จากเหตุการณ์ เพจบิณ โดนบล็อก
จุดเริ่มต้นเรื่องนี้ มาจาก การที่ มีคนเข้าไปถามถึงกรณีการช่วยเหลือพระสงฆ์
ด้วยคำถามที่ว่า ทำไมต้องบริจาค ในเมื่อพระเองมีสิทธิมากมายที่จะรับการักษา
และมีการขอให้เปิดเผยยอดที่รับบริจาค
ผลที่ได้กลับมาคือการรุมด่าจากลูกเพจของบิณ
จนนำไปสู่การที่ มีคนเข้าไปรีพอร์ตภาพต่างๆที่ทางเพจบิณนำมาลง
ซึ่งภาพดังกล่าว ผิดกฏของสังคมอย่างเช่นชัดเจน
ทั้งการละเมิดสิทธิผู้ป่วย โดยการนำภาพมาลงแบบชัดเจน ไม่เซ็นเซอร์
การนำภาพดังกล่าวมาลงก็ผิดกฏเฟสบุ๊คเพราะเป็นภาพที่น่ากลัว
ทำให้เพจโดนบล็อกชั่วคราว
ในช่วงที่โดนบล็อก สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
คนที่ติดตามเพจบิณ ด่ากราดเฟสบุ๊ค ที่บล็อก ตามหน้าที่ เพราะผิดกฏเค้าจริง
ส่วนบิณ ก็เหมือนไม่รู้ว่าตัวเองผิด และมีโพสออกมาว่า
Dhammatuch Love King โพสนี้ไม่ได้เป็นการโพสเพื่อความเท่ห์อะไรทั้งนั้น มีแต่ส่งเสริมคนดีให้ได้มีที่ยืนในสังคมประเทศไทย ไม่ได้ยึดติดอยู่ในกรอบหรือกฎเกณฑ์ที่ Facebook เป็นผู้กำหนดให้ จะเรียก Mark Elliot Zuckerberg หรือ Mark Zuckerber อย่างน้อย Zuckerberg ก็มีแฟนสาวเป็นคนไทยซึ่งเป็นหนึ่งในพันล้านคนที่เป็นสมาชิก Facebook ที่หวังไว้ว่าโพสนี้น่าจะถึงหู Zuckerber บ้าง สำหรับกฎเกณฑ์ ระเบียบ กติกา ของ Facebook ที่เม้นแนะนำเข้ามาก็ต้องขอขอบคุณจากใจจริง แต่หากเป็นการเม้นหรือแชร์ที่มีเจตนาเพื่อพูดจา ถากถาง หรืออวดความรู้เพื่อข่มผู้อื่น อันนี้ผมเป็นถือเป็นผู้ที่ไร้สาระ แต่ก็ยังเปิดให้พวกท่านได้แสดงเจตนาที่ไม่ดีออกมาโดยไม่ลบออกจากเม้นแต่อย่างใด เพื่อเป็นการให้ผู้อื่นที่ได้เข้ามาอ่านเม้นได้พิจารณากันเอาเอง ^^
ตัดส่วนสำคัญออกมา "สังคมประเทศไทย ไม่ได้ยึดติดอยู่ในกรอบหรือกฎเกณฑ์ที่ Facebook เป็นผู้กำหนดให้"
คุ้นๆไหมครับ ว่ามันคือการไม่ยอมรับสิ่งที่เรียกว่ากฏของเจ้าของสังคมนั้นๆ
แล้วคนที่ติดตามเพจดังกล่าว ก็รับค่านิยมนี้ไปเต็มๆที่เดี่ยว คือทำอะไรก็ได้ ผิดกฏก็ได้ ถ้ามันเรียกว่าการทำดี
พร้อมปกป้องอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ไม่ว่าใครจะเตือนอะไรก็ไม่สนใจ
เรื่องนี้คล้ายๆ กับที่ คนๆนึงในประเทศไม่ยอมรับการตรวจสอบ จนนำไปสู่การรัฐประหารเลยนะครับ
อยากให้หลายๆท่านลองทบทวนดู ปัญหาแบบนี้ นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
แก้ไม่จบ เพราะคนที่เป็นแบบอย่าง ไม่ทำตัวให้ดีจนผู้ติดตาม ได้แบบอย่างที่ดีไปใช้
เหนื่อยใจ กับความคิดคนไทยสมัยนี้จริงๆ