Jump to content


Photo
- - - - -

อ อ ม เ งิ น เ พื่ อ ช า ติ


  • Please log in to reply
13 replies to this topic

#1 จอมยุทธตะเกียบคู่

จอมยุทธตะเกียบคู่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 943 posts

Posted 13 April 2013 - 09:34

หากว่ารัฐบาลต้องการเงิน สองล้านล้านบาท เพื่อมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ โดยไม่ต้องกู้ ก็สามารถทำได้
 
โดยเปิดขายพันธบัตรให้กับประชาชน ในอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ (สมมติให้ 3.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี) จ่ายดอกเบี้ยทุกปี
 
โดยที่ประชาชนสามารถซื้อได้ง่าย ๆ ไม่ต้องล็อบบี้ ไม่ต้องกันโควต้า เพียงมีบัญชีธนาคาร มีบัตร ATM ก็กดโอนเงินซื้อได้ทันที
 
โดยที่จำกัดวงเงินให้ซื้อได้ไม่เกินท่านละ 1 ล้านบาท (เพื่อป้องกันคนรวยกวาดซื้อหมดเหมือนตอนขายรัฐวิสาหกิจบางแห่ง)
 
ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินเฟ้อ ย่อมจูงใจให้ประชาชนที่มีเงินฝาก เข้ามาซื้อพันธบัตรจนครบสองล้านล้านบาทได้อย่างแน่นอน
 
รัฐบาลก็จะมีเงินมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้โดยไม่ต้องออกกู้เงินต่างประเทศเลยแม้แต่บาทเดียว (แต่มากู้ประชาชนแทน)
 
แล้วมันต่างกันตรงใหน ? ยังไงก็เป็นหนี้เหมือนกัน ผมว่าต่างนะครับเพราะแทนที่จะจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารต่างประเทศ
 
สู้จ่ายดอกเบี้ยให้ประชาชนในประเทศดีกว่า เพราะดอกเบี้ยที่จ่ายให้ประชาชนไป ประชาชนก็เอาเงินนั้นไปบริโภค 
 
ไปใช้จ่ายอยู่ในประเทศ เงินก็หมุนเวียนอยู่ระบบ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นไปอีก เมื่อมีการใช้จ่ายบริโภค รัฐบาลก็ได้ภาษี VAT มากขึ้นอีกทาง 
 
อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออมเงินให้กับประชาชนอีกด้วย แถมไม่ใช่การออมธรรมดา ๆ แต่เป็นการออมเงินแล้วยังพัฒนาประเทศได้อีก
 
 
(และการที่รัฐกู้เงินประชาชนจะช่วยลดการคอรัปชั่นด้วยอีกทางนึง
 
เพราะเป็นเงินที่กู้ประชาชนมา ประชาชนจะรู้สึกหวงแหนเงินมากกว่า
 
ภาครัฐจะถูกประชาชนตรวจสอบและจับตาดูการใช้เงินกู้อย่างเคร่งครัด
 
งานนี้ใครโกงแล้วถูกจับได้คิดว่าโดนสังคมเล่นงานหนักแน่)

                                       ทักษิณ พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง และการเลือกตั้ง คือส่วนผสมที่ลงตัวของ ...

 

ประชาธิปไตยแบบทรราช


#2 วิท

วิท

    ขาแพง

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,333 posts

Posted 13 April 2013 - 10:20

คนจะมีเงินซื้อพันธบัตรได้กี่มากน้อยละครับ

ถ้าอยากจะออมเป็นผมผมไม่ซื้อ เพราะดอกเบี้ยที่ได้ต่ำเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อ

ผมพึ่งเห็นโฆษณาขายสลากของออมสิน(มั้ง) มีแจกทองเพื่อจูงใจให้ซื้อ. ธกส.ก็โฆษณาแจกของเหมือนกัน ท่าทางเงินนกำลังตึงมือ!!!

#3 mongdoodee

mongdoodee

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 667 posts

Posted 13 April 2013 - 11:52

หากว่ารัฐบาลต้องการเงิน สองล้านล้านบาท เพื่อมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ โดยไม่ต้องกู้ ก็สามารถทำได้
 
โดยเปิดขายพันธบัตรให้กับประชาชน ในอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ (สมมติให้ 3.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี) จ่ายดอกเบี้ยทุกปี
 
โดยที่ประชาชนสามารถซื้อได้ง่าย ๆ ไม่ต้องล็อบบี้ ไม่ต้องกันโควต้า เพียงมีบัญชีธนาคาร มีบัตร ATM ก็กดโอนเงินซื้อได้ทันที
 
โดยที่จำกัดวงเงินให้ซื้อได้ไม่เกินท่านละ 1 ล้านบาท (เพื่อป้องกันคนรวยกวาดซื้อหมดเหมือนตอนขายรัฐวิสาหกิจบางแห่ง)
 
ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินเฟ้อ ย่อมจูงใจให้ประชาชนที่มีเงินฝาก เข้ามาซื้อพันธบัตรจนครบสองล้านล้านบาทได้อย่างแน่นอน
 
รัฐบาลก็จะมีเงินมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้โดยไม่ต้องออกกู้เงินต่างประเทศเลยแม้แต่บาทเดียว (แต่มากู้ประชาชนแทน)
 
แล้วมันต่างกันตรงใหน ? ยังไงก็เป็นหนี้เหมือนกัน ผมว่าต่างนะครับเพราะแทนที่จะจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารต่างประเทศ
 
สู้จ่ายดอกเบี้ยให้ประชาชนในประเทศดีกว่า เพราะดอกเบี้ยที่จ่ายให้ประชาชนไป ประชาชนก็เอาเงินนั้นไปบริโภค 
 
ไปใช้จ่ายอยู่ในประเทศ เงินก็หมุนเวียนอยู่ระบบ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นไปอีก เมื่อมีการใช้จ่ายบริโภค รัฐบาลก็ได้ภาษี VAT มากขึ้นอีกทาง 
 
อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออมเงินให้กับประชาชนอีกด้วย แถมไม่ใช่การออมธรรมดา ๆ แต่เป็นการออมเงินแล้วยังพัฒนาประเทศได้อีก
 
 
(และการที่รัฐกู้เงินประชาชนจะช่วยลดการคอรัปชั่นด้วยอีกทางนึง
 
เพราะเป็นเงินที่กู้ประชาชนมา ประชาชนจะรู้สึกหวงแหนเงินมากกว่า
 
ภาครัฐจะถูกประชาชนตรวจสอบและจับตาดูการใช้เงินกู้อย่างเคร่งครัด
 
งานนี้ใครโกงแล้วถูกจับได้คิดว่าโดนสังคมเล่นงานหนักแน่)

 

แบบนี้  ก็อดได้ค่านายหน้า จากการกู้เงิน ซิ



#4 serialnu

serialnu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 772 posts

Posted 13 April 2013 - 13:07

ถ้าจำกัด 1ล้านบาทต่อคน ก็ต้องการคนมาซื้อ 2.2ล้านคนสินะ

#5 ต้นหอม

ต้นหอม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,472 posts

Posted 13 April 2013 - 13:30

ถ้าเงื่อนไขดีสุดๆจริงๆ คิดว่าจะตกถึงมือประชาชนหรือคะ คนชั่วที่มีอำนาจก็เก็บไว้กินเอง แต่นี่มันยังไม่รู้เลยว่าจะคืนทุนชาติไหนเลยแบ่งความเสี่ยงตกถึงมือประชาชน 


มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต

และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต

แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น


#6 littlerock

littlerock

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 289 posts

Posted 13 April 2013 - 13:39

ออมเงินเพื่อชาติ ไม่ค่อยเจอ

 

อมเงินเพื่อชาติ นี่เจอบ่อย

 

:D  :D  :D



#7 Wuddy

Wuddy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 581 posts

Posted 13 April 2013 - 14:53

คงต้องดูก่อนครับว่าเงินออมในประเทศมีเท่าไหร่

แล้วถ้ารัฐดูดออกไปอีก 2.2ล้านล้านบาท จะเหลือในตลาดอีกเท่าไหร่ หลังจากนั้นเอกชนหรือชาวบ้านจะหากู้อีกได้ไหม

แต่ที่แน่ที่สุด ดอกเบี้ยในประเทศจะโดนกระตุกให้สูงขึ้น

คนที่ถือพันธบัตรรอบๆแรกที่ดอกเบี้ย 3.5 % (สมมติ) จะเสียผลประโยชน์ เพราะรอบหลังดอกเบี้ยจะแพงขึ้น



#8 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

Posted 13 April 2013 - 16:44

 

หากว่ารัฐบาลต้องการเงิน สองล้านล้านบาท เพื่อมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ โดยไม่ต้องกู้ ก็สามารถทำได้
 
โดยเปิดขายพันธบัตรให้กับประชาชน ในอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ (สมมติให้ 3.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี) จ่ายดอกเบี้ยทุกปี
 
โดยที่ประชาชนสามารถซื้อได้ง่าย ๆ ไม่ต้องล็อบบี้ ไม่ต้องกันโควต้า เพียงมีบัญชีธนาคาร มีบัตร ATM ก็กดโอนเงินซื้อได้ทันที
 
โดยที่จำกัดวงเงินให้ซื้อได้ไม่เกินท่านละ 1 ล้านบาท (เพื่อป้องกันคนรวยกวาดซื้อหมดเหมือนตอนขายรัฐวิสาหกิจบางแห่ง)
 
ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินเฟ้อ ย่อมจูงใจให้ประชาชนที่มีเงินฝาก เข้ามาซื้อพันธบัตรจนครบสองล้านล้านบาทได้อย่างแน่นอน
 
รัฐบาลก็จะมีเงินมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้โดยไม่ต้องออกกู้เงินต่างประเทศเลยแม้แต่บาทเดียว (แต่มากู้ประชาชนแทน)
 
แล้วมันต่างกันตรงใหน ? ยังไงก็เป็นหนี้เหมือนกัน ผมว่าต่างนะครับเพราะแทนที่จะจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารต่างประเทศ
 
สู้จ่ายดอกเบี้ยให้ประชาชนในประเทศดีกว่า เพราะดอกเบี้ยที่จ่ายให้ประชาชนไป ประชาชนก็เอาเงินนั้นไปบริโภค 
 
ไปใช้จ่ายอยู่ในประเทศ เงินก็หมุนเวียนอยู่ระบบ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นไปอีก เมื่อมีการใช้จ่ายบริโภค รัฐบาลก็ได้ภาษี VAT มากขึ้นอีกทาง 
 
อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออมเงินให้กับประชาชนอีกด้วย แถมไม่ใช่การออมธรรมดา ๆ แต่เป็นการออมเงินแล้วยังพัฒนาประเทศได้อีก
 
 
(และการที่รัฐกู้เงินประชาชนจะช่วยลดการคอรัปชั่นด้วยอีกทางนึง
 
เพราะเป็นเงินที่กู้ประชาชนมา ประชาชนจะรู้สึกหวงแหนเงินมากกว่า
 
ภาครัฐจะถูกประชาชนตรวจสอบและจับตาดูการใช้เงินกู้อย่างเคร่งครัด
 
งานนี้ใครโกงแล้วถูกจับได้คิดว่าโดนสังคมเล่นงานหนักแน่)

 

แบบนี้  ก็อดได้ค่านายหน้า จากการกู้เงิน ซิ

 

เห็นว่าวงเงิน 1 ล้านอาจต่ำไป น่าจะอยู่ที่ 3-5ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ยควรดูตลาด ปรับทุกปีตามสภาพ แบบนี้คิดว่าประชาชนได้ประโยชน์ รัฐบาลก็เรียกเก็บภาษีดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลน่าจะไม่เลือกวิธีนี้ เพราะไม่อยากใช้วิธีตั้งงบประมาณ มันโกงกินยาก สู้ออก พรบ.เงินกู้ กินได้หลายขั้นตอน ตั้งแต่ตอนกู้ไปจนถึงการวางแผนโครงการ การเปิดประมูล การจ่ายเงินงวด อย่างน้อยๆ ทุกขั้นตอนที่ว่านี้คงไม่ต่ำกว่า 30-50เปอร์เซนต์ของวงเงินกู้ พี่ชั่วกับน้องโง่มันกะจะกินประเทศไทย ถ้าประชาชนยังไม่เห็นถึงความหายนะของโครงการนี้ ก็รอรับความวินาศได้ ส่วนประชาควายเสื้อแดง เราคงไม่มีความหวังว่าจะคิดได้ เพราะคงคิดว่าให้มันจนเหมือนๆกันให้หมดก็ดี เป็นประชาธิปไตยดี


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#9 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

Posted 13 April 2013 - 16:46

เห็นเสื้อแดงช่วยรัฐบาลอีเอ๋อ ด้วยการบอกว่ากู้ในประเทศๆๆๆๆ...นี่ครับ

แต่รัฐบาลอีเอ๋อต่างหาก...ที่มีปากเหมือนอมตรูด ไม่พูดอะไร


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#10 จอมยุทธตะเกียบคู่

จอมยุทธตะเกียบคู่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 943 posts

Posted 16 April 2013 - 10:24

คงต้องดูก่อนครับว่าเงินออมในประเทศมีเท่าไหร่

แล้วถ้ารัฐดูดออกไปอีก 2.2ล้านล้านบาท จะเหลือในตลาดอีกเท่าไหร่ หลังจากนั้นเอกชนหรือชาวบ้านจะหากู้อีกได้ไหม

แต่ที่แน่ที่สุด ดอกเบี้ยในประเทศจะโดนกระตุกให้สูงขึ้น

คนที่ถือพันธบัตรรอบๆแรกที่ดอกเบี้ย 3.5 % (สมมติ) จะเสียผลประโยชน์ เพราะรอบหลังดอกเบี้ยจะแพงขึ้น

 

เงินไม่ได้หายไปจากระบบนะครับ เพราะไม่ได้เอาเงินไปกองไว้เฉย ๆ 

แต่เอาไปสร้างสาธารณูปโภค เกิดการจัดซื้อ - จ้างงาน และอื่น ๆ เงินหมุนสะพัดในระบบมากกว่าด้วยซ้ำครับ


                                       ทักษิณ พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง และการเลือกตั้ง คือส่วนผสมที่ลงตัวของ ...

 

ประชาธิปไตยแบบทรราช


#11 ขุนพลชิน

ขุนพลชิน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,053 posts

Posted 16 April 2013 - 11:10

ตอนนี้เค้่าก็พยายามทำกันอยู่นะ  เห็น ธกส กะ ออมสิน วิ่งขอเงินฝากกันให้ขาขวิด



#12 Wuddy

Wuddy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 581 posts

Posted 16 April 2013 - 14:48

คงต้องดูก่อนครับว่าเงินออมในประเทศมีเท่าไหร่

แล้วถ้ารัฐดูดออกไปอีก 2.2ล้านล้านบาท จะเหลือในตลาดอีกเท่าไหร่ หลังจากนั้นเอกชนหรือชาวบ้านจะหากู้อีกได้ไหม

แต่ที่แน่ที่สุด ดอกเบี้ยในประเทศจะโดนกระตุกให้สูงขึ้น

คนที่ถือพันธบัตรรอบๆแรกที่ดอกเบี้ย 3.5 % (สมมติ) จะเสียผลประโยชน์ เพราะรอบหลังดอกเบี้ยจะแพงขึ้น

 

เงินไม่ได้หายไปจากระบบนะครับ เพราะไม่ได้เอาเงินไปกองไว้เฉย ๆ 

แต่เอาไปสร้างสาธารณูปโภค เกิดการจัดซื้อ - จ้างงาน และอื่น ๆ เงินหมุนสะพัดในระบบมากกว่าด้วยซ้ำครับ

เงินหายจากระบบส่วนหนึ่ง แต่เป็นปนิมาณเท่าไหร่ ต้องดูรายละเอียดครับ

เพราะ ต้องเอาเงินไปซื้อวัตถุดิบ เครื่องจักรกลและอื่นๆจาก ตปท ส่วนดอกเบี้ยที่จ่ายมาวนประเทศเป็นแค่ส่วนหนึ่งครับ



#13 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

Posted 17 April 2013 - 12:13

http://www2.bot.or.t...D=7&language=TH

 

จาก ธปท. ปริมาณเงินฝากตอนนี้มีประมาณ 13 ล้านล้านบาท

โดยเงินฝากประจำมีปริมาณประมาณครึ่งหนึ่งคือประมาณ 6.6 ล้านล้านบาท

การจะระดมทุนจากพันธบัตรอย่างเดียวให้ถึง 2 ล้านล้านจึงไม่น่าจะง่าย เว้นแต่ว่าให้ดอกเบี้ยสูงจริงๆ

แต่ก็จะมีข้อดีคือคนที่มีรายได้ ที่เป็นคนที่เสียภาษีจริงๆ ก็จะมีโอกาสที่จะได้ดอกเบี้ยคืนมา  -_-


" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#14 ทัชชี่

ทัชชี่

    ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,784 posts

Posted 17 April 2013 - 12:30

ถ้าจำกัด 1ล้านบาทต่อคน ก็ต้องการคนมาซื้อ 2.2ล้านคนสินะ

 

คนที่เสียภาษีเพื่อหล่อเลี้ยงประเทศไทยและมีกำลังซื้อคนละ 1 ล้านบาท มีถึง 2.4 ล้านคนนะครับ ปริ่มๆ เลยทีเดียว (ถ้าซื้อคนละ 1 ล้าน ก็ยังมีอีกตั้ง 2 แสนคนที่ยังไม่ได้ซื้อ)


ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ





0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users