Jump to content


Photo
- - - - -

งมงายน้อยไหว้หมา งมงายมากไหว้แม้ว!!!!


  • Please log in to reply
27 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 kokkai

kokkai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,237 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:40

งมงาย.jpg



#2 คนดื่มเบียร์

คนดื่มเบียร์

    พอจะทนแดงได้หน่อยๆ

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,721 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:42

H e r e ยังกราบได้เลยครับ หมานี่แค่จิ๊บๆ :P


ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "


#3 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:43

attachicon.gifงมงาย.jpg

 

 

 

เคยเห็นภาพถ่ายนักโทษหนีคุกกราบหมาที่สุวรรณภูมิไหม.....?


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#4 kokkai

kokkai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,237 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:53

พวกงมงายกู่ไม่กลับ...5555

 

งมงาย2.jpg

 

http://www.oknation....3/04/13/entry-4



#5 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:34

พวกไหว้หมา ไหว้หมู สัตว์ผิดปกติ เป็นพวกเลือกไอ้แม้วทั้งนั้น ส่อถึงสติปัญญาพวกมันเลย 



#6 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:49

ไอ้ คนดื่มเบียร์ ปากมันมอม. ชอบใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น มันเกลียดแดง แต่ฉันจะเกลียดเหลือง ค้าน กทม.

#7 Familie

Familie

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,202 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:55

ไม่แปลกเลย ถ้าเห็นคนบางส่วน
กราบไหว้ทักษิณเหมือนเทพเจ้า
อย่าร่ำร้องหาเลยครับประชาธิปไตย
ตราบใดที่การศึกษายังไร้ผลแบบนี้
จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

#8 เส้นใหญ่ไม่งอก

เส้นใหญ่ไม่งอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,033 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:44

พวกงมงายกู่ไม่กลับ...5555

 

attachicon.gifงมงาย2.jpg

 

http://www.oknation....3/04/13/entry-4

 

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:



#9 gears

gears

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,450 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:51

555+++++

จำตอนที่มีน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาได้ป่ะ
แห่กันไปดื่ม เอากลับบ้าน สรุป.....

#10 V for vendettaขี่er6nไปราช

V for vendettaขี่er6nไปราช

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,648 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:53

แล้วถ้ากินขี้แม้วด้วยจะเรียกว่าอะไร :rolleyes:  :rolleyes:  :rolleyes:  :rolleyes: 


ยามกูจนมรึ-งย่ำยี  ยามกูมีมรึ-งอิจฉา

 


#11 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:08

มีข่าวแบบนี้ทีไร ก็เกิดคำถามว่า 

 

หน่วยงานภาครัฐล่ะที่จะให้ข้อมูล ให้ความรู้ที่ถูกต้องเป็๋นวิทยาศาสตร์แก่ชาวบ้่านไปอยู่ซะที่ไหน ???

 

ทำไมไม่ทำหน้าที่ ???

 

 

สื่อมวลชนก็เช่นกัน หน้าที่แท้จริงของสื่อคืออะไร ???  จรรยาบรรณของสื่อล่ะอยู่ที่ไหน ???

 

หรือเห็นแก่การตลาด เห็นแก่เงิน เอออ  มีคนโง่มากราบไหว้แบบนี้ก็ดีละ ฉันจะได้ตีข่าวให้มันสนุก ๆ ไป ขายได้ซะอย่าง

 

 

-_-  -_- 


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#12 เด็กปากเกร็ด

เด็กปากเกร็ด

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,363 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:39

ปกติของคนเสื้อแดงนี่ครับ
พวกสมองหมา ปัญญาควาย
ไหว้แม้กระทั้งคน เฮรี้ยยย!!!!

#13 alucardx

alucardx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 323 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 20:33

H e r e ยังกราบได้เลยครับ หมานี่แค่จิ๊บๆ :P

 

 

ไอ้ คนดื่มเบียร์ ปากมันมอม. ชอบใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น มันเกลียดแดง แต่ฉันจะเกลียดเหลือง ค้าน กทม.

 

สันหลังวะจริง ๆ ไม่เห็นเค้าจะเอ่ยสีอะไรตรงไหน 

 

ตรงไหนเรียกใส่ร้ายป้ายสี ??? 



#14 son

son

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,463 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 20:36

คลั่งน้อยก็ละเมอท่านนายกปู......

คลั่งมากก็คิดถึงแต่ท่านทักษิณ......

ไปพักผ่อนบ้าง....อย่าหมกมุ่นมากนัก.......


ถ้าประเทศไหนประชาชนไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองถึง30% ประเทศนั้นอยู่ใกล้กับระบอบเผด็จการ


#15 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 20:59

คลั่งน้อยก็ละเมอท่านนายกปู......

คลั่งมากก็คิดถึงแต่ท่านทักษิณ......

ไปพักผ่อนบ้าง....อย่าหมกมุ่นมากนัก.......

ว่าแล้ว ซันก็ไปนอนได้แล้ว 



#16 คุณนายนอกบ้าน

คุณนายนอกบ้าน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,281 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:24

555+++++
จำตอนที่มีน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาได้ป่ะ
แห่กันไปดื่ม เอากลับบ้าน สรุป.....


ใช่น้ำจากส้วมเก่า หรือเปล่าค่ะ

#17 คนดี

คนดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 251 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:28

พูดโยกโยเล่นลิ้น ปะเดียวก็โดน

#18 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:27

พื้นที่ไหน งมงายมาก

พื้นที่นั้น สมาชิกนปช.มากตามตัว

 

เถียงมาสิ

กรูจะไม่ตอบ


อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#19 อ่อนโลก

อ่อนโลก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 681 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:41

พูดโยกโยเล่นลิ้น ปะเดียวก็โดน


ติดตามผลงานมาพักนึงแล้ว ขอเดาหน่อยนะครับ ป้า/น้า อยู่ในยุค เบบี้บูมใช่มั้ยครับ ?

#20 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:47

พูดโยกโยเล่นลิ้น ปะเดียวก็โดน

 

คุณพี่ขรา...

เจอตัวพอดี

คุณพี่ช่วย เอ๊กซ์เพลน ให้หนูหน่อยว่า

 

 

เรียนจบมหาลัยที่ไทยยังสู้เด็กอนุบาลที่ us ไม่ได้เลย. เหอะจะอ่านออกไม่นะ. ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนดังหลายแห่งในไทย. เด็กโง่หัวขี้เลื่อย อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ไอคิวตำ่สุดๆ. โธ่. จะฝากลูกทีก็ต้องเสียใต้โต๊ะ ระบบมันแย่มานานแล้ว. แกล้งเป็นเกลียดตัวกินหนอน วัฒนธรรมก็รับเขามาเต็มบ้านเต็มเมือง. โธ่ เจริญขึ้นก็เพราะต่างชาติ นิยมโอ๋อวดอีกต่างหาก พี่ไทย ทีหลังจะข่มคนให้ดูซะมัง. ว่าใครแน่ว่าใคร.

 

เกลียดตัวกินหนอน

 

 

ที่คุณพี่พิมพ์มาน่ะ

แปลว่าอะไร

 

หนูถามไปแล้ว คุณพี่ไม่ยักตอบ

 

อธิบายให้พวกเหลือง พวก กทม พวกที่ไม่มีโอกาสได้อยู่เมกา 20 ปี อย่างคุณพี่ หงายเงิบหน่อย



#21 ที่บ้านเคร่งเรื่องมารยาท

ที่บ้านเคร่งเรื่องมารยาท

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 775 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:48

พูดโยกโยเล่นลิ้น ปะเดียวก็โดน


ติดตามผลงานมาพักนึงแล้ว ขอเดาหน่อยนะครับ ป้า/น้า อยู่ในยุค เบบี้บูมใช่มั้ยครับ ?

ผมว่าไม่น่าใช่อะ 

น่าจะ GEN C

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Chiphaay........



#22 อ่อนโลก

อ่อนโลก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 681 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:56

ถ้า พี่"คนดี" นี่อยู่ในยุค เบบี้บูมจริงคงกู่ไม่กลับแล้วครับ คนพวกนี้จะรักองค์กรจนตัวตายเลย หมดปัญญาที่จะใส่ทัษณะคติใหม่ๆลงไปในหัว คงต้องปล่อยให้แห้งตายไปเอง ผมคงไม่โต้กับคนแบบนี้หรอกครับ

#23 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:35

ไอ้แม้ว ใช่ว่าไม่รู้ว่า ผู้สนับสนุนมัน เป็นพวกไหน มันถึงได้ให้อีเม้ยใบ้หวย นึกแล้วก็อุบาทก์การกระทำแบบนี้จริงๆ 



#24 คนกินข้าว

คนกินข้าว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,422 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 16:59

