะผนวชรวมกับค่าแรงที่ขึ้นทำให้ SME ที่แย่อยู่แล้แย่ขึ้นไหม?

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้มูลค่าข้าวที่จำนำราคาจะสูงเกินตลาดโลกไหม

 

  ฯลฯ

 

  ระดมความคิดกันที  จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยที่ค่าเงินกำลังพุ่ง

 

 

คุณมองแต่ปัญหา/ข้อเสีย 

บางธุรกิจก็เสียประโยชน์แต่บางธุรกิจเขาก็ได้ประโยชน์
เช่นธุรกิจที่เขามีหนี้ต่างประเทศอยู่ เขาก็ถือโอกาสกู้ US ก้อนใหม่มาโปะก้อนเก่าได้ ต้นทุนเขาก็ต่ำลง

 

หนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน หากคิดเป็นหน่วย USD อยู่ที่ราว ๖.๗ หมื่นล้าน หากแต่ประเทศที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของภาคเอกชนเราเป็นสิงคโปร์ มีสัดส่วนหนี้ที่เกือบ ๆ ๓ หมื่นล้าน

 

ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้คือ สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของภาคเอกชน ไต่ไปอยู่ระดับพอ ๆ กับสมัยตอนปี ๔๐ แล้ว ลองคิดแค่ว่า เงินบาทแข็ง ก็พากันไปกู้เป็น USD มาโปะ หากเงินบาทอ่อนตัวเมื่อไร แค่สัก ๒ บาท ก็เดี้ยงกันเป็นแถบ ๆ

 

แล้วธุรกิจพวกนี้ เค้าไม่ได้เหมือนบัตรเครดิตที่ไปทำหลายๆ ใบเพื่อมาหมุนได้ง่าย ๆ นะ การจะไปขอกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก เค้าต้องมีการประเมินความเสี่ยง ความสามารถในการใช้หนี้อย่างรอบคอบ ถ้าเป็นการขอเป็นพอร์ตกู้เพื่อนำไปลงทุน และมีเครดิตดี ก็แล้วไป แต่กรณีที่มีหนี้อยู่แล้วมาขอกู้เพื่อจะไปโปะหนี้เก่า อันนี้เค้าแทบจะไม่ให้ เพราะมันเป็นเหมือนกันกับตัวบ่งชี้ว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความสามารถในการใช้หนี้ เพียงแต่ใช้วิธีกู้มาโปะ สถาบันการเงินเค้าก็กลัวจะเป็นเจ้าสุดท้ายที่ให้กู้แล้วลูกหนี้หาเงินมาคืนไม่ได้เหมือนกัน

 

คิดตื้น ๆ

 

 

ทำไมจะไม่ได้ครับ เขาทำกันเยอะแยะ

บริษัทใหญ่ๆ ที่เขามีเครดิตเรทติ้งดีๆ ค่าเงินในประเทศแข็งขึ้นเขาก็กู้เข้ามาโปะก้อนเก่าที่ต้นทุนสูงกันทั้งนั้น

 

 

เพิ่งโพสเสร็จ ออกไปอ่านข่าววันนี้ก็เจอเลย

http://www.bangkokbi...้เงินดอลล์.html

 

 

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (11 เม.ย.) มีมติเห็นชอบแผนการจัดหาเงินกู้ของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2556-2560) วงเงินรวม 2.5 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมที่จะครบกำหนดชำระรวม 1.5 แสนล้านบาท และอีก 1 แสนล้านบาทใช้ในการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และการร่วมทุน พร้อมทั้งจะหาโอกาสด้านธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ไฟฟ้า และ ถ่านหิน

--

 

 

ปตท คิดตื้นๆ อิ๋บอ๋าย

 

เอ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

อธิบายคร่าวๆ 

 

PTT มีหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในปี 2556 สมมติ 1000 ล้านบาท  ทีนี้เค้าเลยจะกู้เงินกู้ใหม่ 1000 ล้านบาทในปี 2556 เช่นกัน  มาใช้เพื่อจ่ายหนี้ก้อนเดิม  คือใช้หนี้ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แปลว่าเค้ากู้เงินมาเพื่อลดดอกเบี้ยแต่อย่างใด

 

 

เอ๊ะ ผมว่าผมไม่เคยพูดเรื่องลดดอกเบี้ยเลยนะ

ผมบอกว่า ปตท กู้มาตอนสมมุติ 35 บาท 1 เหรียญ

ตอนนี้เขาต้องเอาไปคืน  1 เหรัยญ เขาก็กู้มาที่ 29 บาทเพื่อเอาไปคิน

เขามีหนี้ 1 เหรียญเท่าเดิม แต่ต้นทุนมันลดลงจาก 35 เหลือ 29

มันเกี่ยวกับดอกเบี้ยตรงไหนครับ??

 

 

พอๆ กับคนกลางเล้ยยยย  พิมพ์ผิดไม่ได้เลย

ขอแก้ อัตราดอกเบี้ยเป็นอัตราแลกเปลี่ยน ใน Comment ที่แล้ว 

 

แต่สรุปคือมันไม่เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนครับพี่  เพราะเค้ากู้มาเพราะ "เงินกู้ก้อนปัจจุบัน  มันถึงกำหนดชำระ  แต่ไม่อยากเอาเงินตัวเองมาชำระ เลยกู้ก้อนใหม่มาชำระ"  แค่นั้นเอง

 

ป.ล. 1  ถ้าถามว่ารู้ได้อย่างไร ตอบว่าเพิ่งปิดดีลแบบนี้ไปจ้ะพี่ลี  วง IB เค้ามองกันเป็นเรื่องปกติ  ใช้หนี้ต่อหนี้เนี่ย

ป.ล. 2  PTT ออก Debenture ส่วนมากเป็น"บาท"นะพี่  อัตราแลกเปลี่ยนยิ่งไม่เกี่ยวเลย

 

 

แล้วเวลาเขาคืนตังค์เขาคืนเป็นเงินบาทหรือครับ

เขาก็ต้องเอา 29 บาทไปคืนเป็น 1 เหรียญ จากเดิมที่เขากู้มา 1 เหรียญมาใช้ในประเทศเป็นเงิน 35 บาท

มันจะไม่เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนยังไงครับ???

 

 

กู้เป็นเงินบาท  จ่ายคืนเป็นเงินบาท

 

อัตราแลกเปลี่ยนไม่เกี่ยว

 

 

ชัดป่ะพี่

 

ยกตัว Bond ตัวนึงที่จะถึงกำหนดชำระปีนี้ของ PTT ละกัน

 

Bond Serie PTTC13NA ............กู้มาตอนปี 2003 จำนวน 11,700 ล้านบาท  ถึงกำหนดชำระปีนี้ (2556) ก็ต้องจ่ายคืน 11,700 ล้านบาท

 



#134 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:07

แล้วก็ที่คุณบอกว่าผมไปจับผิดว่าคุณพิมพ์ผิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยนะ ผมเอามาให้ดูอีกทีนะว่าคุณพูดว่าไร

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

คุณจะพิมพ์ผิดโดยต้องการหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไงไม่ทราบ???

ลองอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังสิครับ

 

คุยงานเรื่องดอกเบี้ยอยู่ครับพี่   ใจจริงจะพิมพ์อัตราแลกเปลี่ยน   แต่มือมันไปพิมพ์ดอกเบี้ย  โอเคป่ะ 



#135 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:11

 

 

 

 

 

 

 

 

  เมื่อเช้าได้ยินแวบว่าค่าเงินตอนนี้ขึ้นสูงมาก และอาจสูงถึง 26-27 บาท ตือ USD และได้มีการุยอย่างจริงจังเรื่องปัญหาเงินไหลเข้าที่ทำให้ค่าเงินพุ่งขึ้นแบบนี้

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรไหม? ที่เห็นชัดๆตอนนี้คือส่งออกจะยากเพราะค่าเงินที่สูงทำให้เราต้องขายแพงขึ้น ขายยากขึ้น  ยิ่งเราพึ่งพิงส่งออกเสีย 70 %

  ผมไม่แน่ใจว่านี้กำลังจะผนวชรวมกับค่าแรงที่ขึ้นทำให้ SME ที่แย่อยู่แล้แย่ขึ้นไหม?

 

  ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้มูลค่าข้าวที่จำนำราคาจะสูงเกินตลาดโลกไหม

 

  ฯลฯ

 

  ระดมความคิดกันที  จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยที่ค่าเงินกำลังพุ่ง

 

 

คุณมองแต่ปัญหา/ข้อเสีย 

บางธุรกิจก็เสียประโยชน์แต่บางธุรกิจเขาก็ได้ประโยชน์
เช่นธุรกิจที่เขามีหนี้ต่างประเทศอยู่ เขาก็ถือโอกาสกู้ US ก้อนใหม่มาโปะก้อนเก่าได้ ต้นทุนเขาก็ต่ำลง

 

หนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน หากคิดเป็นหน่วย USD อยู่ที่ราว ๖.๗ หมื่นล้าน หากแต่ประเทศที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของภาคเอกชนเราเป็นสิงคโปร์ มีสัดส่วนหนี้ที่เกือบ ๆ ๓ หมื่นล้าน

 

ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้คือ สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของภาคเอกชน ไต่ไปอยู่ระดับพอ ๆ กับสมัยตอนปี ๔๐ แล้ว ลองคิดแค่ว่า เงินบาทแข็ง ก็พากันไปกู้เป็น USD มาโปะ หากเงินบาทอ่อนตัวเมื่อไร แค่สัก ๒ บาท ก็เดี้ยงกันเป็นแถบ ๆ

 

แล้วธุรกิจพวกนี้ เค้าไม่ได้เหมือนบัตรเครดิตที่ไปทำหลายๆ ใบเพื่อมาหมุนได้ง่าย ๆ นะ การจะไปขอกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก เค้าต้องมีการประเมินความเสี่ยง ความสามารถในการใช้หนี้อย่างรอบคอบ ถ้าเป็นการขอเป็นพอร์ตกู้เพื่อนำไปลงทุน และมีเครดิตดี ก็แล้วไป แต่กรณีที่มีหนี้อยู่แล้วมาขอกู้เพื่อจะไปโปะหนี้เก่า อันนี้เค้าแทบจะไม่ให้ เพราะมันเป็นเหมือนกันกับตัวบ่งชี้ว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความสามารถในการใช้หนี้ เพียงแต่ใช้วิธีกู้มาโปะ สถาบันการเงินเค้าก็กลัวจะเป็นเจ้าสุดท้ายที่ให้กู้แล้วลูกหนี้หาเงินมาคืนไม่ได้เหมือนกัน

 

คิดตื้น ๆ

 

 

ทำไมจะไม่ได้ครับ เขาทำกันเยอะแยะ

บริษัทใหญ่ๆ ที่เขามีเครดิตเรทติ้งดีๆ ค่าเงินในประเทศแข็งขึ้นเขาก็กู้เข้ามาโปะก้อนเก่าที่ต้นทุนสูงกันทั้งนั้น

 

 

เพิ่งโพสเสร็จ ออกไปอ่านข่าววันนี้ก็เจอเลย

http://www.bangkokbi...้เงินดอลล์.html

 

 

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (11 เม.ย.) มีมติเห็นชอบแผนการจัดหาเงินกู้ของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2556-2560) วงเงินรวม 2.5 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมที่จะครบกำหนดชำระรวม 1.5 แสนล้านบาท และอีก 1 แสนล้านบาทใช้ในการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และการร่วมทุน พร้อมทั้งจะหาโอกาสด้านธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ไฟฟ้า และ ถ่านหิน

--

 

 

ปตท คิดตื้นๆ อิ๋บอ๋าย

 

เอ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

อธิบายคร่าวๆ 

 

PTT มีหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในปี 2556 สมมติ 1000 ล้านบาท  ทีนี้เค้าเลยจะกู้เงินกู้ใหม่ 1000 ล้านบาทในปี 2556 เช่นกัน  มาใช้เพื่อจ่ายหนี้ก้อนเดิม  คือใช้หนี้ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แปลว่าเค้ากู้เงินมาเพื่อลดดอกเบี้ยแต่อย่างใด

 

 

เอ๊ะ ผมว่าผมไม่เคยพูดเรื่องลดดอกเบี้ยเลยนะ

ผมบอกว่า ปตท กู้มาตอนสมมุติ 35 บาท 1 เหรียญ

ตอนนี้เขาต้องเอาไปคืน  1 เหรัยญ เขาก็กู้มาที่ 29 บาทเพื่อเอาไปคิน

เขามีหนี้ 1 เหรียญเท่าเดิม แต่ต้นทุนมันลดลงจาก 35 เหลือ 29

มันเกี่ยวกับดอกเบี้ยตรงไหนครับ??

 

 

พอๆ กับคนกลางเล้ยยยย  พิมพ์ผิดไม่ได้เลย

ขอแก้ อัตราดอกเบี้ยเป็นอัตราแลกเปลี่ยน ใน Comment ที่แล้ว 

 

แต่สรุปคือมันไม่เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนครับพี่  เพราะเค้ากู้มาเพราะ "เงินกู้ก้อนปัจจุบัน  มันถึงกำหนดชำระ  แต่ไม่อยากเอาเงินตัวเองมาชำระ เลยกู้ก้อนใหม่มาชำระ"  แค่นั้นเอง

 

ป.ล. 1  ถ้าถามว่ารู้ได้อย่างไร ตอบว่าเพิ่งปิดดีลแบบนี้ไปจ้ะพี่ลี  วง IB เค้ามองกันเป็นเรื่องปกติ  ใช้หนี้ต่อหนี้เนี่ย

ป.ล. 2  PTT ออก Debenture ส่วนมากเป็น"บาท"นะพี่  อัตราแลกเปลี่ยนยิ่งไม่เกี่ยวเลย

 

 

แล้วเวลาเขาคืนตังค์เขาคืนเป็นเงินบาทหรือครับ

เขาก็ต้องเอา 29 บาทไปคืนเป็น 1 เหรียญ จากเดิมที่เขากู้มา 1 เหรียญมาใช้ในประเทศเป็นเงิน 35 บาท

มันจะไม่เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนยังไงครับ???

 

 

กู้เป็นเงินบาท  จ่ายคืนเป็นเงินบาท

 

อัตราแลกเปลี่ยนไม่เกี่ยว

 

 

ชัดป่ะพี่

 

ยกตัว Bond ตัวนึงที่จะถึงกำหนดชำระปีนี้ของ PTT ละกัน

 

Bond Serie PTTC13NA ............กู้มาตอนปี 2003 จำนวน 11,700 ล้านบาท  ถึงกำหนดชำระปีนี้ (2556) ก็ต้องจ่ายคืน 11,700 ล้านบาท

 

กู้บาทจ่ายคืนเป็นบาทถูกแล้วครับ

 

แต่กู้เป็นดอลล์ก็ต้องจ่ายคืนเป็นดอลล์ครับ

 

ปตทมีทั้งกู้เป็นบาทและกู้เป็นดอลล์ 

 

กู้เป็นดอลล์มาตอน 35 บาท มาจ่ายคืนตอน 29 บาท ต้นทุนเขาลดลง ไม่มีอะไรเกี่ยวกับดอกเบี้ยครับ

 

 

http://www.kwexport....3/04/12/135925/

ปตท เพิ่มสัดส่วนกู้ดอลล์รับาทแช็ง

ผู้ถือหุ้นปตท.อนุมัติแผนกู้เงิน 5 ปี 2.5 แสนล้านบาท”ไพรินทร์”เผยเตรียมเพิ่มสัดส่วนเงินกู้สกุลดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่37%



#136 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:14

แล้วก็ที่คุณบอกว่าผมไปจับผิดว่าคุณพิมพ์ผิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยนะ ผมเอามาให้ดูอีกทีนะว่าคุณพูดว่าไร

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

คุณจะพิมพ์ผิดโดยต้องการหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไงไม่ทราบ???

ลองอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังสิครับ

 

คุยงานเรื่องดอกเบี้ยอยู่ครับพี่   ใจจริงจะพิมพ์อัตราแลกเปลี่ยน   แต่มือมันไปพิมพ์ดอกเบี้ย  โอเคป่ะ 

 

 

ก็ผมให้คุณอํธิบายประโยคของคุณว่าคุณหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไง

คุณลองเขียนประโยคของคุณใหม่ซิ ว่าคุณพิมพ์ผิดตรงไหนที่คุณมาว่าผมจับผิดคุณ

แก้ในประโยคนี้เลย เอ้า

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"



#137 thaidotcom

thaidotcom

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 313 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:15

รักไปเถอะ อภิสิทธิ์ รักให้ตาย ก็ไม่ทำให้ประเทศเจริญหรอก. ถ้าดีจริงทำไมไม่มีคนเลือกให้เป็นนายก.

ก็เพราะประเทศนี้มีควายมากกว่าคนนะสิ อย่าง...เป็นต้น

#138 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:18

ฉันพูดว่า..ฉันอยู่ที่อเมิกามานาน 20ปี. ฉันรู้ของกินของใช้ถูกถ้าฉลาดซื้อ. ของแท้แบรนเนมก็ถูก. แต่ของไทยขายตามห้างนะส่วนมากปลอมทั้งนั้น. แล้วมาบอกว่าตอแหล. เป็นคนที่นิสัยแย่ไม่ยอมรับความจริง. แน่จริงเขียนภาษาอังกฤษ. ถ้าสะกดไม่ถูกฉันจะด่าให้ยับเลย. ฉันนะคนจริง. ไม่ได้ตอแหลอย่างเธอ.

 

คุณก็ตอบคำถามสิครับ  ง่ายๆแค่นี้แหละ ทำลีลา

 

อยู่อเมริกามา ๒๐ ปีเชียวรึ
 
งั้นผมถามง่าย ๆ ดังนี้ เป็นคำถามที่คนอยู่อเมริกามา ๒๐ ปี สมควรจะตอบได้
 
๑. HYPSM คืออะไร
 
๒. Ivy leagues มีโรงเรียนอะไรบ้าง และรวมตัวกันอย่างไร
 
๓. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอเมริกาใต้ว่าอย่างไร
 
๔. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอินเดียว่าอย่างไร
 
๕. คนไทยในอเมริกา เรียกคนฟิลิปปินส์ว่าอย่างไร
 
ตอบไม่ได้ ไม่ตอบ ถือว่าตอแหล


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#139 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:21

ฉันพูดว่า..ฉันอยู่ที่อเมิกามานาน 20ปี. ฉันรู้ของกินของใช้ถูกถ้าฉลาดซื้อ. ของแท้แบรนเนมก็ถูก. แต่ของไทยขายตามห้างนะส่วนมากปลอมทั้งนั้น. แล้วมาบอกว่าตอแหล. เป็นคนที่นิสัยแย่ไม่ยอมรับความจริง. แน่จริงเขียนภาษาอังกฤษ. ถ้าสะกดไม่ถูกฉันจะด่าให้ยับเลย. ฉันนะคนจริง. ไม่ได้ตอแหลอย่างเธอ.

 

คุณก็ตอบคำถามสิครับ  ง่ายๆแค่นี้แหละ ทำลีลา

 

อยู่อเมริกามา ๒๐ ปีเชียวรึ
 
งั้นผมถามง่าย ๆ ดังนี้ เป็นคำถามที่คนอยู่อเมริกามา ๒๐ ปี สมควรจะตอบได้
 
๑. HYPSM คืออะไร
 
๒. Ivy leagues มีโรงเรียนอะไรบ้าง และรวมตัวกันอย่างไร
 
๓. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอเมริกาใต้ว่าอย่างไร
 
๔. คนไทยในอเมริกา เรียกคนอินเดียว่าอย่างไร
 
๕. คนไทยในอเมริกา เรียกคนฟิลิปปินส์ว่าอย่างไร
 
ตอบไม่ได้ ไม่ตอบ ถือว่าตอแหล

 

 

ผึ้ง ผมว่่าคุณกับ Pkung อยู่เงียบๆ ดีกว่าหว่ะ 

จะได้ไม่เสียหน้า



#140 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:23

เด๋วก้อรู้ว่า ใครจะเสียหน้าาาาาาาาาาา

 

อิอิ


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#141 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:32

 

แล้วก็ที่คุณบอกว่าผมไปจับผิดว่าคุณพิมพ์ผิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยนะ ผมเอามาให้ดูอีกทีนะว่าคุณพูดว่าไร

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

คุณจะพิมพ์ผิดโดยต้องการหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไงไม่ทราบ???

ลองอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังสิครับ

 

คุยงานเรื่องดอกเบี้ยอยู่ครับพี่   ใจจริงจะพิมพ์อัตราแลกเปลี่ยน   แต่มือมันไปพิมพ์ดอกเบี้ย  โอเคป่ะ 

 

 

ก็ผมให้คุณอํธิบายประโยคของคุณว่าคุณหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไง

คุณลองเขียนประโยคของคุณใหม่ซิ ว่าคุณพิมพ์ผิดตรงไหนที่คุณมาว่าผมจับผิดคุณ

แก้ในประโยคนี้เลย เอ้า

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด"

 

แก้ให้ละ  .................. 

 

ส่วนเรื่องหนี้  ก็บอกไปแล้วนะว่า  หนี้ส่วนมากเป็นบาท

 

ไม่ได้บอกว่าบาททั้งหมด  ไปอ่านดีๆ พี่ลี  :lol:  :lol:  :lol:



#142 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:45

เรียนจบมหาลัยที่ไทยยังสู้เด็กอนุบาลที่ us ไม่ได้เลย. เหอะจะอ่านออกไม่นะ. ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนดังหลายแห่งในไทย. เด็กโง่หัวขี้เลื่อย อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ไอคิวตำ่สุดๆ. โธ่. จะฝากลูกทีก็ต้องเสียใต้โต๊ะ ระบบมันแย่มานานแล้ว. แกล้งเป็นเกลียดตัวกินหนอน วัฒนธรรมก็รับเขามาเต็มบ้านเต็มเมือง. โธ่ เจริญขึ้นก็เพราะต่างชาติ นิยมโอ๋อวดอีกต่างหาก พี่ไทย ทีหลังจะข่มคนให้ดูซะมัง. ว่าใครแน่ว่าใคร.

 

เออ พี่คะ

หนูขอถามพี่หน่อยว่า ไอ้สำนวน เกลียดตัวกินหนอน ที่พี่พิมพ์มาเนี่ย

มันมีความหมายว่ายังไงคะ

 

อธิบายให้คนเรียนจบมหาลัยที่ไทย ยังสู้เด็กอนุบาลที่ US ไม่ได้ หน่อยสิคะ



#143 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:49

 

 

แล้วก็ที่คุณบอกว่าผมไปจับผิดว่าคุณพิมพ์ผิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยนะ ผมเอามาให้ดูอีกทีนะว่าคุณพูดว่าไร

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

คุณจะพิมพ์ผิดโดยต้องการหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไงไม่ทราบ???

ลองอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังสิครับ

 

คุยงานเรื่องดอกเบี้ยอยู่ครับพี่   ใจจริงจะพิมพ์อัตราแลกเปลี่ยน   แต่มือมันไปพิมพ์ดอกเบี้ย  โอเคป่ะ 

 

 

ก็ผมให้คุณอํธิบายประโยคของคุณว่าคุณหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไง

คุณลองเขียนประโยคของคุณใหม่ซิ ว่าคุณพิมพ์ผิดตรงไหนที่คุณมาว่าผมจับผิดคุณ

แก้ในประโยคนี้เลย เอ้า

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด"

 

แก้ให้ละ  .................. 

 

ส่วนเรื่องหนี้  ก็บอกไปแล้วนะว่า  หนี้ส่วนมากเป็นบาท

 

ไม่ได้บอกว่าบาททั้งหมด  ไปอ่านดีๆ พี่ลี  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

แฟนคลับจ่า คุณหลอกเด็กๆ อย่างพอลคุงได้ แต่หลอกผมไม่ได้หรอก
ประโยคเดิมคุณ (เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิม) มันไม่ได้รองรับการพูดถึงการลดต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเลย อย่ามามั่วทำไก๋
 
ผมลำดับเรื่องให้ฟังใหม่
ผมเดาว่า คุณอ่านเจอคำว่ารีไฟแนนซ์ในข่าวเลยทำให้คุณนึกถึงภาระดอกเบี้ย
ซึ่งเราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย
ผมเอาข่าวที่ ปตท เขาจะเพิ่มสัดส่วนการกู้เป็นเงินดอลล์เพิ่ม ซึ่งเขาไม่ได้ต้องการรีบกู้มาเพื่อใช้ในประเทศแน่ เพราะมันเหลือแค่ 29 บาท
เขาต้องการกู้เอามาใช้หนี้ที่ต้นทุน 35 บาท
แต่คุณอ่านเจอคำว่ารีไฟแนนซ์ในข่าว ซึ่งคุณนึกถึงการรีไฟแนนซ์บ้านโดยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่ามาโปะ คุณเลยเขียนประโยคดังกล่าวออกมา
พอผมบอกว่าผมไม่ได้คุยเรื่องอัตราดอกเบี้ย คุณก็บอกว่าผมจับผิดคุณ
ซึ่งผมแน่ใจว่าคุณไม่ได้หมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนแน่ในการโพสครั้งแรก เพราะรูปประโยคคุณมันไม่รองรับ
 
จากนั้นคุณก็กระโดดไปหยิบเอาหนี้สกุลบาทมาแสดง แล้วบอกว่า ปตท ต้องคืนเป็นบาท
ผมก็เอาข่าวมาให้ดูอีกทีว่าปตทเขาจะเพิ่มสัดส่วนหนี้ดอลล์จากเดิมมีอยู่ 37%
และเรากำลังคุยเรื่องการใช้หนี้สกุลดอล์อยู่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับสกุลบาทเลย
แล้วคุณก็บอกว่าปตทมีหนี้สกุลบาทมากกว่าสกุลดอลล์
มันเกี่ยวกันตรงไหนหรือ???
 
คุณอย่ามาทำมั่วกับผม 
ผมให้คนอื่นเขาอ่านแล้วตัดสินเอาเองแล้วกันว่าคุณมั่วหรือผมมั่ว
ผมไปกินข้าวหล่ะ


#144 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:50

เด๋วก้อรู้ว่า ใครจะเสียหน้าาาาาาาาาาา

 

อิอิ

 

 

Pkung

คุณแฟนคลับจ่าเขากำลังจะโดนน็อคและรอคุณมาช่วยเอาเขาออกจากมุม

คุณดันไปฝากความหวังกับเขาอีกว่าจะน็อคผม ก๊าก

 

ผมไปหล่ะ



#145 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:41

เฮนเอ๊ย ลีเอ๊ย หลัง Normalization มันไม่ใช่แค่ว่า ทำให้เป็นร้อยละแล้วก็จบกันนะเว๊ยเฮ๊ย

 

หลักใหญ่ใจความของมันคือ การทำให้มันมีฐานเดียวกัน ถ้าทางสถิติก็คิดออกมาเป็นร้อยละ

 

แต่ในกรณีปริมาณของอาหารที่เฮนไตอุตส่าห์คิดขึ้นมาเถียง ก็ต้องปรับให้เป็นฐานเดียวกันกับผู้บริโภค

 

ยกตัวอย่างง่าย ๆ สมมติพวกเอ็งหายใจเอาอากาศเข้าปอดคนละ๑๐ ลิตรทุกวัน เทียบกับฝรั่งหายใจเอาอากาศเข้าปอด ๑๕ ลิตรทุกวัน ถามว่ามีใครใช้อากาศเปลืองกว่าใครไหม?

 

----------------------------------------------------

 

ไอ้ที่พยายามจะช่วยไอ้ตอแหลน่ะ เข้าใจว่ะ

 

แต่พวกเอ็งที่เริ่มจะกระแดะเป็นเด็กจบนอกเหมือนกัน ดั๊นทำเป็นเมินว่า ไอ้คนอ้างว่าอยู่เมืองนอกเมืองนาร่ำเรียนสูงมา ๒๐ ปี มีทักษะภาษาอังกฤษที่พอ ๆ กับเด็กประถมเท่านั้นเอง

 

ถ้าเป็นพวกไปเรียน ๒ ปี ๓ ปี ไอ้เรื่องพวกนี้ตามคำถามน่ะ จะไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก แต่กับไอ้ตอแหลนั่น บอกอยู่ ๒๐ ปี ถ้าไม่ใช่เป็นพวกเก็บตัว มันต้องมีสังคม ต้องได้รับข้อมูลพวกนี้มาบ้างไม่มากก็น้อย แต่ไอ้ตัวตอแหลดริฟท์หนีทุกครับถาม และขออภัย มันสามารถหน้าด้านด่ากลับได้ด้วย ไร้ยางอาย

 

-----------------------------------------

 

ทั้งนี้ ได้ความรู้ใหม่ว่า ทั้งอีเห็น ทั้งลี กลายเป็นเด็กนักเรียนนอกกันขึ้นมาทันที นับถือ ๆ


Edited by baezae, 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:42.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#146 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:49

คุณลีครับ...  
เค้าคิดว่า กะลาเค้าคือโลกทั้งใบ  ใครก็ตามริอ่าน จะบอกว่าอยู่ในโลก  
ต้อง รู้สิ่งที่อยู่ในกะลาเค้าด้วย... 
 
:D

 

 

 

:lol:  :lol:  บางตัวดีใจนึกว่าตัวเองอยู่นอกกะลา... 


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#147 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:53

เอ้อ ลืมไป

 

อีเห็น กะลีไม่สงกะสัยมั่งหรือ กับคำถามที่แป๊บเดียวทั้งอีเห็นและลี แว๊บ ๆ ก็ตอบได้ ไม่ต้องอ้างว่าอยุ่อเมริกา ๒๐ แบบไอ้ตัวตอแหลก็ตอบได้ ไม่ว่าจะหาคำตอบมาด้วยวิธีไหนก็ตาม

 

ในขณะที่ไอ้ตัวตอแหลนั่น คอยแต่ดริฟท์หนีคำถาม แถมแต่งประโยคแบบเด็กประถมหัดเขียนมาให้ดูด้วย

 

๕๕๕๕๕


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#148 gears

gears

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,450 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:58

ผมว่าคุณลี หายไปจากบอร์ด โลกสงบ แน่นอน

/me กลับ เวสเทอรอส อย่างไว เกรียนเจฟ มันมีแผนชั่วตอนหน้าแน่นอน

#149 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:07

 

 

 

แล้วก็ที่คุณบอกว่าผมไปจับผิดว่าคุณพิมพ์ผิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยนะ ผมเอามาให้ดูอีกทีนะว่าคุณพูดว่าไร

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

คุณจะพิมพ์ผิดโดยต้องการหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไงไม่ทราบ???

ลองอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังสิครับ

 

คุยงานเรื่องดอกเบี้ยอยู่ครับพี่   ใจจริงจะพิมพ์อัตราแลกเปลี่ยน   แต่มือมันไปพิมพ์ดอกเบี้ย  โอเคป่ะ 

 

 

ก็ผมให้คุณอํธิบายประโยคของคุณว่าคุณหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไง

คุณลองเขียนประโยคของคุณใหม่ซิ ว่าคุณพิมพ์ผิดตรงไหนที่คุณมาว่าผมจับผิดคุณ

แก้ในประโยคนี้เลย เอ้า

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด"

 

แก้ให้ละ  .................. 

 

ส่วนเรื่องหนี้  ก็บอกไปแล้วนะว่า  หนี้ส่วนมากเป็นบาท

 

ไม่ได้บอกว่าบาททั้งหมด  ไปอ่านดีๆ พี่ลี  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

แฟนคลับจ่า คุณหลอกเด็กๆ อย่างพอลคุงได้ แต่หลอกผมไม่ได้หรอก
ประโยคเดิมคุณ (เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิม) มันไม่ได้รองรับการพูดถึงการลดต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเลย อย่ามามั่วทำไก๋
 
ผมลำดับเรื่องให้ฟังใหม่
ผมเดาว่า คุณอ่านเจอคำว่ารีไฟแนนซ์ในข่าวเลยทำให้คุณนึกถึงภาระดอกเบี้ย
ซึ่งเราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย
ผมเอาข่าวที่ ปตท เขาจะเพิ่มสัดส่วนการกู้เป็นเงินดอลล์เพิ่ม ซึ่งเขาไม่ได้ต้องการรีบกู้มาเพื่อใช้ในประเทศแน่ เพราะมันเหลือแค่ 29 บาท
เขาต้องการกู้เอามาใช้หนี้ที่ต้นทุน 35 บาท
แต่คุณอ่านเจอคำว่ารีไฟแนนซ์ในข่าว ซึ่งคุณนึกถึงการรีไฟแนนซ์บ้านโดยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่ามาโปะ คุณเลยเขียนประโยคดังกล่าวออกมา
พอผมบอกว่าผมไม่ได้คุยเรื่องอัตราดอกเบี้ย คุณก็บอกว่าผมจับผิดคุณ
ซึ่งผมแน่ใจว่าคุณไม่ได้หมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนแน่ในการโพสครั้งแรก เพราะรูปประโยคคุณมันไม่รองรับ
 
จากนั้นคุณก็กระโดดไปหยิบเอาหนี้สกุลบาทมาแสดง แล้วบอกว่า ปตท ต้องคืนเป็นบาท
ผมก็เอาข่าวมาให้ดูอีกทีว่าปตทเขาจะเพิ่มสัดส่วนหนี้ดอลล์จากเดิมมีอยู่ 37%
และเรากำลังคุยเรื่องการใช้หนี้สกุลดอล์อยู่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับสกุลบาทเลย
แล้วคุณก็บอกว่าปตทมีหนี้สกุลบาทมากกว่าสกุลดอลล์
มันเกี่ยวกันตรงไหนหรือ???
 
คุณอย่ามาทำมั่วกับผม 
ผมให้คนอื่นเขาอ่านแล้วตัดสินเอาเองแล้วกันว่าคุณมั่วหรือผมมั่ว
ผมไปกินข้าวหล่ะ

 

มาช้าก็หาว่ามั่ว  สมเป็นจักรวาลจริงๆ :lol: :lol:

 

ขอกลับมาตอบแบบเต็มๆ  ไปนั่งแกะงบ PTT มาให้พี่ลี  (เหนื่อยจิ๊บเป๋ง  ทำงานเสร็จ  ต้องมาแกะงบให้พี่ลีอีก)

คืออย่างนี้ครับ  ผมเข้าใจว่าตัวเงินที่จะ Refinance 150,000 ล้านน่ะ  มันคือหุ้นกู้ตามตารางข้างล่างนู้น  ซึ่งมันประกอบไปด้วยทั้งหุ้นกู้บาท  และหุ้นกู้ต่างประเทศตามที่คุยๆ กันแล้วนี่แหละ


แต่อย่างที่บอกคือ  ถ้าเกิด PTT เค้าจะออก Bond (บาท) ตัวใหม่มาชำระ Bond (บาท) ตัวเก่า  มันก็จะไม่มีความจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินตรา  เพราะเค้าจะออกสกุลเงินบาทมาชำระเงินบาท

 

เช่น  Bond ตัวนึง
PTTC13NA มูลค่า 11,700 ล้านบาท ครบกำหนดชำระ พฤศจิกายน 2013  เมื่อถึงเวลาที่เค้าจะ Refinance ตัวนี้ PTT ก็จะออก Bond บาทอีกก้อนนึงมาชำระ ไม่มีการแลกเปลี่ยนเงินตราใดๆ เกิดขึ้น (ตรงนี้เข้าใจกันนะ)

แต่ในกรณีของ Bond (เงินต่างประเทศ) อันนี้ต้องเข้าใจว่า PTT มันใหญ่มาก มี International Credit Rating เลยออก Bond เป็นสกุลเงินต่างประเทศได้
(อธิบายเพิ่มตรงนี้นิดนึง  คือการขาย Bond ให้กับนักลงทุน มันต้องมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ทีนี้ของไทยคือ TRIS ซึ่งจะขาย Bond ได้เฉพาะเงินบาท  แต่ถ้ามีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย International Rating Agency เช่น S&P, Moody's, FITCH มันก็จะขายในตลาดต่างชาติได้)

 

ทีนี้พอ Bond (เงินต่างประเทศ) ครบกำหนดชำระ PTT เค้าจะออก Bond (เงินต่างประเทศ) ตัวใหม่มาชำระ Bond (เงินต่างประเทศ) ตัวเก่าเช่นกัน  มันก็จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแลกเปลี่ยนเงินเช่นกัน  เพราะเค้าจะออกสกุลเงินต่างประเทศ มาชำระเงินต่างประเทศ

 

เช่น  Bond ตัวนึง
PTTFN148A มูลค่า US$ 400,000,000 ครบกำหนดชำระ สิงหาคม 2557 เมื่อถึงเวลาที่เค้าจะ Refinance ตัวนี้ PTT ก็จะออก Bond "USD" อีกก้อนนึงมาชำระเงิน "USD" ไม่มีการแลกเปลี่ยนเงินตราใดๆ เกิดขึ้นเหมือนกัน

 

ตกลงเข้าใจแล้วนะครับพี่ ประเด็นของผมคือ ใช้เงินต่อเงิน  ไม่มีการแลกเปลี่ยนอะไรเลย ;) ;) ;)

 

ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่าพี่ลียกตัวอย่างมาผิดบริษัท  ในกรณีที่พี่ลียกตัวอย่างมาเป็นบริษัทเล็กๆ ที่ไม่สามารถกู้เงินสกุลต่างประเทศได้ มันจะเป็นแบบที่พี่ลีพูดมา  แต่พอพี่ลียก PTT มา  มันเลยไม่ถูกต้องไง

 

สงกรานต์ผมไปเที่ยวนะ  ไม่เข้ามาตอบ  สงสัยอะไรเจอกันสัปดาห์หน้านู้นเลย :lol: :lol:

 



 

Attached Images

  • หุ้นกู้ PTT.png

Edited by แฟนคลับจ่า, 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:28.


#150 แฟนคลับจ่า

แฟนคลับจ่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 399 posts

ตอบ 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:10

 

 

 

แล้วก็ที่คุณบอกว่าผมไปจับผิดว่าคุณพิมพ์ผิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยนะ ผมเอามาให้ดูอีกทีนะว่าคุณพูดว่าไร

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิมแต่อย่างใด"

 

คุณจะพิมพ์ผิดโดยต้องการหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไงไม่ทราบ???

ลองอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังสิครับ

 

คุยงานเรื่องดอกเบี้ยอยู่ครับพี่   ใจจริงจะพิมพ์อัตราแลกเปลี่ยน   แต่มือมันไปพิมพ์ดอกเบี้ย  โอเคป่ะ 

 

 

ก็ผมให้คุณอํธิบายประโยคของคุณว่าคุณหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ยังไง

คุณลองเขียนประโยคของคุณใหม่ซิ ว่าคุณพิมพ์ผิดตรงไหนที่คุณมาว่าผมจับผิดคุณ

แก้ในประโยคนี้เลย เอ้า

 

อ่อ  พี่ลีครับ ความหมายของประโยคที่พี่พิมพ์หนานั่นคือ  มันมีเงินกู้ที่จะถึงครบกำหนดชำระ  แล้วเค้ากะว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองชำระ  เค้าเลยจะกู้เงินใหม่มาเพื่อที่จะเอามาชำระครับ (ต่อหนี้ไปเรื่อยๆ)  ไม่ใช่หมายความว่า "เค้ากู้เงินใหม่เพื่อลดต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด"

 

แก้ให้ละ  .................. 

 

ส่วนเรื่องหนี้  ก็บอกไปแล้วนะว่า  หนี้ส่วนมากเป็นบาท

 

ไม่ได้บอกว่าบาททั้งหมด  ไปอ่านดีๆ พี่ลี  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

แฟนคลับจ่า คุณหลอกเด็กๆ อย่างพอลคุงได้ แต่หลอกผมไม่ได้หรอก
ประโยคเดิมคุณ (เพื่อลดดอกเบี้ยก้อนเดิม) มันไม่ได้รองรับการพูดถึงการลดต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเลย อย่ามามั่วทำไก๋
 
ผมลำดับเรื่องให้ฟังใหม่
ผมเดาว่า คุณอ่านเจอคำว่ารีไฟแนนซ์ในข่าวเลยทำให้คุณนึกถึงภาระดอกเบี้ย
ซึ่งเราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย
ผมเอาข่าวที่ ปตท เขาจะเพิ่มสัดส่วนการกู้เป็นเงินดอลล์เพิ่ม ซึ่งเขาไม่ได้ต้องการรีบกู้มาเพื่อใช้ในประเทศแน่ เพราะมันเหลือแค่ 29 บาท
เขาต้องการกู้เอามาใช้หนี้ที่ต้นทุน 35 บาท
แต่คุณอ่านเจอคำว่ารีไฟแนนซ์ในข่าว ซึ่งคุณนึกถึงการรีไฟแนนซ์บ้านโดยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่ามาโปะ คุณเลยเขียนประโยคดังกล่าวออกมา
พอผมบอกว่าผมไม่ได้คุยเรื่องอัตราดอกเบี้ย คุณก็บอกว่าผมจับผิดคุณ
ซึ่งผมแน่ใจว่าคุณไม่ได้หมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนแน่ในการโพสครั้งแรก เพราะรูปประโยคคุณมันไม่รองรับ
 
จากนั้นคุณก็กระโดดไปหยิบเอาหนี้สกุลบาทมาแสดง แล้วบอกว่า ปตท ต้องคืนเป็นบาท
ผมก็เอาข่าวมาให้ดูอีกทีว่าปตทเขาจะเพิ่มสัดส่วนหนี้ดอลล์จากเดิมมีอยู่ 37%
และเรากำลังคุยเรื่องการใช้หนี้สกุลดอล์อยู่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับสกุลบาทเลย
แล้วคุณก็บอกว่าปตทมีหนี้สกุลบาทมากกว่าสกุลดอลล์
มันเกี่ยวกันตรงไหนหรือ???
 
คุณอย่ามาทำมั่วกับผม 
ผมให้คนอื่นเขาอ่านแล้วตัดสินเอาเองแล้วกันว่าคุณมั่วหรือผมมั่ว
ผมไปกินข้าวหล่ะ

 

แค่มาช้าหาว่ามั่ว  สมเป็นจักรวาลจริงๆ ;)

 

ขอกลับมาตอบแบบเต็มๆ  ที่ช้าไปเพราะไปนั่งแกะงบ PTT มาให้พี่ลี  เดี๋ยวจะเถียงกันไม่จบ เพราะว่าพอดีผมชอบเถียงแบบมีหลักฐาน ไม่ใช่เอาความคิดตัวเองมาบอกแล้วให้คนอื่นหมุนตามตัวเอง :lol:   (เหนื่อยจิ๊บเป๋ง  ทำงานเสร็จ  ต้องมาแกะงบให้พี่ลีอีก)

คืออย่างนี้ครับ  ผมเข้าใจว่าตัวเงินที่จะ Refinance 150,000 ล้านน่ะ  มันคือหุ้นกู้ตามตารางข้างล่างนู้น  ซึ่งมันประกอบไปด้วยทั้งหุ้นกู้บาท  และหุ้นกู้ต่างประเทศตามที่คุยๆ กันแล้วนี่แหละ


แต่อย่างที่บอกคือ  ถ้าเกิด PTT เค้าจะออก Bond (บาท) ตัวใหม่มาชำระ Bond (บาท) ตัวเก่า  มันก็จะไม่มีความจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินตรา  เพราะเค้าจะออกสกุลเงินบาทมาชำระเงินบาท

 

เช่น  Bond ตัวนึง
PTTC13NA มูลค่า 11,700 ล้านบาท ครบกำหนดชำระ พฤศจิกายน 2013  เมื่อถึงเวลาที่เค้าจะ Refinance ตัวนี้ PTT ก็จะออก Bond บาทอีกก้อนนึงมาชำระ ไม่มีการแลกเปลี่ยนเงินตราใดๆ เกิดขึ้น (ตรงนี้เข้าใจกันนะ)

แต่ในกรณีของ Bond (เงินต่างประเทศ) อันนี้ต้องเข้าใจว่า PTT มันใหญ่มาก มี International Credit Rating เลยออก Bond เป็นสกุลเงินต่างประเทศได้
(อธิบายเพิ่มตรงนี้นิดนึง  คือการขาย Bond ให้กับนักลงทุน มันต้องมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ทีนี้ของไทยคือ TRIS ซึ่งจะขาย Bond ได้เฉพาะเงินบาท  แต่ถ้ามีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย International Rating Agency เช่น S&P, Moody's, FITCH มันก็จะขายในตลาดต่างชาติได้)

 

ทีนี้พอ Bond (เงินต่างประเทศ) ครบกำหนดชำระ PTT เค้าจะออก Bond (เงินต่างประเทศ) ตัวใหม่มาชำระ Bond (เงินต่างประเทศ) ตัวเก่าเช่นกัน  มันก็จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแลกเปลี่ยนเงินเช่นกัน  เพราะเค้าจะออกสกุลเงินต่างประเทศ มาชำระเงินต่างประเทศ

 

เช่น  Bond ตัวนึง
PTTFN148A มูลค่า US$ 400,000,000 ครบกำหนดชำระ สิงหาคม 2557 เมื่อถึงเวลาที่เค้าจะ Refinance ตัวนี้ PTT ก็จะออก Bond "USD" อีกก้อนนึงมาชำระเงิน "USD" ไม่มีการแลกเปลี่ยนเงินตราใดๆ เกิดขึ้นเหมือนกัน

 

ตกลงเข้าใจแล้วนะครับพี่ ประเด็นของผมคือ ใช้เงินต่อเงิน  ไม่มีการแลกเปลี่ยนอะไรเลย ;) ;) ;)

 

ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่าพี่ลียกตัวอย่างมาผิดบริษัท  ในกรณีที่พี่ลียกตัวอย่างมาเป็นบริษัทเล็กๆ ที่ไม่สามารถกู้เงินสกุลต่างประเทศได้ มันจะเป็นแบบที่พี่ลีพูดมา  แต่พอพี่ลียก PTT มา  มันเลยไม่ถูกต้องไง

 

สงกรานต์ผมไปเที่ยวนะ  ไม่เข้ามาตอบ  สงสัยอะไรเจอกันสัปดาห์หน้านู้นเลย :lol: :lol:

 

ที่มาของข้อมูล 

ลองไปอ่านงบการเงินของ PTT ดูนะ  อ่านไม่เข้าใจถามได้นะพี่
 


Edited by แฟนคลับจ่า, 12 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:12.





ผู้ใช้ 4 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 4 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน