ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ตำรวจ สภ.ดอยสะเก็ดรวบตัวอดีตกำนันในพื้นที่ หลังเตรียมเงิน 6 หมื่นเตรียมใช้ซื้อเสียงในเขตพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด พบเข้าสำนักงานผู้สมัครก่อนหอบเงินเข้าพื้นที่พร้อมโพยเตรียมแจกจ่ายแต่ถูกจับได้ก่อน เผยจ่ายชาวบ้านสุดถูกแค่รายละ 100 ส่วนตำรวจ-กกต.อุบเงียบไม่ยอมให้ข้อมูล อ้างหวั่นกระทบการเลือกตั้ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอยสะเก็ด นำตัวนายวิโรจน์ เจริญทรัพย์ อายุ 76 ปี อดีตกำนัน ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หัวคะแนนของผู้สมัครรัลเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต 3 ของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง มาสอบสวนที่ สภ.ดอยสะเก็ดในช่วงเย็นวันนี้ (19 เม.ย. 2556) หลังจากสามารถจับกุมนายวิโรจน์พร้อมโพยรายชื่อและเงินสดจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายวิโรจน์เตรียมที่จะนำไปซื้อเสียงในพื้นที่บ้านโป่งกุ่ม หมู่ที่ 4 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำควบคุมตัวนายวิโรจน์มาสอบสวนเบื้องต้นที่ตู้ยามบ้านโป่งดิน อ.ดอยสะเก็ด อย่างไรก็ตามเมื่อมีสื่อมวลชนจนวนหนึ่งทราบข่าวและเดินทางมาทำข่าวที่จุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งนำโดย พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผู้กำกับการ สภ.ดอยสะเก็ด จึงได้นำตัวนายวิโรจน์มาสืบสวนต่อที่ สภ.ดอยสะเก็ด โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต.ร่วมทำการสืบสวนด้วย และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพหรือสอบถามรายละเอียดแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งข้อมูลจากประชาชนว่า นายวิโรจน์ซึ่งเป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัครจากพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งมีพฤติกรรมซื้อเสียงในการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 เม.ย.ที่จะถึงนี้ จึงได้ทำการติดตามตรวจสอบพฤติกรรม จนทราบว่าในวันนี้นายวิโรจน์จะนำเงินไปมอบให้กับประชาชนที่ได้มีการนัดหมายกันไว้
จากนั้นจึงได้ติดตามนายวิโรจน์ ซึ่งได้เดินทางไปยังสำนักงานผู้สมัครรับเลือกตั้งที่อยู่ในเขตบ้านแม่คือ ต.แม่คือ อ.ดอยสะเก็ด ก่อนจะเดินทางต่อไปยังพื้นที่บ้านโป่งกุ่ม และในพื้นทีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัวนายวิโรจน์พร้อมกับของกลางซึ่งประกอบด้วยเงินสดจำนวนประมาณ 60,000 บาท และรายชื่อประชาชนในพื้นที่ จำนวนประมาณ 1,000 รายชื่อเอาไว้ได้
ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่านายวิโรจน์เป็นหัวคะแนนของพรรคการเมืองหนึ่ง ที่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันกับพรรคการเมืองซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ส่วนเงินสดที่นายวิโรจน์เตรียมที่จะนำมาซื้อเสียงในการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นนั้น จะมอบเงินให้ประชาชนรายละ 100 บาท ขณะที่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จาก กกต. ต่างปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการจับกุมดังกล่าว โดยระบุว่าการเลือกตั้งยังไม่เสร็จสิ้น หากเปิดเผยข้อมูลบางส่วนออกไปจะส่งผลต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นได้