144362-pic-10.jpg
ไข่นกกระจอกเทศ
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงามีชาวประมงพบไข่ขนาดใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าว ซึ่งเจ้าของไข่เปิดเผยว่า ขณะที่เขาตระเตรียมอวนตาข่ายเพื่อหาปลาได้สังเกตเห็นวัตถุสีขาวลักษณะกลมรีคล้ายไข่ไก่ แต่มีขนาดใหญ่ผิดปกติตั้งอยู่บนพื้นในพงหญ้า จึงเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ พบว่าลักษณะภายนอกเปลือกแข็งเหมือนไข่ทั่วไป มีสีขาวครีม ส่งกลิ่นคาว ซึ่งชาวบ้านบางคนคาดว่าสัตว์ที่เป็นเจ้าของคงจะตัวใหญ่มาก และบริเวณที่พบมีน้ำลึกมาก อาจมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่มาอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันบริเวณนั้นอยู่ห่างจากทะเล ประมาณ 700 เมตรถือว่าไม่ไกลมากนักอาจมีสัตว์บางชนิดขึ้นมาจากทะเลแล้ววางไข่ก็เป็นได้ จึงมีการจุดธูปกราบไหว้บูชาและใช้แป้งโรยไปที่ไข่ (หมายถึงไข่ใบที่เก็บมาจากทะเล) แล้วใช้มือลูบหวังให้เห็นเลขเด็ด
เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นางระวีวรรณ ยิ่งวรรณศิริ หัวหน้าปศุสัตว์ จ.พังงา เปิดเผยว่าไข่ที่พบน่าจะเป็นไข่ของนกกระจอกเทศ โดยที่จังหวัดพังงามีฟาร์มนกกระจอกเทศอยู่ 2-3 แห่งลูกจ้างของเจ้าของฟาร์มอาจจะขโมยมาแล้วนำมาทิ้งไว้ เพื่อจะนำไปปรุงรับประทาน เพราะไข่นกกระจอกเทศนั้นมีราคาแพงมาก ใบละ 100 กว่าบาท แต่เพื่อมั่นใจว่าใช่หรือไม่ ใช่ ต้องนำไข่ไปพิสูจน์ในห้องแล็บ แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการสอบถามเจ้าของไข่แล้ว ไม่ยอมให้นำไปพิสูจน์ และขณะนี้พบว่าไข่เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว

 

 
144362-pic-9.jpg
ต้นหว้า
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ที่ อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมาชาวบ้านจำนวนมากแห่ไปมุ่งดูและกราบไหว้ต้นหว้าที่มีน้ำไหลออกมาอย่างขาดสาย เจ้าของที่ดินกล่าวว่า ตนเองกำลังจะตัดต้นไม้ต้นดังกล่าว เพื่อต้องการไถดินเพื่อนำนา แต่หลังจากทำงานมาตลอดทั้งวันจึงได้หยุดพักโดยได้นั่งหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ดังกล่าว ซึ่งเป็นต้นหว้าแต่เมื่อนั่งไปได้ระยะหนึ่งรู้สึกว่ามีหยดน้ำไหลออกมาจากต้นไม้ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จึงเริ่มเดินตรวจสอบบริเวณต้นไม้ จึงพบว่ามีหยดน้ำที่ไหลลงมาจากต้นไม้และไม่ใช่หยดน้ำที่เกิดจากน้ำค้างอย่างแน่นอน และเมื่อข่าวแพร่สะพรัดออกไปชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันมาดูพร้อมกับน้ำภาชนะมารองรับน้ำ เพื่อนำกลับไปดื่มและอาบเพราะเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกทั้งชาวบ้านบางส่วนยังเชื่ออีกว่า น้ำที่หยดลงมานั้นเป็นหยดน้ำตาของต้นไม้ที่เสียใจว่า จะต้องถูกตัดทิ้งจึงได้ร้องไห้ออกมา อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปตนเองคงจะไม่กล้าที่จะตัดต้นไม้ต้นนี้ทิ้งอย่างแน่นอน เนื่องจากชาวบ้านต่างมามุงดูและไม่ยอมให้ตนเองตัดทิ้ง
เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นหว้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติความสูงประมาณ 15 เมตร มีอายุราว 20 ปี ซึ่งต้นว่าเป็นต้นไม้ที่รับประทานผลได้ ส่วนสาเหตุของเรื่องประหลาดที่มีน้ำหยดลงมานั้นจากการตรวจสอบพบว่าน้ำได้ไหลออกมาจากส่วนใบ ผศ. ยงยุทธ์ จรรยารักษ์ กล่าวว่านี่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เหมาะสม เช่น ความชื้นความกดอากาศ สภาวะแวดล้อม และกระบวนการหาอาหารของต้นไม้ ซึ่งในบางครั้งที่อากาศมีความชื้นสัมพันธ์สูงน้ำ จะระเหยเป็นไอสู่บรรยากาศได้น้อยลง ทำให้การคายน้ำลดลงแต่แรงดันน้ำในต้นพืชยังสูงอยู่จึงสามารถพบหยดน้ำที่บริเวณกลุ่มรูเปิดที่ผิวใบซึ่งเรียกว่า ไฮดาโทด(hydathode) มักพบอยู่ใกล้ปลายใบหรือขอบใบตรงตำแหน่งของปลายท่อลำเลียงการคายน้ำในลักษณะ นี้เรียกว่า กัตเตชัน (guttation) ทำให้พืชสามารถดูดน้ำทางรากเข้าไปใช้ได้ ไม่ได้เกิดจากความเศร้าเสียใจของต้นไม้แต่อย่างใด

 

 
144362-pic-8.jpg
ควาย
บ่ายวันที่ 23 กันยายน 2550 ได้มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศใน จ.ศรีสะเกษจำนวนมากนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบ ไหว้ลูกควายประหลาดมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคน ถูกจัดวางให้อยู่ในสภาพนอนหงาย แขนขากางออกจากกัน ลักษณะเหมือนกับท่าทางคนนอนหลับ เจ้าของลูกควายประหลาดเปิดเผยว่า มีควายอยู่ทั้งหมด 9 ตัว โดยแม่ของลูกควายประหลาดนี้เป็นตัวที่ 5 ได้ตกลูกออกมา เมื่อมีลักษณะประหลาดท่าทางเหมือนคนทุกอย่าง ตั้งแต่ศีรษะปาก จมูกหู รวมทั้งขาทั้ง 4 ข้าง (เหมือนคนทุกอย่าง???) แต่ไม่มีอวัยวะแสดงลักษณะของเพศผู้หรือเพศเมียและลูกควายประหลาดได้เสียชีวิตทันทีตั้งแต่แรก ตนกับสามีจึงได้นำซากควายประหลาดไปฝังดินไว้ในนาของตัวเอง ชาวบ้านบางส่วนได้นำน้ำปะพรมบนซากควายประหลาดและเอา แป้งทาตามร่างของซากลูกควายเพื่อขอหวยตามความเชื่อของตัวเองอย่างคึกคัก พร้อมนำเงินมาทำบุญใส่ในขันเงินและหยอดตู้ไม้ตามแต่ศรัทธา
เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรมบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อาตมาเห็นว่าการที่ชาวศรีสะเกษพากันแห่ไปกราบไหว้ซากลูกควายประหลาดนี้ถือว่า เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถจะทำได้ แต่ว่าตามหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ว่า จะต้องให้พุทธศาสนิกชนไปกราบไหว้ซากสัตว์แต่อย่างใด

 

144362-pic-7.jpg
เห็ดเขาเหม็น
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมามีชาวบ้านล่ำลือกันว่าพบเห็ดประหลาดโผล่ขึ้นมามีลักษณะคล้ายกับหนวดปลาหมึก สูงประมาณ 7-8 นิ้ว โผล่ชูหนวดขึ้นมาประมาณ 8-9 หนวด แถมยังมีน้ำคล้ายน้ำเมือก เจ้าของเห็ดกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนก็ได้ฝันเห็น งูสีปีกแมงทับเขียวมรกตขนาดใหญ่ 3 ตัว ในฝันนั้นบอกว่างูทั้ง 3 ตัวเป็นผัวเมียและลูก ได้มาเกี้ยวพันกันอยู่ในขื่อภายในบ้านของตน แต่ก็ไม่ได้ฝันอะไรต่อไปอีก จึงทำให้ตนสงสัยว่าจะเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้หรือไม่เพื่อความสบายใจของประชาชนในละแวกนี้และผู้ที่พบเห็น ตนจึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาบูชา เพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุที่ดีแก่ครอบครัว และชุมชน
เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... เช่นเดียวกับเห็ดมือผีที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อนเห็ดชนิดนี้อยู่ในกลุ่มของเห็ดเขาเหม็น (Stink Horn) เห็ดกลุ่มนี้มีลักษณะพิเศษคือ จะส่งกลิ่นเหม็น เมื่อดอกเห็ดแก่เพื่อดึงดูดแมลงให้มาตอม ซึ่งจะทำให้สปอร์ติดตัวไปกับแมลงเพื่อกระจายพันธุ์ยังที่อื่น ได้เป็นเห็ดที่มีลักษณะแตกต่างไปจากราทั่วไป คือ บางชนิดมีรูปร่างคล้ายการพนมมือไหว้ เช่น เห็ดในสกุล Pseudocolus หรือบางชนิดอาจมีลักษณะคล้ายเขาสัตว์

 

 
144362-pic-6.jpg
ปลาจระเข้
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ชาวปทุมธานีพบกับปลาประหลาดที่ลำตัวมีเกล็ดสีดำเทาเงา คล้ายเกล็ดงูเห่ามีลิ้น 2 แฉก ลักษณะแฉกมนคล้ายรูปหัวใจ และมีกลิ่นคาวปลาเหม็นแรงกว่าปลาชนิดอื่น ๆ มีความแปลกเหมือนมีลักษณะของอวัยวะในส่วนต่างๆของปลา งู จระเข้ รวมกัน ซึ่งเจ้าของปลาดังกล่าว เล่าว่าตนฝันแปลก ๆ ฝันเห็นว่า มีผู้หญิงแก่เดินเข้ามาหาและจับมือตนไว้ จากนั้นเข้ามากอด เมื่อหญิงแก่คนนั้นกอดตนแล้ว สภาพร่างกายของหญิงแก่ก็กลายสภาพเน่าเฟะเหม็นเหมือนศพ จากนั้นตนสะดุ้งตื่น ตอนเช้ามาจึงใส่บาตรทำบุญและจุดธูปไหว้ขอขมา ซึ่งชาวบ้านที่เข้ามาดูต่างพากันมาลูบที่ตัวปลามีบางคนมาขอเกล็ดไปไว้บูชา ที่บ้านบ้าง จุดธูปไหว้บ้าง วันนั้นทั้งวันตนไม่เป็นอันขายของเพราะต้องเดินเข้าออกไปมาหยิบปลาประหลาดให้ชาวบ้านที่แห่มาขอดู
เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ปลาที่พบคือ ปลาจระเข้หรือปลาอัลลิเกเตอร์ การ์ อาศัยอยู่มากในแถบรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับปลาชนิดนี้เป็นปลาที่กินเนื้อเป็นอาหาร โดยส่วนมากถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงามและเลี้ยงไว้ในบ่อตกปลาปลา ในข่าวอาจจะมีผู้นำมาเลี้ยงเมื่อเกิดเบื่อก็นำมาปล่อยทิ้งหรืออาจจะหลุดออกมาในช่วงน้ำท่วม ซึ่งในปีพ.ศ.2545 ทางกรมประมงประกาศห้ามนำเข้าปลาจระเข้ เนื่องจากเป็นปลากินเนื้ออาจทำลายระบบนิเวศของแหล่งน้ำ ด้วยการกินปลาพื้นเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าจนทำให้ระบบนิเวศเกิดความเสียหาย หรือปลาอาจสูญพันธุ์ได้

 

 
144362-pic-5.jpg
ต้นบุก
ในวันที่ 24 เมษายน 2550 ชาวบ้านเมืองพิจิตร ต่างมาชุมนุมกันหลังทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีต้นไม้ประหลาดผุดขึ้น มาจากพื้นดินมีลักษณะคล้ายพานพุ่มที่จัดวางบนโต๊ะหมู่บูชา โดยต้นไม้ดังกล่าวสูงประมาณ 25 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตร ซึ่งหากมองจากทางด้านข้างจะเห็นคล้ายพานพุ่ม แต่ถ้ามองจากด้านบนจะคล้ายใบโพธิ์เรียงล้อมรอบ ชาวบ้านที่เดินทางมาดูต้นไม้ประหลาดดังกล่าวต่างพากันจุดธูปเทียนกราบไหว้ พร้อมทั้งบนบานขอให้มีโชคลาภเพราะลือกันว่าในงวดที่ผ่านมามีผู้ถูกรางวัลเลขท้ายสองตัวจากจำนวนก้านธูปที่คนนำมากราบไหว้กัน
เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... มันคือ ต้นบุก ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นบอน (Araceae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบไม่มีแก่น สูง 3-6 ฟุต มีดอกสีม่วงเหมือนดอกหน้าวัว เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น จีน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดจีน ในประเทศไทย คนไทยใช้เป็นอาหารกันมาช้านานแล้ว โดยใช้ต้นใบ และหัวบุกมาทำขนม เช่น ขนมบุกแกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว) ซึ่งการนำบุกมาทำอาหารจะแตกต่างกันในแต่ละภาค นอกจากประโยชน์ดังกล่าวแล้วบุกใช้เป็นไม้ประดับที่สวยงามโดยนักจัดสวนนิยมนำ มาประดับตามใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นที่มีป่าโปร่งหรือจะนำมาใส่กระถางเป็นไม้ประดับ

 

144362-pic-4.jpg
จิ้งจก
ในเวลาราว ๆ ตีสาม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา ที่บ้านหลังหนึ่งใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมากลางดึกและจิ้งจกสีแดงตัวหนึ่ง เกาะอยู่ในมุ้งซึ่งตอนแรกเจ้าของบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไรและนอนหลับไปจนกระทั่ง เช้าจิ้งจกสีแดงก็ยังเกาะอยู่ที่เดิมจึงอธิษฐานจิตบอกจิ้งจกตัวนั้นว่า "อยากอยู่ด้วยกันก็ได้"พร้อมทั้งยกมือไหว้แล้วเอื้อมมือไปจับจิ้งจกได้อย่าง ง่ายดายโดยมันไม่ได้คลานหลบหนีไปไหน และได้ไปนำเอาตู้ปลามาใส่เลี้ยงไว้พร้อมตั้งชื่อเจ้าจิ้งจกสีแดงว่า "ถุงเงินถุงทอง"โดยจิ้งจกตัวดังกล่าวมีสีแดงทั้งตัว ขนาดความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร นอกจากนี้นิ้วเท้าทั้ง 4 ข้าง ยังแปลกประหลาดกว่าจิ้งจกทั่วไปซึ่งปกติจะมีนิ้วข้างละ 4 นิ้ว แต่จิ้งจกสีแดงดังกลาวมีนิ้วข้างละ 5 นิ้วเจ้าของบ้านจับใส่ไว้ในตู้ปลามีมุ้งลวดปิดคลุมไว้ซึ่งบริเวณแผ่นกระจก ด้านนอกตู้ ได้มีชาวบ้านนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดไว้บางรายนำผ้าแพร 3 สี และพวงมาลัยมาผูกไว้ที่หน้าตู้ประชาชนที่เดินทางไปดูจิ้งจกสีแดงต่างแสดง ความตื่นเต้นประหลาดใจ บางคนก็พูดว่า มันเป็นจิ้งจก นปช.
เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นายอรรถกร สุขทวี ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน สวนสัตว์ดุสิตกล่าวว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจิ้งจกดังกล่าวเป็นสายพันธุ์อะไร เนื่องจากยังไม่เห็นตัวจริง แต่เบื้องต้นจากลักษณะที่บอกคาดว่า อาจเป็นจิ้งจกสายพันธุ์ต่างประเทศที่มีผู้นำเข้ามาเลี้ยงแต่ยังไม่สามารถระบุชื่อพันธุ์ได้ชัด ๆ เพราะไม่มีในเมืองไทย ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้นิยมนำสัตว์เลื้อยคลานจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดีทางผู้ชื่นชอบสัตว์เลื้อยคลานจากเว็บ siamreptile เชื่อว่าเป็นจิ้งจกบ้านหางอ้วนตัวเมียที่ตกถังสีมาและยังกล่าวไว้ว่า จิ้งจกดังกล่าวนั้นมี 5 นิ้วอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด

 

144362-pic-3.jpg
เสาอาคาร
เรื่องเล่ามีอยู่ว่า มีคนงานสาวชาวพม่าตกลงไปในแบบหล่อเสาขนาดใหญ่ แต่เพื่อนคนงานไม่รู้เลยเทปูนซีเมนต์ทับลงไป ทำให้ฝังร่างเหยื่อทั้งเป็น มารู้อีกครั้งก็ตอนแกะแบบเหล็กออกไปแล้วจึงเห็นเป็นรูปตัวคนปรากฏอยู่ในเสา วิศวกรคุมงานสั่งให้คนงานช่วยกันกะเทาะคอนกรีต เพื่อนำศพออกมาแต่เนื่องจากคอนกรีตหล่อเสาดังกล่าวมีความแข็งมากจึงนำศพออกมาได้เพียงบางส่วน จากนั้นวิศวกรจึงสั่งให้อัดซีเมนต์เข้าไปในรอยกะเทาะดังเดิมและฉาบปูนปิดทับ แต่ก็ยังคงปรากฏเป็นรอยปะอยู่ที่เสาสองรอยซึ่งบริเวณตรงกลางเสาต้นดังกล่าวมีร่องรอยการฉาบปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ 2 จุด ลักษณะคล้ายถูกเจาะเนื้อปูนเดิมออกแล้วมีการฉาบปูนใหม่ปิดทับผิดกับเสา ต้นอื่นที่จะมีลักษณะของเนื้อปูนที่ราบเรียบสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน โดยบริเวณรอยฉาบปูนมีคราบแป้งคล้ายมีคนมาถูหาตัวเลขและมีแผ่นทองคำเปลวมาติด ที่ต้นเสาเพื่อขอหวย นอกจากนี้ยังมีผู้นำสายสร้อยลูกปัดมาแขวนไว้คล้ายเป็นเครื่องเซ่นไหว้สักการะ ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอได้ติดต่อไปทางวิศวกรผู้สร้างอาคารดังกล่าวและได้คำอธิบายว่า โครงสร้างของเสาที่อาคารหลังนั้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เป็นเสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 60 เซนติเมตร ซึ่งภายในเสาจะเสริมด้วยเหล็กเสริมขนาด 28 มิลลิเมตร มัดรวมกัน จำนวน 60 เส้น ซึ่งรอยปูนนั้นเกิดจากการไหลเวียนขอวงน้ำปูนขณะเทคอนกรีดบางช่วงน้ำปูนไหลไม่สะดวก ซึ่งเกิดจากการติดเหล็กเส้นจำนวนมากทำให้เกิดรอยดังกล่าว และในขณะทำการหล่อเสานั้นจะมีการตรวจสอบที่ละเอียดอย่างต่อเนื่องทั้งก่อนการเทคอนกรีต ขณะเทคอนกรีต และหลังการเทคอนกรีต ถ้ามีสิ่งแปลกปลอมใด ๆ เช่น เศษลวดหรือเศษไม้ ทางผู้ตรวจสอบจะไม่อนุมัติให้เทปูน จึงยากที่จะมีวัสดุแปลกปลอมหลุดเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้วจำนวนเหล็กเสริมที่ผูกเรียงกันข้างในนั้นทำให้มีพื้นที่ภายในเสาเพียง 35 เซนติเมตร ซึ่งแคบเกินกว่าคนจะเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้วอาจารย์ภาควิศวกรรมโยธาแห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำเอาเครื่อง Ultra Sonic ไปตรวจสอบ และไม่พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมใด ๆ อยู่ในเสาต้นนั้นอย่างที่ข่าวลือกล่าวไว้เลย

 

 
144362-pic-2.jpg
แผ่นเจลลดไข้
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 เกิดพายุฝนตกฟ้าคะนองอย่างรุนแรงที่อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยทานี และปรากฎวัตถุเรืองแสงคล้ายผีพุ่งไต้หล่นลงมาจากฟากฟ้า เมื่อพายุสงบลง เจ้า ของบ้านหลังหนึ่งได้พบสิ่งมีชีวิตประหลาดมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่นคล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง มีจุดเล็ก ๆ 2 จุดคล้ายตาและมีติ่งยื่นออกมาคล้ายใบหู มีขนาดเท่าฝ่ามือ ซึ่งพอจับจะหดตัว แต่พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้นเจ้าของบ้านหลังนั้นจึงนำธูป หมากพลูและดอกไม้มาบูชา เชื่อว่าหากใครมีในครอบครอง 7 อัน (เช่นเดียวกับดราก้อนบอล) จะทำให้เจริญรุ่งเรือง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ มากไปกว่านั้นยังนำเอาเนื้อเยื่อที่หลุดลุ่ยไปคลุกเคล้ากับข้าวกินกันในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีประชาชนเดินทางไปดูเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ ก่อนจะลงมือจุดธูปเทียนขอเลขเด็ดไปเเทง หวย เลขที่ได้รับความสนใจ คือ 115 เเละ 17 โดยตัวเเรกเป็นเลขที่บ้าน ส่วน 17 เป็นจำนวนปล้องที่นับได้จากตัวหนอน
จากข้อมูลที่ได้มาตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ ว่า แท้จริงแล้วหนอนที่ตกมาจากฟ้านั้น เป็นเพียงเจลลดไข้ที่อมน้ำไว้ ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์พันธุวิศวกรรมฯ จึงได้ทดสอบนำหนอนประหลาดที่ส่งมาจากชาวบ้านมาเปรียบเทียบกับแผ่นเจลลดไข้ที่แช่น้ำไว้ พบว่าวัตถุทั้ง 2 ชิ้นมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ และหลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไป แผ่นเจลลดไข้ ก็ถึงกับขาดตลา ดเนื่องจากผู้คนแห่กันไปซื้อมาเล่น โดยมีการนำเอาแผ่นเจลมาย้อมสี และทำการตกแต่งประดับไปด้วยวัสดุต่าง ๆ เป็นที่สนุกสนานกัน

 

144362-pic-1.jpg
น้ำท่อส้วม
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 ชาวบ้าน อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่และหมู่บ้านใกล้เคียงนับพันคนแห่มาดูสิ่งประหลาดในรั้วของบ้าน หลังหนึ่งที่มีน้ำผุดขึ้นจากดินไหลนองไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานมา ให้กับประชาชนที่ยากจนได้ใช้น้ำดังกล่าวไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และเป็นสิริมงคล เจ้าของพื้นที่ที่น้ำผุดขึ้นมา กล่าวว่าเห็นสนามหน้าบ้านผิดสังเกตตั้งแต่ในช่วงเช้าเมื่อตรวจสอบพบว่ามีน้ำ ซึมออกมาจากดิน เมื่อลองเอานิ้วเขี่ยดูน้ำยิ่งออกมากขึ้น จึงได้บอกให้ชาวบ้านมาดู ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุตนได้ฝันเห็นยายซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันบอกว่า ไม่สบายอยากได้ยาพาราเซตามอล เมื่อตนเดินไปหยิบยามาให้ ยายก็หายไปแล้ว ยายอาจมาเข้าฝันบอกเรื่องยารักษาโรค ในขณะตอนเช้าน้ำก็ผุดขึ้นมาทำให้นึกถึงฝันดังกล่าวและเชื่อว่าเป็นยารักษาโรคจึงได้เอาธูปเทียนดอกไม้มาบูชา และขอน้ำไปเก็บไว้เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ ชาวบ้านบางคนกล่าวว่าเข้าคิวรอ ตักน้ำตั้งแต่ทราบข่าวในตอนเช้ากว่าจะได้ตักน้ำก็เกือบเที่ยงโดยนำธูป เทียน-เงินถวายจำนวน 20 บาท วางใส่ในถาดดอกไม้คงเป็นบุญของชาวบ้านที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจชาวบ้านที่ อยู่ในสภาวะข้าวยากหมากแพง จึงประทานน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้รักษาโรคคนยากคนจนโดยชาวบ้านต่างรุมล้อมเพื่อ ขอตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปบ้านในขณะที่น้ำใต้ดินก็ผุดขึ้นมาตลอดเวลา ชาวบ้านที่นั่งรอน้ำผุดขึ้นมามีทั้งน้ำและฟองอากาศ เมื่อชาวบ้านร้องขอให้แสดงปาฏิหาริย์ให้ผุดฟองอากาศ บ่อน้ำขนาดเล็กก็สำแดงให้เห็นทันที เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ ในขณะที่จะเข้าไปตักน้ำปรากฏว่าน้ำที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงหยุดทันที และยุบตัวจนพื้นดินแห้ง ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที น้ำก็ผุดขึ้นมาอีกทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแพทย์ที่ไปเก็บตัวอย่าง น้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจ เมื่อไหลออกมาอีก
นายสุรินทร์ นิภาโยธิน กำนันตำบลแม่จั๊วะได้นำลูกบ้านขุดหาที่มาของน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวก็พบท่อเก่าเป็นท่อพีวีซีขนาด 6 หุน ซึ่งมีน้ำไหลออกมา เมื่อขุดตรวจสอบไปอีก จึงพบว่าเป็นท่อจากส้วมเก่าบ้านติดกันห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 4 เมตรเท่านั้น ซึ่งกำลังมีการสร้างส้วมและกำลังทำการเปลี่ยนปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำเข้าไปในส้วม เมื่อชาวบ้านทราบว่าน้ำดังกล่าวมาจากท่อในส้วมเก่าหลายคนที่ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้วถึงกับอาเจียนออกมาทันที

 

ไปคัดลอกมาให้อ่านกัน ด้วยความสะท้อนใจในระบบการศึกษาของไทย


"การเมือง เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชน์ประชาชน เป็นข้ออ้าง"

#25 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:04

แต่ไหว้ขอทานได้ผลน๊ะ..

 

ชนะทุกโพลเลย..

 

:P 



#26 คนดื่มเบียร์

คนดื่มเบียร์

    พอจะทนแดงได้หน่อยๆ

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,721 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:11

ไอ้ คนดื่มเบียร์ ปากมันมอม. ชอบใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น มันเกลียดแดง แต่ฉันจะเกลียดเหลือง ค้าน กทม.

พิ่งเห็นว่ะ ถ้าปากตูมอม ปากเอ็งนี่ มันยิ่งกว่าขยะอีก สมเพชในสติปัญญาของเอ็งมากๆ ถามจริงๆ หัวนี่ มีไว้ให้แค่ผมขึ้นเหรอ หรือว่า เอ็งเป็นคนบ้าที่มีสิทธิพิเศษ มีสิทธิที่จะให้อินเตอร์เน๊ตบำบัดความบ้าของเอ็งได้ ใครแรงมา ตูกูแรงไป ที่นี่ เสรี ตามที่เอ็งบอกไว้น่ะ ไอ้ฟาย


ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "


#27 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:15

อย่าไปว่า ชาวบ้านเลยครับ ขนาดประธานสภา สว. ยังเป็นเลย  :lol:

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่ นายนิคม และคณะส.ว.กำลังตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่นั้น ปรากฏว่าไฟในอาคารรัฐสภาก็ดับพรึบประมาณ 1 นาที สร้างความตกตะลึงให้กับบรรดาส.ว.และเจ้าหน้าที่รัฐสภาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้นายนิคมได้นำภาพนายสมัครยกมือไหว้ที่ปรากฏในห้องประชุมสภาซึ่งพรินต์ ออกจากคอมพิวเตอร์ขนาดเอสี่ ก่อนจะเปิดเผยว่าสงสัยท่านมาลาเราในช่วงที่ตนเป็นประธานที่ประชุมเพราะตนเคย เป็นลูกน้องเก่าของท่านสมัยที่เป็นรองปลัด กทม.



#28 คนดื่มเบียร์

คนดื่มเบียร์

    พอจะทนแดงได้หน่อยๆ

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,721 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:19

สมพร หายไปไหนว่ะ มาเล่นกับตูซักตั้ง


ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน