'ชวนนท์'จี้'ปู'ประท้วงเขมรให้ข้อมูลเท็จ ย้ำ "MOU43" ไม่ใช่จุดอ่อนของไทย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล แถลงเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกคำประท้วงอย่างเป็นทางการและจริงจังต่อการให้ถ้อยแถลงด้วยวาจารอบแรก ของทีมต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร ของฝ่ายกัมพูชา ที่ให้ไว้กับคณะผู้พ้พากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือ ศาลโลก เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา เพราะเป็นข้อมูลเท็จ และเจตนาสร้างภาพให้ศาลโลกเห็นว่าประเทศไทยเป็นผู้เข้าไปรุกรานและรังแก ประเทศกัมพูชาก่อน ทั้งที่ความเป็นจริงที่ผ่านมารวมถึงสมัยรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยใช้ความรุนแรง หรือ อาวุธหนักโจมตีกัมพูชาก่อน มีแต่ฝ่ายกัมพูชาเท่านั้นที่พยายามยั่วยุ สร้างให้เกิดความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยความเสียหายที่เกิดกับหมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ถือเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ากัมพูชารุกรานไทย ส่วนความเสียหายในตัวปราสาทพระวิหารตามที่ทนายฝ่ายกัมพูชาได้ให้ถ้อยแถลงกับ ศาลโลกนั้น ข้อเท็จจริงคือ มีทหารกัมพูชาได้เข้าไปในตัวปราสาทและยิงมายังฝ่ายไทย ทำให้ฝ่ายไทยต้องตอบโต้เข้าไปยังจุดดังกล่าว นอกจากนั้นในกรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลก เมื่อปี 2505 และไม่ยอมถอนกองกำลังทหาร ไทยต้องอธิบายให้เห็นว่าการปฏิบัติการใด ๆ จะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ 2 ประเทศหารือร่วมกัน และที่ผ่านมาได้มีการหารืออย่างต่อเนื่อง
"รัฐบาลไทยต้องไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ถูกบิดเบือน และต้องชี้ให้เห็นว่ากัมพูชามีเจตนาที่จะสร้างภาพว่าไทยเป็นผู้รุกรานประเทศ กัมพูชาก่อน เพราะกัมพูชาเคยมีหนังสือไปยังสหประชาชาติ เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ และรายงานสถานการณ์ความรุนแรงก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง" นายชวนนท์ แถลง
นายชวนนท์ แถลงต่อว่าประเด็นสำคัญที่ทนายฝ่ายกัมพูชาระบุถึง คือ แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน หรือแผนที่ภาคผนวก 1 ที่ศาลโลกได้ให้การรับรอง ตั้งแต่ปี 2505 ผ่านคำตัดสิน ซึ่งไทยไม่ยอมรับในแผนที่ดังกล่าว แต่ได้ยกบันทึกความเข้าใจ ระหว่างไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก 2543 หรือเอ็มโอยู43 มาอ้างและเสมือนว่าเป็นสิ่งที่ได้ให้การยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2แสน ถือเป็นการยกข้อมูลมาหักล้างอย่างไม่ตรงข้อเท็จจริง เพราะการจัดทำหลักเขตแดนดังกล่าวเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่าการจัดทำเขต แดนระหว่างไทย-กัมพูชา ยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นศาลโลกไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ อีกทั้งการทำเอ็มโอยู 43 ได้ยึดแนวสันปันน้ำไม่ใช่แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน
"เอ็มโอยู 43 ถือเป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดี ผมขอให้ฝ่ายไทยยืนยัน เพราะจะเป็นหลักฐานสำคัญที่จะใช้ต่อสู้ได้ ทั้งนี้การให้ถ้อยแถลงของฝ่ายกัมพูชาในประเด็นแผนที่ ทนายกัมพูชาเลี่ยงที่จะพูดถึงสันปันน้ำ เพราะถือเป็นจุดอ่อนของเขา ในการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารครั้งนี้" นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ ได้เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ประกาศให้ชัดเจนว่าจะยอมรับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็น มรดกโลกของกัมพูชาแต่ฝ่ายเดียวหรือไม่ เพราะตนมองว่าหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าคัดค้าน และขอให้ยูเนสโกทบทวน จะทำให้เป็นประโยชน์กับฝ่ายไทยในการต่อสู้คดี แต่หากนายกฯ ไม่มีการประกาศคัดค้าน ตนขอให้พิจารณาถึงความเหมาะสมในการเป็นผู้นำทีมต่อสู้คดี
http://www.komchadlu...ml#.UW1mZEqWeaJ