อดีต อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา "ท้า ศาลรธน" ให้ฟ้อง!!
#1
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:07
#3
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:13
ขอแยกวง'แดงอำมาตย์' ฟื้น'นปก.'ย้อนทิ่มแทงปู เพ้อเจ้อ'อำนาจเหนือรัฐ' 'พท.'แขยงแดง-ส.ส.โง่
งานนี้"หัวหอก..ลูกหาบ...ขี้ข้านักโทษ"ดาหน้าออกมาโจมตีศาลรัฐธรรมนูญตามคาด กับข้อหาเดิมๆ..แทรกแซง"อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ"
"มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ" ที่ปรึกษากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อดีตส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กลับมาชำแหละผ่าน "บทสัมภาษณ์พิเศษไทยอินไซเดอร์" สัปดาห์นี้ แบบสุดแสบถึงทรวงอีกครั้ง
งานนี้นอกจากจะตอกย้ำถึงคำพูดเดิมๆ.."รัฐธรรมนูญโจร".."ศาลเถื่อน"..แล้ว!!! อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาผู้นี้ ยังย้อนศรด่ากราดถึงคนเคยรักกันอย่างแสบสัน ไล่เรียงตั้งแต่ "บิ๊กเพื่อไทย-ส.ส.เพื่อไทย" จนไปถึง"แกนนำเสื้อแดง" คนที่เคยร่วมหัวจมท้ายขึ้นเวทีด้วยกันมาก่อน
ถึงขนาดประกาศตัว ขอแยกวง"นปช." กลับเป็นตั้งก๊ก"นปก."ตามเดิม แยกชัด "แดงอำมาตย์-แดงบริสุทธิ์" พร้อมขอนำทีมขับไล่"รัฐบาลน้องปู"ด้วยตัวเอง หากยังทำตัวเป็น"ทองไม่รู้ร้อน" ก้มหน้าใช้"รัฐธรรมนูญโจร"..ทอดทิ้ง"เสื้อแดง"อดอยากปากแห้งตายคาคุก
Q : ท่าทีของรัฐบาลที่ออกมาแบบนี้ เป็นการสะท้อนว่าที่ผ่านมาแค่ต้องการหลอกใช้เสื้อแดงให้ได้มาซึ่งอำนาจใช่หรือไม่?
A : อาจารย์กำลังมองว่า "พรรคเพื่อไทย" ไม่ได้สนใจคนเสื้อแดงหรอก มีหลายคนที่เป็นผู้บริหารพรรค เขารังเกียจคนเสื้อแดง เขากลัวว่าจะไปทำให้พรรคเขาเสีย เท่ากับเสื้อแดงนี่หลงตัวเอง ขวางทาง คนเสื้อแดงที่ถูกจับไปในรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ก็ดี รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ดี เขาถูกจับโดยรัฐธรรมนูญของพล.อ.สนธิใช่มั๊ย แล้วที่เขาถูกจับเพราะเขาถูกปล้นอำนาจแล้วเขาออกมาต่อต้าน เรียกร้องให้คืนอำนาจอธิปไตยให้เขาใช่มั๊ย แล้วตอนจับเขาไปขังใช้อำนาจของพล.อ.สนธิ ไม่ใช่อำนาจของปวงชนใช่มั๊ย ถูกขังอยู่ทุกวันนี้ ถูกขังโดยมิชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญของประชาชน คุณเป็นรัฐบาลคุณยกเลิกรัฐธรรมนูญของพล.อ.สนธิ คนเสื้อแดงที่อยู่ในศาลทุกคน ศาลต้องปล่อย เห็นมั๊ยพูดจนปากจะฉีก ไอ้ผู้บริหารของพรรคที่มีอำนาจไม่รู้เรื่อง เท่ากับ"ต้มประชาชนคนเสื้อแดง"หรือเปล่า
Q : ความหวังการออก"กฎหมายนิรโทษกรรม"จึงริบหรี่ลงไปด้วย?
A : นิรโทษกรรมต้องมีโทษเสียก่อนใช่มั๊ย "นิรโทษ" แปลว่า "ไม่มีโทษ" แล้วคนเสื้อแดงเขามีโทษอะไร เขาถูกโจรจับหาว่าเป็นโจร แล้วไปยกโทษอะไรให้เขา แล้วคนไหนยอมให้เขายกโทษให้ ประวัติชีวิตของคุณเป็น "ประวัติอาชญากร" เพราะเป็นโจรที่เขายกโทษให้ คุณยอมเหรอ มันต่างกันมั๊ยครับ ชาวบ้านเขาไม่รู้ ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยเนี่ย อย่าไปหลอกชาวบ้าน ใครเห็นต่างก็นัดอาจารย์มานิตย์ไปออกทีวีให้ประชาชนทั้งประเทศฟังกันมั๊ยละ
Q : "แกนนำเสื้อแดง"ไม่ทราบในข้อมูลอย่างที่อาจารย์นำเสนอหรือ?
A : ต้องไปถามเขาดูสิครับ เขาคงจะไม่รู้มั้ง อย่าง "ไอ้จตุพร (พรหมพันธุ์)" ยอมให้ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ให้พ้นตำแหน่งส.ส. "กกต." ที่พล.อ.สนธิตั้งให้พ้นตำแหน่งก็ยอม อาจารย์ก็พยายามจะบอก ก็ไม่เชื่อ ไม่ฟัง แล้วจะไปขอแก้ ขอแก้ คุณรู้มั๊ย "แก้ไข" แปลว่าอะไร "ยกเลิก" แปลว่าอะไร คุณไม่รู้ "ภาษากฎหมาย" กันเลย ภาษากฎหมายเขาบัญญัติไว้โดยเฉพาะ แล้วมีกฎหมายราชบัณฑิตยสถานรับรองด้วย
Q : คนที่คุมรัฐบาลชุดนี้ได้คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สิ่งที่อาจารย์เสนอแนะจะบังเกิดผลได้จำเป็นต้องให้พ.ต.ท.ทักษิณสั่งการรัฐบาลนี้ทำใช่หรือไม่?
A : ผมไม่ทราบว่าใครจะสั่งใครได้-ไม่ได้ อาจารย์ไม่เข้าพรรค ไม่ไปประชุมพรรคแล้ว เพราะเราปรารถนาดี อธิบายเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งโดยพยัญชนะ สระ พิสูจน์อักษรได้ทุกตัว แล้วก็ท้าให้ใครต่อใครฟ้อง ท้าให้พรรคประชาธิปัตย์ฟ้อง ก็ไม่เห็นมีใครฟ้อง แล้วทำไมไม่ฟ้อง เฮ้ย...คุณกำลังทำอะไรกันอยู่..รัฐบาล รวมทั้งส.ส.เพื่อไทยด้วย คุณอ่านกฎหมายเป็น คุณอ่านกฎหมายออกมั๊ย ถ้าอ่านออกก็ถือว่าหลอกประชาชนนะ
Q : เสื้อแดงควรมีแอคชั่นอะไรหรือไม่?
A : ใช่ครับ อาจารย์กำลังคิดว่าจะกลับไปเป็น "นปก." อย่างเก่า แล้วบอกว่าเราต้องออกมาต่อต้านอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน รัฐบาลใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ของพล.อ.สนธิบริหารประเทศไม่ชอบ ให้รีบกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 หากไม่รีบกลับไปจะต่อต้านรัฐบาลนี้เองเลย เพราะว่าไม่ช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ถูกขังอยู่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของประชาชน
"ตอนนี้กำลังคิดอยู่ที่จะกลับไปเป็นนปก. เพราะว่าอาจารย์เป็นประธานนปก. แล้วใครมาปลดอาจารย์ได้มั๊ย อาจารย์ประกาศฟื้นแล้ว ใครจะร่วมมือกันช่วยเหลือคนที่เขาตายกว่า 100 ศพ และคนบาดเจ็บให้เขาได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ก็กลับมารณรงค์ กลับมาอยู่กับนปก. มาเป็น "แดงบริสุทธิ์" แล้วก็มาจัดการกับคนที่ไปใช้รัฐธรรมนูญของผู้อื่น ไม่ใช้รัฐธรรมนูญของประชาชน ดูซิ"พรรคเพื่อไทย"จะอยู่ได้มั๊ย"
Q : เสื้อแดงตอนนี้ไม่เป็นเอกภาพ แตกออกเป็นหลายกลุ่มใช่หรือไม่?
A : มันไม่แตก คนเสื้อแดงเป็นคนที่รักประชาธิปไตย รักอำนาจอธิปไตยของเขา เรื่องนี้ไม่มีขัดกันเลยคนเสื้อแดงทุกคนเหมือนกันหมด แต่วิธีการที่จะออกไปต่อสู้เพื่อให้ได้อำนาจอธิปไตยกลับมาต่างกัน บางคนดันไปยอมรับรัฐธรรมนูญของพล.อ.สนธิ อย่างนี้ถือว่าแดงอะไร "แดงอำมาตย์" หรือเปล่า อ้าวไหนๆพูดแล้วก็พูด อาจารย์ไม่ได้อยากเป็นอะไร แล้วไม่ได้ไปขอเงินใครด้วย แต่ต้องการความถูกต้องในฐานะนักกฎหมาย อยู่กับศาลมาตั้ง 40กว่าปี ไอ้ถ้อยคำต่างๆเนี่ยอาจารย์ตีแตกหมด
"ถ้าไม่จัดการเลิกรัฐธรรมนูญ2550 ไอ้พวกต่อ-แตน-ตะขาบ-แมงป่อง คือ กกต.-ป.ป.ช.-คตส.พวกนี้ เพราะเขามาจากรัฐธรรมนูญของพล.อ.สนธิ ก็จ้องงับอยู่ตลอด ถ้าไม่รีบเลิกมันก่อน มันสั่งยุบ เดี๋ยวบอกยิ่งลักษณ์ผิด ใครต่อใครผิดหมด สั่งยุบเกลี้ยงเลย แล้วถ้าไม่เชื่ออาจารย์ให้เขายุบหมดซะก็สมน้ำหน้า"
Q : ถ้ามียุบพรรคเกิดขึ้นจริง คนเสื้อแดงก็อาจจะออกมาปกป้องอีกใช่หรือไม่?
A : ก็อาจจะไม่ปกป้อง เพราะว่าเอาไว้ก็ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับคนเสื้อแดง ก็อาจจะมีคนไปตั้ง "พรรคใหม่"แล้วขอให้เขาใช้นโยบายอย่างนี้ๆ เราก็ไปสนับสนุนพรรคที่เขาดูแลคนที่ถูกรังแกโดนคณะปฏิวัติไม่ดีกว่าเหรอ พูดให้ฟังอย่างนี้ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้อยากเป็นอะไร อยากให้ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจ รวมทั้งส.ส.พรรคเพื่อไทยกลับไปคิด แล้วอย่าลืมว่าอาจารย์มานิตย์รวม(คน)ได้นะ..เชื่อมั๊ย
Edited by Et tu Brute?, 26 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:19.
- Rxxxx likes this
It's us against the world
#5
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:15
ไม่ได้แยกวงครับ แค่แยกกันตี เพราะถ้าใช้แนวทางของอาจารย์ พรรคเพื่อไทย คงได้สนุกสนามกันละ
อาจารย์เลยต้องไปหนุนพวกนอกกรอบ แทน
#7
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:10
อ่านหัวกระทู้ ..นึกว่าใคร
ที่แท้ก็ควายแดงเหมือนกัน
- Rxxxx and อู๋ ฮานามิ like this
#9
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:56
ขออนุญาตแนะนำครับ มานิตย์ จิตจันทร์กลับ :เป็นอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และอดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา
ที่ถูกไล่ออกพร้อมกับ นายประมาณ ชันซื่อ, นายสุวรรณ วลัยเสถียร, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ ฯลฯ
ในกรณีวิกฤตตุลาการ ปี 2535 ( นายมานิตย์เป็น "มือขวา" ของประมาณ ซันซื่อ )ต่อมาได้รับการอภัยโทษและกลับเข้ารับราชการ
หลังจากเกษียณอายุแล้ว ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาพิเศษ ซึ่งช่วงเวลานี้พรรคไทยรักไทย "เช่าซื้อ" ตัวไปเป็นที่ปรึกษากฎหมาย
โดยแกเรียกค่าตอบแทนเท่าเงินที่จะได้จากเงินเดือนตามเวลาที่เหลือ + เอ็กซ์ตร้าชาร์จ ( รายเดือน - จากพรรค ทรท. ) ไปพร้อม ๆ กับที่ยังคง
"รับจ๊อบ" เป็นตุลาการ ( ผู้พิพากษาพิเศษ ) เช่นเดิม โดยระหว่างนั้นก็หมั่น ออกหน้ากระทำการด่าศาล เพื่อให้เห็นว่าศาลแตกแยก
และพระราชดำรัส ฯ ถูกทำให้ผิดเพี้ยน ( กรณีตัดสิน กกต.สามหนาห้าห่วง )
Edited by อาวุโสโอเค, 26 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:58.
- Rxxxx, Bourne, lagrangian and 2 others like this
#12
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:58
จาก http://www.bloggang....group=2&gblog=3
วันนี้จะแสดงธรรมเกี่ยวกับเรื่องกรรม ที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้อ 1. ที่ว่าผู้มืดมามืดไป คือคนทั้งหลายเหล่าใดเกิดมาเป็นชายก็ตามหญิงก็ตาม
เปรียบเทียบไว้เป็นบุคคล 4 ประเภทในโลกนี้ ซึ่งในพระบาลีมีแสดงไว้ว่า
"ตโม ตมปรายโน" ผู้มืดมามืดไป อย่างหนึ่ง
"ตโม โชติปรายโน" ผู้มืดมาสว่างไปอย่างหนึ่ง
"โชติ ตมปรายโน" ผู้สว่างมามืดไปอย่างหนึ่ง
"โชติ โชติปรายโน" ผู้สว่างมาสว่างไปอย่างหนึ่ง
ทั้ง 4 ประเภท เปรียบเทียบคนเราทั้งหมดจะเป็นหญิงก็ตาม
ชายก็ตาม เกิดมาแล้วในโลกมีลักษณะเป็น 4 ประการ
อยู่ในสกุลใดก็ตามแต่เกิดมาแล้วไม่ได้มีความคิดอ่านดำริชอบที่เป็นกุศล มีแต่ความดำริคิดอ่าน
สิ่งที่เป็นอกุศล ตั้งแต่ต้นในชีวิตและบั้นปลายในที่สุดเช่นว่า ตั้งแต่เป็นเด็กๆชอบเกเร
ไม่เชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ให้ประพฤติดีก็ไม่ทำ ให้เล่าเรียนศึกษาอบรมก็ไม่ทำ
เอาแต่ตามใจของตนจนตลอดชีวิตอย่างนี้ โดยไม่กลับเนื้อกลับตัว แม้มีอายุมากแล้ว
ก็ยังไม่กลับเนื้อกลับตัวประพฤติตนอยู่อย่างนั้น หาความราบรื่นอะไรในชีวิตที่เป็นธรรมไม่ได้
ครั้นสิ้นชีพไปแล้วก็ไปสู่อบายภูมิอันนี้ท่านเรียกว่า "ผู้มืดมามืดไป" คือในชีวิตไม่มีสว่างเป็นกุศลเลย
ไม่มีสว่างแห่งความดีเลยหรือความดีที่มีแสงสว่างอยู่บ้างไม่สามารถกระจายความมืดแห่งอกุศลได้ในชีวิตนี้
ท่านเปรียบไว้กับบุคคลอย่างนี้ว่า "ต้นก็คด ปลายก็คด " ในชีวิตหาความดีไม่ได้
มีต่อ
Making you happy is not my priority! - Michael Yon
#13
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 00:00
ประการที่ 2 "โชติ ตมปรายโน" ผู้ที่สว่างมาและมืดไป บุคคลบางคนที่เกิดมาแล้ว
ได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูจากสิ่งแวดล้อมดีหรือดีพอสมควรและมีความดำริคิดอ่านเบื้องต้นมีความประพฤติดี
ตามคลองธรรม มีจิตใจเป็นกุศล แต่บั้นปลายแห่งชีวิตทิ้งกุศลไปประพฤติในอกุศล คือละบุญไปบำเพ็ญบาป
ครั้นสิ้นชีพแล้ว จิตใจก็เศร้าหมองสู่อบายภูมิ นี้เรียกว่า "สว่างมามืดไป" ชายก็ตาม หญิงก็ตาม
เกิดในสกุลใดๆก็ตาม ไม่เลือกชั้นไม่ว่าวรรณะใดๆเกิดมาแล้วได้รับความอุปถัมภ์ค้ำชูได้รับการอบรม
ได้รับการศึกษาเล่าเรียนดี อย่างน้อยก็พอสมควร มีความประพฤติดีในปฐมวัยเบื้องต้น
แต่ในวัยสุดท้ายประพฤติตรงกันข้าม คือสิ่งที่เคยน่าเชื่อถือมากลับไม่น่าเชื่อถือ
ประพฤติเหลวไหลไม่ชอบด้วยคลองธรรมไม่กลัวบาปไม่กลัวโทษเหล่านี้เป็นต้น
ครั้นสิ้นชีพไปแล้วด้วยเหตุแห่งอกุศลเศร้าหมองนั้น จึงพาไปสู่อบายภูมิ
จึงเรียกผู้นี้ว่า "ผู้สว่างมามืดไป"
หรือ "ต้นตรงปลายคด" ต้นไม้มีไม้ไผ่เป็นต้น เมื่อมันผลิขึ้นมาแล้วลำต้นมันอ้วนล่ำตรงดี
แต่ตอนปลายกลับคดด้วยถูกแมลงด้วงกัดก็ตามคดเองก็ตาม ซึ่งก็ไม่เป็นที่นิยม คนก็เช่นเดียวกัน
ประพฤติอกุศลในวัยบั้นปลายในชีวิตของตน เป็นเหตุให้เกิดความเศร้าหมองติดตัวไปจึงไปสู่ ทุคติอยายภูมิ
มีต่อ
Making you happy is not my priority! - Michael Yon
#14
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 00:00
ประการที่ 3 "ตโม โชติปรายโน" ผู้มืดมาแต่สว่างไป ชีวิตของบุคคลชายก็ตามหญิงก็ตาม
ส่วนประการที่ 4 "โชติ โชติปรายโน" ผู้ที่สว่างมาสว่างไป บุคคลนี้กล่าวโดยสั้นๆก็คือ
บางคนในโลกนี้เกิดมาแล้วเป็นต้นว่า ได้รับความทุกข์ยากลำบาก หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อม
ด้วยความไม่ผ่องใสด้วยประการต่างๆแต่เมื่อมีชีวิตเติบโตขึ้นได้รับการศึกษาพอสมควร
หรือได้รับคำแนะนำพร่ำสอน หรือได้เห็นสิ่งที่ดีงามก็กลับไปนึกคิดและพิจารณา
กลับตนเสียใหม่จากมืดให้เป็นสว่าง หมั่นประกอบคุณงามความดีที่ยังไม่มี ให้มีขึ้น
กุศลเจตนาใดๆที่มีอยู่แล้วเพราะเพิ่มเสริมสร้างให้มากแข็งแกร่งยิ่งขึ้่น บริบูรณ์ยิ่งขึ้น สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
จนเกิดความร่มเย็นเป็นสุขในบั้นปลายในชีวิตของตน ได้รับความผาสุกด้วยประการต่างๆ
ครั้นเมื่อสิ้นชีพไปแล้วก็ไปสู่สุคติ ซึ่งท่านเปรียบเทียบบุคคลเช่นนี้ไว้ว่า "ต้นคดแต่ปลายตรง"
เรียกว่าในชีวิตนี้เกิดมาใช้ได้ไม่เสียที
ผู้มีบุญญาธิการถึงแม้เกิดมาแล้วจะมีภาวะอย่างไร ครอบครัวจะตกอยู่ในสภาวะยากจนอย่างไร
แต่ก็ไม่ท้อถอย มีสติปัญญา มีมานะอุตสาหะรู้จักประมาณในสิ่งต่างๆได้ดี ทำให้ชีวิตของตน
ได้รับความราบรื่นร่มเย็นเป็นสุข มีแก่นสารในชีวิตบั้นปลาย ทั้งในฐานะและในคุณธรรม
สร้างสมคุณงามความดีให้เป็นประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมเป็นต้น บุคคลเช่นนี้ ชื่อว่าหายากที่สุด
ได้นามว่า "โชติ โชติปรายโน"หรือต้นก็ตรงปลายก็ตรง
มีต่อ
Making you happy is not my priority! - Michael Yon
#15
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 00:04
----------------------------------------------------
----------------------------------------------------
เพราะฉะนั้นควรทำความดีให้เกิดมีขึ้น มีสุภาษิตบทหนึ่งว่า "ยสยาโลกวตฺถโน"
พระพุทธเจ้าทรงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ในโลก ทรงบัญญัติ แสดงธรรม
เกิดมาแล้วควรทำแต่ความดี แปลอย่างนี้ก็ได้ เกิดมาแล้วอย่าเป็นคนรกโลกก็ได้
คำว่ารก เช่นป่าเป็นต้นก็ดี มันรกแล้วไม่มีพิษไม่มีภัยย่อมเป็นที่อาศัยของสรรพสัตว์
และยังทำให้ธรรมชาติเกิดความอุดมสมบูรณ์แผ่นดินชุ่มชื้น หรือเมื่อมนุษย์ปรารถนาจะถากจะถาง
จะโค่นจะฟันก็ยังนำสิ่งเหล่าน้้นไปเป็นประโยชน์ อย่างน้อยเผาขึ้นแล้วก็เป็นปุ๋ยให้มีคุณประโยชน์บ้าง
แต่ถ้าเกิดมาแล้วเป็นคนรกโลก ก็ย่อม ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน ความรกของมนุษย์จึงไม่มีประโยชน์เลย
เพราะเกิดขึ้นมาแล้วเป็นคนรกนั้นทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน ทำให้คนที่เขาจะได้ความสุขกลับได้ความทุกข์
ทำให้คนที่เขาจะกระทำความดีย่อมให้เขาทำความไม่ดี ทำให้อำนาจแห่งความดีเสียไป
ทำให้ความสดชื่นเป็นความอับเฉา ทำให้ความดีเป็นความไม่ดี เพราะฉะนั้นเมื่อบุคคลเหล่านี้
เกิดขึ้นมามากเพียงใด โลกคือหมู่สัตว์ก็ยิ่งรกมากขึ้นเพียงนั้น โลกที่รกและมืดย่อมเป็นอันตราย
คือย่อมประหัตถ์ประหารล้างผลาญซึ่งกันและกัน ส่วนป่ารกย่อมมีคุณมีประโยชน์แม้แก่สรรพสัตว์
เพราะฉะนั้นเกิดมาแล้วจึงควรทำความดีให้เกิดมีขึ้น คือบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา
แสดงหนทางแห่งความดี ทางใดที่เป็นทางบาป เช่น โลภะ โทสะ โมหะ
ก็ทรงแสดงให้เห็นให้รู้ให้เข้าใจ ทางใดที่เป็นทางดีคือ ทาน ศีล ภาวนา เป็นหนทางที่ไปสู่สวรรค์
เป็นหนทางที่ไปสู่สุคติ เป็นหนทางที่ให้บุคคลสมความปรารถนา พระองค์ก็ทรงแสดงไว้
เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้ตามสภาวะธรรมที่เป็นจริง จึงควรไตร่ตรองพิจารณาให้รอบคอบ
การทำความดีย่อมยังความสุขให้แก่ตนและผู้อื่นและแก่โลก โลกจะไม่ลืมผู้นั้น
แม้ล่วงลับดับชีพดับขันธ์ไปแล้วก็ตาม แต่ความดีไม่ดับ ความดีไม่เสื่อม ความดีไม่เน่า
ความดีไม่สลาย ความดีตั้งอยู่ในฐานะแห่งความมั่นคง ไม่สูญสลายไปจากโลก
ดังมีพุทธภาษิตว่า " รูปํ ชีวติ มจฺจานํ นามโคตฺตํ นชีวติ" รูปร่างสรีระร่างกายแตกสลายไปได้
แต่ความดียังคงไว้ เพราะฉะนั้นความดีชื่อว่าเป็นแก่นสารในชีวิตของเรา ถ้าทำความดี
ก็ชื่อว่าให้แก่นสารแก่ในชีวิต สรีระร่างกายของเรา มีธาตุ 4 ดิน น้ำ ไฟ ลม
มีกระดูก มีเนื้อ มีเลือด มีเอ็น เหมือนกันด้วยกันทุกๆคน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สาระแก่นสารของชีวิตที่แท้จริง
เป็นแต่เพียงเครื่องอาศัยในความเป็นไปแห่งชีวิตของตน สารแก่นสารที่มั่นคงคือความดี
ได้แก่คุณธรรม มีทาน ศีล ภาวนา อันเป็นหนทางอันประเสริฐที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้
เพราะฉะน้้น ความดีเป็นความหมายที่กว้างควรสั่งสมให้เกิดมีขึ้น เมื่อสร้างความดีให้เกิดมีขึ้น
ถึงแม้เราจะไม่ปรารถนาได้รับผลดีก็ต้องได้ดี ไม่ปรารถนาสุคติ ก็ต้องได้สุคติ เพราะเหตุแห่งความดีด้วยประการฉะนี้
มีต่อ
Making you happy is not my priority! - Michael Yon
#16
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 00:08
เปลี่ยนใจไม่ quote มาละ
อยากเชิญชวนให้ไปอ่านต่อค่ะ
<< กรรม 4 อย่าง >><<บุคคล 4 ประเภท>>
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=poungchompoo&date=16-03-2012&group=2&gblog=3
Making you happy is not my priority! - Michael Yon
#17
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 00:12
ก็คงพอจะเข้าใจได้ไม่ยาก ว่า
หมานิด หมาน้อย จัดอยู่ในประเภทใด
Making you happy is not my priority! - Michael Yon
#18
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 00:43
เอ...... ผมยังสงสัย ตรงที่บอกว่า
".........อย่างที่อ.มานิตย์พูดมาเป็นลำดับ ว่ารัฐธรรมนูญ 2550 มันเป็นของพล.อ.สนธิ เป็น "รัฐธรรมนูญปลอม" จะเอามาใช้กับประชาชนไม่ได้ จึงต้องยกเลิกและกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ของประชาชน แล้วถามว่ารัฐธรรมนูญ 2540 รัฐสภายกเลิกหรือยัง.."
ถ้ายังงั้น การเลือกตั้งใหญ่ครั้งล่าสุดนี่ ต้องต้องยกเลิกด้วยซิ ถือเป็นโมฆะ สส.ทั้งหลายต้องคืนเงินเดือน และ งบอะไรที่จ่ายไป ก็ต้องหาเงินมาคืนด้วย เพราะบอกว่า "รัฐธรรมนูญปี 50 เป็นรัฐธรรมนูญปลอม" สส.ทั้งหลาย ก็ต้องกลายเป็น สส. ปลอม
#20
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 01:25
เอ...... ผมยังสงสัย ตรงที่บอกว่า
".........อย่างที่อ.มานิตย์พูดมาเป็นลำดับ ว่ารัฐธรรมนูญ 2550 มันเป็นของพล.อ.สนธิ เป็น "รัฐธรรมนูญปลอม" จะเอามาใช้กับประชาชนไม่ได้ จึงต้องยกเลิกและกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ของประชาชน แล้วถามว่ารัฐธรรมนูญ 2540 รัฐสภายกเลิกหรือยัง.."
ถ้ายังงั้น การเลือกตั้งใหญ่ครั้งล่าสุดนี่ ต้องต้องยกเลิกด้วยซิ ถือเป็นโมฆะ สส.ทั้งหลายต้องคืนเงินเดือน และ งบอะไรที่จ่ายไป ก็ต้องหาเงินมาคืนด้วย เพราะบอกว่า "รัฐธรรมนูญปี 50 เป็นรัฐธรรมนูญปลอม" สส.ทั้งหลาย ก็ต้องกลายเป็น สส. ปลอม
อันไหนได้ประโยชน์ถือว่าจริง จบมะ
- Rxxxx likes this
ถ้าแยกเสียงส่วนใหญ่ กับความถูกต้องไม่ออก ก็อย่ามาอ้างว่ามาจากประชาธิปไตยเลย
#21
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:52
สรุป
ขอแยกวง'แดงอำมาตย์' ฟื้น'นปก.'ย้อนทิ่มแทงปู เพ้อเจ้อ'อำนาจเหนือรัฐ' 'พท.'แขยงแดง-ส.ส.โง่
งานนี้"หัวหอก..ลูกหาบ...ขี้ข้านักโทษ"ดาหน้าออกมาโจมตีศาลรัฐธรรมนูญตามคาด กับข้อหาเดิมๆ..แทรกแซง"อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ"
"มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ" ที่ปรึกษากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อดีตส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กลับมาชำแหละผ่าน "บทสัมภาษณ์พิเศษไทยอินไซเดอร์" สัปดาห์นี้ แบบสุดแสบถึงทรวงอีกครั้ง
งานนี้นอกจากจะตอกย้ำถึงคำพูดเดิมๆ.."รัฐธรรมนูญโจร".."ศาลเถื่อน"..แล้ว!!! อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาผู้นี้ ยังย้อนศรด่ากราดถึงคนเคยรักกันอย่างแสบสัน ไล่เรียงตั้งแต่ "บิ๊กเพื่อไทย-ส.ส.เพื่อไทย" จนไปถึง"แกนนำเสื้อแดง" คนที่เคยร่วมหัวจมท้ายขึ้นเวทีด้วยกันมาก่อน
ถึงขนาดประกาศตัว ขอแยกวง"นปช." กลับเป็นตั้งก๊ก"นปก."ตามเดิม แยกชัด "แดงอำมาตย์-แดงบริสุทธิ์" พร้อมขอนำทีมขับไล่"รัฐบาลน้องปู"ด้วยตัวเอง หากยังทำตัวเป็น"ทองไม่รู้ร้อน" ก้มหน้าใช้"รัฐธรรมนูญโจร"..ทอดทิ้ง"เสื้อแดง"อดอยากปากแห้งตายคาคุก
pan style="font-size: 8px;">Q : ท่าทีของรัฐบาลที่ออกมาแบบนี้ เป็นการสะท้อนว่าที่ผ่านมาแค่ต้องการหลอกใช้เสื้อแดงให้ได้มาซึ่งอำนาจใช่หรือไม่?
A : อาจารย์กำลังมองว่า "พรรคเพื่อไทย" ไม่ได้สนใจคนเสื้อแดงหรอก มีหลายคนที่เป็นผู้บริหารพรรค เขารังเกียจคนเสื้อแดง เขากลัวว่าจะไปทำให้พรรคเขาเสีย เท่ากับเสื้อแดงนี่หลงตัวเอง ขวางทาง คนเสื้อแดงที่ถูกจับไปในรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ก็ดี รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ดี เขาถูกจับโดยรัฐธรรมนูญของพล.อ.สนธิใช่มั๊ย แล้วที่เขาถูกจับเพราะเขาถูกปล้นอำนาจแล้วเขาออกมาต่อต้าน เรียกร้องให้คืนอำนาจอธิปไตยให้เขาใช่มั๊ย แล้วตอนจับเขาไปขังใช้อำนาจของพล.อ.สนธิ ไม่ใช่อำนาจของปวงชนใช่มั๊ย ถูกขังอยู่ทุกวันนี้ ถูกขังโดยมิชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญของประชาชน คุณเป็นรัฐบาลคุณยกเลิกรัฐธรรมนูญของพล.อ.สนธิ คนเสื้อแดงที่อยู่ในศาลทุกคน ศาลต้องปล่อย เห็นมั๊ยพูดจนปากจะฉีก ไอ้ผู้บริหารของพรรคที่มีอำนาจไม่รู้เรื่อง เท่ากับ"ต้มประชาชนคนเสื้อแดง"หรือเปล่า
Q : ความหวังการออก"กฎหมายนิรโทษกรรม"จึงริบหรี่ลงไปด้วย?
A : นิรโทษกรรมต้องมีโทษเสียก่อนใช่มั๊ย "นิรโทษ" แปลว่า "ไม่มีโทษ" แล้วคนเสื้อแดงเขามีโทษอะไร เขาถูกโจรจับหาว่าเป็นโจร แล้วไปยกโทษอะไรให้เขา แล้วคนไหนยอมให้เขายกโทษให้ ประวัติชีวิตของคุณเป็น "ประวัติอาชญากร" เพราะเป็นโจรที่เขายกโทษให้ คุณยอมเหรอ มันต่างกันมั๊ยครับ ชาวบ้านเขาไม่รู้ ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยเนี่ย อย่าไปหลอกชาวบ้าน ใครเห็นต่างก็นัดอาจารย์มานิตย์ไปออกทีวีให้ประชาชนทั้งประเทศฟังกันมั๊ยละ
Q : "แกนนำเสื้อแดง"ไม่ทราบในข้อมูลอย่างที่อาจารย์นำเสนอหรือ?
A : ต้องไปถามเขาดูสิครับ เขาคงจะไม่รู้มั้ง อย่าง "ไอ้จตุพร (พรหมพันธุ์)" ยอมให้ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ให้พ้นตำแหน่งส.ส. "กกต." ที่พล.อ.สนธิตั้งให้พ้นตำแหน่งก็ยอม อาจารย์ก็พยายามจะบอก ก็ไม่เชื่อ ไม่ฟัง แล้วจะไปขอแก้ ขอแก้ คุณรู้มั๊ย "แก้ไข" แปลว่าอะไร "ยกเลิก" แปลว่าอะไร คุณไม่รู้ "ภาษากฎหมาย" กันเลย ภาษากฎหมายเขาบัญญัติไว้โดยเฉพาะ แล้วมีกฎหมายราชบัณฑิตยสถานรับรองด้วย
Q : คนที่คุมรัฐบาลชุดนี้ได้คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สิ่งที่อาจารย์เสนอแนะจะบังเกิดผลได้จำเป็นต้องให้พ.ต.ท.ทักษิณสั่งการรัฐบาลนี้ทำใช่หรือไม่?
A : ผมไม่ทราบว่าใครจะสั่งใครได้-ไม่ได้ อาจารย์ไม่เข้าพรรค ไม่ไปประชุมพรรคแล้ว เพราะเราปรารถนาดี อธิบายเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งโดยพยัญชนะ สระ พิสูจน์อักษรได้ทุกตัว แล้วก็ท้าให้ใครต่อใครฟ้อง ท้าให้พรรคประชาธิปัตย์ฟ้อง ก็ไม่เห็นมีใครฟ้อง แล้วทำไมไม่ฟ้อง เฮ้ย...คุณกำลังทำอะไรกันอยู่..รัฐบาล รวมทั้งส.ส.เพื่อไทยด้วย คุณอ่านกฎหมายเป็น คุณอ่านกฎหมายออกมั๊ย ถ้าอ่านออกก็ถือว่าหลอกประชาชนนะ
Q : เสื้อแดงควรมีแอคชั่นอะไรหรือไม่?
A : ใช่ครับ อาจารย์กำลังคิดว่าจะกลับไปเป็น "นปก." อย่างเก่า แล้วบอกว่าเราต้องออกมาต่อต้านอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน รัฐบาลใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ของพล.อ.สนธิบริหารประเทศไม่ชอบ ให้รีบกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 หากไม่รีบกลับไปจะต่อต้านรัฐบาลนี้เองเลย เพราะว่าไม่ช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ถูกขังอยู่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของประชาชน
"ตอนนี้กำลังคิดอยู่ที่จะกลับไปเป็นนปก. เพราะว่าอาจารย์เป็นประธานนปก. แล้วใครมาปลดอาจารย์ได้มั๊ย อาจารย์ประกาศฟื้นแล้ว ใครจะร่วมมือกันช่วยเหลือคนที่เขาตายกว่า 100 ศพ และคนบาดเจ็บให้เขาได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ก็กลับมารณรงค์ กลับมาอยู่กับนปก. มาเป็น "แดงบริสุทธิ์" แล้วก็มาจัดการกับคนที่ไปใช้รัฐธรรมนูญของผู้อื่น ไม่ใช้รัฐธรรมนูญของประชาชน ดูซิ"พรรคเพื่อไทย"จะอยู่ได้มั๊ย"
Q : เสื้อแดงตอนนี้ไม่เป็นเอกภาพ แตกออกเป็นหลายกลุ่มใช่หรือไม่?
A : มันไม่แตก คนเสื้อแดงเป็นคนที่รักประชาธิปไตย รักอำนาจอธิปไตยของเขา เรื่องนี้ไม่มีขัดกันเลยคนเสื้อแดงทุกคนเหมือนกันหมด แต่วิธีการที่จะออกไปต่อสู้เพื่อให้ได้อำนาจอธิปไตยกลับมาต่างกัน บางคนดันไปยอมรับรัฐธรรมนูญของพล.อ.สนธิ อย่างนี้ถือว่าแดงอะไร "แดงอำมาตย์" หรือเปล่า อ้าวไหนๆพูดแล้วก็พูด อาจารย์ไม่ได้อยากเป็นอะไร แล้วไม่ได้ไปขอเงินใครด้วย แต่ต้องการความถูกต้องในฐานะนักกฎหมาย อยู่กับศาลมาตั้ง 40กว่าปี ไอ้ถ้อยคำต่างๆเนี่ยอาจารย์ตีแตกหมด
"ถ้าไม่จัดการเลิกรัฐธรรมนูญ2550 ไอ้พวกต่อ-แตน-ตะขาบ-แมงป่อง คือ กกต.-ป.ป.ช.-คตส.พวกนี้ เพราะเขามาจากรัฐธรรมนูญของพล.อ.สนธิ ก็จ้องงับอยู่ตลอด ถ้าไม่รีบเลิกมันก่อน มันสั่งยุบ เดี๋ยวบอกยิ่งลักษณ์ผิด ใครต่อใครผิดหมด สั่งยุบเกลี้ยงเลย แล้วถ้าไม่เชื่ออาจารย์ให้เขายุบหมดซะก็สมน้ำหน้า"
Q : ถ้ามียุบพรรคเกิดขึ้นจริง คนเสื้อแดงก็อาจจะออกมาปกป้องอีกใช่หรือไม่?
A : ก็อาจจะไม่ปกป้อง เพราะว่าเอาไว้ก็ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับคนเสื้อแดง ก็อาจจะมีคนไปตั้ง "พรรคใหม่"แล้วขอให้เขาใช้นโยบายอย่างนี้ๆ เราก็ไปสนับสนุนพรรคที่เขาดูแลคนที่ถูกรังแกโดนคณะปฏิวัติไม่ดีกว่าเหรอ พูดให้ฟังอย่างนี้ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้อยากเป็นอะไร อยากให้ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจ รวมทั้งส.ส.พรรคเพื่อไทยกลับไปคิด แล้วอย่าลืมว่าอาจารย์มานิตย์รวม(คน)ได้นะ..เชื่อมั๊ย
#22
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:57
เอ...... ผมยังสงสัย ตรงที่บอกว่า
".........อย่างที่อ.มานิตย์พูดมาเป็นลำดับ ว่ารัฐธรรมนูญ 2550 มันเป็นของพล.อ.สนธิ เป็น "รัฐธรรมนูญปลอม" จะเอามาใช้กับประชาชนไม่ได้ จึงต้องยกเลิกและกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ของประชาชน แล้วถามว่ารัฐธรรมนูญ 2540 รัฐสภายกเลิกหรือยัง.."
ถ้ายังงั้น การเลือกตั้งใหญ่ครั้งล่าสุดนี่ ต้องต้องยกเลิกด้วยซิ ถือเป็นโมฆะ สส.ทั้งหลายต้องคืนเงินเดือน และ งบอะไรที่จ่ายไป ก็ต้องหาเงินมาคืนด้วย เพราะบอกว่า "รัฐธรรมนูญปี 50 เป็นรัฐธรรมนูญปลอม" สส.ทั้งหลาย ก็ต้องกลายเป็น สส. ปลอม
การเลือกตั้ง ก็ทำตอนที่อยู่ในอำนาจของคณะรัฐประหาร เหมือนกับการลงประชามติ
ถ้ารัฐธรรมนูญปลอม แปลว่าสภาทั้งสภาก็ปลอมด้วยสินะ
- ปุถุชน and lagrangian like this
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#23
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:55
มานิตย์ จิตกลับ
คนที่โดนอุ้มไปพร้อมกับเก้าอี้
มานิตย์ คนนี้หรือ....?
“มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ” อดีตตุลาการหรือ “ทนายหน้าพรรค”
คนสำคัญที่ไม่พูดไม่ได้ในเวลานี้นั่นก็คือ “มานิต จิตต์จันทร์กลับ” อดีตหัวหน้าศาลฎีกา ข้อมูลคร่าวๆ จากการเรียบเรียงโดยสรุป “มานิตย์” หนึ่งในแนวร่วมคนสำคัญคนนี้ เป็นอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และอดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ที่ถูกไล่ออกในกรณีวิกฤตตุลาการเมื่อปี พ.ศ.2535 พร้อมกับ “ประมาณ ชันซื่อ” ซึ่งมานิตย์รับเป็นมือขวา “สุวรรณ วลัยเสถียร” “พงศ์เทพ เทพกาญจนา“ “ไพฑูรย์ เนติโพธิ์” ฯลฯ
ต่อ มาได้รับการอภัยโทษและกลับเข้ารับราชการ หลังจากเกษียณอายุแล้ว ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาพิเศษ ซึ่งช่วงเวลานั้นถูกทาบทามจาก “พรรคไทยรักไทย” ให้มาเป็นที่ปรึกษากฎหมาย โดยทำงานเรียกค่าตอบแทน ควบคู่กับการเป็นผู้พิพากษาพิเศษเช่นเดิม
เป็นที่น่าสังเกตว่า บุคคลที่ถูกไล่ออกในกรณีวิกฤตตุลาการเฉกเช่นมานิตย์ ล้วนอาศัยนั่งร้าน “ไทยรักไทย” อย่างเช่น “พงศ์เทพ เทพกาญจนา” ผู้พิพากษาวัยละอ่อนที่ครองตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค หรือจะเป็น “สุวรรณ วลัยเสถียร” ที่ปรึกษากฎหมายตระกูลชินวัตร ที่มีความเชี่ยวชาญในการเลี่ยงภาษีด้วยวรรคทองเด่นจากคำว่า “ผมไม่ได้มีหน้าที่มาพูดเรื่องจริยธรรม”
ช่วง เวลานั้นเมื่อ พ.ค.2549 ขณะที่กำลังดำเนินดคีกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุด พล.อ.วาสนา เพิ่มลาภ มานิตย์ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาล โดยเฉพาะการยกพระราชดำรัสมากล่าวอ้างถึงเพื่อโจมตีและดิสเครดิต โดยอ้างความเป็นอดีตผู้พิพากษาเช่นเดียวกับผู้พิพากษาคนอื่นๆ ทั้งที่ความจริงตำแหน่งที่ปรึกษากฎหมายของพรรคไทยรักไทย งถูกเปิดโปงไปตั้งแต่ปีก่อน
ในการตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย นายมานิตย์ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตุลาการรัฐธรรมนูญ ลงสื่อสิ่งพิมพ์ในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทย พยายามแนะนำให้ตุลาการรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ถอนตัวจากการตัดสินคดียุบพรรค เพื่อทบทวนบทบาทในการร่วมสังฆกรรมกับคณะรัฐประหาร
ภาย หลังจากตุลาการรัฐธรรมนูญพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย นายมานิตย์ตัดสินใจโดดร่วมวงเป็นแกนนำต่อต้านรัฐประหาร ร่วมกับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เพียงแต่งานนี้ไม่ได้รับหน้าที่เป็นที่ “ปรึกษากฎหมาย” อย่างเช่นที่เขาเคยทำในชีวิตประจำวัน
ด้วยวัยวุฒิที่อาวุโส มานิตย์มักจะกล่าวอ้างถึงตำแหน่ง “อดีตผู้พิพากษา” อีกครั้งจนถึงทุกวันนี้ แต่ถึงกระนั้น นายมานิตย์ไม่เคยบอกถึง“อดีตที่ปรึกษากฎหมาย” ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาคือหนึ่งใน “ลูกจ้าง” ของทักษิณ ชินวัตร
และความที่ทักษิณมักจะเรียกใช้บรรดานักกฎหมายเพื่อหาช่องทางหลีกเลี่ยงในเรื่องต่างๆ ตามประสาที่เรียกว่า “เนติบริกร” เพราะฉะนั้นการเป็นที่ปรึกษากฎหมาย ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำหน้าที่ “ทนาย” คอยแก้ต่างให้กับผู้อื่น
จะ เรียกว่า “ทนายหน้าพรรค” เมือนกับที่เรียกอดีตนักเรียนทุนอานันทมหิดลอย่าง “นพดล ปัทมะ” ที่ปรึกษากฎหมายของตระกูลชินวัตรว่า “ทนายหน้าหอ” ก็คงจะไม่แตกต่างกันมากนัก !!!
http://www.oknation....nt.php?id=52419
Edited by ปุถุชน, 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:57.
- phoebus and lagrangian like this
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#24
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:29
ไม่ได้แยกวงครับ แค่แยกกันตี เพราะถ้าใช้แนวทางของอาจารย์ พรรคเพื่อไทย คงได้สนุกสนามกันละ
อาจารย์เลยต้องไปหนุนพวกนอกกรอบ แทน
คำถามง่ายๆแต่ไม่ยอมแสดงให้คนเห็นผ่านสภา ต้องลงไปแสดงเองถึงที่ ตามตรอกซอกซอย ว่า ไอ้มาตราที่จะแก้ มันเป็นการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยตรงไหน
ที่พอฟังขึ้น มีข้อเดียว คือการเลือกตั้ง สว 100% แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยหรอกนะ
ส่วนข้ออื่น ไม่มีอะไรเลยที่เป็นการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย
มาตรา 68 แก้ไป ก็เป็นการปิดกั้นประชาชน หากอัยการไม่เห็นด้วยในการฟ้อง ก็จะทำอะไรไม่ได้เลย ซึ่งถ้าคุณมองในมุมกลับกัน เช่น หากพรรค ปชป ที่คุณไม่ชอบได้เป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภา
แล้วต้องการออกกฎหมายบางอย่างที่คุณไม่ชอบ แล้วอัยการไม่ฟ้อง คุณก็จะได้แต่มองเหม่อๆ แบบนั้นคุณโอเคป่าว แต่ถึงคุณจะโอเค ผมไม่โอเคด้วยล่ะครับ นอกจากคุณจะบอกให้ผมคล้อยตามได้
ถึงข้อดีของการปิดกั้นประชาชนในส่วนนี้เสียก่อน ไม่รู้เหมือนกันว่า ทีม สส เพื่อไทย จะลงมาในตรอกหมู่บ้านผมมั้ยนะ เห็นจะไปแต่แถวภาคอีสานกันหมด
ในความเห็นส่วนตัว ผมว่าถ้า พท สู้โดยใช้แนวทางของหน้าที่ทางรัฐสภา ก็มีโอกาสจะชนะ ในเงื่อนไขของการแก้รัฐธรรมนูญรายมตราสามารถกระทำได้ผ่านกระบวนการทางรัฐสภา และนี่มันไม่ใช่การออกกฎหมายลูกซึ่งกฎหมายลูกจะขัดต่อรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่เป็นการแก้ตัวรัฐธรรมนูญเลย ซึ่งหากบอกว่าของใหม่แย้งกับของเก่า ผมว่าเหตุผลมันอาจจะอ่อนไปหน่อยที่จะสั่งห้ามได้ คิดแล้วถ้าออกมาทางนี้ก็เศร้าอยู่
#25
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:02
แน่จริงอย่าเพิ่งแก้รัฐธรรมนูญสิ ลองเอาฉบับปี 50 มาลงประชามติใหม่อีกครั้ง
#26
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:34
นักกฏหมายเสื้อแดงนี้ รอดูศาลรัฐธรรมนูญ"จัดให่"พวกไพร่เสื้อแดงล้อมศาลรัฐธรรมนูญพร้อมพูดหมิ่นประมาทดีกว่า...
ถ้าตำหรวดตามตัวไปรับข้อหา.....
อย่าปากกล้าขาสั่น หนีตามนายใหญ่ก็แล้วกัน......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#27
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:37
มานิตย์ คนนี้ยังมีัราคาอีกเหรอ
ไม่ต่างอะไรกับ พงศ์เทพ เลยสักนิด
ก้อแค่ขี้ข้าแม้ว
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน